ขอแนะนำการลงทุนแบบ Lifestyle Investment สำหรับคนรุ่นใหม่

ก่อนจะมาเป็นหัวหน้าที่มีลูกน้อง อาจจะเป็นตำแหน่ง Manager, Group Head หรือ Director ทุกคนต้องผ่านตำแหน่งเล็กๆกันมาก่อนทั้งนั้น ส่วนใหญ่ทุกคนจะมีความคิดว่า ถ้าวันนึงเราได้เป็นหัวหน้าล่ะก็ เราจะต้องเป็นหัวหน้าที่เหมือนเพื่อน ใจดี เข้าอกเข้าใจ ไม่ว่าแม้ลูกน้องจะทำอะไรไม่ดี แต่ความเชื่อฝังหัวแบบนี้ อาจทำให้คุณเลยเถิดจากความเป็นหัวหน้า หน้าที่หลักคือบริหารทีม กลายเป็นเพื่อนร่วมงานอีกคน ซึ่งนั่นก็มีข้อดีในตัวของมัน แต่การเป็นเพื่อนสนิทมากเกินไป ต้องมีผลกับการตัดสินใจของคุณไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และมันอาจกระทบผลงานโดยรวมของทีมคุณ ไปจนถึงบริษัทได้ แล้วยังไงถึงเรียกว่าเลยเถิด การเป็นหัวหน้าหรือผู้บริหารที่ดี ไม่ใช่การทำตัวเป็นเพื่อนสนิทกับลูกน้องตลอดเวลา ที่ถูกต้องคือการทำให้ลูกน้องนับถือในความสามารถ เพื่อให้ทีมมีประสิทธิภาพมากที่สุด แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ลองถามตัวเองดูว่าทุกวันนี้ ลูกน้องในทีมของคุณเริ่มมีอาการเหล่านี้กับคุณหรือไม่ ลูกน้องของคุณทำงานไม่โอเค แต่คุณคอยแก้ตัวให้ลูกน้อง ถ้าคุณตามใจลูกน้องมากเกินไป สิ่งแรกที่อาจจะเกิดขึ้นคือความชิว ยกตัวอย่างเช่นลูกน้องของคุณมาทำงานสายขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณกลับหาเหตุผลเพื่ออธิบายกับคนอื่นแทนให้ หรือไม่ส่งงานตามวันที่กำหนด แต่คุณก็คิดว่ารออีกวันคงไม่เป็นไร ลูกน้องคุณคิดงานไม่ออก แต่คุณกลับบอกว่าเค้าอาจไม่ถนัดด้านนี้ ความคิดเหล่านี้เป็นอันตรายต่อประสิทธิภาพงานของทีมคุณ รวมถึงของบริษัทอย่างมาก เพราะนั่นแปลว่าทีมคุณไม่มีระเบียบวินัย, Timeline ที่คุณตั้งเอาไว้ก็กระเทือน เวลาที่จะแก้งานก็ไม่มี คุณภาพงานที่ได้อาจจะไม่ดีพอสำหรับลูกค้า ซึ่งคนที่จะต้องรับผลกระทบทั้งหมด คือตัวคุณที่เป็นหัวหน้า คุณตัดสินใจด้วยตัวเองช้าลง เพราะมัวแต่ถามความเห็นจากลูกน้อง การเป็นหัวหน้าในยุค 2017 เราเห็นเพื่อนหลายคนเลือกที่จะเป็นหัวหน้าที่เข้าใจและรับฟัง ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจอะไรสักอย่าง

อยากทำงานก้าวหน้า ต้องเริ่มพัฒนาตนเองตั้งแต่วันนี้

เชื่อว่าในแต่ละวัน เราได้ตั้งคำถามมากมาย กับคนที่ได้เจอะเจอ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน คู่รัก เจ้านาย ลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และคนอีกมากมายที่ต้องผ่านมาในชีวิต บางครั้งก็อาจจะได้คำตอบที่พอใจ และหลายครั้งที่ไม่ได้คำตอบอย่างที่ใจหวังไว้ การตั้งคำถามอย่างชาญฉลาด การตั้งคำถามที่ดี สามารถกระตุ้นต่อมความคิดของคนตอบ แถมยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น หรือสามารถทำให้เผยข้อมูลมากมายที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนได้ ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสอ่านหนังสือของ ANDREW SOBEL และ JOROLD PANAS เจ้าของผลงานหนังสือ “POWER QUESTIONS”  หรือฉบับแปลเป็นไทยใน “คำถามฉุกคิด เปลี่ยนชีวิตทั้งคนถาม คนตอบ” หนังสือที่ช่วยให้คุณรู้จักตั้งคำถามให้ดีขึ้น ยิ่งถ้าได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน จะสามารถส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้ชีวิต การทำงาน หรือสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีให้กับคนรอบตัวได้ อ่านมาถึงตรงนี้เราจึงอยากนำวิธีตั้งคำถามดี ๆ บางส่วนมาแชร์กันให้ไปทดลองใช้ “ใช่ หรือ ไม่” หลายครั้งที่เราพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามตอบคำถามที่คุณกำลังต้องการคำตอบ ความจริงแล้วการถามคำถาม อาจไม่จำเป็นต้องยากอย่างที่คุณพยายาม เพียงกล้าที่จะตั้งคำถามปลายปิด เมื่อคุณต้องการให้ฝ่ายตรงข้ามตอบคำถามแบบตรงประเด็น หรือรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เมื่อไหร่ที่ต้องถาม : ต้องการรู้ว่าใครบางคนจะร่วมมือกับคุณจริง ๆ หรือไม่

คงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าอดีต  Gangster Rapper  ที่เคยควงปืน โชว์สร้อย  Bling Bling  เส้นใหญ่ใน  MV  เพลง  Hip Hop  จะประสบความสำเร็จด้านดนตรี แต่ใครจะไปคิดว่า  Gangster Rapper  อย่าง  Jay Z  จะมีสัญชาตญาณนักลงทุนอยู่ในตัวสูงขนาดนี้ โดยเฉพาะกับวงการ  Tech StartUp  ที่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า  Jay Z  เป็นหนึ่งในผู้ลงทุนใน  Uber  ซื้อหุ้น  Tidal  และอีกมากมาย ล่าสุด  Jay Z   เตรียมกลายร่างจาก  Gangster Rapper  เป็น  Funding Angel  ลุยธุรกิจ  Venture Capital (VC)  ลงทุนใน  StartUp  ไอเดียเจ๋งอย่างเต็มตัว Shawn Corey Carter  aka  Jay Z  ตำนานที่ยังหายใจในฐานะ

มีคู่อย่างมีความสุข ต้องรู้จักการวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ

Good Morning Routine หรือ กิจวัตรประจำวันในยามเช้าที่ดี เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะทำ

“เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี” คงเป็นชื่อที่คุ้นหูกันดีอยู่แล้วในฐานะผู้บริหารบุญรอดบริวเวอรี่ ตำนานธุรกิจที่ดื่มได้จากรุ่นสู่รุ่นของตระกูลภิรมย์ภักดีโดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476  ปัจจุบันได้เดินทางมาถึงทายาทรุ่นที่ 4 และนี่เองที่ชื่อของ”เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี” ในฐานะผู้บริหารโดดเด่นขึ้นมาในสายตาเราทุกคน การเข้ามารับช่วงบริหารธุรกิจต่อโดยการมีปู่ที่เป็น Brewmaster คนแรกของประเทศไทย น่าจะเป็นการบริหารที่เต็มไปด้วยความกดดัน แต่ “เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี” ยืนยันว่าหลักการทำธุรกิจของเขาคือ ‘ความจริงใจ’ เขาทำมาหมดทุกอย่างตั้งแต่ล้างถังเบียร์ ขับรถส่งของ รถโฟล์คลิฟท์เพื่อที่จะรู้ปัญหาของพนักงานทุกตำแหน่ง รวมถึงอีกสิ่งที่เขายึดไว้เสมอคือการบริหารธุรกิจด้วย ‘ความหลงใหล’ เขาจึงลงมือเรียนรู้การต้มเบียร์และเป็น Brewmaster ด้วยตัวเอง ความมุ่งมั่นจริงใจเต็มไปด้วยแพสชันนี่เองที่เป็นเหตุผลให้ UNLOCKMEN ชวน “เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี” มาคุยกันในวันนี้ UNLOCKMEN: อะไรทําให้คุณสนใจเรียนด้าน Brewmaster? ที่จริงแล้วเรียน Brewmaster ไม่สนุกเท่าดื่มเบียร์หรอกแต่ตระกูลของผมจะต้องมี 1 คนของรุ่นที่ไปเรียน Brewmaster ตัวผมเองก็เป็น Brewmaster คนที่ 3 ของตระกูล UNLOCKMEN:  หลายคนรู้จักคุณในฐานะนักร้อง บางคนรู้จักคุณในฐานะนักกีฬาแข่งรถ บางคนรู้จักในฐานะเจ้าของค่ายมวยไทย คุณมีความสามารถหลายอย่างแล้ว ทำไมยังต้องเป็น Brewmaster อีก?

เชื่อว่าหลายคนน่าจะตกเป็นทาสการตลาดแบรนด์ไก่ทอดชั้นนำของไทย ไก่ KFC กันไปเต็ม ๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทุกคนทิ้งการทิ้งงาน มานั่งมุงดูสาวน้อยนักกิน  Soobin  ซัดไก่ทอดอย่างเอร็ดอร่อยผ่านหน้าจอ  Facebook เล่นเอาพวกเราน้ำลายสอ ต้องหันไปสั่งไก่ทอดกินกันจนยอดขายพุ่งกระฉูด ใครโทรไปสั่งจะได้ยินคำเตือนจาก Call Center ว่า “รอนานหน่อยนะครับ ตอนนี้คนโทรสั่งเยอะมาก” เป็นการตลาดที่ได้ผลดียิ่งกว่าจ่ายค่าตัวดาราไทยหลายล้านมายืนถือไก่ทอดอีกซะด้วยซ้ำ และตามประสาบ้านเราที่มักจะทำอะไรเหมือน ๆ กันตามกระแส เราจึงคาดว่าน่าจะมีโอกาสที่เหล่า  Net Idol  เมืองไทย หันมาทำ MukBang Live โชว์กินข้าวหน้าจอมากขึ้น พุ่งขึ้นไปสูสีกับการ Live โชว์นม ครางชื่อ แบบที่กำลังฮิตมากในบ้านเราอยู่ตอนนี้ ซึ่งที่จริงแล้วเราคิดว่าการนั่งกินข้าวโชว์หน้าจอ ยังจะสร้างสรรค์กว่าการยืนเขย่าหน้าอกแลกเงินด้วยซ้ำไป MukBang กินโชว์ อนาคตไกลกว่าโชว์นม MukBang  หรือการกินออกอากาศ เป็นคำสนธิของภาษาเกาหลีใต้ เกิดจากการรวมกันของคำว่า  กิน  (muok-da or muk-ja)  และคำว่าออกอากาศ  (bang song)  เกิดเป็นความหมายใหม่สำหรับเทรนด์พฤติกรรมการกินอาหารโชว์หน้าจอ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในวัฒนธรรมไลฟ์สไตล์เกาหลีใต้ โดยคนที่นั่งกินจะเรียกสรรพนามได้ว่า

super bowl มหกรรมแสดงจุดยืนของชาวอเมริกาที่ส่งต่อผ่านทาง sport business