หากใครที่เป็นสาวกท่านศาสดา Thom Yorke หรือวง Radiohead น่าจะทราบกันดีว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีก่อน พี่แกได้ปล่อยเพลงชื่อ Hands off the Antarctic ซึ่งเป็นเพลงสำหรับแคมเปญรณรงค์การปกป้องมหาสมุทรแอนตาร์กติกออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟัง โดยเรียกได้ว่าเป็นบทเพลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ (คุณสามารถอ่านบทความเต็มเรื่องเพลง Hands off the Antarctic ได้ที่นี่ คลิก) นอกจากนั้น Thom Yorke ก็ยังเดินหน้ารณรงค์อย่างเอาจริงเอาจังเรื่อง Climate Change หรือวิกฤตการณ์ภูมิอากาศมาโดยตลอด แต่ไม่รู้เหตุผลกลใดทำให้ใจท่านเปลี่ยนแปลง เพราะล่าสุดพี่แกดันออกมาพูดผ่านสื่อว่าตัวเองเป็นพวกดีแต่ปากเรื่องรักษ์โลก! โดยงานนี้ Thom Yorke ได้เผยความในใจ (ที่น่าตกใจ) นี้ ผ่านรายการพอดแคสต์ Desert Island Discs ของช่อง BBC Radio 4 ในฐานะแขกรับเชิญเอาไว้ว่า “สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างติดอยู่ในใจผมก็คือ ผมกำลังรณรงค์เรื่องวิกฤติการณ์ภูมิอากาศอยู่นะ แต่ผมก็คือคนที่ยังนั่งเครื่องบินโดยสารไปทำงานเป็นประจำ อืม… ผมมันดีแต่ปากนั่นแหละ” หากใครติดตามข่าวสารช่วงนี้ เชื่อว่าคงจะเห็นข่าวของสาวน้อยนักรณรงค์วัย 16
เคยไหมครับ รู้ทั้งรู้ว่าถูกนอกใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้…จะด่าจะว่าออกไปตรง ๆ ก็กลัวจะดูไม่งาม ทำได้แค่แชร์อะไรช้ำ ๆ ลงโซเชียล เพื่อให้เพื่อนฝูง และเธอคนนั้นได้รับรู้ว่า “กูเสียใจ” เมื่อความเจ็บช้ำ และอารมณ์โกรธ ไม่สามารถบอกออกไปได้ตรง ๆ เรามาใช้เนื้อเพลงเจ็บ ๆ ดนตรีช้ำ ๆ สื่อความหมายกันดีกว่า และนี่คือ 10 เพลงที่ UNLOCKMEN อยากจะแนะนำให้คนถูกนอกใจได้ฟัง พร้อมทำความเข้าใจความหมาย ให้หนุ่ม ๆ ได้ร้องเพลงพร้อมร้องไห้ให้ตายกันไปข้าง! Lie To Me – Depeche Mode Lie To Me จาก Depeche Mode เพลงเจ็บ ๆ จากวงซินธ์ป๊อปแถวหน้าแห่งยุค 80 ที่ว่ากันด้วยชายหนุ่มผู้เจ็บหนักจนไม่รู้จะพูดอะไรอีกต่อไป นอกเสียจากบอกเธอคนนั้นว่า เอาเลย…เชิญโกหกกันให้เต็มที่ “Come on and lie to me Tell
Green Day กับการเมืองเรียกได้ว่าเป็นของคู่กัน! หากคุณเป็นสาวกตัวจริงของวงนี้ คงจะพอจำกันได้ว่า ในงาน American Music Awards ปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ชนะการเลือกตั้งพอดิบพอดี เสด็จพ่อ บิลลี โจ อาร์มสตรอง ฟรอนต์แมนของวง เคยกระทำการอุกอาจบนเวทีระดับชาติ ด้วยการตะโกนว่า “No Trump! No KKK! No fascist” ระหว่างเล่นเพลง Bang Bang อยู่บนเวที เล่นเอาเรียกทั้งเสียงฮือฮา และได้ใจผู้ไม่ฝักใฝ่ทรัมป์ไปทั้งประเทศ เพิ่มเติม: KKK คือ ‘เดอะ แคลน’ องค์กรเหยียดสีผิวหัวรุนแรง และ Fascist หมายถึงลัทธิฟาสซิสต์ กลุ่มเผด็จการชาตินิยม แน่นอนว่าการที่พวกเขาลุกขึ้นต่อต้านผ่านการแสดงนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสนุก ๆ แต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ไม่นาน บิลลี โจ เพิ่งจะให้สัมภาษณ์จิกกัดทรัมป์อย่างเปิดเผยผ่านนิตยสาร Kerrang! ไปหยก ๆ ว่า “ผมไม่ได้แรงบันดาลใจใด
สำหรับผู้ชายทุกคน เรามักเอาชนะหรือพิชิตแต่ละเป้าหมายในชีวิตได้ด้วยความพยายามเสมอ เช่น หากผลงานที่ทำออกมายังไม่ดีพอก็ต้องพัฒนาความสามารถของตัวเองให้เพิ่มขึ้นไป หรือถ้ารู้ว่าตัวเองยังขาดความรู้ที่จำเป็นในเรื่องอะไร ก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจจนเชี่ยวชาญ จนท้ายที่สุดสิ่งที่เราลงมือลงแรงไปก็สำเร็จออกมาเป็นผลด้านบวกตามความพยายามเสมอ แต่หนึ่งเรื่องที่หนุ่ม ๆ อย่างเราไม่เคยควบคุมได้เลย คือเรื่องของการเริ่มต้นและสานความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ชอบ โดยเฉพาะถ้าสาวคนนั้นอยู่ในฐานะเพื่อนหรือเพื่อนสนิทที่รู้จักกันดี พอมีโอกาสรุกคืบเริ่มจีบทีไร ก็รู้สึกกลัวการสูญเสียความสัมพันธ์ที่เคยมีไปจนทำให้เกิดคำถามว่า ผู้ชายจะเข้าหาเพื่อนเพื่อพิชิตใจอย่างไร ? วิธีที่ทาง UNLOCKMEN อยากเสนอเป็นตัวเลือกวันนี้คือ การเข้าหาพวกเธอผ่านทาง “เสียงดนตรี” เพราะสิ่งนี้คือตัวบ่งบอกถึงรสนิยมและตัวตนของพวกเธอได้เป็นอย่างดี รวมถึงเป็นพื้นฐานความชอบที่สามารถปรับตัวเข้ากันได้ง่ายซึ่งวิธีและขั้นตอนควรมีเทคนิคอย่างไร มาเรียนรู้ไปพร้อมกัน ทำความรู้จักแนวเพลงและศิลปินที่เธอชอบ เราจะไม่มีวันเข้าใกล้เธอผ่านทางเสียงดนตรีได้สำเร็จ ถ้าไม่เคยล่วงรู้เลยว่าเพื่อนสาวที่แอบชอบอยู่ มีรสนิยมการฟังเพลงแบบไหนหรือศิลปินที่ชื่นชอบของเธอคือใคร เพราะแนวดนตรีที่เธอหลงใหลจะเป็นตัวบอกให้เรารู้จักรสนิยมส่วนตัว รวมถึงเรื่องความหมายของเนื้อเพลงที่เธอเลือกฟังบ่อย ๆ สามารถนำมาตีความออกมาได้ว่าลึก ๆ แล้วเธอกำลังมองหาความสัมพันธ์แบบไหนให้ชีวิตอยู่กันแน่ แน่นอนว่าการจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปถามว่า เธอชอบฟังเพลงแบบไหนอยู่ ขอฟังด้วยคนสิ คงเป็นวิธีการที่ไม่โรแมนติกเอาเสียเลย แถมอาจทำให้เธอรู้ตัวจนไม่กล้าแสดงตัวตนจริง ๆ ออกมา ลองหันมาใช้วิธีการสังเกตและใส่ใจเพื่อดูว่าลิสต์เพลงโปรดของเธอจะมีเพลงแบบไหนรวบรวมเอาไว้อยู่บ้าง อาจขอเป็นคำแนะนำว่ามีเพลงแนวไหนที่น่าสนใจเป็นพิเศษ หรือไม่ก็ลองยืมเพลย์ลิสต์ใน Spotify ของเธอมาฟังแบบที่ไม่แสดงออกเจตนาว่าเรากำลังอยากทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นเพื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์ลับ ๆ ข้างเดียวอย่างราบรื่น แบ่งปันบทเพลงของคุณให้เธอได้รู้จัก หลังทำความรู้จักแนวเพลงที่เธอชอบไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะแบ่งปันความเป็นตัวเองให้เธอได้ทำความรู้จักตัวตนของคุณบ้าง ด้วยการแอบเนียนแบ่งปันเพลงและศิลปินที่คุณหลงใหลกลับไป แต่การจะหยิบความชอบส่วนตัวไปยัดใส่ใครตรง
‘โจ้ อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต’ หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อนามสกุลนี้ เพราะฟังแล้วคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นชื่อของดาราหรือนักการเมืองคนไหน แต่ถ้าหากเอ่ยชื่อ ‘Joey Boy’ (โจอี้ บอย) ขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ อยู่ส่วนไหนในประเทศ เราเชื่อว่าคุณจะต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน บทเพลงของเขาคือยาปลุกความสนุกที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างช้านาน ตลอด 25 ปี ที่เหยียบย่างเข้ามาในวงการ โจอี้ บอยเป็นทั้งนักร้อง นักแสดง โค้ช กรรมการรายการประกวดร้องเพลง นักกีฬายิงธนู หรือแม้กระทั่งนักกีฬาทีมชาติพารามอเตอร์ก็เป็นมาแล้ว เขาคือชายที่ผ่านมาหมดทุกเวที ไม่แปลกที่หลายคนจะยกย่องให้เขาเป็นมากกว่าแค่ศิลปิน แต่เป็นถึง ‘เอนเตอร์เทนเนอร์’ ระดับพระกาฬ ที่ยากจะมีใครเทียบเท่า และวันนี้ UNLOCKMEN จะมานั่งคุยสบายกับเซียนเวทีผู้นี้ ที่บอกกับทางทีมเราว่า “วันนี้ไม่ได้มาในร่างโจอี้ บอยนะ แต่มาในร่างพี่โจ้” จำเวทีแรกของตัวเองได้ไหม จริง แล้ว ออดิชันแรกของผมคือการเปิดหมวกครับ ตอนนั้นผมยังไม่ได้เป็นโจอี้ บอยเลย แค่เข้าไปคุยกับพี่ ๆ ที่เบเกอรี่มิวสิคว่าผมอยากเป็นนักร้อง อยากทำอัลบั้ม เขาก็ให้ทำแบบนี้ คือเอาเครื่องเสียงไปตั้งอยู่หน้าร้าน ‘เปี๊ยก ดีเจสยาม’ ร้องเพลงอย่างไรก็ได้ให้คนเข้ามาดู
เป็นธรรมดาที่ศิลปินจะหยิบจับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว มาร้อยเรียงเรื่องราว แล้วถ่ายทอดออกมาผ่านเสียงดนตรีได้ พวกเราคุ้นเคยกับเพลงรัก เพลงอกหัก เพลงปลุกใจ หากก้าวขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ คุณอาจจะเคยได้ยินเพลงเสียดสีสังคม เสียดสีการเมือง เพลงปลุกใจ หรือแม้กระทั่งเพลงเกี่ยวกับศาสนา แต่รู้หรือไม่ว่าบนโลกนี้การ “ฆ่า” และการ “ฆาตกรรม” ก็จัดเป็นหัวข้ออันดับต้น ๆ ที่เหล่าศิลปินมักนำไปเป็นแรงบันดาลใจในผลงานเช่นกัน ลองคิดเล่น ๆ ดูว่า ทั้งชีวิตที่ผ่านมา เราดูหนังที่มีฉากฆ่า อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับความตายไปแล้วกี่เรื่อง? เพลงก็เช่นกัน… วันนี้ UNLOCKMEN จะหยิบยกบทเพลงที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับความตายโดยเจตนาเหล่านี้มาเล่าให้คอเพลงทุกคนฟัง โดยไม่มีเจตนาผลักดันให้คุณลุกขึ้นไปทำอะไรผิดกฎหมายหรือไร้มนุษยธรรม เพียงแต่เป็นการเล่าสู่กันฟังว่าบรรดาศิลปินเหล่านี้ สามารถแปรเปลี่ยนความโหดร้าย ให้กลายเป็น ‘ศิลปะ’ ได้อย่างไร อีกทั้งยังเป็นการตีแผ่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเพลงที่คุณอาจเคยฟัง แต่ไม่เคยรู้ความหมายก็เพียงเท่านั้น ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันว่ามีเพลงอะไรบ้าง Wake Up Call – Maroon 5 เพลงดังของวงดัง ตั้งแต่ปี 2007 บทเพลงว่าด้วยเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่จับได้ว่าถูกแฟนสาวนอกใจ หลายคนที่ถูกคนรักหักหลังฟังแล้วอาจจะรู้สึกอินจนแชร์ลงโซเชียลเพื่อสื่อความหมายระบายอารมณ์ แต่! ตรงช่วงท้าย ๆ ของเพลงนี้มันมีท่อนที่ร้องว่า
หากคุณเป็นหนึ่งในสาวกซาตานแห่ง Industrial Metal อย่างน้าผี Marilyn Manson ปี 2019-2020 นี้ เตรียมเฮได้เลย เพราะน้าแกกำลังจะมีสารพัดผลงานให้พวกเราได้ติดตามกันรัว ๆ ตั้งแต่เพลงไปยันสารพัดงานแสดง! ก่อนหน้านี้ Manson เพิ่งจะไปปรากฏตัวในบทบาทนิรนามให้ซีรีส์ The New Pope อีกทั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก็เพิ่งออกมาประกาศว่าได้รับงานแสดงกับซีรีส์สยองขวัญเรื่อง The Stand ที่ถูกสร้างจากงานเขียนของราชานิยายเขย่าขวัญ Stephen King (อ่านเพิ่มเติม คลิก) และล่าสุดนี้ Manson ก็ออกมาประกาศอีกแล้วว่ากำลังจะมีงานแสดงใหม่กับซีรีส์เรื่อง American Gods (ซีซัน 3) แถมรอบนี้ได้รับบทบาทที่เหมาะสมกับตัวเองสุด ๆ อีกต่างหาก American Gods คือซีรีส์แนวแฟนตาซีที่สร้างมาจากหนังสือนิยายของนักเขียนชื่อดัง Neil Gaiman เรื่องราวของ Shadow Moon นักโทษที่ถูกปล่อยตัวก่อนกำหนดเพื่อมาร่วมงานศพของภรรยา แต่ในขณะที่เขากำลังเดินทางกลับมายังงานศพ Shadow Moon ได้พบกับชายที่เรียกตัวเองว่า Mr.Wednesday นายวันพุธคนนี้พยายามชักชวนให้เขาไปทำงานอะไรบางอย่างด้วย หลังจากนั้นชีวิตของของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ประหลาดๆ ของสงครามระหว่างเทพเจ้าโบราณ และเทพเจ้าสมัยใหม่
คำเตือน: เนื้อหาต่อไปนี้อาจมีการสปอยล์บางฉากของ Once Upon A Time In Hollywood Once Upon A Time In Hollywood ภาพยนตร์จากผู้กำกับมากความสามารถ Quentin Tarantino เพิ่งจะเข้าโรงกันไปหมาด ๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน ความฮือฮาของหนังเรื่องนี้คือการถูกสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของลัทธิฆาตกร Manson Family และคดีอุกฉกรรจ์ฆาตกรรมนักแสดงสาวชื่อดัง Sharon Tate ในปี 1969 เรื่องนี้ได้ทีมนักแสดงที่แข็งแกร่ง นำโดย Leonardo Dicaprio, Brad Pitt, Margot Robbie และแม้กระทั่งรุ่นใหญ่ระดับ Al Pacino ก็ยังมีบทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงไม่แปลกที่จะกลายเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่หลายคนรอคอยแห่งปี 2019 สำหรับบรรดาคอเพลงและคอหนังที่รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้เชื่อว่าต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งภาพ ฉาก เสื้อผ้า และเพลงในเรื่องล้วนมีความสมจริง ผู้กำกับ Quentin Tarantino เก็บรายละเอียด Los Angeles ปี 1969-1970
“เพลงร็อกน่ะมันตายไปแล้ว” เมื่อใดที่ได้ยินคนพูดคำนี้ออกมา UNLOCKMEN เป็นอันปวดใจทุกที เพราะมันไม่จริงเอาเสียเลย ศิลปินร็อกระดับแถวหน้าหลายคนยังคงผลิตผลงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนรุ่นใหม่ ๆ ก็ยังมีงอกเงยขึ้นมาทุกวัน แต่ที่หลายคนรู้สึกแบบนั้นเพราะไม่มีเพลงร็อกไปเฉิดฉายอยู่บนชาร์ตเฉย ๆ หรือเปล่า? เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเพลงร็อกยังไม่ตายจากเราไป วันนี้เราได้รวบรวมเพลงร็อกออกใหม่ ทั้งจากวงหน้าเก่าที่หวนวงการ และวงหน้าใหม่ที่น่าสนใจ เอามากองรวมกันไว้ตรงนี้ ให้คอเพลงทั้งหลาย ได้เลือกฟังกันแล้ว! I Really Wish I Hated You – blink-182 3 แสบรุ่นเก๋า ตัวพ่อแห่งป๊อปพังก์กำลังจะปล่อยอัลบั้มใหม่ BOJMIR ให้ชาวเราได้ฟังในวันที่ 20 กันยายนนี้กันแล้ว ถึงจะไม่ได้ซ่าบ้าบิ่นเท่าแต่ก่อน (เป็นไปตามอายุ) แต่ยังไงเสียพวกเขาก็ยังพร้อมเสิร์ฟกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์แบบฉบับ blink-182 เท่านั้นที่ทำได้มาให้พวกเราเสพกัน ใครฟังเพลงนี้แล้วยังไม่ถูกใจ ลองฟังเพลงอื่น ๆ ที่พวกเขาปล่อยออกมาให้ชิมก่อนได้ มีทั้ง Dark Side, Happy Days, Generational Divide และ Blame It On My
“Chales Manson” คือชื่อที่คนทั้งโลกจำไม่ลืม เพราะเขาคือฮิปปี้ผู้กลายเป็นศาสดาลัทธิฆาตกรสุดเลื่องชื่อแห่งยุค 60 ชายผู้ชักจูงคนหมู่มากด้วย ‘วาทศิลป์’ ให้กระทำการฆาตกรรม Sharon Tate ดาราสาวดาวฮอลลีวูดแห่งยุค 60 อย่างโหดร้ายทารุณ เรื่องราวของเขาและ Manson Family ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ และสารคดีอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Helter Skelter (เวอร์ชัน 1976 และ 2004), Manson’s Lost Girls (2004), Charlie Says (2019) รวมไปถึง Once Upon a Time in Hollywood ที่กำลังเข้าโรงอยู่ตอนนี้ก็อ้างอิงคดีความของเขาเช่นกัน และล่าสุด Chales Manson ยังมีบทบาทสำคัญในซีรีส์ Mindhunter Season 2 อีกต่างหาก เรียกได้ว่าเรื่องราวของเขาสามารถหยิบยกมาพูดถึงได้ทุกยุคทุกสมัยแบบไม่มีวันจบสิ้น คุณสามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมของเขาได้เต็ม ๆ ที่นี่ คลิก เพลงก็เช่นกัน… ก่อนหน้าที่
สำหรับ “10 คน 10 เพลง” วันนี้ เราอาจจะไม่ได้ออกไปถามใคร แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ตามล่าเพลงโปรดเฉพาะตัวจากคนสิบคนเหมือนเดิม และวันนี้เราจะมาตีแผ่เพลงในดวงใจของเหล่าคนดังที่เป็นไอดอลหนุ่ม ๆ อย่างเรา เพราะถึงจะหล่อไม่เท่าก็ไม่เป็นไร เราจะได้พูดได้ว่าอย่างน้อยผมกับเขาก็ฟังเพลงเดียวกันแหละเว้ย! เพลงโปรด George Clooney อายุก็ปาไป 58 แล้ว แต่ยังหล่อไม่เสื่อมคลาย สมแล้วที่ใครหลายคนยกให้เป็นไอดอลในดวงใจ พี่จอร์จของเราเกิดปี 1961 เท่ากับว่าได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นช่วง 70 เต็ม ๆ ศิลปินที่เขาชอบมีหลายคน ตั้งแต่วง Progressive Rock อย่าง Pink Floyd ราชาเพลง Folk อย่าง Bob Dylan เพลงร็อกหนักแน่นอย่าง Foo Fighters ไปจนถึง Marvin Gaye แต่ตัวเขาเองกลับบอกว่าเพลง Jazz อย่าง Destination Moon ของศิลปินสาว Dinah Washington ต่างหากที่เป็นเพลงโปรดตลอดกาลของเขา หลายคนบอกว่าเพราะเขาเป็นหลานชายแท้ ๆ
ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าการเปิดเพลงดัง ๆ ตอนใส่หูฟังไม่ดีต่อสุขภาพ อาจทำให้หูตึง หูหนวก ไม่ดีต่อแก้วหู ใช่ครับพวกเรารู้ แต่น้อยคนที่จะใส่ใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง ยิ่งเป็นคนเสพติดเสียงเพลงบอกเลยว่ายาก ใครจะมาดึงหูฟังออกจากเรา บอกเลยว่าไม่มีทาง! เวลาเราเดินทาง หรือออกไปยังพื้นที่สาธารณะที่เต็มไปด้วยเสียงดังจอแจ เราก็ยิ่งเร่งเสียงเพลงให้ดังขึ้น เพื่อกลบเสียงเหล่านั้น คุณอาจจะคิดว่าก็ทำแบบนี้มาได้ตั้งนานไม่เห็นจะเป็นอะไร หูยังใช้การได้ไม่ตึงเสียหน่อย แต่เชื่อเถอะครับว่าการกระทำแบบนี้อาจส่งผลเสียได้มากและ ‘หลากหลาย’ กว่าที่คิด UNLOCKMEN จะบอกคุณให้ว่าการเปิดเพลงเสียงดังวันนี้ จะแถมฟรีโรคภัยอะไรบ้างที่อาจเกิดกับตัวคุณ เพราะต่อให้หูไม่ดับ อย่างอื่นก็อาจดับแทนได้… หูวิ้ง อาการหูวิ้งไม่เหมือนหูตึง เพราะแทนที่เราจะไม่ได้ยินเสียง เราดันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตลอดเวลาอยู่ในหู (หากใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Baby Driver นั่นแหละครับมันคือโรคแบบที่เจ้าเบบี้เป็น) ซึ่งการหูวิ้งนี้ไม่ได้แปลว่าจะได้ยินเสียงวิ้ง ๆ เหมือนจิ้งหรีดเท่านั้น เพราะมีทั้ง ได้ยินเสียงลมในหูตลอดเวลา เสียงตุบ ๆ เสียงคลิก เสียงหึ่ง ๆ จนไปถึงได้ยินเสียงเพลงที่เราคุ้นเคยวนอยู่ในหูซ้ำ ๆ ตลอดไป! แค่คิดก็น่ารำคาญจนจะร้องไห้ อาการหูวิ้งมีทั้งที่รักษาได้และรักษาไม่ได้ อีกทั้งไม่จำเป็นต้องเกิดจากการฟังเพลงดังเสมอไป เพราะอาจเกิดจาก โรคอื่น ๆ เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว