จบลงอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับคอลเลกชันรองเท้าที่สั่นสะเทือนกิเลสของเหล่า Sneakerhead ไปทั่วโลกอย่าง THE TEN หลังชายผู้ร่วมออกแบบอย่าง Virgil Abloh ออกมายืนยันแล้วว่า Off-white x Nike Air Force 1 “BLACK” ที่ลือกันว่าวางขายในช่วงต้นปีหน้าจะผลงานชิ้นสุดท้ายของพวกเขา จุดเริ่มต้นความสำเร็จของ THE TEN เกิดขึ้นครั้งแรกหลังจาก Nike ประกาศว่ากำลังร่วมงานกับ Designer มือทอง พร้อมรูปตัวอย่างผลงานคอลแลปส์ที่เลือกใช้โมเดลในตำนานจากค่าย Swoosh จำนวน 10 รุ่นออกมาเรียกเสียงฮือฮาจากแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก ผู้กำลังรอคอยการมาของคอลเลกชันดังกล่าว ก่อนเปิดตัวครั้งแรกด้วย Air Jordan 1 ซึ่งในเวลานั้นบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรร้อนแรงเทียบเท่าไอเทมของพวกเขาเลยจริง ๆ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เพราะในเวลาต่อมา Nike ก็ทยอยปล่อย THE TEN ออกมาครอบครองพื้นที่ทางการตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยโมเดลอย่าง Blazer, Presto, Air Max 97, Air Force, Air Max
ใครว่างานสตรีตจะดีแต่หาเงินจากกระเป๋าผู้ชายอย่างเราไปวัน ๆ เพราะแคมเปญการกุศลดี ๆ ก็มีให้เห็นออกมาเป็นระยะเหมือนกัน ล่าสุดกับแบรนด์สุดเก๋าจากแคลิฟอร์เนีย Stussy ได้ร่วมมือกับ Tamara Grunberg ดีไซน์เนอร์ผู้เคยฝากผลงานเอาไว้กับรองเท้า Custom อย่าง Stussciaga Double S โดยแคมเปญดังกล่าวเกิดขึ้นจากแนวความคิดที่ต้องการระดมเงินช่วยเหลือเด็กไร้บ้านในประเทศแคนาดา เนื่องจาก Tamara Grunberg หัวเรือหลักของแคมเปญทำงานและอาศัยอยู่ในเมือง Gastown รัฐ Vancouver ซึ่งมีคนไร้บ้านเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงเด็ก ๆ ที่ต้องใช้ชีวิตวนเวียนกับยาเสพติดเพื่อหาเงินมาประทังชีวิต ซึ่งตัวเธอมองว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่ตัวเองทำงานอยู่ในร้านที่ขายเสื้อยืดในราคา 60 เหรียญ แต่ขณะเดียวก็มีคนไร้บ้านที่ต้องเอาตัวรอดกับสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้ายของโลกภายนอก รวมถึงต้องต่อสู้แย่งชิงหรือทิ้งอนาคตเพียงเพื่อเงินเพียงไม่กี่เหรียญเท่านั้น แรงบันดาลใจดังกล่าวทำให้เกิดคอลเลกชันที่มีชื่อว่า RE-work ประกอบด้วยเครื่องแต่งกายสุดไฮป์ 5 ชิ้นซึ่งจะกลายเป็นของรางวัลสำหรับคนที่มาร่วมบริจาคเงินสบทบเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ประกอบไปด้วย Faux fur vest, Body-Cross Bag, Ski mask, Coy Fish Shirt และ Waterproof Vest ซึ่งทุกชิ้นเป็นงาน Custom จากของที่บริจาคโดย
วงการแฟชั่นเป็นวงการที่มีการฟ้องกันไปมาไม่น้อยกว่าวงการไหนในโลก ถ้าสังเกตดี ๆ เราจะเห็นลวดลายการดีไซน์ที่คล้ายกันมากในแต่ละแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ กระเป๋า และเสื้อผ้า ด้วยกระแสเสื้อวงที่กำลังฮิตไปทั่วโลก ทำให้บรรดา Fast Fashion Brand ต่างรีบหยิบยืมลายกราฟฟิคหรือ Iconic ต่าง ๆ จากวงดนตรีชื่อดังมาดัดแปลงกันเต็มไปหมด ซึ่งบางครั้งการก็รอดตัวไป แต่บางทีถ้าทำโฉ่งฉ่างเกินไปก็อาจโดนฟ้องได้ เช่นเดียวกับกรณีล่าสุดที่ Nirvana เป็นฝ่ายยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายกับ Marc Jacobs แบรนด์แฟชั่นหรูที่นำโลโก้หน้ายิ้มของวงไปใช้แบบเต็ม ๆ แฟนเพลงของ Nirvana ต้องคุ้นตากับลวดลาย Smiley Face สีเหลืองกันดี ซึ่งกราฟฟิคที่ว่าไม่ใช่แค่ลวดลายธรรมดา แต่ถือเป็น Logo ที่ออกแบบโดย Kurt Cobain และ Nirvana ได้ทำการจดลิขสิทธิ์ไว้ตั้งแต่ปี 1992 แต่ทาง Marc Jacobs กลับนำไปใช้ใน ‘Bootleg Grunge T-Shirt’ collection ล่าสุดที่ได้แรงบันดาลใจจากดนตรี Grunge ซึ่งดูจากเจตนาก็ชัดเจนว่า Marc Jacobs
ออกมาแล้วกับผลรายงานไตรมาส 4 ของปี 2018 กับรายชื่อแบรนด์แฟชั่นที่มีคนค้นหามากที่สุด 5 อันดับแรกคือ Gucci, Nike Off-White, Balenciaga และ Polo Ralph Lauren ซึ่ง UNLOCKMEN จะมาวิเคราะห์กันว่าเพราะไอเท็มเด็ดชิ้นไหน รวมถึงมีเรื่องราวอะไรบ้างทำให้แบรนด์เหล่านี้ Hot ที่สุดในปี 2018 รายงานที่ว่านี้ถูกจัดอันดับโดย Lyst แพลตฟอร์มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องแฟชั่นระดับโลกรายใหญ่ ได้เปิดเผยรายงานแบรนด์แฟชั่นยอดฮิตแต่ละไตรมาส โดยมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลการค้นหาบนโลกออนไลน์ของผู้บริโภคกว่า 5 ล้านครั้ง และพฤติกรรมการซื้อสินค้าของนักช้อปจนได้อันดับแบรนด์ที่ถูกค้นหามากที่สุดดังนี้ 1. GUCCI Gucci คือแบรนด์แฟชั่นที่ครองความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ส่วนหนึ่งเพราะการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของ Sir Elton John ในชื่อว่า Farewell Tour จำนวนกว่า 300 รอบทั้ง 5 ทวีป ที่เสื้อสูทของแบรนด์ก็ไปโผล่อยู่ในงานเสมอ รวมถึงแบรนด์สตรีทแฟชั่นประจำย่าน Harlem อย่าง Dapper Dan ที่ร่วมงานกับ Gucci ในด้านของผลงานได้ออก
ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันแล้ว สำหรับกรณีที่แบรนด์สเก็ตบอร์ดรุ่นเก๋าอย่าง Vans กำลังเดินหน้ายื่นเรื่องฟ้องค่ายรีเทลชื่อดัง ซึ่งถูกพวกเขากล่าวหาว่ามีรองเท้าหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ถูกปล่อยออกมา ได้ลอกเลียนแบบลวดลายของ Side-stripe อันโด่งดังของรองเท้าในโมเดล Old Skool รองเท้าโมเดลในตำนานซึ่งพวกเราทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Style36 OLD SKOOL ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1977 ในฐานะรองเท้าสเก็ตบอร์ดคู่แรกที่มีการใช้วัตถุดิบหนังในการผลิต เพื่อเพิ่มประโยชน์ในด้านความแข็งแรงทนทานของรองเท้า พร้อมกับลวดลายข้างรองเท้าที่ออกแบบโดย Paul Van Doren ซึ่งเดิมทีถูกเรียกด้วยชื่อ Jazz Stripe ก่อนเวลาต่อมามันจะได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก ส่งผลให้ Side-stripe ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของ Vans ไปโดยปริยาย ซึ่งถ้าจะปล่อยให้ใครใช้เอาไปใช้หากินง่าย ๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เพราะล่าสุด Vans ตัดสินใจยื่นเรื่องฟ้องแบรนด์รีเทลยักษ์ที่ชื่อ Target โดยบอกว่ารองเท้าในรุ่น Target Camella Lace-Up ซึ่งถูกวางขายในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีการลอกเลียนแบบลวดลาย Side-stripe อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของพวกเขา พร้อมระบุเหตุผลว่า “ Tatget เลือกที่จะเลียนแบบสัญลักษณ์ของพวกเราอย่างจงใจ ซึ่งอาจสร้างความสับสนในกลุ่มลูกค้าทั่วโลกได้” นอกจากนี้ยังมีข้อความจากกลุ่มลูกค้าที่สนใจซื้อรองเท้าในรุ่นดังกล่าว ได้มาเขียนรีวิวสุดกวนไว้บนเว็บไซต์ของทางรีเทลชื่อดัง ยกตัวอย่างเช่น “VANS ปลอมคู่นี้ก็ดูเท่ดีนะ” โดยทั้งหมดเป็นการแสดงออกจากกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน ว่าพวกเขาเองก็เข้าใจว่ารองเท้ารุ่นดังกล่าวเป็นของที่ทำลอกเลียนแบบขึ้นมา โดยอาศัยการดัดแปลงลวดลาย Side-Stripe ถูกดัดแปลงให้ต่างออกไป แต่สุดก็ไม่พ้นสายของ VANS อยู่ดี
ถ้าพูดถึงหนังซุปเปอร์ฮีโร่หน้าใหม่ที่มาแรงที่สุดในช่วงเวลานี้ ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Arthur Curry หรือที่รู้จักกันในชื่อ Aquaman หนุ่มลูกครึ่งมนุษย์-แอตแลนติส ที่ทำให้เขามีความสามารถเหนือมนุษย์ ซึ่งรับบทโดยหนุ่มเซอร์กล้ามใหญ่อย่าง Jason Momoa ที่ในเรื่อง Aquaman เรามักจะไม่ค่อยได้เห็นเจสันใส่เสื้อซักเท่าไหร่ แต่ในชีวิตจริงเค้าเป็นคนที่มีสไตล์ในแบบของตัวเองอย่างชัดเจน และเป็นสไตล์ที่เหมาะกับหนุ่มไทยพอสมควร UNLOCKMEN จึงจะพาไปส่องแฟชั่นของพระเอกหนุ่มเคราดกคนนี้ เป็นไอเดียการแต่งตัวที่ชิว ๆ เซอร์ ๆ เจสันคือผู้ชายที่มีสไตล์หลากหลาย ผมยาว เคราดก คิ้วบาก รอยสักที่แขนขวา และลุคเซอร์ ๆ คือเอกลักษณ์ของเจสัน โมมัว แต่ที่จริงแล้วเขาไม่ได้มีแค่ลุคเซอร์อย่างเดียวเท่านั้น เพราะเจสันคือผู้ชายมากสไตล์ บางวันเป็นหนุ่มลุคสบาย ๆ ด้วยเสื้อสีพื้นอย่างขาว เทา ดำ พร้อมกับกางเกงขายาว กับรองเท้าบู๊ทแฟชั่นไอเท็มจากยุค 90s อย่าง Timberland ซึ่งถ้าไม่ใส่บู๊ทก็มักจะสวมรองเท้าแตะไปไหนมาไหน ในบางครั้งเจสันก็เป็นผู้ชายลุคสปอร์ต เพราะกีฬาโปรดของเขาคือการไปปีนเขา บางครั้งก็ดูดุดันแบบร็อคเกอร์ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ศิลปินเพลงร็อคคือคาแรคเตอร์ที่เขาต้องศึกษาและทำความเข้าใจ เพราะตัวละครอาเธอร์ในเรื่องอควาแมนจะต้องมีสไตล์แบบชาวร็อค นอกจากนี้เรายังเห็นเจสันในลุคหนุ่มคันทรี่ขี่ฮาร์เล่ย์ ซึ่งเจสันจะมีหมวกคาวบอยคู่ใจที่มักชอบสวมเวลาไปเที่ยวกับลูก ๆ หรือไปเดินเล่นกับภรรยา แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวสไตล์ไหนเจสันก็จะเน้นเรื่องของความสบายเอาไว้ก่อน
ช่วงสิ้นปีคือเวลาแห่งเทศกาลและการให้ของขวัญ รวมไปถึงให้รางวัลตัวเองที่ทำงานหนักมากตลอดทั้งปีด้วยการซื้อของให้ตัวเองซักชิ้นก็คงจะดีไม่น้อย แต่ไม่เหมือนสาว ๆ ที่มีร้านขายเสื้อผ้าดี ๆ อยู่ทั่วทุกมุมถนน ของดีของผู้ชายเป็นสิ่งหายากเหลือเกิน ถ้ายังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร จะไปร้านไหนดี UNLOCKMEN ได้รวบรวม 5 ร้านสินค้าแฟชั่นผู้ชายหลากหลายประเภทมาให้ได้เลือก และตัดสินใจว่าแบบไหนจะเป็นสไตล์ที่ใช่มากที่สุด ARTISAN’S ROYAL CLUB The Artisans’ Royal Club คือคลับสำหรับสุภาพบุรุษแห่งแรกของไทยใจกลางกรุงเทพ ฯ ที่รวมตัวเหล่าช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาไว้ที่นี่ อาทิ ร้านตัดผมชายที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง Truefitt & Hill หรือรองเท้าหนัง Mango Mojito มีความชำนาญในเรื่องของรองเท้าแบบสุภาพบุรุษ Selvedgework อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความชำนาญของการผลิตผ้ายีนส์มากว่า 30 ปี และ Notch ห้องเสื้อตัดสูทชายที่มีประวัติยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งหมดพร้อมสร้างลุคหรูดูดีอย่างสุภาพบุรุษได้ดั่งใจ ไม่ว่าจะงานปาร์ตี้หรือดินเนอร์ช่วงสิ้นปีที่ไหนก็หมดห่วงเรื่องในเรื่องของเสื้อผ้าและสไตล์ที่ภูมิฐาน เข้าไปครบจบได้ในที่เดียวอย่างแท้จริง Website: ARTISAN’S ROYAL CLUB Location: เกษรวิลเลจ ชั้น 1 EVERYDAY KARMAKAMET ร้านกึ่งคาเฟ่ที่รวบรวมของฮิปสเตอร์เก๋ ๆ ลูกเล่นไม่ซ้ำใคร
adidas Originals ICONSIAM สโตร์แห่งใหม่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ปักหมุดที่ประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของเหล่าแฟชั่นนิสต้าและสายสตรีท พร้อมเป็นคอมมูนิตี้พบปะได้แลกเปลี่ยน และอัพเดทสตรีทแฟชั่นเทรนด์ ซึ่งในงานแกรนด์ โอเพนนิ่ง อาดิดาส ออริจินอลส์ ไอคอนสยาม ที่ผ่านมาได้จัดเต็มรวบรวมสตรีทแฟชั่นไอคอนแถวหน้าของไทยไว้มากมาย UNLOCKMEN ก็ไม่พลาดที่จะมาอัพเดทแฟชั่น พร้อมเผยลุคเท่ ๆ ให้ทุกคนได้ลองไปมิกซ์แอนด์แมทช์ตามกัน ให้ชาว UNLOCKMEN ไม่ตกเทรนด์ BLACK & WHITE: All time classic! Tip : เลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ ไอเทม ขาว-ดำ จะขาวเฮดทูโทว ดำทั้งเซ็ต ดำสลับขาว สองสีนี้รับรองเลยใส่ยังไงก็คูลก็รอด ลุคนี้นำโดยแฟชั่นไอคอน แฟชั่นนิสต้าเบอร์หนึ่งของวงการ ที่ไม่ว่าจะใส่ชุดอะไรก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ‘ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต’ ที่ได้จัดเต็ม Mix & Match มาในโทน BLACK & WHITE ด้วยเสื้อครอปแขนยาวสีดำตัดด้วยแถบสีขาวสามแถบเอกลักษณ์จากอาดิดาส แมทช์คู่กับกางเกงขายาว track pant โดดเด่นด้วยแพทเทิร์นชิค ๆ
สำหรับเหล่าสาวกแฟชั่นคงไม่มีใครไม่รู้จักชายผู้ปลุกเทรนด์กระแสแฟชั่นโลกในปัจจุบันอย่าง Virgil Abloh ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าสตรีทที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 90s อย่าง Off White และรับไม้ต่อจากคิม โจนส์ ดำรงตำแหน่ง Creative Director ของ Louis Vuitton ในขณะนี้ ได้ออกมาประกาศว่าคอลเลกชั่นหน้าของ Louis Vuitton จะนำเรื่องราว สไตล์ รวมไปถึงแฟชั่นทั้งบนเวทีและในเวลาปกติของราชาเพลงป๊อบตลอดกาลอย่าง Michael Jackson มาบอกเล่าผ่านเสื้อผ้าที่เขาออกแบบ ซึ่งการประกาศข่าวดังกล่าวของ Abloh ก็ได้สร้างความฮือฮาให้กับเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกทันที เป็นที่รู้กันดีว่า Virgil Abloh คือชายผู้เติบโตมาพร้อมกับวัฒนธรรมสเกตบอร์ดและดนตรี Hip Hop ชนิดที่ว่าถ้าไม่เปิดเพลงก็จะทำงานไม่ได้เลย แต่แทนที่เขาจะเลือกศิลปินจากวงการฮิปฮอปมาเป็นแรงบันดาลใจตามเทรนด์ของโลก เขากลับตัดสินใจเลือก Michael Jackson ศิลปินแนวเพลงป๊อบแทน ซึ่งผู้คนต่างคาดเดาไปในทิศทางเดียวกันว่าที่ Abloh เลือกไมเคิลมาเป็นบันดาลใจในคอลเลกชั่นต่อไปของเขา เพราะความคล้ายคลึงบางอย่างในเรื่องของพื้นที่สำหรับคนผิวสีที่ไม่ได้มีมากสักเท่าไร ไม่ว่าจะกับวงการเพลงหรือในโลกของแฟชั่น แต่ถึงจะยากแต่ถ้าพยายามก็สามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ อย่าง Michael Jackson ที่สุดท้ายกลายเป็นราชาเพลงป๊อบ รวมถึงตัว Abloh เองที่ได้เป็นดีไซเนอร์ผิวสีคนแรกของ Louis Vuitton
ในโลกที่เทคโนโลยีกับแฟชั่นกลายเป็นเรื่องเดียวกัน UNLOCKMEN ขอแนะนำให้ทำความรู้จักกับ 5 Smartwatch จากแบรนด์ไฮเอนที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ การออกแบบที่พิถีพิถัน สรรค์สร้างเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่มีมากกว่าแค่การบอกเวลา ผลงานการสร้างสรรค์จากแบรนด์สุด Craft ที่แม้แต่นาฬิกา Digital ก็ยังคงความหรูหราที่ละเอียดอ่อนไว้ได้ไม่เปลี่ยนแปลง LOUIS VUITTON TAMBOUR HORIZON Louis Vuitton แบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสเจ้าแรกที่เข้าสู่ตลาด Smartwatch ด้วยการส่ง Tambour Horizon นาฬิกาอัจฉริยะระบบปฏิบัติการ Android Wear 2.0 หน้าจอสัมผัสแบบ AMOLED มุมมองกว้าง สีสันสดใส มาพร้อมความละเอียด 390 x 390 pixcel กระจกหน้าและหลังใช้วัสดุ Sapphire ขนาด 1.2 นิ้ว RAM 512MB พื้นที่เก็บข้อมูล 4GB แบตเตอร์รี่ความจุ 300mAh สามารถลงน้ำลึกได้ 30 เมตร พร้อมกับแอปพลิเคชั่นที่พัฒนาโดย LV คือ My Flight
ผู้ชายอย่างเราคงไม่มีใครไม่รู้จักรองเท้าโมเดลในตำนานอย่าง Stan Smith เพราะตลอดเวลากว่า 5 ทศวรรษที่ผ่านมา มันคือหนึ่งในรองเท้าที่มียอดขายดีที่สุดของค่ายสามขีด ทั้งยังคงความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน ที่แม้ตลาดรองเท้าจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่มันก็ไม่เคยล้าสมัยในสายตาของเหล่า Sneakerhead เลย ความสำเร็จทั้งหมดทำให้ Adidas ตัดสินใจตอบแทนชายผู้เป็นแรงบันดาลใจให้รองเท้าคู่นี้ นั่นคือ Stanley Roger Smith เจ้าของใบหน้าบนลิ้นรองเท้าที่คุ้นเคยกันดี ด้วยสัญญาตลอดชีวิตที่เป็นเหมือนการการันตีว่าเราจะได้เห็นรองเท้าคู่นี้ต่อไปอีกนานอย่างแน่นอน ถ้าถามถึงจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของ Adidas และ Stan Smith คงต้องย้อนกลับไปในปี 1965 เมื่อ Adidas ตัดสินใจเปิดตลาดรองเท้าเทนนิสขึ้นมา โดยรองเท้าคู่แรกได้ใช้ Robert Haillet มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก่อนเขาจะประกาศวางมือไป ช่องว่างตรงนั้นเองทำให้พวกเขามองหาตัวตายตัวแทนนักเทนนิสชื่อดัง ซึ่งหวยก็มาตกที่ Mr. Stan Smith ซึ่งกำลังอยู่ในยุครุ่งเรืองของอาชีพ ณ ขณะนั้น โดยเจ้าของแชมป์ Grand Slam 2 สมัยคงยังไม่รู้ว่า ตัวเองกำลังจะกลายมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของรองเท้าระดับ Iconic ซึ่งต่อมามีอิทธิพลต่อทั้งวงการแฟชั่นรวมถึงกลายเป็น Pop-Culture ทั่วโลกในเวลาต่อมา ด้วยดีไซน์การออกแบบของ Classic Stan Smith อันเรียบง่ายแต่มีจุดเด่นที่ส่วน
ยิ่งใกล้ถึงช่วงสิ้นปี ตลาดแฟชั่นทั่วโลกยิ่งทวีความคึกคักมากขึ้น สังเกตได้จากความถี่ของการปล่อยคอลเลกชันของแต่ละแบรนด์ในช่วงนี้ เรียกได้ว่าเตรียมตัวสร้างความนิยมไว้รอต้นปีหน้าเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่สามารถดึงดูงกลุ่มลูกค้าเป็นอันดับแรกก็คือบารมีอันทรงพลังของ Brand Logo (เครื่องหมายการค้า) แต่ละแบรนด์ ที่เป็นเหมือนเครื่องรับประกันความพึงพอใจให้คนควักเงินและสวมใส่ ซึ่งดูเหมือนว่าในปี 2018 นี้ Supreme Logo Box จะกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตลาดแฟชั่นของปีอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วย Net Worth ที่ทะลุไปไกลถึงระดับ Billion Dollars Club เรียบร้อย โลโก้ของ Supreme กลายเป็นโลโก้สินค้าแฟชั่นที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในขณะนี้ จากการรายงานล่าสุดของเว็บไซต์แฟชั่นชื่อดังอย่าง Lyst ซึ่งจัดอันดับขึ้นโดยการโหวตจากแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า Logo Box สีแดงสดฝีมือการออกแบบของ Barbara Kruger ที่ถูกส่งต่อให้ James Jebbia ผู้ก่อตั้ง Supreme ชิ้นนี้มีความสามารถในการดึงดูดผู้คนได้มากแค่ไหน แม้จุดประสงค์ของการสร้างจะต่างกันชนิดฟ้ากับเหวก็ตาม ดูเรื่องราวต้นกำเนิดของโลโก้และฟอน์ตของ Supreme ได้ที่ https://bit.ly/2ULLr4S แน่นอนว่าอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Supreme Logo Box ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ก็มาจากแนวทางการทำธุรกิจของ Supreme ที่สร้างให้แบรนด์เป็นชื่อที่มีคุณค่าสำหรับกลุ่มลูกค้า ที่ไม่ว่าจะดรอปคอลเลกชันใหม่ออกมาเมื่อไหร่ก็ขายดีเหมือนให้ฟรี แถมเอาไปแปะใส่อะไรก็กลายเป็นของมีราคาไปเสียหมด ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยสินค้าเลียนแบบมากมายก็ตามแต่ Supreme