หลังจากคอลเลกชันเสื้อผ้า XO ของศิลปินหนุ่มชื่อดัง The Weeknd เปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการในคอนเสิร์ตเอเชียทัวร์และปล่อยแฟชั่นไอเทมเท่ ๆ ออกมายั่วน้ำลายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนักร้องหนุ่ม R&B ปล่อยคอลเลกชันล่าสุดสำหรับเดือนมีนาคมที่ชื่อว่า On Thursday ซึ่งสร้างสรรค์ผลงานจากภาพแฟนอาร์ตของตัวเขาเอง เป็นเรื่องปกติที่เหล่าศิลปินจะมีภาพตัวเองที่แฟนคลับวาดมาให้อยู่เสมอ The Weeknd ก็เช่นกัน ภาพวาดแฟนอาร์ตจำนวนหนึ่งที่เขาเห็นในโซเชียลฯ ถูกตาต้องใจเขาเข้าเต็ม ๆ ทำให้ The Weeknd นำรูปภาพเหล่านั้นมาสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นเท่ ๆ พร้อมกับดึงเจ้าของผลงานคือ Ayoob Ali และ Abhidyu Sharma มาร่วมกันออกแบบเสื้อผ้าคอลเลกชัน On Thursday โดยทั้งสองคนเป็นแฟนคลับของ The Weeknd อยู่แล้วจึงรีบตอบตกลง ผลงานในคอลเลกชัน On Thursday ประกอบไปด้วยไอเทม 8 ชิ้น เสื้อยืดแขนยาวแบบสวมหัว เสื้อยืดแขนสั้น เสื้อยืดแขนยาวแบบมีฮู้ด และเสื้อเชิ้ต แต่งแต้มสีสันด้วยลายกราฟิกที่มีชีวิตชีวา พร้อมกับซ่อนสัญลักษณ์ที่จะโยงไปถึงอัลบั้มต่าง ๆ ของ The Weeknd ในคอนเซ็ปต์แฟชั่นแบบร่วมสมัยที่ใส่อย่างไรก็ไม่ตกยุค ลวดลายของเสื้อทั้งด้านหน้าและด้านหลังจะมีรูปภาพและสีสันที่แตกต่างกัน เช่น เสื้อแขนยาวสีแดงสดพร้อมโลโก้
มีข่าวลือเกี่ยวกับการ Collab ของสองมหาเทพแห่งวงการ Street Fashion ระหว่าง Nike x Supreme ที่มีกระแสเริ่มมาจาก Instagram ของ 2 Fashion Influencers อย่าง Dayanne Akadiri และ @airrenny โพสรูปอวดขณะสวมใส่รองเท้า Nike Air Max Tailwind IV ที่ดีไซน์แปลกตา แถมยังมีโลโก้ Supreme เตะตาเหล่า Sneakerheads ทั่วโลก จนต้องกด Emoji ไฟลุกพรึบไปตาม ๆ กัน ล่าสุดมีการเปิดเผยภาพแบบเต็ม ๆ คู่ครบทั้ง 2 เฉดสีของ Nike x Supreme Air Max Tailwind IV เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย Black and Blue และ White and
นับตั้งแต่วันที่ Converse ส่งรองเท้าคู่แรกออกขายด้วยคอนเซ็ปต์รองเท้ายางสำหรับใส่กันหนาว และดังเป็นพลุแตกเมื่อนักบาสเก็ตบอลชาวอเมริกันอย่าง Chuck Taylor เข้ามามีส่วนร่วมคิดค้นสัญลักษณ์รูปดาวที่คุ้นตาจนเกิดเป็นรองเท้า Converse Chuck Taylor All-Star ทรงหุ้มข้อที่ผู้คนก็ยังนิยมใส่มาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุด Converse ส่งรองเท้าสำหรับฤดูกาล Spring/Summer 2019 ด้วยดีไซน์แบบวินเทจและพื้นยางรองเท้าแบบโปร่งแสงที่รวมความคลาสสิกกับแฟชั่นสมัยใหม่เข้าด้วยกัน Converse คอลเลกชัน Spring/Summer 2019 จะมีทั้งหมด 3 คู่ พร้อมสีสันและลวดลายที่แตกต่างกัน ส่วนบนของรองเท้าทำจากผ้าฝ้าย น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี ประทับตรา Converse ที่แต่ละคู่มีรายละเอียดไม่ซ้ำกัน และมีจุดเด่นคือพื้นยางรองเท้าแบบโปร่งแสง รองเท้าคู่แรกได้คอนเซ็ปต์สีมาจากธงชาติของสหรัฐอเมริกา คือ สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน พร้อมเชือกรองเท้าแบบกลมสีขาว ได้ต้นแบบมากจากเชือกกั้นห้ามเข้าระหว่างที่มีขบวนเสด็จของราชวงศ์ในประเทศแถบยุโรป พื้นรองเท้าสีฟ้าโปร่งแสง พร้อมประทับตราสัญลักษณ์ Converse พื้นสีน้ำเงินตัดด้วยดาวสีแดงสดใส รองเท้าคู่ต่อมาเป็นรองเท้าหุ้มข้อลายตารางหมากรุกสีเขียว ตัดด้วยเส้นสีแดง แถบสีขาว และเส้นสีฟ้า เพิ่มลูกเล่นให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยพื้นรองเท้ายางสีชมพูเรืองแสง เชือกรองเท้าสีขาว พร้อมกับประทับตราสัญลักษณ์ Converse ด้วยยางใส ซึ่งรองเท้าคู่นี้จะให้ความรู้สึกวินเทจมากกว่ารองเท้าอีกสองคู่ในคอลเลกชันเดียวกัน รองเท้าคู่สุดท้ายในคอลเลกชัน
เมื่อรองเท้ากีฬาชื่อดัง Puma เตรียมออกคอลเลกชันพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ โดยการ collaboration กับเพื่อนเก่าอย่าง MTV สร้างสรรค์ผลงานเป็นแคปซูลคอลเลกชันพิเศษชื่อว่า MTV x PUMA RS-X Tracks การพบกันของ Puma และ MTV ครั้งนี้เลือกหยิบ RS-X Toys Sneakers ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 มาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง เพราะความโดดเด่นของดีไซน์จากแรงบันดาลใจในทศวรรษ 1980 เต็มไปด้วยสีสันสดใสตามแบบของเล่นวัยเด็ก ที่แต่งแต้มอยู่บนรองเท้าทรงอ้วนป้อมแบบ dad shoe สามารถเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจของยุคนั้นได้เสมอ ส่วนเคเบิ้ลทีวีชื่อดังที่เป็น pop Culture ของวัยรุ่นอเมริกันอย่าง MTV เริ่มออกอากาศครั้งแรกปี 1981 พร้อมกับคอนเซ็ปต์สีสันจัดจ้านแบบนีออน และ Puma ก็เคยได้ร่วม collaboration กับ MTV ล่าสุดเมื่อปี 2006 ด้วยการออกสนีกเกอร์รุ่น Clyde ที่ได้แรงบันดาลใจจากรายการ Yo! MTV Raps รายการแรปชื่อดังระดับตำนานของช่อง MTV หลังจากที่ทั้งสองแบรนด์คอแลปส์กันเมื่อปี 2006 ในปีนี้ Puma
หลังประสบความสำเร็จอย่างท้วมท้นจากหนุ่มสายสตรีตทั่วโลกกับคอลเลกชัน Palace x Polo Ralph Lauren ที่ผสมผสานเสน่ห์ของสตรีตแวร์ผ่านแบรนด์เสื้อผ้าสุดคลาสสิก ในที่สุดแบรนด์สเก็ตบอร์ดสัญชาติอังกฤษอย่าง Palace ก็กลับมาปล่อยคอลเลกชันของตัวเองอีกครั้ง โดยการกลับมาครั้งนี้พวกเขาหอบไอเทมสุดไฮป์มาวางขายมากกว่าร้อยชิ้นเลยทีเดียว จาก Lookbook เรียกน้ำย่อยให้หนุ่ม ๆ สายสตรีตทั่วโลก ในที่สุด Palace ก็ได้ปล่อยภาพชุดเต็มในคอลเลกชัน Spring/Summer 2019 ออกมา โดยในแคปซูลชุดดังกล่าวอัดแน่นไปด้วยไอเทมมากมายกว่าร้อยชิ้น ไม่ว่าจะเป็น Utility Jacket-Vest, Partex Quantum Jacket, PA-1 Flight Jacket ที่เพิ่มเข้ามาเป็นพิเศษและไอเทมชิ้นประจำที่ขาดไม่ได้อย่าง Tees, Hoodie, Tracksuit, Spring-ready Jacket, Cap, Bags และ Socks รวมไปถึงสติ๊กเกอร์และแผ่นสเก็ตบอร์ด ที่ทั้งหมดมาพร้อมลวดลายและดีไซน์อันหลากหลายให้แต่ละคนได้เลือกกันตามสไตล์และความชอบ PALACE “Spring/Summer 2019” เริ่มวางขายไปแล้วเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หนุ่ม ๆ สายสตรีตในบ้านเราที่มีโอกาสแวะเวียนบินไปญี่ปุ่น อย่าลืมแวะเวียนเข้าไปดูกันได้ (สาขาโตเกียวคือสาขาที่ใกล้ไทยมากที่สุด) ส่วนคนที่สนใจจะรอราคาหิ้วจากพ่อค้าในบ้านเราก็เตรียมตัวสู้ราคากันไว้ให้ดี
สำหรับใครที่ชื่นชอบและคิดถึงเครื่องเกมคลาสสิกที่เคยเล่นเมื่อครั้งเป็นเด็กอย่าง PlayStation 1 จะต้องถูกอกถูกใจอย่างแน่นอนเพราะ Merchoid พาเครื่องเกมรุ่นตำนานกลับมาอีกครั้งรูปแบบนาฬิกาข้อมือดิจิทัล นาฬิกาข้อมือนี้มีชื่อว่า PlayStation: Loading Times Watch Preorder ทำจากซิลิโคนสีเทาขนาดกะทัดรัด รายละเอียดถอดแบบมาจาก PlayStation 1 ทุกประการ พร้อมดัดแปลงบริเวณฝาเปิด CD ให้กลายเป็นจอแสดงเวลาแบบเรืองแสง เปลี่ยนปุ่ม power และ open ให้เป็นปุ่มตั้งค่าเวลา ถ้าถามว่าเพราะอะไร Merchoid ถึงเลือกรุ่น PlayStation 1 มาสร้างสรรค์เป็นนาฬิกาข้อมือ คำตอบคือเพราะเครื่องเกมรุ่นนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ถ่ายทอดจินตนาการและความสนุกสนานอย่างเต็มอิ่ม เป็นไอเทมยอดฮิตที่วัยรุ่นยุค 90 ผู้ชื่นชอบการเล่นเกมจะต้องมีติดบ้าน จุดเริ่มต้นของ PlayStation 1 เกิดขึ้นเมื่อบริษัทวิดีโอเกมชื่อดัง Nintendo ยกเลิกสัญญาที่ร่วมพัฒนาเครื่องเกมกับบริษัท Sony กลางคัน และหันไปเซ็นสัญญากับทางฟิลิปแทน ทำให้ Sony ได้รับผลกระทบอย่างหนัก Sony จึงตัดสินใจนำข้อมูลที่เหลือจากโครงการที่ยุบไปแล้วมาพัฒนาต่อ เกิดเป็นเครื่องเกมแบบคอนโซลเดี่ยว การพลิกเกมของโซนี่สร้างความไม่พอใจแก่ Nintendo และฟ้องให้โซนี่ระงับการพัฒนา แต่ผลคือศาลไม่รับฟ้องกรณีดังกล่าว ในที่สุดเครื่องเกม
หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Detective Pikachu เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้พร้อมการตอบรับร้อนแรงของเหล่าแฟนคลับ บริษัท The Pokémon Company ผู้ถือลิขสิทธิ์เกมและการ์ตูนโปเกมอนจึงรีบต่อยอดกระแสที่ได้รับด้วยการลงสนามแฟชั่นพร้อม collaboration กับ 10.Deep แบรนด์สตรีตแฟชั่นชื่อดังจาก New York ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ แต่ทั้ง 10.Deep และ Pokémon ต่างเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกันเมื่อปี 1995 และในปี 2019 นี้ แบรนด์แฟชั่นและวิดีโอเกมชื่อดังอายุเท่ากันจะร่วมสร้างสรรค์ผลงานไม่เหมือนใครด้วยแคปซูลคอลเลกชันพิเศษ 10.Deep x Pokémon แคปซูลคอลเลกชันนี้มีชื่อว่า The Rivals Group หยิบไอเทมต่าง ๆ มาจากงานแฟชั่นโชว์ Spring/Summer 2019 บอกเล่าเรื่องราวของโปเกมอนผ่านลายเสื้อ และ 10.Deep x Pokémon ถือเป็นการคอแลปส์ที่หลายคนต่างจับตามอง เพราะนี่คือครั้งแรกที่ The Pokémon Company ร่วมมือกับแบรนด์สตรีตแวร์สัญชาติอเมริกัน Pokémon โด่งดังขึ้นมาจากเกมบนเครื่องเกมบอยที่เปิดตัวเมื่อปี 1995 และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม สร้างกำไรเป็นอันดับสองรองจากเกมฮิตตลอดกาลอย่าง Mario
แม้กระเป๋าหนังสีน้ำตาลพร้อมลายโมโนแกรมแสนคุ้นตาของ Louis Vuitton คือสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปแล้ว แต่ความคลาสสิกจะถูกเล่าเรื่องใหม่ด้วยการแต่งแต้มสีสันสดใส เมื่อ LV เตรียมส่งคอลเลกชันเครื่องหนังหลากสีโดยใช้ชื่อว่า Taïgarama สินค้าเครื่องหนังต่าง ๆ ในคอลเลกชัน Taïgarama ถูกผลิตอย่างพิถีพิถันด้วยหนังสัตว์คุณภาพสูงอย่าง Taïga ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังที่ย่นและเกิดรอยขีดข่วนยาก และไม่ลืมที่จะใส่ลายโมโนแกรม LV อันเป็นเอกลักษณ์ด้วยเสมอ ครั้งนี้สินค้าเครื่องหนังของ Louis Vuitton มาพร้อมเฉดสีสดใสที่ตั้งชื่อตามสถานที่ต่าง ๆ แต่ละมุมโลกอย่าง สีฟ้าน้ำทะเลแถบแปซิฟิก (Pacific Blue) สีขาวแบบภูเขาน้ำแข็ง (Antarctica White) เขียวป่าอแมซอน (Amazon green) และสีเหลืองแบบบาเอียซึ่งเป็นชื่อรัฐในประเทศบราซิล (Bahia Yellow) ภายในคอลเลกชันจะประกอบด้วยโมเดลที่โดดเด่นของแบรนด์ ได้แก่ Keepall กระเป๋าสะพายหลัง กระเป๋าคาดเอว กระเป๋าทรง Messenger สำหรับใส่เอกสาร และกระเป๋าเดินทางรุ่น Horizon 50 พร้อมกับสินค้าที่ทำจากหนังขนาดเล็กลงมาอย่างกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใส่การ์ด และพวงกุญแจ ที่เอาใจเหล่าผู้ชื่นชอบผลงานเครื่องหนังของ Louis Vuitton ให้สามารถตามเก็บไอเทมแบบต่าง
ช่วงนี้ข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของสุดยอดดีไซเนอร์เปลี่ยนโลกอย่าง Karl Lagerfeld ผู้ทรงอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นเต็มหน้าฟีดโซเชียลทั้งไทยและเทศ บุรุษอายุ 85 นี้คือใคร ทำไมวงการการออกแบบและแฟชั่นถึงออกมาร่วมไว้อาลัย ถ้ายังคิดไม่ออกว่าเขาคือใคร ภาพติดตาของดีไซน์เนอร์ของแบรนด์ Chanel ที่ชอบใส่สูทสีดำ ไว้ผมยาวสีขาวโพลนรวบหางม้า และสวมแว่นกันแดดตลอดเวลาด้านล่าง คงทำให้ต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน UNLOCKMEN ขอนำทุกคนไปทำความรู้จักกับชายผู้สร้างสีสันให้กับโลกแฟชั่น เพื่อสดุดีถึงผลงานที่ทำมาตั้งแต่ช่วง 50’s ที่โดดเด่น ไม่ธรรมดา และกินใจผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่ Karl Lagerfeld จะเป็น Creative Direction ให้กับแบรนด์แฟชั่นสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Chanel และแบรนด์ดังจากอิตาลี Fendi รวมถึงก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นในชื่อของตัวเองว่า Karl Lagerfeld จนเกรียงไกร เขาต้องพบกับขวากหนามมากมายที่ต้องพยายามฝ่าฟันนับครั้งไม่ถ้วนจนได้สิ่งที่หวัง เรื่องราวชีวิตก่อนมีชื่อเสียงโด่งดังของ Karl เริ่มต้นจากเด็กชายชาวเยอรมันที่ย้ายมาตามความฝันใน “ปารีส” มหานครแห่งแฟชั่น ทุ่มเวลากับสิ่งที่ชอบด้วยการเรียนรู้เรื่องผ้าอยู่ 2 ปี จากนั้น Karl ในวัย 17 ปี จึงได้ลองส่งผลงานชิ้นแรกของตัวเองคือแบบสเก็ตช์เสื้อโค้ตเข้าประกวดในปี ค.ศ. 1954 และได้รับรางวัลชนะเลิศ ผลงานชิ้นนี้ของ Karl เข้าตา Pierre Balmain ดีไซเนอร์ชื่อดังแห่งยุค
หลังจากที่ Vans เพิ่งเปิดตัวรองเท้ารุ่นล่าสุดอย่าง Anaheim Factory Pack ไปหมาด ๆ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Vans ก็ไม่ปล่อยเวลาเว้นว่างให้เหล่าสาวกได้หยุดพักหายใจ เตรียมส่งคอลเลกชันใหม่ออกมา แถมใคร ๆ ต่างก็จับตามองด้วยการคอแลปส์กับวงร็อกชื่อดังเกิดเป็น Vans x Led Zeppelin การ collaboration ระหว่าง Vans และ Led Zeppelin เกิดขึ้นได้เพราะแบรนด์รองเท้าชื่อดังอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองครบรอบการเปิดตัวอัลบั้มแรกของวงระดับตำนานเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ด้วยการออกแคปซูล Limited Edition ในจำนวนจำกัด Led Zeppelin คือวงดนตรีร็อกจากเกาะอังกฤษที่เริ่มตั้งแบรนด์ในปี 1968 เป็นวงดนตรีที่ได้รับการยอมรับในวงการเพลงว่าเป็นวงดนตรีเฮฟวีเมทัลวงแรก ๆ ของอังกฤษที่ประสบความสำเร็จพร้อมกับผลงานเพลงคุณภาพ ที่การันตีฝีมือได้จากยอดขายอัลบั้มกว่า 300 ล้านแผ่นทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีรางวัลสารพัดที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นตำนานวงร็อกระดับโลกทั้งการคว้าอันดับหนึ่งวงดนตรีร็อกยอดเยี่ยมจาก VH1 และได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Rolling Stone ว่าเป็นวงดนตรีเฮฟวี่ดีที่สุดตลอดกาลและยิ่งใหญ่ที่สุดในทศวรรษ 1970 ทั้งหมดคือเหตุผลที่ทำให้ Vans ออกแคปซูลพิเศษเพื่อแสดงความนับถือต่อ Led Zeppelin ภายในแคปซูลคอลเลกชันพิเศษ Vans
เพราะความเท่าเทียมและสีผิวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องคอยระวังอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่แบรนด์แฟชั่นยอดนิยมอันดับ 1 (เพิ่งถูกจัดอันดับเสร็จไปหมาด ๆ ) อย่าง Gucci ก็ต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน เพราะเสื้อสเว็ตเตอร์และผ้าปิดปากของแบรนด์ดันคล้ายคลึงกับการล้อเลียนชาวผิวสีในอดีต แฟชั่นที่สร้างความปั่นป่วนให้กับ Gucci ในครั้งนี้คือเสื้อสเว็ตเตอร์สีดำ Balaclava Knit Top Black ในคอลเลกชัน Fall Winter 2018 ที่เมื่อปล่อยรูปออกมาก็เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ด้วยดีไซน์ที่ต้องดึงคอเสื้อขึ้นไปปิดปากและผ้าที่อยู่พอดีกับรูปปากดันเป็นสีแดงที่ดูเหมือน Black face เหตุที่เสื้อสเว็ตเตอร์ซึ่งดูคล้ายคลึงกับ Black face สร้างผลเสียต่อกุชชีนั่นเป็นเพราะ Black face & Red lips คือสัญลักษณ์แสดงถึงช่วงเวลาแห่งการกดขี่เมื่อกว่าร้อยปีก่อนที่ห้ามคนผิวสีเล่นละครเวที แต่ถ้าเรื่องไหนมีตัวละครทาสผิวสีก็จะใช้คนผิวขาวเล่นแทนโดยการทาหน้าดำพร้อมกับทาปากแดง เป็นการแต่งหน้าล้อเลียนผู้คนผิวสีในสมัยนั้น และเมื่อใดก็ตามที่เห็นการทาหน้าดำปากแดงคนทั่วโลกโดยเฉพาะทางฝั่งยุโรปและอเมริกาก็จะรู้กันว่านี่คือการเหยียดสีผิว หลังจากที่เสื้อสเว็ตเตอร์ Balaclava Knit Top Black วางจำหน่ายช่วงปลายปึ 2018 จนถึงเดือนมกราคมปี 2019 ในราคาตัวละ 890 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว 28,000 บาท โลกโซเชียลก็วิจารณ์กันอย่างร้อนแรง หลายคนมองว่าถ้าออกแบบเสื้อให้เป็นสีดำล้วนตั้งแต่แรกก็จบแล้ว แต่ดันออกแบบผ้ารอบปากให้เป็นสีแดงที่ดูจงใจเกินไป แต่แบรนด์ออกมาตอบว่าพวกเขาดีไซน์มาเพื่อสดุดี
หนุ่มสายสตรีตที่ชอบออกตะลุยราตรีคงจะถูกใจเป็นพิเศษกับ คอลเลกชันเสื้อผ้าชุดล่าสุดที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ Atmos ร้านขายสตรีตแวร์และรองเท้าชื่อดังจากกรุงโตเกียว กับโคตรแบรนด์สปอร์ตแวร์ Nike ที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายยามค่ำคืนอย่าง “Tokyo Neon Collection” ก่อนจะปล่อยตัวอย่างของแคปซูลเสื้อผ้าและรองเท้าสีแสบชุดล่าสุดออกมา พวกเขาเรียกน้ำย่อยจากแฟน ๆ ด้วย Nike Air Max 98 ที่มาพร้อมโทนสีหลักเป็นสีดำและตกแต่งด้วยลวดลายสีส้ม เขียวและชมพูเรืองแสง กับก้อนแอร์ใส ๆ ไร้สีดึงดูดสายตา ซึ่งคาดว่าจะปล่อยออกมาในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ จากความเฟี้ยวฉายเดี่ยวที่พวกเราตามหา ล่าสุดเขามาเฉลยว่าเจ้านี่มันคือหนึ่งในไอเทมจากคอลเลกชัน “Tokyo Neon Collection” ชุดปัจจุบัน ที่มาพร้อมรองเท้าโมเดล Iconic อีกคู่และเสื้อผ้าสุดไฮป์อีกจำนวนหนึ่ง คอลเลกชันนี้ได้รับการออกแบบจาก Hirofumi Kojima ซึ่งเป็น Creative Director จาก Atmos ประกอบด้วยรองเท้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ 2 คู่ ได้แก่ Nike Air Max 90 และ Nike Air Max 98 รวมไปถึง Short-sleeved T-shirt,