แฟชั่นแบบผู้ชาย ๆ ใครว่าจะต้องเป็นโทนขาว ดำ เทา เท่านั้น?! หล่อ เท่ สุขุมน่ะใช่แต่ใครจะไปแอ็คขรึมได้ตลอดเวลา เพราะยังไงผู้ชายเรามันก็ต้องมีอารมณ์สนุก มันส์ กวนกันบ้าง เผลอ ๆ แล้วจะเป็นตัวตนจริง ๆ ของเราด้วยซ้ำไป ลองสลัดแอ็คขรึมทิ้ง แล้วลองมาลุคคูลกับสไตล์ Two-Tone color ดู แบบที่ใช้คู่สีคอนทราสต์โทนร้อนโทนเย็น ให้ทั้งความหล่อ เท่ และแฝงด้วยความสนุกสนาน เปี่ยมเอนเนอร์จี้ หนุ่มสายสตรีทเฉี่ยว ๆ เติมบุคลิกขี้เล่นได้ด้วยคู่สีคอนทราสต์ อาจจะลองโชว์ความจี๊ดที่ช่วงเท้า ด้วยการเลือกถุงเท้ายาวข้อสูงสีสันลวดลายเจ็บ ๆ ใส่คู่กับกางเกงขาสั้น หรือกางเกงยีนส์พับขาลอย และสนีกเกอร์สีสันโดน ๆ สักคู่ หรือจะเลือกไปทางโดดเด่นทั้งตัวไปเลยก็ได้ ด้วยการเลือกชิ้นหลักให้เป็นคู่สีตรงข้ามกัน เช่น เสื้อสีเข้ม กางเกงสีจี๊ด แล้วเพิ่มความมันส์เข้าไปให้สุดด้วยรองเท้าสีเจ็บ แค่นี้ก็สนุกได้ทั้งวัน ส่วนหนุ่มสายบูติกก็ยังคีพคูลได้กับสี Two-tone ด้วยหลักการเดียวกันคือ สีเสื้อและสีกางเกงต้องเลือกให้คอนทราสต์กันเข้าไว้ แต่ข้อควรระวังคือ ไม่ควรมีเกิน 3 สีบนร่างกายไม่อย่างนั้นอาจจะเยอะเกินเลยความคูลไปนิดนึง ไม่ต้องเขินกับการเลือกใช้สีสัน ลองจับคู่สีตรงข้ามมามิกซ์
ยังคงขับเคี่ยวกันอย่างหนักหน่วงสำหรับสองค่ายรองเท้ายักษ์ของโลกอย่าง adidas และ Nike ซึ่งทั้งคู่เพิ่งจะเปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่ และนับว่าน่าสนใจอย่างมากจนชาว UNLOCKMEN ไม่ควรพลาดเก็บไว้เป็นตัวเลือกสำหรับจับจ่ายใช้สอยรองเท้าสนีกเกอร์คู่ถัดไป ดังนั้นในวันนี้เราจึงนำสองโมเดลใหม่จากทั้งสองฟากมาเปรียบมวยกันไปเลย adidas POD 3.1 สำหรับรองเท้ารุ่น POD 3.1 คือการนำประสบการณ์สุดล้ำด้วยการวบรวมและผสมผสานสุดยอดเทคโนโลยีจาก adidas เพื่อต้องการทวงบัลลังค์ความนิยมหลังจากเสียท่าไปพอสมควรในช่วงปีที่ผ่านมา adidas POD 3.1 เกิดจากการรวมกันของความเชื่อและแนวคิดที่ว่า “Great alone, better together” ซึ่งดีไซน์ของ P.O.D. System นั้นแสดงให้เห็นถึงการนำเสนอเอกลักษณ์และการเชื่อมโยงสุนทรียะของเรื่องราวในอดีตสู่มุมมองการออกแบบสุดก้าวหน้า ซึ่งรองเท้ารุ่น P.O.D. System นั้นหยิบแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากดีไซน์ดั้งเดิมของรองเท้าวิ่งที่อาดิดาสออกแบบไว้ในปี 1995 ซึ่ง POD นั้นย่อมาจากคำว่า Point of Deflection System เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่าอย่าง Torsion™ โดยจะเป็นพื้นโฟม EVA ในส่วนหน้าเท้าเข้ากับเทคโนโลยีใหม่อย่าง Boost™ เพื่อความนุ่มสบายในส่วนของส้นเท้า ทำให้รองเท้าคู่นี้มีกลิ่นอายความเป็น Chucky และ Modern ไปพร้อม ๆ
แม้ว่าในฤดูกาลนี้โทนสีที่มาแรงที่สุดประจำซีซั่นจาก Pantone จะเลือกให้เป็น Ultra Violet แต่เรียนตามตรงว่าด้วยเฉดสีม่วงเช่นนั้น คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่หนุ่ม ๆ จะหยิบจับไอเทมต่างมามิกซ์แอนด์แมทช์เป็นสไตล์ในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน สุดท้ายก็จบด้วยสีขาว ดำ เทา เป็นโมโนโทนอยู่ตลอดเวลา UNLOCKMEN อยากจะให้หนุ่ม ๆ ลุกขึ้นมาแต่งตัวสนุกให้กับชีวิตเสริมหล่อความมั่นใจให้กับตัวเองมากยิ่งด้วย ด้วยโทนสีแบบ Earth Tone ซึ่งหลายคนอาจจะยังสงสัยอยู่ว่าไอ้เจ้า Earth Tone นี้ มันหน้าตาเป็นเช่นไร สำหรับสีในโทน Earth Tone ถ้าให้ทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ คือเฉดสีต่าง ๆ ของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา อย่างเช่น เขียวเข้ม น้ำตาล เทน และแทน รวมถึงสีเบจ โดยทั้งหมดนี้ถือเป็นสีโทนกลางที่สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์เข้ากับทุกสีได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้มันเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับงานตกแต่งหลาย ๆ ประเภท ทว่าช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ในวงการแฟชั่นเริ่มมีการหยิบจับเอาโทนสีนี้ มาเป็นส่วนประกอบสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นไฮแฟชั่น หรือแม้กระทั่งสตรีทแวร์ มาลองดูไอเดียกันว่า ถ้าเกิดหนุ่ม ๆ อยากจะมีลุคแบบ Netural ควรจะเลือกเฉดสี
จัดเป็นคอลเลคชั่นที่หนุ่ม ๆ UNLOCKMEN ทุกคนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะการโคจรมาพบกันของสองงานศิลป์ที่ดูเหมือนไม่น่าจะเข้ากันได้เลย เมื่อแบรนด์แฟชั่นสเก็ตบอร์ดอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Vans ขอหยิบยกเอาผลงานศิลปะชั้นครูจาก Vincent Van Gogh มาวาดลวดลายอยู่บนคอลเลคชั่นเสื้อผ้า และรองเท้าของตัวเอง จนเกิดเป็น Vans x Vincent Van Gogh โดยความร่วมมือในครั้งนี้ Vans จะได้นำรองเท้ารุ่นฮิตอย่าง Old Skool, Slip-On, Authentic และ Sk8-Hi รวมถึงเสื้อยืด ฮู้ดดี้ แจ็กเก็ต หมวก กระเป๋า มาเติมภาพวาดสีน้ำมันสุดคลาสสิคของศิลปินชื่อก้องโลก Vincent Van Gogh อาทิ Almond Blossoms, Skull และ Sunflowers หรือแม้กระทั่งภาพพอร์ตเทรตของตัวเอง ออกมาเป็นคอลเลคชั่นที่ผสมผสานศาสตร์แห่งศิลปะบนเสื้อผ้าสมัยใหม่ได้อย่างสวยสดงดงาม ทว่าการจับจองคอลเลคชั่น Vans x Vincent Van Gogh Van Gogh Museum นับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะสินค้าเหล่านี้จะถูกวางขายที่เว็บไซต์เท่านั้นในเร็ววันนี้
คอลเลคชัน Autumn Winter 2018 ใหม่จาก Emporio Armani แบรนด์สำหรับสุภาพบุรุษสุดเท่จากอิตาลี กับมุมมองที่ว่าความเป็นปัจเจกบุคคลคือสิ่งที่สำคัญจึงกระตุ้นให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง ในแบบที่สะท้อนบุคลิกเฉพาะบุคคล หาคาแรกเตอร์ที่เป็นตัวเอง พร้อมทั้งค้นหาจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่เป็นตนเองให้พบ ท่ามกลางโลกอันหลากหลายและแตกต่างที่เราอยู่ร่วมกัน หัวใจหลักของคอลเลคชันนี้คือการมุ่งเน้นความทันสมัยสไตล์คนเมือง ซึ่งเน้นไอเดียของความเท่ในมุมมองใหม่ มุมมองที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทว่าไม่เอาจริงเอาจังจนเกินไป เสื้อผ้าที่ออกแบบมาเพื่อสวมใส่ในเมืองมีการรังสรรค์ของการใช้โทนสีและเรื่องของการผสมผสานนวัตกรรมการสร้างสรรค์เสื้อผ้า เข้ากับการเลือกผ้าและวัสดุต่าง ๆ ที่นำมาใช้อย่างถึงรายละเอียด โครงร่างและรูปทรงของเสื้อผ้าที่ไม่ว่าจะทรงไหนก็สวมใส่ง่าย มีให้เห็นอย่างชัดเจนบนโปรดักเด่นของคอลเลคชัน อาทิ เสื้อสูทกระดุมสองแถวไหล่เล็ก ที่สวมคู่กับกางเกงทรงหลวม เทรนช์โค้ทผ้าวูลที่มีสายเข็มขัดรัด และแจ็คเก็ตบอมเบอร์ สไตล์กิโมโนไร้รอยต่อเสื้อชั้นนอก ในคอลเลคชันนี้หยิบแรงบันดาลใจมาจากโลกของการปีนเขาและการทำกิจกรรมเอาท์ดอร์ เราจึงเห็นเสื้อชั้นนอกอย่างเสื้อโค้ทขนแกะ และแจ็คเก็ตหนังแพะในคอลเลคชันนี้ เสื้อผ้าแต่ละชิ้นผ่านกระบวนการผลิตที่มากด้วยรายละเอียดจนให้เนื้อสัมผัสที่โดดเด่นยิ่งกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นสเวตเตอร์กำมะหยี่ที่มาพร้อมแพทเทิร์นไล่สี เสื้อแจ็คการ์ดสไตล์สปอร์ตแวร์กับลายพรางต้นไม้และปุยเมฆที่งดงามดังบทกวี หรือชุดทักซิโดตัวใหม่พร้อมลายปีกผีเสื้อที่ดูเบ่งบานราวกับกลีบดอกไม้ สีสันที่ใช้ในคอลเลคชันเน้นที่การเลือกใช้หลากหลายเฉดของสีเทา ดำ น้ำเงินเข้ม และแต้มให้ดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้นด้วยสีขาวของเสื้อเชิ้ต สีเขียวและน้ำเงิน ไปจนถึงรายละเอียดแวววาวของสีเมทัลลิกอย่างเงินและทอง แอคเซสซอรี่ในคอลเลคชันซึ่งทำขึ้นด้วยวัสดุคุณภาพเน้นเรื่องประโยชน์ใช้สอยเป็นสำคัญ ทั้งรองเท้าที่มาพร้อมเส้นสาย และกระเป๋าถือซึ่งสามารถบรรจุของได้มากยิ่งกว่าที่เคยมาพร้อมรายละเอียดของแพทเทิร์นลายนูน พบกับเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ แบรนด์ EMPORIO ARMANI คอลเลคชันAutumn Winter 2018 ได้ที่ The EmQuartier ชั้น M โทร.
แน่นอนว่าในปัจจุบันการจะจบลุคการแต่งตัวให้ลงตัวนั้น สิ่งที่จำเป็นและจะขาดไม่ได้เลย คือเรือนเวลาคู่ใจ ซึ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเรือนเวลาแบบ Minimal Watch ที่ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่นิยมสำหรับคนสายงานครีเอทีฟ รวมถึงนักคิดทั้งหลาย ที่สะท้อนความเป็นตัวเองผ่านวิถี Minimal ใส่น้อยแต่ได้มาก เพื่อเซฟเวลาและพลังสมองเอาไปใช้กับเรื่องอื่นที่สำคัญมากกว่าแทน ซึ่งวันนี้ UNLOCKMEN มีไอเทมนาฬิกาดี ๆ มาแนะนำอีกเช่นเคย สำหรับประดับบนข้อมือของคุณผู้ชายทุกคนกับ ISSEY MIYAKE แบรนด์ดังระดับโลก ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ คาแร็กเตอร์เรียบหรู ดูแพง มาพร้อมพลังแห่งการสร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจอันไม่สิ้นสุด อันเป็นคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจากทางแบรนด์ โดยความพิเศษสุด ๆ ของนาฬิกา Minimal คอลเลคชั่นใหม่นี้ คือการได้ดีไซน์เนอร์คู่บุญอย่าง อิชิโระ อิวาซากิ (Ichiro Iwasaki) ที่ผูกพันกับแบรนด์ โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองได้มีโอกาสออกแบบร่วมกันในคอลเลคชั่น “C” เพื่อมาเอาใจสายโครโนกราฟโดยเฉพาะ ด้วยความเหนือชั้นทางด้านงานดีไซน์บนวิถีแห่งความเรียบง่ายในแบบ Simple & Minimal ทำให้ อิชิโระ อิวาซากิ (Ichiro Iwasaki) เกิดแรงบันดาลใจ จนกลายมาเป็นผลงานศิลป์บนหน้าปัดเรือนเวลาให้กับ “เอฟ” คอลเลคชั่น
การสร้างแรงจูงใจบางครั้งก็เป็นสิ่งที่สำคัญต่อธุรกิจ หากคุณกำลังเป็นผู้บริหารอาจจะลองศึกษาจากข่าวนี้ได้ เพราะเมื่อก่อนหน้า Nike มีข่าวคราวการปลดพนักงานทั่วโลกออกถึง 10% สร้างความวิตกกังวลจนเกิดเป็น Toxic Coperate Culture ขึ้นในองค์กร ทว่าจากการรายงานข่าวของ CNBC ล่าสุดได้กล่าวว่าบริษัทกีฬาชั้นนำของโลกได้เตรียมปรับเงินเดือนพร้อมเปลี่ยนวิธีการคำนวณโบนัสให้กับพนักงานทั่วโลก เหตุผลที่ Nike ได้ตัดสินใจเพิ่มเงินเดือนให้กับพนักงานหลากหลายหน้าที่ พร้อมกับมอบโบนัสที่จะวัดจากผลงานส่วนตัว และผลประกอบการบริษัทเพื่อสร้างแรงจูงใจโดยเฉพาะพนักงานในตำแหน่งเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การทำงานที่ดียิ่งขึ้น โดยทาง Nike ได้ตัดสินใจหยุดจ่ายชดเชยค่าสินไหมทดแทน แล้วนำเงินส่วนนี้มากระจายให้กับพนักงานส่วนใหญ่แทน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มในปี 2019 สาเหตุที่เกิดการปรับโครงสร้างในคราวนี้ก็มาจากเหตุการณ์พนักงานระดับซีเนียร์หลายคนเกิดลาออก พร้อมยังเกิดปัญหาภายในบริษัทจนเกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ดี และ Mark Parker ซีอีโอของบริษัทไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนเพื่อนำไปแก้ไขอย่างจริงจัง จึงเกิดเป็นปัญหาภายในองค์กรที่เรียกกันว่า Toxic Coperate Culture จนต้องออกมาขอโทษขอโพยกันยกใหญ่ แม้ว่าในไตรมาสล่าสุดของแบรนด์จะกลับมาเติบโตมากขึ้น หลังจากที่ทรุดตัวมานาน ทำให้บริษัทเริ่มกลับมาเล็งเห็นพร้อมฟื้นฟูโครงสร้างองค์กร เพราะต้องยอมรับในจุดหนึ่งว่า ต่อให้สินค้าที่คุณจ่ายไปจะดีสักแค่ไหน แต่ถ้าเกิดภายในบริษัทนั้นไม่นิ่งและมีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายในระดับซีเนียร์อยู่ตลอดเวลา อาจจะทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ไม่ยั่งยืนต่อการพัฒนาองค์กรในระยะยาว source
คงไม่มีใครกล้าปฎิเสธได้ว่า Supreme คือแบรนด์แฟชั่นที่ทรงอิทธิพลสุด ๆ ในรอบหลายปีที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะออกแบบดีไซน์อะไรมา ล้วนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ต้องไปเข้าคิวรอยิ่งกว่าของแจกฟรีเสียอีก ทำให้เป็นเรื่องธรรมดาเมื่ออุปสงค์และอุปทานไม่สมดุลกัน จึงเกิดเป็นสินค้า Bootleg ของปลอมนำมาจำหน่ายเกลื่อนเต็มไปหมด ไม่เว้นกระทั่งเมืองไทยของเราเองก็ตาม แต่ข่าวที่เรากำลังจะนำมาเสนอนี้ นับเป็นความหาญกล้าของประเทศจีนอีกครั้ง เมื่อมีตาดีได้ไปเห็นช้อบ Supreme ตั้งหลาอยู่ในเมืองเสิ่นเจิ้น ซึ่งไม่เคยมีแหล่งข่าวจากทางต้นสังกัดมาก่อนเลยว่าจะมีการมาเปิดสาขาใหม่ที่เมืองนี้ เพราะอย่างที่หลายคนทราบกันดี Supreme ค่อนข้างที่จะห่วงและคงคอนเซ็ปต์ในเรื่องของสินค้าลิมิเต็ดอย่างมาก ทำให้ปัจจุบันแม้จะดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี กลับมีจำนวนสาขาอยู่ทั่วโลกเพียง 11 แห่งเท่านั้น สำหรับ Supreme ปลอมสาขาแห่งแรกของโลกนี้ มีการตกแต่งร้านออกมาทุกอย่างเหมือนกับ Supreme ต้นฉบับ ซึ่งจะเป็นร้านไปที่ความมินิมอล เรียบง่ายตามสไตล์ แถมยังประดับประดาไปด้วย Trademark อันเป็นเอกลักษณ์มากมายเต็มไปหมด แต่ถ้าสังเกตดูดี ๆ จะผมว่ามีความแตกต่างอยู่เล็กน้อยคือบริเวณสัญลักษณ์ทะเบียนการค้าที่ช็อปปลอมนี้ใช้เป็นอักษร “NYC” แทน พอมาลงดีเทลในเรื่องสินค้าเราก็จะได้พบกับทั้งสินค้าที่หาได้อยากอย่างเช่นตระกูล Box Logo ทั้งหลาย รวมถึงสินค้าที่ไม่เคยวางขายจริงในช็อปของ Supreme ด้วยซ้ำในราคาแค่ครึ่งเดียวจากราคาที่แท้จริง ซึ่งเนี่ยไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดการปลอมแปลงสินค้าแล้วขายกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในประเทศจีน เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีช็อป Yeezy แห่งแรกของโลกไปแล้วเช่นกัน
คุณสมบัติใหม่ที่ซ่อนอยู่ในรองเท้าฟุตบอลสายคอนโทรลซีรี่ย์ล่าสุด “แฟนธ่อม วิชั่น” (PhantomVSN) จาก NIKE ที่มาพร้อมเทคโนโลยีควอดฟิต (Quadfit) เหมาะสำหรับเท้าทุกรูปแบบ ฉีกกรอบการออกแบบเดิม ๆ ของรองเท้าฟุตบอล ฟิล วูดแมน (Phil Woodman) นักออกแบบของไนกี้สร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่างและดียิ่งกว่าโดยเริ่มต้นออกแบบรองเท้าฟุตบอล รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จากองค์ประกอบภายในก่อน แนวคิดใหม่นี้ส่งผลให้วูดแมนรังสรรค์โครงสร้างรองเท้าฟุตบอลแบบใหม่ล่าสุด อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของไนกี้ โดยไนกี้ใช้โครงสร้างนี้กับรองเท้าฟุตบอลรุ่น PhantomVSN ก่อนและจะใช้งานกับรองเท้ารุ่นอื่น ๆ ต่อไป โครงสร้างภายในของรองเท้าฟุตบอลรุ่นนี้ผลิตจากเส้นใยตาข่ายที่เรียกว่าเส้นใย ควอดฟิต (Quadfit) ที่สามารถปรับให้เข้ากับรูปทรงของเท้าได้ทุกแบบ อีกทั้งยังสามารถคงตัวได้ดี ไม่ยืดออกจนย้วยและไม่กระชับกับรูปทรงของเท้า เส้นใยควอดฟิตสามารถโอบรับกับเท้าได้พอดีโดยไม่รัดกับเท้าของผู้สวมใส่จนเกินไปอีกด้วย แม้จะมองไม่เห็นจากภายนอก แต่ผู้สวมใส่สามารถสัมผัสจุดเด่นของเส้นใยควอดฟิตได้ทันที ซึ่งนักฟุตบอลมักจะต้องใช้เวลาปรับตัวเมื่อสวมใส่รองเท้าฟุตบอลคู่ใหม่ แต่รองเท้าฟุตบอลรุ่น PhantomVSN จะเป็นรองเท้าฟุตบอลที่เข้ากับเท้าของผู้สวมใส่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สวมใส่ทันที เส้นใยควอดฟิตมีประสิทธิภาพเยี่ยมยอดเพราะเส้นใยนี้ไม่ยืดตัวจนเสียรูป อันเป็นจุดอ่อนที่พบได้ในผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากการทักถอเส้นใยต่างๆ เส้นใยที่ยืดหยุ่นได้ทั้ง 4 ทิศทางสามารถโอบรับกับรูปเท้าของผู้สวมใส่และปกป้องเท้าได้แม้ขณะเคลื่อนไหวในทุกทิศทาง เส้นใยควอดฟิตมีประสิทธิภาพเช่นนี้ได้เพราะการจัดเรียงเส้นใยและการแบ่งแยกเส้นใยแต่ละชั้น ช่องว่างที่เกิดขึ้นนี้ช่วยกระจายน้ำหนักของเท้าและลดแรงเสียดทาน เส้นใยควอดฟิตจึงเป็นเส้นใยที่กระชับเข้ากับรูปเท้าที่หลากหลายของผู้สวมใส่อย่างแท้จริง เชือกผูกที่ปรับปรุงใหม่เพื่อความรู้สึกกระชับตามที่แต่ละคนต้องการ อีกหนึ่งคุณสมบัติใหม่ภายในโครงสร้างของรองเท้าฟุตบอลแฟนธ่อม วิชั่นคือระบบเชือกผูกที่ซ่อนอยู่ภายในรองเท้า ไนกี้ตั้งชื่อแนวคิดของเชือกผูกแบบใหม่นี้ว่า “Ghost Lace” ทางไนกี้ได้ทำการวิจัยหลายต่อหลายครั้ง พูดคุยกับนักฟุตบอล และวิเคราะห์ข้อมูลในห้องวิจัย ผลลัพธ์ที่ได้คือระบบเชือกผูกแบบใหม่ช่วยให้แต่ละคนปรับความกระชับของรองเท้าได้ตามต้องการ แนวคิดเชือกผูกแบบ Ghost
ข้อดีของระบบออนไลน์คือการที่เราสามารถเก็บข้อมูลมาประมวลผลในรูปแบบของตัวเลขได้ ซึ่งน่าจะทำให้เป็นเรื่องการสำหรับนักจดสถิติต่าง ๆ อย่างเช่นเรื่องที่เรากำลังจะนำมาเสนอนี้ เมื่อ Instagram โชว์สถิติตัวเลขของการ Hashtag # รองเท้าสนีกเกอร์ที่ได้รับความสนใจและถูกโพสต์มากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Instagram แม้ว่าจะดูเหมือนในรอบปีที่ผ่านรองเท้าจากค่ายดังอย่าง Nike จะได้รับความนิยมมากกว่า แต่ทว่ากลับมีเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมากเมื่อไม่มีรองเท้าจากแบรนด์ Swoosh ติดอันดับ 1 ถึง 5 ด้วยซ้ำ ซึ่ง UNLOCKMEN ต้องของบอก่อนว่าลิสต์ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดและส่งผลถึงความนิยม เพราะการโพสต์แล้วติด Hashtag # นั้นอาจจะเป็นการโพสต์ขายสินค้าหรือแคมเปญโฆษณาก็เป็นได้ #1 adidas NMD แม้ว่าในปัจจุบันรองเท้า NMD จะไม่ได้การเป็นแรร์ไอเทมชนิดต้องไปต่อแถวแย่งกันซื้ออีกเหมือนสมัยก่อน แต่ทว่าบนโลกออนไลน์ รองเท้ารุ่นดังกล่าวก็ยังฮอตฮิต โดยมีการติด Hashtag รวมกันมากกว่า 5,709,871 ครั้งในปีที่ผ่านมา #2 adidas Yeezy 350 ตอนแรก UNLOCKMEN คิดว่ารองเท้าโมเดล Yeezy 350 จะต้องเข้าวินมาเป็นอันดับ 1 แต่ยังดีที่ไม่พลิกโผไปไกล เพราะด้วยจำนวนครั้งที่ถูกติดแท็กมากกว่า 4,198,238 ครั้ง ก็ถือว่าเป็นตัวเลขความนิยมที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมสำหรับรองเท้าจากฝีมือของ
เรียกได้ว่าอีเว้นท์เดียว BAPE เล่นสะจนพรุน ตั้งแต่ออกคอลเลคชั่นพิเศษกับ adidas ก่อนหน้านี้ในชื่อ “Winning Collection” ซึ่งมีทีเด็ดอยู่ที่รองเท้า Gazelle สีแดงสวยงาม แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่หนำใจ เพราะล่าสุด Bape ได้ปล่อยรวดเดียว 3 คอลเลคชั่น โดยทั้งหมดล้วนสอดคล้องกับช่วงเทศกาลบอลโลก มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง เริ่มกันที่ Capsule คอลเลคชั่นตัวแรกคือการทำเสื้อยืดสุดพิเศษสองสี สองลายกราฟิค และลูกบอลที่ผลิตขึ้นมาเพื่อคอลเลคชั่นนี้โดยเฉพา สำหรับจุดเด่นจะอยู่ที่ลวดลาย Camo ที่ถูกนำมามาเลือกใช้เพื่อสามารถสื่อสารกับ Tagline ที่ชื่อว่า A Bathing Ape Performance โดยนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นการปูทางไปสู่การเปิดไลน์เสื้อผ้าใหม่ในอนาคตหรือเปล่า แต่รับรองว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ซึ่งสนนราคาของเสื้อยืดกราฟิคอยู่ที่ $62 (2,0xx บาท) และราคาลูกบอล $80 (2,7xx บาท) สามารถสั่งเสื้อได้ทาง BAPE ออนไลน์ และ Retailer ชั้นนำ มาต่อกันที่คอลเลคชั่นที่สอง ซึ่งทำออกมาต้อนรับมหกรรมบอลโลกอีกเช่นกัน โดยจะเน้นหนักไปที่ความเป็นสปอร์ตแวร์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อบอล Jersey, เสื้อ High
นาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์ Supreme ยิ่งถ้าเป็นสาย Street Fashion แน่นอนว่าต้องมีชื่อ Supreme ติดเป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับท็อปของสายนี้ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเบื้องหลังโลโก้ Supreme ที่ประกอบด้วยอักษรสีขาวบนพื้นแดงนี้มีแรงบันดาลใจมาจากที่ไหน ถ้าพวกคุณคือคนหนึ่งที่ใช้ไอเท็มของแบรนด์ Supreme ที่อยากเพิ่มความเท่มากกว่าการใส่ ลองมาเติมความลึกกันหน่อยกับศิลปินหญิงเบื้องหลังแรงบันดาลใจโลโก้ และชนวนดราม่าของการฟ้องร้องระหว่าง Supreme กับ Supreme Bitch เพราะทั้งหมดเกิดและจบด้วยเธอคนนี้ “บาร์บาร่า ครูเกอร์” (Barbara Kruger) Say Hello to Barbara Barbara Kruger คือศิลปินอเมริกันที่เติบโตจากเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ เธอเกิดใน ค.ศ. 1945 เข้าเรียนที่สถาบัน Parson’s School of Design และได้เรียนกับช่างภาพระดับตำนานอย่าง Diane Arbus กับกราฟิกดีไซน์เนอร์ดัง Marvin Israel ซึ่งการเรียนเหล่านี้เองที่ทำหน้าที่เป็นโรงบ่มงานไอเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ในฉบับของตัวเธอ หลังจากเรียนจบ