หลังจากเปิดตัว iPod Touch รุ่นใหม่ที่มาพร้อม A10 Fusion Chip ให้หนุ่ม ๆ สาวก iOS ตกตะลึง คราวนี้ Apple ก็ยังไม่หยุดเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัว MAC PRO ตัวใหม่พร้อมหน้าจอ PRO DISPLAY XDR ตามมาติด ๆ แม้จะโดนแซวว่ามีดีไซน์คล้ายกับที่ขูดชีสของ IKEA แต่บอกเลยว่าสเปกจัดหนัก ราคาจัดเต็ม แถมทรงพลังที่สุดเท่าที่ Apple เคยผลิตมา MAC PRO & PRO DISPLAY XDR ถูกเปิดตัวในงาน WWDC 2019 ที่รัฐแคลิฟอร์เนียของอเมริกา ดีไซน์โครงสร้างจากสแตนเลสสตีลคลุมทับอีกชั้นด้วยเคสอลูมิเนียม ผสมผสานระหว่างอลูมิเนียมขัดเงาและรูระบายความร้อน ที่สะท้อนความย้อนยุคเหมือนถอดแบบมาจาก MAC PRO รุ่นแรก ๆ ของ Apple รูระบายอากาศตลอดทั้งแผงที่คล้ายกับที่ขูดชีส จริง ๆ แล้วเป็นอีกส่วนสำคัญของเจ้า MAC PRO
Brabus ค่ายแต่งรถชั้นเซียนประกาศศักดาของตัวเองอีกครั้งหลังคลอด The Brabus 800 ที่มีพื้นฐานมาจาก Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ ซึ่งสมรรถนะของมันจะถูกอัปเกรดขึ้นมามากแค่ไหนและมีส่วนใดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างมาชมกัน เริ่มต้นจากความเปลี่ยนใต้ฝากระโปรงของซึ่งเดิมทีต้นแบบอย่าง Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ มาพร้อมเครื่องยนต์ AMG ขนาด 4.0 ลิตรที่ให้กำลัง 630 แรงม้า แรงบิดที่ 800 นิวตันเมตรที่สร้างอัตราเร่ง 0-100 ในเวลา 3.4 วินาที พร้อมอัตราเร่งสูงสุดที่ 310 กิโลเมตร/ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม Brabus 800 คันพัฒนายกเครื่องใหม่โดยใช้เครื่องยนต์ V8 Twin-Turbo ที่ให้กำลัง 800 แรงม้า จนถูกใช้เป็นชื่อเรียกและแรงบิดที่ 737 ปอนด์-ฟุต และปรับจูนกล่อง ECU ให้มีอัตราการเร่ง 0-100 ลดลงมาเหลือ 2.9 วินาที นอกจากความแรงขุมพลังภายในแล้ว ดีไซน์ภายนอกของ Brabus 800
ดาราคือแสงส่องทาง ดวงจันทร์คือดอกฟ้าของมนุษยชาติ หลายชั่วอายุคนที่ดวงจันทร์เสมือน “ดอกฟ้า” ของดาวเคราะห์สีน้ำเงินและทุกชีวิตบนนี้ เพราะทุกค่ำคืนที่ฟ้ามืดสนิท เมื่อเราแหงนหน้ามองขึ้นเหนือศีรษะ เรามักตั้งคำถามว่า “บนแสงนวลกลมโตที่อยู่สุดปลายมือจะมีอะไรอยู่บนนั้น” กระทั่งมีกระต่ายตัวแรกจากพื้นโลกของนาซา หรือยาน “Apollo 11” คลายปริศนานี้ได้สำเร็จ ด้วยการไปพามนุษย์บุกไปพิชิตและสำรวจดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรกในวันที่ 22 กรกฎาคม 1969 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 9 วันนับตั้งแต่ปล่อยยานฯ จนกลับมาเหยียบโลกอีกครั้ง (16 – 24 กรกฎาคม 1969) ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติทั่วโลกจนกลายเป็นตำนานที่ไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำ เก็บรายละเอียดไว้ระดับวินาทีส่งต่อมาถึงปัจจุบัน และทำให้วีรบุรุษที่เกี่ยวข้องกับภารกิจสำคัญนี้ ทั้ง Neil Armstrong, Michael Collins และ Edwin “Buzz” Aldrin ถูกจารึกและส่งต่อในฐานะไอคอนิกแห่งการสำรวจมาหลายชั่วอายุคน ทำไมเราถึงจดจำสิ่งเหล่านี้ได้? เชื่อว่าหลายคนคงคิดไม่ถึงว่าอุปกรณ์เล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งที่คาดข้อมือคือตัวการสำคัญที่ตรึงความทรงจำของคนทั้งโลกและ 9 วันที่เกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้วไว้อย่างแม่นยำ OMEGA SPEEDMASTER เป็นนาฬิกาซีรีส์เดียวที่ได้รับเกียรติให้ติดข้อมือไปกับนักบินอวกาศของ Apollo 11 และได้รับการขนานนามว่า “รุ่นเหยียบดวงจันทร์”
FUJIFILM ผู้นำนวัตกรรมกล้องที่โดดเด่นเรื่องการสร้างสีและเทคโนโลยีจำลองภาพฟิล์ม เปิดตัว ‘FUJIFILM GFX 100’ กล้อง mirrorless พกพาสะดวก ถ่ายง่าย แถมอัดแน่นไปด้วยคุณภาพรูปถ่ายที่ล้ำเหลือ ถือเป็นกล้องรุ่นเรือธงของซีรีส์ GFX จากค่าย FUJIFILM บอกเลยว่างานนี้หนุ่ม ๆ สาวกกล้อง DSLR ต้องมีหวั่นกันบ้างละ ตัวบอดี้ถูกออกแบบจากวัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่มีน้ำหนักเบาและทนต่อทุกสภาพอากาศ แถมยังกันละอองน้ำและกันฝุ่นได้อย่างดีเยี่ยม ขนาดของกล้องพอ ๆ กับกล้อง DSLR ซึ่งอยู่ที่ 156.2 x 163.6 x 102.9 มิลลิเมตร FUJIFILM GFX 100 เป็นกล้อง medium format ตัวแรกของโลกที่ใช้ phase detection autofocus ใช้พิกเซล 3.76 ล้านตรวจจับเฟสบนเซนเซอร์ภาพซึ่งครอบคลุม 100% ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของภาพถ่ายให้ดีขึ้น ทำให้โฟกัสได้รวดเร็วและแม่นยำแม้วัตถุที่มีคอนทราสต์ต่ำก็ตาม ตามคำสัญญาของ FUJIFILM ที่จะมอบความคมชัดและความสามารถที่ไม่เคยมีมาก่อนในอุตสาหกรรมภาพถ่ายและวิดีโอ เพราะ FUJIFILM GFX
จากกระแสรถยนต์ประเภทไฮบริดที่ได้รับความสนใจและความนิยมจากหนุ่ม ๆ ผู้รักความเร็วทั่วโลกมากขึ้นทุกวัน ทำให้ปัจจุบันค่ายรถต่าง ๆ หันมาผลิตรถยนต์รูปแบบดังกล่าวสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เว้นแม้แต่สุดยอดค่ายซูเปอร์คาร์อย่าง Ferrari ที่เพิ่งคลอดม้าลำพองปลั๊กอินไฮบริดคันแรกออกสู่ตลาดและว่ากันว่ามันมาพร้อมความเร็วที่ไม่เป็นรองใคร เพื่อต้อนรับยุคสมัยใหม่ที่กำลังจะมาถึง ต้องขอบคุณการทำงานหนักของวิศวกรและทีมดีไซน์ รวมไปถึงสุดยอดต้นแบบอย่าง LaFerrari ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของไฮเปอร์คาร์คันล่าสุดจาก Ferrari ที่สร้างมาเพื่อแสดงศักยภาพของพลังปลั๊กอินไฮบริดของค่ายม้าลำลองที่มาในชื่อ Ferrari SF90 Stradale โดยชื่อรุ่นถูกตั้งมาเพื่อระลึกถึงการครบรอบ 90 ปีของทีม F1 ประจำแบรนด์อย่าง Scuderia Ferrari Race Team SF90 Stradale ไฮเปอร์คาร์คันบุกเบิกยุคสมัยใหม่ของค่ายม้าลำพองที่จะทำให้คนเลิกดูถูกพลังของระบบปลั๊กอินไฮบริดด้วยสมรรถนะความแรงที่ได้พลังจากเครื่องยนต์ V8 Turbocharged ขนาด 4.0 ลิตรวางกลางที่มอบพลัง 769 แรงม้าและแรงบิด 800 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว (ด้านหน้าตัวรถ 1 ด้านหลัง 2) ที่จะบวกพลังเพิ่มอีก 217 แรงม้ากลายเป็นพลังรวมที่ 986 แรงม้า พลังทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปยังชุดเกียร์ Dual-clutch
ในยุคที่แพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์และวิดีโอเกมกำลังนิยมอย่างตอนนี้ คงไม่มีอะไรเพลิดเพลินไปกว่าการได้เล่นเกมที่มีภาพกราฟิกสวย ๆ และดื่มด่ำกับเพลย์ลิสต์โปรดที่ดังลั่นในสองรูหู พูดแล้วก็นึกถึง iPod จาก Apple ขึ้นมาเลย เพราะมันเป็นอะไรที่โคตรเหมาะกับการเล่นเกมและฟังเพลง ทั้งยังมีดีไซน์บางเฉียบ น้ำหนักเบา เวลาจะพกพาไปไหนก็สะดวกสบาย ตอบโจทย์ด้านฟังก์ชันและความคล่องตัวให้กับผู้ชายอย่างเราได้เป็นอย่างดี หลังจากเปิดตัว iPod Touch รุ่นที่ 6 ไปเมื่อ 4 ปีก่อน Apple ก็ไม่ปล่อยให้สาวก iPod ทนคิดถึงนาน ด้วยการเปิดตัว ‘iPod Touch 2019’ ที่คราวนี้ยกเครื่องใหม่ทั้งยวง มาพร้อมชิป A10 Fusion แบบเดียวกันกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ซึ่งระบบการประมวลผลของชิปตัวนี้ใกล้เคียงกับรุ่นพี่ A12 Bionic ที่ใช้ใน iPhone XS iPod Touch 2019 มีให้เลือก 6 สี คือ Space
คุณจะซื้อคอมพิวเตอร์แล็บท็อปที่มาพร้อมไวรัส 6 ตัวที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลกมนุษย์ในราคา 1 ล้านเหรียญไปทำไม? นี่คงเป็นคำถามที่ใครหลายคนอยากถามผู้ร่วมประมูลผลงานศิลปะร่วมสมัยสุดแหวกแนวชิ้นนี้ The Persistence Of Chaos หรือ “การคงอยู่ของความโกลาหล” ผลงานศิลปะจากไอเดียสุดเจ๋งของ Guo O Dong ศิลปินทางอินเตอร์เน็ตผู้อยากเสียดสีว่าสิ่งที่อยู่ในโลกออนไลน์มันไม่สามารถออกมาทำร้ายเราได้ในชีวิตจริง เขาจึงผลิตผลงานด้วยการนำเสนอแล็ปท็อปที่เก็บรวบรวม 6 ไวรัสที่เลวร้ายที่สุดในโลกเอาไว้ โดยรวมมูลค่าความเสียหายที่พวกมันทั้งหมดสร้างไว้เป็นมูลค่ากว่า 9,500 ล้านเหรียญเลยทีเดียว ไวรัสทั้ง 6 ตัวถูกดาวน์โหลดมาเก็บเอาไว้ภายในคอมพิวเตอร์แบบพกพายี่ห้อ Samsung NC ที่มีความจำเครื่องขนาด 10-14 GB ขนาดหน้าจอ 10.2 นิ้ว โดยเราจะแนะนำไวรัสทั้งหมดคร่าว ๆ ผ่านวีรกรรมสุดโหดที่มันเคยฝากความย่อยยับให้กับคนที่ต้องพบเจอ – ILOVEYOU ไวรัส ILOVEYOU หรือ Love Bug, Love Letter เป็นคอมพิวเตอร์เวิร์มที่เริ่มโจมตีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในระบบปฏิบัติการ Windows หลายสิบล้านเครื่องเริ่มจากวันที่ 5 พฤษภาคมของปี 2000 โดยแพร่กระจายผ่านอีเมลซึ่งสร้างความเสียหายตีมูลค่าได้เกือบ 15 พันล้านเหรียญ MyDoom
James Bond ถือเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ผู้ชายอย่างเรารู้จักกันเป็นอย่างดี ภาพยนตร์ที่พูดถึงสุดยอดสายลับรหัส 007 จากองค์กร MI6 ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันและการไล่ล่าสุดมันส์ แม้จะผลิตออกมาถึง 24 ภาคในช่วงเวลา 55 ปีก็ยังมีฐานแฟน ๆ ติดตามหนังภาคใหม่อยู่ตลอดเวลาราวกับต้องมนตร์ที่ไม่เสื่อมคลาย นอกจากเนื้อเรื่องแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่หนุ่ม ๆ อย่างเราซึมซับได้จากหนังเรื่องนี้คือรถยนต์คันงามคู่ใจของพระเอกในแต่ละภาค โดยเฉพาะรถจากค่าย Aston Martin ที่กำลังผลิตรถรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ของโมเดลดังจากหนังภาค On Her Majesty’s Secret Service (OHNSS) ถ้าพูดถึง Aston Martin และ James Bond หลายคนอาจติดภาพจำของ Aston Marin DB5 ที่พระเอกอย่าง Sean Connery ใช้งานในภาค Goldfinger และ Thunderball รวมถึงโผล่มาอวดโฉมทั้งใน Casino Royale Skyfall และช่วงท้ายของ Spectre Aston Marin DB5 จึงกลายเป็นรถขึ้นหิ้งที่มีราคาสูงโดยไม่ต้องบรรยายสรรพคุณไปแล้ว
เม็กซิโกถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ยังต้องเผชิญกับปัญหายาเสพติดและการคอร์รัปชันมายาวนาน การปราบปรามตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้รัฐยึดทรัพย์จากผู้กระทำผิดได้จำนวนมาก โดยหนึ่งในทรัพย์สินเหล่านั้นนั้นคือซูเปอร์คาร์และรถราคาหรูราคาแพงระยับจำนวนมากจึงเป็นโอกาสดีที่รัฐฯ จะนำรถหรูเหล่านั้นออกประมูลเพื่อนำเงินที่ได้มาไปพัฒนาชุมชนยากจนในประเทศต่อไป รัฐบาลเม็กซิโกภายใต้การนำของ Anders Manuel Lopez Obrador (แอนเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์) ประธานาธิบดีคนที่ 58 ที่กำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนด้อยโอกาสในประเทศ หนึ่งในหนทางการพัฒนานั้นคืองานจัดประมูลรถหรูกว่า 80 คันที่ยึดมาได้จากพ่อค้ายาเสพติดและบุคคลฉ้อโกงที่ถูกยึดทรัพย์ โดยเงินทั้งหมดมีแผนจะนำไปพัฒนาชุมชนที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในประเทศ ณ รัฐ Oaxaca (โอคาซากา) รายชื่อรถยนต์ทั้ง 82 คันในลิสต์การประมูลประกอบไปด้วยคันที่น่าสนใจอย่าง Lamborghini Mucielago ปี 2007, Ford Mustang ปี 1965, Chevrolet Corvette C7 ปี 2014, Ford Shelby F-150 รวมไปถึงตัวคลาสสิกอย่าง Volkswagen Beetle ปี 1951 นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วย Chevrolet Suburban แบบกันกระสุนอีก 25 คันซึ่งเป็นรถแบบเดียวกันกับที่แรปเปอร์อย่าง 50
แม้ในปัจจุบันจะมีรถยนต์มากมายหลายค่ายทยอยกันเปิดตัวเพื่อโชว์สมรรถนะที่ถูกพัฒนาอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าแม้ยุคสมัยจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความนิยมในโมเดลรถยนต์ที่ระดับตำนานตั้งแต่อดีตก็ยังไม่เคยเสื่อมคลายลง ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาจากรถคันอื่นไม่ได้ หากเอ่ยชื่อโมเดลอย่าง Nissan Skyline GTR (R32) , Mazda MX5 Miata (NA) รวมไปถึง Toyota Supra (A70) หนุ่ม ๆ หลายคนคงคุ้นเคยกันดี ทั้งหมดคือโมเดลในตำนานของค่ายรถจากแดนปลาดิบที่ต่างเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของตัวเองตั้งแต่ช่วงปลายยุค 80’s ไปจนถึงช่วงต้นหรือกลางยุค 90’s ปัจจุบันตำนานแต่ละคันอาจอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์นักเนื่องจากเวลาที่ผ่านพ้นไป แต่ตอนนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะฟื้นฟูพวกมันให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากค่ายรถยักษ์ใหญ่กำลังจะกลับมาผลิตชิ้นอะไหล่ของรถรุ่นเก๋าแต่คันอีกครั้ง รวมไปถึงมี Restoration Projects ที่เตรียมฟื้นคืนชีพให้กลับมาอยู่ในสภาพออกจากโรงงานอีกครั้งหนึ่ง เริ่มกันที่ข่าวข่าวดีของผู้ครอบครอง Godzilla หรือ Nissan Skyline GT-R ไม่ว่าจะเป็นรหัสตัวถัง R32 และ R34 ที่ได้ NISMO Heritage Parts กลับมาผลิตชิ้นส่วนทั้ง 160 ชนิดซึ่งจะช่วยคืนชีพตำนานที่อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์แต่ละคันให้กลับมาวิ่งบนท้องถนนแบบเต็มสมรรถนะได้อีกครั้ง ชิ้นส่วนทั้ง 160 ชนิดครอบคลุมตั้งแต่ชิ้นส่วนในห้องเครื่องยนต์ แผงวงจรไฟฟ้าไปจนถึง
Panic บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์รุ่นเก๋าหันมาเอาดีด้านเกม หลังจากที่สร้างชื่อด้วย Mac Software คุณภาพสูงและเกมผจญภัยบุกป่าฝ่าดงอันโด่งดังอย่าง FIREWATCH ในตอนนี้ Panic กำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่หนุ่ม ๆ หลายคนคาดไม่ถึง เมื่อเปิดตัว “PLAYDATE” เกมบอยสีเหลืองแจ๋วที่มาพร้อมหน้าจอขาวดำพรีเมียม เอาใจหนุ่ม ๆ ผู้ชื่นชอบความคลาสสิกกึ่งโมเดิร์นได้เป็นอย่างดี เกมบอย PLAYDATE ถูกดีไซน์ด้วยสีเหลืองเพื่อให้ดูเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย มีขนาดกะทัดรัดพอ ๆ กับ iPod Nano โดยอยู่ที่ 74×76×9 มิลลิเมตรเท่านั้น ด้านหน้ามีเพียงปุ่มเปิด/ปิด, A, B และปุ่มควบคุมทิศทาง ใช้หน้าจอแสดงผล 2.7 นิ้ว เป็นจอขาวดำ LCD 400×240 low-power ถึงแม้จะไม่มีไฟ backlight แต่ให้ความคมชัดและมีความละเอียดสูงกว่าจอเกมบอยทั่วไป ไม่มีเส้นกริดหรือหรือแม้แต่การเบลอ ต้องบอกว่าเป็นจอขาวดำที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพของจริง อีกหนึ่งจุดเด่นของเจ้า PLAYDATE ที่ไม่พูดไม่ได้ คือด้านข้างของตัวเครื่องจะมีข้อเหวี่ยงคล้าย ๆ เบ็ดตกปลาที่คอยควบคุมทิศทางโดยการหมุนไปข้างหน้าหรือหมุนถอยหลัง นับเป็นการสร้างสิ่งใหม่ให้กับวงการเกมและเชื่อว่าต้องไม่ซ้ำกับเกมบอยเจ้าไหน ๆ เป็นแน่ ส่วนระบบฮาร์ดแวร์ก็ไม่ต้องห่วง
เพราะทุกสิ่งรอบตัวมีเรื่องเล่า ทันทีที่ผู้ชายอย่างเราก้าวออกจากบ้าน เราเลือกได้ว่าจะมองทุกสิ่งรอบตัวเพียงเพื่อให้มันผ่านเลยไปในแต่ละวัน หรือจะเลือกปลดล็อกตัวเองด้วย “ความคิดสร้างสรรค์” หรือ “Creativity” ที่จะทำให้เรามองทุกสิ่งในนิยามใหม่ บันทึกเรื่องเล่าจากสิ่งรอบตัวในมุมต่างออกไปอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน หากจะพูดถึงการใช้ “ความคิดสร้างสรรค์” หรือ “Creativity” มองหาเรื่องเล่าจากสิ่งรอบตัวเพื่อบันทึกและถ่ายทอดจากมุมของเรา คงหนีไม่พ้นการถ่ายภาพแนวสตรีตอย่างแน่นอน เพราะแต่ละภาพแฝงไปด้วยการพลิกมุมมอง การฟังเสียงของสรรพสิ่ง การเห็นในสิ่งที่คนอื่นอาจเผลอละเลย เราจึงพามาหาคำตอบของคำว่า “ความคิดสร้างสรรค์” หรือ “Creativity” กับ คุณพงษ์-ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ ช่างภาพสตรีตผู้ได้รับการยอมรับทั้งระดับประเทศและระดับโลก หลายคนอาจสงสัยว่าภาพสุดครีเอทีฟฝีมือคุณพงษ์ที่เราเห็นอยู่นี้มีเรื่องเล่าแบบไหนซ่อนอยู่? ช่างภาพต้องการสื่อสารอะไรกับเรา? และภาพนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? “ผลลัพธ์ของรูปภาพเรา คือ การตั้งคำถามกับคนดู นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยกับโมเมนต์นี้ ทำไมเด็กคนนี้ถึงบินได้ ทำไมลุงคนนี้ถึงกำลังล้ม มันคือความลึกลับ ความตลก นี่แหละมันคือความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้น” การจับโมเมนต์ที่เกิดขึ้นให้ทันนี่เองเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดภาพอันสร้างสรรค์และสามารถถ่ายทอดเรื่องเล่าผ่านภาพได้ แม้นิยามของความคิดสร้างสรรค์จากแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่ในสายตาช่างภาพสตรีตอย่างคุณพงษ์ก็มีความหมายที่น่าสนใจ “สำหรับเราความคิดสร้างสรรค์คือกระบวนการในการออกไปทำอะไรบางอย่างที่มันใหม่ ๆ” อาจพูดได้ว่านิยาม “Creativity” ของคุณพงษ์ช่างภาพสตรีตมากฝีมือคือการหาไอเดียที่ดีควบคู่กับการออกไปเจออะไรใหม่ ๆ ไม่ให้ตัวเองรู้สึกเบื่อหรือวนอยู่กับอะไรซ้ำ ๆ เพราะการออกไปเจอสิ่งที่ต่างออกไป การออกไปทำอะไรใหม่ ๆ จะช่วยจุดประกายความคิดของเราได้ แต่เราก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าโมเมนต์ที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพสตรีตที่ทำให้ได้ภาพสุดครีเอทีฟในสายตาคุณพงษ์คืออะไร? “บางเหตุการณ์มันมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต มันมักจะเป็นโมเมนต์ที่พิเศษ