‘ความเท่’ คือคำที่แทบจะไม่มีความหมายแน่ชัดในตัวเอง หากจะพอนิยามเป็นกลาง ๆ ได้อยู่บ้าง เครื่องหมายเท่ากับของคำนี้ก็คงเป็นประมาณว่า ‘ผู้คน / สิ่งของ / สัตว์ / หรือสถานที่ / ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนอะดรีนาลีนสูบฉีดด้วยความหลงใหลในบางอย่าง’ แต่ความเท่ก็เป็นสิ่งที่สามารถถูกนิยามความหมายใหม่ได้ตลอด โดยเฉพาะยิ่งกับช่วงอายุที่เปลี่ยนไป … หลังจากหายไปนาน The Portrait ตอนล่าสุด ทีม UNLOCKMEN ได้มีโอกาสไปคุยสั้น ๆ กับ ‘อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี’ อ๊ะ พูดแบบนี้อาจจะไม่คุ้น เขาคือ ‘จ๋าย-ไททศมิตร’ ในวันที่กำลังจะเป็นโค้ชคนใหม่ของ The Voice Thailand 2024 ในช่วงวัยที่ของขวบปีนับได้ 32 พอดี และเป็นตัวเลขที่จ๋ายเรียกตัวเองว่าเป็นปีที่ ‘เท่’ ที่สุดของชีวิต อะไรทำให้จ๋ายคิดแบบนั้น เรามา UNLOCK ชีวิตเบื้องหลังความเท่ของผู้ชายที่สวมบทบาทชีวิตมากมายไปด้วยกัน UNLOCKMEN : ในช่วงวัย 32 ปี ที่จ๋ายบอกว่าตัวเองเท่สุด ๆ
เวลาที่นึกถึงแฟชั่นแบบ Paul Smith เราจะรู้สึกถึงพลังงานของคำว่า “Classic with a Twist” ที่ Sir Paul Smith ได้ทำผ่านเสื้อผ้าซึ่งแสดงถึงความคลาสสิก เรียบหรู และในขณะเดียวกันก็สามารถโลดเต้นอย่างสนุกสนานได้ด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะกับแฟชั่นไลน์สูท Tailoring เสื้อผ้าที่เป็นรากฐานของแบรนด์มาตั้งแต่วันแรกในปี 1970s UNLOCKMEN ได้ลองสวมหนึ่งในสูทของคอลเลกชั่นฤดูกาลล่าสุด Paul Smith Collection AW24 อย่าง The Soho – Tailored-Fit Dark Blue Check Wool Suit Set การนำสูทใน Fit ที่ผู้คนนิยมมากที่สุดของแบรนด์ ทรงสูทที่ถูกตั้งชื่อตามเมืองย่านคึกคัก ณ New York กับ London และ Soho เองก็เป็นสูทที่เล่า Heritage Story ของแบรนด์ตั้งแต่วันที่เซอร์พอลเปิดร้าน ‘Paul Smith Vetements Pour
หากพูดถึงเครื่องดื่มยอดนิยมสำหรับช่วงเวลาพักผ่อนสังสรรค์ ความเย็นซ่าสดชื่นดื่มง่ายของ ‘ไฮบอล’ ต้องเป็นอีกหนึ่งในลิสต์อันดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึง ซึ่งที่มาของเครื่องดื่มแก้วทรงกระบอกสูงนั้น ได้มีกล่าวถึงเรื่องราวต้นกำเนิดหลากหลายรูปแบบ แต่ข้อมูลที่แพร่หลายและมีการยอมรับมากที่สุด และเป็นการตอกย้ำว่า ‘โซดา’ คือหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มชนิดนี้ ได้ถูกระบุเอาไว้ว่า ‘ไฮบอล’ นั้นมีถิ่นกำเนิดจากอังกฤษ โดย Joseph Priestley นักเคมีผู้คิดค้นน้ำโซดาคนแรกของโลก และเริ่มมีเครื่องดื่ม Spirit ผสมโซดาตามมาให้ได้ลิ้มลองในเมืองลีดส์เมื่อปี 1767 (ก่อนหน้านี้จะใช้ส่วนผสม Base Spirit เป็นบรั่นดี + โซดา แต่หลังจากเกิดการระบาดของเพลี้ยต้นองุ่นวัตถุดิบหลักในการทำบรั่นดี ทำให้มีการเปลี่ยนมาใช้วิสกี้จนถึงปัจจุบัน) หลังจากนั้นเครื่องดื่ม Spirit ผสมโซดาก็เริ่มเป็นที่นิยมในวงกว้าง เดินทางสร้างความสดชื่นจากเกาะอังกฤษ สู่สหรัฐอเมริกาช่วงปี 1890 และมหานครนิวยอร์กคือหมุดหมายสำคัญในฐานะโลเคชั่นที่เครื่องดื่มชนิดนี้ได้รับการขนานนามว่า ‘ไฮบอล‘ อย่างเป็นทางการ โดย Patrick Gavin Duffy บาร์เทนเดอร์แห่งเมืองแมนฮัตตันที่ตั้งชื่อเมนูเครื่องดื่มวิสกี้โซดาที่เสิร์ฟในแก้วทรงกระบอกสูงตามชื่อของแก้วชนิดนี้นั่นเอง ก่อนที่ ‘ไฮบอล’ จะส่งต่อความนิยมสู่ประเทศญี่ปุ่น และข้ามฝั่งมาสู่ประเทศเขตร้อนอย่างเมืองไทยบ้านเรา ด้วยเอกลักษณ์ความโดดเด่นของรสชาติที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ผสานความเย็นสดชื่นที่ช่วยเติมเต็มให้ค่ำคืนแห่งความสุขนั้นต่อเนื่องลื่นไหลได้ยาว ๆ แต่ภายใต้รูปลักษณ์เรียบง่าย กว่าจะได้มาซึ่ง Perfect
ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสโซเชียลที่เชี่ยวกรากไปด้วยไวรัลต่าง ๆ ซึ่งผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาจับจองพื้นที่หัวข้อสนทนาของพวกเราในแต่ละมื้อแต่ละเดย์แบบไม่ให้ได้ว่างเว้น เราเชื่อว่าหนึ่งในเรื่องราวเหล่านั้นต้องมี Bar B GON ‘Oh My GON’ Collection เซ็ตฟิกเกอร์จี๊ดใจจาก Bar B Q Plaza ปักหมุดอยู่ในพื้นที่ความสนใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน ยืนยันการคาดคะเนนี้ได้จากกระแสตอบรับเข้าขั้นถล่มทลาย เลื่อนฟีดไปไหนเป็นต้องเจอ ‘คนอวดของ’ โชว์ภาพฟิกเกอร์ Bar B GON ที่ตามล่ามาได้ด้วยความอุตสาหะ หลายคนถึงกับต้องโดดงานไปจัดเซ็ตอาหาร Oh My Pork! และ Oh My Beef! เพื่อให้ได้ครอบครองฟิกเกอร์พี่ก้อนก่อนที่ของจะหมดเกลี้ยงสาขา วันนี้เราจึงอยากจะขอล้วงลึกเบื้องหลังความปังของแคมเปญนี้ จากปากของ ‘รัฐ ตระกูลไทย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด ผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ด้านการตลาดของ Bar B Q Plaza ที่เคยปลุกปั้นโปรเจกต์เจ๋ง ๆ มาแล้วมากมายตลอด 10 ปี ที่ร่วมงานกับ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กับความสงสัยที่ว่า
ลองจินตนาการถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดย SUNTUR ศิลปินผู้ตัดทอนสิ่งไม่จำเป็น และเหลือทิ้งไว้เพียงสิ่งที่สำคัญหรือมีความหมายจริง ๆ ต่อเจ้าของภาพดูสิ แล้วถ้าเฟอร์นิเจอร์แห่งศิลปะเหล่านั้นถูกดูแลโดย VERTIER แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติไทยที่ยังมีอายุไม่ถึง 1 ปี แต่เหล่าผู้หลงใหลในเฟอร์นิเจอร์หลายคนต่างเทใจให้แบรนด์นี้ดูแลห้องนั่งเล่น ห้องนอน รวมถึงสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านให้พวกเขาจำนวนหลายหลังแล้ว ภาพที่ออกมาจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หน้าตาแบบไหน ? SUNTUR X VERTIER ‘Conjunction Collection’ คือคอลเลกชั่นเฟอร์นิเจอร์ในฝันของคนรักความคราฟต์ ด้วยคอนเซปต์ที่ว่า หาก ‘บ้าน’ คือประโยคคำจำกัดความตัวตนของเรา Conjunction Collection คือตัวที่มาเชื่อมประโยคให้สมบูรณ์แบบ ความคราฟต์และความสนุกระหว่างศิลปะของ SUNTUR กับงานดีไซน์ที่เพอร์เฟกต์ของ VERTIER ออกมาเป็นชิ้นเฟอร์นิเจอร์ที่มีความ Contrast เพื่อให้ทุกคนได้แมทช์แต่ละชิ้นตามใจตัวเอง ซึ่งพอไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ที่อาจจะไม่ได้เข้าชุดกัน 100% ความสนุกในความต่างแต่ลงตัวจึงเกิดขึ้นภายในบ้านที่ถูกเติมเต็มด้วย Conjunction (หมายถึงการเชื่อมต่อตามชื่อ) หลังนี้ ทาง VERTIER ได้ชวนทีม UNLOCKMEN มาคุยกับ SUNTUR ถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังเฟอร์นิเจอร์ทั้งชุด ที่เจ้าตัวบอกว่าการคอลแลบนี้นับเป็นงานในฝันของตัวเองมานานแล้ว และมาในจังหวะที่เขาเองกำลังทำบ้านพอดี ก่อนจะไปสัมผัสกับ SUNTUR
สำหรับแฟนพันธุ์แท้ G-SHOCK รวมถึงใครที่หลงใหลในนาฬิกาพันธุ์แกร่งดีไซน์เท่ พร้อมขึ้นข้อไปด้วยกันได้กับทุกไลฟ์สไตล์ น่าจะเคยประทับใจในโมเดล GA-2100 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นตระกูลแกร่งอย่าง G-SHOCK DW-5000 กับงานออกแบบที่ผสมผสานระหว่างระบบอะนาล็อก และดิจิตอลเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว และต้องบอกว่าความโดดเด่นของ GA-2100 ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ G-SHOCK GM-2110D นาฬิกา G-STEEL ที่ถ่ายทอดทุก DNA มาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ของกรอบทรงแปดเหลี่ยม และงานดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่แข็งแกร่ง ขาดไม่ได้กับเทคโนโลยีบอกเวลา 2 ระบบทั้งอะนาล็อก และดิจิตอล พร้อมแสดงข้อมูล World Time ได้มากถึง 31 เขตเวลา ซึ่งใจความสำคัญทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ได้ถูกนำเสนอใหม่ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูเรียบหรูล้ำสมัย ด้วยกรอบสเตนเลสสตีลทรงแปดเหลี่ยมที่ได้รับการหลอมและขัดเงาอย่างพิถีพิถัน เข้ากันได้ดีกับสายโลหะดีไซน์เท่ และแน่นอนว่าตัวเรือนภายใน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของความทนทานระดับตำนานนั้นผลิตขึ้นจากเรซินคุณภาพดีเสริมใยแก้วความแข็งแกร่งสูง พร้อมลุยทุกสถานการณ์ด้วยคุณสมบัติกันน้ำลึกที่ระดับ 20 บาร์ (200 เมตร) และถึงแม้จะทนทานขั้นสุด แต่ต้องบอกว่า G-SHOCK GM-2110D นั้นไม่ได้มีบอดี้ที่ใหญ่โตเทอะทะจนเกินไป เพราะนาฬิกาเรือนนี้คือเจ้าของตำแหน่งนาฬิการุ่นผสมของ G-SHOCK ที่บางที่สุด กับความบางเพียง 11.8 มม.
สำหรับผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์แห่งเครื่องบอกเวลา น่าจะรู้จักถึงชื่อเสียงเรียงนามของ ORIENT เป็นอย่างดี ในฐานะแบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่นที่ได้รังสรรค์เรือนเวลาระดับสูงให้กับโลกนี้มาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี กับความโดดเด่นในเรื่องของการผสมผสานกลไกอันละเอียดอ่อนอย่างประณีตให้เข้ากับการออกแบบที่เป็นดั่งนวัตกรรมด้วยตัวเอง พร้อมทั้งนำเสนอคุณค่าในแบบที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งทั้งหมดนี้คือ ความประทับใจและสร้างการจดจำให้กับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาทั้งในประเทศญี่ปุ่น และทั่วโลกเสมอมา และหากพูดถึง ORIENT เชื่อว่าสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึง คือหนึ่งในตระกูลซีรีส์นาฬิกาสปอร์ตดำน้ำอย่าง ORIENT Diver Design ที่มีเอกลักษณ์เป็นรูปปลาโลมาประดับอยู่บนฝาหลัง ซึ่งได้รับการขนานนามในอีกชื่อหนึ่งว่า ORIENT Mako ถือเป็นรุ่นที่มีส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 1960 พร้อมรับการพัฒนาในส่วนของสีหน้าปัดและรายละเอียดที่หลากหลายมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2004 เป็นต้นมา จนกระทั่งในปี 2023 กลไกระบบโซลาพาวเวอร์พร้อมฟังก์ชั่นโครโนกราฟได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกใน ORIENT Diver Design ซึ่งกลไก in-house ระบบโซล่าพาวเวอร์นี้จะเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือแหล่งกำเนิดแสงต่าง ๆ ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เหมือนนาฬิกาควอต์ซทั่วไป จึงช่วยเพิ่มความสะดวกของการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะกับการใช้ฟังก์ชั่นโครโนกราฟสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ล่าสุดในปี 2024 แบรนด์ ORIENT ได้เปิดตัว ORIENT Diver Design รุ่นพิเศษ Limited Edition เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20
ผ่านพ้นไปแล้วเรียบร้อย เมื่อวันที่ 14 – 15 กันยายน ที่ผ่านมา กับ CENTURY COCKTAIL FEST with Johnnie Walker งานค็อกเทลเฟสติวัลครั้งใหญ่ ฉลอง 100 ปี ที่ไม่เคยหยุดก้าว ของ Johnnie Walker ในประเทศไทย งานนี้ต้องบอกเลยว่า Johnnie Walker เค้าทำถึง โดนใจเหล่า Cocktail Lovers ไม่ว่าจะรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ หน้าเก่า หรือหน้าใหม่แบบสุด ๆ กับ Highlight สำคัญอย่างการรวมตัวของบรรดาบาร์เทนเดอร์ระดับตำนานแห่งวงการค็อกเทลในไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่พร้อมใจกันมาร่วมฉลอง 100 ปี Johnnie Walker ในประเทศไทย ด้วยค็อกเทลสูตรพิเศษให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลิ้มรส และร่วมพูดคุยกันแบบใกล้ชิด ซึ่งแฟน ๆ ค็อกเทลน่าจะรู้กันดีว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีโอกาสได้ลิ้มรสผลงานของ ‘อั๋น-ชานนท์ บุรานนท์’ บาร์เทนเดอร์ผู้ปลุกปั้น
การทำวงดนตรีหนึ่งวงมันจะต้องใช้ความเชื่อทั้งต่อตัวเองและความเชื่อที่สมาชิกในวงมีร่วมกันมากมายขนาดไหนกันนะ เพื่อที่เราจะสามารถทำเพลงในแบบที่เป็นตัวเอง 100% สื่อสารในแบบที่ต้องการออกไป 100% โดยไม่เอนเอียงไปตามกระแสหรือสิ่งไหน แล้วในวันที่ ‘ยังไม่มีกลุ่มคนฟังเป็นของตัวเอง’ ทำยังไงไม่ให้ถอดใจกันไปเสียก่อน … ในฐานะที่ผู้เขียนทำวงดนตรีวงหนึ่งมา 10 ปี และยังคงอยู่ในความมืดไม่ไปไหน เราเก็บคำถามนี้เรื่อยมารอที่จะได้คุยกับ The Darkest Romance วงที่น่าจะตอบคำถามของเราได้ดีที่สุด วงที่ตลอด 14 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากวันที่ออกอัลบั้มแรก 70,000,000-1=0 (2009) จนถึงอัลบั้ม Sentence (2023) และวันนี้วงก็ได้เดินทางมาถึงช่วงเวลาที่มีผู้คนเข้าใจสาสน์ที่พวกเขาต้องการจะสื่อในวงกว้าง ผ่านดนตรีร็อกที่มีความเป็นเมทัลอยู่ในนั้น ดนตรีที่สำหรับเมืองไทยแล้วแทบจะเป็น Underground มาตลอดเลยด้วยซ้ำ ผ่านมาแล้ว 2 เดือน กับคอนเสิร์ตใหญ่คอนเสิร์ตแรกในชีวิตของ TDR ‘ทัศนศึกษา’ สิ่งที่ตอกย้ำความเชื่อและความพยายามของวงดนตรีที่เราพูดไปก่อนหน้านี้ ชีวิตพวกเขาดำเนินต่อไปหลังคอนเสิร์ตนั้นจบ ‘ซีเกม–ธณัตชัย เหลือรักษ์’ เป็นครูสอนกลอง ‘เต้–ปัฏฐสิทธิ์ ห้วยห้อง’ เป็นพ่อค้าขายเสื้อมือ 2 Growdung_2hand แล้วก็ทำออเดอร์ส่งพ่อค้าต่างประเทศ ‘ก้อง–ก้องอุดม ใจทัศน์กุล’ เป็นพ่อค้าขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ที่ไม่มีเวลาขับมอเตอร์ไซค์เลย ‘แม็ก–ธิติวัฒน์ รองทอง’ เป็นฟรีแลนซ์ในวงการดนตรีรับจ้างทำเพลง