ว่ากันว่ารถที่ใช้ สามารถบ่งบอกตัวตน และไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ออกมาได้เป็นอย่างดี และ New Honda Giorno+ คือการเปิดมิติใหม่ด้วยนิยามความเป็น High Fashion Scooter ที่พร้อมสะท้อนทุกสไตล์ให้ทะลุระดับ New High ยิ่งกว่าเดิม เรียกได้ว่าเปิดตัวกันไปแบบสด ๆ ร้อน เมื่อวานนี้ กับออโตเมติกสกู้ตเตอร์รุ่นล่าสุด และถือเป็นเซกเมนต์ใหม่สุดของ Honda กับ Giorno+ ที่ถูกสร้างสรรค์พัฒนาต่อยอดแรงบันดาลใจจากตัวแทนความเท่ของวัยรุ่นยุค 90s อย่าง Giorno 50cc ปี 1992 สู่ภาษางานออกแบบใหม่ผสานอดีตและอนาคตเอาไว้ในแนวทางโมเดิร์นคลาสสิก ลงตัวกับงานดีไซน์ที่แมทช์กันได้กับทุกลุค ปลุกเร้าจิตวิญญาณ High Fashion Scooter ด้วยชุดไฟหน้า – ไฟท้าย LED ที่โดดเด่น และการเลือกใช้เส้นสาย Horizontal Line สื่อถึงความล้ำสมัย ผสานกับเส้นโค้งมนที่สื่อถึงความเรียบง่าย คลาสสิก พร้อมพื้นผิว รวมถึงสีสันที่ดูพรีเมียมสวยงาม พร้อมให้พวกเราได้บ่งบอกสไตล์ที่แตกต่างผ่านสีสันทั้ง 6 สี ไม่ว่าจะเป็น ขาว
งาน collab ที่ represents street culture จากสองฝั่งแบรนด์แฟชั่นและ fast-food ที่ดูไม่น่าจะไปด้วยกันได้ แต่กลับสามารถนำเสนอลวดลายพรินต์ที่เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ โลโก้ตัว M Golden Arches ถูกนำมาตีความเป็นดีไซน์หลักใน collection ซึ่งมีทั้ง hoodies, T-shirts และ Skateboards ในสามโทนสีหลัก ดำ ขาว และแดง ก่อนหน้านี้ลูกค้าจะต้องใช้ unique code จากกล่อง McNuggets เพื่อใช้เป็นสิทธิในการซื้อผ่าน microsite แต่ดูเหมือนว่า feedback จะดีมากเกินไปจน Palace ยกเลิกการใช้ unique code ไปแล้วเรียบร้อย
สำหรับแลมเบรตติสต้า หรือชาวแลมสายลึก เราเชื่อว่าเมื่อพูดถึง LAMBRETTA เป็นต้องนึกถึงสกู้ตเตอร์ดีไซน์หล่อคลาสสิก รวมถึงโทนสีวินเทจจี๊ดใจที่สร้างเสน่ห์ให้แฟน ๆ หลงใหลมาถึงปัจจุบัน และต้องบอกว่ารุ่นใหม่อย่าง LAMBRETTA X300 SR ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Colors Of Time คืออีกหนึ่งตัวแทนความทรงจำดี ๆ ที่ถ่ายทอด DNA งานออกแบบ และโทนสีสุดฮิตในช่วงรอยต่อของยุค 60s และยุค 70s ที่โดดเด่นในเรื่องความสดใส สะท้อนไลฟ์สไตล์, แฟชั่นการแต่งกาย รวมไปถึงสีสันของสกู้ตเตอร์คู่ใจ ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของวัยรุ่นยุคนั้น และสีสันแห่งช่วงเวลาอันน่าประทับใจจากอดีต ได้ถูกส่งต่อเป็นความทรงจำที่จับต้องได้ผ่าน LAMBRETTA X300 SR ซึ่งถอดรหัสความเท่คลาสสิกสไตล์สปอร์ต และหยิบยกเอาสีสันจากแลมยอดนิยมในยุคนั้น มาแต่งแต้มเป็นตำนานบทใหม่ของ LAMBRETTA ที่เข้าขากันได้ดีกับไลฟ์สไตล์ของชาวแลมยุคปัจจุบัน แต่ที่สำคัญคือเอกลักษณ์ความเก๋าของแลมวินเทจยังคงเดินทางข้ามเวลามาแบบไม่ตกหล่น กับจุดเด่นเหล่านี้ที่เราอยากชวนชาว UNLOCKMEN ไปสัมผัส เพื่อยืนยันว่า LAMBRETTA X300 SR คือตัวแทนสีสันแห่งช่วงเวลาอย่างแท้จริง ส่งตรงจิตวิญญาณสปอร์ตจาก LAMBRETTA GP/DL ปี 1969
ว่ากันว่าเครื่องแต่งกายเป็นสิ่งสะท้อนสไตล์ของผู้สวมใส่ ในขณะเดียวกันกลิ่นน้ำหอมที่เลือกใช้ก็เปรียบเสมือนสิ่งสะท้อนตัวตน, รสนิยม รวมถึงทัศนคติของแต่ละบุคคลออกมาได้อย่างชัดเจน ด้วยศาสตร์และศิลป์แห่งกลิ่นที่มีผลส่งตรงสู่อารมณ์ความรู้สึกส่วนลึก โดยแทบไม่ต้องอาศัยถ้อยคำใดมาอธิบาย และตำนานความหอมของ MONTBLANC LEGEND คือหนึ่งในสุนทรียศาสตร์แห่งกลิ่นอันทรงพลัง และน่าหลงใหล ที่ถูกรังสรรค์เป็นน้ำหอม 3 ประเภทใน LEGEND Series ซึ่งวันนี้เราจะพาชาว UNLOCKMEN ร่วมเดินทางไปกับความหอมระดับตำนานทั้ง 3 รูปแบบ ที่พร้อมให้ทุกคนได้เลือกสะท้อนตัวตน และถ่ายทอดเสน่ห์ความมั่นใจในแบบที่เป็นคุณ MONTBLANC LEGEND EDT : นี่คือจุดเริ่มต้นความหอมระดับตำนาน ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2011 ด้วยความมุ่งมั่นในการรังสรรค์ MONTBLANC LEGEND EDT ให้เป็นตัวแทนแห่งกลิ่นที่สะท้อนตัวตนของสุภาพบุรุษที่เพียบพร้อมไปด้วยเสน่ห์ของความเด็ดเดี่ยว มั่นใจ ผสานความอบอุ่น และสุขุม ด้วย Top Notes โทนสว่าง สดชื่น กับกลิ่นของ Lavender, Bergamot, Pineapple leaf และ Exotic verbena ตามมาด้วย Middle Notes ที่หอมหวานดึงดูดใจจากกลิ่นของ
Ford Nugget รถตู้ที่สร้างขึ้นสำหรับชาว Camping โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะด้านดีไซน์ การควบคุม โดยไม่ทิ้งการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมตั้งแคมป์ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกจากโรงงาน โดยมี control unit ไว้ควบคุมและตรวจสอบสถานะพลังงานที่เหลืออยู่ ระดับน้ำ แสงส่องสว่าง ภายในรถถูกออกแบบให้เป็น multi-zone layout แบ่งสัดส่วนการใช้งานเอาไว้อย่างลงตัว สามารถใส่ที่นอนขนาด double beds ได้โดยยังเหลือพื้นที่เหลือเฟือ ส่วนครัวถูกแบ่งด้วยรูปทรง L-shaped layout มาพร้อมระบบน้ำร้อนเย็นในตัว หลังคาสามารถกางออกได้ง่ายด้วย self-folding fabric พร้อมระบบเชื่อมต่อ 5G modem กระจายสัญญาณ internet ระบบ wireless charging และหลังคา solar roof สำหรับชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ได้อย่างง่ายดาย ด้านการขับขี่ Ford Nugget เลือกใช้เครื่องยนต์ 2.5L Atkinson petrol engine PHEV แบตเตอรี่ความจุ 11.8 kWh ระบบ
การกลับมาอีกครั้งของ MB&F HM9 อภิมหาเรือนเวลาที่ถูกเรียกขานว่าเป็นหนึ่งในกลไกที่สวยงามที่สุดในโลก บรรจุในเคสใสสามชิ้นผลิตจาก sapphire crystal ขนาด 57mm x 47mm x 23mm สามารถรับชมการทำงานของตัวเครื่องได้จากทุกมุม มีสองสีใหม่คือ หน้าปัด PVD-coated สีฟ้าในกรอบ white gold และ PVD-coated สีเขียวในกรอบ yellow gold ราคาเรือนละ 16 ล้านบาท ผลิตเพียงสีละ 5 เรือนในโลก MB&F HM9 “Sapphire Vision” Diameter: 57mm x 47mm Caliber: In-house movement Functions: Hours, minutes Power Reserve: 45 hours Winding: Manual Water Resistance: 30 meters
เอาจริง ๆ บทความนี้เหมือนว่าไม่ต้องมี intro เลยก็ได้นะ ทุกคนที่เข้ามาอ่านน่าจะเห็นชื่อบทความกันแล้ว กับคำว่า Three Man Down ที่หมายถึงวงดนตรีของเด็กหนุ่ม 4 คน กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ (ร้องนำ) / ตูน-พีรพล เอี่ยมจำรัส (กีตาร์) / เต-เตธนันท์ วงศ์ปรีชาโชค (กลอง) / เส็ง-วิศรุต ปฐมศิริไพศาล (คีย์บอร์ด) ไม่ต้องการคำอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก เพราะไม่มีใครไม่รู้จักเพลงอย่าง ถ้าเธอรักฉันจริง / ฝนตกไหม / ฝันถึงแฟนเก่า / น้อง / ข้างกัน / ไม่อยากให้เธอไม่สบาย และอีกหลาย ๆ เพลงทั้งจากอัลบั้มแรก This City Won’t Be Lonely Anymore ปี 2021 และอัลบั้ม 28 ปี
ปี 2021 เราได้สัมภาษณ์กับ Temporarywest กลุ่มเพื่อน 10 คนที่รวมตัวกันทำงาน Street Art เพื่อพัฒนาชุมชนในโปรเจกต์ Art Town ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เวลาผ่านมาจนถึงปี 2023 เราได้รับคำเชิญจากกลุ่ม T-West ให้ไปนิทรรศกาลศิลปะชื่อ The Lost Wall Exhibition ที่รันโดยกลุ่มผ่านคอนเซปต์ Host เทคหนึ่งสัปดาห์จัดงานในธีมของตัวเอง ในตึกที่มีชื่อว่า Red.cose (ระหว่างที่เขียนอยู่นี้งานได้จบลงไปแล้วเมื่อวันที่ 12/08/2023 ที่ผ่านมา) ‘เฟม-พีรพัฒน์ อื้อพรรณรังษี’ หรือ Aka. Y? เฮดของกลุ่ม T-West เป็นเพื่อนกับผมสมัยทำงานอยู่ที่บริษัทปาร์ตี้ชื่อ Dudesweet ด้วยกันเมื่อนานมาแล้ว ด้วยความที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี เราจึงขอมันสัมภาษณ์ทำ Artist Room เพื่อคุยถึงมุมมองที่มันมีต่อวงการ Graffiti ความฝันในการพาเพื่อน ๆ เป็น Street Crew ระดับโลก และความหลงใหลใน Street Art
ถ้าให้นึกถึงของดีฝั่งธนแบบไว ๆ คุณจะคิดถึงอะไร ? ให้เวลาคิด 15 วิ … หมดเวลา ! และไม่ว่าคำตอบของคุณจะเป็นอะไร แต่ของเรามันคือ P.Sherman The Enjoyable Ground ร้านแฮงเอาต์ของเรากับแก๊งเพื่อน ที่สามารถเริ่มต้นเจอกันตั้งแต่เช้า และปิดวันนั่งจิบเบา ๆ (รึเปล่า) ได้เลย ! บทความที่ชาว UNLOCKMEN กำลังได้อ่านอยู่นี้ ถูกเขียนขึ้นในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวันศุกร์ โดย Content Creator ใส่แว่นคนหนึ่งที่ก็กำลังปั่นงานอยู่ในร้านโปรดที่เป็นหัวใจหลักของคอนเทนต์นี้อยู่ นั่นแสดงให้เห็นว่าร้านนี้เหมาะกับการนั่งทำงานด้วยเหมือนกัน และเป็นอะไรได้อีกหลายอย่าง ที่เราจะขอป้ายยาทุกคนในบรรทัดถัดไปกันเลย จาก ‘โรงงานเย็บผ้า’ สู่พื้นที่แห่งความหลากหลายของวัยมันส์ ร้าน P.Sherman The Enjoyable Ground ซ่อนตัวอยู่ในย่านอรุณอมรินทร์ ระบุชัด ๆ เลยคือซอยอรุณอมรินทร์ 39 ในอดีตที่นานมากแล้ว กว่า 10 ปีก่อน ตึกแห่งนี้เคยเป็นโรงงานเย็บผ้ามาก่อน ซึ่งเอาจริง