What is Fine Dinning? ก่อนที่เราจะพาทุกคนไปดื่มด่ำกับศาสตร์แห่งอาหารชั้นเลิศในร้านที่เราอยากแนะนำ เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าว่าคำว่า ‘Fine Dining’ ที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ หรืออย่างน้อยก็ต้องเคยเห็นผ่านตานั้นความหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร ไม่มีอะไรซับซ้อน Fine Dining ก็คือห้องอาหารตามความเข้าใจของคนทั่วไปนั่นแหละ เพียงแต่ความพิเศษของมันคือ บรรยากาศที่หรูหราเป็นทางการและบริการด้วยเมนูคุณภาพสูงกว่าร้านทั่วไป เครื่องดื่มจะให้บริการด้วยไวน์คุณภาพสูง รวมถึงมีบริการผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์หรือ Sommeliers ประจำร้าน เพื่อให้คำแนะนำและเสนอไวน์ที่เหมาะกับอาหารแต่ละจาน แน่นอนว่าเมื่อเป็นห้องอาหารที่เป็นเลิศในทุกด้าน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าในเรื่องของราคานั้นก็จะสูงกว่าร้านธรรมดาทั่วไปด้วยเช่นกัน เอาล่ะอุ่นเครื่องความรู้กันพอหอมปากหอมคอ ไปดูทั้ง 5 ร้านที่เราอยากแนะนำกันเลยดีกว่า OSHA OSHA คือห้องอาหารสไตล์ไทยโมเดิร์นที่ได้รับการแนะนำจากมิชลินไกด์ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพย่านถนนวิทยุ โดดเด่นด้วยการรังสรรค์เมนูจาก เชฟหนุ่ม ธนินทร จันทรวรรณ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในเมนูอาหารมามากกว่า 20 ปี นอกจากนั้นยังเคยร่วมงานกับเชฟระดับโลกมากมายไม่ว่าจะเป็น Heston Blumental จาก Fat Duck และ Dinner by Heston Blumental หรือแม้กระทั่งสุดยอดเชฟชื่อดังอย่าง Gordon Ramsey OSHA ตกแต่งร้านด้วยสไตล์ไทยที่งดงามทุกรายละเอียด เน้นโทนสีดำ-ทองเป็นหลัก ยิ่งช่วยทำให้ Fine Dining แห่งนี้หรูหรามีระดับขึ้นไปอีกขั้น อย่างที่บอกไปว่า
กลับมาตามสัญญาว่าเราจะนำเสนออีกมุมหนึ่งของเจ้านายโหดให้ได้รู้ หลังจากบอกข้อดีของ CEO ระดับโลกที่อยู่ในมุมมืดไปแล้วใน Episode แรก คราวนี้ถึงเวลามาเสนอเรื่องพลังลบที่แผ่ออกมากันบ้าง ซึ่งบอกตรง ๆ เลยว่ามันส่งผลกับพนักงานมากกว่าความรู้สึกไม่อยากตื่นไปทำงานหรือนอนไม่หลับ ลองมาดูกันของแถมที่ได้จากการเติบโตหลังทำงานกับเจ้านายที่พร้อมด่ากราด ฉุนเฉียว ทั้ง 3 ข้อต่อไปนี้ แล้วถามตัวเองอีกคร้ังว่าคุณพร้อมจะแลกมันหรือเปล่า ปัญหาสุขภาพ ทำงานหนักไม่เคยทำให้ใครตาย ประโยคนี้มันไม่จริง เรื่องนี้พวกเรารู้ดี และทาง UNLOCKMEN ก็เคยนำเสนอประเด็นนี้ไปแล้วผ่านบทความเรื่อง รู้จักโรค ‘ขยันมากเกินไป’ สาเหตุ อาการและทางออกก่อนที่เราจะกลายเป็นโรคบ้างานเรื้อรัง ขนาดคนที่ทำเขาทุ่มเทเพราะไม่ได้มีใครบังคับเขายังเจอผลกระทบเรื่องสุขภาพถึงตาย ดังนั้น คนที่โดนบังคับเพราะความกลัวอำนาจจะยิ่งเกิดความรู้สึกกดดันยิ่งกว่า เรียกได้ว่าโดนทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตพร้อมกัน เรื่องนี้เราไม่ได้เอามาพูดปากเปล่า แต่ยืนยันได้จากเหตุการณ์ของ Amazon ที่มีข่าวช่วงกลางปี 2561 ที่เปิดเผยข้อเท็จจริงว่ารถ Ambulance เข้าออกโกดังบ่อยถึง 600 ครั้งในระยะเวลา 3 ปี งานนี้แม้จะไม่ได้บอกรายละเอียดชัดว่าอาการบาดเจ็บนั้นมาจากอะไรบ้างแต่เราเชื่อว่าการโหมงานต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน เพราะสหภาพแรงงานเขาออกมาพูดเลยว่า Amazon เป็นองค์กรที่ดูแลคนไม่ต่างจากหุ่นยนต์ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอที่สนับสนุนข้อมูลนี้ด้วยการกล่าวว่าเหยื่อจากอารมณ์เจ้านายมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง ฯลฯ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องคอขาดบาดตายถึงชีวิต
ภาพลักษณ์แสนดุดันและน้ำเสียงทรงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของ Corey Taylor ทำให้เขาเป็นเหมือน Trademark ของทั้งสองวงที่เขาเป็นสมาชิก ทั้ง Stone Sour และ Slipknot แม้เขาจะไม่ได้เป็นฟรอนต์แมนคนแรกแบบดั้งเดิมของวง แต่พอก้าวเข้ามารับตำแหน่งเขากลายเป็นที่รักของแฟน ๆ และเพื่อน ๆ ในวงชนิดที่ไม่มีใครกังขาในจุดที่เขายืนอยู่เลยแม้แต่น้อย ทว่าทุกอย่างบนโลกนี้ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว เบื้องหลังความสำเร็จและภาพลักษณ์อันดุดัน ยังมีมุมมืดที่เขาต้องเผชิญและก้าวผ่านมันมาได้ด้วยตัวเอง มาดูเรื่องราวในอีกมุมที่ปลุกปั้นให้เขาเป็น Corey Taylor อย่างในวันนี้ หลายคนคงเคยทราบกันมาบ้างว่า Corey เอง เคยต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามานาน สาเหตุมาจากเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจในวัยเด็กอย่างการถูกล่วงละเมิดทางเพศในช่วงวัยรุ่นเหมือนกับคนอื่น เขากลายเป็น “เหยื่อ” ของผู้ไม่หวังดี ที่แฝงตัวมาในรูปแบบของเพื่อนบ้านที่แสนดี เขาเป็นเพื่อนที่สนิทกันอย่างรวดเร็ว กิน เที่ยว ดื่ม เล่นดนตรีด้วยกัน จนกระทั่งวันที่เปลี่ยนทุกอย่างไป หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาเลือกที่จะปิดปากให้สนิทเพื่อแลกกับความปลอดภัยของตัวเองและแม่ จนมันกลายเป็นแผลในใจของเขาเสมอมา เรื่องราวเหล่านั้นเป็นเหมือนฝันร้ายที่ตามมาหลอกหลอนเขาเรื่อยมา จนทำให้เขาค้นพบว่าการมองหาแสงสว่างให้กับตัวเองส่งผลให้ตัวเขาดีขึ้นรวมถึงผลงานเพลงของเขาด้วยเช่นกัน สำหรับบางคนเรื่องราวเหล่านี้อาจเป็นบาดแผลที่ยังคงคอยทิ่มแทงให้จมอยู่กับฝันร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ Corey เลือกทางที่แตกต่างออกไป เขาเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาหล่อหลอมให้ตัวเองแข็งแกร่ง ให้มันเป็นอุปสรรคที่หินที่สุดแล้วก้าวออกจากมันมาให้ได้ แล้วมันจะกลายเป็นเพียงด่านง่าย ๆ ที่เราเคยก้าวผ่านมันมาแล้ว และทำให้เขาแข็งแกร่งอย่างที่เป็นในทุกวันนี้ “ผมมองโลกด้วยสายตาที่ชัดเจนมากขึ้น” “ผมเริ่มมองหาความสงบให้ตัวเอง
ช่วงปี 1980 – 1990 ถือเป็นทศวรรษแห่งการก้าวกระโดดของวงการ 4 ล้อทั่วโลก ค่ายรถยนต์น้อยใหญ่มากมายต่างพากันเดินหน้าพัฒนารถในสายการผลิตของตัวเองให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านสมรรถนะและรูปลักษณ์ ซึ่งก็มีจำนวนไม่น้อยที่ได้สร้างปรากกฎการณ์เอาไว้จนถึงขั้นเป็น Iconic Cars ประจำยุคสมัยเลยทีเดียว แน่นอนว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีรถยนต์มากมายหมุนเวียนผลัดกันออกมาโชว์ศักยภาพของตัวเองบนท้องถนน แต่วันนี้ UNLOCKMEN จะขอหยิบยก 5 คัน ที่จะทำให้เรามองเห็นภาพปีศาจ 4 ล้อเจ้าพ่อแห่งยุคสมัยนั้นได้ชัดเจนที่สุด รวมไปถึงราคาค่าครอบครองโดยประมาณในปัจจุบัน ซึ่งจะมีรุ่นไหนบ้างมาดูกันเลย BMW M3 (E30) รถยนต์สมรรถนะสูงที่ผลิตที่ระหว่างปี 1,986-1,990 เปิดตัวครั้งแรกในรูปแบบ Compact Sport Sedans ด้วยโมเดล Coupe และ Convertible พร้อมด้วยขุมกำลังสุดโหดกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดรถยนต์ในเวลานั้น โดยเฉพาะในรุ่น Evolution II หรือที่เรียกกันว่า EVO2 มาพร้อมสมรรถนะของรถสนามในขนาดกะทัดรัด ทำให้ BMW M3 E30 กลายเป็นรถที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายไปทั่วโลกในฐานะรถบ้านสุดแรง รวมไปถึงการถูกจับมาปรับแต่งเพื่อเป็นเจ้าสนามในวงการมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งจำนวนที่ลดน้อยลงตามกาลเวลา ก็ทำให้มูลค่าของรถสภาพดีพุ่งสูงขึ้นสวนทางและเป็นที่ต้องการของนักสะสมมากขึ้นทุกวัน ค่าตัวโดยประมาณ : 800,000
จบลงอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับคอลเลกชันรองเท้าที่สั่นสะเทือนกิเลสของเหล่า Sneakerhead ไปทั่วโลกอย่าง THE TEN หลังชายผู้ร่วมออกแบบอย่าง Virgil Abloh ออกมายืนยันแล้วว่า Off-white x Nike Air Force 1 “BLACK” ที่ลือกันว่าวางขายในช่วงต้นปีหน้าจะผลงานชิ้นสุดท้ายของพวกเขา จุดเริ่มต้นความสำเร็จของ THE TEN เกิดขึ้นครั้งแรกหลังจาก Nike ประกาศว่ากำลังร่วมงานกับ Designer มือทอง พร้อมรูปตัวอย่างผลงานคอลแลปส์ที่เลือกใช้โมเดลในตำนานจากค่าย Swoosh จำนวน 10 รุ่นออกมาเรียกเสียงฮือฮาจากแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก ผู้กำลังรอคอยการมาของคอลเลกชันดังกล่าว ก่อนเปิดตัวครั้งแรกด้วย Air Jordan 1 ซึ่งในเวลานั้นบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรร้อนแรงเทียบเท่าไอเทมของพวกเขาเลยจริง ๆ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เพราะในเวลาต่อมา Nike ก็ทยอยปล่อย THE TEN ออกมาครอบครองพื้นที่ทางการตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยโมเดลอย่าง Blazer, Presto, Air Max 97, Air Force, Air Max
ใครว่างานสตรีตจะดีแต่หาเงินจากกระเป๋าผู้ชายอย่างเราไปวัน ๆ เพราะแคมเปญการกุศลดี ๆ ก็มีให้เห็นออกมาเป็นระยะเหมือนกัน ล่าสุดกับแบรนด์สุดเก๋าจากแคลิฟอร์เนีย Stussy ได้ร่วมมือกับ Tamara Grunberg ดีไซน์เนอร์ผู้เคยฝากผลงานเอาไว้กับรองเท้า Custom อย่าง Stussciaga Double S โดยแคมเปญดังกล่าวเกิดขึ้นจากแนวความคิดที่ต้องการระดมเงินช่วยเหลือเด็กไร้บ้านในประเทศแคนาดา เนื่องจาก Tamara Grunberg หัวเรือหลักของแคมเปญทำงานและอาศัยอยู่ในเมือง Gastown รัฐ Vancouver ซึ่งมีคนไร้บ้านเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงเด็ก ๆ ที่ต้องใช้ชีวิตวนเวียนกับยาเสพติดเพื่อหาเงินมาประทังชีวิต ซึ่งตัวเธอมองว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่ตัวเองทำงานอยู่ในร้านที่ขายเสื้อยืดในราคา 60 เหรียญ แต่ขณะเดียวก็มีคนไร้บ้านที่ต้องเอาตัวรอดกับสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้ายของโลกภายนอก รวมถึงต้องต่อสู้แย่งชิงหรือทิ้งอนาคตเพียงเพื่อเงินเพียงไม่กี่เหรียญเท่านั้น แรงบันดาลใจดังกล่าวทำให้เกิดคอลเลกชันที่มีชื่อว่า RE-work ประกอบด้วยเครื่องแต่งกายสุดไฮป์ 5 ชิ้นซึ่งจะกลายเป็นของรางวัลสำหรับคนที่มาร่วมบริจาคเงินสบทบเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ประกอบไปด้วย Faux fur vest, Body-Cross Bag, Ski mask, Coy Fish Shirt และ Waterproof Vest ซึ่งทุกชิ้นเป็นงาน Custom จากของที่บริจาคโดย
ยอมรับมาเถอะว่าเราต้องเคยเห็นหนังผู้ใหญ่ผ่านตามาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งคงจะเคยเห็นฉากการใช้เชือกในการพันธนาการร่างกาย บางคนอาจจะดูแล้วไม่ได้คิดอะไร แต่เราว่าถ้ามองข้ามเรื่อง SEX ไป จะเกิดคำถามและสงสัยเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นและเหตุผลของมันกันอย่างแน่นอนว่า มันคืออะไร? ทำไมถึงต้องทำแบบนี้? ไอ้ความน่าสนใจ และน่าสงสัยที่ว่านี้ ก็คือการนำเชือกมามัดสานกันบนเรือนร่างของหญิงสาว ซึ่งมีชื่อเฉพาะของมันเรียกว่าว่า “Kinbaku (緊縛)” หรือ “Shibari (縛り)” หากใครสงสัย และอยากรู้เรื่องราวความ Erotic นี้แบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่แค่ดูผ่าน ๆ แล้วนั่งสาว ๆ ไปเรื่อยเปื่อย ขอบอกเลยว่า ห้ามพลาดบทความนี้ที่จะทำให้ทุกคนเข้าถึงการมัดสุดสยิวกันถึงต้นกำเนิดกันเลยทีเดียว The Origins of Kinbaku มาดูที่ต้นกำเนิดของ “Kinbaku (緊縛)” การมัดสุดสยิวนี้กันเลยดีกว่า คนทั่วไปต่างก็รู้ว่า เรื่องของงานฝีมือ และความคิดสร้างสรรค์นั้น ชาวแดนปลาดิบถือว่าขึ้นชื่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานประเภทการพับ การห่อ การผูก เรียกได้ว่า จะทำออกมายังไงก็ดู Art ไปซะหมด ลองดูการมัดข้าวกล่อง หรือของฝากต่าง ๆ น่าจะพอนึกภาพออก
เจ้านายกับพนักงานถือเป็นของคู่กัน เจ้านายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอิทธิพลมากกว่าหมอดูที่บอกกราฟลายมือเส้นชีวิตเราว่าเราจะเจริญก้าวหน้าได้จริงไหม และที่แน่ ๆ คือต่อให้ใครจะว่ายังไง เจ้านายจะยังคงอยู่ในองค์กรต่อไป คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมเจ้านายสายเดือด สายโหด หรือเจ้านายที่มีพฤติกรรมเข้าขั้นติดลบในสายตาพนักงาน แถมชีวิตโคตรไม่บาลานซ์ ทำไมถึงพาองค์กรพุ่งไปติดอันดับต้นของโลกได้ แถมพูดชื่อแล้วหลายคนยังต้องแลกและฝ่าฟันเพื่อให้ไปเจอเจ้านายแบบนั้นอีก แน่สิ ถ้าเราบอกว่าตัวอย่างของเจ้านายเหล่านั้นคือ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon, Elon Musk ผู้ก่อตั้ง Tesla และอุโมงค์ทะลุมิติ และ Steve Jobs เจ้าของตำนานมือถือระบบ iOS อย่าง Apple คุณเองก็คงไม่ปฏิเสธหรอกว่าอยากจะร่วมงานกับเขาสักครั้งในชีวิต ก่อนจะไปพูดถึงประโยชน์ของนิสัยมุมมืดจากเหล่า CEO คนดังระดับโลกที่พาองค์กรเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป (เชิดชูบูชากันมาเยอะเพราะโปรดักส์เขาดีจริง) มาลองดูนิสัยร้าย ๆ เบื้องหลัง CEO ดังเหล่านี้กับคนใกล้ชิดที่ไม่ดีอย่างที่คิด Elon Musk : ข่มคู่รัก ด่ากราดลูกน้อง ทวีตไร้วิจารณญาณ แม้สิ่งที่เราเห็นในวันนี้หนุ่ม Elon แม้จะเป็นป๋าใจสปอร์ตส่งเครื่องไม้เครื่องมือมาช่วย 13 หมูป่า แต่อีกแง่มุมเรื่องความเป็นผู้นำ เขากลับมีนิสัยโหดห่ามในการควบคุมลูกน้อง
ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่ผ่านมา เมื่อตัวเลขบนปฏิทินเคลื่อนสู่ศักราชใหม่ เปรียบเสมือนสัญญาณที่บอกเราทุกคนว่าถึงเวลาเริ่มต้นสิ่งใหม่แล้ว มาทำปี 2019 ให้เจ๋งยิ่งกว่าที่เคยกันเถอะ! เช่นเดียวกันกับพวกเรา UNLOCKMEN ขึ้นปีใหม่ทั้งทีย่อมต้องมีสิ่งใหม่ ๆ มานำเสนอ ปีนี้เราขอเริ่มต้นด้วย ‘Foxy Lady’ คอลัมน์ใหม่แกะกล่องของพวกเรา ที่น่าจะถูกใจหนุ่ม ๆ แน่นอน เชื่อว่าถ้าใครติดตาม UNLOCKMEN มาตลอดน่าจะคุ้นเคยกับคอลัมน์ ‘A Girl We Love’ เป็นอย่างดี แต่ Foxy Lady คือสิ่งที่แตกต่างออกไป ถึงแม้จะเป็นคอลัมน์แนะนำผู้หญิง 1 คนให้ทุกคนได้รู้จักเหมือนกัน แต่ Foxy Lady จะมุ่งเน้นไปที่ตัวตนและทัศนคติมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ มากกว่าด้านทักษะความสามารถเหมือนใน A Girl We Love นอกจากนั้นยังนำเสนอออกมาในรูปแบบที่เซ็กซี่กว่าอีกด้วย Foxy Lady คนแรกของเราในปีนี้ก็คือ ‘ไนซ์-คัมภิรดา กิจพิสิฐ’ วินาทีนี้ทุกคนอาจยังไม่รู้จักเธอ เช่นเดียวกับเรา เอาเป็นว่าไปทำความรู้จักเธอพร้อม ๆ กันในบทสนทนาครั้งนี้ Who is she? “ชื่อไนซ์ค่ะ