เมื่อพูดถึง Supercar ผู้ชายร้อยทั้งร้อย ต้องมีความใฝ่ฝันที่จะได้มาครอบครอง หรือขอแค่ได้ลองขับขี่เพื่อสัมผัสความคลั่งของขุมพลังจากม้าคอกใหญ่สักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่วันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงหนทางในการได้เป็นเจ้าของ Supercar เพราะสิ่งที่น่าค้นหามากกว่าคือ เรื่องราวความหลงใหลในสุดยอดยนตรกรรมมูลค่าสูง ว่าเหตุใดมันจึงสามารถครองใจชายอย่างเราได้ทุกยุคทุกสมัย จนหลายคนยอมจ่ายโดยไม่เกี่ยงราคาเพื่อให้ได้มา และการเป็นเจ้าของ Supercar สักคัน จะต้องโฟกัสจุดไหนบ้างถึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่หลงใหลอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ประดับบารมี ก่อนอื่นเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรดาผู้ครอบครอง Supercar อย่าง Porsche, Ferrari, Lamborghini, Bugatti ฯลฯ นั้นต่างก็มีความหลงใหลในดีไซน์ และสมรรถนะ ซึ่งมีความเหนือชั้นเกินกว่าที่ยานยนต์ทั่วไปบนท้องถนนจะสามารถเทียบเคียงได้ อีกทั้งยังต้องเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเสพสุนทรียภาพความสนุกสนานแห่งการขับขี่ด้วยตนเอง แม้หลายคนจะมองว่าถนน และสภาพการจราจรของเมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ นั้นไม่เอื้อต่อการปลดปล่อยศักยภาพความเป็น Supercar ออกมาได้อย่างเต็มที่นัก แต่จากการที่เรามีโอกาสได้พูดคุยกับบรรดาเจ้าของ Supercar ในเมืองไทย แทบทุกคนต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า เหตุผลในการเลือกขับ Supercar บนท้องถนนทั่วไปนั้นไม่ได้มีเป้าหมายอยู่ที่ความเร็วสูงสุด แต่เป็นความหลงใหลในอารมณ์ที่ได้จากการขับขี่ด้วยอัตราเร่งที่สั่งได้ดั่งใจ ทุกความรู้สึกจากพื้นถนนสู่ล้อ ผสานกับแรงบิดมหาศาล และเสียงคำรามของเครื่องยนต์ซึ่งถูกส่งผ่านขึ้นมายังตัวเราที่นั่งควบคุมอยู่หลังพวงมาลัย คือสิ่งที่กระตุ้นอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่าน ตอบสนองต่อสัญชาตญาณดิบที่ซ่อนอยู่ในใจทุกคน นอกเหนือจากเรื่องของดีไซน์โดดเด่นสวยงามสะดุดตา และสุดยอดสมรรถนะที่เร่งเร้าอะดรีนาลีนของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี ยังมีอีกจุดสำคัญที่ผู้หลงใหล Supercar ไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือยาง ซึ่งถือเป็นจุดละเอียดอ่อนที่สุด เพราะเป็นจุดเดียวของตัวรถที่สัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา
ต้องยอมรับกันเลยว่าในปัจจุบันนี้ เราอยู่ในยุคที่ความสามารถของกล้องมือถือแทบจะเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับพวกกล้องพกพาดีๆ สักตัวได้แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ว่าคนสมัยนี้เน้นเลือกชื้อโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชั่นด้านการถ่ายภาพเป็นปัจจัยหลักกว่าเมื่อก่อน และ UNLOKCMEN ก็คิดว่ายังมีหลายๆ คน เข้าใจกันผิดๆ อยู่ คือคิดว่าภาพที่ถ่ายออกมาสวยนั้น ต้องอยู่ที่กล้องเจ๋ง กล้องเทพทั้งหมด คิดแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะผิด แต่มันก็ไม่ถูกซะทีเดียวอยู่ดี เพราะจริงแล้ว ต่อให้เรามีเงินชื้อโทรศัพท์มือถือหรือนวัตกรรมกล้องรุ่นต่างๆ ที่ออกมาเจ๋งขนาดไหนก็ตาม แต่ผู้ใช้งานไม่สามารถดึงความสามารถของมันออกมาได้แบบสุดๆ แล้วละก็ คงไม่ต่างอะไรจากกระบี่ดีที่ไร้ความคม ดังนั้นปัญหากลายเป็นอยู่ที่ผู้ใช้งาน ไม่ใช่นวัตกรรมของตัวกล้อง เห็นแบบนี้ยักษ์ใหญ่อย่าง Apple จึงไม่รอช้าจัดคอร์สสอนถ่ายรูปออนไลน์ที่ครอบคลุมการถ่ายรูป 16 แบบ สำหรับ iPhone 7 มาให้เรียนกันแบบฟรีๆ กันไปเลย ส่วนคนที่ใช้มือถือรุ่นอยู่อย่าเพิ่งกดปิดหน้าจอนี้ไป เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นการสอนถ่ายด้วย iPhone7 ก็ตาม แต่ก็อย่าได้ลืมไปว่า หลักของการถ่ายภาพบางครั้งก็มีหลักการที่คล้ายคลึงกันไปหมด ไม่ว่าจะการสังเกตแสง หรือวัตถุต่างๆ เพราะงั้นก็สามารถเรียนออนไลน์ตัวนี้ได้เหมือนกัน โดยทั้ง 16 คอร์สจะถูกนำเสนอในรูปแบบ Vertical Video เพื่อให้เหมาะสมกับการรับชมบนมือถือ ส่วนเนื้อหาในแต่ละคลิปก็สั้น ง่าย ได้ใจความ บอกหลักเน้นๆ ภายในเวลาไม่ถึง 1นาที ครอบคลุมการถ่ายภาพในรูปแบบหลากหลายสไตล์ เรียงตั้งแต่เรื่องเบสิคง่ายๆ เช่นการถ่ายรูป Portrait ไปจนถึงเรื่องโปรเข้าขั้นอย่างการถ่ายภาพแนวแอ็คชั่น,
เพราะขึ้นชื่อว่ารอยสัก มันก็ต้องเป็นอะไรที่อยู่ติดตัวเราไปจนตายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าพวกรอยสักมักจะเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไปเสมอ อย่างที่ UNLOCKMEN เคยเขียนไว้หลายต่อหลายครั้ง ในเรื่องเกี่ยวกับรอยสัก โดยเพื่อนๆ สามารถไล่อ่านข้อมูลเกี่ยวกับที่ทางเราเคยเขียนได้ ที่นี่ และวันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงอะไรเก่าๆ แต่จะมานำเสนอรอยสักรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในแบบที่ไม่เหมือนกับที่เคยมีมา แถมเหมาะสำหรับคนที่รักเสียงเพลงและดนตรีเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย จะเจ๋งและน่าสนใจขนาดไหน ลองมาดูกัน Skin Motion ที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เป็นแพลตฟอร์มด้านศิลปะ ที่นำมาผสมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AR โดยเป็นการเปิดตัว Soundwave รอยสักรูปแบบใหม่ที่ฝังโค้ดเพลงเข้าไปในลาย! ซึ่งแค่เพียงเรายกมือถือขึ้นมาส่องบนลาย Soundwave มันก็จะทำการเล่นเพลงให้เราฟังได้ทันที โดยไอเดียสุดเจ๋งอันนี้มีแนวคิดเริ่มต้นมาจากรอยสักนักเต้นตัวน้อยของเอลตัน จอห์น ที่อยู่ๆ ในวงสนทนา แฟนของ Nate Siggard ก็พูดขึ้นมาแบบลอยๆว่า มันจะเจ๋งแค่ไหนเนี้ย ถ้าเราสามารถฟังเพลงผ่านรอยสักพวกนั้นได้ ไม่รอช้า ทางทีมผู้พัฒนาก็ได้เกิดไอเดียบรรเจิด จัดการรวมทีมพัฒนาจนออกมาเป็นเทคโนโลยีรอยสักนี้ และได้ทำการอัดคลิปเผยแพร่ลงสู่สายตาทั่วโลก ผ่านทาง Youtube (ดูได้จากคลิปด้านล่าง) และแน่นอนว่าของเจ๋งๆ ไอเดียดีแบบนี้ แค่เพียงไม่นานก็เกิดเป็นกระแสไวรัล จากคนหลายมุมทั่วโลกที่สนใจส่งข้อความมาอย่างต่อเนื่องว่าอยากได้รอยสักเจ๋งๆ แบบนี้บ้าง ทำให้ทางผู้ผลิตได้จัดการจดสิทธิบัตรรอยสัก AR ตัวนี้ซะเลย และพัฒนาแอพพลิเคชั่น โดยเฉพาะสำหรับเจ้ารอยสักตัวนี้ ให้สามารถเล่นเพลงและเล่นเสียงต่างๆ
อีกหนึ่งซีรีย์กระแสดีจากทาง Netflix ที่ทีมงาน UNLOCKMEN อยากจะแนะนำให้ดู
Devin Graham หรือ DevinSuperTramp คนนี้ถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตรวดเร็วมากคนนึง แต่เรื่องราวที่ผ่านมาของเค้านั้น มันน่าสนใจมากกว่า ด้วยแง่มุม แนวคิดในการทำงาน และดำเนินชีวิตของเค้านี่แหละ ที่เราอยากให้ชาว UNLOCKMEN ได้อ่าน และรู้จักกับผู้ชายคนนี้ Devin Graham หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อ DevinSuperTramp เค้าเป็น Videographer, Editor, และ Producer เรียกได้ว่าทำงานเองทุกขั้นตอนเลยก็ว่าได้ ชายชาวอเมริกันอายุ 33 ปีคนนี้ โด่งดังมาจากเว็บไซต์ YouTube กับ Channel ที่มีชื่อว่า Devin Super Tramp ซึ่งมีมามากกว่า 5 ปีแล้ว เค้าลง Video ที่เค้าถ่ายไปทั้งหมดกว่า 200 เรื่อง มี Subscribers มากถึง 4 ล้านคน และมียอดรวมคนดูทั้งหมดกว่า 765 ล้านวิว TURNING POINT – Fuck
ออกกำลังกายในหน้าร้อนอันตรายกว่าที่คิด ดังนั้นหนุ่ม ๆ UNLOCKMEN ควรมีเคล็ดลับพร้อมตัวช่วย
บางคนแค่คิดว่า cardio ก็เพียงพอแล้ว เราอยากให้คิดใหม่ถ้าหากอยากให้ได้ผลลัพธ์การออกกำลังกายที่สัมฤทธิ์ผลมากที่สุด
หากจะพูดว่านาฬิกา OMEGA Speedmaster ได้ข้ามผ่านช่วงเวลาสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์อีกครั้งคงไม่ผิดนัก หลังจากที่ได้จัดงานฉลองครบรอบ 60 ปี ไปเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยมนต์ขลังของเรือนเวลาที่ผ่านเรื่องราวอันน่าภาคภูมิใจ เริ่มต้นจากการเป็นนาฬิกาเรือนแรกของโลกที่มาพร้อมสเกลทาคีมิเตอร์บนขอบตัวเรือนซึ่งผลิตขึ้นมาสำหรับนักแข่งรถ อันเป็นต้นกำเนิดของชื่อรุ่น Speedmaster ก้าวมาสู่การเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ถูกสวมใส่บนดวงจันทร์ ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดเป็นความหลงใหลที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในหัวใจของเหล่าผู้รักนาฬิกาทั่วโลก ในวันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ Benjamin Clymer ชายผู้ก่อตั้งเว็บ Hodinkee.com เว็บไซต์ที่เป็นจุดนัดพบของบรรดาผู้หลงใหลเสน่ห์ของเรือนเวลาจากทั่วทุกมุมโลก ที่ต่างเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราวเกี่ยวกับนาฬิกา รวมถึงเป็นแหล่งซื้อขายนาฬิกาหายากที่ควรค่าแก่การสะสม และชายที่เปรียบเสมือนคนดังแห่งวงการนาฬิกาคนนี้ คือหนึ่งในผู้ที่มีความหลงใหลต่อ OMEGA Speedmaster อย่างเปี่ยมล้น ซึ่งเขาจะมาเปิดใจให้เราฟังถึงเรือนเวลาที่ถือเป็นตัวจุดประกายความชื่นชอบนาฬิกาในตัวเขา และทำไม OMEGA Speedmaster ยังคงครองตำแหน่งพิเศษอยู่ในใจของเขาอย่างไม่เสื่อมคลาย จุดเริ่มต้นแห่งความหลงใหลที่คุณมีต่อ OMEGA Speedmaster ? ความหลงใหลใน Speedmaster ของผมเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่ที่ได้เห็นมันถูกสวมใส่อยู่บนข้อมือของคุณปู่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยสนใจของสะสมที่คุณปู่มีอยู่เลย ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายภาพ รถยนต์ เครื่องเสียง คอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งนาฬิกา แต่สำหรับนาฬิกา Speedmaster มันทำให้ผมรู้สึกต่างออกไป เมื่ออยู่ใกล้คุณปู่ผมรู้สึกได้ว่าเหตุผลที่เขาซื้อมันมาเพราะต้องการที่จะส่งต่อมรดกแห่งเวลาเรือนนี้ให้กับผม ซึ่งคุณปู่ยังมีนาฬิกาเรือนโปรดอยู่อีกสองเรือน เรือนแรกได้ส่งต่อให้คุณพ่อของผม ส่วนอีกเรือนส่งต่อให้กับคุณลุง แม้ว่าเขาไม่เคยบอกว่านาฬิกาเรือนที่สามนี้จะตกเป็นของใคร แต่ผมก็รู้อยู่แก่ใจว่า
สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีนิสัยชอบความเร็วหรือไม่ก็ตาม เราเชื่อว่า ทุกคนคงต้องเคยผ่านการลงสนามแข่งขับ Go-Kart กันมาบ้างอยู่แล้ว และยิ่งถ้าได้ขับแข่งกับเพื่อนๆ เป็นกลุ่มด้วยแล้วล่ะก็ การขับ Go-Kart ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ให้ความบันเทิงกับผู้ชายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ในคนที่เคยขับรถ Go-Kart คงจะรู้ดีว่า เห็นรถคันเล็กๆ แบบนั้น เวลาวิ่งอยู่ในสนามอาจดูเหมือนไม่เร็วนัก แต่ถ้าได้ลองขับเอง รถจิ๋วแบบนี้ก็มีพิษสงมากพอจะทำให้อดีนารีนสูบฉีดไปทั่วทั้งร่างได้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะเคยสัมผัสประสบการณ์ความแรงจากไหนมา ก็ต้องลดหดตัวกลายเป็นเพียงอารมณ์จักรยานเด็กเล่น เพราะสำหรับ Go-Kart คันนี้ เรียกได้ว่า เปิดตัวมาไม่ทันไร ก็กลายเป็นตำนานบทใหม่ Run วงการไปเป็นที่เรียบร้อย มันคือ Go-Kart ที่มีชื่อเต็มๆ ว่า “The Daymak C5 Blast” คันนี้ ได้เปิดตัวออกมาอย่างยิ่งใหญ่ แถมยังพ่วงคำต่อท้ายเป็นลายสักเสือเผ่นว่า ‘เร็วที่สุดบนโลกเท่าที่เคยมีมา’ อีกด้วย หลายคนคงสงสัยว่า จะไม่มีรถ Go-Kart คันไหน จะเร็วไปกว่าคันนี้อีกแล้วจริงหรือ? คำตอบที่ได้ก็ต้องทำให้ข้อสงสัยทั้งหมดจบลง เมื่อมีการเผยสถิตความแรงของมันออกมาว่า Super Go-Kart คันนี้สามารถทำความเร็วจาก 0-100 km/h ได้ ภายในเวลา