เราต่างก็หวาดกลัวการถูกปฏิเสธ เพราะการปฏิเสธหมายถึงการไม่ได้อย่างที่ใจหวัง การถูกมองว่าเราดีไม่พอ เราไม่เป็นที่ต้องการ หรือการที่เราไม่ถูกเลือก แต่วันนี้ UNLOCKMEN ขอนำเสนอเรื่องราวของ Jia Jiang ชายหนุ่มชาวจีนที่จะทำให้คุณมองเรื่องราวของการถูกปฏิเสธเปลี่ยนไปตลอดกาล ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธต้นเหตุของความไม่กล้า Jia Jiang ไม่ต่างอะไรจากผู้ชายอย่างเรา ๆ ที่มีไอดอลในดวงใจหนึ่งคนแล้วใฝ่ฝันว่าสักวันจะเป็นอย่างเขาคนนั้นให้ได้ ตอน Jia Jiang อายุ 14 เขาได้ฟัง Bill Gates พูด ทันทีที่ได้ฟังเขาก็รู้สึกฮึกเหิมมากและคิดว่าภายในอายุ 25 ปีเขาต้องมีบริษัทเป็นของตัวเองให้ได้และบริษัทนั้นต้องยิ่งใหญ่ ร่ำรวยมากพอที่จะซื้อบริษัทไมโครซอฟต์ของ Bill Gates ให้ได้เช่นกัน! แต่เวลาล่วงผ่านไปจนจะเข้าอายุ 30 เขาก็ยังไม่มีความกล้าหาญที่จะทำอะไรอย่างที่เขาตอนอายุ 14 พูดไว้แม้แต่น้อย เขารู้สึกท้อใจและนั่งทบทวนว่าอะไรกันแน่คือสาเหตุที่เขาไม่ประสบความสำเร็จ แล้วเขาก็พบว่ามันคือความกลัวที่จะถูกปฏิเสธนั่นเอง เราไม่กล้าออกไปพรีเซนต์งานเพราะกลัวจะถูกมองว่าทำได้ไม่ดี เราไม่กล้าเริ่มอะไรใหม่ ๆ เพราะกลัวจะผิดหวัง เราไม่กล้าลงมือทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนเพราะกลัวว่าจะถูกปฏิเสธให้พลาดไปจากความตั้งใจเดิมของเรา Rejection Therapy: เพราะเราต้องเผชิญหน้ากับการปฏิเสธ Jia Jiang ตัดสินใจแแล้วว่าเขาจะไม่ยอมให้ความกลัวมาทำให้เขาจมอยู่กับที่อีกต่อไปแล้ว เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อตามหาวิธีเอาชนะความกลัวการถูกปฏิเสธนี้จนกระทั่งเข้าไปเจอ Rejection Therapy เกมที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย
คุณเบื่อไหม เมื่อพูดถึงความยั่งยืน? คุณเบื่อเพราะคิดว่ามันเป็นคำพูดสวย ๆ คำนึงเพื่อใช้ขายของอะไรสักอย่าง แต่เพราะคุณมัวแต่เบื่อ เยาวชนอย่าง Greta Thunberg ถึงลุกขึ้นมาเริ่มพูดว่าคุณควรจะสนใจมันได้แล้วนะ คุณอย่ามัวเอาแต่พูดว่าใส่ใจห่าเหวอะไรในโลกใบนี้ คุณต้องทำอะไรสักอย่างกับมันสักที ไม่ใช่เอาแต่ฝากความหวังให้คนรุ่นหลังโดยไม่แม้แต่จะพยายามทำอะไรสักอย่าง ความเดือดดาลของเด็กสาวคนนึงที่พูดประโยคตีแสกหน้าในเวทีการประชุมสหประชาชาติต้นอาทิตย์ทำให้เราเริ่มคิดถึงเรื่อง Core Corporate หรือ Core Business ที่อยู่รอบตัวคนเมืองอย่างพวกเราในไทย มีใครบ้างที่คิดถึงเรื่องความยั่งยืน มีใครบ้างที่เขาคิดถึงคุณภาพชีวิต ถึงเราจะพูดว่าคุณภาพชีวิตและความยั่งยืน แต่อย่าเหมาเอาว่าเราจะพูดถึงองค์กรการกุศลเด็ดขาด การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีมันไม่ใช่ให้ควักเนื้อทางธุรกิจ เรื่องนี้ต้องเคลียร์ให้ขาดจากกัน เพราะการทำแบบนั้นมันไม่ได้ยั่งยืน ไม่มีคนซื้อพวกเขาจะเอารายได้จากไหนมาพัฒนาให้นิเวศสมดุล? ทุกอย่างล้วนต้องลงทุนทั้งนั้น เอาเป็นว่าเราจะไปอ่าน Vision ไม่ใช่ตัวเลข และบอกก่อนว่า คอนเทนต์นี้ไม่ได้มีไว้เพื่อขาย แต่เอาไว้เป็นกรณีศึกษา หลังจากที่เรามีโอกาสได้รับฟังและรู้เรื่องข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของการสร้างโครงการใหม่ ๆ กับเบื้องหลังปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนเท่านั้น ครั้งนี้ UNLOCKMEN เลยเริ่มคิดถึงที่แรกอย่างคอนโดก่อน เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเมืองที่เราอยู่มันต้องเริ่มจากรากที่เรานอน เราจึงเลือกพูดถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เขากล่าวกันว่าจะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้เราเป็นประเภทแรก คำว่าดีมาจากไหน คำว่าดี ดีอย่างไร ? เราขอเริ่มต้นเจาะริเน็นจากที่ AP THAILAND เป็นที่แรก เพราะเรารู้มาว่าเขาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวคิดการทำอสังหาฯ
ทุกวันนี้เซอร์วิสแบบ all in one ป้อนถึงที่ คายถึงปาก แทบจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกอุตสาหกรรมลุกขึ้นมาทำกันทั้งนั้น กระทั่งเอเจนซี่เองก็มีหน้าใหม่หน้าเก่าเข้าออกในวงการอยู่ตลอดเวลา อะไรที่ทำให้บางเอเจนซี่ขายได้ แต่บางแห่งต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ยังขายไม่ออก? หรืออะไรที่ทำให้เอเจนซี่เล็ก ๆ แย่งงานเอเจนซี่เจ้าดังได้ เราเองพยายามหาข้อเท็จจริงเรื่องนั้นอยู่เหมือนกัน กระทั่งไปเจอแนวคำตอบที่น่าสนใจของ Dave Trott นักโฆษณาที่เขียนหนังสือชื่อ “Predatory Thinking” หรือที่แปลเป็นฉบับไทยว่า “เกิดเป็นกระต่ายต้องคิดได้ให้อย่างหมาป่า” ซึ่งพูดถึงการคิดต่างที่จะทำให้เราพลิกเกมการทำงานและการใช้ชีวิตได้ UNLOCKMEN คิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจสำหรับทั้งคนทำธุรกิจและพนักงานตาดำ ๆ ทั่วไป เราจะไม่พูดเด็ดขาดว่าเราไม่อยากเป็นเจ้าของเงินก้อนนั้นที่ลูกค้าวางไว้ ดังนั้น เพื่อให้คุณมีโอกาสได้เงินก้อนนั้นมาก่อนที่คนอื่นจะคาบไปรับประทาน ลองมาดูกันว่าเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าไม่ซื้อมันเพราะอะไรกันแน่ โฆษณาดีแค่ไหนก็ไม่ได้การันตียอดขาย อยากมีตัวตน อยากให้คนพูดถึง อยากเอาชนะการกด skip นี่คือโจทย์ที่นักโฆษณามือทองทุกคนพยายามดันผลงานให้ไปถึง แต่คำว่า “ดี” นั้น ต่อให้มากแค่ไหน คว้ารางวัล Cannes Lions มาได้ ก็แทบไม่มีความหมาย หากลูกค้าต้องการให้นำไปวัดเม็ดเงินที่จะคืนกลับมาที่บริษัท รู้ไหมเพราะอะไร? เพราะความเป็นจริงคนเราไม่ได้ตัดสินใจซื้อจากแค่โฆษณาไง ถ้าคุณเป็นคนไม่สูบบุหรี่ ต่อให้เราพยายามขายบุหรี่พรีเมี่ยมแค่ไหนให้ คุณก็ไม่ซื้อมันอยู่ดี คุณเป็นคนไม่อยากได้รถ เราโฆษณารถหมื่นแรงม้า
ข่าว Jack Ma ลงจากเก้าอี้ แม้ว่าได้ยินมาตั้งแต่ช่วงนี้ปีที่แล้ว แต่พอนับ Day 1 การเกษียณจริง ๆ เปลี่ยนตำแหน่งจาก CEO ไปนั่งเป็นกรรมการบริหารบริษัทแทน อาจทำให้บางคนรู้สึกใจหาย ทว่าสำหรับผู้ถือหุ้น เรื่องนี้ไม่ค่อยมีผลกระทบนัก เพราะจระเข้แห่งแยงซีรุ่นต่อไปของ Alibaba อย่าง Daniel Zhang เองก็ซ่อนเขี้ยวเล็บที่ไม่ธรรมดาไว้มากมาย ภาพเฮีย Ma ขาร็อก แสดงบนเวทีเป็นการส่งท้ายลงบัลลังก์อย่างประทับใจและมี Daniel Zhang ขึ้นมาร้องเพลงบนเวทีเป็น Extra Special ในงานฉลองครบรอบบริษัท 20 ปี ถือเป็นบทส่งท้ายของผู้ก่อตั้งที่ทั้งเท่ แหวกแนว ติดตาคนทั่วโลก LEEEEEEET'S ROCK! Sunglass-clad Jack Ma performs rock music during the Alibaba gala in Hangzhou on Tuesday. #JackMa @AlibabaGroup
ชีวิตประจำวันมันเครียด แต่เสียงหัวเราะจะช่วยเยียวยาเราได้ อยากหนีเรื่องเครียดเป็นสัญชาตญาณสากล ทำให้ “เสียงหัวเราะ” เป็นหนึ่งธุรกิจที่ขายได้ทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะกับชาติไทยเราที่เป็นชาติแห่งอารมณ์ขัน เพราะไม่ว่าสถานการณ์ไหน ทั้งวงเพื่อน วงเหล้า วงเหงา วงเครียด วงแดก หรือห้วงรัก ไทม์ไลน์ชีวิตเราต่างแทรกซึมด้วยเสียงหัวเราะเข้าไปได้เสียทุกเรื่อง ถึงแม้ว่าตอนที่เราเล่นเอง มุกจะกริบจนได้ยินเสียงลมหายใจก็ตาม ตอนที่คิดจะลุกมาเขียนบทความนี้ ต้องยอมรับว่าเขียนถึงด้วยความคิดถึงและความบังเอิญ หลังจากที่เราไม่ได้เปิดทีวีมานานแล้วดันไปเจอว่าตอนนี้ทางกลุ่มบันลือกรุ๊ปเขาบุกตลาดซิตคอมผลิต “ขายหัวเราะ On Air” ด้วยการใช้คนแสดง เกิดเป็นรายการเข้าช่องเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งที่เราเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาทุกอย่างยังเงียบสงบและอาศัย 2 ทางคือ การขายเสียงหัวเราะผ่านการ์ตูนช่องที่เป็นรูปแบบสิ่งพิมพ์บนแผงกับการขายสินค้าบนช่องทางออนไลน์ แต่เอาเข้าจริง พอเข้าไปไล่ดูจริง ๆ มันไม่ได้มีแค่นั้น อุตสาหกรรมคอนเทนต์ตลกของ “บันลือกรุ๊ป” งอกลูกหลานออกมาตบมุกเยอะแยะไปหมด และกระจายออกไปหลายแพลตฟอร์มชนิดที่เราเองก็ไม่รู้และไม่ทันสังเกตมาก่อนเหมือนกัน ซึ่งวิสัยทัศน์การขยายตัวทางธุรกิจนี้ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว การแข่งขันแม้ไม่มีคู่เทียบที่ชัดเจนและครองตำแหน่งตำนานตลกสุดคลาสสิกในตลาดมายาวนานบางคนอาจจะมองว่าสามารถเล่นแบบเพลย์เซฟไปได้เรื่อย ๆ แต่ในวันที่โลกทั้งใบโดน Disrupt โอกาสและความเป็นไปได้ที่จะเติบโตหรือคงอยู่พร้อมจะเกิดขึ้นเสมอ ทำให้ไม่มีใครยอมล้าหลังอยู่ที่เดิมสักคน ลองมาดูความดุของการลงทุนที่ไม่ใช่แค่ราคา 5 บาท 10 บาท แต่กางแขนขาโอบคลุมทั้งตลาดความฮาแบบครบวงจรกันว่ามันเป็นอย่างไร น่าสนใจแค่ไหนลองไปดู เรื่องตลกจะไปอยู่ตรงไหนได้บ้าง?
จะมีไหมคนที่ไม่เคยอกหักบนโลกใบนี้ หล่อไม่โดนทิ้ง รวยไม่โดนหลอก ? “ความรัก” มันเป็นเรื่องราวที่ไม่เข้าใครออกใคร หลายครั้งพวกเราชอบไปอิจฉาว่าคนนั้นหน้าตาดี ไอ้นี่บ้านมันมีเงิน แต่ข่าวเต็มฟีดที่เป็นกระแสมาเรื่อย ๆ แสดงให้เห็นแล้วว่าผู้ชายไม่ว่าจะมี Profile แบบไหนก็เป็นคนธรรมดาที่มีหัวใจ มีความรู้สึก ช้ำได้ ล้มเป็น ชั่วก็คนไม่ต่างกัน #พีชพชร #พีชแพท กำลังโด่งดังทั่วโซเชียล 2-3 วันนี้ มาจากเหตุการณ์ที่ “พีช พชร จิราธิวัฒน์” ลูกชายเครือเซ็นทรัลอกหักจากนักแสดงสาวแพทริเซีย กู้ด ก่อนหน้าจะออกมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง กระแสข่าวลือว่าทั้งคู่เลิกรากันมีมาสักพัก เพราะฝ่ายหญิงดันไปมีข่าวลือว่ามีสัมพันธ์กับหนุ่มใหม่ โน้ต วิเศษ แต่ตอนนั้นพีชออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าความรักยังราบรื่น ฝ่ายหญิงมีเพื่อนผู้ชายเยอะ แต่ไป ๆ มา ๆ สุดท้ายภาพหลุดไปกินข้าวรวมกับภาพวันเกิดที่ไม่มีวี่แววของพีช พชร และการ unfollow แฟนสาวของฝ่ายชายก็ทำให้สื่อกลับมาจับจ้องอีกที จนในที่สุดวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา พีชก็ออกมายอมรับว่าทุกอย่างเป็นอย่างที่เห็น ภาพ Exclusive "พีช" ฝืนไม่ไหว! ปล่อยโฮเดินกลับบ้าน【คลิป】 ภาพ Exclusive "พีช" ฝืนไม่ไหว! ปล่อยโฮเดินกลับบ้าน【คลิป】..แม้จะเข้มแข็งขนาดไหนตอนให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นสะเทือนใจ
ตอนที่เราเคยคิดจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง มีคนเคยบอกเราว่า ถ้าอยากทำธุรกิจที่ไม่ต้องกังวลเรื่องขายได้ไม่ได้ “ของกิน” นี่แหละเสี่ยงเจ๊งน้อยที่สุด เพราะยังไงคนก็ต้องกิน ถ้าเทียบกับของสิ้นเปลืองอื่นที่จะใช้ก็ได้ไม่ใช้ก็ได้ เศรษฐกิจฝืด ๆ แบบนี้ เรื่องกินยังเป็นเรื่องใหญ่ที่เรายอมจ่าย หลังจากออกไปทำงานเยอะ ๆ เข้า มีโอกาสเจอคนในวงการอาหารจริง ๆ แล้วพูดคุยกัน ความจริงที่เห็นมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะการแข่งขันสูง คนก็เอาใจยากขึ้นเยอะ เราเลยเปลี่ยนใจหันหลังให้กับการจับตะหลิวมากอดคีย์บอร์ดแทน มองความเปลี่ยนไปของวงการอาหารจากมุมนอกและทำเรื่องที่ถนัดกว่าอย่างการสั่งมากิน แต่ถ้าวันนี้มีใครสักคนถามเราว่า วงการอาหารยังมีที่ว่างเหลือไหม เราจะพูดว่า “มี” ถ้าคุณเตรียมตอบโจทย์การตั้งคำถามที่ว่า “แล้วเราจะได้อะไร?” จากฝั่งลูกค้าได้มากขึ้นหรือดีกว่าจากสิ่งที่ทั่วโลกกำลังทำอยู่ตอนนี้ และนี่คือคำตอบของนักธุรกิจที่เรารวบรวมมาให้ ทั้งแบบที่เกี่ยวข้องแบบร้านอาหารโดยตรงและคนที่ไม่ได้ลุกขึ้นมาปรุงอาหารเองแต่ก็ขอมีเอี่ยวกับสายนี้ด้วยคน ดังต่อไปนี้ “หิว” แต่ไม่รู้จะกินอะไร ร้านอาหารดี ๆ มีเยอะ อยู่ในตรอกซอกซอยเต็มไปหมด แค่เฉพาะในเมืองหลวงกรุงเทพฯ ยังมีหลายร้านที่เราไม่เคยไปสักครั้งหรืออาจจะไม่โดดเด่นเท่าแบรนด์ดัง วิธีการที่ดีที่สุดที่หลายคนทำคือวิ่งเข้าหน้า Feed และโฆษณาอย่างมีชั้นเชิง หนึ่งในวิธีเรียกร้องความสนใจไปให้คนหิวก็คือการไปเคาะหน้าตาจอถึงที่ เช่นเดียวกับที่ร้านขายเบอร์เกอร์ในต่างประเทศอย่าง Wendy ใช้ คือการโปรโมตร้านผ่านเกม Fornite เกมต่อสู้ยอดนิยม โดยสร้างตัวละครคาแรกเตอร์หญิงเข้าไปทำลายตู้แช่แข็งเบอร์เกอร์ เพราะ Wendy ที่ทนไม่ได้กับการแช่แข็ง
อุตสาหกรรมจอแก้วที่เคยรุ่งเรืองในตลาดสื่อสารมวลชนไทยยุคหนึ่ง วันนี้มีแต่ข่าวดับจอเหมือนเป่าเทียนวันเกิดกันเป็นแถว เรื่องนี้ไม่มีข้อยกเว้นไม่ว่าจะเป็นหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ เพราะเราเห็นปรากฏการณ์ถอยทัพมาเป็นระลอกเรื่อย ๆ ทั้งช่องหลักที่ออกลูกออกหลานมา และช่องหน้าใหม่ทั้งหลายที่ต้องการทางเลือกที่ดีกว่า แน่นอนว่าตามข่าวเขาบอกว่ามีทั้งหมด 7 ช่องที่จะต้องลาจอไป 3 ช่องคือช่องสื่อที่เป็นข่าว แต่เหตุผลที่เราเลือกหนึ่งในช่องสื่อสารมวลชนอย่างช่องของ Bright TV มานั่งโขลกเรื่องธุรกิจออกมานั้น เพราะมองแล้วว่าแนวทางของเขาค่อนข้างน่าสนใจ เป็นช่องเล็กเหงา ๆ ที่ฝ่าฟัน เติบโต ปิดตัว แต่ไม่ยอมแพ้โดดไปเล่นสายใหม่ที่ไม่คุ้นเคยและตอนนี้ก็เกิดใหม่ในอีกเส้นทางเรียบร้อยแล้ว กำเนิด BRIGHT TV แม้คุณอาจจะไม่รู้จักหรือเพิ่มเรตติ้งให้ช่องนี้เท่าไหร่ แต่จะประมาทความเล็กที่กล้าโดดเข้ามาประมูลช่องแบบนี้ไม่ได้ อันที่จริงทีมไบรท์ไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ของสาขาโทรทัศน์ แต่บริษัท ไบรท์ทีวี จำกัด ในชื่อ บริษัท 3 เอ มาร์เก็ตติ้ง มีประสบการณ์ในการผลิตรายการให้กับ ททบ. 5 มายาวนานตั้งแต่ยุคแอนะล็อก ไม่ว่าจะเป็นรายการ ข่าว 5 หน้า 1, บันเทิง 5 หน้า 1 และ Gossip บันเทิง 5 จึงถือเป็นบริษัทของคนสื่อมากประสบการณ์ผลิตรายการเดิมที่ต้องการออกมาจับจองอาณาจักรเป็นของตัวเอง
วันก่อนเราเห็นบทความจากเพจลงทุนแมน สรุปราคาค่าออกแบบโลโก้แบรนด์ดังสนนราคาหลายหลัก รู้สึกทึ่งทั้งงานและราคา เชื่อว่าพ่อแม่คนไหนผ่านมาเห็นและมีลูกเป็นกราฟิกจะต้องยิ้มภูมิใจอย่างแน่นอน ยกเว้น Microsoft กับ CocaCola ไว้สัก 2 แบรนด์เพราะเขาคิดราคาจ่ายไปพร้อมเงินเดือนแล้ว ส่วนโลโก้ Nike ราคานักศึกษาอันนั้นก็คงไม่ต้องพูดถึง ราคาสุดโหดที่จบด้วยงานมินิมัลเหล่านี้ ไม่มีอะไรเป็นบรรทัดฐานตายตัว อยู่ที่ความพอใจกับฝีมือล้วน แน่นอนว่าเบื้องหลังอาจจะมีแนวคิดอัดแน่นกว่าที่เห็นแต่ถ้าไม่เปิดเผยใครจะรู้? แถม “ความสวย” “ความเท่” เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทำให้เกิดช่องว่างราคามหาศาล ในตลาดเลยมีคนออกแบบงานได้ราคาแสนถูกและแพงให้เลือกตามความพอใจ ที่สำคัญวันนี้ยังมี AI เข้ามาเป็นทางเลือกสุดถูกเพิ่มให้อีกตัวด้วย! BRANDCROWD เป็นเว็บไซต์บริการออกแบบโลโก้ที่ใช้ AI ประมวลผลในพริบตาและเคลมว่าตัวเองก็อยู่ท็อป ๆ ของการออกแบบโลโก้เพื่อสร้างแบรนด์ครบวงจร คุณแค่คิดและลงมือพิมพ์ระบุสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่การออกแบบส่วนที่เหลือที่เกี่ยวข้องกับการใช้โลโก้เขาจะเตรียม Artwork พร้อมใช้ให้ได้ทุกส่วน บทความนี้ไม่เหมาะแก่การทุ่มเถียงเอาเป็นเอาตาย ด่า AI ไปก็ใช่เรื่อง เชิญพิสูจน์ความสามารถมันด้วยตาตัวเองแบบเดียวกับเราดีกว่า ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 10 นาทีก็ได้โลโก้มาใช้งานแล้ว จากที่เข้าไปใช้ด้วยตัวเอง มันฉลาดกว่าที่คิดและเว็บไซต์นี้ประเมินผลไว และนี่คือ Tutorial เบา ๆ แนะนำการใช้ที่ยืนยันว่ามันง่ายจริงว่ะคุณ 1. พิมพ์ชื่อแบรนด์ที่ต้องการทำ
สงคราม กระสุนยาง ลูกตา เลือด ชุมนุม บอยคอตสินค้า และการปิดสนามบิน ข่าวที่วนเวียนตลอดหลายเดือนของฮ่องกงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วง 2 วันนี้ที่ทั่วโลกกำลังจับตามองความรุนแรงที่เกิดขึ้น ลุกลามไร้การยับยั้งถึงขนาดมีคนกล่าวว่า “ฮ่องกง” อาจเป็นเวทีของสงครามโลกครั้งที่ 3 ของมหาอำนาจ ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ข้อยุติจบลงที่ตรงไหน ใครบ้างที่ถูกพาดพิงว่าเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ก่อนเหตุการณ์จะคลี่คลาย UNLOCKMEN ขอสรุปสถานการณ์โลกสั้น ๆ มาให้ทำความเข้าใจกัน ชนวนปิดสนามบิน เริ่มจากความตายของหญิงสาว กว่าการลุกฮือของประชากรชาวฮ่องกงจะดำเนินมาถึงตรงนี้ ไม้ขีดก้านแรกที่จุดขึ้นมา เริ่มต้นจากคดีคู่รักชาวฮ่องกงที่เดินทางไปประเทศไต้หวัน ตามข่าวกล่าวว่าฝ่ายชายวัย 19 ปีฆาตกรรมแฟนสาวที่กำลังท้องในแผ่นดินไต้หวันแล้วตัวเองบินกลับฮ่องกง ด้วยความที่ไต้หวันและฮ่องกงรวมทั้งจีนไม่มีการร่างกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน คดีสะเทือนใจนี้จึงไม่สามารถดำเนินคดีได้ ไม่มีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน จึงไม่มีคนผิดต้องรับโทษ หญิงสาวผู้น่าสงสารจบชีวิตลงแสนเศร้า ทว่าเรื่องสะเทือนขวัญนี้กลายเป็นต้นทางของความขัดแย้งทันทีที่ Carrie Lam ผู้บริหารสูงสุดเกาะฮ่องกงลุกมาผลักดัน “ออกร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อมีข้อต้องสงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดทางอาญา ไปรับการพิจารณาคดีที่จีนแผ่นดินใหญ่ได้ (Fugitive Offenders and Mutual Legal Assistance in Criminal Matters Legislation