หลังจากมีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ว่า Virgil Abloh ผู้กุมบังเหียนงานออกแบบเสื้อผ้าแผนก Menswaer จากห้องเสื้อสุดหรูอย่าง Louis Viutton กำลังมีแผนจะร่วมงานแบรนด์ Retail ยักษ์ใหญ่สัญชาติสวีเดนอย่าง IKEA เพื่อออกแบบสินค้าร่วมกันมาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ความคืบหน้าล่าสุดตอนนี้พวกเขาได้เปิดตัว Pop-up Store ของ Virgil Abloh x IKEA แห่งแรกขึ้นเพื่อใช้แสดงงานที่อยู่ในคอลเลกชันล่าสุด “markerrad” โดยเป้าหมายแรกคือมหานครปารีส “STILL LOADING“ คือชื่อของ Pop-up Store แห่งแรกที่ Virgil Abloh และ Henrik Most ซึ่งเป็นทั้ง Creative Leader ของ IKEA และ Project Partner เป็นผู้กำหนดขึ้น โดยเลือกจะแปลงโฉมไนท์คลับชื่อดังใจกลางเมืองปารีส Nuits Faives เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดแสดง โดยคอนเซ็ปต์ของมันถูกเล่าจากปาก Virgil Abloh ว่า “เราพยายามจับกลุ่มคนที่ต้องการตกแต่งบ้าน โดยมีโจทย์ว่าต้องการบ้านที่มาจากตัวตนของตัวเองและมีความแตกต่างจากบ้านทั่วไป เพราะคนส่วนใหญ่มักเติบโตมาจากบ้านซึ่งมีสภาพแวดล้อมมาจากความคิดและความต้องของพ่อแม่หรือคนอื่น เราเลยตั้งใจออกแบบผลงานออกมาเพื่อเอาใจคนที่มองหาสิ่งใหม่ รับรองว่าทันทีที่เห็น ทุกคนจะอยากซื้อมันกลับบ้านในทันที “ ภายใน Pop-Up ประกอบไปด้วยชุดพรมสไตล์โมเดิร์นซึ่งเราเคยเห็นกันมาแล้ว แต่รอบนี้เราจะได้ทราบถึงเรทราคาของมันด้วย โดยพรมสีดำมาพร้อมกับคำว่า “GREY” ราคา 129
ดูเหมือนจะเป็นปีที่ร้อนแรงสำหรับค่ายรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมนีอย่าง Porsche หลังปล่อยรถรุ่นงาม ๆ ออกมามากมายเพื่อเอาใจแฟน ๆ Porsche Hardcore อย่างเช่น Project 993 Turbo S Classic Series และล่าสุดพวกเขาได้รื้อฟื้นอีกหนึ่งตำนานของค่ายเจ้าของฉายา “Moby Dick” อย่าง Porsche 935 กลับมาอีกครั้งโดยโอกาสพิเศษนี้จะผลิตออกมาเพียง 77 คันเท่านั้น หลายคนอาจคิดว่า Porsche คงให้ความสำคัญแค่กับรถโมเดลในตำนานอย่าง 911 หรือรูปแบบแห่งอนาคตอย่าง Taycan เท่านั้น แต่ในครั้งนี้กลับต่างกันออกไป Porsche 935 เองก็เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของการก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทผลิตรถยนต์แถวหน้าของวงการในปัจจุบันเช่นกัน เพราะชื่อเล่น Moby Dick ของมันได้มาจากการโชว์ศักยภาพจนสามารถคว้าแชมป์ Lemans ในปี 1978 มาได้ แม้ไม่นานหลังจากนั้นจะหมดยุคของมันและต้องย้ายเข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ก็ตามที แต่หลายคนก็ยังจดจำความเจ๋งของมันได้เสมอ จนทำให้ 935 ถูกนำกลับมาอีกครั้ง แม้ครั้งนี้จะเป็นการสร้างมาเพื่อใช้ในสนามแข่งอย่างเดียวก็ตาม แม้เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราจะไม่ได้เห็น Porsche 935 มาโลดแล่นอยู่บนถนนปกติ เพราะ Porsche
กลับมาอีกครั้งสำหรับการร่วมมือกันระหว่างโคตรแบรนด์สตรีทอย่าง Supreme และเจ้าพ่อแบรนด์กีฬาอย่าง NIKE หลังทั้งสองได้ปล่อย Collaboration ชุดล่าสุดออกมาให้เราได้ยลโฉมกันในชุด SUPREME x NIKE FW2018 Collection ซึ่งคงจะถูกใจเหล่าแฟนเดนตายที่หลงใหลใน Vintage Sportswear ไม่มากก็น้อย เพราะผลงานชุดล่าสุดนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นเสื้อผ้ายุค 90’s ที่อัดแน่นเอาไว้เต็มเปี่ยม Retro 90’s Styles จุดเด่นของคอลเลกชันคือการดึงเอาเสน่ห์ของเสื้อผ้า Vintage Sportswear ย้อนยุคให้กลับมาโลดแล่นอยู่บนรันเวย์แฟชั่นยุคปัจจุบันอีกครั้งตามกระแสนิยม ไม่ว่าจะเป็น Jacket, Vest, Hooded Sweatshirt, Crewneck, Jacquard Polo ไม่เพียงแค่นั้น Nike ยังหยิบเอา Retro Swoosh ดั้งเดิมของแบรนด์ที่เคยใช้มาตั้งแต่ปี 1978 กลับมาอีกครั้ง เมื่อทั้งสองอย่างมารวมกันทำให้เสื้อผ้า Collection นี้ทวีคูณความคลาสสิกขึ้นเป็นเท่าตัว ถ่ายทอดผ่าน 4 โทนสีหลักได้แก่ Maroon, Yellow, Navy และ Black ซึ่งแต่ละชุดจะออกมาถูกใจผู้ชายอย่างเราแค่ไหนไปดูกัน Work Jacket
ดูเหมือนตลาดรถกระบะกำลังหาไอเดียแข่งขันใหม่ ๆ กันอยู่ หลายคนอาจจะเบื่อเรื่องสมรรถนะความแข็งแกร่งและสวยงามกันแล้ว เรื่องของการตกแต่งและฟังก์ชันการใช้งานภายในจึงเป็นอีกประเด็นที่ค่ายรถยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ เริ่มให้ความสำคัญกันมากขึ้น ล่าสุด Nissan ได้พัฒนารถกระบะรุ่นท็อปของค่ายอย่าง NISSAN TITAN 2019 และตามข่าวบอกว่าจะแปลงโฉมใหม่ทั้งหมดแถมยังเพิ่มชุดเครื่องเสียงพิเศษจาก Fender ไว้ในตัวรถเพื่อเพิ่มสุนทรียะด้านการฟังเพลงให้กับผู้ขับขี่อีกด้วย NISSAN TITAN 2019 ถูกคาดหวังว่าจะเป็นการกลับมาสมบูรณ์แบบมากขึ้น จากเดิมที่ได้รับเสียงตอบรับไม่เลวอยู่แล้ว ด้านขุมกำลัง TITAN 2019 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.6 ลิตร ที่จะให้สมรรถนะกว่า 390 แรงม้า พร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติ 7-Speed ซึ่งสามารถสั่งการได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อ รูปลักษณ์ภายนอกอาจจะไม่ต่างจากเดิมมาก มีการเปลี่ยนแปลงโดยตัดในจุดที่ไม่จำเป็นออกไป และเสริมส่วนใหม่ที่ดีกว่าเข้ามาทดแทน ส่วนภายในตัวรถจะมาพร้อมเบาะโดยสารหุ้มด้วยหนังแท้ แต่ที่พีคสุดคือเครื่องเสียง จุดที่ค่ายผลิตรถกระบะส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจ จะทำการยกชุดใหม่โดยได้รับความร่วมมือจาก Panasonic และ Fender ในชื่อ FENDER PREMIUM AUDIO SYSTEMS เพื่อเอาใจผู้ใช้งานที่ชื่นชอบเสียงเพลงเป็นพิเศษ Fender เป็นชื่อที่ผู้ชายหลายคนรู้จักกันดีโดยเฉพาะในแวดวงดนตรี ต่างรู้กันดีว่าพวกเขาคือมืออาชีพเรื่องการผลิตกีตาร์และเครื่องขยายเสียง ก่อนหน้านี้ Fender
งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข อาจฟังดูง่ายๆ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วมันเป็นคำที่ค่อนข้างไกลตัวสำหรับผู้ชายหลายคน เพราะมีความเป็นไปได้น้อยมากหากชีวิตเราจะมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักไปด้วย หาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวไปด้วยพร้อมกัน แต่สำหรับผู้ชายชื่อ สุทธิพงษ์ ธีติปริวัติร์ หรือที่หลายคนเรียกกันว่า หมอโดม แห่ง Dogtor Garage คงเป็นข้อยกเว้น เพราะนับตั้งแต่เขาหันเหออกจากอาชีพสายสัตวแพทย์มาสู่การเป็นนักซ่อม ดัดแปลง และคืนชีพรถคลาสสิก นับแต่นั้นเขากลายเป็นคนที่ได้ทำอาชีพซึ่งมีพื้นฐานมาจากความหลงใหลส่วนตัวพร้อมกับเลี้ยงปากท้องไปพร้อมกัน ถือเป็นความสุขที่เป็นมากกว่าช่างซ่อมรถยนต์ทั่วไป แต่อะไรที่ทำให้เขาตัดสินใจละทิ้งรูปแบบการใช้ชีวิตที่สังคมยอมรับว่าเป็นเส้นทางความมั่นคง สู่จุดหมายใหม่ที่ระหว่างทางมีความเสี่ยงมากกว่า วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เหมือนผู้ชายส่วนใหญ่ ความรักรถยนต์เกิดขึ้นตั้งแต่ยังเด็ก “จริงๆ ตั้งแต่จำความได้ เราก็รู้สึกชอบรถคลาสสิกมาตั้งนานแล้วครับ ส่วนหนึ่งเพราะเราใช้ชีวิตอยู่กับมันโดยที่เราไม่รู้ตัว เริ่มเล่นมาตั้งแต่รถจักรยานตั้งแต่สมัยเด็กแล้วมันก็ค่อยๆ ผ่านทุกมุมของคนเล่นรถเก่ามาเรื่อย ๆ เริ่มจากความชื่นชอบโดยที่ยังไม่ต้องลงทุนอะไร ขยับมาเป็น User และเปลี่ยนจาก User มาเป็นพ่อค้า กระทั่งวิวัฒนาการมาถึงการทำรถด้วยตัวเอง มาสู่การผลิตรายการ TV ที่เกี่ยวข้องกับรถคลาสสิกเหมือนอย่างในปัจจุบัน” เสน่ห์ของรถคลาสสิก ที่ส่งหมอโดมเข้ามาบนเส้นทางนี้ “สำหรับผมเสน่ห์ของมันคือความแตกต่าง รถคลาสสิกคือตัวแทนการบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของยุคสมัยนั้น ๆ ซึ่งมีทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตัวรถ กระทั่งเรื่องราววัฒนธรรมสะท้อนสิ่งต่าง ๆ
อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่า ชีวิตนั้นไม่ได้มีแค่ด้านเดียว ยิ่งเป็นวิถีชีวิตของ Urban Men ที่ดำรงอยู่ท่ามกลางการผสมผสานของรูปแบบทางสังคมและวัฒนธรรมในเมืองใหญ่อันหลากหลาย รวมถึงการมีเป้าหมายในชีวิตที่ท้าทาย ทำให้มิติชีวิตที่ซับซ้อน ได้ถูกสะท้อนออกมาเป็นไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างอย่างสุดขั้ว แต่ภายใต้ความแตกต่างหลากหลายนั้นยังมีแกนหลักที่ยึดโยงทุกความต่างเอาไว้ให้เกิดเป็นจุดร่วมเดียวกัน นั่นก็คือความต้องการของเหล่า Urban Men ในปัจจุบัน ที่เปลี่ยนมุมมองของเป้าหมายในชีวิตใหม่ โดยไม่ได้โฟกัสเพียงแค่เรื่องหน้าที่การงานหรือความมั่งคั่งเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตแบบเต็มที่ ใส่สุด ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเรื่องเล่น หรือเรื่องจริงจัง ทุ่มเททำงานหนักหน่วงแค่ไหน ในวันพักผ่อนก็ต้องจัดเต็มไม่แพ้กัน และถ้าจะหาคำมาจำกัดความมุมมองการใช้ชีวิตของเหล่า Urban Men ในยุคนี้ คำที่เหมาะสมที่สุดคงจะเป็นคำไหนไปไม่ได้นอกจากคำว่า “Hype” ที่ส่วนใหญ่น่าจะคุ้นหูกันในวงการ Sneakers รวมถึงวงการแฟชั่นทั้งหลาย ถึงเรื่องราวของความ Hype หากได้ไอเทมเจ๋ง ๆ มาครอบครอง ซึ่งความหมายที่แท้จริงตรงตัวของคำว่า Hype ในภาษาไทยนั้นเราอาจจะเจาะจงลงไปได้ไม่ชัดเจน แต่มันมักจะถูกนำมาสื่อถึงสิ่งที่น่าตื่นเต้น สิ่งที่โคตรเจ๋ง โดดเด่น และมีความพิเศษสุด ๆ ด้วยเหตุนี้ คำว่า Hype จึงไม่ใช่แค่คำระบุสรรพคุณความสุดยอดของเสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ เพียงอย่างเดียว แต่มันสามารถสื่อถึงรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ โดดเด่น และเป็นที่สุดในทุกด้าน
ผ่านไปสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับงาน NBA Hall of Fame 2018 ซึ่งปีนี้มีอดีตผู้เล่นชื่อดังมากมายถูกรับเลือกให้เข้าสู่หอเกียรติยศ ไม่ว่าจะเป็นยอดการ์ดจ่ายอย่าง Steve Nash กับ Jason Kidd รวมไปถึงมือปืนระดับตำนานอย่าง Ray Allen ซึ่งดูจะพิเศษกว่าคนอื่นเมื่อได้เข้าทั้งหอเกียรติยศ แถมยังมีชุดของขวัญพิเศษหนึ่งเดียวจาก Air Jordan แบรนด์รองเท้าที่เขาใส่สมัยเป็นผู้เล่นให้อีกด้วย อดีตสตาร์ดังของวงการยัดห่วงจงรักภักดีต่อ Air Jordan เป็นอย่างมาก ไม่เคยเปลี่ยนยี่ห้อรองเท้าเลยตลอดระยะเวลาที่เล่นอยู่ในลีก โดยในยุคแรกเขาเป็น 1ใน 5 ผู้เล่นที่ถูก Michael Jordan เลือกให้ใส่รองเท้าของแบรนด์และประสบความสำเร็จมากมาย ได้แชมป์ NBA 2 สมัยปี 2008 และ 2013 ติดทีม All-Star 10 สมัย และทำลายสถิติการยิง 3 แต้มอีกมากมาย ซึ่งมันเป็นเหมือน Signature ส่วนตัวในสมัยโลดแล่นอยู่บนสนาม ทำให้ Air Jordan ตอบแทนความภักดีของเขาด้วยชุดรองเท้า
ถ้าพูดถึง New York Yankees ภาพแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวผู้ชายอย่างเราคงจะเป็นหมวกเบสบอลทรงกลมกับสัญลักษณ์ตัว NY วางเด่นไว้กลางหมวกมากกว่าจะพูดถึงทีมเบสบอล รวมถึงเสื้อผ้าแฟชั่นของเค้าก็ถือว่าเด็ดไม่แพ้ใคร วันนี้ Yankees Logo กำลังกลับมาอีกครั้งพร้อมการร่วมงานกับแบรนด์หรูอย่าง Gucci แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น อะไรกันที่ทำให้โลโก้ตัวแทนทีมกีฬากลายมาเป็น Pop-culture ในยุคสมัยหนึ่ง แถมยังสอดแทรกอยู่ไลน์แฟชั่นตลอดมา เราจะเริ่มจาก Background ตรงนี้สักเล็กน้อย เพราะถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แรกเริ่มสัญลักษณ์ N และ Y ที่เราเห็นกันจนชินตาไม่ได้ถูกวางทับกันเอาไว้ แต่มันถูกวางแยกกัน โดยเดิมทีสัญลักษณ์ Yankees Logo ที่เราเห็นกันในปัจจุบันถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเหรียญเกียรติยศในช่วงปี 1877 ออกแบบโดยบริษัท Tiffany and Co ถูกเรียกในชื่อ The Medel of Valor เพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ John McDowell NYPD ผู้โดนยิงในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ทำให้ชาวนิวยอร์กต่างสนใจและเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกคนคุ้นตากับสัญลักษณ์นี้ แต่ New York Yankees ก็ไม่ได้นำรูปแบบดังกล่าวมาเป็นตราสโมสรในทันทีจนเมื่อในปี 1909 Bill Devery เจ้าของทีมร่วมของ New York
ปี 2000-2011 ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง FORD และ Harley Davidson เคยร่วมมือกันผลิตรถกระบะออกมาโดยใช้รถโมเดลรุ่น Ford F-150 เป็นวัตถุดิบหลัก แต่ภายนอกได้แรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซต์รุ่นยอดนิยมอย่าง Harley Davidson Fat-Boy ซึ่งในเวลานั้นรูปลักษณ์ดุดันของมันทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชายที่ชื่นชอบ Premium Truck หลังจากหายไปนานกว่า 8 ปี วันนี้ Harley Davidson ก็อยากจะหวนคืนมันให้กลับมาอีกครั้งในปี 2019 ที่จะมาถึง วนมาครบรอบวันเกิด 115 ปี ยักษ์ใหญ่ของวงการ 2 ล้ออย่าง Harley Davidson พวกเขามีความคิดจะจัดแสดงพาหนะทั้งหมดที่เคยผลิตมาในพิพิธภัณฑ์ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Milwaukee, รัฐ Wisconsin ที่เดียวกับสำนักงานใหญ่ โดยหนึ่งในนั้นคือ Ford F-150 Harley Davidson Edition ทว่ารถโมเดล F-150 ในครั้งนี้จะไม่ได้ถูกผลิตโดย Ford แต่ได้รับความร่วมมือกับ Tuscany Motor Co บริษัทผู้เชี่ยวชาญการผลิตรถยนต์
แบรนด์จะเติบโตเมื่อถูกจดจำ การออกแบบโลโก้จึงเรื่องแรก ๆ ที่ทุกแบรนด์ให้ความสำคัญ เพราะมันจะแปะบนสิ่งของทุกชิ้นเพื่อยืนยันตัวตนของแบรนด์นั้นและคล้ายเป็นการ QC คุณภาพกลาย ๆ จนทำให้โลโก้ได้รับการมองว่าเป็นของสูงเกินกว่าจะนำลงมาเล่นได้ แต่ Taku Omura นักออกแบบอารมณ์ดี creativity ครบเครื่อง พร้อมอารมณ์ขัน ได้นำเสนอสิ่งใหม่จากโลโก้แบรนด์ที่เรามองแล้วเห็นว่าน่าสนใจ เพราะเขาหยิบโลโก้ลงมาสร้างเป็นโปรดักส์เสียเอง แถมไม่น่าเชื่อว่ามันยังทำออกมาแล้วยังฟังก์ชันเหลือเชื่อ น่าหยิบมาใช้เสียจริง ๆ ลองมาดูกันว่าเขาจับโลโก้ไหนมาเล่นบ้าง แล้วเราคิดว่าชิ้นไหนเฉียบ น่าใช้ที่สุด? ADIDAS McDonald’s PlayStation® Adobe Creative Cloud HONDA Nike Louis Vuitton Toy R Us Twitter เราเชื่อว่าการเล่นสนุกของ Taku Omura ครั้งนี้คงไม่ทำให้เจ้าของแบรนด์โกรธ แต่อาจเปิดโลกทัศน์เพิ่มไอเดียการสร้าง souvenir ของแบรนด์ทำให้จดจำได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต ก็เล่นมาอยู่ใกล้กันบนโต๊ะทำงานหรือตู้เสื้อผ้าขนาดนี้ ใครล่ะจะลืมลงว่าไหม?