ในค่ำคืนดึกสงัด ขณะที่คนอื่นกำลังหลับไหล และบางคู่กำลังระเริงรักอันเร่าร้อนบนเตียงนอน เสียงแห่งความน่าสงสัยด้านนอกปลุกให้ทั้ง Derek และ Danny พี่น้องต้องหยุดภารกิจทุกอย่าง เพื่อออกมาพบแก๊งทรชนผิวดำที่กำลังจะขโมยรถของเขา Derek พี่ชายที่อยู่ในขุดกางเกงบ็อกเซอร์สีขาวเพียงตัวเดียว กับท่อนบนอันเปลือยเปล่าเผยให้เห็นรอยสักสัญลักษณ์สวัสดิกะตรงอกข้างซ้าย เขามาพร้อมปืนพกคู่ใจ จัดการยิงโจรผู้เคราะห์ร้ายจนหมดแม็ก และ 1 ใน 3 นอนหายใจรวยรินอยู่หน้าบ้าน Derek สั่งให้ชายผิวดำคนนั้นเอาปากแนบกับฟุตบาท ชายผู้นั้นยอมทำตามแต่โดยดี แต่ในเสี้ยววินาทีต่อมา Derek ได้จัดการกระทืบหน้าอย่างไม่ยั้ง ชายผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นตายคาที Derek ถูกตำรวจจับกุมทันที สีหน้าของเขาไม่ได้รู้สึกรู้สาถึงความผิดที่เขาได้ก่อเอาไว้ ตรงกันข้ามเขากลับสะใจที่ได้ส่งพวกไอ้มืดตายอย่างสาสมใจ นี่คือซีนหนึ่งในหนัง American History X ที่เล่าเรื่องเพียงไม่กี่นาที แต่กลับสร้างความช็อคให้กับผู้ชมที่ได้ชมหนังเรื่องนี้อย่างจัง ฉากๆนี้ได้รับการกล่าวถึงในวงกว้างในฐานะหนังที่เล่าเรื่องราวของ “นีโอ-นาซี” ได้อย่างทรงพลัง ขณะเดียวกันก็อธิบายความเกลียดชังของคนๆหนึ่งที่มีต่อการเหยียดสีผิวได้เป็นอย่างดี แต่ภายใต้ความรุนแรงนี้ มีหลายสิ่งที่พลิกผัน ที่นำไปสู่เรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพี่น้องคู่นี้ไปตลอดกาล เรามาทำความรู้จักกับวายร้ายในคราบนีโอ-นาซี ที่ความรุนแรงได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาจากขาวเป็นดำ จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในวายร้ายที่ใช้ความเกลียดชังทำลายทุกอย่างให้พินาศในพริบตา…Derek Vinyard American History X รายงานหัวข้อเลือด 3 ปีต่อมา…Danny น้องชายของ Derek
เพราะกีฬาบาสเก็ตบอล ไม่เพียงต้องใช้พละกำลัง หรือทีมเวิร์คในการช่วงชิงลูกบาสจากคู่แข่งเท่านั้น ท่วงลีลาในการเลี้ยงลูกหรือยัดห่วงก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะเป็นตัวชี้วัดความเป็นสตาร์ในสนามได้มากน้อยแค่ไหน จึงไม่แปลกที่วงการหนังจะคว้าเหล่าซุเปอร์สตาร์นักยัดห่วงเหล่านั้นมาโลดแล่นบนจอเงิน ซึ่งก็มีทั้งแจ้งเกิดในวงการ และแจ้งดับในวงการเช่นกัน UNLOCKMEN จึงรวบรวมเหล่านักกีฬายัดห่วงที่โลดแล่นบนจอเงิน เพื่อต้อนรับการมาของหนังภาคต่อในตำนาน Space Jam: A New Legacy มาดูกันว่าใครปังใครแป๊กในวงการหนังกันบ้าง Michael Jordan – Space Jam (1996) เริ่มต้นด้วยนักบาสระดับคลาสสิค ดาวเด่นแห่งทีม Chicago Bulls ที่โดดเด้งในยุค 80s-90s ที่นอกจากผลักดันให้กีฬาบาสเก็ตบอล กลายเป็นกีฬาสุดฮิปส์ที่ใครต่อใครอยากจะมีลีลาการยัดห่วงให้เท่เท่ากับ Jordan แล้ว ในด้านวงการบันเทิง Michael Jordan ก็คว้าทุกโอกาสที่พุ่งเข้ามาหา ตั้งแต่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ตั้งแต่รองเท้ากีฬา ไปยันน้ำอัดลมชื่อดัง จนมีรุ่นรองเท้าเป็นของตัวเอง ไปจนถึงการเป็นนักร้อง มีเหรอที่วงการหนังจะไม่คว้าเขามาแสดง แถมหนังยังพิเศษด้วยการจับเขาต้องเล่นร่วมกับตัวการ์ตูนอีกด้วย และ Space Jam คือบทบันทึกถึงความโด่งดังที่อยู่ในช่วงเวลาที่พีคสุดของ Jordan เรื่องราวของนักบาสมืออาชีพที่ทะลุมิติไปช่วยเพื่อนตัวการ์ตูนแข่งกีฬายัดห่วงกับมนุษย์ต่างดาวนี้ ฉายความเป็นสตาร์ของตัว Jordan ได้อย่างลงตัว แม้ว่าหนังจะคราคร่ำไปด้วยคาแรคเตอร์สุดวายป่วงจาก Looney
ย้อนไปเมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 11 กันยายน ปี 2001 ตามเวลาท้องถิ่น ในช่วงเวลาเร่งรีบของการทำงานตอนเช้าของมหานครนิวยอร์ค จู่ ๆ ก็มีเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นต่อหน้าสายตาของผู้คนนับหมื่น เมื่อเครื่องบินพานิชย์ลำหนึ่งบินพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ฝั่งเหนือจนระเบิดคาตา ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง และเสียงตกใจจากผู้คนมากมายที่แทบไม่เชื่อสายตา และไม่ทันที่จะได้สรุปว่าเกิดเหตุอะไร เครื่องบินลำที่สองก็พุ่งเข้าชนตึกอีกฝั่งจนถล่มลงมา และในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา จบตำนานตึกที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งอเมริกันชนที่เป็นศูนย์กลางแห่งธุรกิจในชั่วพริบตา นอกจากนั้นอาคารแพนตาก้อนก็เสียหายจากการเหตุเครื่องบินพุ่งชนเช่นกัน ท่ามกลางความเศร้าสลดหดหู่ นำมาสู่บทสรุปแห่งโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ จากน้ำมือของผู้ก่อการร้ายที่มุ่งหวังจะสร้างสถานการณ์ที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์จำนวน 2,977 ราย กลายเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่โหดร้ายที่สุดในยุคปัจจุบัน และในปี 2021 นี้ เหตุการณ์โศกนาฎกรรม 9/11 มีอายุครบรอบ 20 ปี ตลอดช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา มีหนัง และสารคดีมากมาย ที่ตีแผ่เรื่องราวความเลวร้ายของเหตุวินาศกรรมนี้ เรามารำลึกช่วงเวลานี้ผ่านเรื่องราวสุดสะเทือนใจบนจอร่วมกันอีกครั้ง World Trade Center (2006) แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง ที่บันทึกวีรกรรมความกล้าหาญ ของ 2 ตำรวจผู้เสียสละเข้าไปช่วยชีวิตคนในตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ก่อนช่วงเวลาที่ตึกถล่ม จนพวกเขาต้องอยู่ในซากปรักหักพังที่สุดแสนอันตรายและสิ้นหวัง Oliver Stone ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์จาก
วันนี้แม้แต่ Wong Kar Wai ยังเตรียมเปิดตัวผลงาน NFT ชิ้นแรก Unseen Footage จากภาพยนตร์สุดเหงา “In The Mood For Love” ซึ่งยังไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน การประมูล Unseen Footage ของ “In The Mood For Love – Day One” ความยาวประมาณ 91 วินาที เนื้อหาทั้งหมดเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกในวันแรกของการถ่ายทำภาพยนตร์ Classic Romantic Drama ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเทศกาล Cannes Film Festival ปี 2000 เป็นภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้กำกับสุดอาร์ทคนนี้มากที่สุดเรื่องนึง และถูกโหวตโดยคนดูว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดอันดับที่ 2 ของ Wong Kar Wai การประมูลครั้งนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง Wong Kar Wai และ Sotheby’s ในการนำ
ช่วงนี้เหมือนอากาศไม่ค่อยเต็มใจ นอกจากเราอยู่บ้าน WFH กันแทบไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันแล้ว ฝนยังตกแทบทุกวันให้อารมณ์เราขุ่นมัวเข้าไปอีก UNLOCKMEN ไม่อยากให้คุณเหงาและเดียวดาย จึงจัด Playlist บทเพลงเกี่ยวกับฝนมาให้ฟังกัน โดยเราคัดเลือกเฉพาะวงร็อคเพื่อนำความร้อนแรงมาปะทะกับความชุ่มชื้นของสายฝน พร้อมเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแต่ละเพลงที่น่าสนใจ เรามาฟังกันว่ามีบทเพลงไหนที่ตรงใจคุณกันบ้าง The Beatles – ‘Rain’ (1966) I can show you That when it starts to rain Everything’s the same I can show you I can show you เริ่มต้นกันด้วยบทเพลงแรกที่เรามักจะนึกถึงเมื่อฝนพรำ เพราะแค่พิมพ์คำว่า Rain เพลง ๆ นี้ก็จะแสดงตัวขึ้นเป็นเพลงแรกของเรา Rain ของคณะ 4 เต่าทอง The
ทุกวันนี้การตลาดเป็นเรื่องสำคัญ แม้กระทั่งตัวอย่างหนังความยาวเพียง 2 นาทีกว่า ๆ ก็ต้องสร้างจุดขายและความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดคนดูให้ตีตั๋วให้มากที่สุด และที่ฮือฮาอยู่ในขณะนี้ก็คือตัวอย่างแรกของหนังซุเปอร์ฮีโร่ที่หลายคนรอคอยอย่าง Spider-Man: No Way Home นอกจากความสนุกที่เข้มข้นขึ้นแล้ว ยังเป็นการรวม Easter Egg ที่แค่ในหนังตัวอย่างยังมีมากมายให้แฟนหนัง Spider-Man ได้ตื่นเต้นกับสัญลักษณ์และตัวละครลับต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ แต่ก่อนที่จะเฉลยว่ามีอะไรบ้าง มาลองชมตัวอย่างนี้ก่อน แล้วมาดูกันว่า คุณจะเห็นเหมือนที่เรารวบรวมกันมาให้ได้ชมหรือเปล่า การแสดงความเคารพต่อ Steve Ditko เพียงแค่ฉากเปิดฉากแรกใน Trailer เราก็ได้เห็นการคารวะ Steve Ditko กันเลย หลายคนอาจจะสงสัยว่า Steve Ditko คือใคร Ditko คือศิลปินที่ร่วมกันคิดค้นคาแรคเตอร์ Spider-Man ร่วมกัน Stan Lee นอกจากนั้นยังครีเอทคาแรคเตอร์ Doctor Strange ร่วมกันอีกด้วย โดยมีคนตาดีเห็นลายกราฟิตี้ที่พ้นคำว่า “DITKO” อยู่บนหลังคาที่ Peter Parker และ
ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แม้ไวรัสจะยังไม่ลดราวาศอกที่จะทำลายหมู่มวลมนุษยชาติอย่างไม่หยุดยั้ง ซ้ำยังเสริมกำลังด้วยการพัฒนารูปแบบกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องปวดหัวในการหาวัคซีนสกัดกั้นไม่ให้มันมาระบาดอีก จนตัวเลขของการระบาดก็ยังคงรุนแรงในทุกที่และหลายประเทศเช่นเดิม แต่ดูเหมือนทุกเทศกาลดนตรีบนโลกใบนี้ จะเดินหน้าต่อ ไม่เลื่อนหรือแคนเซิลอีกต่อไป หนำซ้ำพวกเขายอมลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลเพื่อสู้ยิบตากับไวรัสชนิดนี้ เพราะอะไรพวกเขาถึงต้องสู้ เรามาสำรวจทั้งด้านดี และด้านร้ายของเทศกาลดนตรีที่ผ่านมาจากทั่วโลกด้วยกัน รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง Jay Luffer กำลังตั้งแคมป์ในงานเทศกาลดนตรีเป็นครั้งแรก ก่อนที่เขาจะเดินทางไป Reading & Leeds Festival เขายอมรับกับ Newsbeat ว่า เขากังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการจัดงานเทศกาลที่ไม่ถูกสุขลักษณะ “ผมเคยได้ยินเรื่องแย่ ๆ เกี่ยวกับห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มันเลยรู้สึกเหมือนจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์โควิด” หนุ่มน้อยวัย 17 ปีกล่าว “ผมคิดว่าการติดไวรัส เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้คนจำนวนมากที่ซื้อตั๋วคงคาดไว้อยู่แล้ว” และถึงแม้จะมีความเสี่ยงจากการอยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก แต่เขาก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอ หลังจากที่พลาดการแสดงดนตรีสดในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ “เทศกาลต่าง ๆ จะกลับมาอย่างน่าตื่นเต้นอีกครั้ง” Jay กำลังใช้มาตรการป้องกันตัวเอง โดยนำ mask และชุดทดสอบโควิด ATK ติดตัว “ผมรู้สึกว่าจะหลีกเลี่ยงได้ยากกับการติดโควิด แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยผมก็ได้พยายามแล้ว” Jay Luffer
นักแสดงสาวยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นบทสาวแสบที่แจ้งเกิดของเธอ / มือปราบซอมบี้สุดห้าว / สาวผู้ไขว่คว้าหาฝัน หรือเป็นหวานใจของไอ้แมงมุม Emma Stone ล้วนผ่านบทบาทมาแล้วอย่างโชกโชน ด้วยอายุอานามเพียง 32 ปี ล่าสุดเรากำลังจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องใหม่ กับการรับบทบาทนางวายร้ายอันลือลั่นแห่งโลกการ์ตูนดิสนีย์ ในหนังชื่อ “Cruella” ที่จะฉายใน Disney+HotStar เรามาย้อนดูบทบาทเจ๋ง ๆ ที่ผ่านมาของเธอเพื่อต้อนรับหนังใหมไปพร้อม ๆ กัน Zombieland (2009) as Wichita หนทางแจ้งเกิดของนักแสดงสาวนั้นมีมากมาย อาจจะเป็นหนังรักรอมคอมดี ๆ สักเรื่อง แต่บทบาทที่ทำให้เราได้รู้จัก Emma Stone อย่างเป็นทางการ กลับเป็นหนังซอมบี้สุดห้าวและเก๋าเกรียน ที่อุดมไปด้วยเลือดและการระเบิดสมองเรื่องนี้ Emma รับบทเป็น Wichita พี่สาวที่กระเตงน้องสาว ใช้เสน่ห์ และความเจ้าเล่ห์ของผู้หญิง ร่วมเดินทางไปกับ Jesse Eisenberg และ Woody Harrelson ออกเดินทางเพื่อเอาตัวรอดในยุคซอมบี้ครองเมือง การได้ทำความรู้จักกับสาวตาโต แต่พิษสงเหลือร้าย
หากเราจะเปรียบตำรวจเป็นสีใดสีหนึ่ง สี ๆ นั้นย่อมไม่ต่างกับสีขาวบริสุทธิ์ เพราะโดยหน้าที่และภาพลักษณ์นั้นของตำรวจที่ตั้งตัวอยู่ในฟากฝั่งแห่งความยุติธรรม เป็นที่พึ่งพาของประชาชน อยู่ตรงข้ามกับเหล่าอาชญากรผู้ร้ายอย่างสิ้นเชิง แต่มีหนังเรื่องหนึ่ง ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจอย่างเผ็ดร้อน สะท้อนความตกต่ำถึงขีดสุดของอาชญากรในคราบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้อย่างเข้มข้น จนตัวละครตัวนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวร้ายบนโลกภาพยนตร์ที่เหี้ยมโหด ชั่วร้าย ใช้ช่องว่างทางกฏหมายในมือเปลี่ยนดำให้เป็นขาวอย่างเลือดเย็น บวกกับการแสดงที่เข้าถึงอารมณ์จนคว้ารางวัลใหญ่ไปครอบครองมาแล้ว มาทำความรู้จักกับวายร้ายที่รักคนล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสุดเท่และโคตรโหด agent Alonzo Harris แห่งหนัง Training Day (2001) หนังอาชญากรรมคลาสสิคที่หยิบเอาโลกสุดดาร์คของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยให้พวกเราได้เห็น บทบาทที่ส่งให้ Denzel Washington คว้ารางวัลออสการ์ไปครอง สะท้อนให้เห็นว่าตำรวจสีเทาเข้มจนดำสนิทนั้นโฉดและโหดเหี้ยมแค่ไหน หนึ่งวันแห่งการฝึกฝน เปลี่ยนจากคนให้กลายเป็นปีศาจ เสียงนาฬิกายามเช้าปลุกให้ตำรวจหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงอย่าง Jake Hoyt (นำแสดงโดย Ethan Hawke) ออกปฏิบัติการในฐานะตำรวจปราบปรามยาเสพติด วันนี้เป็นวันแรกที่เขาได้พบกับตำรวจรุ่นพี่อย่าง Alonzo Harris (นำแสดงโดย Denzel Washington) สายสืบตัวเก๋ามากประสบการณ์ ที่แววตาและท่าทางดูน่ากลัวตั้งแต่แรกเห็น แค่วันแรก เขาก็พา Jake ไปพบกับโลกแห่งความเป็นจริงของการเป็นตำรวจ อำนาจที่สามารถเปลี่ยนผิดเป็นชอบ กฎหมายสามารถเปลี่ยนดำให้เป็นขาว พร้อมจะหยิบยื่นความตายให้ใครสักคนได้ด้วยจำนวนเงินที่มากพอ เพียงแค่
“A Man Went Looking for America and Couldn’t Find It Anywhere” คำโปรยบนโปสเตอร์หนัง Easy Rider ที่มีพล็อตแสนเบาบาง เพียงแค่ 2 นักบิดที่เพิ่งขายโคเคนได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ออกเดินทางจากลอสแองเจลิสไปยังนิวออร์ลีนส์ถึงฟลอริดา เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายกับในช่วงสงครามเวียดนามที่คุกกรุ่น แต่พล็อตเบาบางนี้กลับทำกำไรมหาศาล และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการหนังอเมริกัน จนกลายเป็นตำนานหน้าสำคัญแห่งยุคสมัย และเป็นจุดเริ่มของหนัง American Indie มาย้อนทำความรู้จักหัวขบวนแห่งการขบถครั้งยิ่งใหญ่บนแผ่นฟิล์ม ที่คลอเคล้าไปด้วยบรรยากาศฮิปปี้ ความเมามาย และหมุดหมายแห่งอิสระเสรีที่เปลี่ยนสังคมไปตลอดกาล ขบถแห่งการต่อต้านวัฒนธรรม “Easy Rider” คือหนังที่สร้างขึ้นในปี 1969 ปีที่เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายในสังคมอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบดวงจันทร์ครั้งแรกของยาน Apollo 11 ไปจนถึง เหตุการณ์ Woodstock เทศกาลทางดนตรีแห่งสันติภาพที่มีคนร่วมงานเกิน 500,000 คน จนนำไปสู่การชุมนุมประท้วงที่วอชิงตันดี.ซี.ในจำนวนคนที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และปฏิเสธไม่ได้ว่าในปีเดียวกันนี้ “Easy Rider” ก็เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญไม่แพ้กัน หนังนำแสดงโดย Peter Fonda รับบท “Wyatt”