แฟน Ghostface ได้เฮกันทั่วโลก Paramount ยืนยันอย่างเป็นทางการ เตรียมเปิดกล้องสานต่อตำนานความสยอง Scream 6 พร้อมเปิดกล้องถ่ายทำกลางปีนี้ หลัง Scream 5 ประสบความสำเร็จทำรายได้ทะลุ $100 ล้านเหรียญภายใน 1 สัปดาห์ Scream ภาพยนตร์แนวสยองขวัญกับฆาตกรโรคจิตที่ปรากฏตัวในผ้าคลุมสีดำและหน้ากาก Ghostface สัญลักษณ์ที่ทุกคนจำติดตามาตั้งแต่ภาคแรกในปี 1996 และหลายครั้งที่เหยื่อตกเป็นเป้าหมายโดยไม่รู้เหตุผล แต่นั่นก็ทำให้ franchise ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จ รวมถึงมีการต่อยอดทั้งในรูปแบบซีรีส์และ parody ตามออกมามากมาย เช่น Scary Movie กับวลี “Wazzzuppppppp” สุดฮา ใน Scream 6 คาดว่าจะเป็นเรื่องราวที่ยืดยาวต่อเนื่องมาจาก pattern ภาคก่อน ซึ่งมักจะมีเส้นเรื่องที่ต่อเนื่องกันมาทุกภาค เช่นในภาคที่ 5 ที่พึ่งจะเข้าโรงฉายไปเมื่อต้นปี ก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมือง Woodsboro หลังกาลเวลาผ่านไป 10 ปีจากภาคที่ 4 ซึ่งแต่ละภาคมักจะมี Ghostface คนใหม่ลุกขึ้นมาไล่ล่าเหยื่อที่รอดชีวิตจากภาคก่อน ซึ่งในความต่อเนื่อง
ภายใต้ใบหน้าที่ที่ปูดโปนชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อผสมเลือดของไอ้หนุ่มม้าคึกชาวอิตาเลียน แม้การชกจะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ให้กับนักชกรุ่นใหญ่ที่ใหม่และสดกว่า แต่ Rocky กลับชนะใจนักดูหนังมาตลอด 46 ปี จนได้รับฉายาว่า “นักแพ้ผู้ยิ่งใหญ่” ที่ไม่เพียงจะกลายเป็นหนังในดวงใจของใครต่อใครมากมาย แต่ยังกลายภาคต่ออันทรงคุณค่า และเดินหน้ากวาดรางวัลใหญ่อย่างออสการ์มาแล้ว เรามาลั่นระฆังที่ความรู้จักกับนักชกแห่งโลกภาพยนตร์ผู้เกรียงไกร ที่ความพ่ายแพ้ชนะใจผู้ชมตลอดกาล “ROCKY” ยกที่ 1: จากนักชกธรรมดาสู่ซูเปอร์สตาร์แห่งโลกฮอลลีวู้ด หนัง Rocky เล่าเรื่องราวของนักมวยที่แสนจะธรรมดา Rocky Balboa เติบโตในย่านแหล่งเสื่อมโทรมของเมืองฟิลาเดลเฟีย อาชีพหลักของเขาคือการเป็นนักมวยในสังเวียนท้องถิ่นที่แพ้บ้างชนะบ้างตามยถากรรม ส่วนงานรองของเขาคือการตามทวงหนี้ แม้งานทวงหนี้จะเป็นงานที่ไร้เกียรติ แต่เขาก็แทบไม่เคยใช้กำลังกับลูกหนี้เลยสักครั้ง เขามีความรักกับ Adrian Pennino สาวผู้เก็บตัวเงียบที่อยู่ในร้านขายสัตว์เลี้ยง จนชีวิตพลิกผันเมื่อนักชกสุดฮ็อต Apollo Creed แชมป์เฮฟวี่เวทที่ไม่เคยพ่าย ได้คัดเลือก Rocky นักชกโนเนมขึ้นสังเวียนที่เปลี่ยนเขากลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน แต่เพราะความกดดันที่ถาโถม รวมไปถึงความรักที่เขามีต่อ Adrian อย่างหมดหัวใจ ทำให้เขาทุ่มเทอย่างเต็มที่ในศึกครั้งนี้ แม้ชัยชนะจะดูริบหรี่ก็ตาม เสน่ห์ของหนัง Rocky คือการนำเสนอภาพ Loser ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามอันแสนรันทดใจ แต่กลับประกายความหวังอันเรืองรองในฐานะหนังที่สร้างกำลังใจให้ผู้แพ้หรือคนตกอับ ให้ลุกขึ้นสู้ยิบตา แม้ว่าจะปราชัย แต่ชนะใจคนดูอย่างท่วมท้น แต่กว่าที่หนัง
การไล่ล่าของสองขั้วทางกฏหมาย / การห้ำหั่นของสองนักแสดงระดับตำนาน และการถ่ายทำอันสุดเดือด มีเหตุผลมากมายที่ทำให้หนังเรื่อง Heat หนังสุดเจ๋งแห่งปี 1995 กลายเป็นที่สุดของหนังอาชญากรรมสุดคลาสสิคที่ยากที่หนังเรื่องไหนจะโค่นตำแหน่งได้ลง Unlockmen จึงขอทำการย้อนไปหาต้นตอของความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ ว่าเพราะอะไรหนังเรื่องนี้ถึงได้ครองใจทั้งคนดูหนัง, นักวิจารณ์, นักทำหนัง หรือแม้กระทั่งอาชญากรตัวจริงก็ยกให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังในดวงใจ เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น แม้ความยาวของหนัง Heat จะทำให้เครียดสำหรับคนที่ชอบอะไรที่กระชับรวดเร็ว เพราะความยาวของหนังนั้นยาวถึง 170 นาที หรือ 2 ชั่วโมง 50 นาที แต่ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ Heat จะชวนง่วงเหงาหาวนอน เพราะหนังไม่เพียงอัดแน่นไปด้วยการไล่ล่าของ 2 ขั้วทางกฏหมาย หนึ่งคือ Neil McCauley (รับบทโดย Robert De Niro) หัวหน้าแก๊งโจรผู้สุขุมและฉลาดเฉลียว อีกหนึ่งคือ Vincent Hanna (รับบทโดย Al Pacino) ตำรวจตงฉินผุ้พร้อมไล่ล่าท้าชนอาชญากรแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน จากเหตุการปล้นรถขนส่งไปรษณีย์อย่างอุกอาจเพื่อแย่งชิงพันธบัตร แต่แผนที่ผิดพลาด ก็นำไปสู่การตายของเจ้าหน้าที่ ก่อให้เกิดการชิงไหวชิงพริบของทั้ง 2 ท่ามกลางการลุ้นระทึกที่นอกจากจะลุ้นว่าการปะทะครั้งนี้จะจบลงที่ใครเป็นผู้คว้าชัย
ในขณะที่ปี 2022 โลกแห่งความเป็นจริงจะยังลุ้นระทึกว่าจะเป็นภาคต่อของสถานการณ์โรคระบาดหรือไม่ แต่ในโลกของภาพยนตร์นั้น เรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยหนังเจ๋ง ๆ มากมาย ที่พร้อมจะพาคุณห่างไกลจากโลกแห่งความจริงแบบสุดลิ่มทิ่มประตู หลังจากที่ปีที่ผ่านมา กว่าจะคึกคักก็ผ่านไปปลายปีแล้ว ปี 2022 จึงเป็นปีที่พร้อมทบต้นทบดอกความสนุกสุดเหวี่ยงให้ได้ชมกันแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลย โดยเฉพาะโลกแห่งซูเปอร์ฮีโร่ยังคงผงาดไม่มีแผ่ว พร้อมสร้างจักรวาลใหม่และสานต่อเรื่องราวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรามาดูกันว่าปี 2022 หนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องเจ๋ง ๆ เรื่องใดจะเข้าฉายในโรงบ้าง กาปฏิทินจองคิวกันตั้งแต่เนิ่นๆเอาไว้เลย Morbius กำหนดฉาย – *ล่าสุดถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนเมษายน เปิดปีกันด้วยซูเปอร์ฮีโร่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างนักสู้ฝ่ายธรรมมะ และวายร้ายฝ่ายอธรรม กับ Morbius เรื่องราวของ Dr. Morbius นักวิทยาศาสตร์ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ก่อนที่เขาจะได้รับพลังพิเศษจากค้างคาว นำพาให้เขากลางร่างเป็นแวมไพร์กระหายเลือด ที่ต้องต่อกรกับมหาวายร้ายนั้นคือ Vulture ที่ทะลุจากจักรวาล Spider-Man: Homecoming และต้องต่อสู้กับความชั่วร้ายของตนเองก่อนความมืดดำจะกัดกินตัวเขาให้กลายเป็นวายร้ายไป หลังจากที่ Spider Man: No Way Home สร้างสถิติใหม่ทั้งในฐานะหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำเงินระดับพันล้านเหรียญทั่วโลก และเป็นหนังขวัญใจนักดูหนังในช่วงปลายปี SONY ก็เหมือนจะเป็นสตูดิโอสาขา 2 ของ Marvel ที่พร้อมเสนอภาพซูเปอร์ฮีโร่ด้านมืดหลังจากประสบความสำเร็จจาก
หากปีที่แล้ว ดาบพิฆาตอสูร คือ Soft Power ชั้นดีที่ทำให้คนทั้งโลกติดอนิเมะกันอย่างงอมแงม ปีนี้คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Tokyo Revengers คือการรับไม้ต่อของความสำเร็จนั้น เพราะอะไรมังงะที่หน้าฉากเป็นเพียงเรื่องราวนักเรียนนักเลงนี้ ถึงกลายเป็นสิ่งที่สะกิดจิตใจ และคนพูดถึงกันอย่างแพร่หลายกันอย่างเกรียวกราว เรามาย้อนติดตามความสำเร็จครั้งนี้ไปพร้อมๆกัน พล็อตแปลก แหวกความจำเจ มังงะแนวนักเรียนนักเลงนั้น เป็นของคู่กันเสมอของนักอ่านมังงะ ตั้งแต่ “จอมเก Blues” มาจนถึง “เรียกเขาว่าอีกา!” “Clover เพื่อนรักขาลุย” หรือ “แสบกว่านี้มีอีกไหม” ที่เข้าขั้นคลาสสิคและเป็นมังงะที่ฮิตครองใจผู้อ่านทั้งชาวไทยและชาวอาทิตย์อุทัยมาอย่างยาวนาน ซึ่ง Tokyo Revengers นั้นก็เล่าเรื่องของแก๊งนักเรียนนักเลงที่วันๆไม่ทำอะไรมากไปกว่าการตีรันฟันแทงไม่ต่างกัน หากแต่ Ken Wakui ผู้เขียนมังงะเรื่องนี้ กลับเลือกที่จะฉีกแนวด้วยการเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนและแหวกขนบของมังงะ แนวนักเรียนนักเลง ด้วยการเสริมเรื่องราวเหนือธรรมชาติเข้าไปในมังงะเรื่องนี้ Tokyo Revengers เล่าเรื่องของหนุ่ม Loser วัยทำงานนาม “ทาเคมิจิ” ที่เคยมีชีวิตรุ่งโรจน์ในช่วงมัธยมต้นในฐานะนักเลงหัวทอง แต่แล้วชีวิตของเขาก็ลงเอยกับการเป็นพนักงานขี้แพ้คนหนึ่งเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่แล้วชะตาชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อ “ฮินาตะ” แฟนสาวของเขาถูก“โตเกียวมันจิไค” สมาพันธ์วายร้ายฆ่าตายอย่างเป็นปริศนา และอุบัติเหตุบนรถไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้เขาได้รับโอกาสในการย้อนเวลาเพื่อไปแก้ไขอดีตในยุครุ่งเรือง ได้ทำความรู้จักกับ
วินาทีนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักนักแสดงสุดเกรียน เจ้าของบทบาท Deadpool วีรบุรุษสุดแสบที่มาปั่นป่วนโลกของซูเปอร์ฮีโร่ แต่ใครจะรู้บ้างว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ Ryan Reynolds ต้องค้นหาตัวตนอย่างยากเย็นแค่ไหน เรามาดู 10 หนังสร้างชื่อ ที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจคนดูหนังทั่วโลกกันได้เลย National Lampoon’s Van Wilder (2002) เริ่มต้นการแสดงมาตั้งแต่เยาว์วัยในซีรีส์ท้องถิ่นของแคนาดามาตั้งแต่ปี 1991 ทำให้ Ryan Reynolds ไม่มีโอกาสที่จะได้รับบทเด่นสักที โชคดีที่ซีรีส์ Two Guys, a Girl (1998-2001) ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นนักแสดงมากความสามารถ ไม่ใช่แค่หน้าตาดีเพียงอย่างเดียว และจากซีรีส์นี้เอง ในที่สุดเขาก็ได้รับบทเด่นเป็นพระเอกเสียทีในหนังตลกสุดเกรียน National Lampoon’s Van Wilder (2002) Ryan รับบทตามชื่อเรื่อง หนุ่มมหาลัยที่ใฝ่แต่กิจกรรมและความเมามายจนเรียนไม่จบ และค้างเติ่งอยู่มหาลัยลอยชายไปวันๆ จนกระทั่งพ่อและแม่ต้องดัดนิสัยด้วยการตัดท่อน้ำเลี้ยงไม่ส่งเสียต่อ ทำให้เขาต้องหาทางหาเงินเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตมหาลัยอย่างนี้ไปนานๆ แม้บทเริ่มต้นของเขาจะไม่เป็นที่ปราบปลื้มของคนดูสักเท่าไหร่ เพราะตลกส่วนใหญ่ก็มุกห่ามๆที่คนส่วนใหญ่จะไม่ชอบ แต่กลับทำให้ Ryan รู้สึกว่าการมาสายเกรียนนั้นคือถนนสายหลักที่เขาควรจะเลือกทางเดินนี้ Blade: Trinity (2004) หลังจาก
หากจะให้เอ่ยรายชื่อการ์ตูนที่มีอิทธิพลต่อเด็ก ๆ ที่เติบโตในช่วงยุค 90’s มากที่สุด เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องมีชื่อของ Dragon Ball Z อยู่ในใจอย่างแน่นอน ผลงานสุดคลาสสิคของอาจารย์อากิระ โทริยามะ เป็นการ์ตูนที่โดดเด่นด้วยลายเส้น คาแรคเตอร์ของตัวละคร รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่บู๊ล้างผลาญสะใจแบบสุด ๆ เรื่องราวที่เข้มข้นขึ้นมากนับจากช่วงภาคเด็กของซุนโกคู มีการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจมากกว่าเดิมและเก่งขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นฟรีซเซอร์, เซลล์ และจอมมารบู สำหรับคนที่ดูมาก่อนก็น่าจะพอจำเนื้อเรื่องได้ไม่มากก็น้อย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการ์ตูนเรื่องนี้มี 5 ข้อมูลลับที่ไม่ลับที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน ซ่อนไว้ให้เหล่าคนช่างสังเกตได้เก็บไว้เป็นข้อมูล ซึ่งทาง UNLOCKMEN ขอยกหัวข้อเด่น ๆ มาให้ทุกคนได้อ่านกันดังต่อไปนี้ *เนื้อหามีสปอยล์เนื้อเรื่อง 1. โกคูฆ่าคนอื่นตายไปเพียง 2 ครั้ง (ไม่นับใน The Movie) สมชื่อพระเอกจริง ๆ สำหรับโกคู ที่ถือได้ว่าเป็นนักสู้ที่มีคุณธรรม มีความเมตตา และจิตใจอ่อนโยน นอกจากฝีมือการต่อสู้จะร้ายกาจแล้ว โกคูยังพัฒนาการต่อสู้ของตัวเองได้ตลอดเวลา เขายังมีความสามารถในการเปลี่ยนจิตใจคนชั่วร้ายให้กลับกลายเป็นคนดีได้ ตัวอย่างชัด ๆ เลยคือ พิคโกโล่ อดีตราชาปีศาจสุดท้ายกลายเป็นพ่อทูลหัวของโกฮังลูกชายของโกคู
ในช่วงเวลานี้ วงการหนังคงไม่มีอะไรคึกคักเท่ากับหนังไทย “ร่างทรง” ที่สร้างความหลอนจนทำรายได้และสร้างกระแสทั้งในจอและนอกจอ แม้กระทั่งมีหนังที่หลุดในโลกออนไลน์ แต่ก็ไม่ได้ลดทอนกระแสของหนังเรื่องนี้ให้จืดจางลงได้เลย ซ้ำยังมีผู้ที่พร้อมไปพิสูจน์ความหลอนด้วยตาตัวเองในโรงอย่างแน่นขนัด แต่ท่ามกลางความสำเร็จระดับโลกนั้น ก็แลกด้วยข้อถกเถียงกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะรูปแบบที่หนังพยายามนำเสนอในรูปแบบหนังสารคดี จนส่งผลให้ผลลัพธ์ออกมาเป็น “หนังเสียงแตก” อย่างชัดเจน คือถ้าชอบจะชอบมาก แต่ถ้าไม่ชอบก็พาลเกลียดไปเลย โดยเฉพาะการถ่ายทำในรูปแบบของสารคดีนั้น แม้จะไม่ใช่สิ่งใหม่ในโลกภาพยนตร์ แต่ก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับหนังไทย เราจึงชวนคุณมาทำความรู้จักกับหนังแนวนี้ มาดูกันว่าทำไมนักสร้างหนังหลายคนถึงเลือกที่จะทำในแนวทาง Mockumentary และคำ ๆ นี้แปลว่าอะไรกันแน่ Mockumentary ความไม่จริง สะท้อนความจริงอย่างชัดแจ้ง หนังสารคดี หรือ Documentary นั้น มักถูกใช้สะท้อนภาพความจริง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเหตุการณ์หรือบุคคลนั้น ๆ เพื่อใช้โน้มน้าวหรือสร้างความน่าเชื่อถือ ผ่านหลักฐานไม่ว่าจะเป็นภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกได้ หรือการบอกเล่าจากปากผู้ประสบเหตุนั้นมา สารคดีส่วนใหญ่จึงทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนที่มุ่งหวังหรือตั้งคำถามต่อสิ่ง ๆ นั้นโดยใช้ “ความจริง” เพื่อเป็นสิ่งประจักษ์แก่ผู้รับสาสน์ ในขณะเดียวกัน ยาขมของ Documentary ก็ทำให้คนบางคนรู้สึกเบื่อ เมื่อภาพจริงในบางครั้งก็ไม่อาจนำพาอารมณ์ให้ตื่นเต้นจนคนคล้อยตามได้ หนังสารคดีบางส่วนจึงจำต้องสร้างฉากบางฉาก ซีนบางซีน เพื่อสอดรับกับสิ่งที่นำเสนอ เช่นการสัมภาษณ์ของผู้ให้สัมภาษณ์อาจจะน่าเบื่อจนเกินไป หรือบางเหตุการณ์ที่กล้องจับภาพไม่ทัน การใส่สีสันไม่ว่าจะเป็นภาพที่ถ่ายใหม่เพื่อจำลองเหตุการณ์จริงที่กล้องไม่ทันได้ถ่าย เพื่อทำให้เหตุการณ์นั้น ๆ
“หน้ากาก” สำหรับซูเปอร์ฮีโร่แล้ว มันหมายถึงการปิดบังอำพรางสถานะที่แท้จริงเพื่อไม่ให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่าพวกเขานั้นเป็นใครมาจากไหน แต่สำหรับเหล่าฆาตกรโรคจิตในหนัง “หน้ากาก” ที่พวกมันสวมใส่ มีไว้บดบังความโหดเหี้ยมถึงเลือดถึงเนื้อ และเมื่อใดที่มันปรากฏกายภายใต้หน้ากาก ก็เตรียมตัวเตรียมใจได้เลยว่า ต้องมีผู้เคราะห์ร้ายสังเวยความกระหายในการฆ่าคนอย่างแน่นอน และเพื่อส่งท้ายเทศกาลฮาโลวีนที่เพิ่งผ่านพ้นไป เราจึงได้รวบรวมเหล่าหน้ากากฆาตกรสุดหลอนจากหนังฮอลลีวูดที่กลายเป็นไอคอนสำคัญแห่งโลกภาพยนตร์ จนเป็นที่นิยมสำหรับใส่ในงานปาร์ตี้คืนวันปล่อยผีที่เห็นได้แทบทุกปี ลองมาดูกันว่าภายใต้หน้ากากสุดอำมหิตนี้ พวกมันซ่อนความโหดไว้ในระดับไหน Michael Myers – Halloween Franchise หน้ากากฮาโลวีน ผู้เปลี่ยนโลกแห่งฆาตกรหน้ากากไปตลอดกาล ฆาตกรหน้ากากคนแรกที่เราเสนอ คือต้นตำรับความสยองในคืนวันปล่อยผีอย่าง Michael Myers ใน Halloween หนังสุดสยองสยองที่ทำให้คาแรคเตอร์ฆาตกรหน้ากากกลายเป็นหนึ่งในคาแรคเตอร์สำคัญแห่งโลกภาพยนตร์ จากบุคลิกสุดโฉดและแปลกแยกของเด็กหนุ่มที่ลงมือฆ่าพี่สาวของตนตั้งแต่อายุ 12 หลังจากนั้น เขาเริ่มสนุกกับการค่อยๆลักลอบฆ่าคนในเทศกาลวันฮาโลวีน ก่อนจะเติบโตท่ามกลางคาวเลือดและไล่ล่าฆ่าคนภายใต้หน้ากากสุดสยอง Halloween คือหนังชุดที่เปิดประเดิมมหกรรมการฆ่าคนอย่างไม่ยั้งในคืนฮาโลวีน ที่สร้างหมุดหมายสำคัญแห่งหนัง Serial Killers ที่ผลักดันให้กลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์โชกเลือดของหนังแนวหวีดสยองจวบจนปัจจุบัน และแตกแขนงสร้างความหวาดกลัวมาหลายต่อหลายภาค และในปีนี้ Michael Myers จะกลับมาสร้างความโหดสุดขีดคลั่งในหนัง Halloween Kills ที่จะปลุกฝันร้ายในวัยเยาว์ของเหล่านักแสดงจากต้นฉบับให้เผชิญหน้ากับไอ้หน้ากากทมิฬที่ไม่ยอมตายเสียที และครั้งนี้ Jamie Lee Curtis นักแสดงจากภาคแรก พร้อมแล้วที่จะกระชากหน้ากากอันแท้จริงของมันให้เห็นจะจะตา Jason
แม้จะมีหนังในมือเพียงหลักหน่วย แต่ชื่อชั้นของ Denis Villeneuve ก็ถูกวางไว้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของผู้กำกับแห่งยุคได้อย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพียงเพราะหนังที่ทำนั้นสเกลใหญ่ขึ้นขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่สำหรับ Denis Villeneuve แล้ว มีจุดเชื่อมโยงอันหลากหลายที่ทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับที่มีสไตล์เฉพาะตัว และเพื่อต้อนรับหนังใหม่ที่กำลังฉายในโรงภาพยนตร์ขณะนี้อย่าง Dune เรามาสำรวจความเจ๋งและความใหญ่ที่เราพบผ่านโครงสร้างของหนังของผู้กำกับยอดเยี่ยมท่านนี้กัน ว่าเบื้องหลังความสำเร็จในแง่ของการทำงานนั้น มีจุดใดที่เชื่อมโยงการทำงานจนกลายเป็นลายเซ็นเฉพาะตัวของเขากันบ้าง ระดมนักแสดงยอดฝีมือล้นจอ หนังของ Denis Villeneuve ก่อนที่จะเป็นที่รู้จักของนักดูหนังในวงกว้าง เขาคือ Film Maker จากแคนาดาที่มีผลงานเป็นหนังไฮคอนเซ็ปท์ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในประเทศ ก่อนจะมีโอกาสได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำหนังในฮอลลีวู้ด เขาก็ไม่รอช้าที่จะทำหนังในแนวทางที่ท้าทายในตัวเขา และหนังเรื่องแรกในฮอลลีวูด เขาก็ได้นำวูล์ฟเวอร์รินอย่าง Huge Jackman มาประกบกับ Jake Gyllenhaal ในหนัง Thriller สุดระทึกขวัญสุดกดดันกับเรื่องราวที่พ่อทั้ง 2 ต้องเผชิญหน้ากับอาชญากรที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป Prisoners (2013) คือหนัง Thriller ที่เต็มไปด้วยสภาวะกดดันถึงขีดสุด ท่ามกลางการลุ้นระทึกของคนดูที่รอคอยว่า Huge Jackman ผู้เป็นรับบทเป็นพ่อที่ลูกสาวหายสาปสูญจะระเบิดอารมณ์เมื่อไหร่ ซึ่งในช่วงเวลานั้น Huge Jackman ที่กำลังจะวางเล็บเหล็ก