คนรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง “คอนโด” คงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการอยู่อาศัย สำหรับการต้องตื่นแต่เช้าไป ทำงาน ตกเย็นมีนัดสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนสนิท ที่ร้านเก๋ๆ ย่านทองหล่อ วันหยุดพักผ่อนพลาดไม่ได้ต้องไปเดินห้าง ช้อปปิ้ง ดูหนัง ไปฟิตเนตออกกำลังกาย ที่สยาม หากคุณก็เป็นคนรุ่นใหม่ แต่ไลฟ์สไตล์ที่พูดมาข้างต้น ไม่ตรงกับการใช้ชีวิตของคุณ แล้วคอนโด มันจะตอบโจทย์ได้อย่างนั้นเหรอ? ในเมื่อมีเวลาว่างแล้ว คุณอยากกลับบ้านไป เปิด YouTube ดู Master Chef แล้วมีไอเดีย คิดค้นสูตรอาหารของตัวเอง ชอบอออกกำลังกาย ในพื้นที่โล่งๆ สีเขียว ไม่ชอบแย่งที่จอดรถกับใคร แสนสิริ ได้พัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัย จากปัญหา และการใช้ชีวิตจริงของผู้อยู่อาศัย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว ด้วยงานดีไซน์ที่โดดเด่น แต่มีครบฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถใช้ได้จริง เพื่อให้ลูกบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้ใช้ชีวิตแต่กับสิ่งดีๆ “Fill Your Life With Good” เพื่อให้การอยู่อาศัย ในคอนโดก็สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ไม่ว่าคุณจะเป็น คนแบบ Party goer หรือคนที่ชอบอยู่บ้าน
คนยุคใหม่ ใส่ใจเรื่องความก้าวหน้ามากกว่าความสัมพันธ์ ต้องยอมรับว่าพวกเราอยู่ในยุคสังคมคนเหงาอย่างเต็มตัว คนทั้งโลกหันไปบูชาความสำเร็จ เศรษฐกิจการเงินในกระเป๋า ทำให้พวกเราพบหน้าเพื่อนฝูงและครอบครัวน้อยลง อัตราการมีลูกลดลงฮวบฮาบ แม้แต่ในประเทศที่หนัง AV ถูกกฎหมายอย่างในประเทศญี่ปุ่น กลับพบว่าอัตราการมีคู่ดิ่งลดลงฮวบฮาบ “เหงาจนแทบขาดใจ” คำนี้ไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ผลวิจัยชิ้นใหม่ยืนยันว่าความเหงาทำให้คนเราตายได้จริง ๆ นะเออ ดังนั้นหยุดปลอบใจตัวเอง หรือนั่งรอโชคชะตาจะคาบเนื้อคู่มาปล่อยทิ้งไว้หน้าบ้าน รู้ไว้ด้วยว่าการใช้ชีวิตที่หว่าเว้ อยู่คนเดียวอย่างเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวใจทุกวัน มันทำให้เราตกอยู่ในข่ายเสี่ยงต่ออัตราการจากโลกนี้ไปเร็วกว่าคนมีคู่ มีสังคม ถึง 50% เลยทีเดียว นักสังคมวิทยาทั่วโลกได้ทำการวิจัยเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน มีผลที่น่าตกใจเกี่ยวกับคนเหงา ๆ อยู่หลายอย่าง เช่น รู้หรือไม่ว่าคนอเมริกัน 1/3 ใช้ชีวิตแบบเหงา ๆ (source: aarp.org) หรือคนอังกฤษจำนวน 18% ต่างมีปมเหงาเหมือนอยู่คนเดียว (source: redcross.org.uk) และนักสังคมวิทยา ได้ติดตามผลการวิจัยจากกลุ่มคนเหงา พบตัวเลขที่น่ากลัวว่า คนที่อยู่เหงา ๆ มีโอกาสเสียชีวิตเร็วกว่าคนมีสังคม (Socially Connected) อย่างเห็นได้ชัด ศาสตราจารย์ Julianne Holt-Lunstad แห่ง Brigham
เรื่องราวในแต่ละวันที่เราได้พบเจอในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีแต่ด้านลบเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวเศรษฐกิจถดถอย หรือเรื่องราววิถีชีวิตประจำวันที่ต้องพบเจอ กลับกลายเป็นว่าทุก ๆ วันนี้ หลายคนติดหลุมกับดักการใช้ชีวิต และข่าวสารมากมาย จนเผลอเสพความคิดแย่ ๆ เข้าไปเรื่อย การรักษาทัศนคติให้คงอยู่แบบบวก ๆ คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ในการช่วยเพิ่มพลังให้กับตัวเราเองและคนรอบตัวเรา ดังนั้น UNLOCKMEN จะแนะนำเคล็ดลับและวิธีการคิดบวกติดตัวที่ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรเข้ามาในชีวิตของเราก็ตาม ทำวันใหม่ให้ดี การคิดบวกไม่ได้หมายถึงเพียงความคิด แต่รวมไปถึงการกระทำ เช่นเวลาช่วงเช้าที่แสนจะน่าเบื่อ ไม่อยากลุกออกจากเตียง การที่เราทำตัวเอื่อยเฉื่อยตั้งแต่เช้าอาจพาลให้ทั้งวันของเรากลายเป็นวันที่น่าเบื่อ เพราะงั้นลองหาวิธีช่วยเสริมประสิทธิภาพในตอนเช้าให้ดีขึ้น เช่นการเปิดเพลงโปรดสักเพลงที่ไม่ใช่ทำนองหดหู่ อวยพรให้เราเริ่มต้นวันใหม่ให้เป็นวันที่ดี แค่เพียง 1 นาทีหรือ15นาที มันจะช่วยเพิ่มความคิดบวกและช่วยให้เราอารมณ์ดีแบบไม่น่าเชื่อ กล้าเผชิญความเป็นจริง การคิดบวกไม่ใช่การหลอกตัวเองว่าทุกสิ่งมันต้องดีเสมอ แต่มันคือการเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้ แล้วนำความเป็นจริงนั้นมาคิดในเชิงบวก ไม่กดดันหรือทำร้ายความคิดของตัวเอง เพราะถ้าเรายิ่งรู้จักยอมรับและคิดบวกกับมันมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะรับและเผชิญหน้าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้มากขึ้น การสื่อสารด้วยความเข้าใจ ถ้าเป็นคนที่มีความคิดแบบ Negative Thinking ไม่เพียงแค่ตัวเรารู้สึกไม่ชอบใจเท่านั้น คนรอบข้างที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเรา ก็พาลจะได้ Negative Thinking
ใคร ๆ ก็รู้ว่า การนอนหลับนั้นสำคัญมากต่อร่างกาย และเราต้องนอนให้เพียงพอต่อความต้องการ ในระยะเวลา 7-9 ชั่วโมง/วัน เพราะการอดนอนนอกจากจะลดประสิทธิภาพในทุก ๆ ด้านของร่างกายแล้ว มันยังนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ รวมไปถึงสมองในด้านของการตัดสินใจ และความสามารถในการจดจ่อมีสมาธิกับอะไรบางอย่างลดลง แต่เวลาในแต่ละวันที่มีถึง 24 ชั่วโมง บางครั้งมันก็ไม่เพียงพอกับคนบางคนที่มีงานมากมายสุมรออยู่ตรงหน้า จึงจำเป็นจะต้องฝืนเปิดตาเอาไว้ให้ได้โดยที่ไม่นอนเลยแม้แต่ชั่วโมงเดียว การฝืนความง่วงนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย ถ้าหากคุณจำเป็นจะต้องอดหลับอดนอนเพราะสถานการณ์มันบังคับ วันนี้เรามีวิธีการที่จะช่วยให้คุณอยู่รอดไปได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการวางแผนล่วงหน้า เพื่อให้ตัวเองมีพลัง และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลามาฝาก แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยนะว่า หลังจาก 24 ชั่วโมงอันยาวนานผ่านไปแล้ว คุณอย่าคิดที่จะฝืนอยู่ต่อไป และให้เข้านอนชดเชยเวลาการนอนที่หายไปให้ครบถ้วน Setting the Right Environment หากคุณรู้ตัวว่าจะต้องอดนอน และจะเผลอหลับไม่ได้อย่างเด็ดขาด ก่อนอื่นคุณต้องตัดขาดความสบายไปให้หมด เช่น เก้าอี้นุ่ม ๆ ที่เอนได้แบบสบายใจ, หมอนที่จะเอามาพิง หรือมากอดไว้ในขณะที่ทำงาน และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่เป็นที่ซุกหัวประจำอย่างห้องนอน หรือเตียงให้ไกลที่สุด พร้อมกับปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้ร้อนขึ้นกว่าปกติ แม้ว่าการปรับอุณภูมิให้ร้อนขึ้นจะทำให้คุณอึดอัด
เราเดินทางมาสู่ยุคที่มีคนเหงาล้นเมืองเต็มไปหมด บางคนมีคนอยู่ด้วยก็ยังเหงา แต่หลายคนที่เหงา ๆ เทา ๆ หว่อง ๆ ก็เพราะอยู่คนเดียว ไม่ว่าคุณจะต้องอยู่คนเดียวชั่วคราว อยู่คนเดียวเพราะตั้งใจ หรือบังเอิญต้องอยู่คนเดียวเพราะมีเหตุเลิกรากับคนข้างกายมา วันนี้ UNLOCKMEN อาสานำ 5 วิธีอยู่คนเดียวอย่างไรไม่ให้เหงามาฝาก รับรองว่าต่อไปนี้จะอยู่คนเดียวด้วยความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จัดห้อง จัดบ้าน จัดการตัวเองใหม่ การอยู่คนเดียวเป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้จัดห้องตัวเอง หรือถ้าระดับใหญ่กว่านั้นก็คือการจัดบ้านให้เป็นไปตามที่ใจเราหวัง การจัดบ้านไม่จำเป็นต้องรีโนเวทใหม่ ลงทุนจำนวนมาก ๆ แค่เราจัดเฟอร์นิเจอร์แบบใหม่ จัดมุมใหม่ ๆ ให้น่าอยู่ ก็มีความหมายต่อความรู้สึกของเรามากแล้ว เพราะการอยู่คนเดียวประจำ อาจสร้างความจำเจในชีวิต เพราะฉะนั้นการจัดเฟอร์นิเจอร์หรือจัดบ้านใหม่ก็จะช่วยให้เรารู้สึกว่ามีอะไรที่เราชอบอยู่เสมอ และไม่จมอยู่กับบรรยากาศเหงา ๆ เดิม ๆ ออกจากคอมฟอร์ทโซน ศัตรูสำคัญของการอยู่คนเดียวคือการทำอะไรซ้ำซากในที่ที่เคยทำแล้วเกิดความเหงานั่นแหละ เพราะหลายครั้งเราทำอะไรเดิม ๆ ทำอะไรที่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าเมื่อก่อนเราเคยทำอย่างนี้กับคนนั้น ตอนโน้นเราเคยกินข้าวกับคนนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เราต้องตกอยู่กับกับดักทางความคิดที่เราขุดขึ้นเอง เราต้องพาตัวเองออกไปจากที่ที่เราเคยชิน พาตัวเองไปทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน อาจจะไปกินข้าวในร้านที่ไม่เคยคิดจะไปมาก่อน พาตัวเองไปทำกิจกรรมที่ปกติไม่คิดจะทำเลย ออกจากคอมฟอร์ทโซนเดิม ๆ ของเราซะ เป็นโอกาสดีที่ได้ทำความรู้จักตัวเองมากขึ้น การอยู่กับคนอื่นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่หลายครั้งที่เรารับฟังและอยู่กับความคิดเห็นของคนอื่นจนลืมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากหัวใจตัวเอง
เราเชื่อว่าผู้ชายทุกคนคงเคยเดทในชีวิตมานับครั้งไม่ถ้วน บางคนสมหวังสามารถเอาชนะใจผู้หญิงได้ตั้งแต่เดทแรก แต่บางครั้งก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งเราเคยสงสัยไม่ว่าทำไมพอหลังจากเดทแรกปุ๊ป ฝ่ายหญิงถึงตีตัวออกห่าง หรือทำตัวเหมือนไม่อยากคุยกับเราแล้ว แม้เราจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องความรัก แต่สาเหตุทั้งหมดน่าจะมาการพฤติกรรมการเดทของคุณ เพราะเคยมีคนบอกว่าเดทแรกจะสามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ ยิ่งเมื่อเวลาที่เราอยู่ใกล้กับคนที่ตัวเองชอบมากเท่าไหร่ ผู้ชายก็ยิ่งคาดหวัง พยายามอยากจะทำแต้มพิชิตใจเธอ จนบางทีอาจเผลอทำอะไรที่ไม่เข้าท่าออกไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นวันนี้ทีมงานจะขอมาแชร์พฤติกรรมที่ชาว UNLOCKMEN ควรระวังอย่าเผลอทำในเดทแรก เพราะถ้าหากทำแล้วผู้หญิงอาจจะร้องยี้ได้ ห้ามมองผู้หญิงคนอื่น แน่นอนในเมื่อคุณมาเดทกับเขา แต่ดันไปมองผู้หญิงคนอื่น มันเท่ากับว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างมากที่สุด ซึ่งเราก็เข้าใจว่าบางทีก็มีเย้ายวนใจให้คุณหันไปมองอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยเราควรจะเก็บอาการนิดนึง อย่าแสดงออกมากนัก เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด หากเธอเห็นว่าคุณมีสายตาที่ล่อกแล่ก อาจทำให้เสียแต้มในการเดทครั้งนี้ได้ ดังนั้นพยายามโฟกัสกับคู่เดทของเราถ้าไม่อยากให้รักล่ม เป็นผู้ฟังที่ดี อย่าพูดเรื่องตัวเองเยอะ ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครชอบมาฟังเรื่องของเราหรอก เพราะถ้าพวกเธออยากรู้อะไรเกี่ยวกับเราเดี๋ยวก็ไปหาวิธีสืบเอาเองจนได้ ดังนั้นวิธีง่าย ๆ คือการเป็นผู้ฟังที่ดี คอยรับฟังในทุกเรื่องที่เธอกำลังพูดแม้คุณจะไม่เข้าใจมันเลยก็ตาม แล้วอย่าลืมเอาคำเชื่อมประโยคต่าง ๆ ไปด้วย เวลาที่ผู้หญิงเล่าอะไรมาจะได้ดูเหมือนว่าเราให้ความสนใจ และมีการโต้ตอบกับพวกเธอ ใจดีสปอร์ต ช่วยเพิ่มแต้มต่อให้กับคุณเห็น ๆ ธรรมเนียมแบบอเมริกันแชร์นั่นใช้ไม่ได้สำหรับสังคมไทยจงลืมไปซะ อีกทั้งขึ้นชื่อว่าเดทแรกแล้ว จนเตรียมเงินอะไรไปให้พร้อม หากไม่แน่ใจจริง ๆ กรุณาเช็คข้อมูลราคาของร้านอาหารที่เรากำลังจะไป เพราะบางทีการไปกินร้านอาหารที่ไม่รับบัตรเครดิต แล้วเราขอยืมตังผู้หญิงไปจ่ายก่อน ต่อให้เราจะจ่ายคืนทันทีที่เจอตู้ ATM แต่นั้นก็ทำลายภาพลักษณ์ของเราไปเรียบร้อยแล้ว
แม้ชีวิตในเมืองจะเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิถีชีวิตในเมืองใหญ่มักถูกจํากัดไว้ด้วยความเร่งรีบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง หน้าที่การงานอันบีบคั้นซึ่งต้องแข่งขันกับเวลา บ่อยครั้งที่ Urban Men อย่างเรา ๆ ต้องจัดสรรชีวิตเผื่อให้กับภาระกิจรอบด้าน จนไม่เหลือพื้นที่สําหรับความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนตัว แค่จะหาความสุขจากการเริ่มต้นเติมพลังชีวิตในเช้าวันใหม่ ด้วยการดื่มกาแฟดี ๆ สักแก้ว ก่อนออกไปผจญความวุ่นวายในเมือง ยังดูเป็นสิ่งที่ทําได้ลําบาก เพราะคงไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงนัก หากจะต้องตื่นเช้าขึ้นอีกชั่วโมง สองชั่วโมง บากบั่นดั้นด้นเดินทางในช่วงเวลาเร่งรีบเพียงเพื่อจะแวะจิบกาแฟแก้วโปรดที่ร้านประจําระหว่างทาง ก่อนที่จะตาลีตาเหลือกไปเข้างานให้ทัน โดยที่ยังไม่ได้ละเลียดรสชาติกาแฟให้เต็มที่เสียด้วยซํ้า จะดีกว่าไหมหากเราสามารถสร้างพื้นที่ความสุข ดื่มด่ำรสชาติของกาแฟด้วยการชงกาแฟสดจากเมล็ดคั่วบดดื่มเองจากที่บ้าน ฉีกข้อจํากัดของเวลาที่เร่งรีบ ด้วยเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ Nespresso Essenza Mini ผู้ช่วยสําคัญที่จะมาสร้างช่วงเวลาสุนทรีจากการดื่มกาแฟ ซึ่งผ่านการคิดมาเป็นอย่างดีเพื่อตอบสนอง Lifestyle คนเมืองได้ถูกจุด ตรงใจ กับชีวิตที่ไม่เพียงแค่ถูกจํากัดอยู่ในกรอบเวลาอันเร่งรีบ เพราะในเรื่องของพื้นที่อยู่อาศัยภายในเมืองคืออีกหนึ่งข้อจํากัดที่ต้องใช้สอยแทบทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ดูจากชื่อก็รู้ได้ทันทีว่าที่พื้นที่ไม่ใช่ปัญหาของ Nespresso Essenza Mini ด้วยขนาดตัวเครื่องที่เล็กกะทัดรัด ดีไซน์เรียบเท่ร่วมสมัย สามารถแทรกตัวอยู่ในครัว ห้องนั่งเล่น ห้องทํางาน หรือมุมกาแฟเล็ก ๆ ในออฟฟิศได้อย่างกลมกลืน ดูเผิน ๆ
“ย้อนเวลา” เป็นสิ่งหนึ่งที่ใครก็อยากทำ แต่จะมีสักกี่คนที่ย้อนวันเวลาได้ วันนี้ UNLOCKMEN จะพาคุณย้อนวันเวลาไปหาตำนานเกาเหลาเนื้อไร้เทียมทานแห่งเวิ้งนาครเขษมที่มีสูตรต้นตำรับยาวนานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เรารับรองได้เลยว่าการได้ลิ้มรสเกาเหลาเนื้อจาก Ten Suns ไร้เทียมทาน 十光 จะไม่ต่างการได้ย้อนเวลากลับไปยังบรรยาการเก่า ๆ ของร้าน ชิ่ว เนื้อวัวไร้เทียมทาน เกาเหลาเนื้อที่จะทำให้คุณล่องลอยข้ามกาลเวลาอย่างไร้เทียมทานได้จริง ในวันที่ UNLOCKMEN เดินทางไปถึงร้าน Ten Suns ไร้เทียมทาน 十光 บอล-กันต์ รุจิณรงค์ มือกีตาร์วง อพาร์ตเมนต์คุณป้า ยืนรอเราอยู่แล้ว เขาเล่าถึงเสน่ห์ของ ชิ่ว เนื้อวัวไร้เทียมทาน ที่ไม่อาจปล่อยให้เลือนหายไปกับกาลเวลาได้เลย วันที่ ชิ่ว เนื้อวัวไร้เทียมทาน จะต้องปิดตัวลงด้วยเหตุผลด้านสถานที่จึงเป็นสิ่งที่เขาและ เชฟโจ๊ก-สมเกียรติ ไพโรจน์มหกิจ แห่งร้าน Seven Spoons ปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้ นี่จึงไม่ต่างจากการย้อนเวลา ไม่ต่างจากการควานคว้าร้านอาหารเจ้าประจำในดวงใจมาเก็บรักษาไว้อย่างที่ควรจะเป็น โดยเขาเล่าว่าชีวิตของเขาผูกพันกับเวิ้งนาครเขษมมาตลอด เพราะด้วยความเป็นนักดนตรีถ้าจะซื้อเครื่องดนตรี ทุกคนก็ต้องมาที่เวิ้งฯ นี่ เมื่อร้านที่เขารักกำลังจะจากไปเขาและเพื่อนจึงอยากนำร้านกลับมาเพื่อไม่ให้ลูกค้าเก่า ๆ หาร้านที่พวกเขารักไม่เจออีก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาได้เจอกับเฮียบัติ-ชญาณญ์พัฒณ์ ติเวชยันต์
ชีวิตในวัยทำงานไม่เคยง่ายดายสำหรับใคร เพราะเราจะต้องใช้ชีวิตตื่นนอนแต่เช้าเดินทางออกจากบ้านมาทำงาน จนกระทั่งหมดวัน เพื่อใช้ชีวิตทำเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ แบบไม่รู้จบ จะมีบ้างในวันหยุดเทศกาลที่พอจะทำให้ชีวิตรู้สึกผ่อนคลายขึ้นก่อนจะกลับไปสู่วงโคจรชีวิตแบบเดิมอีก ซึ่งอันที่จริงแล้วมนุษย์ทุกคนควรจะมีงานอดิเรก หรือสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบไว้สักหนึ่งอย่าง เพื่อให้ตัวเองยังรู้สึกว่าร่างกายของเราไม่ใช่หุ่นยนต์ที่คอยต้องมาป้อนคำสั่งเพื่อทำงานเพียงอย่างเดียว ทั้งที่คุณเองควรจะเป็นคนกำหนดออกแบบชีวิตของตัวเองว่าอยากจะเลือกทำอะไร ดังนั้นเราจึงมีเหตุผลที่ว่าทำไมผู้ชาย UNLOCKMEN ถึงควรมีงานอดิเรกสักหนึ่งอย่างเพื่อไว้ขัดเกลาอารมณ์ให้แจ่มใส่ และพัฒนาสมองให้เฉียบคมมากยิ่งขึ้น การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทำให้สมองสามารถคิดอะไรได้เฉียบคมมากขึ้น คนส่วนใหญ่มักคิดว่างานอดิเรกคือเรื่องสำหรับเด็ก แต่ความจริงงานอดิเรกทุกประเภท ล้วนเป็นการฝึกฝนสมองรูปแบบหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งจากการเรียนหนังสือ เพราะเมื่อเวลาที่เราสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราก็จะมีความมุ่งมั่นเพื่อต่อยอดให้งานนั้น ๆ ออกมาดียิ่งขึ้น โดยไม่ว่าจะเป็นการพยายามหาข้อมูล ศึกษาเพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งเสียเวลาฝึกฝน เพื่อให้ชิ้นงานออกมาดียิ่งขึ้น จากการศึกษาในปี 2013 ของมหาวิทยาลัยเท็กซัส ได้ทดสอบผู้ใหญ่จำนวน 200 คนให้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ปรากฎว่าการเรียนรู้เหล่านี้ทำให้สมองของพวกเขาสามารถจัดเรียงประมวลความคิด จนสามารถคิดไตร่ตรองเรื่องต่าง ๆ รวมถึงเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้ดียิ่งขึ้น งานอดิเรกทำให้คุณรู้จักคุณค่าในตัวเอง งานอดิเรกจะช่วยเพิ่มความท้าทายให้กับตัวคุณเองไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย หรือจิตใจ เพราะทุกกิจกรรมล้วนถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณเอาชนะขีดความสามารถของตัวเอง และเมื่อคุณสามารถประสบความสำเร็จในเป้าหมายต่าง ๆ ก็จะเกิดเป็นความมั่นใจทำให้คุณรู้จักคุณค่าของตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งการรู้จักคุณค่าในตัวเองจะช่วยเพิ่มโอกาสการทำงานดี ๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้ง่ายดายยิ่งขึ้นเช่นกัน การเบี่ยงเบนความสนใจชั่วคราว สามารถชาร์จพลังงานให้สมองได้
บรรดาคนมีชื่อเสียงและสร้างสรรค์ระดับโลกหลายต่อหลายคน มักเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงด้านการดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนชื่อดังอย่าง Ernest Hemingway และ Hunter S Thompson ไปยันนักแสดงและนักดนตรีชื่อก้องอย่าง Oliver Reed และ Jim Morrison แม้จะไม่ค่อยแฟร์ถ้าจะบอกว่าคนพวกนี้ขี้เมาถึงได้คิดอะไรเจ๋ง ๆ ได้ (เพราะพวกเขาก็ต้องเจ๋งด้วยตัวเองอยู่แล้ว) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าความคิดสร้างสรรค์มันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ้างแหละน่า เพื่อไม่ให้เราต้องงุนงงสงสัยให้ปวดตับกันอีกต่อไป ก็มีนักวิจัยใจดี (หรือบางทีก็อาจจะเอาผลการวิจัยไว้อ้างเหมือนกับเราก็ได้) เขาศึกษาเรื่อง Creativity on tap? Effects of alcohol intoxication on creative cognition โดยงานวิจัยที่ว่านี้ก็ชี้ออกมาชัด ๆ เลยว่าเบียร์ส่งเสริมสมองด้านความคิดสร้างสรรค์จริง! แต่ต้องในปริมาณที่เหมาะสมนะ คือ ผู้ชายจะเหมาะสมที่ปริมาณ 500 มิลลิลิตร ในขณะที่ผู้หญิงคือ 350 มิลลิลิตร รู้อย่างนี้ก็แวะชนเบียร์สักแก้วก่อนกลับบ้านหน่อยแล้วกัน เอ้า ชน! แต่ก่อนที่จะไปเมาเบียร์ เรามาดูงานวิจัยที่ว่านี้กันก่อน โดย Creativity on