ณ เวลานี้ คอเกมทั้งหลายคงไม่มีใครไม่รู้จัก Garena Free Fire สุดยอดเกม Action เอาตัวรอดบนมือถือ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย และกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ที่เปิดตัวมาด้วยเวลาเพียงแค่ 2 ปี แต่กวาดสถิติไปแล้วมากมาย ไม่ว่าจะยอดดาวน์โหลดกว่า 450 ล้านครั้ง, มีจำนวนผู้เล่นออนไลน์พร้อมกันสูงสุดทั่วโลกกว่า 50 ล้านคน รั้งตำแหน่งสุดยอดเกมที่มีผู้เล่นดาวน์โหลดเยอะที่สุดทั่วโลกในปี 2019 แถมยัง เป็นเกมมือถือที่ทุบสถิติยอดผู้ชมการแข่งขัน eSports ออนไลน์พร้อมกันสูงสุดในโลกจากรายการ Free Fire Worlds Series 2019 แต่ถึงแม้จะยืนหนึ่งเป็นเกมมือถือยอดฮิตถล่มทลาย ทาง Garena Free Fire ก็ไม่ได้นอนกอดความสำเร็จแบบนิ่งดูดาย เพราะนอกจากจะตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาเกมให้มันส์สะใจ ก็ยังมีโปรเจ็กต์พิเศษมากมายออกมาเอาใจเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายให้อินกับเกม Garena Free Fire มากขึ้น ล่าสุดสาวก Garena Free Fire รวมถึงใครที่ติดตามวงการเพลง Hip Hop กันอยู่ น่าจะพอทราบถึงข่าวคราวของโคตรโปรเจ็กต์ ที่ต้องยอมรับเลยว่า ทีมงาน Garena
ในปัจจุบันนี้หน้ากากอาจกลายเป็นสิ่งที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อรวมไปถึงฝุ่น PM 2.5 ซึ่งใคร ๆ เขาก็ทำกัน แต่หากมองย้อนกลับไม่กี่ปีที่ผ่านมา การใส่หน้ากากคงไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไปที่ใคร ๆ ก็ใส่กัน โดยเฉพาะในกลุ่มนักดนตรีระดับโลกทั้งหลาย ที่ส่วนใหญ่จะมาถึงจุดที่เรียกว่าโด่งดังได้นั้น อาจจะต้องใช้ใบหน้าอันหล่อเหลาเข้าช่วยบวกกับความต้องการให้คนทั่วไปจดจำใบหน้าของตัวเองได้ซึ่งก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไร เพียงแต่มันอาจใช้ไม่ได้กับวงดนตรีทั้ง 8 วงนี้ เพราะนอกจากพวกเขาเลือกจะใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าที่แท้จริงของตัวเองแล้ว การปกปิดตัวตนและใบหน้าให้ลึกลับกลับช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จ และเป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้นอีก วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าพวกเขาเหล่านี้ว่าจะเป็นวงอะไรกันบ้าง ทำไมพวกเขาต้องใส่หน้ากากทุกครั้งที่ออกสู่สาธารณชน 1. The Residents 44 ปี มาแล้วสำหรับวงดนตรีที่ชื่อว่า The Residents กับการเก็บตัวตนสุดลึกลับของพวกเขาเอาไว้ภายใต้หน้ากาก The Residents ก่อตั้งขึ้นในโรงเรียนมัธยม Shreveport รัฐ Louisiana และขยับขยายย้ายถิ่นไปมีชื่อเสียงอยู่ที่ California อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงรักษาความลึกลับของหน้าตาที่แท้จริงเอาไว้ภายใต้หน้ากากรูปลูกตากับหมวกนักมายากลมาเสมอ เพราะเขาต้องการให้คนสนใจที่ผลงานเพลงมากกว่าที่จะมาสนใจที่ตัวพวกเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมา The Residents ปล่อยผลงานเพลงออกมาแบบบ้าพลังถึง 40 ชุด รวมไปถึง Multimedia Collection อีกมากมาย 2. Slipknot วง
เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กันถ้วนหน้า หลายคนต้องทำงานที่บ้านหรือใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นเพื่อทำการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) นั่นทำให้ยอดการเข้าชมภาพยนตร์และสารคดีในช่องทางสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกัน ตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับหนุ่มที่รักเสียงเพลงเพราะแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ขนสารคดีของศิลปินระดับโลกที่น่าสนใจจำนวนมากมาให้ชม แต่ด้วยจำนวนสารคดีมากมายอาจทำให้หลายคนสับสน เลือกไม่ได้ว่าจะดูอันไหนดี วันนี้เราจึงอาสาพาไปทำความรู้จัก 6 Music Documentary เจ๋ง ๆ ที่คอดนตรีไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง จะมีเบื้องหลังเบื้องลึกของอัลบั้มไหน หรือฟุตเทจหายากของใคร เชิญติดตามรับชมได้เลย Oasis: Supersonic Oasis: Supersonic สารคดีที่จะพาคุณไปทำความรู้จักเรื่องราวของ 2 พี่น้อง Liam และ Noel Gallagher แห่งวง Oasis ที่จะพาย้อนชมชีวิตตั้งแต่ยุคก่อตั้งวงที่ปากกัดตีนถีบ ก่อนเข้าสู่ยุคแห่งความสำเร็จของวงในยุค 90’s ขณะเดียวกัน Oasis: Supersonic ก็แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ ของ 2 พี่น้องนักดนตรีที่สร้างวงระดับตำนานขึ้นไปพร้อม ๆ กัน Oasis: Supersonic เป็นผลงานการสร้างของ
มีใครสักคนเคยกล่าวไว้ว่า บทเพลงไพเราะช่วยทำให้บรรยากาศในแต่ละสถานการณ์ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ UNLOCKMEN ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้งเพราะพวกเราก็เป็นคอดนตรี บางคนชอบฟังเพลงในกระแส บางคนชอบฟังเพลงนอกกระแส บางคนชอบฟังเพลงสากลไปจนถึงเพลงของไอดอลเคป๊อป พวกเรามักสลับกันเปิดเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศในออฟฟิศ และหลายครั้งหลายคราวที่เลือกฟังเพลงของวงดนตรีวงหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง วงที่ว่าก็คือ eletric.neon.lamp เราได้ฟังเพลงของ eletric.neon.lamp มาประมาณหนึ่ง และในที่สุดก็มีโอกาสร่วมวงสร้างบทสนทนากับสมาชิกในวงทั้ง เจน (ร้องนำ) แทน (กีตาร์) อุน (กีตาร์) เต้ (เบส) และแป๊ก (กลอง) เราพบว่า eletric.neon.lamp คือวงดนตรีที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจ วิธีการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ มุกตลกกวน ๆ อย่าง “ถ้าเทียบกับหมา eletric.neon.lamp ก็แก่มากแล้ว” และถ่ายทอดเรื่องราวอย่างจริงใจว่ากว่า 14 ปี พวกเขาพบเจออะไรบ้างระหว่างที่นั่งอยู่บนรถไฟแห่งความฝัน การเดินทางจากเชียงใหม่สู่ใจกลางของวงการเพลงไทย วงดนตรีนามว่า eletric.neon.lamp ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มคนที่หลงรักเสียงเพลงและอยากสร้างสรรค์ผลงานด้านดนตรีในสไตล์ของตัวเอง เริ่มจากพ.ศ. 2549 ที่พยายามค้นหาตัวเอง ลองผิดลองถูก เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จนวันนี้นานถึง 14 ปี ระยะเวลานานขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ UNLOCKMEN
เท่าที่พอจำความได้มีวงดนตรีเพียงไม่กี่วงที่ถูกบรรจุในความทรงจำวัยเด็กของเรา และยังแน่วแน่ทำเพลงใหม่อย่างไม่เคยหมดมุขหรือเหน็ดเหนื่อยจนถึงปัจจุบัน แล้วคงพูดได้เต็มปากว่า ‘Scrubb’ (สครับ) เป็นหนึ่งในไม่กี่วงนั้น Scrubb คือวงดนตรีป๊อปร็อกอายุ 20 ปี ของ บอล – ต่อพงศ์ จันทบุบผา และ เมื่อย – ธวัชพนธ์ วงศ์บุญศิริ คู่หูต่างชั้นปีจากรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน พวกเขาสร้างสรรค์ดนตรีหลากสไตล์ กลั่นกรองคำร้องและท่วงทำนองที่บางครั้งก็อบอุ่นฟังสบาย แต่บางทีก็ลึกซึ้งราวกับพาเราดำดิ่งไปสัมผัสอารมณ์โคตรเศร้าที่เป็นหนึ่งส่วนของความสัมพันธ์ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่โตมากับเพลงเธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ ฟังเพลงกลัวและผ่านไปแล้วตอนเศร้าหม่น เปิดเพลงใกล้และรอยยิ้มฟังเพลิน ๆ ตอนแอบชอบใครสักคน หรือเคยใช้เพลงคู่กัน คนนี้ และเข้ากันดีมอบให้แฟนคนใดคนหนึ่ง เราอยากให้คุณรู้จักและหลงรัก Scrubb อีกครั้ง ผ่านบทสนทนาของสองหนุ่มต่างสไตล์ที่โลดแล่นบนเส้นทางดนตรีมา 20 ปี ซึ่งสิ่งที่เหมือนกันและยังทำมาจนถึงทุกวันนี้คือ ‘การทำเพลง’ หลายคน ‘ยังอยากรู้’ ว่าจุดเริ่มต้นของ Scrubb เกิดขึ้นตอนไหน? เมื่อย: เราเจอกันในมหาวิทยาลัยศิลปากร อยู่ในชมรมดนตรีเหมือนกัน จนวันนึงอยากมีเพลงเป็นของตัวเอง เลยพยายามไปเสนอค่าย แต่ก็ไม่มีใครเอา (หัวเราะ) ก็เลยลองทำเพลงใต้ดินกันเอง มีเครื่องอัดสี่แทร็ก
สำหรับคอดนตรีร็อกในเมืองไทย เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงของ “The Rock Pub” หนึ่งในแหล่งรวมตัวคนชอบดนตรีร็อกที่จัดว่ามีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ในกรุงเทพฯ รวมถึงในบ้านเราเลยทีเดียว ชาวร็อกหลายคนอาจจะเคยไปมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่รู้ว่าร้านนี้ตั้งอยู่ส่วนไหนในประเทศ ลองคิดดูดี ๆ ว่าคุณเคยเห็นตึกอิฐที่ดูน่าเกรงขามข้าง Coco Walk ติด BTS ราชเทวี ตึกนั้นหรือไม่? ใช่ครับที่นั่นคือที่ตั้งของ The Rock Pub ภายนอกสถานที่แห่งนี้อาจทำให้หลายคนคิดว่า ‘ดูเก่า’ ไม่ก็อาจจะคิดว่าดูน่ากลัว แต่สำหรับคนที่เคยเข้าไปคลุกคลีเสพดนตรีทั้งคืนจนถึงร้านปิดอย่างเราแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย ที่เข้ามาเต้น มาร้อง มากระโดด มาพูดคุย บ้างก็นั่งเฉย ๆ ฟังดนตรีกันอย่างตั้งอกตั้งใจ เป็นสถานที่สำหรับผู้ที่มีใจรักต่อดนตรีร็อกอย่างแท้จริง บางครั้งก็อาจจะมากกว่าเครื่องดื่มที่พวกเขาถือในมือเสียอีก ด้วยความที่เห็น The Rock Pub มาอย่างช้านาน เราจึงเกิดคำถามว่าใครเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้? และเขาทำอย่างไรให้ร้านเป็นดนตรีเฉพาะกลุ่มลักษณะนี้ให้ดำรงอยู่ได้? วันนี้ UNLOCKMEN จึงเข้ามาสนทนากับ “คุณเต๋า – นนทเดช บูรณะสิทธิพร” ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของคนปัจจุบันของร้าน และเราก็ได้พบว่า The
หากจะกล่าวถึงวงดนตรีแนว Goth-Rock ที่ขึ้นหิ้งเป็นระดับตำนานไปแล้ว เชื่อว่า The Cure จะเป็นชื่อแรก ๆ ที่ใครหลายคนคิดถึง พวกเขาก่อตั้งวงมาตั้งแต่ปี 1976 สมาชิกในวงเข้า ๆ ออก ๆ ผลัดเปลี่ยนมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัย มีผลงานสตูดิโออัลบั้มมากถึง 13 ชุด ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาพวกเขาจะออกทัวร์อยู่เนือง ๆ และเพิ่งจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครบรอบ 30 ปีอัลบั้ม Disintegration ไป แต่อัลบั้มล่าสุดอย่าง 4:13 Dream มันก็ผ่านมานานกว่า 12 ปีแล้ว เพราะถูกปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 2008 หลังจากที่ปล่อยข่าวออกมาสักพักแล้วว่า The Cure กำลังอยู่ในกระบวนการทำอัลบั้มใหม่ แต่ก็รอกันเนิ่นนานจนแฟนเพลงแซวว่า Robeth Smith แกล้งอำให้แฟนเพลงดีใจเล่น ล่าสุดฟรอนต์แมนวัยเก๋าท่านนี้ก็ออกมาคอนเฟิร์มเรื่องนี้ที่งาน NME Awards เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2020 ที่ผ่านมา โดยเขากล่าวว่า “เดี๋ยวเพลงแรกจะถูกปล่อยออกมาเร็ว ๆ นี้แหละครับ เราอัดกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เชื่อว่าชาวร็อกหลายคนต้องคุ้นเคยกับชื่อนี้ ‘Ozzy Osbourne’ เพราะเขาคือบุรุษแห่งความมืดมิด อดีตนักร้องนำ Black Sabbath วงดนตรีวงแรก ๆ ของโลกที่บุกเบิกดนตรีแนวเฮฟวีเมทัล เขาเป็นหนึ่งในคนที่ใช้ชีวิตคุ้มมาก เหล้า ยา ปาร์ตี้ พี่แกเอาหมด จนหลาย ๆ คนถึงกับสงสัยว่าพี่แกรอดชีวิตมาถึงวันนี้ได้อย่างไร ห้อยพระอะไรถึงหนังเหนียวเสียเหลือเกิน ใครจะไปคาดคิดว่า Osbourne ในวัย 71 ปี จะออกมาเผยว่าตัวเองต้องทนต่อสู้กับโรคพาร์กินสัน (ภาวะอาการในกลุ่มการเคลื่อนไหวผิดปกติ) มาตั้งแต่ปี 2003 แล้ว เล่นเอาแฟนเพลงทั้งโลกตะลึงเพราะไม่เคยมารู้มาก่อน แถมเจ้าตัวยังออกทัวร์และไปร่วมงานกับศิลปินท่านอื่น ๆ ดูเป็นปกติสุขมาตลอด ถึงจะมีอาการมาตั้งแต่ปี 2003 แต่เพิ่งจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้จริง ๆ หลังประสบอุบัติเหตุหกล้มเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อนนี้เอง และเมื่อเดือนมกราคม 2020 ที่ผ่านมา เขาก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้ต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรายการ Good Morning America โดยเขาได้กล่าวว่า “ผมไม่ตายเพราะพาร์กินสันหรอก ผมอยู่กับมันมาเกือบทั้งชีวิต ผมโกงความตายมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ถ้าพรุ่งนี้คุณเจอข่าว Ozzy Osbourne ไปสบายแล้วในเช้าวันนี้ คุณคงจะไม่ตื่นเต้นแบบ ‘โอ้พระเจ้า!’ แต่คุณจะแบบ
สำหรับผู้ที่ฟังเพลงสากลเป็นชีวิตจิตใจ เชื่อว่าคงจะคุ้นเคยชื่อของ LANY กันอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย พวกเขาคือวงดนตรีแนว Indie Pop จาก Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา มีสมาชิก 3 คน ประกอบด้วย Paul Klein (ร้องนำ,คีย์บอร์ด,กีตาร์), Les Priest (ชื่อเต็ม Charles Leslie Priest คีย์บอร์ด,ซินธิไซเซอร์,กีตาร์) และ Jake Goss (กลอง,แซมเพลอร์) พวกเขาก่อตั้งวงกันตั้งแต่ปี 2014 ก่อนจะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพลงของพวกเขาถูกใจแฟนเพลงทั่วโลก รวมถึงแฟนเพลงชาวไทยที่ดูจะมากเพิ่มขึ้นทุกวัน ล่าสุดพวกเขาก็เพิ่งจะมาเปิดโชว์ที่ไทยในงาน Maya Festival 2020 ในวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา และในครั้งนี้ทาง UNLOCKMEN ก็ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับพวกเขาทั้ง 3 คนอย่างใกล้ชิด ด้วยความที่ครั้งนี้ LANY มาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทยเป็นครั้งที่ 4 แล้ว มาดูกันว่านักแต่งเพลงมืออาชีพอย่างพวกเขา จะตอบคำถามเกี่ยวกับ
จบกันไปแล้วกับงานประกาศผลรางวัล Oscars 2020 (ครั้งที่ 92) เวทีอันทรงเกียรติที่ผู้กำกับ นักแสดง คนทำหนัง และเหล่าคนดูหนังอย่างเรา ๆ รอคอย แต่ละปีก็จะมีไฮไลต์เด็ดที่แตกต่างกันไป สำหรับปีนี้ก็มีการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจจากศิลปินชื่อดังมากมายหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Elton John, Janelle Monae, Billie Eilish และโชว์เพลง Into The Unknown จาก Frozen 2 ที่รวมผู้พากย์เสียงราชินีน้ำแข็ง Elsa จากหลายหลายประเทศ (รวมถึงคุณแก้ม The Star จากไทย) และศิลปินชาวนอร์เวย์ Aurora มาร่วมร้องด้วย แต่หนึ่งโชว์พิเศษที่เซอร์ไพรส์ผู้ชมสุด ๆ ในปีนี้ก็คือการได้เห็น Eminem แรปเปอร์แถวหน้าระดับโลก ขึ้นมาร้อง ‘Lose Yourself ‘ เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง 8 Mile ที่เคยได้รางวัล Academy Award for Best Original Song