เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนต่างหลงใหลในเสน่ห์และเรื่องราวของซามูไร (Samurai) นักรบจากแดนอาทิตย์อุทัยที่มีจุดเริ่มต้นมาจากยุคสมัยเฮอัง (ค.ศ.794-ค.ศ.1185) จนกระทั่งเริ่มสิ้นสุดบทบาทลงในยุคเมจิช่วงปี ค.ศ. 1,870 อย่างไรก็ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ รวมถึงเรื่องเล่าขานตำนานต่าง ๆ มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักกับวิถีชีวิตของนักรบเหล่านี้ได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย ในเวลาต่อมาวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับซามูไรก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านทางสื่อแขนงต่าง ๆ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่สร้างอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลกมากที่สุดคงหนีไม่พ้นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับซามูไร ผลงานของผู้กำกับในตำนานอย่าง อาริกะ คุโรซาวะ (Akira Kurosawa) ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้คนรักวัฒนธรรมซามูไรในหลากหลายยุคสมัย และล่าสุดได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นให้สุดยอดเกมประจำปี 2020 อย่าง Ghost of Tsushima มาดูกันว่าเกมส่งท้ายเครื่อง PS4 เกมจะได้แรงบันดาลใจในด้านไหนจากแนวทางของผู้กำกับผู้ล่วงลับคนนี้บ้าง เรื่องราวของนักรบแห่งเกาะสึชิมะ Ghost of Tsushima เป็นเกม Action-Adventure แบบ Open-World ที่พัฒนาโดย Sucker Punch Productions ผู้เคยอยู่เบื้องหลังเกมอย่าง Sly และ Infamous ซึ่งคราวนี้เปลี่ยนสไตล์การพัฒนาเกมมาถ่ายทอดวิถีชีวิตของซามูไร เนื้อเรื่องของ Ghost of Tsushima เล่าถึงเรื่องราวในปี ค.ศ.1274
ของมือสองเป็นอีกจักรวาลที่ถ้าเข้าวงการไปแล้วออกยาก เพราะถ้าเรารู้วิธีสังเกตและเลือกซื้อกล้อง มีสิทธิ์ได้ของเจ๋ง ๆ มาใช้งานในราคาถูกเหมือนถูกลอตเตอรี่ หรือถ้าเอาไป CLA (Clean – Lubrucate – Adjust) แล้วปล่อยต่อ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเงินทั้งนั้น วันนี้ UNLOCKMEN จึงถือโอกาสพาชาวกระเป๋าบาง (รวมเราด้วย) มาหาสมบัติกันที่ “Lucky Home” โกดังของมือสองญี่ปุ่นชื่อดังย่านสำโรง ใครที่จะเดินทางตามรอยเรามา บอกก่อนว่าที่นี่ไม่ได้ตั้งอยู่บนเส้นถนนเส้นหลัก ดังนั้นเดินทางด้วยรถส่วนตัวจะดีที่สุด มีที่จอดรถหน้าโกดังและฝั่งตรงข้าม แต่ถ้าคุณไม่มีรถส่วนตัวหรือขับรถไม่เป็นแนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถยนต์ที่ให้บริการสาธารณะปักหมุดจากในแอปฯ แล้ววิ่งมาสถานเดียว เพราะจะมาหาเอาแถวนี้ทั้งขาไปและขากลับค่อนข้างจะลำบากอยู่เหมือนกัน เป้าหมายของวันนี้คือการเลือกซื้อกล้องฟิล์มมือสองเพราะพวกเรา UNLOCKMEN เช็กข้อมูลมาว่าที่นี่มีกล้องมือสองหลากยี่ห้อทั้งแมส ๆ และไม่เแมสจากญี่ปุ่นจำนวนนับหมื่นตัวให้เลือก แต่นอกจากโกดังกล้องที่นี่ยังมีของเล่นอื่น ๆ อีกเพียบที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ให้นึกภาพตามว่าเป็นโกดังเรียงติดกันหลายหลัง แต่ละหลังแบ่งเป็นประเภทข้าวของเครื่องใช้นั้น ๆ เช่น โซนเครื่องใช้ทั่วไป เครื่องดนตรี เครื่องเสียง กล้อง ฯลฯ รวม ๆ แล้วก็ 3-4 โกดังใหญ่ ๆ เหมือนเราเดินฮอลล์ในอิมแพ็คที่เมืองทองแต่เป็นโกดังเปิดโปร่งไม่มีแอร์ ระบบการจัดวางเขาจัดช่องทางเข้าออกทางเดียว ดังนั้น
ในภาพยนตร์บางเรื่อง รถยนต์ประกอบฉากก็มีความโดดเด่นไม่แพ้นักแสดงนำเลย ไม่ว่าจะเป็น 1963 VOLKSWAGEN BEETLE ที่ถูกดีไซน์ใหม่ในภาพยนตร์เรื่อง The Love Bug (1968) หรือ 1961 FERRARI 250 GT CALIFORNIA SPYDER SWB ที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง Ferris Bueller’s Day Off (1986) UNLOCKMEN เลยอยากแชร์กับทุกคนว่า มีรถยนต์คลาสสิกรุ่นไหนบ้างที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำจากภาพยนตร์เรื่องต่างๆ 1961 FERRARI 250 GT CALIFORNIA SPYDER SWB จาก Ferris Bueller’s Day Off หลายคนคงจดจำรถที่ Cameron Frye (นำแสดง โดย Alan Ruck) จากภาพยนตร์ เรื่อง Ferris Bueller’s Day Off (1986)
จากไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบัน ปัจจัยในการเฟ้นหารถยนต์คู่ใจสักคัน อาจไม่ได้จบแค่หัวใจหลักอย่างเรื่องสมรรถนะ หรือความปลอดภัยเพียงเท่านั้น เพราะมันจำเป็นต้องลงลึกไปถึงรูปลักษณ์เส้นสายงานดีไซน์ที่ใช่ ไม่เว้นแม้แต่ฟังก์ชันการใช้งานอันหลากหลายซึ่งพร้อมตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่าง และต้องบอกว่า New Mitsubishi Xpander Cross รุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์อารมณ์สปอร์ต SUV รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายภายใต้นิยามของความเป็น The Urban SUV คืออีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครซึ่งกำลังมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้ครบครัน ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประสิทธิภาพความปลอดภัย รวมไปถึงคุณสมบัติการใช้งานที่อเนกประสงค์ และดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่นซึ่งพร้อมสะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ออกมาได้อย่างชัดเจน เกริ่นมาแค่นี้อาจยังไม่เห็นภาพ ในวันนี้เราจึงอาสาพาผู้อ่าน UNLOCKMEN ทุกท่าน ไปสัมผัสกับจุดเด่นด้านต่าง ๆ ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใน New Mitsubishi Xpander Cross รุ่นใหม่ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และช่วยตอบคำถามที่ว่าทำไมมันถึงเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจ และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างเรา ๆ EXTERIOR เริ่มต้นกันที่การออกแบบภายนอกของ New Mitsubishi Xpander Cross ที่ยังคงเอกลักษณ์ของแนวคิดการออกแบบด้านหน้ารถที่เรียกว่า Advanced Dynamic Shield ซึ่งเป็นการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัย และสมรรถนะการขับขี่จนได้ผลลัพธ์เป็นเส้นสายงานดีไซน์ที่พบเห็นได้ในรถยนต์ Mitsubishi ยุคใหม่ทุกรุ่น และ New Mitsubishi
ค่อย ๆ เผยสเปคออกมาเรื่อย ๆ สำหรับ varients ย่อยของ Porsche 911 992 และล่าสุดก็เป็นคิวของตัวแรงสุดประจำรุ่น 911 Turbo และ Turbo S ทั้งในรูปแบบของ Coupe และ Cabriolet อัพเกรดความแรงให้สะใจยิ่งขึ้น 2021 Porsche 911 (992) Turbo ใช้เครื่องยนต์ 3.8-liter twin-turbo flat-six ให้พละกำลัง 572 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ทำเวลา 0-100 km/h ใน 2.7 วินาทีสำหรับรุ่น Coupe และ 2.8 วินาทีสำหรับรุ่น Cabriolet เทียบเท่ากับ 911 Turbo S ในรุ่นก่อนพอดิบพอดี ส่วนใน 2021 Porsche
ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงเดือนที่แบรนด์กล้องเปิดตัวโมเดลทอป ๆ ออกมาแข่งกันมันส์ที่สุดในรอบปี หลังจาก Canon เปิดตัว R5 และ R6 ทางฝั่ง Sony ประกาศเตรียมเปิดตัว A7S iii (ไม่นับ Olympus ที่ประกาศเลิกทำธุรกิจกล้องถ่ายรูป แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ ถ้าตลาดจะแข่งกันดุเดือนขนาดนี้) ล่าสุด Leica ก็ได้เปิดตัว M10-R ซึ่งเป็น Top-of-the-line ของโมเดล M10 ซึ่งเราจะเรียงลำดับให้ก่อนเพื่อไม่ให้งง เพราะเป็นธรรมดาของ Leica ที่จะมีรุ่นย่อยออกมาค่อนข้างเยอะ โดยสรุป ณ ตอนนี้ M10 ถือเป็นกล้องรุ่นล่าสุดของ Leica ที่เรียงลำดับมาตั้งแต่ M10 ที่มี sensor 24 Megapixels M10-P ที่มีจุดเด่นเรื่องลดเสียง shutter M10-D ที่ไม่มีจอ LCD ให้ดู M10 Monochrome กล้อง Black and
นี่ไม่ใช่แค่รถที่ถูกปรับจูนให้แรงขึ้น หรือตกแต่งหน้าตาให้ดูสปอร์ตขึ้น แต่นี่คือ Black Series ซึ่งเป็นดีกรีระดับสูงสุดของ Mercedes-AMG ซึ่งไม่ใช่รหัสที่ถูกผลิตกันออกมาบ่อย ๆ โดยโมเดลก่อนหน้าก็คือ 2013 SLS Black Series เมื่อ 7 ปีที่แล้ว และเราก็รู้ดีว่ามันพิเศษแค่ไหน หลังจากมีภาพหลุดและ Spy shots ออกมามากมาย ก็ถึงเวลาที่มันจะถูกเปิดผ้าคลุมพร้อมเผยสเปคทั้งหมดของ Mercedes-AMG GT Black Series สมาชิกลำดับที่ 6 ของตระกูล Black Series กันสักที Mercedes-AMG GT Black Series มากับเครื่องยนต์ M178 LS2. twin-turbo 4.0-liter V8 ส่งกำลังผ่านเกียร์ 7-speed DCT ที่ไม่ใช่แค่ปรับจูนและอัพเกรดเทอร์โบให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มความแรงให้เป็น 720 แรงม้า (143 แรงม้ามากกว่า AMG GT R,
นิสสัน นำเสนอ นิสสัน อริยะ ใหม่ (all-new Nissan Ariya) รถยนต์เอสยูวีครอสโอเวอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า 100% มอบอัตราเร่งที่ทรงพลัง การขับขี่ที่ราบรื่นและสงบเงียบในขณะขับเคลื่อน ผู้ขับขี่และผู้ร่วมเดินทางสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีระบบการขับขี่อัตโนมัติ ระบบผู้ช่วยเหลือเสมือนจริง การเชื่อมโยงข้อมูลอย่างไร้รอยต่อ และการออกแบบภายในที่กว้างขวางสร้างบรรยากาศเสมือนห้องรับรองอันหรูหรา ด้วยระยะทางการขับขี่ถึง 610 กิโลเมตร (ภายใต้มาตรฐานการทดสอบรถยนต์ WLTP ของประเทศญี่ปุ่น) “นิสสัน อริยะ เป็นรถที่สวยงามและน่าทึ่งอย่างแท้จริง ช่วยให้คุณเดินทางได้ไกลขึ้น ง่ายขึ้น และสะดวกสบายยิ่งขึ้น นิสสัน อริยะ ออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจ และแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่นิสสันมุ่งมั่นเพื่อทำให้ลูกค้าของเรามีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” – อัชวานี กุปตา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของนิสสัน (Ashwani Gupta, Nissan’s chief operating officer) ด้วยการผลิตของนิสสันในฐานะผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน อริยะ ยกระดับประสิทธิภาพและขีดความสามารถของยานยนต์ไร้มลพิษไปอีกขั้น ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของนิสสัน อริยะ ได้ผสานการถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อน และประสิทธิภาพการชาร์จที่ดีเยี่ยม พร้อมระยะทางในการขับขี่ที่ไกลกว่าเดิมเข้าด้วยกัน ลูกค้าสามารถเลือกกำหนดค่าต่าง ๆ ตามความต้องการในการขับขี่ของลูกค้าที่หลากหลาย
Lotus Evija (อ่านว่า E-Vi-Ya) รถยนต์บ้าพลังคันล่าสุดจากอังกฤษ ที่แม้จะยังไม่ได้เริ่มลงมือผลิต แต่ก็ลั่นวาจาไว้แล้วว่า Evija จะเป็นรถ Battery-Electric Hypercar พลังงานไฟฟ้าที่ทำเวลา 0-300 km/h ได้เร็วที่สุดในโลก ทุกวันนี้อาจจะยากที่จะทำเวลา 0-100 km/h ให้เร็วเกินขีดจำกัดของรถยนต์ 4 ล้อได้ เพราะปัจจุบันรถยนต์หลายรุ่นสามารถทำลายขีดจำกัดต่ำกว่า 2 วินาทีกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Rimac C_Two 1.85 วินาที, Aspark Owl 1.69 วินาที ซึ่งสำหรับ Lotus Evija ที่ทำเวลา 0-100 km/h ภายในไม่เกิน 3 วินาที จึงอยู่ห่างไกลจากการสร้างสถิติใหม่ได้ หรือแม้แต่จะขยับขึ้นมาเป็น 0-200 km/h ที่ตัวเลข 6 วินาทีนิด ๆ ก็ยังไม่ได้เร็วไปกว่า Bugatti Chiron Pur Sport
บนถนน คงไม่มีใครกล้าหาเรื่อง Godzilla จากแดนญี่ปุ่น Nissan GT-R จรวดทางเรียกนักฆ่า Supercars แต่สำนักแต่งอย่าง Classic Youngtimers Consultancy คิดว่าถนนยางมะตอยยังไม่เพียงพอ GT-R ต้องเป็นหนึ่งในทางฝุ่นด้วย จึงเป็นที่มาของโปรเจค Nissan GT-R Offroad ‘Godzilla 2.0’ ภายนอกยังคงมีความดุดันของ Nissan GT-R อยู่เต็มเปี่ยม แต่ที่เพิ่มขึ้นคือลวดลาย Camoflage wrap และช่วงล่างแบบ Offroad ซึ่งยก GT-R ให้มี clearance ใต้รถเพิ่มเป็น 12 cm. เพียงพอที่จะเข้าไปลุยทางป่าเขาแบบ Rally Racing พร้อมซุ้มล้อแปลกตาที่สร้างพื้นที่สำหรับช่วงล่างและยาง Offroad ที่โหดสำหรับสายลุยมากขึ้น ด้านหน้ามีการติดตั้ง LED spotlight 2 ดวง ด้านบนติดตั้ง Roof rack, light bar และล้ออะไรขนาดใหญ่เพื่อใช้เปลี่ยนในยามไม่คาดฝัน และมันใหญ่เกินกว่าจะเก็บไว้ในช่องยางอะไหล่ปกติ