ปลายปีที่ผ่าน Adidas เปิดตัวรองเท้าวิ่งตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Ultra BOOST 20 ออกมา โดยเป็นรองเท้าวิ่งที่ผ่านขั้นตอนการคิดค้นและวิจัยร่วมกับสถานีอวกาศนานาชาติ ISS National Lab โดยล่าสุดกำลังจะเปิดตัวในธีมเมืองทวีปเอเชียแปซิฟิคด้วยชื่อ “City Pack” “City Pack” คือคอลเลกชันรองเท้าของ Ultra BOOST 20 ที่ประกอบไปด้วยรองเท้า 8 คู่ที่เป็นตัวแทนเมืองใหญ่และ Running Hotspots นำโดยเมืองแห่งแฟชั่นของเอเชียอย่างโตเกียว โซล และหัวเมืองใหญ่สำคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็นโอซาก้า ไทเป สิงคโปร์ ฮ่องกง ซิดนีย์ รวมถึงกรุงเทพมหานครซึ่งปีนี้ได้รับเลือกให้อยู่ใน 1-8 คู่ ถือเป็นโอกาสดีที่เหล่าสนีกเกอร์เฮดเมืองไทยจะได้ซื้อรองเท้าที่เป็น BKK Editon ที่ไม่ได้มีออกมาบ่อย ๆ รองเท้าทั้ง 8 คู่ ใช้ดีไซน์ล่าสุดของ Ultra BOOST 20 ที่เลือกใช้สีแตกต่างกันออกไปโดยเป็น 3 สีตัวแทนของแต่ละเมือง ความพิเศษในแคปซูลนี้คือ ลิ้นรองเท้าและเชือกที่มีคำว่า Adidas
เสื้อยืดที่เราใส่กันอยู่นั้น จริงๆ แล้วมีกี่ประเภท และความเป็นมาของแต่ละแบบเป็นอย่างไร UNLOCKMEN มีคำตอบให้
ในวงการฮอลลีวูด คุณอาจเคยเห็นนักแสดงเจ๋ง ๆ หลายคนยอมลงทุนเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเองเพื่อให้เข้าถึงบทบาทของเขา ไม่ว่าจะเป็นลดน้ำหนักจนซูบผอม หรือเพิ่มน้ำหนักเป็นสิบ ๆ กิโลฯ ผู้หญิงบางคนยอมโกนหัว นักแสดงบางคนถึงยอมไว้หนวดเครารุงรังจนเราแทบจำไม่ได้ แต่เชื่อไหมครับว่าครั้งหนึ่งในยุค 1960 มีนักแสดงท่านหนึ่งโดนสั่งให้ทำอะไรที่โหดร้ายกว่านั้นมาก นั่นก็คือการส่งตัวไปหาหมอเพื่อหด ‘ความเป็นชาย’ ของตัวเองให้ลดลง! Burt Ward คืออดีตนักแสดงชาวอเมริกัน (ปัจจุบันอายุ 74 ปี) ผู้เคยรับบท ‘โรบิน’ สหายคู่ใจมนุษย์ค้างคาวใน Batman เวอร์ชันทีวีซีรีส์ที่ออกฉายช่วงปี 1966–1968 เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ออกมาเผยกับเว็บไซต์ Page Six ว่า ครั้งหนึ่งสถานีโทรทัศน์ ABC (The American Broadcasting Company) ถึงกับส่งตัวเขาไปหาหมอ เพื่อสั่งยา ‘หดขนาด’ เจ้าโลกของเขา ด้วยเหตุผลที่ว่าเป้าของเขามันดูตุงเกินไปสำหรับโทรทัศน์! “ผมทานยาไปได้ 3 วันก็เริ่มคิดว่าสิ่งนี้อาจจะทำให้ผมมีลูกไม่ได้ ผมตัดสินใจหยุดทาน ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ผ้าคลุมบังเอาไว้แทน” อีกทั้ง Burt Ward ยังเผยอีกว่า Adam West
การเริ่มต้นศักราชใหม่ไม่ได้มาพร้อมกับปณิธานปีใหม่หลายสิบข้อที่เราตั้งไว้เท่านั้น แต่หนุ่มมนุษย์เงินเดือนอย่างเรายังได้ของขวัญชิ้นเล็ก ๆ ที่พ่วงมากับการเริ่มต้นปี ใช่แล้ว เดือนมกราคมนี้จำนวนวันลาพักร้อนของเรากำลังจะเริ่มนับใหม่อีกครั้ง แล้วคงได้ฤกษ์จัดสรรวันลาเอาไปเสียบตามวันฟันหลอ เพื่อให้ได้หยุดยาวและท่องเที่ยวอย่างจุใจสักที ในช่วงเริ่มต้นปีแบบนี้หนุ่ม ๆ หลายคนคงกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือโรแมนติกที่สามารถพาแฟนสาวไปนอนดูดาวสองต่อสองได้ วันนี้ UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำห้องพักสุดเจ๋งที่มองเห็นวิวสัตว์ป่าและขุนเขาได้เต็มสองตา แถมไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างแดน คุณก็สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบหรูหราและใกล้ชิดธรรมชาติได้ Jungle Bubbles เป็นห้องพักโปร่งใสสุดเฟี้ยวในโรงแรม Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนเนินเขากลางป่าของพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ อันเป็นรอยต่อระหว่างไทย ลาว และเมียนมาร์ จึงมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทั้งสามประเทศได้ในคราวเดียว แถมที่นี่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเอาไว้อย่างไร้ที่ติ ห้องพักรูปโดมโปร่งใส Jungle Bubbles ถูกออกแบบโดย Eye In The Sky และสร้างขึ้นจากผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester) คุณภาพสูงที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Precontraint Serge Ferrari สร้างผ้าใบโปร่งใสที่มองเห็นทัศนียภาพโดยรอบแบบ 360 องศา และช่วยให้ผู้พักได้ดื่มด่ำประสบการณ์พักผ่อนสุดพิเศษ ราวกับตนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอย่างไรอย่างนั้น ห้องพักโปร่งใสทั้งสองห้องตั้งอยู่บนระเบียงไม้ที่ยกระดับความสูง ช่วยให้มองเห็นทิวทัศน์และดวงดาวในยามค่ำคืนได้เต็มอิ่ม และที่ตั้งที่อยู่ไม่ไกลจากชายขอบป่า
หลายคนลืมตาตื่นบนที่นอนแล้วเปิดโทรศัพท์ดูในตอนเช้าจะพบว่ามีข้อความต่าง ๆ จากเพื่อนฝูง คนในครอบครัวว่า ‘อย่าลืมใส่แมสก่อนออกจากบ้าน’ หรือจะเป็น ‘พรุ่งนี้ไปดูเครื่องฟอกอากาศกันไหม’ ทั้งหมดคือความห่วงใยของผู้คนที่พยายามปกป้องตัวเองและคนที่รักจากฝุ่นควันเป็นพิษ เรารักตัวเอง เรารักคนรอบข้าง แล้วรัฐบาลที่ห่วงใยประชาชนกำลังทำอะไรอยู่ ? เมื่อลุกจากเตียงแล้วเปิดหน้าต่างดูก็จะเห็นด้วยตาตัวเองว่าฝุ่นหนาฟุ้งกระจายอยู่ทั่ว เพราะปัญหาฝุ่นควันที่เรียกกันจนติดปากว่า PM 2.5 เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิดแถมในตอนนี้มันก็ยังคงอยู่ UNLOCKMEN จึงอยากพาทุกท่านไปพบกับประเทศต่าง ๆ ที่พบปัญหาเดียวกันกับประเทศไทย และดูสิว่ารัฐบาลของแต่ละประเทศมีนโยบายหรือวิธีแก้ปัญหาอากาศไม่สะอาดอย่างไรกันบ้าง อินเดีย เริ่มจากประเทศที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องร้อง ‘อี๋’ กันเป็นแถบกับสาธารณรัฐอินเดีย เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องฝุ่น เมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในโลก ผู้คนกว่า 1.339 พันล้านคน เมืองที่แสนเป็นตัวของตัวเอง มีชนชั้นวรรณะ มีไลฟ์สไตล์แสนเฉพาะตัว เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีคนเยอะที่สุดในโลก การผลิตในระบบอุตสาหกรรมก็ต้องมากตามจำนวนประชากร อินเดียเองก็เจอปัญหามลพิษทางอากาศไม่ต่างจากไทย แถมมีทีท่าจะหนักกว่าบ้านเราด้วยซ้ำ โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกประจำปี 2561 ระบุว่าแต่ละปีมีประชากรโลกเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยมลพิษกว่า 6,500,000 คน และอินเดียก็เคยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งเมืองที่มีมลพิษเยอะที่สุดในโลก นโยบายของรัฐบาลอินเดียที่เร่งจัดการกับปัญหานี้มีหลายทางด้วยกัน ทั้งสั่งลดการก่อสร้างและการรื้อถอนที่ทำให้เกิดฝุ่นทันที มีมาตรการฉีดพ่นน้ำไม่ต่างจากไทย แต่น้ำที่อินเดียใช้อัดแน่นด้วยคุณสมบัติไฟฟ้าสถิต ผลที่ออกมาคือน้ำคุณสมบัติพิเศษนี้สามารถดักจับฝุ่นได้ดีกว่าน้ำประปาธรรมดา เมื่อพบว่าค่าฝุ่นขึ้นสูงเกินกำหนด มีคำสั่งให้ปิดโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินชั่วคราว ดึงมาตรการการจำกัดจำนวนรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนท้องถนน เช่น รถยนต์เอสยูวีเครื่องยนต์
หนุ่ม ๆ หลายคนต่างรู้จัก Lamborghini Huracan ซูเปอร์คาร์จากค่ายกระทิงเปลี่ยวที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 มาถึงปัจจุบัน Huracan แตกย่อยพัฒนาออกมาหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Huracan EVO Huracan EVO spyder และล่าสุดคือรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังอย่าง Huracan EVO RWD ค่ายกระทิงเปลี่ยวตั้งใจสร้าง Huracan EVO RWD ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการแฟนเดนตายของ Lamborghini ที่ต้องการเห็นซูเปอร์คาร์รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear Wheel Drive) ที่ขับสนุกมากขึ้น ในที่สุดโปรเจกต์ดังกล่าวก็มาจบลงที่โมเดล Huracan EVO RWD คันนี้ เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกของ Huracan EVO RWD ที่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นปกติไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแผงกันชนและช่องลมด้านหน้าตัวรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นปกติ 72 ปอนด์ เพราะโครงสร้างตัวรถเป็นแบบไฮบริดผสมผสานระหว่างอลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ โดยมีน้ำหนักรวมเพียง 1,389 กิโลกรัมที่กระจายน้ำหนักแบบ 40/60 ด้านขุมพลังใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกันกับ Huracan EVO คือเครื่อง V10
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา บรรดาสื่อดนตรีต่างประเทศต่างออกมาจัดอันดับ ‘สุดยอดเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล’ ในหมวดต่าง ๆ ตามธรรมเนียมของทุกปี ซึ่งเพลงดีตลอดกาลที่ว่านี้ก็ไม่มีมีดีแค่หัวข้อเดียว เพราะมันยังแยกประเภทออกมายิบย่อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เพลงร็อกยอดเยี่ยม เพลงป๊อปยอดเยี่ยม เพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม แต่มีหนึ่งหัวข้อที่เตะตาเรามาก ๆ จนไม่นำมาพูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือหัวข้อ เพลงไลน์เบสยอดเยี่ยมตลอดกาล นั่นเอง คอเพลงทุกคนคงคุ้นเคยกับวลีติดปากที่มักจะพูดกันว่า เบสหนึบ เบสโหด เบสเทพ ซึ่งไอ้ความรู้สึกเหล่านี้ถ้าไม่ใช่นักดนตรีก็คงจะไม่มีวันรู้ว่าไลน์เบสใครที่เจ๋งสุดในวงการ หรือต่อให้รู้ก็ไม่ได้แปลว่าสิ่งที่เราชอบจะดีที่สุดเสมอไป วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะหยิบยกเพลงไลน์เบสโดดเด่นที่พวกนิตยสารดนตรีดัง ๆ เขาเคลมว่าดีมาบอกต่อบรรดาคอเพลงทั้งหลาย มาดูกันว่าจะมีเพลงอะไรบ้าง แล้วที่ว่าดีนี่มันดีแค่ไหนกันเชียว! Around The World – Daft Punk Select By NME เพลงนี้อยู่ในอันดับ 10 เพลงไลน์เบสยอดเยี่ยมตลอดกาลของ NME แน่นอนว่าวงอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Daft Punk ให้ความใส่ใจเรื่อง Beat ยืนหนึ่งกว่าวงไหน หลายเพลงของพวกเขาไม่มีเนื้อร้องด้วยซ้ำ Around The World เพลงนี้ก็เช่นกัน
“ผู้หญิงแม่งก็ชอบแต่คนรวยแหละวะ” เรามักได้ยินประโยคนี้มาจากผู้ชายรอบ ๆ ตัวเราบ่อย ๆ จนบางทีเราก็เผลอคล้อยตามข้อความนั้น หรือเพื่อนบางคนก็เอาประสบการณ์มายืนยันว่า “นี่ไง เพราะกูจน ผู้หญิงมันเลยเลิกกับกูไปหาคนที่รวยกว่า” จนเราพาลเกลียดผู้หญิงเพราะเชื่อว่าทุกคนหน้าเงินไปตาม ๆ กัน UNLOCKMEN อยากให้ตั้งสติแล้วปลดล็อกตัวเองออกจากข้อความเดิม ๆ ที่ได้ฟังมาไปให้หมด เพราะถ้าเราเชื่ออย่างแนบสนิทโดยไม่ตั้งคำถาม เราก็จะเอาแต่คิดว่าที่เราโสด เพราะเราไม่มีเงินและไม่ยอมขยับตัวทำอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วผู้หญิงเองก็อาจจะมีเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่เดินจากเราไป ไม่ว่าจะเป็นความไม่พยายาม ความเฉื่อยชา ทัศนคติลบ ๆ หรือแม้แต่การโทษคนอื่นอย่างประโยคที่ว่า “ผู้หญิงชอบคนรวย” นี่แหละ เพราะจริง ๆ แล้วในความรัก ความสัมพันธ์ มันยังมีอย่างอื่นที่สำคัญกว่าเงินในกระเป๋า และนี่คือ 5 สิ่งที่ผู้หญิงเธอคิดว่ามันสำคัญและทำให้ผู้ชายน่าอยู่ใกล้แม้ไม่ได้รวยล้นฟ้า ไม่ต้องรวยล้นฟ้าก็ได้ แต่ต้องมีความพยายาม เส้นบาง ๆ ระหว่างไม่มีเงินกับไม่มีความพยายามนี่บอกได้ยากเหลือเกิน เพราะในสายตาเรา เราก็คิดว่าผู้หญิงเขาไม่เข้าใกล้เพราะเรามันจนไงล่ะ ทั้ง ๆ ที่บางทีเราอาจลืมสำรวจตัวเองว่าที่เรายังไม่มีงานทำหรือมีงานทำแต่ตำแหน่งไม่เคยขยับไปไหน มีสิ่งที่รัก มีสิ่งที่ชอบ
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าในช่วงเวลานี้ภาพยนตร์จากประเทศเกาหลีใต้เรื่อง Parasite (2019) ก่อให้เกิดการพูดถึงเป็นวงกว้างไม่ใช่แค่คนในวงการหนังเท่านั้น เพราะภาพยนตร์ที่กล้าเล่าความจริงในชีวิตประจำวัน เสียดสีสังคมแบบจัดเต็มทำให้คนส่วนใหญ่อินตามเรื่องราวในหนังได้ง่าย ๆ เพราะภาพยนตร์จากเกาหลีใต้ที่มาแรงมากในปีนี้ ทำให้ UNLOCKMEN เลือกภาพยนตร์เสียดสีสังคมเกาหลี 5 เรื่อง เนื้อเรื่องหนัก เครียด ชวนให้หดหู่และเล่าไว้ได้เจ็บแสบมาแบ่งปันกันให้ทุกคนรับรู้ว่า ความสังคมและผู้คนที่เราพบเจอกันอยู่ทุกวันมันอาจไม่สวยงามอย่างที่ตาเห็น แถมหนังทั้ง 5 เรื่อง ยังแสดงให้เห็นว่ากระแสจากสื่อบันเทิงมีส่วนขับเคลื่อนสังคมได้มากกว่าที่คิด Silenced (2011) Silenced (2011) อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงสุดสะเทือนใจของเกาหลีใต้ เมื่อครูคนใหม่มาสอนในโรงเรียนสำหรับเด็กผู้บกพร่องทางการได้ยินอินฮวา (เด็กหูหนวก) เขาบังเอิญพบว่าเด็กเหล่านี้ถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศเป็นเวลานาน ครูคนใหม่ (รับบทโดย กงยู) จึงพยายามนำเรื่องราวน่าสะอิดสะเอียนที่ไม่มีใครรับรู้นี้ออกให้แจ้งสาธารณชนได้รับรู้โดยร่วมมือกับนักสิทธิมนุษยชน เมื่อภาพยนตร์เรื่อง Silenced (2011) ออกฉายในปี 2011 ทำให้โรงเรียนอินฮวาถูกสั่งปิดในอีกสองเดือนถัดมาพร้อมกับการตั้งคำถามของสังคมว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากเรื่องน่าเศร้านี้กินเวลานานหลายปีตั้งแต่ปี 2005 ที่แก๊งครูผู้ก่อเหตุ 6 คน กับผู้อำนวยการโรงเรียนร่วมมือกันปกปิดเหตุการณ์ดังกล่าว แม้ถูกสืบสวนและตั้งข้อหาข่มขืนเด็กพิการอย่างน้อย 9 คน แต่เรื่องกลับเงียบหายไปเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ใส่ใจจะเอาคนผิดมาลงโทษ คนชั่วลอยนวล สื่อก็เพิกเฉย
ตรุษจีนในปี 2020 ถือว่ามาไวกว่าที่คิด ทำให้โลกแฟชั่นในตอนนี้ต่างเข็นคอลเลกชันพิเศษสำหรับเทศกาลตรุษจีนออกมาแข่งขันกันอย่างคึกคัก รวมถึงแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์จากอิตาลีอย่าง Gucci ที่ปล่อยหมัดเด็ดเก็บครบทั้งตรุษจีนและปีชวดในคอลเลกชันเดียว ด้วยการไป collaboration กับค่ายหนังชื่อดังอย่าง Disney การร่วมมือกันระหว่าง Gucci กับ Disney คือการยืมตัวการ์ตูนดังตลอดกาลของค่ายอย่าง Mickey Mouse มาอยู่บนไอเทมแฟชั่นคอลเลกชัน Gucci Chinese New Year ที่จะมาสร้างความสนุกสนานให้กับคอลเลกชันนี้มากขึ้นกว่าเดิม คอลเลกชันพิเศษที่ว่าคือสนีกเกอร์ทั้งหมด 5 คู่จาก Gucci ทั้งรองเท้าสไตล์วินเทจจากปี 1980 อย่าง Rhyton หุ้มข้อคู่หนา ความสูง 5 นิ้ว ที่สร้างสรรค์มาเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะ รวมถึงสนีกเกอร์ยอดฮิตของแบรนด์รุ่น Ace ผลงานจากการประยุกต์อันน่าประทับใจของครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนปัจจุบันประจำแบรนด์อย่าง Alessandro Michele จนทำให้สนีกเกอร์ Gucci ขายดิบขายดี Mickey Mouse ที่ถูกประทับอยู่บนสนีกเกอร์จะมีอิริยาบถที่แตกต่างกันไป อย่างคู่ Rhyton และ Ace สีครีมเรียบหรู เดิมใช้สัญลักษณ์ของแบรนด์ประทับอยู่ด้านข้างรองเท้าถูกเปลี่ยนเป็นมิกกี้ที่กำลังนอนเท้าคาง คล้ายกับว่าเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่