ยอมหักไม่ยอมงอ ยอมงอไม่ยอมโดนนิ้ว ใครที่มือเคยจับค้อนจับตะปูมาย่อมรู้ดีว่าไอ้ทักษะที่ดูไม่ยากแบบนี้ บางทีเราก็พลาดแบบโง่ ๆ มาแล้วนักต่อนัก บ้างก็ตอกโดนนิ้วจนม่วง บ้างก็หล่นใส่เท้า สารพัดอุบัติเหตุไม่คาดฝันทำให้เราได้แผลกันทุกที นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้นวัตกรรมที่อาจจะดูออกแบบไม่ยากอย่างค้อนชิ้นนี้ เอาชนะใจและได้รับรางวัลชนะเลิศ Red Dot Design Concept Award ประจำปี 2019 โดยผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ Alvaro Uribe จากสหรัฐอเมริกา The Tuk Hammer นวัตกรรมค้อนทรงตัวที ที่มาพร้อมกับที่บล๊อกการตีโดนนิ้วตัวเองสีเหลือง เวลาจะใช้แค่ถอดอุปกรณ์เซฟตี้ออกจากตัวค้อนก็สามารถสอดนิ้วเข้าไปตรงกลางยึดไว้ให้ตำแหน่งแล้วใช้งานได้ทันท่วงที ที่สำคัญเรายังสามารถจัดองศาให้ตะปูไม่เบี้ยวได้ด้วย! เพราะว่าตำแหน่งตรงกลางของแผ่นสีเหลืองที่เราใช้บล๊อกนิ้วมีร่องตรงกลางเพื่อจัดตำแหน่งตะปูให้ตอกลงพื้นผิวได้ตรง ๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปถอนออก หรือทำให้ไม้และผนังมีแผลโดยไม่จำเป็น ค้อนทรงตัวที ขนาดเหมาะมือออกแบบพิเศษให้หัวค้อนทั้ง 2 ด้านแตกต่างกัน เป็นฟังก์ชันแบบ 2 in 1 ด้านหนึ่งเป็นยาง เพื่อใช้สำหรับงานทั่วไปที่พื้นผิวนุ่มไม่ต้องการให้งานแตกร้าว บุบ เน้นความประณีต ส่วนอีกด้านที่ทำจากเหล็กใช้ตอกบนพื้นผิวแข็งได้ดีทำให้ไม่ต้องพกอุปกรณ์หลายชิ้นให้เปลืองพื้นที่ สำหรับใครที่คิดว่า อ้าว ถ้าทำหัวแบบนี้แล้วจะถอนตะปูออกได้ยังไงถ้าตอกพลาดหรืออยากดึงตะปูเก่าออก เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเพราะเขาคิดมาแล้วแบบไม่ให้เสียพื้นที่ จากการออกแบบเว้นช่องให้แกนกลางของตัว T มีที่ดึงเพื่องัดตะปูออกมาได้แบบไม่เปลืองแรง ปิดท้ายด้วยความคิดง่าย ๆ
เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ เชื่อว่าลมหนาวที่พัดมาเป็นระลอกคงทำให้ผู้ชายหลายคนงัวเงีย ขี้เกียจ และเหงาหงอยไปตาม ๆ กัน เมื่อก้อนเมฆกับสายลมเย็นเข้ามาบดบังและแทนที่ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ ทำให้บรรยากาศในช่วงนี้เย็นสบายและเหมาะแก่การนอนโง่ ๆ กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงเสียเหลือเกิน แต่คงจะดีไม่น้อยถ้าได้อรรถรสจากการรับชมภาพยนตร์และซีรีส์มันส์ ๆ ขณะที่กำลังขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มในช่วงหน้าหนาว เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนแบบนี้ UNLOCKMEN ก็ไม่พลาดที่จะพาหนุ่ม ๆ มาอัปเดตคอนเทนต์ใหม่สุดมันส์ในเน็ตฟลิกซ์ ต่อให้อากาศหนาวจะทำให้คุณเหงา แต่รับประกันว่า 3 คอนเทนต์นี้จะช่วยคลายเหงาในวันหนาว ๆ ของคุณได้แน่นอนครับ! The End of the F***ing World: Season 2 หลังจากสร้างกระแสไวรัลไปเมื่อปีก่อน เน็ตฟลิกซ์ก็ไม่รอช้าเตรียมปล่อยออริจินัลซีรีส์ ‘The End of the F***ing World: Season 2’ มาให้หนุ่ม ๆ คอซีรีส์ได้ลิ้มชิมรสชาติความห่วยแตกของโลกใบนี้ คาดว่าเนื้อเรื่องในซีซั่นนี้คงไม่ได้เล่าถึงการเดินทางแสนอลวนของ James และ Alyssa อีกต่อไป แต่เน้นเส้นทางชีวิตของ Alyssa หลังจากที่ James ถูกจับ
ครบรอบ 1 เดือนเต็มหลังจากที่ GoPro เปิดตัวกล้อง GoPro Hero 8 Black ไปเมื่อเดือนก่อน โดยเป็นกล้องที่แบรนด์เคลมว่ามีระบบป้องกันภาพสั่นไหวทรงประสิทธิภาพที่สุดในบรรดากล้องแอ็กชันทั่วโลก เดือนนี้ GoPro ก็ยังไม่เว้นระยะให้หนุ่ม ๆ สาย gadget พักหายใจ เตรียมประกาศเปิดตัวกล้องแอ็กชันรุ่นใหม่ล่าสุด ‘GoPro Max’ ที่ถ่ายภาพได้แบบ 360 องศาและทำเอาตลาดกล้องแอ็กชันทั่วโลกต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง! GoPro Max หรือ GoPro Maximum ถือเป็นที่สุดของกล้อง GoPro ตอนนี้เลยก็ว่าได้ กล้องอัปเกรดระบบป้องกันภาพสั่นไหวเป็น Max HyperSmooth ที่มั่นคงยิ่งขึ้น ดีไซน์ของกล้องก็ค่อนข้างแปลกใหม่ ใช้พื้นผิวบอดี้คล้าย ๆ ยางที่เอื้อประโยชน์ต่อการใช้งานและไม่ลื่นมือ แม้จะปรับขนาดกล้องให้เล็กลงและมีน้ำหนักเบาขึ้น แต่กล้องยังคงบรรจุสเปกระดับเทพเอาไว้ GoPro Max สามารถรวมไฟล์ภาพจากเลนส์ด้านหน้าและเลนส์ด้านหลังเข้าด้วยกัน ทำให้บันทึกไฟล์ด้วยเมมโมรีการ์ดตัวเดียวกันได้ และนับเป็นกล้อง 360 องศาตัวแรกที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 1.7 นิ้ว กล้องสามารถถ่ายภาพนิ่งที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2018 แบรนด์รองเท้าชื่อดัง Adidas ร่วม Collaboration กับร้านรองเท้าระดับตำนานของญี่ปุ่นอย่าง Atmos ที่เริ่มต้นจากร้านรองเท้าเล็ก ๆ ในย่านฮาราจูกุแต่เต็มไปด้วยรองเท้ารุ่นหายากจากหลากแบรนด์ ทั้งสองร่วมกันออกรองเท้าสีขาว-ดำ จากโมเดล NMD R1 Atmos และปีนี้ก็สานต่อปีที่แล้ว เตรียมออกรุ่นถัดมาให้คอสนีกเกอร์ได้หาซื้อมาครอบครองอีกครั้ง การกลับมาเจอกันของโมเดลรองเท้ารุ่น NMD R1 ของ Adidas x Atmos Tokyo ครั้งนี้มีชื่อสนีกเกอร์เท่ ๆ ว่า Tricolor โดยใช้สนีกเกอร์รุ่นออริจินัล OG ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2016 มาสร้างสรรค์ความสนุกสนานกับแฟชั่นปัจจุบัน อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า NMD R1 เป็นสนีกเกอร์ที่ถักทอด้วยวัสดุชิ้นเดียวแบบ Primeknit ผ้าสีดำคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องการระบายอากาศ ยืดหยุ่นกระชับเข้ากับรูปเท้าของผู้สวมใส่ ผสานเข้ากับเทคโนโลยี BOOST บริเวณ midsole ส่วนปลั๊ก EVA มีสีดำด้านเหมือนกับตัวสนีกเกอร์ การเจอกันครั้งนี้ของ Adidas NMD R1 Tricolor
“ทุกวัน…ผมเริ่มห่างไกลจากความเป็นมนุษย์เข้าไปทุกที” ประโยคที่เหมือนดักตีหัวระหว่าง scroll เจอในโลกออนไลน์กับโปสเตอร์งานที่เห็นครึ่งคนครึ่งเหี้ย ทำให้เราตัดสินใจกันทันทีว่าชาว UNLOCKMEN ต้องไปดูงานนี้ให้ได้ ยิ่งพอไปดูกับตัวแล้วเจอความรู้สึกบวก ๆ เกินความคาดคิด ยิ่งทำให้ต้องมาบอกต่อ ก่อนจะไปว้าวกับภาพงานที่เราเอามาฝาก ซึ่งเรารับรองว่าคุณจะสนุกกว่าถ้าไปเล่น ไปเห็นด้วยตาตัวเอง ขอเกริ่นเรื่องศิลปินที่สร้างงานชิ้นนี้ขึ้นมาก่อน พวกเขาคือ “Living Spirits” กลุ่ม Art Collective ที่หลายคนเคยได้ยินหรือรู้จักจากงาน Light Installation เพราะเขาคือกลุ่มตัวแทนคนไทยที่ไปจัดแสดงงานในสิงคโปร์ ผลงานของพวกเขาเน้นการตั้งคำถาม การรับฟัง และเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้นให้ผู้คนเข้าใจและเกิดการรับรู้ผ่านศิลปะ “I GONE WILD (everyday)” ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเรื่องการตั้งคำถามและรับฟังแปรมาเป็นงานศิลป์ให้เราเข้าถึง เขานำคอนเซ็ปต์ของภาพจำ เหตุการณ์ในเมืองหลวงที่คุ้นตา ปัญหาที่ไม่เคยถูกแก้ไขหรือแก้แล้วยังวนลูปกลับมาเป็นซ้ำ ๆ สิ่งเหล่านี้เชื่อว่าเราต้องเคยเห็น เผลอ ๆ หลายอย่างเราก็ต้องเคยทำ โดยเอามาล้อเลียนกับสำนวนภาษาของคนไทยเปรียบเทียบให้ดูตลก กัดเบา ๆ แต่ทำให้เรารู้สึกอมยิ้มตาม ภายในนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนในพื้นที่เดียวกัน ส่วนแรกเป็นภาพติดผนัง และส่วนที่เป็นไฮไลต์คือเจ้าโมเดล 3d print สีขาวเทา จำลองภาพเหตุการณ์ในเมืองที่เราต้องหยิบกระจก (Tablet)
เราแก่ลงทุกวัน ความแก่เอาอะไรไปจากเราพอสมควร และดูเหมือนสิ่งจะเอาไปได้มากที่สุดคงเป็นความมั่นใจกับความภาคภูมิใจในการใช้ชีวิตต่อโดยไม่เป็นภาระใคร เคยลองจินตนาการไหมว่าถ้าเกษียณ ถ้าแก่ลง ไม่มีงานประจำให้ทำอีกต่อไป เราอยากจะเป็นคนแบบไหน อยากทำอะไร บางคนคิดว่าไกลตัวเลยไม่เคยวางแผนและคิดเอาล่วงหน้าว่าพลังที่โดนรีดจากความชราคงทำให้เราต้องใช้ชีวิตอย่างริบหรี่ “ลุงซึมเศร้ามาปีเลยนะ นั่งจนโซฟาหักเป็นตัว ๆ ดูไร้ค่า เพื่อนก็ไม่มี คนที่ทำงานอยู่ร่วมกันน่ะ เวลาออกมาแล้วเราเหมือนคน ๆ เดียวเลย อยู่แต่บ้านทุกวัน ๆ ลูกก็ดูแลเราตลอดเวลาไม่ได้ เพราะว่าเขาต้องทำงานถูกไหม ซึมเศร้านะ น้อยใจ เหมือนเกลียดตัวเองไปเลยว่าไม่มีค่าอะไรเลย สุขภาพก็จะแย่ลง ๆ” นี่คือประโยคที่ชายคนหนึ่งเคยพูดไว้ในวันที่หลายคนอาจจะมองว่าการเกษียณเพื่อให้ลูกหลานเลี้ยงดู เราจะสบาย พอใจกับค่านิยมนั่ง ๆ นอน ๆ ที่เราปลูกฝังกันมา แต่ความจริงปลายทางของคนเราไม่ได้มีแบบเดียว และ “ความแข็งแรง” อาจไม่ใช่อุปสรรคชีวิตอย่างที่คิด ก่อนจะไปถึงวันที่เราแก่กันมากกว่านี้ เราอยากให้คุณลองไปทำความรู้จักผู้ชายคนเดียวกันกับที่พูดประโยคด้านบน เขาเพิ่งมาโด่งดังในวัยเกษียณ มาลุกทำตามฝัน และมาบอกกับเรากว่า “ความแก่” ไม่ใช่สิ่งที่จะมาหยุดพลังการใช้ชีวิตของเรา เขาคนนี้คือคนในวงการโมเดลที่ความคิดไม่ได้แก่ลงตามวัย “ลุงติ๊กสเกล – ส.ท. พงศ์กาณฑ์ โกมลกนก” จากรปภ. เกษียณถึงศิลปินและครู คน
ในที่สุดลมหนาวที่ใครหลายคนเฝ้ารอก็เริ่มพัดพาเข้ามาให้เรารับรู้ว่าเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แบรนด์รองเท้าหลายเจ้าต่างขนคอลเลกชัน Fall/Winter 2019 ออกมาต้อนรับสิ้นปีกันถ้วนหน้า รวมถึงแบรนด์ดังอย่าง Adidas ที่ปล่อยรองเท้าเท่ ๆ กับดีไซน์อันหรูหราออกมาเอาใจคอสนีกเกอร์ที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งสักคู่ในช่วงปลายปี Adidas นำสีสันและสไตล์โมเดิร์นทันสมัยมาอยู่บนสนีกเกอร์โมเดล UltraBOOST สำหรับวิ่งที่ดึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมหลากหลายมาอยู่บนรองเท้าคู่เดียวเพื่อให้การวิ่งทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นส่วน Upper ทำจากผ้าถักช่วยกระชับหยืดหยุ่นไปตามรูปเท้า ราวกับว่าสนีกเกอร์คู่เก่งเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย พื้นรองเท้าแบบ dual-density ซัพพอร์ตด้านใน ลดแรงกระแทก รองรับอุ้งเท้า ไปจนถึงยาง Continental ยืดเกาะพื้นถนนได้เป็นอย่างดี สนีกเกอร์ต้อนรับลมหนาวแบบเท่ ๆ ของ Adidas UltraBOOST คู่นี้คงความเคร่งขรึมด้วยสีดำ เพิ่มความโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยโลหะสีทองเงาวับตรงบริเวณสามแถบอันเป็นสัญลักษณ์คู่ใจของ Adidas รวมถึงบริเวณส้นเท้าที่ประกอบโลหะสีทองเข้ากับสนีกเกอร์ นอกจากผ้าตาข่ายสีดำที่เป็นส่วนประกอบหลักของ UltraBOOST ทางแบรนด์ยังเพิ่มผิวรองเท้าสีดำด้านและเพิ่มขอบสีด้วยสีเหลืองทอง ส่วนบริเวณลิ้นรองเท้าประทับชื่อแบรนด์ขนาดเล็กด้วยสีเดียวกันเช่นเดียวกัน ทั้งสีดำสุดคลาสสิกกับสีทองอร่ามทำให้ภาพรวมของสนีกเกอร์ ดูหรูหราและสมบูรณ์แบบ สนีกเกอร์สไตล์โมเดิร์นที่เปี่ยมด้วยความเท่ต้อนรับลมหนาวของ Adidas UltraBOOST มีวางจำหน่ายแล้วในร้านค้าของ atmos บางสาขา ในราคา 202 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว 6,100 บาท SOURCE
เช้าวันนี้ลุกออกจากเตียง เพียงเปิดหน้าต่างก็พบกับลมเย็นและกลิ่นอากาศหนาวเข้ามาปะทะใบหน้า ทำเอาคนเมืองร้อนอย่างเรา ๆ ดีใจจนเนื้อเต้น แต่สุภาพบุรุษชาวไทยอย่างเราเจ็บแล้วจำ ปรากฏการณ์ ‘หนาววันร้อนพรุ่ง’ หลอกให้อยากแล้วจากไปมีให้เห็นถมเถในทุก ๆ ปี! สภาพอากาศไว้ใจไม่ได้แบบนี้ ต้องเตรียมเพลย์ลิสต์ฟีลหนาวสุดขั้วไว้ฟังตั้งแต่เนิ่น ๆ เผื่อวันไหนลมเย็นพัดมาอีกครั้ง จะได้รีบเปิด รีบอิน รีบชิลล์ ก่อนความร้อนอบอ้าวจะมาเยือนในวันถัดไป เหมือนเสื้อกันหนาวตัวเก่งที่ทุ่มเงินซื้อเตรียมซะดิบดี ปีนึงได้ใส่อยู่กี่วันกันเชียว ปล. สำหรับเพลงในรอบนี้ ขอเป็นเพลงใหม่คละกันกับเพลงเก่านะครับ เพราะเราจะเน้นไปที่ Mood & Tone Carrie & Lowell – Sufjan Stevens อันที่จริงไม่ใช่แค่เพลงนี้ แต่ Sufjan Stevens เขาเป็นเจ้าพ่อเพลงโทนเย็น เป็นนักสร้างบรรยากาศด้วยเสียงดนตรี และเขาสามารถทำให้หิมะตกโปรยปรายในหัวใจผู้ฟังได้อย่างน่าอัศจรรย์ หากคุณฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกถูกจริต เราขอแนะนำให้ฟังอัลบั้มที่มีชื่อเดียวกันอย่าง Carrie & Lowell จนหมดทั้งอัลบั้ม ไม่แน่ผลงานชุดนี้อาจกลายเป็นอัลบั้มประจำฤดูหนาวของคุณไปเลยก็ได้ Holiday-ish – The Regrettes ฟังเผิน ๆ เหมือนจะเป็นเพลงคริสต์มาส
เชื่อว่าผู้ชายหลายคนคงรู้จัก ‘สเกตบอร์ด (Skateboard)’ เป็นอย่างดี นอกจากจะเป็นไอเทมที่เอื้อประโยชน์ต่อการเคลื่อนที่บนทางลาดโดยใช้แรงโน้มถ่วง สเกตบอร์ดยังเป็นอีกเอกลักษณ์ของแฟชั่นสายสตรีตที่หนุ่ม ๆ คุ้นเคย แม้สเกตบอร์ดจะมีมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 60 แต่ปัจจุบันก็ยังมีให้เห็น และพัฒนาจากรุ่นมาตรฐานไปสู่สเกตบอร์ดไฟฟ้าที่รวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งกว่า โดยไม่ทิ้งกลิ่นอายความเท่ที่ส่งต่อมาหลายยุคสมัย ถึงจะมีสเกตบอร์ดไฟฟ้ามากมายในท้องตลาด ตั้งแต่โมเดลราคาประหยัดจนถึงรุ่นระดับไฮเอนด์ แต่หนุ่ม ๆ มือใหม่อาจยังไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะมาแนะนำสเกตบอร์ดสุดเฟี้ยว 5 รุ่นแห่งปี 2019 จะเท่และน่าซื้อขนาดไหนมาดูกันเลยครับ! Meepo Campus 2 นับเป็นสเกตบอร์ดรุ่นที่มีคุณภาพสมราคา ด้วยราคาเพียง $300 หรือราว 9,000 บาท แต่มาพร้อมพื้นไม้กระดานเมเปิ้ลแคนาดาขนาด 32 นิ้ว ก่อนคลุมทับด้วยเทปโฟม EVA ที่ทนทาน ไม่สึกหรอง่าย ๆ Meepo Campus 2 สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วทันใจกับช่วงความเร็ว 10 ไมล์ต่อชั่วโมง และเร่งได้สูงสุดถึง 18 ไมล์ต่อชั่วโมง ติดตั้งไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่มาในตัวบอร์ด และใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มเพียง 2 ชั่วโมง
ผมอายุ 28 แล้วครับ แต่ยังไม่เคยมีอะไรกับแฟนเลย ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดกับเธอยังไงดีอะครับ แม้คุณจะไม่ใช่เจ้าของประโยคนี้ แต่เชื่อว่าปัญหาในทำนองเดียวกันคงเคยเกิดขึ้นกับผู้ชายนับไม่ถ้วน และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะอารมณ์ของเพศหญิงคือสิ่งที่คาดเดายากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ถ้าเกิดหนุ่ม ๆ ผลีผลามขึ้นไปกระทำการโดยไม่ถามความสมัครใจก็ถือเป็นการล่วงละเมิด แต่ถ้าให้รอเธอมีอารมณ์ทางเพศแล้วเป็นผู้เริ่มเอง เธออาจเขินอายและอาจไม่ทันความต้องการของเรา จริง ๆ แล้วการกระตุ้นอารมณ์สาว ๆ ให้อยากมีเซ็กซ์จนถึงขั้นการถามความสมัครใจก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่รู้จุดและอาศัยจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้นเอง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นชวนสาว ๆ ขึ้นเตียงอย่างไร นี่คือ 5 เทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณขอเธอ…ได้อย่างแนบเนียนและเป็นธรรมชาติและได้ความยินยอมจากเธอง่ายยิ่งขึ้น จับมือ เทคนิคง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้น แม้จะดูเป็นเรื่องพื้น ๆ ที่ไม่น่าจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ แต่พวกคุณรู้อะไรไหมครับว่าบริเวณมือมีปลายเส้นประสาทซ่อนอยู่มากถึง 40,000 เส้น การจับมือจึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้อย่างยอดเยี่ยม คุณอาจเริ่มต้นจากการจับมือเบา ๆ ขณะกำลังพาเธอเดินข้ามถนน ดูภาพยนตร์ หรือตอนที่คุณอยากมีเซ็กซ์กับเธอ ก็ลองเอื้อมมือไปจับมือนุ่ม ๆ ของเธอบนเตียงดูสักครั้ง เทคนิคนี้อาจทำให้สาว ๆ รู้สึกได้ว่าคุณกำลังต้องการอะไรบางอย่างจากเธอ ส่งข้อความ “คิดถึงจัง…มาหาหน่อย” ประโยคยอดฮิตในโซเชียลที่แฝงความหมายโดยนัยประโยคนี้