ใครที่เป็นวัยรุ่นในช่วงปี 2000 คงจะคุ้นหูกับเพลง Pop-Punk กันดี บางคนก็ชื่นชอบจนมีไว้ในเครื่องเล่น Walkman ซึ่งเพลงแนวนี้เป็นอะไรที่อยู่ในสายเลือดของผู้ชายอย่างเราอยู่แล้ว ทั้งดนตรีและแฟชั่นที่มันช่างถูกใจผู้ชายวัยฮอร์โมนเดือด จริง ๆ เพลง Punk มีมานานไม่แพ้ดนตรีแนวอื่น แต่เพิ่งมาบูมจนมาอยู่ในกระแสหลักเมื่อช่วงยุค 1990 ตอนปลาย และฮิตติดลมบนมาจนถึงช่วงยุค 2000 ต้น ๆ โดยเฉพาะอัลบั้ม Enema of the State ของ Blink-182 หรืออัลบั้มปกพยาบาลที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นแหละ ดังพลุแตกและทำให้พังก์มาอยู่ในกระแสหลักได้แบบยืดอกภูมิใจกันถ้วนหน้า UNLOCKMEN จะพามาย้อนวันวานกับเพลงที่เราคิดถึงในยุคนั้น ใครที่สะดวกฟังจาก Spotify เราจัด Playlist ไว้ให้แล้วแบบครบถ้วนทุกเพลง กด Play เพื่อเริ่มต้นความมันส์กันได้เลย Good Charlotte – The Anthem วงป็อปพังก์สัญชาติอเมริกันเจ๋ง ๆ อีกหนึ่งวง ที่มีผลงานเพลงฮิตมากมาย และเพลงนี้มาจากอัลบั้ม The Young And The Hopeless ที่มีเพลงเจ๋ง ๆ
จากภาพยนตร์โลกอนาคตหลาย ๆ เรื่อง มักจะนำเสนอเกี่ยวกับยุคของหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ครองโลกจนไม่มีพื้นที่ให้มนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ จนมาถึงปี 2018 นี้ที่กระแส AI จะมาแทนที่แรงงานมนุษย์มาแรงและเข้าใกล้ความเป็นจริงเข้าไปทุกที ซึ่งก็ยังเป็นเรื่องที่ยังคงต้องถกเถียงถึงความเหมาะสมกันต่อไป UNLOCKMEN ขอแนะนำความสามารถของ AI ที่จะช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นอีกเยอะ อย่าง “Noise2Noise” ที่จะมาลด Noise ในภาพถ่ายได้แบบเหนือชั้น มาทำความรู้จักกับมันแบบ Before It Was Cool กันดีกว่า ผู้พัฒนาจาก Nvidia, MIT, และ Aalto University กำลังซุ่มปั้นโปรเจ็กต์แจ่ม ๆ ที่ชื่อ “Noise2Noise” ที่นำระบบ AI มาลบ Noise ในภาพถ่าย ทางทีมได้นำภาพจำนวน 50,000 ภาพจาก ImageNet เพื่อให้ระบบ AI ได้ทดสอบการลบ Noise และมันก็ทำออกมาได้ดีจริง ๆ โดยสามารถลบ Noise
ย้อนกลับไปเมื่อสักประมาณ 5-6 ปี ก่อนนี้ หากเรากำลังพูดถึงแบรนด์ชื่อว่า Burberry ภาพจำในอดีตคือความไอคอนิกพร้อมซิกเนเจอร์ของตัวเองที่ชัดเจน ไม่ต่างจากแบรนด์ไฮเอนด์อื่น ๆ ทว่าในขณะที่คู่แข่งกำลังรุดหน้าวิ่งลงมาจับตลาดสตรีทแวร์ พร้อมขยายฐานตัวเองลงมาสู่ E-commerce แต่ Burberry ยังคงทำทุกอย่างเหมือนเดิมยึดมั่นในความคลาสสิคจนดูไม่ร่วมสมัย เกิดช่องระหว่างวัยของผู้บริโภค เมื่อเด็กรุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้จัก Burberry อีกต่อไป ส่งผลให้ยอดขายของแบรนด์ตกลงพอสมควร ซึ่งเมื่อพวกเขาเริ่มขยับตัวในตลาด E-commerce ช้ากว่าแบรนด์อื่น ๆ จึงเหมือนกับการเดินตามคู่แข่งคนอื่น ๆ ในตลาด แต่ที่แย่ที่สุดคือยอดขายในสหรัฐอเมริกา ตามบรรดาห้างร้านค้าต่าง ๆ ก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก แม้ว่าจะพยายามออกคอลเลคชั่นพิเศษออกมากระตุ้นช่วยแล้วก็ตาม ทำให้ Burberry ต้องมานั่งขบคิดปรับกลยุทธ์กันอย่างจริงจังขยายฐานลูกค้าตัวเองไปสู่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา แต่มีกำลังซื้อสูงมาก โดยการเพิ่มพันธมิตรที่ชำนาญในเรื่องออนไลน์โดยตรง จากนั้น Burberry ค่อย ๆ ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ที่ดูจะเน้นกับตลาดในประเทศจีนเสียเหลือเกิน ถึงขนาดเปิดโอกาสให้ คริส วู (Kris Wu) นักแสดงชาวจีนมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมกับร่วมออกแบบคอลเลคชั่นเสื้อผ้าเป็นของตนเอง จนสามารถตีตลาดในเอเชียได้อย่างดีเยี่ยม
หลังจากที่ผู้เขียนได้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง Ant-Man and the Wasp มาแล้ว ก็เลยอยากจะมาสปอยล์แค่ว่า พี่ Paul Rudd นี่แกดูแลร่างกายได้ดีจริง ๆ เห็นแกโคตรฟิตมาตั้งแต่ภาคแรกอย่าง Ant-Man มาภาคนี้ก็ยังดูดีอยู่ แม้ว่าเจ้าของบทบาทซูเปอร์ฮีโร่ที่ย่อ-ขยายส่วนได้นั้น จะอายุ 49 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังดูแกร่งและเท่ทั้งในชุดแดงสุดไฮเทค และในนาม Scott Lang “ผมเคยเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการเห็นผล แต่ไม่เคยทำมันเสียที” Rudd เล่าให้ Men’s Journal ฟังว่าเขาเองก็เคยขี้เกียจมาก่อน แต่พอรู้ว่าจะได้รับบทบาทเป็น Ant-Man และ Scott Lang เขาก็ทุ่มเทกับการ workout อย่างเต็มที่ ทั้งการดูแลโภชนาการที่เขาได้รับคำแนะนำจาก Carlon Colker และการฟิตร่างกายที่เขาได้ Richard Louis เทรนเนอร์ชื่อดังจากนิวยอร์ก เจ้าของยิม FitSpaceNYC มาช่วยเคี่ยวเข็ญ ซึ่ง Louis เคยเปิดเผยตามตรงว่า “บอกตรง ๆ เลยว่าผมไม่รู้จัก Paul มาก่อน จนกระทั่งได้มาร่วมงานกัน เซสชั่นแรก ๆ ของการเทรนยอมรับว่ายากลำบาก แต่
นอกจากชุดสูทเท่ ๆ, คารมคมคาย, บุหรี่, สาวสวย Sexy, Vodka Martinis Shaken Not Stirred แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เรามักจะนึกถึงเสมอเมื่อพูดถึงซีรีส์ภาพยนตร์สายลับ 007 ระดับตำนานอย่าง James Bond คือรถยนต์คู่ใจของเขา ที่ในแต่ละภาคแทบไม่ซ้ำกันเลย แต่ละคันก็ไม่ใช่ธรรมดา เป็นซูเปอร์คาร์สุดหรูทั้งนั้น เห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าหน่วยงาน MI6 ต้นสังกัดของสายลับมาดเท่นั้นรวยขนาดไหน นับตั้งแต่ Dr.No ภาพยนตร์ภาคแรกในซีรีส์ James Bond นำแสดงโดย Sean Connery ถึงภาคล่าสุดอย่าง Spectre ที่นำแสดงโดย Daniel Craig รวมทั้งหมดก็ 24 ภาค แน่นอนว่าสายลับ 007 ของเราก็มีรถคู่ใจทุกภาค วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปทำความรู้จักทั้ง 24 คันไปด้วยกัน Dr. No – Sunbeam Alpine Sunbeam Alpine เป็นรถสปอร์ตสองที่นั่งที่ผลิตโดย Rootes Group
ประเด็นร้อนในสังคม ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเสมอ โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ตโฟนอยู่ในมือ การใช้ Social Media เสพสื่อและเป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ได้กว้างมากขึ้น เราจะได้เห็นความคิดเห็นจากผู้คนหลากหลายความคิดมากขึ้น ฟังขึ้นบ้าง ไม่ขึ้นบ้าง ตลกร้ายบ้าง เหตุผลหนักแน่นบ้าง ปะปนกันไป แต่สิ่งที่เห็นแล้วน่าหงุดหงิดที่สุดก็ยังคงเป็นตรรกะวิบัตินี่แหละ ที่มันรบกวนใจเราเหลือเกิน UNLOCKMEN จะพามาทำความรู้จักกับตรรกะวิบัติที่เราเคยแนะนำกันไว้ในคอนเทนต์ “DON’T GET LOST IN LOGIC แนะนำ 5 ตรรกะวิบัติที่พวกเราควรรู้ ก่อนไปเสียเวลาอันมีค่าเถียงกับคนอื่น” ใครที่ยังไม่เคยอ่าน Part แรกไปตามอ่านกันได้ แล้วมาต่อกันในคอนเทนต์นี้ เปรียบเทียบผิด (False Analogy) ตรรกะวิบัติอันนี้ เรียกว่ากำลังมาแรงในช่วงนี้เลยล่ะ มันไม่ได้มาแรงด้วยตัวของมันเอง แต่มันมาพร้อมกับพวกไลฟ์โค้ช นักหว่านคำคมที่ดูเหมือนจะเท่ เหมือนจะสะกิดใจให้ข้อคิด แต่มาตกม้าตายตรงที่มันกลวง เพราะใช้ Metaphor หรือหยิบจับอะไรมาเปรียบเทียบกันแบบผิด ๆ พูดง่าย ๆ คือเอาสิ่งที่มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ มาเปรียบเทียบในบริบทเดียวกัน พูดเฉย ๆ อาจจะยังง มาดูตัวอย่างกันดีกว่า Ex.
เมื่อพลาสติกเป็นวาระแห่งชาติและหลอดกลายเป็นอาวุธทิ่มแทงสัตว์ทะเลให้เจ็บปวด ร้านกาแฟขวัญใจคอคาเฟอีนเจ้าใหญ่อย่างสตาร์บัคส์เลยขอออกโรงรักษ์โลก เลิกผลิต เลิกใช้หลอดเขียวที่เป็นสี CI ให้เกลี้ยงภายใน พ.ศ. 2563 เพราะถ้าทำได้จริง ปริมาณหลอดจะหายจากระบบไปถึง 1,000 ล้านหลอดต่อปี แม้สำหรับเราก็แค่ไม่รับหลอด มันคงไม่ยากอะไร แต่สตาร์บัคส์ก็ยังอยากตอบโจทย์คนติดหลอดด้วยการดีไซน์ฝาแก้วพลาสติกให้พอดีกับรูปปากไว้แทนที่หลอด และเรียกเจ้าแก้วรูปแบบใหม่นี้ว่า “Sippy cup” ซึ่งแม้ฝาที่ทำออกมาเป็นพลาสติก แต่ก็ถือเป็นสัญญาณดี ๆ ที่องค์กรสิ่งแวดล้อมทั้งหลายเห็นด้วย เนื่องจากปกติฝาแก้วที่เราใช้ต้องเจาะด้านบนสำหรับใส่หลอดทำให้มีเศษแผ่นพลาสติกทิ้งอยู่แล้ว แถมใช้หลอดด้วยก็เท่ากับมีขยะเพิ่มสองเท่า การเปลี่ยนมาลดบางส่วนจึงถือว่าดีกว่าไม่ลดเลย ปัจจุบันสตาร์บัคส์เริ่มนโยบายนี้ไป 8,000 สาขาจาก 28,000 สาขาทั่วโลก หลอดสีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์คงค่อย ๆ หายไป แล้วแทนที่ด้วยสิ่งนี้แทน ตามที่ประกาศไว้ ฝาแก้วรูปแบบใหม่ แม้ตอนนี้ยังไม่มีในเมืองไทยแต่พวกเราก็ไม่ต้องรอให้ถึงตอนนั้น หนุ่ม ๆ คนไหนที่กินสตาร์บัคส์บ่อย ๆ ลงทุนเปลี่ยนมาเป็นผู้นำซื้อแก้วแบบรีฟีลงดใช้ทั้งหลอดและแก้วพลาสติกไปเลยจะคูลกว่า SOURCE
การแข่งขันเข้มข้นดุเดือดผ่านไป มีทั้งผู้แพ้ที่ต้องกลับบ้านและผู้ชนะที่ได้ไปต่อ ในที่สุดฟุตบอลโลก 2018 ก็ดำเนินมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว เหลือการแข่งขันอีกแค่ 4 นัดเราก็จะรู้กันแล้วว่าทีมใดจะคว้าถ้วยแชมป์ไปครอง แม้ตอนนี้ทั้ง 4 ทีมจะเป็นทีมจากทวีปยุโรปทั้งหมด จนหลายคนออกมาล้อว่านี่คือ ‘ฟุตบอลยูโร 2018’ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความสนุกจะน้อยลงแต่อย่างใด เพราะทั้ง 4 ทีมนี้คือ 4 ทีมที่ดีที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ ฝรั่งเศส, เบลเยี่ยม, อังกฤษ, โครเอเชีย ทีมใดจะได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เราขออาสาเป็นกูรูวิเคราะห์แมทที่ดุเดือดนี้กัน France vs Belgium ฝรั่งเศส – ฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ทีมเต็งลำดับสูง ๆ ต่างพร้อมใจกันเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันอย่างรวดเร็ว มีเพียงฝรั่งเศสทีมเดียวเท่านั้นที่อยู่ในทีมเต็ง 5 อันดับแรกที่สามารถฝ่าฟันเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางในกลุ่ม C ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่โหดมาก แต่กลับโชว์ฟอร์มได้กระท่อนกระแท่น กว่าจะชนะได้แต่ละนัดค่อนข้างหืดจับ จนแฟนบอลและสื่อออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ‘จะไหวเหรอ?’ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็สามารถผ่านเข้ารอบได้ด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม ก่อนที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องเจอกับอีกหนึ่งทีมเต็งอย่างอาร์เจนตินาที่นำทัพมาด้วย Lionel Messi และนัดนี้ก็เป็นนัดแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ที่สามารถพูดได้เต็มปากว่าทีมตราไก่โชว์ฟอร์มได้ดี พวกเขาไล่ต้อนอาร์เจนตินาไปด้วยสกอร์ 4-3 ทะลุสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเจอกับทีมจอมโหดอุรุกวัยที่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้โชว์ฟอร์มได้โหดสมชื่อ เป็นทีมที่มีแนวรับแข็งแกร่งอันดับต้น
การค้นพบเด็ก ๆ และโค้ชของทีมฟุตบอลหมูป่าเป็นเหมือนแค่จุดเริ่มต้นของภารกิจช่วยชีวิตครั้งนี้เท่านั้น เพราะถึงจะพบตัวแล้วแต่กว่าจะนำตัวทุกคนออกมาได้ก็ต้องใช้เวลาร่วมสัปดาห์ เนื่องจากการจะออกไปด้านนอกนั้นต้องดำน้ำออกไป จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขนาดหน่วย Seal ที่มีความเชี่ยวชาญยังใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่นี่ต้องพาเด็ก ๆ ที่ร่างกายไม่แข็งแรงออกมาด้วยภารกิจนี้จึงเข้าขั้นโหดหิน นอกจากนั้นยังมีข่าวร้ายนั่นคือการเสียชีวิตของ จ.อ. สมาน กุนัน อดีตหน่วย Seal ที่เสียชีวิตภายในถ้ำหลวงระหว่างดำน้ำลำเลียงขวดอากาศ ยิ่งตอกย้ำว่าการดำน้ำในถ้ำนั้นอันตรายขนาดไหน ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN จึงจะมาบอกอันตรายของการดำน้ำในถ้ำเพื่อเป็นอุทาหรณ์และทำความเข้าใจว่าทำไมการช่วยชีวิตเด็ก ๆ และโค้ชจึงไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ความคับแคบที่ส่งผลต่อทั้งกายและใจ การมุดผ่านซอกหินแคบ ๆ แม้แต่ในพื้นที่แห้งยังเป็นเรื่องยากลำบาก ดังนั้นเมื่อต้องดำน้ำแบกถังออกซิเจนหนัก ๆ ไว้บนหลัง ความยากย่อมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ การเคลื่อนที่ทำได้อย่างเชื่องช้ายิ่งทำให้รู้สึก Panic เข้าไปอีกว่าปริมาณออกซิเจนจะเพียงพอหรือไม่เพราะคุณไม่สามารถโผขึ้นบนผืนน้ำเพื่อหายใจได้เลยในกรณีออกซิเจนคุณหมด และการที่ต้องอยู่ในช่องแคบ ๆ เป็นเวลานานนอกจากสภาพร่างกายที่จะค่อย ๆ อ่อนล้าแล้ว จิตใจก็ต้องรับภาระหนักไม่แพ้กัน เหมือนคุณกำลังอยู่ในอุโมงค์ลึกที่ไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ตรงไหน โดยเฉพาะใครที่กลัวที่แคบอยู่แล้วการดำน้ำในถ้ำถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามเลยทีเดียว อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยปกติการดำน้ำก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอยู่แล้ว แต่การดำน้ำในถ้ำนั้นเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าการดำน้ำปกติหลายเท่าตัวเนื่องจากคุณต้องดำผ่านซอกหินที่คับแคบแทบจะตลอดเวลา ซึ่งพื้นผิวของมันก็ขุรขระเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยแหลมคม และที่สำคัญคือถ้าคุณเกิดประสบอุบัติเหตุในซอกหินคุณจะไม่สามารถขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อปฐมพยาบาลได้ในทันที คุณต้องกลั้นใจเดินหน้าต่อไปหรือไม่ก็ถอยหลังกลับมาสู่พื้นที่โล่งเสียก่อน ดังนั้นการดำน้ำในถ้ำถ้าคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญก็เหมือนกำลังพาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย วิสัยทัศน์ในการมองเห็นต่ำ อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญของการดำน้ำในถ้ำคือการที่คุณแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลยต่อให้คุณจะพกไฟส่องสว่างติดตัวไปด้วยก็ตาม ภายในถ้ำใต้น้ำที่ถูกตัดขาดจากแสงเดือนแสงตะวันนั้นมืดมิดเสียจนบางครั้งคุณมองไม่เห็นแม้แต่มือตัวเองด้วยซ้ำ นอกจากนั้นน้ำก็ไม่ได้ใสเหมือนในทะเล
เพราะทุกสิ่งอาจเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดคิด เราจึงต้องเตรียมพร้อมให้ถึงที่สุด ไม่ว่าคุณจะเป็นยอดชายสาย Adventure ผู้เชี่ยวชาญป่าเขาแค่ไหน เป็นสุดยอดขาลุยสุดสัปดาห์เพียงใด หรือเป็นนักสำรวจมือใหม่ ก็อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากได้เหมือนกัน ดั่งเช่นเหตุการณ์ที่น้อง ๆ นักฟุตบอล และโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 คน ต้องติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นานเกือบ 10 วัน จนกระทั่งทีมช่วยเหลือได้ค้นพบทั้ง 13 คน และสามารถช่วยเหลือทุกคนออกมาจากถ้ำหลวงได้อย่างปลอดภัยแล้ว ก่อนจะส่งไปรักษาตัวต่อไป ทีมงาน UNLOCKMEN ขอชื่นชมทุกคนทุกฝ่ายที่ร่วมมือร่วมใจกันทำภารกิจนี้จนประสบความสำเร็จ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและมิตรสหายของ จ.อ.สมาน กุนัน ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ ส่วนหนุ่ม ๆ ที่เป็นสายใกล้ชิดธรรมชาติก็ต้องพร้อมลุยให้มันส์ถึงที่สุดเช่นกัน ทั้งร่างกาย จิตใจ ทักษะ และกำลังเสริมที่ช่วยให้เราอยู่รอดได้ อย่างอุปกรณ์ยังชีพต่าง ๆ ที่ช่วยชีวิตใครมานักต่อนัก แต่ถ้าจะให้ยก survival gear ไปทั้งหมดก็คงจะหนักเกินแบกลุยป่า เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกเตรียมแต่ของที่จำเป็น และมีประสิทธิภาพในการช่วยให้เราอยู่รอดได้ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน UNLOCKMEN ขอแนะนำอุปกรณ์เอาตัวรอดที่ชายสาย Adventure ต้องมีติดตัวไว้เวลาออกไปลุยป่า มีดยังชีพ เริ่มต้นด้วยของเหมาะมืออย่าง