ผู้ชายหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับคำว่า Dystopia สักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงหนังสุดมันส์อย่าง The Hunger Games, The Maze Runner หรือแบบคลาสสิค ๆ ระดับพระกาฬอย่าง Blade Runner, Children of Men หรือที่พอจะเห็นภาพแบบง่ายโคตร ๆ ก็ต้องเป็น The Matrix หนังที่ผู้ชายอย่างเราคุ้นตาดีพวกนี้แหละคือหนังที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนัง Dystopia เพราะ Dystopia คือเรื่องราวว่าด้วยโลกในอนาคตอันล่มสลาย หรือสังคมที่ไม่พึงประสงค์หรือน่าหวาดกลัว อาจจะผ่านภัยพิบัติล้างโลกมาจนต้องกินอยู่กันอย่างแร้นแค้น หรือแม้แต่การพัฒนาทางเทคโนโลยี การเมือง การปกครองไปแบบก้าวหน้าสุด ๆ (อย่าง The Matrix) แต่ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุม ปกครองที่โหดร้าย รุนแรง (ถ้าจินตนาการไม่ออกก็ลองนึกถึงหนังที่เรายกตัวอย่างไปได้เลย) เพราะในสังคม Dystopia แต่ละเรื่องก็จะมีความบิดเบี้ยวแตกต่างกันไปที่ทำให้เราเห็นภาพโดยที่เจ้าของเรื่องยังไม่ทันอธิบายเลยด้วยซ้ำว่านี่คือโลก Dystopia ความสนุกของการเสพหนังหรือหนังสือ Dystopia มันจึงเร้าใจผู้ชายอย่างเรามาก ๆ ด้วยความที่การปกครองมันทั้งโหดร้าย ชวนให้เราลุกขึ้นมาต่อต้าน ทั้งความตื่นเต้นที่มันชวนให้เราลุ้นอยู่ทุกขณะว่าเราจะเจออะไรสุดแปลกประหลาดบ้าง หรือแม้แต่ความสิ้นหวังของระบบการปกครองที่ชวนให้เราขบคิดว่าถ้าเราต้องไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจริง ๆ เราจะฝ่าฟันกับความสิ้นหวังในใจเราได้มากน้อยแค่ไหน
ถ้าใครพอจะติดตามโลกลูกหนังอยู่บ้างคงพอจะรู้กันว่าฤดูกาลนี้จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่ Arsène Wenger ผู้จัดการทีม Arsenal หนึ่งในทีมชั้นนำในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะทำหน้าที่นี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า Wenger คือตำนาน ไม่ใช่แค่สำหรับชาว Gooners แต่คือตำนานของวงการฟุตบอล สามารถเทียบชั้นกับ Sir Alex Ferguson อดีตผู้จัดการทีม Manchester United ได้อย่างไม่อาย ตลอดระยะเวลา 22 ปีในการคุมทีม ความยิ่งใหญ่ของ Wenger ในเรื่องฟุตบอลนั้นคงไม่ต้องไม่พูดถึงกันแล้ว เพราะทุกคนน่าจะรู้กันเป็นอย่างดี ในวันนี้ UNLOCKMEN จึงขอพาไปทำความรู้จักกับชีวิตนอกสนามของเขาบ้างกับ 8 เรื่องนอกสนามที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Arsène Wenger เพื่อเป็นการร่วมแสดงความเคารพในงานเลี้ยงที่กำลังจะเลิกราครั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์แห่งโลกลูกหนัง ผู้จัดการทีมฟุตบอลส่วนใหญ่มักจะผันตัวมาจากนักฟุตบอลชื่อดัง ดังนั้นจึงมีไม่มากนักที่พวกเขาจะจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่สำหรับ Wenger นั้นตรงกันข้าม เขาไม่ใช่นักฟุตบอลชื่อดัง ออกจะล้มเหลวด้วยซ้ำ เพราะตลอดชีวิตการค้าแข้งกับทีมระดับลีกล่างเสียส่วนใหญ่ ไม่มีผลงานเป็นที่น่าจดจำ แต่ในด้านการศึกษา Wenger เรียนจบระดับมหาวิทยาลัย และยังเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังของฝรั่งเศสอย่าง University of Strasbourg เสียด้วย และสิ่งที่แปลกไปกว่านั้นคือเขาจบจากคณะเศรษฐศาสตร์ซึ่งแทบไม่มีนักฟุตบอลคนไหนเรียนเลยด้วย ถ้าใครเป็นแฟน Arsenal คงรู้ดีว่า Wenger นำความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ของเขามาใช้อย่างเต็มเปี่ยม Arsenal เป็นสโมสรที่ได้กำไรมหาศาลแทบทุกปี
แด่มนุษย์งานชายทุกคนที่กำลังปั่นงานอยู่ตอนนี้ เราเชื่อว่าหลายคนคงเริ่มชินกับการทำงานแบบ Multitasking หรือวิถีการทำงานในศตวรรษ 21 ที่ต้องการให้หนึ่งคนมีสกิลการทำงานเหมือนทศกัณฐ์ สิบหน้ายี่สิบมือรันพร้อมกันหมด ทว่าเริ่มสังเกตกันไหมว่าขณะที่เราทำตัวเป็นจิม แครี่ในหนังเรื่อง Yes Man ตอบเจ้านายว่า “ได้ครับ ๆ” ไปเสียทุกเรื่องเพื่อกันการเสียโอกาส ลงมือบู๊งานจนเฉียบ แววเลื่อนขั้นก็สดใส นานวันเข้าไอ้เรื่องธรรมดาที่เคยทำทุกวันมันกลับเริ่มฝืด ความจำทรงจำ Blank ไปเสียอย่างนั้น มาดูไปพร้อมกันว่าเหตุการณ์พวกนี้เกิดกับเราบ้างไหมและมันเกิดขึ้นจากอะไร ? WHO STEAL THE KEYS ? สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ระยะนี้เริ่มควานหากุญแจอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่เจอ ทั้งที่เมื่อกี้เพิ่งเตรียมมาแหม็บ ๆ ดันไม่รู้เอาไปวางไว้ไหน หรือกระทั่งสมาร์ตโฟนที่ถืออยู่ในมือก็ยังลืมว่าถือ มันถือเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่า Multi-tasking เริ่มทำให้ความทรงจำเราบกพร่องที่ตรงกันกับงานวิจัยของ Stanford University ที่ทดสอบเรื่องความจำกับคนทำงานสไตล์ Multi-tasking ทั้งหลายโดยหาคนมาเข้าร่วมทดลอง เปิดคอลเลคชั่นภาพวาดของสิ่งของบนจอ แล้วให้ทุกคนลองเล่น photo hunt ดูว่าจุดไหนในภาพที่ขยับ ผลสรุปออกมาว่าบรรดา Multitasker ไม่ใช่แค่ตอบไม่ถูก ยังสูญเสียความจำระยะยาวไปด้วยหลังบอกให้อธิบายว่าเห็นอะไรมาก่อนหน้านี้ จืดเต็มใบ
ไม่มีใคร “ลุก” ก่อน “ล้ม” หรอกครับ ต่อให้จุดศูนย์ถ่วงของผู้ชายอย่างเราดีแค่ไหนมันก็ต้องมีพลาดสะดุดล้ม ไม่ก็ลื่นพรวดพราดลงไปกองกับพื้นกันบ้าง ยิ่งช่วงพายุฝนเข้าทำเอาพื้นเปียกแฉะแบบนี้ โอกาสวืดลงไปน็อกเอาต์แบบไม่รู้ตัวยิ่งมีสูง ทีมงาน UNLOCKMEN เห็นว่าสิ่งที่ยกตัวอย่างมานั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะผลการสำรวจพบว่าการพลัดตกและหกล้ม รวมถึงเดินเตะและสะดุดสิ่งของถือเป็นอุบัติเหตุยอดฮิตของหนุ่มออฟฟิศทั่วโลก โดยในประเทศใหญ่ ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา มีรายงานว่ามีคนบาดเจ็บจากการหกล้มโดยเฉลี่ย 25,000 คนต่อวันเลยทีเดียว ส่วนสถิติจาก The Agency for Healthcare Research and Quality ระบุว่า ปี ๆ หนึ่งมีคนราว 7.9 ล้านคนที่เข้าห้องฉุกเฉินมาเพราะสาเหตุเดียวกัน เราไม่อยากให้คุณผู้อ่านทุกคนต้องบาดเจ็บหนักจากการลื่นล้มแบบใครเขา เราอยากให้ผู้ชายทุกคนเป็นคนเมืองที่แกร่งพอจะอยู่รอดกับความท้าทายชาย urban จึงขอนำวิธีการล้มที่จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบามาฝากกัน เผื่อวันหนึ่งลุ้มลุกคลุกคลานขึ้นมาจะได้ยืนขึ้นแล้วเดินต่อด้วยความมั่นใจไม่มีใครแซว โดยก่อนที่จะแนะนำกันอยากให้ทุกท่านจไว้ให้ขึ้นใจว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “สติ” ที่จะทำให้สัญชาติญาณอยู่รอดของเราได้ผลมากยิ่งขึ้น ป้องกันศีรษะให้ดี ศีรษะคือส่วนที่สำคัญที่สุดที่เราจะต้องปกป้องเวลาล้มลง ถ้าศีรษะกระแทกพื้นเมื่อไหร่ก็อาจจะทำให้บาดเจ็บร้ายแรงและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นอย่างแรกที่เราต้องทำให้ได้ก็คือการจัดระเบียบหัวของเรา ก้มหน้า เก็บคาง ถ้ารู้ว่าการล้มครั้งนี้หน้าค้องถึงพื้นก่อนแน่ ๆ ให้หันหน้าด้านข้างลงพื้น ยกแขนขึ้นมาตั้งการ์ดบริเวณศีรษะให้ทัน ถ้าล้มไปข้างหน้าก็ยกมือขึ้นกันด้านหน้า ถ้าล้มไปด้านหลังก็เอามือไขว้กันด้านหลัง สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง, โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ
พรสวรรค์กับพรแสวงยังคงเป็นเรื่องโลกแตกที่เถียงให้ตายก็ยังไม่ได้ข้อสรุปกันอยู่ดี เพราะพรสวรรค์เองเป็นเหมือนทางลัดให้เดินไปสู่ความสำเร็จได้ง่าย ราบรื่น และไวขึ้น ส่วนพรแสวงก็เป็นเหมือนแหล่ง Energy ขนาดใหญ่ที่เติมให้เราแบบไม่มีวันหมด ทั้งคู่ต่างมีข้อดีกันคนละแบบ UNLOCKMEN จะพามาสำรวจข้อดีของฝั่งพรแสวงกันบ้าง ว่าพวกเขามีจุดแข็งยังไง ทำไมถึงเป็นคู่แข่งของชาวพรสวรรค์ได้แบบสบาย ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตเราคงคุ้นเคยกับคำว่า “พรสวรรค์” กันดีอยู่แล้ว ลองสังเกตดูว่าหากใครเก่งกว่าคนอื่นแบบโดดเด่นขึ้นมา ไม่ใช่โดดเด่นแบบกล้าแสดงออก แต่หมายถึงประสิทธิภาพของการทำอะไรสักอย่างที่โดดเด่นขึ้นมาแบบออร่าจับ แม้ว่าจะลงทุนลงแรงไปน้อยกว่าคนอื่น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับมีคุณภาพไม่น้อยหน้ากว่ากัน เราคงจะเรียกคนประเภทนั้นว่า “คนมีพรสวรรค์” เราเลยมักจะเห็นเพื่อนในตอนมหาลัย ที่ปาร์ตี้หัวหมุน แฮงก์หน้ามึนเข้าไปสอบ หรือเพื่อนที่ชอบหลับ พลาดทุกเลคเชอร์ แต่กลับได้คะแนนสอบดีระดับต้น ๆ อาจดูน่าหมั่นไส้แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นั่นเป็นเพราะเขาเกิดมาพร้อมกับอาวุธลับที่เป็นเหมือนพลังแฝงอยู่ข้างใน ที่ไม่อาจลอกเลียนแบบกันได้ ความจริงที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ หากเรามองไปที่คนที่ประสบความสำเร็จสักคน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะคิดว่าเขาเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่ความเป็นจริงเบื้องหลังกองเงินกองทองของเขา ก็แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ แลกมาด้วยความล้มเหลวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง อย่างนักบาสเก็ตบอลระดับตำนาน Michael Jordan เขาต้องออกจากทีมตอนมัธยม แต่สุดท้ายเขาก็กลายมาเป็นนักกีฬาระดับตำนานได้แบบไร้ข้อกังขา หรือจะเป็น Walt Disney ผู้เคยถูกตราหน้าว่า “ไม่มีไอเดียเป็นของตัวเอง” และ “ไม่มีจินตนาการเอาซะเลย” จากบริษัทหนังสือพิมพ์ที่ไล่เขาออก นี่ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ หรือไลฟ์โค้ชที่มักเอากรณีของคนที่ประสบความสำเร็จมาให้แง่คิดแบบบิดเบี้ยว แต่เรากำลังพูดถึงความพยายาม ความไม่ยอมแพ้ของพวกเขา
โชคดีที่โลกใบนี้มี Netflix มาอยู่เคียงข้างเรา ให้เราได้เลือกดูซีรีส์ที่รัก ดูหนังที่ชอบ เมื่อไหร่เวลาไหนก็ได้ แม้บางทีจะกินเวลานอนของเราเข้าไปค่อนคืนก็ถือว่าหยวน ๆ เพราะช่วยผ่อนคลายให้เราได้ แต่ใครจะรู้ว่าอีกหมัดเด็ดที่ Netflix มี ก็คือสารคดีนั่นเอง ถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำสารดคีจาก Netflix 5 เรื่องที่ดูจบปุ๊ปความคิดสร้างสรรค์มาปั๊ปแน่นอน Iris (2014) นี่คือเรื่องราวและแรงบันดาลใจจาก Interior designer และ fashion icon ที่ชื่อว่า Iris Apfel เอ๊ะ แล้วมันจะกระตุ้นต่อมความสร้างสรรค์ของผู้ชายอย่างเราขึ้นมาได้ยังไงวะ ? เราขอบอกเลยว่า Iris Apfel คือผู้หญิงสุดเปรี้ยว สุดซ่า วัย 93 ปี (ใช่ อ่านไม่ผิดหรอก อายุปาเข้าไป 93 ปี) แต่เธอไม่เคยหยุดไอเดียสุดพีคของตัวเอง โดยสารคดีเรื่องนี้ก็จะพาเราไปล้วงลึกชีวิตและวิธีคิดสุดแสบของเธอ ซึ่งจะทำให้เราเรียนรู้ว่าแฟชั่นแม่งไม่เกี่ยวกับแบรนด์โว้ย (และไม่เกี่ยวกับราคาด้วย) เพศและอายุก็ไม่ใช่ข้อจำกัดในชีวิตเช่นกัน แต่แก่นแท้มันคือ “ตัวตน” ของคุณต่างหาก!
แม้เรื่องการทำงาน ผู้ชายอย่างเราจะเป็นสายลุยไม่มีถอย แต่ช่วงการทำงานแบบยาว ๆ ไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์มาคอยปลอบใจเลย ก็เรียกความหงอยมาให้ชีวิตได้เหมือนกัน แต่เราจะปล่อยให้ตัวเองเฉาตาย พร้อมกับงานที่ไม่มีประสิทธิภาพคงไม่ใช่วิสัยผู้ชาย Work Hard Play Hard เท่าไหร่ ดังนั้นเราจะเปลี่ยนวันทำงานให้เป็นอีกวันที่ซาบซ่านเหมือนวันหยุดพักผ่อนได้ยังไง ? UNLOCKMEN พามาดู 5 วิธีปลดปล่อยจิตวิญญาณไปพร้อม ๆ กัน ตามหา vacation scent ของตัวเองให้เจอ กลิ่นคือสุดยอดของการกระตุ้นความทรงจำและความรู้สึกได้ดี ถ้านึกไม่ออกลองจินตนาการถึงเวลาเราเดินไปเที่ยวที่ไหนสักที่แล้วได้กลิ่นน้ำหอมของหวานใจคนเก่าลอยมา เชื่อได้เลยว่าร้อยทั้งร้อยเราก็ต้องคิดถึงความทรงจำ (ทั้งดีและร้าย) เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา หรือแม้แต่กลิ่นกับข้าวที่แม่ทำให้กินตอนเด็ก ๆ ที่กระตุ้นความผ่อนคลายให้เราได้เสมอ ดังนั้นตามหากลิ่นแห่งการพักผ่อนหย่อนใจของตัวเองให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นที่เราได้กลิ่นแล้วผ่อนคลาย หรือจะเป็นกลิ่นของห้องจากโรงแรมที่เราไปพักมาทริปล่าสุด แล้วเอากลิ่นนั้นมาไว้ใกล้ ๆ โต๊ะทำงาน หลอกตัวเอง เอ้ย กระตุ้นความทรงจำตัวเองเบา ๆ ว่า เฮ้ย นี่แหละการทำงานอย่างมีความสุขอย่างหนึ่ง ต้นไม้ใบหญ้าจะเยียวยาคุณเอง แม้ผู้ชายอย่างเราจะแอบเหมารวมว่านิสัยการตกแต่งโต๊ะทำงานด้วยดอกไม้ ต้นไม้ จะดูเป็นนิสัยของสาว ๆ (ซึ่งก็ไม่จริงเสมอไป) แต่มีงานวิจัยที่บอกว่าการที่เราได้เห็นสีเขียว หรือต้นไม้ ใบหญ้า
Spoil Alert สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู Avengers: Infinity War หลายคนที่ไม่ได้เป็นแฟนบอย Marvel อาจจะเกิดความสงสัยว่าในฉาก End Credit ของ Avengers: Infinity War ก่อนที่ Nick Fury จะสลายไปเขาส่งข้อความหาใคร สัญลักษณ์ในเครื่องส่งข้อความนั้นหมายถึงอะไร วันนี้เราจะมา ไขข้อข้องใจกัน ไม่ต้องเกริ่นนำให้ยืดยาว เฉลยเลยละกันว่าสัญลักษณ์ในเครื่องส่งข้อความของ Nick Fury คือสัญลักษณ์ของ Captain Marvel ว่าแต่ Captain Marvel คือใครกันล่ะ? Who is Captain Marvel? ยอมรับว่าตัวละคร Captain Marvel เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายนัก ดังนั้นหลายๆคนถ้าไม่ได้เป็นแฟนคอมมิค Marvel จริงๆอาจจะงงและสงสัยว่าตัวละครนี้คือใคร โดดเด่น สำคัญยังไง ทาง Marvel Studio ถึงได้เลือกมาทำภาพยนตร์ เกี่ยวอะไรกับ Captain America หรือเปล่า วันนี้
ผู้ชายมันส์ ๆ อย่างเรามันต้องมีวันที่รู้สึกเปื่อยบ้างเป็นธรรมดา จากที่คึก ๆ ตลอดเวลาจู่ ๆ ก็รู้สึกชินชาไร้ชีวิตชีวาขึ้นมาทันที อาการแบบนี้มักจะเกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ตื่นมาแล้วรู้สึกว่าว่างมากเหลือเกิน แต่จะปล่อยให้ตัวเองหายใจทิ้งดำดิ่งไปกับความเซื่องก็คงจะไม่ใช่วิถีของผู้ชายอย่างเรา แบบนี้ต้องสร้างความบันเทิงภายในบ้านกันหน่อยด้วยการดูหนังบู๊เท่ ๆ มันส์ ๆ เพื่อปลดล็อกความ fun ให้ออกมาพังความซึม ให้อารมณ์ครึ้ม ๆ ได้กลับมาครึกครื่นอีกครั้ง และภาพยนต์ที่เราจะแนะนำให้ผู้ชายทุกคนได้เสพก็คือผลงานการกำกับของ John Woo (จอห์น วู) หรือ อู๋ อี่ว์เซิน ผู้กำกับระดับโลกชาวฮ่องกง ที่มีชื่อเสียงเรื่องคิวบู๊ที่โคตรมันส์ บทที่เท่และจัดจ้าน สาดกระสุนกระจาย พร้อมกับช็อตติดตาที่จะหาใครมาเลียนแบบได้ โดยหนังของ จอห์น วู ที่ทีมงาน UNLOCKMEN แนะนำให้ดูนั้น นอกจากจะมันส์เข้าขั้นแล้ว ยังเป็นผลงานที่ได้รับคำชมมากที่สุดอีกด้วย Bullet in The Head (1990) หนังเรื่องนี้ วูเป็นทั้งผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง และผู้เขียนบท เขาทุ่มเทเป็นอย่างมากกับโปรเจ็คต์นี้ ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทั้งการหาทุนสร้างด้วยตัวเอง การออกไปถ่ายทำที่ต่างประเทศ โดยไม่มีบริษัทใหญ่สนับสนุน ว่ากันว่าเรื่องนี้แสดงความเป็นตัวตนของเขามากที่สุด จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดขึ้นในปี
การแชร์เพลงบนหน้า Newsfeed มันก็เหมือนเป็นการโชว์ไลฟ์สไตล์ของเราในรูปแบบนึง ไม่ว่าจะแชร์เพื่อแลกเพลงกันฟังกับเพื่อน เพื่ออัพเดตเพลงใหม่ ๆ หรือจะเป็นเหตุผลยอดฮิตอย่างแชร์เพลงในมู้ดตอนนั้นของเรา เหมือนอย่างตอนสมัย MSN ที่เรามักจะลิงก์กับโปรแกรม WindowMedia Player ให้โชว์ว่าเรากำลังฟังเพลงอะไรอยู่ นั่นก็ไม่ต่างกับการแชร์เพลงในตอนนี้เหมือนกัน ถ้าจะมัวมาแชร์บน Facebook มันก็น่าเบื่อไปแล้ว UNLOCKMEN จะพามาอัพเดตฟังก์ชั่นแจ่ม ๆ จาก Spotify ร่วมกับ Instagram จะเป็นอะไรนั้น มาดูกัน ใครที่ใช้ Spotify อาจยังไม่ทันสังเกตว่ามันมีฟังก์ชั่นใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในเมนู Share ของเรา เพราะปกติแล้วหากวันไหนเกิดครึ้มอกครึ้มใจอยากจะแชร์เพลงจาก Spotify ขึ้นมา เรามักจะ Copy URL หรือแชร์ลง Facebook กันแบบดื้อ ๆ ตามสไตล์ใครสไตล์มัน และอีกอย่างที่เห็นกันบ่อย ๆ คือ การ Capture หน้าจอตอนฟังเพลงใน Spotify แล้วเอาลง IG Story เพื่อเป็นการแชร์เพลงในมู้ดตอนนั้นของเราแบบชั่วคราว (ตามสไตล์ของ IG