เมื่อหลายปีก่อน คงจำ Viral ตัวนึงกันได้ เป็นรูปภาพชุดเดรสที่ถูกปล่อยออกมาให้ผู้คนถกเพียงกันว่านี่คือสีอะไรกันแน่ เสียงแตกออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน Comment ก็ถกเถียงกันอย่างสนุกสนาน สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มีเฉลยออกมาแต่อย่างใดว่าจริง ๆ แล้วมันคือสีอะไรกันแน่ จากกระแส Viral นั้น ทำให้เห็นชัดเจนเลยว่า แต่ละคนมีมุมมองต่อสีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ต้องเป็นรูปปริศนาชวนตีกันอย่างรูปเดรสตัวนั้นก็ได้ ในชีวิตจริงหลายครั้งเราก็ถกเถียงกับเพื่อน คนรอบข้างกันเป็นประจำอยู่แล้ว ว่าไอ้สีที่เห็นเนี่ย มันคือสีอะไรกันแน่ โดยเฉพาะหนุ่มสายดีไซน์ที่จำแนกสีได้เยอะกว่าคนทั่วไป อาจจะต้องอธิบายกับคนอื่นเหนื่อยหน่อยว่าสีมันต่างกันยังไง โทนไหน เฉดไหน UNLOCKMEN ขอเสนอ Gadget แจ่ม ๆ ที่เอาไว้เป็นของเล่นหรือใช้งานจริงก็ยังได้ กับ Nix Mini Color Sensor ให้เราได้ดูดสีทุกสิ่งรอบตัวได้จริง ๆ มาดูกันว่ามันเจ๋งยังไง ทำไมถึงต้องมี Match colors easily with Nix Mini Color Sensor ทาสีห้อง ออกแบบเว็บไซต์ ซื้อรถสักคัน ช่วยสาวเลือกลิปสติก หรืออีกสารพัดสิ่งรอบตัวเรา ที่เราต้องการคำตอบของสีที่แม่นยำ ว่าสีนี้แน่นะ
“สำหรับประชาชนทุกคนที่ถูกรัฐบาลรังควาน ผมว่า เฮ้ย! คุณต้องสู้ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณกลัว เขาจะยิ่งไล่ต้อนคุณไปเรื่อย ๆ ” ประโยคนี้จาก Headache Stencil ทำให้เรานิ่งคิด ถ้าเราเป็นประชาชนแต่ถูกรัฐบาลรังควานไม่ว่าจะในรูปแบบของการมาข่มขู่ตรง ๆ หรือภายใต้รูปแบบการบริหารงานที่ตรวจสอบไม่ได้ ทำไมเราต้องนิ่งเฉยล่ะ ? ทำไมเราต้องปล่อยให้เขาทำอะไรกับประเทศเราก็ได้ล่ะ ? แน่นอนว่ามีคนที่เลือกนิ่งเฉย แต่ก็แน่นอนว่ามีคนที่ไม่กลัว มีคนที่ไม่ยอมถูกไล่ต้อนและลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับอำนาจที่ไม่เป็นธรรม หนึ่งในคนที่กล้าลุกมาปะทะกับรัฐบาลทหารคราวนี้ต้องมีชื่อของ Headache Stencil อยู่ด้วยแน่นอน Headache Stencil อาจเป็นชื่อที่บางคนรู้จักเป็นอย่างดี แต่ก็อาจเป็นชื่อที่บางคนเกาหัวแกรก ๆ แล้วถามว่า “ใครวะ?” แต่ถ้า UNLOCKMEN แปะผลงาน Political Art ฝีมือเขาให้ดู เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะผลงานเขาที่แผลงฤทธิ์ด้วยการตั้งคำถาม วิพากษ์วิจารณ์สังคมการเมืองได้แบบดุเดือดชนิดที่เป็นคนไม่สนใจการเมืองก็ต้องเคยเห็นเพื่อนแชร์งานเขาผ่านตามาแน่ ๆ ถ้าจะให้พูดแบบสั้น ๆ Headache Stencil คือศิลปินสตรีทอาร์ตที่ทำงาน Political Art เพื่อตั้งคำถามกับความไม่ปกติในสังคม แต่ถ้าจะเอาฉบับจุใจ เราก็ชวนคุณมาเสพความคิดของเขาผ่านการพูดคุยครั้งนี้ไปด้วยกัน แต่ถ้าอ่านจบแล้วมันปลุกพลังบางอย่างในตัวคุณให้เดือดพล่านจนดับไม่ลง วันเสาร์นี้ (30 มิถุนายน
ถ้าพูดถึงสุดยอดแบรนด์นาฬิกาหรูระดับโลกสัญชาติสวิส ต้องไม่พลาดนึงถึง OMEGA ที่ล่าสุดได้จัดเอ็กซ์คลูซีฟ ปาร์ตี้แห่งปี “OMEGA TRESOR COLLECTION” ที่เหล่าสาวกต่างรอคอยกับคอลเลคชั่นระดับตำนานรุ่นล่าสุด “เทรซอร์” (Trésor) อย่างเป็นทางการ เรื่องราวของกาลเวลาในคอนเซ็ปต์ “Fountain of Youth” ที่เปรียบความงามอันเป็นนิรันดร์ของ “เทรซอร์” เหมือนความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในแต่ละฤดูกาลที่มีเสน่ห์ และตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอย่างแท้จริง พร้อมถ่ายทอดความน่าหลงใหลแห่งคอลเลคชั่นเทรซอร์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมด้วยเหล่าเซเลบริตี้ และวอทช์ เลิฟเวอร์ที่มาร่วมงาน ด้วยจิตวิญญาณของแบรนด์ที่เชื่อว่าแต่ละคนล้วนมีคาแรคเตอร์ สไตล์ และบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ในปีนี้ OMEGA ส่งมอบคอลเลคชั่นอันภาคภูมิใจอีกครั้งกับ เทรซอร์ ที่ผสานคุณสมบัติชั้นเลิศทางด้านวัสดุและหลากโทนสีหน้าปัดให้คุณเลือกเจิดจรัสในแบบของตนเอง สำหรับคอลเลคชั่นเทรซอร์ล่าสุดนี้ ออกแบบมาพร้อมความมั่นใจ สดใส เข้าใจถึงไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่แต่ก็ไม่ละทิ้งความคลาสสิคในยุคเก่า ดังจะเห็นได้จากดีไซน์ทันสมัยของตัวเลขโรมันตกแต่งลายนูนบนรอบหน้าปัด ความละอียดอ่อนของการฝังเพชรตามเส้นโค้งด้านข้างตัวเรือน และสายรัดข้อมือที่จับคู่กับดีเอ็นเอความคลาสสิคของตัวเรือนบางเฉียบและเข็มนาทีได้อย่างลงตัว ควรค่าแก่การครอบครอง โดยภายในงานได้เนรมิตชั้น 19 เกษร เออร์บัน รีสอร์ท ให้กลายเป็นสเปซสุดหรู ทว่าเรียบง่ายสะท้อนตัวตนตามแบบฉบับเทรซอร์ ที่เพียบพร้อมไปด้วยความงดงามและสมบูรณ์แบบในคอนเซ็ปต์ “Fountain of Youth” การเดินทางที่เชิญชวนให้แขกผู้มีเกียรติดื่มด่ำไปกับไทม์เลสบิวตี้ที่ต่างเฝ้าปรารถนา โดยบอกเล่าเรื่องราวแห่งความงามเหนือกาลเวลาผ่านผลงานอินสตอลเลชั่น ซึ่งเผยให้เห็นถึงความน่าอัศจรรย์ของฤดูกาลทั้ง 4 อันได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ
พูดถึงลูกกลม ๆ ที่โดนชายทั้ง 22 คนในสนามทั้งเตะ เหยียบ เขี่ย โขก จับ ทุ่ม ชก และเขวี้ยงแล้ว มันช่างฟังดูยิ่งใหญ่ และยิ่งถ้าพูดถึงลูกฟุตบอลที่ใช้ในศึกฟุตบอลโลกยิ่งฟังดูใหญ่ยิ่ง เพราะว่ามันถูกยิงเพื่อตัดสินความเป็นชาติเจ้าแห่งลูกหนังบนโลกใบนี้ ด้วยความที่เป็นลูกฟุตบอลที่ใช้ในทัวร์นาเม้นต์ที่มีความหมายมากที่สุด ลูกบอลนั้นย่อมต้องผ่านการออกแบบมาให้มีความหมายมากที่สุดเช่นกัน มีดีไซน์สวยงาม และมีเทคโนโลยีที่ทันเท่ากับการพัฒนาฝีเท้าของนักเตะ ขณะเดียวกันก็ต้องได้มาตรฐานตามกฏ กติกาฟุตบอล ซึ่งไม่ใช่งานง่าย ๆ เลยในทุกกระบวนการผลิต อย่างใน World Cup Russia 2018 ลูกฟุตบอลที่เราเห็น คือ adidas Telstar 18 ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากรุ่นที่เป็นไอค่อนอย่าง Telstar ปี 1970 ซึ่งออกแบบให้เป็นสีขาวและดำสลับกัน เพื่อให้มองเห็นได้ชัดในขณะที่แฟนบอลกำลังชมเกมผ่านทางทีวีขาวดำในตอนนั้น และได้รับการยกย่องมากมาย โดยในรุ่นปี 2018 นี้ ได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดให้มีโครงสร้างผิวสัมผัสที่มีคุณสมบัติเกาะยึดดีขึ้น ทนทานมากขึ้นทั้งในและนอกสนามแข่งขัน ขณะที่วัสดุบางชิ้นสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แถมยังฝังชิพ NFC เอาไว้ ให้ผู้เล่นสามารถปฏิสัมพันธ์กับเจ้าลูกบอลใบนี้ผ่านสมาร์ทโฟน เรียกได้ว่าล้ำและลุยขึ้น ตามเกมฟุตบอลสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีมาผสานกับความดั้งเดิม ดูลูกฟุตบอลของครั้งล่าสุดกันไปแล้ว ลองมาย้อนดูการออกแบบลูกหนังในใช้ในศึกฟุตบอลโลกในอดีตกันบ้างดีกว่า จะได้รู้ถึงประวัติศาสตร์ และพัฒนาการของอุปกรณ์ที่จะขาดไม่ได้เลยของกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก World Cup 1930
พาไปสัมผัสเสน่ห์เรือนเวลาอันมีประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกกับนิทรรศการ บลองแปง โอเชี่ยน คอมมิตเมนต์ (Blancpain Ocean Commitment) ซึ่งบลองแปงถือเป็นแบรนด์นาฬิกาที่มีความผูกพันกับมหาสมุทรมาอย่างยาวนาน พร้อมการเซอร์ไพรส์เปิดตัวนาฬิกาฟิฟตี้ ฟาธอมส์ รุ่น BOC III Limited Edition ที่มาจัดแสดงในเมืองไทยเป็นที่แรกของโลก เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบลองแปงในการสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ท้องทะเล ภายในงานนิทรรศการ บลองแปง โอเชี่ยน คอมมิตเมนต์ ถูกออกแบบในโทนสีน้ำเงินเข้มเหมือนท้องทะเลอันสงบนิ่ง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและอิสระในการดำดิ่งไปสู่ความงดงามของโลกใต้น้ำ ภายในงานมีการจัดแสดงนาฬิการุ่นดังอย่าง ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ (Fifty Fathoms) ซึ่งถือเป็นนาฬิการูปแบบโมเดิร์นสําหรับดําน้ำเรือนแรกของโลก (Modern Diving Watch) ที่ต่างมีเอกลักษณ์อันทรงพลังและฟังก์ชั่นโดดเด่นเฉพาะตัวกว่า 10 รุ่น รวมถึงนำเสนอประวัติศาสตร์และวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการร่วมสนับสนุนโครงการสํารวจใต้ท้องมหาสมุทรที่ถ่ายทอดผ่านภาพถ่ายใต้ท้องทะเลอันสวยงามจากช่างภาพชื่อดังระดับโลกกว่า 20 ภาพ ที่ถูกจัดวางบริเวณรอบงานให้ทุกคนได้ซึมซับบรรยากาศท้องทะเล และนำรูปภาพมาจัดทำเป็นโปสการ์ดเพื่อส่งต่อความมหัศจรรย์และเจตนารมณ์การอนุรักษ์ธรรมชาติใต้ท้องทะเลให้ทุกคนได้ตระหนักถึงคุณค่าและร่วมกันรักษามหาสมุทรให้สวยงามไปตลอดกาล โดยในงานได้มีการพูดคุยกับช่างถ่ายภาพใต้น้ำ มร.อิมราน อาหมัด (Imran Ahmad) หนึ่งในเจ้าของผลงานที่ได้จัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และความประทับใจในการสวมใส่นาฬิกาบลองแปงระหว่างการบันทึกภาพความสวยงามใต้ท้องมหาสมุทร โดยไฮไลท์ของนิทรรศการครั้งนี้คือการเปิดตัวนาฬิกาบลองแปงรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น Fifty Fathoms Ocean Commitment III ที่จัดแสดงครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย และผลิตเพียงแค่ 250
สี่ปีมีครั้ง ที่ทุกคนตั้งตาคอย อันนี้พูดถึงบอลโลก ไม่ได้พูดถึงอย่างอื่นแต่อย่างใด บอลโลกแต่ละปีมักจะมีอะไรให้เราจดจำกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแมตช์สุดประทับใจ ประตูสวย ๆ จากนักเตะตัวจี๊ด เพลงบอลโลกสุดฮิตติดหู หรือจะเป็นมาสคอตที่จะได้เห็นในรูปแบบของที่ระลึกสารพัดอย่าง ซึ่งเจ้ามาสคอตมันจะไม่ใช่แค่ตัวสร้างสีสันข้างสนามเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเสนอจุดเด่นของชาติเจ้าภาพเอาไว้ด้วย UNLOCKMEN จะพามาดูมาสคอตบอลที่ติดตา 10 อันดับ พร้อมที่มาที่ไป ว่าเจ้าตัวนั้นมันสื่อถึงอะไรในชาตินั้น ๆ เอาไว้เป็น Cool Knowledge คุยกันมันส์ ๆ ในวงเหล้าก็ยังได้ Mascot บอกอะไร ? มาสคอตที่ถูกเลือกมาใช้ แน่นอนว่ามันต้องเป็นอะไรที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของชาตินั้น ๆ การเลือกมาสคอตจึงเป็นอะไรที่ต้องพิถีพิถัน เพราะมันจะไม่ได้ทำหน้าที่แค่มายืนเชียร์ข้างสนามหรือเป็นพวงกุญแจเพียงอย่างเดียว แต่มันจะเป็นภาพแทนของชาตินั้น ๆ ที่ออกไปสู่สายตาชาวโลกในฐานะชาติเจ้าภาพของการแข่งขันอีกด้วย เราอาจจะคุ้นเคยกับมาสคอตที่เป็นสัตว์ซะส่วนมาก ซึ่งมาสคอตประเภทสัตว์ที่ถูกหยิบมาใช้ในบอลโลก อาจจะไม่ใช่สัตว์ประจำชาติเสมอไป อย่างอเมริกาก็เคยเลือกสุนัขอย่างเจ้า Striker มาเป็นมาสคอตในปี 1994 มาแล้ว ทั้งที่มีสัตว์ประจำชาติสุดเท่อย่างนกอินทรี เหตุผลก็ง่าย ๆ เพราะสุนัขคือสัตว์เลี้ยงยอดฮิตของชาวอเมริกัน แค่นั้นเอง ไม่ได้มีแค่สัตว์เท่านั้น เรายังมีทั้งผักและผลไม้ หรือแม้แต่อะไรที่ Abstract จัด ๆ เลยก็มี
สำหรับคนที่รอคอยภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์แห่งปีอย่าง Ocean’s 8 ที่เป็นภาคต่อของภาพยนตร์แอคชั่นในตำนาน Ocean’s 11 ที่โด่งดังมาแล้ว บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ด้วยนักแสดงในเรื่องก็ถือว่าเจ้าแม่แห่งวงการทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Anne Hathaway, Rihanna ตัวแม่ขนาดนี้ บอกเลยว่าไม่ดูก็คงไม่ได้ ซึ่งในภาพยนต์ Ocean’s 8 นี้ คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับอัญมณีสัญชาติฝรั่งเศส ที่รังสรรค์ อัญมณีชั้นสูง ได้ร่วมเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์ในการรังสรรค์จิวเวลรี่ชิ้นพิเศษสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะอีกด้วย นับเป็นความท้าทายสำหรับแบรนด์เครื่องประดับเก่าแก่สัญชาติฝรั่งเศสอย่างคาร์เทียร์ ที่ได้รับการทาบทามให้สร้างสรรค์เครื่องประดับอัญมณีชุดพิเศษ “สร้อยคอตูซองต์” สำหรับประกอบฉากในภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดจากอุดมการณ์การพัฒนาบทบาทสตรีของคาร์เทียร์ที่สนับสนุนให้ผู้หญิงมีความกล้าหาญยืนหยัดในความเป็นตัวของตัวเอง คาร์เทียร์ได้ระดมช่างฝีมือของแผนกอัญมณีชั้นสูง (High Jewelry) ณ Rue de la Paix ในกรุงปารีส ใช้ช่างอัญมณีที่เชี่ยวชาญที่สุดเพื่อรังสรรค์สร้อยคอชิ้นเอกในระยะเวลาไม่เกิน 8 สัปดาห์ นับได้ว่าเป็นความรับผิดชอบอันหนักหนาที่นอกเหนือไปจากงานประจำของพวกเขา คาร์เทียร์ได้ทุ่มทุนในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อความร่วมมือเสมือนความฝันครั้งนี้และท้ายที่สุดได้นำสร้อยคอตูซองต์บินข้ามทวีปจากปารีสสู่นิวยอร์ก คาร์เทียร์ยังเป็นแบรนด์เครื่องประดับเพียงหนึ่งเดียวที่ดารารับเชิญในภาพยนตร์สวมใส่ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิตันหรือ The Met เป็นเวลา 5 คืนติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับชั้นสูง ไฮ จิวเวลรี่ นาฬิกาและเครื่องประดับแบบต่าง ๆ บูติคแฟลกชิพ ณ ถนนฟิฟท์อเวนิวหรือคาร์เทียร์แมนชั่น (Cartier
การออกแบบโลโก้ที่เป็นเหมือนตัวแทนของแบรนด์ สามารถฉีกไปได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างอิสระ สัญลักษณ์ หรือแม้แต่ตัวหนังสือ มันทำได้หมด แค่เป็นที่จดจำของลูกค้าแค่นั้นก็ถือว่าตอบโจทย์ของการเป็นโลโก้ในตัวมันเองแล้ว สำหรับใครที่ทำงานสายนี้ หรือกำลังปั้นแบรนด์ของตัวเอง UNLOCKMEN มาแนะนำทริกดี ๆ สำหรับการนำ TYPO มาทำเป็นโลโก้สำหรับแบรนด์มาฝากกัน หนุ่ม ๆ สายดีไซน์จะได้ไม่ตกม้าตายกับเรื่องง่าย ๆ อย่างโลโก้ HandWritten Typeface กับ HandWriting จริง ๆ HandWriting ยังคงเป็นอะไรที่ไม่เคยตาย แม้ในจะผ่านในยุคตัวหนา ตัวบาง โมเดิร์น วินเทจ อะไรจะขับเคลื่อนไปยังไงก็ช่าง แต่ HandWriting ก็ไม่เคยตกยุคไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม คงเป็นเพราะความมีชีวิตชีวาในลายเส้นของมัน ที่ทำให้มีเสน่ห์อยู่ในตัวเสมอ เวลาใช้ในงาน Art Work สักชิ้น เราคงคุ้นชินกับการโหลดฟอนต์ HandWriting มาใช้แล้วจบไป เพราะฟอนต์เองก็ปรับระยะได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะระยะห่างระหว่างบรรทัด ช่องไฟ ตัวหนา เอียง ได้ดั่งใจเราหมด แบบที่เป็นมาตรฐานเท่ากันทุกตัวด้วย ซึ่งต่างจาก HandWriting ที่ใช้มือเขียนจริง ๆ ที่แต่ละชิ้นมันเป็นงานชิ้นเดียวในโลก วาดใหม่แต่ละทีก็ไม่เหมือนกันแล้ว ขนาดความหนา
Audemars Piguet โอเดอมาร์ ปิเกต์ สุดยอดแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องบอกเวลาชั้นสูงที่เก่าแก่ที่สุดตั้งแต่ปี 1875 จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ประดิษฐกรรมทุกชิ้นถูกผลิตขึ้นด้วยความปราณีต งดงาม และสมบูรณ์แบบ ทั้งเรือนเวลาระดับมาสเตอร์พีซ นาฬิกาสปอร์ตสุดหรู รุ่นคลาสสิคเหนือกาลเวลา อีกทั้งเรือนเวลาอันสวยงามโดดเด่นสำหรับสุภาพบุรุษที่เทียบได้กับจิลเวอรี่ล้ำค่า รวมไปถึงสุดยอดผลงานที่มีให้ครอบครองเพียงแค่ไม่กี่ชิ้นในโลก ครั้งแรกของการจัดแสดงประวัติศาสตร์เรือนเวลาครั้งยิ่งใหญ่ของ โอเดอมาร์ ปิเกต์ ส่งตรงจากเลอ บราซู สู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นิทรรศการที่บอกเล่าการเดินทางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์กว่า 143 ปี และจิตวิญญาณอันทุ่มเทต่อศาสตร์การประดิษฐ์เรือนเวลาชั้นสูงในแต่ละยุคสมัย ในงานเอ็กซ์คลูซีฟ ปาร์ตี้ ฉลองเปิดตัวนิทรรศการ “From Le Brassus to Bangkok” ในงานมีการร่วมโชว์เคสผลงานชิ้นพิเศษที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างทรงพลัง รังสรรค์ขึ้นโดย “อริญชย์ รุ่งแจ้ง” ศิลปินร่วมสมัยเชื้อสายไทย รุ่นบุกเบิกด้านศิลปะจัดวาง (installation art) เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับเกียรติร่วมงานกับโอเดอมาร์ ปิเกต์ พร้อมเปิดตัว เจ-เจตริน วรรธนะสิน ในฐานะ ‘Friend Of The Brand’ คนไทยคนแรกอย่างเป็นทางการ โดยมีเหล่าเซเลบริตี้ และโอเดอมาร์ ปิเกต์ เลิฟเวอร์ตบเท้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
“ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน ใช่ว่าจะเหมือนกัน” ถ้าไม่นับเรื่องคาแรคเตอร์ภายในที่ไม่อาจตัดสินได้ด้วยตาเปล่า สิ่งหนึ่งที่เรากล้าบอกว่าคุณสามารถใช้พิสูจน์ความแตกต่างของสไตล์ผู้ชายแบบจับต้องได้ด้วยตาเนื้อชนิดที่ต่อให้เอาชาว UNLOCKMEN มากองรวมกันเป็นกองทัพเราก็ยังแยกออก คือคาแรคเตอร์แท้ที่แฝงอยู่หลังประตูที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ ต้องเปิดมันทุกเช้า – เย็น ที่ซึ่งอุดมไปด้วยกลิ่นอิสรภาพทุกตารางนิ้ว พื้นที่ส่วนบุรุษที่เราเรียกมันว่า “MAN CAVE” สวรรค์ปลายประตูนี้คือรางวัลชีวิตที่หนุ่ม ๆ อย่างเราไขว่คว้ามาตลอด เราเลือกลงทุนคัดเอาความเป็นตัวตนสกัดออกมาเป็นของแต่ละชิ้นนำมาจัดวาง ทั้งสี ทั้งวอล์เปเปอร์ทุกอย่างมันต้องยูนีคและใช่เท่านั้น ดังนั้น การลงทุนกับรายละเอียด รีดีไซน์หรือต่อเติมจึงเป็นสิ่งสะท้อนความฝันและไลฟ์สไตล์ของพวกเราได้เป็นอย่างดี สำหรับช่วงปลายเดือนนี้ใครอยากเติมรังให้ล้ำ ลองเช็กกันดูว่าทั้งเทรนด์การแต่งถ้ำทั้ง 5 แบบที่ UNLOCKMEN คัดสรรมาต่อไปนี้ใช่สิ่งที่คุณกำลังตามหาหรือเปล่า ถ้าใช่ก็อย่ารอช้าหยิบแรงบันดาลใจมาแต่งห้องกันต่อ เพราะอยากอยู่แบบไหนต้องได้อยู่แบบนั้น! UNLOCKMEN PRESENTED: #1 MULTIPLE-SCREEN WALL ยามศึกแข้งมาเราครบ! ฤดูกาลลูกหนังระดับโลกมันมาถึงอีกแล้ว แต่ปีน้ีเทรนการนั่งดูจากทีวีจอเดียวพี่ต้องขอบาย เพราะ Urban Guys มันต้องเปิดจักระได้ครอบจักรวาลจากอาณาจักรส่วนตัว นาทีนี้จึงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการมี Multiple Screen ยกแผงติดผนังในบ้าน บอลมาก็ฉายสตั๊ดเขี่ยลูกบนพื้นหญ้าเขียวทะลุจอ LCD สะใจ แต่ถ้าหวานใจบุกบ้านก็มั่นใจได้ว่าเราพร้อมเหลือจออื่น ๆ ให้เธอได้ยิงสัญญาณ
Chemin des Tourelles “เชอแมง เด ทูเรลส์” ผลงานสุดพิเศษที่จะบ่งบอกถึงความคลาสสิก ด้วยแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์แห่ง Tissot “ทิสโซต์” ที่บอกเลยว่าสาวกนาฬิกาสไตล์คลาสสิกไม่ควรพลาด Tissot Chemin des Tourelles “ทิสโซต์ เชอแมง เด ทูเรลส์” เรือนเวลาสุดคลาสสิกจากการผสานกับดีไซน์ร่วมสมัยที่ใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด ทั้งตัวเลข เข็มนาฬิกา รวมทั้งหน้าปัดลายแพทเทิร์นก้นหอย (Clous de Paris) ที่ไม่มีไว้ครอบครอบคงไม่ได้ ตัวเรือนสแตนเลสสตีล 316L ฝาหลังเปลือย หน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อการขีดข่วนพร้อมเคลือบสารกันสะท้อน มีให้เลือกในรูปแบบที่แตกต่างกันทั้ง สายหนัง สายสแตนเลสสตีล 316L และเคลือบพีวีดีสองกษัตริย์ พร้อมตัวล็อคแบบปีกผีเสื้อ ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติที่แสตนบายได้นาน 80 ชั่วโมง และสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 5 บาร์ (50 เมตร / 165 ฟุต) พร้อมให้หนุ่ม ๆ ได้โดนกับคุณภาพ และความน่าเชื่อถือด้วยประสบการณ์กว่า
หนุ่ม ๆ UX ดีไซเนอร์ที่ต้องคำนึงถึง User อยู่เสมอ แค่นั้นมันอาจจะยังไม่พอ เราต้องรู้จักตลาด ติดตามผล ประเมินผล และทำงานร่วมกับ UI อีกด้วย หน้าที่เยอะจนเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว อาจจะมึน ๆ งง ๆ จนหลงทางไปกับอาชีพของตัวเองบ้าง UNLOCKMEN ขอพามาดู 5 TED talks เหล่านี้ จะมาเปิดไฟให้เราพอมองเห็นทางที่ชัดเจนขึ้นสำหรับงานดีไซน์ที่ต้องคำนึงถึง User อยู่เสมอ อย่าง UXD เพื่อช่วยให้เราสร้างและพัฒนา user-friendly products เจ๋ง ๆ ออกมาเพื่อโชว์กึ๋นที่มีอยู่เต็มเปี่ยมข้างในของเรา Tom Wujec มีปัญหาในการทำงานเหรอ ลองทำขนมปังอบดูสิ ลองคิดถึงวิธีการทำขนมปัง มันยุ่งเหยิง วุ่นวายใช่มั้ย ทำให้มันเป็นระเบียบแบบจริงจัง แล้วเอาไปใช้กับปัญหาของคุณ เพราะนี่คือคำแนะนำจากเขา ที่เราจะได้ฟังเป็นหลักใน TED Talk ครั้งนี้ ข้อดีคือพอมันเป็น Metaphor มันจะทำให้ไม่น่าเบื่อ และมองเห็นภาพได้ง่ายขึ้นมากกว่าการโยน ๆ คำอธิบายมาใส่เพียงอย่างเดียว