ความหล่อของ BMW X5 นั้นเราคงไม่ต้องวิจารณ์อะไรให้มากความ เพราะมันเป็นรถ SUV ขนาดใหญ่ที่ดูป๋าสุด แถมยังพกเทคโนโลยีมาเต็มเปี่ยม ทรงพลังไม่แพ้ใครบนท้องถนน ซึ่งทรง BMW เรียกมันว่า SAV หรือ Sports Activities Vehicle ซึ่งตัวแรงสุดในตระกูลนี้ต้องเป็น BMW X5 M ที่มาพร้อมขุมพลัง 570 แรงม้า ทำเวลา 0 – 100 Km/h ได้ภายใน 4 วินาที ตัวเลขที่คนทั่วไปแค่เห็นก็ถึงกับต้องเกร็งตัวดูเหมือนจะยังไม่พอใจสำนักจูนรถ Auto-Dynamics Vehicle แห่ง Poland มากนัก จึงจับมันมาทำเป็นโปรเจคพิเศษ เสกแรงม้าเพิ่มเข้าไปให้อีก 100 ตัว กลายเป็น BMW X5 M Avalanche รถ SUV ที่ทรงพลังยิ่งกว่า Lamborghini Urus ด้วยตัวเลขแรงม้ามากถึง 670 แรงม้า
ในขณะที่โลกเรากำลังถกเถียงกันว่า AI จะเป็นประโยชน์หรือโทษมหันต์กันแน่? คำตอบที่ Sun Tianqi ผู้หลงใหลในหุ่นยนต์ AI และเป็น CEO บริษัท Vincross ที่มีผลงานเด่นเป็นหุ่นยนต์แมงมุม 6 ขาอารมณ์ดีนามว่า Hexa ได้มอบคำตอบให้เราเรียบร้อยแล้วว่า มันขึ้นอยู่กับการใช้งานสิ่งเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์หรือโทษต่างหาก พร้อมหลักฐานผลงานสร้างสรรค์ในฐานะ Art Project ของตัวเองที่ตั้งชื่ออย่างตรงตัวเข้าใจง่ายว่า “Sharing Human Technology with Plants” ผลงานที่ว่าคือหุ่นยนต์ที่ใช้พื้นฐาน Hexa หุ่นยนต์ชื่อดังของบริษัท Vincross ของตัวเอง ผ่านการนำมา Reprogramming ใหม่ให้รองรับการทำงานร่วมสารพัด Sensors และ Infrared ที่ติดตั้งเข้ามาเพิ่มจาก Hexa เวอร์ชั่นปกติ สำหรับตรวจจับแสงแดด เงา และความชื้นรอบ ๆ พร้อมสิ่งสำคัญคือกระถางต้นไม้บนหัว เมื่อ Hexa รู้สึกว่าต้นไม้ขาดน้ำ จะสามารถแสดงอารมณ์ได้ด้วยการกระทืบเท้าให้เรารับรู้ว่าถึงเวลาต้องรดน้ำ หรือเมื่อต้นไม้ต้องการแสงแดด Hexa สามารถพาตัวเองไปหาแสงแดดได้เองโดยอัตโนมัติ พร้อมกับหมุนตัว 360 องศา เพื่อให้มั่นใจว่าต้นไม้จะได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึงทุกซอกทุกใบ
วันหยุดทั้งทีอะไรจะเหมาะกับผู้ชายอย่างเราไปมากกว่ากิจกรรมกลางแจ้ง ให้เราได้ออกแรง บริหารร่างกายไปพร้อม ๆ กับเสพความมันส์ในไลฟ์สไตล์เท่ ๆ การออกไปว่ายน้ำไม่ว่าจะในสระหรือทะเลจริง ๆ ก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวเหมือนกัน เพราะมันสนุกโดยที่เราไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรเยอะแยะมากมาย (รวมถึงเสื้อผ้าด้วย) แต่ UNLOCKMEN อยากจะแนะนำอุปกรณ์ ที่จะเปลี่ยนการว่ายน้ำแบบธรรมดาให้มีความมันส์ และกลายเป็นกิจกรรมเจ๋ง ๆ จนอยากจะออกไปว่ายน้ำในทุกวันหยุด CUDA JETPACK เราอาจจะคุ้นเคยกับ Jetpack ที่ทำให้เราลอยตัวขึ้นจากผิวน้ำได้เหมือนกับ Ironman แต่ว่า Jetpack ตัวนี้จะแตกต่างออกไปตรงที่เราจะได้ดำดิ่งลงไปใต้น้ำแบบมันส์ ๆ ในความเร็วที่พอดี เพราะต้องนึกถึงความถ่วงจำเพาะของแหล่งน้ำที่ต่างกันอีกด้วย แต่นั่นทำให้การดำใต้น้ำในระยะที่ไม่ลึกมากของเรา เพิ่มความสนุกมากขึ้นกว่าเดิม แถมดีไซน์และขนาดของมันยังเท่เหมือนกระเป๋า Backpack ให้เราสะพายไปกับเราได้ทุกที่ ไม่ว่าจะสระน้ำ หรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติ โดยเจ้า Jetpack ตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Archie O’Brien’s Cuda จากวัสดุ 3D Hubs หลักการของมันก็ง่าย ๆ คือการดึงเอาน้ำจากด้านหน้าเข้ามา และดันออกทางด้านหลังด้วยแรงที่มากพอที่จะทำให้เราพุ่งไปข้างหน้าได้ ประมาณ 8mph ทำให้เราโลดแล่นใต้น้ำได้แบบไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ความเร็วระดับนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังบินแต่เปลี่ยนสถานที่เป็นใต้น้ำแทน เพราะนั่นคือความตั้งใจของ Archie
ตลอดระยะเวลา 116 ปี Triumph Motorcycles ได้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์มากมายหลายรุ่นออกมาให้ผู้ที่ชอบมอไซค์ทั่วโลกได้ชื่นชม อีกทั้งยังผ่านประวัติศาสตร์ที่สำคัญในอดีตมากมาย จนทำให้ Triumph Motorcycles ได้กลายมาเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก หลายคนอาจไม่รู้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ตระกูลคลาสสิกของไทรอัมพ์ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ส่วนใหญ่ถูกผลิตขึ้นในไทยเกือบทั้งหมด ซึ่งแต่ละคันต่างก็มีคุณลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมาพร้อมสไตล์ และเอกลักษณ์อันมีเสน่ห์น่าหลงใหลตามต้นแบบอังกฤษสายพันธุ์แท้ โดยครั้งนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิกของ Triumph Motorcycles ให้มากขึ้นกันครับ Bonneville T120 & Bonneville T120 Black เริ่มต้นกันที่ “บอนเนวิลล์ ที120” (Bonneville T120) และ “บอนเนวิลล์ ที120 แบล็ค” (Bonneville T120 Black) รถมอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมสไตล์ที่ล้ำสมัยเหนือกาลเวลาและคุณลักษณะที่เป็นต้นแบบของบอนเนวิลล์แบบดั้งเดิม โดยทั้งสองรุ่นได้รับการสร้างสรรค์อย่างประณีตด้วยมาตรฐานสูงสุด ทั้งด้านการตกแต่งและคุณภาพ ผสมผสานกับความสามารถ ตลอดจนสมรรถนะที่มีความเป็นโมเดิร์นคลาสสิกอย่างแท้จริง อีกทั้งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แรงบิดสูงขนาด 1200 ซีซี ซึ่งทำงานร่วมกับเรือนปีกผีเสื้อคู่ที่งดงามในแบบฉบับดั้งเดิม นอกจากนี้ยังผสมผสานการขี่อันเป็นเอกลักษณ์ทั้งในด้านความเป็นธรรมชาติ ความคล่องตัว และความมั่นคงเข้ากับความสะดวกสบายและการควบคุมที่ดีเยี่ยม เพื่อมอบประสบการณ์ขี่อันแสนเร้าใจ Bonneville T100 & Bonneville
แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกสัญชาติอังกฤษที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานมากที่สุดในโลกอย่าง Royal Enfield แน่นอนว่าต้องมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย ล่าสุดรอยัล เอนฟิลด์ได้เปิดตัว Royal Enfield Classic 500 Pegasus รถมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น โดยได้รับ แรงบันดาลใจจากตำนานรถมอเตอร์ไซค์รุ่น RE/WD Flying Flea 125 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ฟลายอิ้ง ฟลี’ (Flying Flea) มอเตอร์ไซค์น้ำหนักเบาของอังกฤษที่ขนส่งผ่านร่มชูชีพระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกสร้างขึ้นที่โรงงานของ Royal Enfield ในเมืองเวสวู้ด สหราชอาณาจักรระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย Royal Enfield Classic 500 Pegasus สร้างขึ้นเพื่อสรรเสริญตำนานของ Flying Flea และประวัติศาสตร์ด้านการทหารของ Royal Enfield พร้อมให้ผู้ขับขี่ ชาวไทยมีโอกาสเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์แห่งประวัติศาสตร์นี้ในจำนวนจำกัดเพียง 90 คันจาก 1,000 คัน ทั่วโลก ประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Royal Enfield ที่เป็นที่น่าภาคภูมิใจเกี่ยวกับการผลิตด้านการทหาร ตรงกับสโลแกนของแบรนด์ที่ว่า ‘Made Like a
เวลาผ่านไปไวเกิน หรือหน้าตาของ Audi TT / TTS คลาสสิคล้ำสมัยเกินไป ทำให้เราเกือบลืมไปว่ามันกำลังเข้าสู่ช่วงกลางอายุขัยของ Generation ที่ 3 แล้ว และในขณะที่หลายคนกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อตอนนี้ หรือจะรอเห็นหน้าตา Facelift version ให้สบายใจก่อน ซึ่งจากแผนเดิมควรจะเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ในงาน Paris Auto Show เดือนตุลาคม แต่ดูเหมือนจะไม่ต้องรออีกต่อไปแล้ว เพราะวันนี้เราได้เห็นโฉมหน้าความเปลี่ยนแปลงของ 2018 Audi TT แบบเต็มตาไร้ผ้าคลุม ความเปลี่ยนแปลงของ Audi TT และ TTS Facelift ภายนอกที่สังเกตเห็นได้ชัดที่สุดก็คือ ดีไซน์ชุดกันชนหน้าและหลังใหม่ โดยกันชนด้านหน้าแบบ 3D singleframe radiator grille มีการเพิ่มช่องดักลมที่เชื่อมต่อกันจากด้านข้างซ้ายและขวาขนาดใหญ่เข้าไป ซึ่งของเดิมไม่มี ทำให้ด้านหน้าของ Audi TT ดูเต็มตา ใหญ่โตมากขึ้น ส่วนกันชนหลังมีการเพิ่มช่องระบายอากาศ และ Air Diffuser บริเวณท่อไอเสียเพิ่มขึ้น สำหรับล้อลายใหม่นั้น เราคิดว่า Audi Thailand
พอล สมิธ ร่วมมือกับ นิวบาลานซ์ เพื่อสร้างสรรค์แคปซูล คอลเลคชั่น ในรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น สำหรับรองเท้าสตั๊ด รองเท้ากีฬา และลูกฟุตบอล ในช่วงฤดูกาลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ ณ ประเทศรัสเซีย การร่วมมือกันในครั้งนี้ ได้นำเอาดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงชาวอังกฤษ ร่วมมือกับบริษัทรองเท้าสัญชาติอเมริกัน เพื่อสร้างสรรค์สินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ ที่รวบรวมเอาความเป็นต้นแบบและความทันสมัยไว้ด้วยกัน ด้วยเทคนิคการผลิตอันก้าวล้ำจากนิวบาลานซ์ จับคู่กับความโดดเด่นในการใช้สีและกราฟฟิคลายทางของ พอล สมิธ ดาวเด่นของการร่วมมือกันในครั้งนี้ อยู่ที่รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นของรองเท้าสตั๊ด New Balance x Paul Smith MiUK-One ที่ด้านบนของรองเท้าทำจากหนังจิงโจ้ เนื้อนุ่ม พร้อมลายทางอันเป็นเอกลักษณ์ของ พอล สมิธ บนพื้นด้านในของรองเท้า ลิ้นรองเท้า และส่วนที่ป้องกันส้นรองเท้า รองเท้าสตั๊ดรุ่น MiUK-One ถือเป็นรองเท้าสตั๊ดรุ่นแรกของนิวบาลานซ์ ที่ผลิตขึ้นที่โรงงาน ของบริษัทในเมืองฟลิมบี มณฑลคัมเบรีย จึงยิ่งทำให้เป็นไอเท็มชิ้นเด่นสำหรับนักสะสม รองเท้าสตั๊ดรุ่น MiUK-One ได้รับการขนานนามจากนิวบาลานซ์ ว่าเป็นรองเท้าสตั๊ดคลาสสิกที่มาพร้อมความทันสมัย
ตื่นนอน หลังกินข้าว เข้าห้องน้ำ หลังจบกิจกรรมบนเตียงให้คีย์เวิร์ดมาแค่นี้ผู้ชายอย่างเราก็พอจะรู้แล้วว่ามันคือเวลาที่ผู้ชายอยากจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสักมวน ให้ปอดได้ลิ้มรสกลิ่นควันที่อบอวลเมื่อพ่นออกมา สำหรับคนที่ดูดบุหรี่ มันแทบจะอยู่เป็นของคู่กายแบบ 24/7 บางคนอาจจะใช้เป็นไฟแช็กบ้าง ซิปโป้บ้าง หรือจะเป็นแบบ USB เอาไว้พกเป็น Gadgets เท่ ๆ ก็มี แต่สิ่งที่ทุกคนคุ้นตาที่สุดคงจะเป็นไฟแช็กใช้แล้วทิ้งอันละไม่กี่บาท แต่ในเมื่อมันเป็นของที่เราใช้ออกจะบ่อย ทำไมเราถึงไม่เลือกใช้แบบที่ตีบวกความเท่ให้เราได้ด้วยล่ะ UNLOCKMEN อยากให้หนุ่ม ๆ ได้ลองดู THE LIGHTER จาก “KNNOX” ดีไซน์สุดเจ๋ง ชวนให้เราอยากจะหยิบมันขึ้นมาจุดบุหรี่แทบทุกชั่วโมง ปกติแล้วเราคงจะเคยชินกับไฟแช็กเอื้ออาทร ยืมเพื่อน เพื่อนยืม จนรู้สึกว่ามันคือสิ่งที่ซื้อมาหายไป ซื้อใหม่ได้อีกตลอด เพราะราคาถูก และดีไซน์เบสิก ๆ ที่เราคุ้นชินมาตั้งแต่เด็ก ดีไซน์ของมันไม่เคยทันสมัยตามเวลาเลย เท่ขึ้นมาหน่อยก็เป็นซิปโป้ที่มีลวดลายให้เลือกมากขึ้นกว่าไฟแช็กอันจิ๋วนั่น เราอยากให้ลืมภาพจำการจุดบุหรี่แบบเดิม ๆ ทิ้งไป จะดีแค่ไหนที่เราจะรู้สึกเท่ทุกครั้งที่หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด เวลาแค่ไม่กี่วินาทีก็สามารถเติมออร่าให้เราได้แบบไม่ต้องพยายามอะไร แค่หยิบ Gadget เท่ ๆ ขึ้นมาสักชิ้นอย่าง THE LIGHTER จาก “KNNOX”
มีภาพยนตร์มากมายที่ใช้รถเป็นตัวหลักของเรื่อง จนทำให้รถคันนั้นดูเด่นพอ ๆ กับนักแสดงนำของเรื่องเสียอีก แม้ว่าปัจจัยหลักส่วนใหญ่เวลาค่ายหนังจะเลือกใช้รถซักคันมักมาจากสปอนเซอร์ แต่ทว่าหนึ่งในยี่ห้อรถที่ถูกนำมาใช้ค่อนข้างมากคือแบรนด์สุดเก๋าอย่าง Ford อาจเพราะพวกเขามีรถให้เลือกใช้หลายประเภทตั้งแต่รถสปอร์ตยันรถกระบะคันใหญ่ ซึ่งส่วนมากหนังจากฮอลลีวูด มักจะเลือกรุ่นสปอร์ตอเมริกันยอดนิยมอย่าง Mustang ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำรถ Ford 5 คันที่ถูกเลือกนำไปใช้ประกอบหนังจนโด่งดังเป็นพลุแตกให้ได้รับชมกันครับ 1968 Ford Mustang Fastback – BULLITT เริ่มคันแรกกับ 1968 Ford Mustang Fastback สีเขียวเข้ม Dark Highland Green จากหนังไล่ล่าชื่อดังระดับตำนานอย่าง BULLITT ที่นำแสดงโดย Steve McQueen นักแสดงชื่อดังผู้ล่วงลับ ว่าด้วยเรื่องของตัวเอก Frank Bullitt นายตำรวจแห่งเมืองซานฟรานซิสโกผู้ถูกมอบหมายให้คุ้มครองพยานปากเอกคนสำคัญ ซึ่งจะต้องขึ้นให้การกับศาลในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่งานกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อ Bullitt ค้นพบว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลกับพยานคนนี้ โดย Bullitt ก็ได้ใช้รถ Mustang Fastback ปี 1968 สีเขียวเข้มคันนี้เป็นรถประจำตัวเองอีกด้วย และจุดเด่นของเรื่องนี้คือฉากไล่ล่าระดับตำนานซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังรถยุคใหม่
ผู้ชายและของเล่นเป็นอะไรที่มาคู่กันแบบขาดไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน ผู้ชายอย่างเรามักจะหาของเล่นเท่ ๆ ที่เหมาะกับตัวเองในตอนนั้นอยู่เสมอ ตอนเด็กก็คงจะเป็นเลโก้ หุ่นยนต์ ของเล่น RC โตขึ้นมาสู่วัยรุ่นเลือดร้อน คงไม่พ้นเกมในสารพัด Platform พอเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว อะไรจะดีไปกว่ารถเท่ ๆ คู่ใจสักคัน แต่มันจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถเอาความทรงจำวัยเด็กที่เราคิดถึงอย่าง LEGO มารวมกับรถเท่ ๆ สักคันที่เป็นของเล่นวัยหนุ่มในตอนนี้ได้ มันไม่ใช่แค่ความคิดสนุก ๆ ของผู้ชายอีกต่อไป เมื่อ LEGO ให้เราได้ประกอบรถเองตั้งแต่ต้นจนจบทั้งคัน เป็นงานคราฟต์เท่ ๆ ให้ตัวเองหนึ่งชิ้น UNLOCKMEN จะพามาแกะกล่องดูของเล่นสุดเจ๋งตัวนี้กัน LEGO TECHNIC Bugatti Chiron! มาสัมผัสประสบการณ์ที่ให้สวมวิญญาณช่างคนเก่งที่ประกอบรถเองด้วยสองมือกับ LEGO® Technic™ 42083 Bugatti Chiron โมเดลสุดพิเศษนี้ถูกพัฒนาจาก Bugatti Automobiles S.A.S ที่ยังคงเอกอักษณ์ที่สำคัญของ Super Sports Car เอาไว้ด้วย ส่วนบอดี้นั้นยังใส่รายละเอียดมาแบบไม่ตกหล่น ไม่ว่าจะเป็น Aerodynamic ยัน
ใครจะไปคิดว่าเดี๋ยวนี้ดราม่าจะแฝงตัวอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ของสะสมอย่างฟิกเกอร์หน้าตาเป็นมิตร ล่าสุด FUNKO POP DOLLS ที่ทำของสะสมจากสื่อบันเทิงมาแทบจะทุกแขนง ได้เตรียมออกคอลเลคชั่นใหม่ให้แฟน ๆ แนว POP-PUNK ได้ชื่นใจอย่าง BLINK-182 ซึ่งมันเกือบจะดีอยู่แล้วเชียว แต่ว่าทาง FUNKO กลับเลือกสมาชิกของทางวงมาทำแค่สองคนเท่านั้น ทั้งที่ใช้ชื่อ BLINK-182 จนแฟน ๆ คิดว่าจะได้เห็นแบบเต็มวงซะอีก เรื่องราวมันเป็งไงมาไง และเหตุผลว่าทำไม FUNKO ถึงทำแบบนี้ UNLOCKMEN จะมาเล่าให้ฟัง About Funko Funko เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตของสะสม โดยเฉพาะแนว Pop Culture ที่ออกมาในรูปแบบของ Character Figure หน้าตาเป็นมิตร ไม่ว่าจะเป็นวงการภาพยนตร์ ดนตรี เกม เขาก็สามารถดึง Character จากสิ่งนั้นออกมาเป็นสินค้า และที่สำคัญคือขายดีซะด้วยสิ ซึ่งก็เป็นไปตาม Motto ของเขานั่นแหละ ที่ว่า “Everyone is a fan of something.” ด้วยวิสัยทัศน์ที่เฉียบขาดตั้งแต่ Motto ทำให้เขามองเห็นว่าตลาดของความชอบ
เป็นความบังเอิญที่สวยงาม เมื่อป้าย GT-R และสำนักออกแบบ Italdesign มีอายุครบ 50 ปี พร้อมกันพอดิบพอดี เพื่อเป็นการสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน ทั้งสองบริษัทจึงคิดว่าน่าจะสร้างผลงาน Masterpiece ขึ้นมาสักชิ้นนึง และรถโมเดลที่เหมาะจะนำมาปั้นเฉลิมฉลองครั้งนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก NISMO GT-R กลายเป็นผลงาน Collaboration ที่โหดสุดในชื่อรหัส Nissan GT-R50 by Italdesign Nissan GT-R50 by Italdesign ถูกสร้างขึ้นมาแบบ One-off เพียงคันเดียวในโลก Italdesign ได้ทำการออกแบบ GT-R ขึ้นมาใหม่ โดยใช้พื้นฐานจากความเป็น Iconic ของ GT-R ดั้งเดิมเอาไว้จะเหมาะสมกว่า รถคันนี้ถูกนำเสนอในโทนสีเทาใหม่ “Liquid Kinetic Gray” ที่ดูดุดันน่าเกรงขาม ตัดลวดลายด้วยโทนสีทอง “Energetic Sigma Gold” สร้างคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจ นำเสนออารมณ์ได้ทั้งความเก๋า ความดุ และความหรูหราที่ลงตัว ลวดลายสีทองถูกเติมเข้าไปในตำแหน่งที่เหมาะเจาะมาก เริ่มจากกระจังด้านหน้าบริเวณช่องดักอากาศ ช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงมีการเจาะรูที่ชัดเจนขึ้นในโทนสีทองเช่นกัน