MacBook Pro ใหม่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และรองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 96GB สำหรับเวิร์กโฟลว์หนักๆ ระดับโปร Apple ประกาศเปิดตัว MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว ใหม่ที่มาพร้อมซิลิคอนระดับโปรเจเนอเรชั่นถัดไปของ Apple อย่างชิป M2 Pro และ M2 Max ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพที่ยังคงประหยัดพลังงานและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้ใช้ระดับโปร ชิป M2 Pro และ M2 Max ซึ่งเป็นชิปที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานที่สุดในโลกสำหรับแล็ปท็อประดับโปร ช่วยให้ MacBook Pro สามารถจัดการกับงานหนักๆ อย่างการเรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ได้เร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และปรับแก้สีได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า ประสิทธิภาพของ
“ถ้าเขาคือพนักงาน จะเป็นพนักงานร่างทอง นี่คือ 6 เหตุผลที่ทุกบริษัท อยากได้คนทำงานอย่าง Casemiro มาร่วมทีม” ฟอร์มกำลังร้อนแรงจริง ๆ สำหรับทัพปีศาจแดง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่เพิ่งล้มทีมเรือใบสีฟ้า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 เป็นการล้างแค้นหลังจากที่แพ้ในนัดแรกได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังส่งผลให้ทีมเก็บชัยชนะมา 7 นัดติดต่อกันแล้วในศึกพรีเมียร์ลีก และสามารถทำคะแนนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4 อยู่ที่ 38 คะแนน และทำคะแนนจี้แมนซิตี้ อันดับ 2 อยู่ที่ 1 คะแนนเท่านั้น ต้องยอมรับว่าผลงานของทีมแมนยูไนเต็ด ดูดีผิดหูผิดตานับตั้งแต่การเข้ามาคุมทีมของ Erik Ten Hag กุนซือชาวดัตช์ที่เข้ามาเซตระบบภายในใหม่ จนทุกอย่างลงตัวแบบที่ไม่ได้เห็นในทีมมานานหลายปี อีกทั้งยังช่วยปลุกทีมเวิร์ก ปลุกฟอร์มนักเตะหลายคนที่เคยออกทะเลให้กลับมาเป็นร่างทองอีกครั้งด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการเลือกซื้อตัวนักเตะก็เป็นไปในแนวทางที่ชาญฉลาด เพราะแต่ละคนที่ย้ายเข้ามาล้วนแต่ทำงานได้เป็นอย่างดี รู้สึกคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไป ซึ่งหนึ่งในดีลที่ประทับใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “Casemiro” มิดฟิลด์พันธุ์แกร่งเลือดแซมบ้า ฝีเท้าขั้นเวิร์ลคลาส ที่ย้ายมาจากสโมสรเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 70 ล้านปอนด์ แม้ในช่วงปรับตัวอาจจะตะกุกตะกักไปบ้าง แต่หลังจากตั้งหลักได้
ในงาน 2023 Tokyo Auto Salon ยังมีอีกไฮไลท์สำหรับแฟนดาวลูกไก่ที่รอคอยตัวแรงรหัส STI นั่นคือการเปิดตัว Subaru Lavorg STI Sport # แม้จะไม่ใช่ตัว STI แต่กำเนิดแท้ ๆ ที่ถูกแช่แข็งไปนานเกือบสิบปี แต่โมเดลที่เห็นอยู่นี้ก็ถือว่าเป็น STI Wagon ที่ใกล้เคียงจิตวิญญาณ rally มากสุดเท่าที่เคยมีมา ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 500 คัน ขายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นแบบ JDM แท้ ๆ แต่สำหรับแฟนบ้างเราก็คงหาชุดแต่งได้ไม่ยาก เพราะมันตกแต่งบนพื้นฐานของ second-gen Levorg wagon เสริมด้วยอุปกรณ์ของแต่งเสริมมากมาย ทั้ง STI performance parts และผ่านการ tuning เพื่อให้ขับได้สนุกมากขึ้น เครื่องยนต์ความจุ 2.4-liter turbocharged Boxer จาก Subaru WRX ให้กำลัง 271 hp 277
แล้วระยะเวลา 3 ปีของโปรเจกต์ดัดแปลงหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของโลกชื่อ The Last Of Us ระหว่าง HBO กับ Naughty Dog ก็จบลงเสียที ถ้าจะบอกว่านี่คือหนึ่งในซีรีส์ซึ่งดัดแปลงจากวิดีโอเกมที่มีแฟนคลับรอคอยมากที่สุดครั้งหนึ่งของโลกก็ไม่ผิดเลย เพราะตลอด 10 ปีของ The Last Of Us นั้น ไม่เคยเป็นเส้นทางที่ใช้คำว่า ‘กลาง ๆ’ ได้สักครั้ง นี่คือเกมที่มีผู้เล่นทุกรูปแบบ เกลียดมาก / ชอบมาก / เกลียดระบบการเล่นชอบเนื้อเรื่อง / เกลียดเนื้อเรื่องชอบระบบการเล่น และเป็นการที่ผู้คนจำนวนมากออกมาถกเถียงในประเด็นต่าง ๆ มากมายแม้ว่าเกมจะจบไปตั้งแต่ปี 2020 พร้อมรางวัล Game Of The Year ประจำปีไปแล้วก็ตาม ในฐานะที่เป็นนักเขียนของ UNLOCKMEN และแฟนคลับเดนตายคนหนึ่งของ The Last Of Us ถึงขนาดว่าเล่นเกมนี้จบแล้วไม่สามารถหาเกมที่ดีกว่ามาเล่นได้อยู่พักใหญ่ เราจะขอพูดถึงเวอร์ชั่นซีรีส์ที่เพิ่งปล่อยตอน Pilot
ประเดิมเปิดปี 2023 แนะนำโมเดล V-Class รุ่นล่าสุดอย่าง Mercedes-Benz V 250 d Exclusive รถแวนอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ระดับเฟิร์สคลาส โดยโมเดลนี้ถูกผลิตและนำเข้า (CBU) มาจากโรงงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในเมืองบิโตเรีย-กัสเตอิซ (Vitoria-Gasteiz) ประเทศสเปน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถแวนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก โดยในรุ่น Exclusive ที่เป็นโมเดลโฉมปี 2023 จะได้รับการตกแต่งในสไตล์ Avantgarde และมีการออกแบบขนาดตัวถังแบบ Extra Long พร้อมกับเครื่องยนตร์ดีเซล 2.0 ลิตรเทอร์โบรหัสใหม่ และระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC PLUS ทำให้ Mercedes-Benz V 250 d Exclusive เป็นรถประเภทแวนในระดับเฟิร์สคลาสที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งความสะดวกสบายและความคล่องตัวในการขับขี่ Mercedes-Benz V 250 d Exclusive เป็นรถแวนแบบ 3 ตอน 7 ที่นั่ง
ในบรรดาวงร็อกจากฝั่งอเมริกาที่ทำผลงานได้อย่างน่าจดจำในช่วงปลายยุค 90’s จนถึงปี 2000’s หนึ่งในลิสต์หลายชื่อของใครหลายคนจะต้องมีวง Incubus เป็นวงโปรดด้วยอย่างแน่นอน วงดนตรีที่นำเอาซาวด์อันหลากหลายมาผสมผสานจนเกิดเป็นชิ้นงานศิลปะทางดนตรี ไม่ว่าจะเป็นร็อก, นูเมทัล, ฮิปฮอป, ฟังก์ หรือเรกเก้ เป็นต้น อีกทั้งพวกเขายังเป็นวงที่มีฟรอนต์แมนหน้าตาหล่อไม่แพ้บอยแบนด์อย่าง Brandon Boyd จึงไม่น่าแปลกใจที่ชื่อของวง Incubus จะได้รับความสนใจในช่วงเวลานั้น วง Incubus เริ่มก่อตั้งกันตั้งแต่ในปี 1991 โดย 3 สมาชิกดั้งเดิมได้แก่ Bradon Boyd, Mike Einziger (กีตาร์) Alex Katunich (เบส) และ José Pasillas (กลอง) โดยพวกเขาทั้งหมดไปเจอกันในโรงเรียน Calabasas High School หลังจากนั้นก็ Gavin Koppel หรือ “DJ Lyfe” มารับหน้าที่มือเทิร์นเทเบิ้ลให้กับทางวง (แต่ก็อยู่กับวงได้ไม่นานเพราะลาออกไปในปี 1998 และถูกแทนที่โดย Chris Kilmore มาจนถึงปัจจุบัน) พวกเขาค่อย
ต่อเนื่องจากบทความ 12 ผลงานร็อกสุดคลาสสิคในช่วงปี 2000-2005 จากค่ายยักษ์ใหญ่ย่านอโศก วันนี้เรามาเจาะกันที่ช่วงปี 2006-2010 ว่ามีอัลบั้มอะไรที่โดดเด่นในช่วงนั้นบ้าง ซึ่งทาง Unlockmen ก็รวบรวมมาให้ทั้งหมด 8 ผลงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ RETROSPECT “UNLEASHED” (2007) ในช่วงกลาง-ปลายยุค 2000’s คงไม่มีวงไหนโดดเด่นเท่ากับ Retrospect อีกแล้ว พวกเขาสถาปนาจากวงใต้ดินให้กลายเป็นวงร็อกระดับหัวแถวของประเทศจากอัลบั้มแรก “Unleashed” ที่มีพื้นฐานจากดนตรีสไตล์เมทัลคอร์ที่ถูกปรับจูนให้ฟังง่ายขึ้น จนเกิดเพลงฮิตแบบถล่มทลาย ไม่ว่าจะเป็น “เพราะว่ารัก”, “ปล่อยฉัน”, “ความฝันของเรา”, “สุดที่รัก” และ “ให้ฉันลืมเธอ” เป็นต้น เอาจริง ๆ ทุกเพลงในอัลบั้มนี้ฮิตทุกเพลง นอกจากความสำเร็จด้านดนตรี ด้านผู้นำแฟชั่นพวกเขาก็ชนะเลิศจากการแต่งตัวของ “แน็ป” ที่มาพร้อมกับเสื้อเชิร์ตลายสกอต, การปัดผมสไตล์อีโม รวมไปถึงการเจาะสักตามร่างกาย ทำให้ในช่วงนั้นเราได้เห็นวัยรุ่นแต่งตัวตามกันเต็มทั่วบ้านทั่วเมือง จนทำให้ทางงวงต้องเรียกแฟนเพลงเหล่านี้ว่า “เรทโทรเรี่ยน” แถมแน็ปยังโดนข่าวลือปั่นกระแสว่าเจ้าตัวเป็นผู้หญิงผ่าตัดกล่องเสียงมาร้องเพลงแทนพี่ชายอีก ยิ่งทำให้ชื่อวง Retrospect เป็นที่พูดถึงมากยิ่งขึ้น ถึงแม้เรื่องดังกล่าวจะเป็นการมโนขึ้นมาของใครซักคนก็ตาม SWEET MULLET “LIGHT HEAVYWEIGHT”
ว่าด้วยเรื่องของ ‘กลิ่น’ แทบทุกคนคงเคยได้ยิน ได้รับรู้ถึงความสำคัญของกลิ่นที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ ความรู้สึกของมนุษย์ในด้านต่าง ๆ รวมถึงกลิ่นกายก็เช่นกัน เพราะการมีกลิ่นกายสะอาดไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์ จะขยับตัวทำอะไรก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นต้นตอแห่งมลพิษทางกลิ่นที่รบกวนคนรอบข้าง และแน่นอนว่ากลิ่นกายที่ดีมันส่งผลโดยตรงต่อการสร้างความมั่นใจได้เต็มที่ หากพกความมั่นใจเอาไว้เต็มร้อยตั้งแต่ออกจากบ้าน ระหว่างที่พบปะผู้คนในแต่ละวันมันก็พร้อมต่อยอดไปสู่โอกาสดี ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องความรัก หรืออะไรก็ตาม หากเริ่มต้นด้วยความมั่นใจยังไงก็เป็นต่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีกลิ่นกายที่ดีแม้จะฟังดูไม่ยาก แต่มันก็ไม่ได้เรียบง่ายแค่อาบน้ำให้สะอาด หาน้ำหอมดี ๆ มาใช้แล้วจบไป เพราะยังมีหลายปัจจัยที่พร้อมสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยเราเองแทบไม่รู้ตัว หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีผู้กล้าเข้ามาทัก จนต้องรู้สึกช็อตฟีลเสียหลัก หมดความมั่นใจไปไม่ใช่น้อย ซึ่งในวันนี้ปัญหาเรื่องกลิ่นที่หลบซ่อนอยู่กำลังจะหมดไป เพราะเราจะพาไปรู้จักกับปัญหาหลักของกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ที่หลายคนมองข้าม หรือด้วยความเคยชินอาจทำให้ไม่ได้รับรู้ถึงกลิ่นกวนใจเหล่านี้ พร้อมปิดท้ายด้วยวิธีแก้ปัญหาแบบอยู่หมัดด้วย MARO BODY & FACE Cleansing Soap เจลอาบน้ำนวัตกรรมใหม่จากญี่ปุ่น ช่วยล็อกกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ให้สลายกลายเป็นศูนย์ ขวดเดียวใช้ได้ทั้งร่างกายและใบหน้า กลิ่นกายจากของกิน: ก่อนจะเข้าสู่วิธีแก้ เราขอไล่เรียงต้นตอของปัญหาไปทีละสเต็ป เริ่มต้นด้วยกลิ่นกายที่มาจากอาหารการกิน หลายคนอาจเข้าใจว่ากลิ่นมาจากเหงื่อ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเหงื่อเพียว ๆ นั้นแทบไม่มีกลิ่น แต่แบคทีเรียซึ่งทำให้เหงื่อกลายเป็นกรดไขมันนั่นแหละตัวการทำให้เกิดปัญหากลิ่นกายกวนใจ นอกจากนี้อาหารจานโปรดของหนุ่ม ๆ ชาวไทยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเนื้อสัตว์บางชนิด หรือเครื่องเทศกลิ่นแรงรสจัด
“โพสต์กรันจ์” หรือที่ใครหลายคนเรียกกันติดปากว่า “อเมริกันร็อก” ซึ่งพื้นเพทางดนตรีมันก็มาจากดนตรีกรันจ์ออริจินัลแบบที่เราได้ฟังกันจากวง Nirvana หรือ Pearl Jam แต่หลังจากมันได้รับความนิยมแบสุดขีด จึงไม่แปลกที่กรันจ์จะได้สร้างอิทธิพลและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นถัดมา ทำให้กรันจ์เกิดวิวัฒนการที่ผ่านการปรุงแต่งให้ฟังง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก จนสามารถกลายเป็นดนตรีกระแสหลักหรือเมนสตรีมที่ใคร ๆ ก็ฟังได้ แถมยังมีเนื้อหาที่ไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตที่ชวนซีเรียส แต่นำเสนอเนื้อหารัก ๆ ใคร่ ๆ ซะเป็นส่วนมาก “โพสต์กรันจ์” ขยายอิทธิพลในช่วงปลายยุค 90’s ลากยาวจะไปถึงปลายยุค 2000’s เลยทีเดียว แต่ช่วงพีคที่สุดคงหนีไม่พ้นต้น 2000’s ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่กระแสดนตรีนูเมทัลได้รับความนิยมนั่นเอง อย่างไรก็ตาม “โพสต์กรันจ์” ในช่วงนั้นได้รับกระแสต่อต้านไม่น้อย เพราะหลาย ๆ คนดันไปตีตราว่าวงพวกนี้คือ “ร็อกของปลอม” (ทั้ง ๆ ที่ซาวด์มีความหนักหน่วงที่หาฟังไม่ได้ง่าย ๆ จากคลื่นวิทยุในยุคปัจจุบัน) ถึงแม้จะโดนแขวะ โดนเหยียด แต่มันก็ไม่อาจจะหยุดยั้งความสำเร็จของบรรดาวงสายโพสต์กรันจ์ได้เลย ด้วยเหตุนี้เราจึงรวบรวม 10 เพลงฮิตของวงโพสต์กรันจ์มาฝากทุกคนกันครับ “HOW YOU REMIND ME” NICKELBACK วงโพสต์กรันจ์จากประเทศแคนาดาที่ข้ามประเทศมาประสบความสำเร็จในอเมริกา จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ผลงานชุดแรกของ Nickelback คือ