วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายนนี้ ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ระหว่างฝั่งสีฟ้า “Manchester City” และฝั่งสีแดง “Manchester United” กำลังจะเริ่มขึ้นเป็นนัดแรกของฤดูกาล ซึ่งต้องบอกเลยว่าคู่นี้เจอกันทีไรมันส์หยดทุกที เพราะมันคือเกมแห่งศักดิ์ศรีของเมืองแมนเชสเตอร์โดยแท้จริง เท่านั้นยังไม่พอด้วยสถานการณ์ของทั้ง 2 ทีมตอนนี้อยู่ในช่วงฟอร์มดีทั้งคู่ โดยฝั่งเจ้าบ้านเรือใบสีฟ้าอยู่อันดับ 2 มี 17 คะแนน จากผลงานชนะ 5 เสมอ 2 และยังไม่แพ้ใคร ส่วนฝั่งทีมเยือนปีศาจแดงอยู่อันดับ 5 มี 12 คะแนน จากผลงานชนะ 4 แพ้ 2 และแข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด มองจากภาพรวมฝั่งของ Manchester City ดูจะน่ากลัวกว่า โดยเฉพาะฝั่งเกมรุกที่มี Erling Haaland กองหน้าเลือดไวกิ้งยืนค้ำแดนหน้า ซึ่งเจ้าตัวยิงเฉพาะในลีกไปแล้วถึง 11 ประตู นำโด่งเป็นดาวซัลโวแบบเท่ ๆ แถมยังมี Kevin De Bruyne เพลย์เมเกอร์ตัวเก่งที่พร้อมจะแอสซิสต์เทพ
ปัจจุบันดนตรีร็อกและเมทัลในบ้านเราเติบโตขึ้นมามาก เราได้เห็นวงมากหน้าหลายตาที่ได้โอกาสก้าวข้ามพรมแดนไปเล่นยังต่างประเทศมาแล้วมากมาย เช่นวง Annalynn, Whispers, Retrospect, Sweet Mullet, Defying Decay เป็นต้น กล่าวมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะไม่ใช่คุ้นชื่อหลาย ๆ วง ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นวงนอกกระแส หรือที่เรียกกันว่า ‘วงการอันเดอร์กราวน์’ นั่นเอง วงการที่อุดมไปด้วยเพลงอันหนักหน่วง รุนแรง และทุกคนต่างต้องต่อสู้บนเส้นทางที่รายรับติดลบ รายจ่ายตีบวก เรียกได้ว่าใช้แพชชั่นขับเคลื่อนล้วน ๆ และ ‘วงการอันเดอร์กราวน์’ บ้านเราจริง ๆ แล้วเริ่มมีรากฐานมาตั้งแต่ช่วงปลายยุค 80’s แล้ว ว่ากันว่าอัลบั้ม “ฆาตกัญชา” ของวง Flesh And Skin (เนื้อกับหนัง) ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 1984 คือผลงานบุกเบิกวงการอันเดอร์กราวน์โดยแท้จริง ผลงานของพวกเขานำเสนอแนวทางเฮฟวี่เมทัลอันเข้มข้น แหวกแนวกว่าวงในยุคนั้นทั้งหมดทั้งปวง หลังจากนั้นดูเหมือนว่าวงการเฮฟวี่เมทัลในบ้านเราก็คึกคักขึ้นมา เมื่อค่ายเมนสตรีม หรือค่ายระดับรองต่างหันมาจับจ้องปลุกปั้นแนวนี้กัน ทำให้เราได้เห็นผลงานของวงหิน เหล็ก ไฟ, The Olarn Project,
แม้ว่าดนตรีสายหนักหน่วงอย่างเมทัลจะไม่ได้รับความนิยมในบ้านเรา และมีแฟนเพลงเฉพาะกลุ่มในจำนวนที่ไม่มาก ทำให้การขายงานโชว์ให้ได้อย่างวงปกติทั่วไปบนท้องตลาดก็ยากตามไปด้วย นั่นทำให้รายรับของคนที่เล่นดนตรีแนวนี้ไม่มีทางหาเลี้ยงชีวิตได้เพียงพอแน่นอน แม้อุปสรรคที่ขวางจะใหญ่โตมากนัก แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ศิลปินที่ไม่เคยท้อแท้ แถมยังคอยพัฒนาฝีมือ ต่อยอดคุณภาพ จนกล้าพูดได้เต็มปากว่าสามารถฟัดกับวงต่างประเทศได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งวงที่ทำให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนมากที่สุดคงต้องยกให้ Annalynn! BASED ON NU METAL Annalynn มีจุดเริ่มต้นวงตั้งแต่ปี 2003 หรือกว่า 19 ปีที่แล้ว การรวมตัวในตอนนั้นคือการลุยประกวดดนตรีที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งนำโดย 2 สมาชิกหลักที่อยู่มาถึงปัจจุบันนั่นคือ “บอน” (ร้องนำ) และ “เอก” (เบส) โดยช่วงแรกพวกเขานำเสนอสไตล์ดนตรีนูเมทัล ที่เป็นที่นิยม ณ เวลานั้น โดยมีวง Deftones ที่เปรียบเสมือไอดอลและแรงบันดาลใจ หลังจากที่ได้ข้อตกลงว่าต้องการทำเพลงอย่างจริงจัง Annalynn จึงได้ผลิตผลงานเพลงเป็นของตัวเอง และต่อยอดกลายเป็น “EP.First Shut Up, Then Shut Down” ออกมาในปี 2004 รวมไปถึงในช่วงแรกพวกเขาได้มีโอกาสทำงานกับค่าย Sexy Pink
เคยสังเกตุมั้ยครับ สำหรับผู้ชื่นชอบความกลัวและกลิ่นคาวเลือดทั้งหลาย ทำไมถึงตื่นเต้นกันเสมอเมื่อฟังเรื่องราวของคดีฆาตกรรม ดูหนังที่มีฆาตกรต่อเนื่อง หรือติดซีรีส์สืบสวนสอบสวนอย่างเอาเป็นเอาตาย เรื่องนี้วิทยาศาสตร์มีคำตอบให้ แต่ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเราไม่ได้เชิดชูการฆาตกรรมว่าเป็นสิ่งสวยงามแต่อย่างใด และเราเข้าใจดีว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงเหล่านั้น มีความสูญเสีย และมีผู้ได้รับผลกระทบ แต่เพราะความสนใจของมนุษย์นั้นมีหลากหลายแบบ เราจึงอยากมาคุยเหตุผลของความสนใจนี้มากกว่า UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปดูหลากเหตุผลนา ๆ ที่คดีฆาตกรรมอยู่ในความสนใจของมนุษย์มาโดยตลอด ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องของความเป็นความตายซึ่งเกิดขึ้นใกล้ตัวเรามากที่สุด พร้อมกับชี้เป้ารายการคดีฆาตกรรมในยุคสมัยใหม่ ให้คนที่ชื่นชอบได้ติดตามฟังกันด้วย เพราะความเป็นนักล่าในตัวเราเรียกร้อง เหตุผลของความหลงใหลในเรื่องราว True Crime หรือ Murder Story ของมนุษย์นั้น ถูกนักจิตวิทยาเชิงวิวัฒนาการ (Evolutionary Psychologists) ให้คำอธิบายเอาไว้ว่า มันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มสถาปนาตัวเองเป็น ‘นักล่า’ ในหมู่สัตว์ด้วยกันในยุคดึกดำบรรพ์แล้ว การฆาตกรรม การข่มขืน การโจรกรรม มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่ช่วงโบราณกาล เรียกว่าในแง่หนึ่งมันคือ ‘เรื่องธรรมชาติ’ เพราะเราต้องปรับตัวให้เข้ากับความรุนแรงเหล่านี้ และหาเหตุผลของที่มาที่ไปของคดีฆาตกรรมเหล่านั้น เพื่อที่เราจะได้ปกป้องตัวเองและครอบครัวได้ดีที่สุดด้วย งานวิจัยในปี 2010 ของ University of Illinois พบสิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมในเรื่องนี้ ‘ผู้หญิง’ มักเป็นเพศที่สนใจในเรื่องราวอาชญากรรมมากกว่าผู้ชาย! และผู้หญิงสนใจ
* Spoil Alert : บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญของเรื่อง Cyberpunk Edgerunners * เรื่องย่อ : ในโลกอนาคตที่เทคโนโลยีล้ำหน้าไปไกล ‘เดวิด’ เด็กหนุ่มผู้เสียแม่ไปในอุบัติเหตุ ต้องใช้ชีวิตตัวคนเดียวแบบไร้จุดหมาย และโลกห่วย ๆ ใบนี้ก็ย่ำยีเขาให้หนักกว่าเดิม จนเปลี่ยนเดวิดให้กลายเป็นคนที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็น เขาสวม Sandevistan อุปกรณ์ไซเบอร์ประสิทธิภาพสูงติดตั้งให้ตัวเอง และได้มาอยู่กับกลุ่มคนที่เรียกว่า Cyberpunk ทำงานทุจริต เพื่อโค่นล้มบริษัทนายทุนผลิตอาวุธที่ชื่อ Arasaka ผู้เป็นนายทุนใหญ่ของเมือง Night City ที่นั่น เดวิดได้เจอกับ ‘ลูซี่’ และเขาก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายอีกครั้งนึง ใครดู Cyberpunk Edgerunners กันแล้วบ้าง เช็ดน้ำตาที่ไหลกันหมดรึยัง ไม่ต้องแปลกใจตัวเองที่ยังไม่ Move On นะ เพราะเราก็ยังทำไม่ได้เหมือนกัน ฮือออ ใครยังไม่ดูขอชวนตรงนี้เลยว่าหาเวลาดูด่วน เพราะกราฟิก+การเล่าเรื่องมันงดงามเอามาก ๆ และนอกจากความไฮป์จนทำให้ติด top List ที่ต้องดูของ Netflix แล้ว ตัวเกมของค่าย
การกลับมาอีกครั้งของงานแฟชั่นวีคระดับโลกในประเทศไทย ที่เหล่าดีไซเนอร์และคนรักแฟชั่นรอคอย กับ Bangkok International Fashion Week (BIFW) 2022 เทศกาลที่จะเปลี่ยนให้ Siam Paragon, Siam Center และ Siam Discovery กลายเป็นสัปดาห์แห่งรันเวย์ของแบรนด์แฟชั่นระดับโลก แบรนด์ชั้นนำของไทย รวมถึงผลงานของ Young Designer ที่ไม่ได้มีดีแค่แฟชั่นโชว์พรีเซนต์คอลเล็คชั่นที่ถูก Selected มาอย่างดี หรือเปิดตัวคอลเล็คชั่นล่าสุดเท่านั้น แต่ยังมี Fashion Talk กับกูรูด้านแฟชั่นพร้อมกิจกรรมอื่น ๆ อีกด้วย BIFW 2022 จะแบ่งทั้งหมดเป็น 3 เวที คือ Grand Runway (Siam Paragon), The Future Of Fashion Talk (Siam Discovery), Visionary Stage (Siam Center) และเพื่อเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ที่เป็นผู้คอยผลักดันให้วงการดีไซเนอร์ไทยเติบโตสู่เวทีโลก
เพียงเพราะการไม่อยากถูกจำกัดความ ทำให้ Dee sweetdrug หรือ ดี – ชาญณรงค์ ขลุกเอียด ศิลปินประยุกต์ (Applied Artist) ได้พัฒนาตนเองจากการทำงานศิลปะมาตั้งแต่สมัยเรียน ปี 1 ที่ศิลปากร ผู้ไม่เคยหยุดนิ่ง และมีโปรเจกต์งานศิลปะไอเดียล้ำมาให้ชมกันตลอดเวลา รวมถึงยังได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะประยุกต์ร่วมกับแบรนด์ดัง และห้างสรรพสินค้าชั้นนำมาแล้วมากมาย สั่งสมประสบการณ์จากการจัดแสดงผลงาน ทำงานประกวด ทำงานอีเวนต์ และได้เข้าร่วมแสดงในหลายรายการ จนกลายเป็น Applied Artist แถวหน้าของเมืองไทย ผู้ที่เชื่อว่างานศิลปะและงานออกแบบเกิดจากการ Applied เรื่องราวในอดีต และนำกลับมาเล่าใหม่ให้ถูกจังหวะ ถูกที่ ถูกเวลา และ Dee sweetdrung ก็เป็นศิลปินคนหนึ่งที่รู้ว่า ช่วงเวลานี้ จังหวะนี้ เรื่องราวนี้ ควรจะพูดถึงอะไร และนำสิ่งเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับสี ลายเส้น และรูปลักษณ์ที่เคยมีมาแล้วให้ดีและแตกต่างกว่าเดิม นอกจากนี้เขายังเป็นศิลปินผู้ฉีกกฎการนำเสนองานศิลปะในรูปแบบเดิมๆ ไปสู่แนวความคิดที่สดใหม่ มีการนำมนต์เสน่ห์และวัฒนธรรมไทยมาเล่าสู่บริบทของงานศิลปะร่วมสมัยโดยนำเทคนิคอันหลากหลายตามแนวถนัด ไม่ว่าจะเป็น จิตรกรรม วาดเส้น ประติมากรรม สื่อผสม และศิลปะจัดวาง มาเป็นสื่อในการบอกเล่าเรื่องราวตามจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดของเขาได้อย่างน่าทึ่ง
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ ตอนนี้ ชื่อของ ALBA แบรนด์นาฬิกาดีไซน์สวยที่มีจุดเด่นเรื่องราคาจับต้องได้ภายใต้คุณภาพการผลิตที่การันตีโดยแบรนด์เรือนเวลาชั้นนำของญี่ปุ่นอย่าง SEIKO กำลังเป็นที่จับตามองด้วยคอลเลกชั่นเท่ ๆ มากมายที่ทยอยเปิดตัวออกมาภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “The Reflection Of Japan” ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละคอลเลกชั่นนั้นล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นโดนใจ ด้วยงานดีไซน์ที่สะท้อนถึงคุณภาพความเป็น Japan Product กับนาฬิกาแนว Sport Style ที่หนุ่ม ๆ อย่างเราสามารถหยิบมาสวมใส่ได้ในทุกโอกาส ล่าสุดทาง ALBA ก็ได้เผยโฉมอีกหนึ่งคอลเลกชั่นใหม่ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์ความเท่ที่สะท้อนจิตวิญญาณญี่ปุ่นออกมาได้เป็นอย่างดี กับ ALBA Monster Thailand Creation ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรือนเวลารุ่นยอดนิยมของรุ่นพี่อย่าง SEIKO ที่ได้รับการขนานนามจากเหล่านักสะสมว่า Monster ด้วยความแข็งแรงบึกบึนของตัวเรือน และดีไซน์ที่ดูแปลกตาแต่มีเสน่ห์ครองใจผู้คนมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2000 และ Monster ที่ถูกตีความภายใต้ชื่อ ALBA Monster Collection นั้น เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ระดับไอคอนิก มาร้อยเรียงเรื่องราวและดีไซน์ใหม่ ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาผ่านนาฬิการะบบอัตโนมัติ 3 รุ่น 3 สไตล์ ที่ยังคงความโดดเด่นเอาไว้แบบครบ ๆ ทั้งในเรื่องขนาดตัวเรือนกำลังเข้าข้อที่ 42.4
เล่นอะไรได้เยอะเลย สำหรับรถ SUV ขวัญใจเศรษฐีอย่าง Mercedes-AMG G63 ซึ่งหลายคนอาจจะชินกับการจูนรุ่นแรงอย่าง P900 edition ที่ Brabus จับมารีดให้ทรงพลังเกือบทุกรุ่น แต่คันนี้ถือว่าพิเศษยิ่งกว่า เพราะไม่ใช่แค่แต่งแล้วจูนแรงม้า แต่ยังปรับแต่งตัวถังให้กลายเป็น Pickup ที่หรู แรง และเท่ที่สุดในตลาดอีกด้วย ด้านขุมพลัง Brabus ลงมือเพิ่มความจุเครื่องยนต์ด้วยการปรับแต่งกระบอกสูบและช่วงชักลูกสูบ พร้อมเปลี่ยนลูกสูบเป็นแบบ forged น้ำหนักเบา จากเดิม 4.0-liter เป็น 4.5-liter V8 และยังมีรายละเอียดอีกเพียบ ตั้งแต่ระบบทางเดินไอเสียใหม่ high-performance exhaust system, อัพเกรด turbocharged เพิ่มแรง boost พร้อมจัดการ software ให้รองรับพละกำลัง 900 HP เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 315 HP แรงบิด 1,250 Nm สามารถพาร่างที่หนักเกือบ 3 ตันวิ่ง 0-100 km/h