สำหรับแบรนด์ BMW นั้น คงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความว่า เป็นแบรนด์ที่ผลิต หรือจำหน่ายอะไร ด้วยชื่อชั้นประวัติศาสตร์ และสมรรถนะในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ทำให้ BMW เป็นหนึ่งในรถที่ผู้ชายหลายต่อหลายคนหมายปอง ถึงขั้นยกให้เป็นรถในฝันกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น BMW 1 Series , BMW 2 Series, BMW 3 Series, BMW 5 Series, BMW 6 Series รวมถึงรุ่นใหญ่ซึ่งเป็นรุ่นยอดฮิตของเหล่าผู้บริหารทั้งหลายอย่าง BMW 7 Series ซึ่งทุก Series ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เราคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริง ทาง BMW ยังมี 8 Series อยู่ด้วย แต่มันมีการผลิตออกมาเพียงช่วงสั้นๆ (2000-2003) ก่อนที่จะหยุดสายพานการผลิตไปกว่า 20 ปี ทำให้หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่า มี BMW Series นี้อยู่ด้วย โดยเฉพาะในประเทศไทยของเรานั้น
การทำอะไรสักอย่างที่มากเกินไป มักส่งผลไม่ค่อยดีให้กับผู้กระทำมากสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การใช้ชีวิต หรือความสัมพันธ์ เพราะอย่างนั้นเรามักจะได้ยินวลีคุ้นหูอยู่บ่อย ๆ ว่า Work-Life Balance ที่แนะนำการใช้ชีวิตให้มีความสมดุลกัน ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตด้านอื่น ๆ เพื่อคอยเตือนใจให้เรารู้จักปรับตัวเองอยู่เสมอ นอกจากการทำงานและการใช้ชีวิตแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงในสังคมปัจจุบัน นั่นก็คือเรื่องของการเสพติดโซเชียลของคนยุคนี้ อาจเพราะข้อมูลในปัจจุบันมีความเร็วและการเข้าถึงที่ง่ายขึ้นกว่าในอดีต จึงทำให้คนในปัจจุบันเสพติดข่าวและความรวดเร็วของข้อมูล ตลอดเวลามีงานวิจัยจำนวนไม่น้อยที่ระบุว่าการเล่นโซเซียลที่มากเกินไปสร้างผลกระทบให้แก่ชีวิต และนี่ก็เป็นอีกงานวิจัยที่ UNLOCKMEN นำมายืนยันให้อีกเสียง เพื่อให้ทุกคนได้เริ่มต้นสำรวจและถามตัวเองดูว่าทุกวันนี้เราเล่นมากเกินไปจนความสุขน้อยลงไปหรือเปล่า? งานวิจัยที่ว่านี้ มาจากมหาวิทยาลัย Yale และมหาวิทยาลัย California ที่เกิดขึ้นจากการสำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน Facebook กว่า 5,208 คน ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยขอความร่วมมือกับผู้ที่เข้าร่วม ให้แชร์ข้อมูลกิจกรรมบน Facebook ตั้งแต่ข้อมูลการกดไลค์ กดแชร์ สเตตัสของตน และความรู้สึกด้านสภาพจิตใจ แก่เหล่านักวิจัยเป็นระยะ ๆ ผลจากการศึกษาพบว่าการใช้ Facebook เกินกว่ามาตรฐานเฉลี่ย 5-8% จะทำให้ความสุขและความพึงพอใจในตัวเองของกลุ่มทดลองลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแปลได้ว่า “คนที่เล่น Facebook มากเกินไปจะมีความสุขน้อยกว่าคนที่ไม่ค่อยเล่น”
ไม่ว่าจะในฐานะคนทำงาน เจ้าของธุรกิจ หรือระดับหัวหน้างานที่ต้องดูแลการทำงานของคนอีกจำนวนมาก เราต่างแสวงหากลยุทธ์ของการจัดการเวลาทำงานที่จะทำให้คนทำงาน ทำงานได้ทรงประสิทธิภาพสูงสุด คงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถจัดการเวลาทำงานได้เต็มที่ หนักหน่วง และเห็นผลได้เหมือนนักกีฬาโอลิมปิคฝึกซ้อมก่อนลงสนามจริง อย่ามัวคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นหรือเป็นไปไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้เปิดใจทำความรู้จัก “Interval Training” เทคนิคการบริหารจัดการเวลาฝึกซ้อมสไตล์นักกีฬาโอลิมปิคที่จะทำให้คุณต้องทึ่งกับผลลัพธ์การทำงานของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ย้อนกลับไปช่วงทศวรรษที่ 1930 Woldemar Gerschler โค้ชชาวเยอรมันมีความคิดว่าเขาอยากให้นักกีฬาวิ่งของเขาจัดการเวลาการฝึกซ้อมให้ดีขึ้นกว่าที่เป็น หลังจากการทดลอง เขาพบว่านักวิ่งจะสามารถบรรลุเป้าหมายการฝึกซ้อมได้ดีขึ้น ถ้าแบ่งการฝึกออกเป็นเซ็ต ๆ หากมีเวลา 60 นาที Woldemar Gerschler จะแบ่งการฝึกออกเป็น 6 เซ็ต โดยฝึกซ้อมเต็มที่ 7 นาที แล้วพัก 3 นาที ซึ่งการฝึกเต็มที่แล้วแบ่งเวลาให้พัก นักวิ่งจะสามารถวิ่งได้เร็วกว่า วิ่งได้ระยะไกลกว่า และฟอร์มการวิ่งโดยรวมทำได้ดีกว่าการซ้อมวิ่งติดกันรวดเดียว 60 นาที วิธีของ Gerschler ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายกับนักวิ่ง จนกระทั่งถูกนำไปใช้ในกีฬาประเภทอื่น ๆ และกลายเป็นระบบการฝึกซ้อมสุดทรงพลังที่ถูกเรียกว่า “Interval Training” ที่ได้รับการยอมรับมาถึงปัจจุบัน การฝึกไป พักไป ได้รับการยืนยันจาก K.
นอกจากสูตรสำเร็จที่ใครต่อใครพูดกันว่าขยันสิ พยายามสิ อดทนสิ แล้วจะประสบความสำเร็จทางการเงิน ได้เป็นมหาเศรษฐีภายในหนึ่งชีวิตนี้ ใครจะรู้ว่าหนึ่งกลยุทธที่มหาเศรษฐีที่สร้างฐานะให้ร่ำรวยด้วยตัวเองหลายคนทำเหมือน ๆ กันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่เราคิดเลย Tom Corley ผู้เขียนหนังสือ Rich Habits – The Daily Success Habits of Wealthy Individuals ที่กว่าจะออกมาเป็นเล่มขนาดนี้ เขาต้องใช้เวลาหลายปีในการศึกษานิสัย วิธีคิดและพฤติกรรมของเหล่ามหาเศรษฐีทั้งหลาย และสิ่งหนึ่งที่เขาค้นพบว่าคนที่ร่ำรวยขึ้นมาด้วยตัวเองมีตรงกันก็คือ “การมีรายได้มากกว่า 1 ช่องทาง” โดย Tom Corley พบว่า 65% ของคนที่ร่ำรวยขึ้นมาด้วยตัวเองมีรายได้จาก 3 ทาง การมีรายได้มาจากช่องทางที่หลากหลายก็เป็นการกระจายความเสี่ยงให้ชีวิตของเราเองนี่แหละ ในวันที่รายได้จากช่องทางหนึ่งฝืด ๆ เคือง ๆ เราก็ยังมีรายได้จากทางอื่นมาคอยค้ำจุนให้อยู่ได้ แต่ถ้าวันใดที่ไม่มีรายได้จากช่องทางใดฝืดเคืองเลย เราก็เตรียมรับรายได้มหาศาล สำหรับคนที่ยังนึกไม่ออกว่าแล้วเราจะเริ่มต้นการมีรายได้เข้ามาในชีวิตมากกว่า 1 ทางได้อย่างไร วันนี้ UNLOCKMEN เอาเคล็ดลับดี ๆ มาบอก 1.ลองเริ่มทำธุรกิจดูสิ มหาเศรษฐีทั่วโลกจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีธุรกิจอยู่แล้วก็ยินดีด้วย
หลายคนอาจถวิลหารองเท้าอย่าง Yeezy หรือ NMD จากแบรนด์ adidas เพราะชั่วโมงนี้ ถือว่านี่คือรองเท้าสองรุ่นที่มีคนต้องการมากที่สุด แต่พอเห็นราคากับความพยายามอัพราคาของพ่อค้าแม่ค้าก็ทำให้คนธรรมดาอย่างเราต้องถอดใจ ไหนจะต้องจ้างคนไปจับฉลาก หรือต้องไปตั้งแคมป์นอนรอล่วงหน้าถึง 3 วันเพื่อซื้อ แบบนี้ก็ยกให้พวกเขาไปเหอะ ท่ามกลางความนิยมของ Yeezy และ NMD หลายคนอาจลืมไปว่า adidas ไม่ได้มีแค่รองเท้า 2 รุ่นนี้ที่สวยเตะตาน่าครอบครอง วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำรองเท้าตระกูล adidas ที่สวยคลาสสิค แถมไม่ต้องไปเข้าคิวแย่งกันซื้อให้เหนื่อยอีกด้วย adidas Gazelle นี่เป็นรองเท้าอีกคู่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ปี 1966 เป็นผลงานชิ้นเอกของนาย Adi Dassler ที่ต้องการมุ่งคิดค้นรองเท้าที่มีศักยภาพสูงเพื่อนักกีฬาเยอรมันเพื่อใช้แข่งขันกีฬา แม้ภายหลัง adidas Gazelle จะถูกถอดออกจากคอลเลคชั่นหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยความคลาสสิคของมัน ทำให้ adidas ทนเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ ไม่ไหว ต้องนำกลับมาขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่กระแส skateboard fashion กำลังระบาดยิ่งทำให้ adidas Gazelle เป็นรองเท้าที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
#ลงทุนแมน กล้าเริ่มคิดอะไรใหม่ๆโดยที่ไม่กลัวจะพลาด
มินิโดรนเจ๋งจาก DJI ผู้ผลิตโดรนเบอร์ใหญ่ของโลกกับการปล่อยโดรนตัวจิ๋วที่อัดความสามารถมาเต็มขุมพลัง
ถ้าย้อนกลับไปในอดีต การที่มนุษย์จะถ่ายภาพจากบนท้องฟ้า บนที่สูง หรือ กลางอากาศได้อย่างทุกวันนี้ ถือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ และยากมาก แต่ในปัจจุบัน มันกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ด้วยอุปกรณ์การถ่ายภาพชิ้นเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Drone นั่นเอง คนเราเห็นมุมมองใหม่ ๆ ผ่านวิวัฒนาการการถ่ายภาพ จนเราสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่างจากข้างบนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง หลายคนก็คงเคยคิดเหมือนกันใช่ไหมว่า หากวันหนึ่งมีอุปกรณ์ที่คนทุกเพศทุกวัย สามารถใช้งานได้ง่าย ๆ อย่าง Drone ที่บินอยู่บนอากาศ ให้กลายเป็น Drone ใต้น้ำแทน พวกเราก็คงจะได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ภายใต้ผืนน้ำเราไม่เคยเห็นมาก่อนกันมากขึ้น และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เมื่อมีผู้ที่ผลิตคิดค้น Drone ดำน้ำที่ชื่อว่า “BIKI Wireless Underwater Fish Drone” ขึ้นมา UNLOCKMEN บอกเลยว่านอกจากคนทั่วไปจะได้ใช้ถ่ายภาพสนุก ๆ แล้ว ช่างภาพก็จะได้มุมมองใหม่ ๆ ภาพมุมใหม่ ๆ ได้สะดวกกว่าที่เคยอีกด้วย พื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกเรานั้น ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำถึง 71% ดังนั้น อาณาเขตใต้พื้นน้ำจึงเป็นเหมือนพื้นที่ปริศนาสำหรับคนทั่วไป
หากไม่นับรวมถึงกางเกงยีนส์ กางเกง chino (ชิโน่) ถือเป็นอีกไอเท็มคู่กายที่ผู้ชายส่วนใหญ่ล้วนต้องมีติดตู้เสื้อผ้าเอาไว้ เพราะไม่ว่าจะนำมา Match เสื้อผ้าสไตล์ไหนก็ดูลงตัวไปหมด แต่ปัจจุบันกางเกง chino ก็ออกมาในตลาดมากมายจนเลือกแทบไม่ถูก ดังนั้นทีมงาน UNLOCKMEN ขออาสาแนะนำสีของกางเกง chino ที่หากคุณมีไว้รับรองไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน Beige สีกากีถือเป็นสี original ของกางเกงชนิดนี้ แต่เดิมผ้าที่ใช้ในการผลิตกางเกงชิโน่มาจากประเทศจีน ซึ่งใช้เทคนิคการทอแบบทแยงสำหรับเป็นเครื่องแบบของทหารอังกฤษ ก่อนที่ภายหลังจะถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางสำหรับนักเรียน Ivy League ดังนั้นหากคุณจะมีการเกงชิโน่สักตัวยังไงซะก็ต้องมีสีนี้ที่บ่งบอกความเป็น OG ได้เป็นอย่างดีที่สุด Navy หากจะบอกว่าสีอะไรคือกางเกงชิโน่ที่เพอร์เฟ็กที่สุด เราขอเลือกเป็นสีน้ำเงินกรมท่า เพราะสีนี้ มีความใกล้เคียงกับเฉดสีกางเกงยีน์แบบที่ผู้ชายอย่างเราชอบใส่ แถมข้อดีอีกอย่างคือมันใส่สบายกว่ากางเกงยีนส์เป็นไหน ๆ ดังนั้นการเลือกกางเกงชิโน่สีกรมท่าจะช่วยทำให้คุณใส่คู่กับเสื้ออะไรก็ได้ทั้งนั้น แถมยังเหมาะสำหรับใส่ในลุคที่ดูเป็นทางการ หรือจะลุคชิล ๆ ในวันหยุดก็ดูลงตัว Olive Green หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการแต่งตัวสไตล์ทหาร ซึ่งถือเป็นอีกเทรนด์ที่ไม่มีวันตาย ดังนั้นการนำกางเกงชิโน่สี Olive Green หรือเขียวมะกอกมาสวมใส่ ก็สามารถทำให้เราเล่นกับเสื้อผ้าชิ้นบนได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดเปล่า ๆ หรือจะเป็นเสื้อเชิ้ตเปิดกระดุมให้ลุคอารมณ์ฮิปเตอร์รับรองว่าดูดีอย่างแน่นอน Black สีดำคือสีคลาสสิคที่ไม่ว่าจะมิกซ์แอนด์แมทช์กับอะไรก็เข้าไปซะทุกอย่าง เพียงแต่กางเกงประเภทชิโน่จะไม่ได้มีสีดำสนิทมากเหมือนกางเกงสแล็กทั่วไป ดังนั้นอาจจะต้องพิถีพิถันในการเลือกเสื้อท่อนบนสักนิดนึง