ปัญหาที่ Netflix กำลังเจออยู่ตอนนี้ เรียกได้ว่ามาจากความสำเร็จอย่างสูงที่ตัวเองสร้างขึ้นมา การทำให้วัฒนธรรมดูหนัง Streaming กลายเป็นวัฒนธรรมหลักไปทั่วโลก เพียงแต่จากที่ Netflix เคยเป็น Streaming platform เจ้าใหญ่ที่เกือบจะกินรวบตลาด วันนี้กลับมีคู่แข่งที่น่ากลัวเกิดขึ้นมากมาย มีจุดเด่นด้าน Content ไม่แพ้ Netflix ในราคาที่ถูกกว่า หลายคนน่าจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับช่วงเวลาที่แสนท้าทายของ Netflix ในรอบ 10 ปี หุ้นก็ร่วง รายได้ก็ลด ลูกค้าก็ค่อย ๆ หายไป จนต้องเตรียมแผนจะจัดการกับระบบ password sharing ซึ่งตัว Netflix เคยเป็นคนบอกเองว่าดี แต่เรากลับมองว่าวิธีแก้ปัญหารายได้ด้วยการห้ามแชร์ password จะทำให้ผู้คนอยากจ่ายเงิน subscribe ให้ Netflix จริงหรือ? น่ากลัวว่าจะยิ่งยกเลิกแล้วไปสมัครเจ้าอื่นที่มี Original Content ดี ๆ ระดับคุณภาพ 4K อย่าง HBO Go, Disney+ ค่ายเจ้าของลิขสิทธิ์อย่าง Paramount,
เรียบร้อยโรงเรียน Elon Musk ในที่สุด Twitter ก็ยอมรับข้อเสนอการเข้า take over รวมถึงอำนาจการควบคุมทั้งหมดด้วยอภิมหาดีลมูลค่า $44 billion USD คิดเป็นเงินไทยราว 1.5 ล้านล้านบาท (1,502,446,000,000) ซึ่งเป็นราคาหุ้นละ $54.20 ตามที่ Elon เคยเสนอเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา แบ่งเป็นเงินกู้จำนวน $25.2 billion และเงินส่วนตัวราว $21 billion นับเป็นราคาต่อหุ้นที่มี premium กว่าราคาตลาดถึง 38% การเข้าซื้อ Twitter ของ Elon Musk เป็นความต้องการ unlock ศักยภาพของ Social Media ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ใหม่ ๆ การปรับ algorithms แบบ open source ให้นักพัฒนาเข้าถึงได้ การกำจัด spam bots
“ต้องทำงานให้หนัก ไม่มีหยุดพัก ไม่ต้องคบใคร แล้วคุณจะประสบความสำเร็จ” หากใครฟังไลฟ์โค้ชบ่อย ๆ น่าจะคุ้นกับประโยคปลุกใจทำนองนี้ ซึ่งอาจจะมีส่วนถูกอยู่บ้างบางส่วน เช่นการทำงานที่ช่วยพัฒนาตัวเองมากกว่าคนอื่น ย่อมสร้างโอกาสให้เราได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน หรือในภาวะเศรษฐกิจทรุด ค่าเงินเฟ้อ หลายคนต้องทำงานอย่างหนักหลายช่องทางเพื่อหารายได้เสริม หรือบางคนอาจจะมีค่านิยมว่าต้องทำงานให้หนักอยู่เสมอ ตัวเองถึงจะมีคุณค่า ไม่ว่าคุณจะทำงานหนักด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หากรู้สึกว่ามันหนักเกินไปจนชีวิตของคุณกำลังพัง แปลว่าคุณกำลังเจอกับอาการ “Toxic Productivity” Toxic Productivity คือความพยายามเป็นคน Productive ตลอดเวลา ไม่คิดจะหยุดพัก แม้ว่างานของวันนี้จะถูกเคลียร์ไปหมดแล้วก็ตาม เป็นสิ่งที่พบเห็นได้มากในกลุ่ม Manager level ขึ้นไป ซึ่งอยู่ในช่วงสำคัญที่ต้องการสร้างผลงานเพื่อเลื่อนขั้นต่อไป หรือ Freelance ที่รับงานมากเกินไป เพราะการมีลูกค้าเข้ามาว่าจ้าง หมายถึงความสามารถที่เหนือกว่าคู่แข่ง และเป็นช่วงกอบโกยรายได้ จะเห็นว่าการนำคุณค่าของตัวเองไปวัดกับประสิทธิภาพการทำงาน จะยิ่งก่อให้เกิดความเครียดจากวงจรการทำงานที่ไม่มีวันหยุดพัก ยิ่งทำงานได้มาก ยิ่งงานออกมาได้ดี ยิ่งแสดงถึงคุณค่าของตัวเองมากขึ้น เพื่อให้หัวหน้าและลูกน้องมองเห็นความสำคัญในการมีอยู่ซึ่งตัวตนแบบอย่าง หากไม่มีงาน เราจะรู้สึกว่าไม่เหลืออะไรในชีวิตให้ทำอีกเลย และเมื่อไหร่ที่นั่งว่างงานเฉย ๆ ระหว่างวัน กลับทำให้รู้สึกว่าเป็นคนขี้เกียจ ด้อยคุณค่าในตัวเองลงไป นอกจากนี้การ Work from home
พวกเราต้องเจอกับ Presentation มาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าจะเป็น PowerPoint หรือ Keynote ก็ตาม หลายครั้งที่เราพยายามตั้งใจดูสไลด์พร้อมกับฟังคำอธิบายในการประชุมอย่างจดจ่อ กลายเป็นว่าสมองยิ่งสับสน ไม่สามารถจดจำเนื้อหาอะไรได้เลยแม้แต่ท่อนเดียว ถ้าคุณเป็นแบบนี้บ่อย ๆ อย่าพึ่งโทษตัวเอง หรือโทษลูกน้องของคุณ เพราะวิทยาศาสตร์ได้อธิบายเหตุการณ์นี้เอาไว้ว่า สาเหตุนั้นมาจากวิธีทำ Presentation เอง การทำสไลด์ที่น่าเบื่อ มีตัวหนังสือพรืดเต็มหน้าจอ พร้อมกับการพูดอธิบายข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้สมองของคนฟังต้องทำงานตีความหมายจากสอง inputs ไปพร้อม ๆ กันแบบ multitasking มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว Presentation ที่ดี ไม่ควรมีความซับซ้อน หากใครเคยเห็น Presentation ที่เต็มไปด้วยข้อความหรือ bullet ยิบย่อยมากมาย และคน present ก็พูดอธิบายข้อความเนื้อหาจำนวนมากไปพร้อม ๆ กัน แทนที่จะช่วยย้ำหรืออธิบายข้อมูลให้เข้าใจง่าย กลับกลายเป็นการเพิ่มโหลดให้สมองส่วนจดจำข้อมูล เพราะในขณะที่ตาเราจ้องอ่านข้อความบนสไลด์เพื่อตีความหมาย หูของเราก็ฟังคำอธิบายที่แตกต่างจากบนสไลด์เพื่อตีความหมายไปพร้อม ๆ กัน เมื่อหูและตาเจอกับข้อความที่แตกต่างกัน รวมถึงการเสียสมาธิเพราะต้องสลับโฟกัสระหว่างคำพูดและข้อความบนสไลด์ ทำให้เกิดการส่งข้อมูลที่ซับซ้อนไปสู่สมองจากคนละประสาทสัมผัส ผลคือสมองของเราจะเหนื่อยล้า สมาธิหลุด ส่งผลให้เรารู้สึกเบื่อการประชุม และลืมข้อมูลไปจากความทรงจำอย่างรวดเร็ว
คำว่า Cryptocurrency วันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวพวกเราอีกต่อไป เทียบกับเมื่อหลายปีก่อนที่ผู้คนพึ่งจะได้รู้จักกับเทคโนโลยี Blockchain ได้เห็นการเติบโตของมูลค่าเหรียญต่าง ๆ ได้เห็นการต่อยอดไปสู่การใช้งานมากมายนับไม่ถ้วน รอบตัวพวกเราวันนี้ ไม่ใช่แค่นักลงทุน แต่คนที่เข้ามาเทรดคริปโทเคอร์เรนซีจะพบเห็นได้ตั้งแต่เด็กนักเรียน คนทำงาน ฟรีแลนซ์ ไปจนถึงผู้ใหญ่มีอายุ แม้แต่ดารานักแสดงชื่อดังอย่างคุณอนันดา เอเวอริงแฮม ก็ยังหันเข้าสู่โลกของคริปโทเคอร์เรนซีอย่างจริงจังมากขึ้น ในมุมมองของเรา คิดว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดการแพร่หลายของคริปโตอย่างรวดเร็วในบ้านเรานั้น คือความเข้าใจแเละมั่นใจในเทคโนโลยี จุดเปลี่ยนของการใช้ชีวิตที่ผู้คนมองหาอิสรภาพทางการเงิน และเวลามากขึ้น สถานการณ์โควิดที่ทำให้คนมีเวลาว่างในการศึกษาอย่างลึกซึ้ง และยังเป็นเพราะมีแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตในไทยที่ปลอดภัย อย่างเช่น Bitazza (บิทาซซ่า) ได้รับใบอนุญาตสำหรับการประกอบธุรกิจนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และกระทรวงการคลังแห่งประเทศไทย รวมถึงความน่าเชื่อถือที่มีผู้ใช้งานจากทั่วโลก และบิทาซซ่ายังได้ประกาศผลประกอบการในปี 2564 ผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียของบิทาซซ่า เช่น เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ โดยมียอดธุรกรรมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มกว่าแสนล้านบาท และผู้ใช้งานที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของบิทาซซ่าแล้วกว่า 500,000 คน จากการรายงานสถิติยอดจำนวนดาวน์โหลดแพลตฟอร์มบิทาซซ่าผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือของบิทาซซ่า ซึ่งนับเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นมาถึง 20 เท่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่เราได้เจอและพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่หลายคนอยากรู้ นั่นคือ “จุดเริ่มต้นของการสร้างบิทาซซ่า” แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตกับ คุณอาท กวิน พงษ์พันธ์เดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งของบิทาซซ่า และการเลือกชีวิตอิสระ
ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อซัก 10 กว่าปีก่อน หากเราต้องการหาร้านสกรีนเสื้อก็คงต้องนีกถึงย่านหลังสนามศุภชลาสัย (สนามกีฬาแห่งชาติ) เป็นที่แรก แต่ภายหลังได้มีการพัฒนาที่ดินให้กลายเป็นลักษณะศูนย์การค้ามากยิ่งขึ้น ทำให้ร้านละแวกนี้หายไปหลายร้าน แต่ก็ยังคงมีบางส่วนที่ยังคงเปิดให้บริการ และร้าน Bluescreen T-Shirt คือหนึ่งนั้น โดยย้ายจากที่ตั้งเดิมมาอยู่บนถนนบรรทัดทอง ซี่งปัจจุบันร้านนี้ก็อยู่ยาวนานมาเกือบ 20 ปีแล้ว และที่สำคัญเป็นร้านสกรีนเสื้อที่ศิลปินระดับประเทศไว้ใจให้ผลิตลายลงบนเสื้อก่อนจะส่งตรงไปถึงมือของบรรดาแฟนเพลง คุณพง คือเจ้าของร้านของ Bluescreen T-Shirt จบการศึกษาสาขาออกแบบดีไซน์มาโดยตรง และเป็นคนที่มีความชื่นชอบเสื้อยืดเป็นพิเศษ ชอบที่จะศึกษาดีเทลต่าง ๆ ของมัน รวมไปถึงชอบศิลปะลวดลายที่ถูกสกรีนผ่านบล็อกลงบนเสื้อ จนออกไปสู่สายตาของคนทั่วไป ประกอบกับแนวคิดของตนเองว่า “เสื้อยืดคือของคู่กายกับทุกคน ทุกคนต้องใส่ทุกวันอยู่แล้ว เพราะมันใส่ง่าย ไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไรเยอะ ไม่ต้องรีดก็ยังใส่ได้เลยครับ” เมื่อประกายไฟจุดติด ความคิดและไอเดียต่อยอดในการสร้างธุรกิจจากสิ่งที่ชอบก็เกิดขึ้น คุณพงจึงตัดสินใจเริ่มต้นสร้างอาชีพด้วยการเปิดร้านสกรีนชื่อขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า Bluescreen T-Shirt โดยเริ่มต้นจากร้านเล็ก ๆ อยู่ในตึกแถวแบบห้องเดียว ในช่วงแรกลูกค้าต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้มีเข้ามาเยอะแยะมากมาย ทำให้ต้องต่อสู้กับปัญหาอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่วันหนึ่งคุณพงก็ได้ไปเจอลูกค้ากลุ่มใหม่ พวกเขาเหล่านั้นคือ “นักดนตรีอินดี้” “ตอนเปิดร้านช่วงแรก ๆ มีศิลปินอินดี้ที่จะเอาเสื้อไปขายงาน
ปี 2022 คนรักษ์โลกมีโอกาสรวย เพราะ Environment, Social and Governance หรือ ‘ESG’ กลายเป็นเทรนด์ระดับโลกที่ทุกธุรกิจต้องจับตามอง เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นสร้างกระแสความกดดันให้คนทั่วโลกต้องเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต และผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบต่อสังคมและสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ESG ย่อมาจาก Environment, Social and Governance หรือ แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนใช้พิจารณาประกอบการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ โดยปัจจุบันแต่ละองค์กรอาจใช้รูปแบบการวัดผลแตกต่างกัน แต่ทุกเกณฑ์ควรครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ สิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือเป็นเกณฑ์ที่วัดว่า โลกต้องอยู่ดี คนในองค์กรกับสังคมต้องอยู่ดี และบริษัทต้องอยู่ดี จึงจะเกิดความเข้มแข็งตามหลัก ESG โลกอยู่ดี – วัดการดูแลโลกผ่านการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัทว่าลดการปล่อยคาร์บอนฯ หรือไม่ สร้างมลภาวะกับโลกหรือเปล่า ใช้ทรัพยากรคุ้มค่าไหมทั้งการใช้น้ำ ไฟ หรือบางบริษัทอาจนับถึงปริมาณกระดาษที่ใช้ในองค์กร สังคมอยู่ดี – วัดจากมาตรฐานการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของแรงงาน พนักงาน ความเคารพสิทธิมนุษยชนตลอดระบบนิเวศทางธุรกิจและส่งเสริมให้พนักงานเข้าใจผลกระทบที่ของ ESG ที่ส่งผลต่อธุรกิจ
ต้องยอมรับว่าสมัยนี้เทคโนโลยีพัฒนาเร็วมาก ทุกปีเราเห็นฟีเจอร์โทรศัพที่ไฮเทคมากขึ้น เราเห็นคนหันมาลงทุนในสกุลเงินคริปโต เราเห็นคนเริ่มเปลี่ยนมาใช่รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึง ความสนใจใน Metaverse โลกเสมือนที่อนุญาตให้เราสร้าง เป็นเจ้าของ และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลโดยใช้สกุลเงินคริปโต หรือ NFT Metaverse จะทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจมากมาย เช่น แกลอรี่ออนไลน์ การทดลองสินค้าในโลกเสมือน ไปจนถึง การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์บนพื้นที่ออนไลน์ ธุรกิจที่เข้าสู่วงการนี้ได้เร็วจึงอาจได้รับประโยชน์จากมันมาก UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการเข้าสู่โลก Metaverse สำหรับธุรกิจที่มองเห็นถึงความสำคัญของโลกเสมือน เลือกกลุ่มเป้าหมาย ลองค้นหาดูว่ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นใคร หรือ ใช้เวลาบน Metaverse นานแค่ไหน และหากลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะช่วยดึงดูดให้พวกเขาสนใจสินค้าและบริการของเรา ยกตัวอย่างเช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นคนหนุ่มสาว พวกเขาคงรีบเข้าไปในโลก Metaverse และใช้เวลากับมันนานพอสมควร เป็นต้น ถ้าเราได้ข้อมูลตรงนี้แล้ว เราจะรู้ว่าเวลาไหนที่ธุรกิจของเราควรเข้าไปในโลก Metaverse สังเกตคู่แข่งทางธุรกิจ สำรวจดูว่าคู่แข่งของคุณทำอะไรกับ Metaverse บ้าง เช่น จัดประชุมออนไลน์ จัดงานโชว์เคสผลงาน หรืิอ เปิดร้านค้าออนไลน์บนโลกเสมือน เป็นต้น การสำรวจคู่แข่งจะทำให้เรารู้ว่าคนอื่นทำอะไรอยู่ และรู้ว่าถึงเวลาที่ธุรกิจของเราควรเข้าสู่โลก Metaverse
ตอนนี้การลงทุนในทรัพย์สินดิจิทัล เช่น สกุลเงินคริปโต (Cryptocurrency) กำลังเป็นเทรนด์ยอดฮิตที่หลายคนให้ความสนใจ บางคนอาจซื้อเหรียญคริปโต เช่น Bitcoin หรือ Ethereum เก็บไว้รอเกร็งกำไรในอนาคต หรือ บางคนอาจลงทุนใน GameFi และใช้มันในการทำรายได้ให้ตัวเอง แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนดิจิทัลแบบไหนก็ควรระวังสิ่งที่เรียกว่า ‘เสพติดการลงทุนในสกุลเงินคริปโต’ (Cryptocurrency Addiction) ซึ่งเป็นอาการที่ทำให้ชีวิตของเราย่ำแย่ลงได้เหมือนกัน Cryptocurrency Addiction เกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องตลาดซื้อขายคริปโตไม่มีตัวกลาง (เช่น ธนาคาร) ที่ทำหน้าที่ดูแลการทำธุรกรรมของคนในตลาด การซื้อขายเงินสกุลนี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ราคาของสกุลเงินคริปโตจึงผันผวนได้ง่ายกว่าการลงทุนประเภทอื่น กล่าวคือ ในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที เราอาจได้รับเงินจำนวนมหาศาล และสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลได้ นอกจากนี้เป็นตลาดที่เปลี่ยนแปลงง่ายแล้ว มันยังเป็นตลาดที่เปิดแบบไม่มีวันหยุด และเปิดตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนเสพติดการลงทุนในคริปโตไม่ต่างจากการเสพติดการพนัน หากใครสงสัยว่าตัวเองเสพติด ลองเช็คดูว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่ ได้แก่ เสียเวลาไปกับการเทรดคริปโตมากเกินไป เช็คและกังวลเรืองราคาของหรียญตลอดเวลา จนลืมเรื่องงาน หรือ การทำกิจกรรมอื่นไป มีหนี้สิ้นสะสม หรือ เจอกับปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากการเทรดคริปโต โกหกคนรอบตัวเรื่องพฤติกรรมการเทรดคริปโต อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย (mood swing)
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่กินเวลามาร่วม 2 ปี นั้นส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งทางด้านเศรษฐกิจ รวมไปถึงรูปแบบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป และตลาดอสังหาฯ ก็เป็นอีกหนึ่งภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวขนานใหญ่เปลี่ยนจากรุกมาเป็นตั้งรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ท้าทาย แต่ล่าสุดในงาน ANANDA 2022 WHAT WE’RE MADE OF เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทุกถ้อยแถลงถึง Business Direction รวมถึงวิดีโอแสดงวิสัยทัศน์ที่พร้อมก้าวข้ามทุกข้อจำกัดไปสู่อีกขั้นในปีหน้า จากผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมืองอย่าง ANANDA คือสัญญาณที่บอกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยนั้นพร้อมที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความน่าสนใจกับความตั้งใจฉีกกรอบแนวคิดที่อยู่อาศัยแบบเดิม ๆ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตใหม่ของคนเมืองได้อย่างแท้จริง ยืนยันได้จากการประกาศกลับมาเดินหน้าลุยเปิดตัวโครงการใหม่ และธุรกิจใหม่ของ ANANDA ในปี 2022 ซึ่งในวันนี้ UNLOCKMEN ขอรับอาสาสรุปทุกประเด็นสำคัญในการคลายข้อสงสัยที่ว่าเหตุใดทาง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จึงเชื่อมั่นกับทิศทางของตลาดอสังหาฯ ไทยในปีหน้า พร้อมอัพเดทโปรเจ็กต์ใหม่ ที่ตอกย้ำการก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่อีกขั้นของ ANANDA เพื่อเป็นข้อมูลเน้น ๆ สำหรับคนเมืองยุคใหม่ซึ่งกำลังมองหาที่อยู่อาศัย รวมถึงเหล่านักลงทุนที่กำลังติดตามความเป็นไปของตลาดอสังหาฯ ในบ้านเราเอาไว้ประกอบการตัดสินใจในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง URBAN LIFE