ช่วงนี้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) กำลังเป็นเทรนด์ที่นักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ต่างให้ความสนใจ หลายคนหวังทำกำไรจากการครอบครองสกุลเงินคริปโต (Cryptocurrency) เช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) หรือ Cardano (ADA) และมีหลายคนเช่นกันที่ผันตัวเองมาเป็น ‘นักขุดคริปโต’ (Cryptocurrency Miner) ส่งผลให้การ์ดจอคอมพิวเตอร์กลายเป็นของมีราคาและหายากมากขึ้น UNLOCKMEN จึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับอาชีพใหม่ Cryptocurrency Miner พร้อมแนะนำเคล็ดในการตัดสรรเครื่องชุดเพื่อให้ทุกคนสามารถเริ่มเข้าสู่วงการขุดได้ตั้งแต่วันนี้ การขุดคริปโต คือ อะไร เวลาเกิดการตัดสินใจลงทุนในสกุลเงินคริปโต เช่น มีคนซื้อใช้เงินซื้อเหรียญคริปโต ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าวจะถูกจัดเก็บในรูปแบบของ Block ใน Blockchain ของคริปโตนั้น ๆ แต่เนื่องจาก Blockchain เป็นระบบที่ไม่มีตัวกลางในการตรวจสอบการทำธุรกรรม Block จึงไม่สามารถเกิดขึ้นโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ ต้องมีคนในเครือข่ายมาทำหน้าที่ตรวจสอบการทำธุรกรรมดังกล่าว หรือ ที่เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่าเป็น ‘นักขุด’ (Miner) พวกเขาต้องมาแข่งกันแก้สมการคณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูงโดยใช้พลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์ เพื่อหาเลข ‘Hash Number’ ของ Block ที่กำลังถูกสร้างใหม่ขึ้น หากคอมเครื่องไหนมีความสามารถในการประมวลผลที่ดีที่สุดจนสามารถแก้ไขสมการได้เป็นเครื่องแรก เจ้าของคอมเครื่องนั้นจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินคริปโต
เมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดอารมณ์บางอย่าง เช่น ตกใจ โกรธ หรือ กลัว หลายคนคงอยากระบายอารมณ์เหล่านั้นออกมาด้วยการพูดคำหยาบ หรือ สบถ แต่บางครั้งก็เลือกที่จะไม่ทำ เพราะค่านิยมของสังคมทำให้การสบถกลายเป็นเรื่องต้องห้าม ใครที่ทำแล้วจะดูเป็นคนป่าเถื่อน ไม่มีความน่าเชื่อถือ และอยู่ในสังคมได้ยากลำบากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การสบถอาจส่งผลดีต่อเรามากกว่าที่หลายคิด UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปดูว่าประโยชน์ของการสบถมีอะไรบ้าง ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น การพูดคำหยาบคายถือเป็นวิธีการแสดงอารมณ์อย่างหนึ่ง หากเราใช้คำหยาบคายเวลาพูด มันช่วยจึงทำให้ประโยคคำพูดของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์มากขึ้น และทำให้คนอื่นสนใจคำพูดของเรามากขึ้นเช่นกัน งานวิจัยจาก Communication Studies, Ithaca College (2012) ได้ทำการศึกษาวิธีการรับรู้คำสบถของคน และพบว่า การสบถสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร และทำให้สิ่งที่เราพูดสามารถโน้มน้าวจิตใจคนฟังได้มากขึ้น เมื่อมันทำให้เกิดความรู้สึกด้านบวกแบบ positive surprise นอกจากนี้งานวิจัยทำให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้มองการสบถแย่เสมอไป ช่วยให้เราทนทานต่อความเจ็บปวดมากขึ้น นอกจากจะช่วยให้เราคุยกับคนอื่นได้ดีขึ้นแล้ว การสบถคำหยาบยังช่วยเราอึดทนทานต่อความเจ็บปวดได้มากขึ้นด้วย งานวิจัยจาก Keele University (2009) ได้ทดลองให้นักศึกษาจุ่มมือข้างหนึ่งลงไปในน้ำเย็น พร้อมพูดคำหยาบ หรือ คำปกติ และพบว่า เมื่อผู้เข้าร่วมการทดลองพูดคำหยาบคายดัง ๆ ซ้ำ ๆ พวกเขาสามารถแช่นิ้วในน้ำได้นานขึ้น
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอนับเป็นมนุษย์ที่มีทักษะในการเจรจาต่อรองกับคน (negotiation) อยู่ในขั้นปรมาจารย์ เพราะแต่ละวัน พวกเขาต้องสอบปากคำและพูดคุยกับคนหลายประเภท เพื่อหาข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการปิดคดี จึงเป็นเรื่องดี ถ้านักธุรกิจได้เรียนรู้ทักษะการเจรจาจากคนกลุ่มนี้ UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำเทคนิคการเจรจาที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอใช้ในการทำภารกิจ ซึ่งแต่ละเทคนิคทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในการเจรจาทางธุรกิจ และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม รู้เข้ารู้เราก่อนไปรบ ก่อนที่เราจะไปเจรจากับใคร สิ่งแรกที่เราควรทำ คือ ศึกษาข้อมูลอีกฝ่ายให้มากที่สุด เพราะถ้าเรามีข้อมูลมากพอที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายอาจคิดหรือทำอะไรในแง่ลบบ้างในวันเจรจา เราก็จะสามารถเตรียมแผนตอบโต้การกระทำของอีกฝ่ายล่วงหน้าได้ ดังนั้น เราควรไม่พลาดเรื่องการศึกษาฝ่ายตรงข้าม และการวางแผนล่วงหน้า มันส่งผลต่อความสำเร็จในการเจรจาอย่างสูงเลย ลงสนามรบแล้ว อย่าลืมใช้โทนเสียงให้เหมาะสม โทนเสียงในการพูดที่แตกต่างกัน เหมาะสมกับสุถานการณ์ที่แตกต่างกัน เช่น โทนสนุกสนาน (Positive and playful) อาจเหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการความผ่อนคลาย โทนผ่อนคลายเนิบช้า (Late-night DJ voice) อาจเหมาะกับการอธิบายสิ่งที่ต้องการความสนใจอย่างสูง หรือ โทนสั่งหรือควบคุมคนอื่น อาจเหมาะกับ สถานการณ์ทื่เราต้องโชว์พาว ฯลฯ หากเราเลือกโทนเสียงได้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ ประโยชน์ที่จะตามมา คือ คนฟังจะรู้สึกสบายใจมากขึ้น ตั้งใจฟังเรามากขึ้น และจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการเจามากขึ้นด้วย ดังนั้น เวลาเจรจาทางธุรกิจ อย่าลืมแคร์เรื่องโทนเสียงในการพูดของตัวเองด้วย ทบทวนคำพูดของอีกฝ่าย บนโลกนี้มีเทคนิคการสนทนาที่เรียกว่า การสะท้อน
ช่วงนี้หลายคนคงได้ยินคำว่า NFT กันอย่างหนาหู ไม่ว่าจะเป็นจาก ข่าวการประมูลทวีตแรกบน Twitter หรือ ข่าวการประมูลงานศิลปะ ‘CryptoPunk’ ซึ่งทำราคาขายได้หลายสิบล้านบาท UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการหาเงินจากธุรกิจ NFT เพื่อให้ทุกคนรู้จักช่องทางในการหาเงินมากขึ้นในช่วงที่เกิดวิกฤต COVID-19 ทำไมคนถึงซื้อขายงานศิลปะ NFT กัน ก่อนอื่นเราขออธิบายเรื่อง NFT ก่อน เพราะบางคนน่าจะใหม่กับเรื่องนี้มาก และเพิ่งเคยได้ยินชื่อมันครั้งแรก NFT ย่อมาจากคำว่า ‘Non-Fungible Token’ หมายถึง เหรียญหรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ไม่มีอะไรมาทดแทนมันได้ โดยข้อมูลที่คนนิยมนำมาทำเป็น NFT มักเป็น รูปภาพ หรือ วิดีโอ NFT จะเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับ Fungible Token หรือ สกุลเงินคริปโตที่เรารู้จักกันทั่วไป เช่น Bitcoin หรือ Ethereum ซึ่งเป็นเหรียญเหล่านี้เป็นเหรียญที่สามารถทดแทนกันเองได้ เพราะ 1 เหรียญมีค่าหรือราคาเท่ากันเสมอ แตกต่างจาก NFT ซึ่งเปรียบได้กับของที่มีชิ้นเดียวบนโลก เช่น
ข้อความด้านบนนี้ อาจเป็นความหมายของ ‘HERO’ ภายใต้การรับรู้ของคนทั่วไป เพราะฮีโร่มักจะถูกแทนค่าด้วยความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์มนา เป็นผู้ที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่เหนือกว่ามนุษย์คนใดในโลกหล้า แต่ถ้าหากลองย้อนมองวิกฤติ COVID-19 ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าทุกคนต่างเคยได้สัมผัสกับ ‘ฮีโร่’ ในชีวิตจริง ที่อาจไม่จำเป็นต้องมีพลังอำนาจใด ๆ ยิ่งใหญ่ล้นฟ้ามาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ‘ฮีโร่’ เดินดิน ที่มีวิถีชีวิตคนเมืองร่วมกันกับพวกเรา หรือเหล่า ‘ฮีโร่’ ที่ต้องล้มลุกคลุกคลาน เจ็บปวดกับปัญหาร้อยแปดพันประการโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่เล็ก ๆ ของตัวเองในทุกวันด้วยความตั้งใจ ซึ่ง ‘ฮีโร่’ เหล่านั้นอาจเป็นได้ทั้งคนในครอบครัว, ลุงร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าคอนโด, พนักงานร้านสะดวกซื้อ, กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์, ไรเดอร์ส่งของ, รุ่นน้องที่ทำงาน หรืออาจเป็นคนเดียวกันกับที่เรามองเห็นตอนส่องกระจกทุกเช้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเหนือจินตนาการแต่อย่างใด เพราะในความเป็นจริงที่ผ่านมาพวกเราทุกคนคือ ‘HERO’ ไม่ว่าจะเป็นคุณ หรือใครก็ตามที่ยังมุ่งมั่นฝ่าฟันมาจนถึงทุกวันนี้ด้วยหัวใจของนักสู้ที่เข้มแข็ง ที่ปลุกตัวเองให้ลุกขึ้นมาได้ในทุกเช้า เพื่อไปต่อ! ลุยต่อ! สู้ต่อ! ยืนหยัดทำหน้าที่และร่วมรับผิดชอบต่อสังคมเมืองเป็นอย่างดีในทุก ๆ วัน และประเด็นเรื่องพลังเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ของเหล่าฮีโร่คนเมือง ฮีโร่เดินถนนคนธรรมดาอย่างพวกเราทั้งหลาย ที่ยังคงยืนหยัดทำหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และเพื่อให้สังคมได้ขับเคลื่อนไปต่อ นั้นเป็นสิ่งที่
สังคมการทำงานถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ เพราะถ้าเรามีเพื่อนร่วมงานที่ดี สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเข้าขา เราก็จะสามารถสร้างงานที่มีคุณภาพได้อยู่เสมอ แต่ใช่ว่าเราจะเจอกับเพื่อนร่วมงานที่เข้าขากันได้เสมอไป บางทีเราก็ต้องทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่มีปัญหา หรือเหม็นขี้หน้าเราได้เหมือนกัน UNLOCKMEN เลยอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Ben Franklin Effect ซึ่งจะช่วยให้เราผูกมิตรกับคนอื่นได้เก่งขึ้น Ben Franklin Effect คือ ปรากฎการณ์ทางจิตวิทยาที่ระบุว่า คนที่เคยช่วยเหลือคนอื่น มีแนวโน้มที่จะช่วยเหลือคนอื่นต่อไป โดยชื่อของมันมีที่มาจากเรื่องราวของ Benjamin Franklin นักคิดผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งเขาเคยมีศัตรูคนหนึ่งที่อยากเปลี่ยนให้เป็นพรรคพวก จึงได้ใช้วิธีการขอยืมหนังสือหายากจากศัตรูคนนั้น และส่งคืนภายในสัปดาห์พร้อมกับคำขอบคุณ แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็เป็นมิตรต่อกันมากขึ้น และว่ากันว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกันจนวันตาย วิธีการสร้างมิตรแบบนี้ Benjamin Franklin เรียกว่า ‘Old Maxim’ แต่ภายหลังได้รู้จักกันในชื่อปรากฎการณ์ Ben Franklin Effect ซึ่งในปี 1969 ได้มีการศึกษาเรื่องนี้กันมากขึ้น โดยมีการศึกษาทดลองกับกลุ่มตัวอย่างราว 77 คน (ผู้ชาย 33 คน และหญิง 44 คน) พบว่าคนที่ให้ความช่วยเหลือศัตรูหรือคนที่เรารู้สึกไม่ชอบขี้หน้า จะรู้สึกดีกับคนนั้นขึ้นมาทันที (ถ้าคิดไม่ออก ให้นึกถึงความสัมพันธ์ของ
ในโลกของการเทรด Cryptocurrency ตอนนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักเหรียญอภินิหาร Dogecoin ที่เริ่มจากความไร้สาระ แต่กลับทำให้หลายคนกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านมาแล้วทั้งโลก มีการคำนวณว่าถ้าคุณซื้อ Dogecoin เก็บไว้ตั้งแต่ก่อน Elon Musk เร่ิม tweet ครั้งแรกเป็นเงิน $100 มาถึงวันนี้ คุณจะมีเงินไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท ทวีคูณมากขึ้นราว 29,400% หลายคนอาจจะคิดว่า ป่านนี้ Creator ผู้สร้าง Dogecoin เหรียญที่วันนี้มี Market Cap มากถึง $80 billion น่าจะรวยเป็นพัน ๆ ล้านไปแล้วใช่มั้ยครับ? ใครจะไปรู้ว่า Billy Markus หนึ่งในทีมผู้สร้าง Dogecoin ขึ้นมานั้น จะขายเหรียญ Crypto ของเค้าทั้งหมดพอร์ต ซึ่งมีทั้ง Litecoin, Bitcoin และ Doge โดยหลังจากขายออกไปไม่กี่วัน ราคาเหรียญทั้งหมดก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติศาสตร์ จึงเรียกได้ว่าเป็น เทพเจ้าแห่งการขายหมู ตัวจริงเสียงจริง ในปี 2015
ในโลกของยาเสพติดคงไม่มีชื่อไหนโด่งดังไปกว่า ‘Pablo Escobar’ เจ้าพ่อโคเคนแห่งโคลัมเบีย เขาเปรียบเสมือน Michael Jackson แห่งวงการสิ่งผิดกฎหมาย เรื่องราวของเขาถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์มากมาย แต่ที่ประสบความสำเร็จที่สุดก็ต้องยกให้ซีรีส์ Narcos จาก Netflix ยุค 80 เป็นยุคที่ยาเสพติดกำลังเฟื่องฟูถึงขีดสุด มีผู้ค้ารายใหญ่หลายก๊กหลายเหล่า แต่ Pablo Escobar สามารถพาตัวเองไปอยู่บนจุดสูงสุดของพีระมิดได้ แค่ความใจถึงและเหี้ยมเกรียมคงไม่เพียงพอแน่นอน เขาต้องมีกลยุทธ์ในการทำธุรกิจที่ดีด้วย ถึงแม้ว่าธุรกิจของ Pablo Escobar จะเป็นธุรกิจผิดกฏหมาย แต่ก็ต้องยอมรับในความเด็ดขาดและฉลาดในกลยุทธ์ ดังนั้นเราคิดว่าเคล็ดลับการทำธุรกิจของเขาก็มีประโยชน์และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของทุกคนได้แน่นอน Escobar ตั้งใจจะทำให้โคเคนของเขาเป็นโคเคนที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก มีความบริสุทธิ์สูงกว่าเจ้าอื่น ๆ จึงเข้มงวดเรื่องคุณภาพการผลิต เขาไม่เชื่อในกลไกตลาดที่จะต้องตัดราคาแข่งกันเพื่อทำยอดขายให้ได้มากกว่า เพราะถ้าสินค้ามีคุณภาพต่อให้ราคาจะสูง ยังไงลูกค้าก็ยินดีจ่าย โดยเฉพาะในโลกยาเสพติดอย่างโคเคน ที่คุณภาพเป็นสิ่งที่จับต้องได้ไม่ยาก และยิ่งทำให้คนติดงอมแงมมากขึ้นด้วย และข้อนี้ถือว่า Escobar คิดถูก ส่งผลให้ยอดขายโคเคนของเขาพุ่งสูงว่าแก๊งค้ายาใด ๆ บนโลก โดยเฉพาะการขยายไปตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ต่อจากข้อด้านบน Escobar รู้ดีว่ากำลังซื้อของตลาดเป็นสิ่งสำคัญ ในโคลัมเบีย เขาขายโคเคน 1 กรัมได้ราคาแค่
เป็นความจริงที่ว่าชีวิตของทุกคนมีความไม่แน่นอนสูง เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา วันหนึ่งเรากับแฟนกำลังไปกันได้ดี วันรุ่งขึ้นอาจถูกบอกเลิกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยก็เป็นได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่น่าพอใจมักสร้างความเจ็บปวดให้กับคนไม่มากก็น้อย และพอเราเจอกับเหตุการณ์แบบนี้กันบ่อย ๆ มันก็สร้างบาดแผลหยั่งลึกในจิตใจให้เราได้เหมือนกัน UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการรับมือกับความทรมานที่ชื่อว่า Radical Acceptance ซึ่งเป็น Distress Tolerance Skill ที่จำเป็นมากสำหรับปี 2021 WHAT IS RADICAL ACCEPTANCE ? Radical Acceptance เป็นหนึ่งในทักษะที่อยู่ใน Dialectical Behavioral Therapy (DBT) วิธีการทำจิตบำบัดรูปแบบหนึ่งที่พัฒนาโดย Marsha M. Linehan นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน โดย Radical Acceptance จะหมายถึง ความสามารถในการรับรู้ความทรมานทางกายและใจ และทำใจยอมรับมันได้ทั้งหมด ซึ่งทักษะนี้จะช่วยให้เราสามารถเผชิญหน้ากับอารมณ์หรือเหตุการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดได้ดีขึ้น รักษาอารมณ์ของเราในช่วงที่เจอความเจ็บปวด ช่วยให้เราก้าวข้ามสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ง่ายขึ้น พร้อมลดความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็นให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นด้วย HOW TO PRACTICE RADICAL ACCEPTANCE ? เมื่อ Radical Acceptance เป็นเหมือนกับ
รับสมัคร AE ทีมีใจรักการทำงาน อึก ถึก ทน มาร่วมทีมสนุกๆ ด่วน