ดูเหมือนว่าช่วงนี้บริษัทยานยนต์ทั้งหลายจะเริ่มขยับตัวออกมาปล่อยของที่หมกไว้ในช่วงต้นปีกันซะแล้ว โดยเฉพาะบรรดา Concept Car ของแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลก ที่เรียกได้ว่า จัดมาโชว์กันแต่ละคันนั้น ทำเอาบรรดาผู้คลั่งไคล้ในของเล่นมีล้อสำหรับผู้ชายต้องน้ำลายไหลไปตาม ๆ กัน ล่าสุด วงการยานยนต์กำลังจะลุกเป็นไฟอีกครั้ง หลังจากที่ BMW ได้เปิดตัวรูปและแนวคิดของ The All-Electric Mini ออกมา นั่นทำให้จากเดิมที่ที่รถจิ๋ว 3 ประตูสุดเท่คันนี้นั้น เป็นที่หมายปองของคนทั่วไปอยู่แล้ว ยิ่งกลายเป็นรถที่มีแรงดึงดูดมากขึ้นไปอีก การเปิดตัวของ The All-Electric Mini ครั้งนี้นั้น ทางผู้ผลิตได้นำเอารูปแบบของโมเดลสุดฮิตตลอดกาล และถือว่าเป็นออริจินัลของแท้ก็คือ ตัวถังแบบ 3 ประตู มาทำการวางคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ทันสมัย เพื่อที่จะพัฒนา และดัดแปลงมันให้กลายเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต The All-Eletric Mini นอกจากทรวดทรงที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เอาไว้อย่างครบถ้วนแล้ว บริเวณไฟหน้าก็ยังถูกรักษารูปแบบไฟแบบกลมกลึงเอาไว้ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ที่ด้านในของดวงไฟ จะมีการเพิ่มเส้นสายของด้วยไฟเข้าไปให้ดูมีความเป็น Electric มายิ่งขึ้น ซึ่ง The All-Electric Mini คันนี้ที่ว่านี้ เป็น Concept Car ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย
หลายคนคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่า ชายชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Ken Okuyama คือผู้ออกแบบ รถไฟหัวกระสุนที่มีความเร็วร่วม 200 mph, หุ่นยนต์, แว่นตา, เฟอนิเจอร์ รวมไปจนถึงรถแทรคเตอร์!! แต่สิ่งที่ทำให้นักออกแบบชาวญี่ปุ่นคนนี้โด่งดังไปถึงระดับโลก และเป็นที่ต้องการของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายต้องการตัวเขามากที่สุด นั่นก็คือผลงานการออกแบบรถยนต์ของเขา ที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับ Top ติดอันดับต้น ๆ ของโลก ปีที่แล้ว Ken Okuyama เพิ่งจะสร้างความฮือฮาให้กับทุกสายตาที่งาน The Quail ซึ่งจัดขึ้นที่ Monterey เมื่อเค้าได้เผยโฉมเจ้า V12-powered Kode 57 Supercar และในปี 2017 นี้ เขาก็กลับมาพร้อมกับ Supercar สุดพิเศษที่ถูกออกแบบ และทำขึ้นมาเพียงคันเดียวเท่านั้น โดยครั้งนี้เขาให้ชื่อของผลงานว่า “Kode O” (ออกเสียงว่า โค้ดซีโร่) ณ Monterey Peninsula ที่ California งาน The Quail ทีว่านี้คือ หนึ่งในไฮไลต์ของซีรี่ส์งานแสดงนวัตกรรมยานยนตร์ที่มีชื่อเสียง รวมไปถึงงานชื่อดังอย่าง Pebble Beach Concours d’Elegance ที่รวมเอาผู้คลั่งไคล้ในนวัตกรรมยานยนต์
Bayerische Motoren Werke AG หรือชื่อภาษาอังกฤษ คือ Bavarian Motor Works (BMW) นั้น ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่า พวกเขาถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ Luxury และ Super Performance ชั้นนำระดับโลก ซึ่งแน่นอนว่า แทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักพวกเขาเป็นแน่ แต่เชื่อหรือไม่ว่า แบรนด์ที่ยังคงโดดเด่นที่สุดของโลก และยังเป็นแบรนด์ที่เรียกได้ว่าอยู่ในจุดสูงสุดของ Big 3 ผู้ผลิตรถรายใหญ่ในประเทศ German ครั้งหนึ่ง Bavarian Motor Works (BMW) เกือบจะกลายเป็นตำนานที่เหลือแค่ชื่อไปแล้ว ภายใต้ผลกระทบจากสนธิสัญญา Versailles วันนี้ถ้าหากคุณคิดว่าคุณคือ แฟนพันธุ์แท้ของ BMW แล้วล่ะก็ ต่อไปนี้คือเครื่องพิสูจน์ กับข้อเท็จจริงที่เบื้องลึกจะมีน้อยคนนักจะรู้เกี่ยวกับ BMW “Signature Front Face” หลายคนเห็นแว้บแรกก็รู้ได้ทันทีเลยว่า รถยนต์คันไหนเป็นรถจากแบรนด์ BMW นั่นก็เพราะ ความโดดเด่นบริเวณกระจังหน้าที่บางคนก็บอกว่ามันเป็นฟันหนู บางคนก็บอกว่ามันเหมือนรูจมูก ฯลฯ แต่ที่แน่
รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคนั้น เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน และเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่า ทั้ง ๆ ที่เทคโนโลยีของเราพัฒนามากขึ้นทุกวัน แต่เราก็ยังพยายามที่จะกลับไปหาอะไรในแบบเก่า ๆ กันอยู่ตลอด อย่างเช่นสิ่งที่เรากำลังพูดถึงต่อไปนี้ นั่นก็คือ “Monday Motorbikes M1 Crossover Bike” Smart Electric Motorcycle ที่ทำมาเพื่อให้ใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัวโดยเฉพาะ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงสร้างของรถมอเตอร์ไซค์ในยุค ’70 และ ’80 มาผสมผสานกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน โดยกลุ่มนักสร้างรุ่นใหม่ไฟแรง Bolt Motorbikes ใน California เมื่อคุณเห็น “Monday Motorbikes M1 Crossover Bike” ครั้งแรก คุณจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เรียกว่า ความอิสระ อาจจะด้วยการออกแบบที่ไม่ได้ยึดติดขั้นตอนการผลิตรถมอเตอร์ไซค์แบบเดิม ๆ นอกจากนี้ ความอิสระยังเป็นคอนเซ็ปต์ของทาง Bolt Motorbikes ที่ต้องการสร้างรถมอเตอร์ไซค์เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระท่ามกลางการจราจรที่คับคั่งของเมืองหลวง แต่ยังคงความมีสไตล์ แตกต่างจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มักมีรูปทรงหน่อมแน้ม หรือมีตระกร้าติดอยู่หน้ารถ ซึ่งทำให้ผู้ชายอย่างเราเป็นต้องส่ายหน้า เมื่อคุณขี่ “Monday Motorbikes M1 Crossover
คนคลั่งรถโดยเฉพาะผู้ชายเรา คงต้องเคยได้ยิน และพูดคุยถกเถียงกันว่าระบบขับเคลื่อนแบบไหนดีกว่ากันแน่นอน บางคนก็บอกว่า ซื้อรถทั้งทีต้องมีระบบขับเคลื่อนแบบ RWD (Rear-Wheel Drive) สิถึงจะเจ๋ง บางคนก็ว่า ขับเคลื่อนแบบล้อหน้ามีเร่งดีกว่านะเว้ยเฮ้ย แค่นี้ยังปวดหัวไม่พอ เพราะยังมีระบบขับเคลื่อนแบบ AWD (All-Wheel Drive) และ 4WD (4Wheel-Drive) เข้ามาอีก ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า รถที่ตัวเองขับอยู่ทุกวี่ทุกวัน เป็นรถขับเคลื่อนแบบไหน จริง ๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องพื้นฐานอย่างหนึ่งที่เราทุกคนควรรู้ โดยเฉพาะถ้าหากคุณต้องการรถที่เหมาะสมต่อการใช้งาน และสไตล์การขับขี่ของตัวเอง การทำความรู้จักกับระบบขับเคลื่อนทั้งหมดที่เราได้กล่าวมา ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะศึกษาเอาไว้ วันนี้เราจึงได้นำเอาข้อมูลเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนไม่ว่าจะเป็นแบบ FWD, RWD, AWD และ 4WD มาให้กับชาว UNLOCKMEN ทุกคนได้รู้จักกัน FWD / RWD / AWD And 4WD รถยนต์ที่เราเห็นกับบนท้องถนนนั้น แม้จะขับได้เหมือนกันหมด แต่จริงๆ แล้วภายในรถแต่ละคันมีระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน สำหรับในบ้านเรา รถบนท้องถนนส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD กันเป็นส่วนใหญ่ ลองลงมาก็จะเป็น
รถสไตล์ Retro เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายหลายคน แต่ทว่าด้วยสมรรถนะที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งาน หรือเทคโนโลยีที่ยังไปไม่ถึงไหน ทำให้ถึงแม้จะสวยอย่างไรประสิทธิภาพก็ไม่จูงใจมากนัก โดยเฉพาะรถที่ใช้แข่งขันในกีฬาความเร็วด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาที่ถูกพัฒนาให้ก้าวกระโดดออกมาไกลจากความ Retro และเน้นไปที่ความโฉบเฉี่ยวทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นรถแข่งที่เป็นรถรูปทรงโบราณลงไปวิ่งอยู่ในสนามพร้อมกับรถแข่งในยุคนี้ แต่ดูเหมือนว่าล่าสุด จะมีคนคิดพิเรนทร์ โดยมีไอเดียที่จะพยายามสร้างรถแข่งยุคใหม่ในสไตล์รถแข่งแบบ Retro ขึ้น นั่นก็คือ INFINITI ที่ได้เปิดตัวภาพเรนเดอร์ของรถแข่งสมัยใหม่ที่มีดีไซน์ย้อนยุคออกมา โดยรถคันนี้นั้นมีชื่อว่า “Prototype 9” เมื่อไม่นานมานี้ โดยรถแข่งจาก INFINITI คันนี้นั้น ได้ย้อนยุคไปนำเอาสไตล์การออกแบบของรถแข่งยุค 40 มาออกแบบ และพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่ยังคงรูปลักษณ์ความโดดเด่นภายนอกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาที่เปิดโล่ง, วงล้อซี่ลวดพร้อมดอกยางสไตล์วินเทจ และตัวถังแคปซูลที่หายไปจากนวัตกรรมยายนต์ปัจจุบันไปนานแล้วมามัดรวมกันไว้ใน “Prototype 9” คันนี้ แรงบันดาลใจนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้เมื่อรถต้นแบบคันนี้นั้น คาดว่าจะถูกนำเอามอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่คุณภาพสูงจากแบรนด์รถยนต์อย่าง Nissan ซึ่งจะเข้ามามีส่วนร่วม และว่ากันว่าน่าจะได้ทีมควบคุมการผลิต และช่างฝีมือชั้นเซียนของทาง Nissan อย่าง Team of Takumi มาแจมอีกด้วย จากแรกเริ่มเดิมทีที่ผู้ออกแบบ “Prototype
หนึ่งในตำนานรถยนต์ Sedan หรูหราสำหรับผู้บริหาร แต่สามารถไล่หวดตามรถ Supercar ได้สบาย ๆ ต้องยกให้ BMW M5 ที่ถูกออกแบบบนพื้นฐานของ DNA เทคโนโลยีรถแข่งตั้งแต่แรกเริ่ม แค่อาศัยใช้ร่างของ Passenger cars เท่านั้นเอง ถ้าใครเคยขับ BMW 525d มาแล้ว คงจะรู้ดีว่ามันแรงขนาดไหน ถ้าขยับมาเป็น M5 นี่บอกได้เลยว่าคนละเรื่อง แต่เราคงต้องหยุดความปรับทับใจที่มีมาทิ้งไปก่อน เพราะ 2018 BMW M5 F90 มีรายละเอียดที่น่าตื่นตาตื่นใจรออยู่เพียบ จาก teaser video ด้านล่าง ที่ส่งเสียงแหวกอากาศโหด ๆ พร้อมโชว์ brake caliper สีเหลืองสไตล์ Sport ให้ขนลุกชัน Limits can be exceeded. The all-new BMW M5 is living proof.
ใครกำลังอยู่บนท้องถนนตอนนี้ อาจจะสังเกตเห็นเทรนด์ที่น่าสนใจว่าจำนวนรถประเภท SUV บนท้องถนนมีมากขึ้นเรื่อย ๆ บางทีอาจจะมากกว่าจำนวนรถ Mid-Size car ด้วยซ้ำไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก นี่คือเทรนด์ที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์หลายประเทศ อย่างเช่นใน USA ยอดขายรถ Mid-Size car ครึ่งปีแรกนั้นลดลงเกือบ 18% เนื่องจากคนหันไปถอยรถ SUV แทน เช่นเดียวกับในฝั่งยุโรป ที่รถกลุ่ม SUV เข้ามามีบทบาทมากขึ้นตั้งแต่ปี 2015 โดยจำนวนความนิยมเทไปทาง Compact SUV มากเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย Mid-Size, Large และ Compact SUV ตามลำดับ กลับมาที่ประเทศไทยบ้านเรา แม้ภาพของยอดขายรถ SUV จะไม่เด่นชัดเท่าต่างประเทศ แต่ก็เป็นเทรนด์ที่กำลังโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยสภาพถนนที่ดูแลโดยหน่วยภาครัฐที่ทำงานแบบขรุขระ พวกเราก็เลยได้ถนนแบบขรุขระเช่นเดียวกันมาใช้งานอย่างไม่เต็มใจนัก ซึ่งค่อนข้างจะเหมาะกับการใช้งานรถ SUV ยิ่งนัก แต่ก็ไม่อยากได้รถที่ภาพพจน์ดูบุกตะลุยเกินไป อยากได้ทั้งความคล่องตัว หรูหรา ขับสนุก และพร้อมบุกเมื่อจำเป็น ด้วยความคิดนี้เอง
หลังจากที่เราโพสต์เรื่องของรถ BMW รวมถึงประวัติของ Logo ที่หลายคนเข้าใจผิดกันมาแล้ว วันนี้เราเลยอยากนำเอาที่มาของ Logo ของ BMW ตัวแรงที่หลายคนชื่นชอบอย่าง “///M” มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้ดูกัน เพราะจริง ๆ แล้ว ภายใต้ Logo ที่เป็นแถบสี 3 แถบนี้ มันมีความหมายอะไรมากกว่าที่หลายคนคิดซ่อนอยู่ หากใครที่เป็นคนรักรถรหัส “///M” ตัวจริง บทความนี้จะเป็นอีกบทความหนึ่งที่คุณห้ามพลาด ปีนี้ก็จะเข้าถือว่าเป็นปีที่ 45 แล้ว สำหรับการที่ BMW นำรถของพวกเขามาปรับปรุงออกมาให้มีศักยภาพสูงระดับรถแข่งในสนามอย่าง “///M” โดยโมเดลแรกของ “///M” ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในตอนนั้นก็ คือ BMW M1 อันเลื่องลือ และเปรียบเสมือนบรรพบุรุษของตระกูล M ของ BMW มาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับรถในตระกูล M ของ BMW นั้น ถือว่าเป็นรถตัวตัวท็อปสุด แรงสุด และแพงสุดของแต่ละ Series
พรางตัวมานาน ส่งสัญญาณมาก็ชัดเจนว่า Honda เตรียมเปิดตัว Accord รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็น Generation ที่ 10 เข้าไปแล้ว การันตีถึงความขลังอันยาวนานคู่บ้านเมืองได้อย่างชัดเจน แต่แม้ทาง Honda จะเรียกว่าเป็นรุ่นใหม่ All New เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกคุ้นตาเหมือนเคยเห็นกันมานาน มีความเหมือน Honda Civic generation ใหม่ล่าสุด ผสมกับ Honda Accord โฉมปัจจุบันอย่างชัดเจน แต่ด้านในถือว่าน่าสนใจ มีความเป็นผู้ใหญ่หรูเนี้ยบมากขึ้น ภายนอกของ Honda Accord Gen 10 รุ่นใหม่ล่าสุดจะเพิ่มความหรูหราและความสปอร์ตมากขึ้น ด้วยการยืดฐานล้อ wheelbase ออกไปอีก 2.16 นิ้ว กว้างขึ้น 0.39 นิ้ว และเตี้ยลง 0.59 นิ้ว ทำให้ที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 2.5 นิ้ว เป็นจุดเด่นที่สำคัญคือการออกแบบตัวถังอารมณ์ Fastback style หน้ายาว ท้ายสั้น และลายเส้นที่ลากยาวต่อเนื่องจากหลังคาไปถึงด้านท้ายรถอย่างไหลรื่น