ในที่สุดหนุ่ม ๆ ชาวไทยก็ได้สัมผัสกับอากาศเย็นกันเสียที หลังจากเก็บเสื้อผ้าหนา ๆ ไว้ในตู้ตลอดทั้งปี เพื่อรอคว้ามาใส่รับลมหนาวช่วงสั้น ๆ โดยอีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับอุณหภูมิแบบนี้ก็คือ แจ็คเก็ต (Jacket) สวย ๆ มาเพิ่มสไตล์สักตัว แจ็คเก็ต ถือเป็นเครื่องแต่งกายอีกชิ้นที่สำคัญต่อผู้ชายอย่างเรา เพราะประโยชน์ของไอเทมชิ้นนี้นอกจากจะช่วยป้องกันร่างกายจากอากาศเย็นแล้ว ในฤดูกาลอื่นก็สามารถหยิบมาสวมใส่กันแดดหรือลมได้ ที่สำคัญคือแจ็คเก็ตเป็นไอเทมที่มีดีไซน์สารพัดรูปแบบ ช่วยให้คนที่หยิบจับมาสวมใส่สามารถเปลี่ยนสไตล์ได้ตามต้องการ แม้แจ็ตเก็ตจะมีหลากหลายสไตล์ แต่วันนี้ STYLE GUIDE อยากมาแนะนำเสื้อแจ็คเก็ต 5 สไตล์ที่ผู้ชายอย่างเราควรมีติดตู้เสื้อผ้าไว้ เพราะสามารถหยิบมาใช้งานและเปลี่ยนสไตล์ให้ตัวเองได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าวันอากาศหนาวหรือร้อน แบบครอบคลุมทุกวันสบาย ๆ และวันสำคัญ Coach Jacket หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ารูปแบบแจ็คเก็ตชนิดนี้ที่ถูกต้องที่สุดเป็นอย่างไร? แต่คำจำกัดความง่าย ๆ ของ Coach Jacket คือ “มีคอปก กระดุมแบบติดด้านหน้า พร้อมกับกระเป๋าตรงสะโพกทั้งสองด้าน” กระแสแฟชั่นในปัจจุบันก็ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ พัฒนารูปแบบดั้งเดิมของแจ็ตแก็ตที่ใส่โดยโค้ชกีฬาตัวนี้ให้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัสดุไนลอนหรือลวดลาย How to Wear: Coach Jacket มีข้อดีคือเป็นแจ็คเก็ตหนักเบาและส่วนใหญ่มักจะกันน้ำ โดยสามารถเข้าคู่กับกางเกงหลายรูปแบบ
เเคมเปอร์ (Camper) เผยคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2020 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Earth Calling ชวนคุณจินตนาการถึงนอกโลกอันเวิ้งว้างและไกลโพ้น ทั้งสี, ดีไซน์, รูปทรง ไปจนถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิตต่างได้รับเเรงบันดาลใจจากพื้นผิวและสีสันในห้วงอวกาศ จนกลายเป็นคอลเล็กชั่นเหนือจินตนาการ หากพูดถึงเบื้องลึกของแคมเปอร์คอลเล็กชั่นล่าสุดนี้ เป็นการนำพวกเราเดินทางไปอวกาศผ่านงานเรื่องราวการออกแบบที่เกี่ยวกับโลกไปจนถึงดินแดนอันไกลโพ้นของจักรวาล ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นรองเท้าไอคอนิกรุ่นใหม่ซึ่งมาพร้อมนวัตกรรมและภาพลักษณ์อันล้ำสมัย จึงรังสรรค์รองเท้าแคมเปอร์รุ่นนี้ขึ้นเพื่อถ่ายทอดให้เห็นถึงการค้นหาที่ไม่สิ้นสุดของจักรภพนี้ สำหรับรุ่นที่ถือเป็นไฮไลท์ในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2020 นี้ คงหนีไม่พ้นรองเท้าดีไซน์สวย และเหมาะกับการใช้งานอย่าง Brutus รองเท้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าแคมเปอร์รุ่นฮิตตลอดกาลอย่าง Peu ที่มีความโดดเด่นเรื่องส่วนเว้าโค้งไปตามรูปเท้า มีด้วยกัน 2 แบบ คือ Basket Shoes และ Boots สำหรับหนุ่มสาวในเมืองสามารถแมทช์ลุคเท่ แต่ยังคงความทะมัดทะแมงไว้ได้อย่างน่าค้นหา มาต่อที่อีกรุ่นอย่าง Bark รองเท้าที่ออกแบบมาเอาใจสายสปอร์ต ที่ไม่ได้แค่เป็นสนีกเกอร์ แต่ยังสะท้อนถึงแฟชั่นในสไตล์เรโทร (Retro) ด้วยการแต่งแต้มสีแดง สีน้ำตาล และสีชมพู เพื่อเพิ่มความเก๋ยิ่งขึ้น และอีกความโดดเด่นของรองเท้ารุ่นนี้คือ พื้นรองเท้าที่เป็นยางแบบขุรขระ เพื่อปกป้องและกระชับเท้าของผู้ใส่ให้สามารถออกผจญภัยได้อย่างไร้กังวล สำหรับรุ่น Circular ที่ครั้งนี้มาในแนวโลกอนาคต ด้วยดีไซน์สุดล้ำ ตั้งแต่ลวดลาย, โทนสี
รองเท้า คือหนึ่งในไอเทมสำคัญที่ผู้ชายอย่างเราให้ความสำคัญ จึงไม่แปลกที่หนุ่ม ๆ แต่ละคนจะมีรองเท้าหลากรุ่นหลายสไตล์เก็บเอาไว้ในครอบครองสำหรับสวมใส่ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหม่หรือรองเท้ารุ่นคลาสสิก ขณะเดียวกัน ทุกคนคงทราบดีว่ารองเท้ารุ่นคลาสสิกที่เราเห็นในปัจจุบันหลายรุ่น ต่างมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็น “รองเท้ากีฬา” ไม่ว่าจะเป็น Converse Chuck Taylor Allstar ที่มีพื้นฐานจากการเป็นรองเท้าบาสเกตบอล หรือ Adidas Stan Smith ที่พัฒนามาจากรองเท้าเทนนิส ซึ่งต่อมารองเท้าทั้ง 2 รุ่นก็ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยและกลายมาเป็นโมเดลรองเท้าที่อยู่เหนือกาลเวลาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นอกจากรองเท้าที่มีพื้นฐานมาจากกีฬาอย่างบาสเกตบอลหรือเทนนิสแล้ว ยังมีรองเท้าอีกหนึ่งรุ่นที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการแข่งขันในโลกความเร็วอย่าง Formula1 กับรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง “Puma SpeedCat” และวันนี้เราจะพาทุกคนไปกับความรู้จักกับ Racing Shoe คู่นี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมกัน ! กำเนิด Racing Shoes ก่อนจะพูดถึงรองเท้าสำหรับสวมใส่ขับรถที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เราขอพาทุกคนย้อนกลับไปทำความรู้จักกับรองเท้าสำหรับแข่งรถ (Racing shoe) คู่แรกของโลกกันก่อน โดยต้องย้อนกลับไปในปี 1963 เมื่อ Gianni Mostile ช่างทำรองเท้าชาวอิตาลีได้ทำการจดสิทธิบัตรรองเท้าสำหรับแข่งรถที่ตัวเขาออกแบบขึ้นมาเองกับมือ งานดีไซน์ของรองเท้าคู่ดังกล่าว ถูกออกแบบให้ส่วน Outsole โอบรัดเท้าไปบรรจบกันด้านหลังตัวรองเท้าเพื่อป้องกันส้นเท้าผู้สวมใส่จากแรงกระแทกระหว่างขับรถ ขณะเดียวกันยังออกถอดพื้นด้านในออก
ถ้าพูดถึงเครื่องแต่งกายอย่างเสื้อฮู้ด (Hoodies) เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนต้องเคยมีโอกาสสวมใส่เสื้อชนิดนี้มาบ้าง เพราะในยุคสมัยหนึ่งเสื้อฮู้ดเป็นไอเทมที่แทรกอยู่ในหลากหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นฮิปฮอป สเก็ตบอร์ดและกีฬาหลากหลายประเทศ ในเวลาเดียวเมื่อยุคสมัยและเทรนด์แฟชั่นเริ่มเปลี่ยนแปลง เสื้อฮู้ดก็ถูกพัฒนางานออกแบบให้มีความหลากหลายและตอบสนองการใช้งานเฉพาะด้านมากขึ้น จนกลายมาเป็นเสื้ออีกชนิดที่ผู้ชายหลายคนเลือกมีติดตู้เสื้อผ้าเอาไว้เสมอ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักไอเทมชิ้นนี้ดีพอ STYLE GUIDE วันนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักถึงที่มา รวมถึงวิธีเลือกและสวมใส่ที่เหมาะสม แต่จะมีเทคนิคยังไงบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันเลยครับ จุดเริ่มต้นของ Hoodies ก่อนจะพูดถึงชนิดและการวิธีการเลือก ขอพาย้อนกลับไปรู้จักกับต้นกำเนิดของเสื้อฮู้ดกันก่อน โดยต้องย้อนกลับไปไกลถึงปี 1930 เมื่อแบรนด์กีฬาชื่อดังอย่าง Champion USA ได้คิดค้นเสื้อกันหนาวที่ผลิตขึ้นจากการนำเอาเสื้อสเวตเตอร์และหมวกผ้าเย็บติดเข้าด้วยกัน โดยเหตุผลหลักของพวกเขา คือการสร้างเสื้อให้กับเหล่าคนงานในนครนิวยอร์กที่ทำงานอยู่ภายในห้องเย็นและเสื้อต้องง่ายต่อการสวมใส่และการถอดออกนั่นเอง หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องแต่งกายชิ้นที่ก็เริ่มขยายอิทธิพลและแทรกตัวเขาไปในวัฒนธรรมย่อยต่าง ๆ ทั้งฮิปฮอป สเก็ตและพังค์ รวมถึงทีมกีฬาชนิดหลากหลายในสหรัฐอเมริกาที่ทำเสื้อฮู้ดออกมาให้ทั้งผู้เล่นและกองเชียร์สวมใส่ จนกลายเป็น 1 ในไอเทมที่ทุกคนต้องมีในยุค 90’s ซึ่งเอกลักษณ์และสไตล์ที่แตกต่างยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเสื้อฮู้ดในยุคปัจจุบันควรจะมีองค์ประกอบในการเลือกซื้อบ้างตรงส่วนไหนบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลย องค์ประกอบในการเลือก สี เสื้อฮู้ดส่วนมากถูกผลิตออกมาแบบมาในโทนสีล้วน อาจมีโลโก้วางไว้ตามจุดต่าง ๆ เช่นอกหรือแผ่นหลัง อย่างไรก็ตามเสื้อฮู้ดสีดำ, สีกรมท่าและเทาเข้ม ยังคงเป็นสีพื้นฐานที่สามารถหยิบมาสวมใส่ได้อย่างเปิดกว้าง ขณะเดียวกันเสื้อฮู้ดสีสันสดใส เช่นสีเหลือง
VF Corporation ชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้นมากนัก แต่ถ้าบอกว่าเป็นบริษัทเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Vans, The North Face, Timberland, Dickies ก็คงจะไม่สงสัยว่าทำ Supreme ถึงมีความเป็นไปได้สูงมาก ว่ากำลังอยู่ในระหว่างเจรจาปิดดีลมูลค่า $2.1 Billion USD หรือ 64,260,000,000 บาท ดีลมหากาพย์ของแบรนด์ Street ระดับยักษ์ใหญ่ Supreme ซึ่งมีบริษัทลงทุน The Carlyle Group และ Goode Partners เตรียมขายหุ้นในมือให้กับ VF Corporation โดย James Jebbia ผู้ก่อตั้ง Supreme ตัวจริงก็ได้ยืนยันว่า แม้จะมีการเปลี่ยนบริษัทผู้ถือหุ้นจริง แต่ Supreme ก็จะยังคงเป็น Supreme การทำงานจะยังคงเหมือนเดิมทุกอย่างโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีการควบคุมจาก VF Corporation “เราเคย Collab กับเกือบทุกแบรนด์ของ VF Corporation มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
คงไม่ผิดนักถ้าจะพูดว่าเครื่องแต่งกายอย่างกางเกงขาสั้น (Shorts) คือหนึ่งในไอเทมชิ้นสำคัญที่หนุ่มไทยนิยมสวมใส่ เพราะไอเทมชิ้นนี้สามารถตอบโจทย์การแต่งกายได้ในหลากหลายโอกาส แถมยังเหมาะกับสภาพอากาศร้อน ๆ ในบ้านเราได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ‘กางเกงขาสั้น’ กลับเป็นเครื่องแต่งกายที่ผู้ชายบางส่วนไม่ให้ความสำคัญมากนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพและวิธีการสวมใส่ STYLE GUIDE วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาให้ความสำคัญกับเครื่องแต่งกายชิ้นนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะวิธีการเลือกซื้อหรือเทคนิคการใช้งานซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ จะประกอบไปด้วยเรื่องอะไรบ้าง? มาทำความรู้จักและเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลยครับ เลือกกางเกงขาสั้นให้เหมาะสม ต้องให้ความสำคัญกับอะไรบ้าง ? กางเกงขาสั้นที่ดีจะตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงจุด ไม่ว่าการสวมใส่ของคุณจะเน้นหนักไปในเรื่องของสไตล์หรือฟังก์ชันการใช้งาน ทั้งหมดทำให้ขั้นตอนการเลือกซื้อเป็นเรื่องที่เราต้องพิถีพิถันและจุดที่ทุกคนควรให้ความสำคัญมีดังต่อไปนี้ ความพอดีของรอบเอว กางเกงขาสั้นมีความสำคัญไม่ต่างจากเครื่องแต่งกายชิ้นอื่น ๆ ในตู้ของคุณ ไอเทมชิ้นนี้จะให้การสวมใส่ที่เหมาะสมได้ก็ต่อเมื่อ “เราสวมใส่ในขนาดที่ถูกต้อง” ลำดับแรกคือขนาดของรอบเอวที่ควรวัดให้พอดีก่อนซื้อ โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงบ่อย ในส่วนของรูปทรงการตัดเย็บแนะนำเป็นขากระบอกตรงหรือขากระบอกที่เข้ารูปเล็กน้อยและควรหลีกเลี่ยงกางเกงที่หลวมหรือรัดแนบเนื้อขาจนเกินความพอดี ความยาวของกางเกง เมื่อพูดถึงกางเกงขาสั้น “ความยาว” ของขากางเกงเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันมากที่สุด และตลอดหลายปีที่ผ่านมาเชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนมีโอกาสได้เห็นพัฒนาการของเทรนด์ความยาวที่หลากหลายและการ Mix and Match ในสไตล์ต่าง ๆ ของมัน อย่างไรก็ตามความยาวมาตรฐานสำหรับการเลือกซื้อกางเกงขาสั้นที่เราอยากแนะนำคือ ปลายกางเกงควรอยู่เหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อยหรือประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่บริเวณต้นขา ซึ่งบางทรงอาจจะออกแบบมาให้พับปลายได้
‘กางเกงยีนส์’ คือไอเทมแฟชั่นสุดคลาสสิค ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ไม่มีวันตกเทรนด์ แถมบนหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่นของโลกเผยให้เห็นวิวัฒนาการของยีนส์ที่ยกระดับขึ้นในทุก ๆ ปี รวมถึงปีนี้ที่กางเกงยีนส์ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่โลดแล่นอยู่ในเทรนด์เสมอ UNLOCKMEN ได้รวบรวมกางเกงยีนส์ 4 แบบ 4 สไตล์ ของ Uniqlo ที่เหมาะกับแฟชั่นสไตล์ต่าง ๆ เพื่อให้เหล่าสุภาพบุรุษได้มิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ เซตสูทเข้าชุดทั้งเสื้อ กางเกง เนกไท เข็มขัด รองเท้าหนังเงาวับ อาจดูเป็นทางการมากเกินไปหน่อยในการนัดพบลูกค้าบางกรณี บางครั้งบางคราวแฟชั่นกึ่งทางการก็เป็นกุญแจสำคัญที่สร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับคู่สนทนา ลองปลดเนกไทหรือหูกระต่ายเก็บไว้ในลิ้นชัก เปลี่ยนจากเสื้อเชิ้ตติดกระดุมถึงเม็ดบนเป็นเสื้อยืด เปลี่ยนกางเกงสแลคเป็นยีนส์สักตัว พร้อมกับพกความมั่นใจไว้ไม่ให้ห่างกาย ทั้งหมดจะส่งให้เราโดดเด่นและมีมาด แถมยังเป็นตัวของตัวเองแบบไม่เกร็งหรือดูทางการเกินไปต่อหน้าลูกค้าก็น่าสนใจไม่น้อย กางเกงยีนส์กับแฟชั่นวันกึ่งทางการที่ UNLOCKMEN อยากแนะนำคือ กางเกงยีนส์รุ่น Ultra Stretch Skinny Fit สกินนี่ยืดหยุ่นพิเศษและสวมใส่สบายที่ทาง Uniqlo พัฒนาร่วมกับ ISKO บริษัทผลิตยีนส์ชั้นนำ ทำให้ Ultra Stretch Skinny Fit เต็มไปด้วยความยืดหยุ่นเป็นพิเศษด้วยอัตรายืดถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และคืนสภาพได้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์
‘ความคล่องตัว’ คือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนล้วนตามหา โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความรีบเร่ง เส้นแบ่งเวลาทํางาน เวลาพักผ่อน และเวลาออกไปทํากิจกรรมสุดเหวี่ยงนั้นไม่เคยตายตัว การมีนาฬิกาที่ตอบโจทย์เรื่องดีไซน์ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานทรงคุณภาพ และที่สำคัญคือต้องใช้งานได้จริง ถือเป็นหัวใจสําคัญสำหรับผู้ชาย Work Hard Play Hard อย่างเรา ๆ อย่างไรก็ตาม นาฬิกาที่ตอบโจทย์ฟังก์ชันลุย ๆ หรือเสริมความคล่องตัว อาจจะมีดีไซน์ไม่ค่อยจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องไปทํางาน หรือไม่สามารถแมทช์กับการแต่งตัวของ Urban men ได้เสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาฬิกาที่ผู้ชายต้องสวมใส่ติดตัวทุกวัน เรื่องฟังก์ชันต้องตอบโจทย์การใช้งานสูงสุด แต่ดีไซน์ก็ต้องเติมเต็มสไตล์ของ Urban Men จึงไม่ได้เจอที่ถูกใจกันง่าย ๆ แต่สำหรับ Tissot Seastar 1000 นี่คือนาฬิกาคุณภาพ Swiss ในราคาที่ครอบครองได้ง่าย และพร้อมใช้งานบนข้อมือของเราได้ในทุกสถานการณ์ทั้งในเมืองหรือในทะเล Tissot Seastar 1000 เรือนเวลาที่มีสุดยอดนวัตกรรมของนาฬิกาสปอร์ตในตัว ควบคู่กับดีไซน์โมเดิร์นร่วมสมัย สวมใส่ได้ทั้งในเมือง และพร้อมเติมเต็มความหลงใหลและกิจกรรมลุย ๆ ของผู้ชายได้ โดยเฉพาะผู้ชายที่หลงใหลการท่องเที่ยวทะเลหรือกีฬาทางนํ้า ชื่นชอบการเติมสีสันให้ชีวิตด้วยการโต้คลื่น เล่นเจทสกี ฟลายบอร์ด เวคบอร์ด เซิร์ฟ
รองเท้าคือหนึ่งในเครื่องแต่งกายที่ผู้ชายอย่างเราต่างให้ความสำคัญ การเลือกรองเท้าที่สวมใส่ให้เหมาะสมจะช่วยสร้างสไตล์ที่เนียนตา ไม่ว่าเราจะหยิบชุดไหนมาสวมใส่ออกจากบ้านก็ตาม โลฟเฟอร์ (Loafers) รองเท้าอีกหนึ่งชนิดที่หนุ่ม ๆ หลายคนรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะนี่คือคลาสสิกไอเทมที่เหมาะสมกับการแต่งตัวหลากหลายสไตล์และการลงทุนกับโลฟเฟอร์คุณภาพดี ๆ สักคู่จึงเป็นเรื่องที่เราอยากให้คนที่ยังไม่มีไอเทมชิ้นนี้ติดตู้ลองทบทวนกันดูอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ยังไม่มั่นใจว่าโลฟเฟอร์แบบจะเหมาะกับการตัวคุณ STYLE GUIDE วันจะขอพาหนุ่ม ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับรองเท้าชนิดนี้อีกครั้ง อย่ามัวเสียเวลาและมาทำความรู้จักไอเทมชิ้นนี้ไปพร้อมกันได้เลยครับ โลฟเฟอร์ (Loafers) คืออะไร ? โลฟเฟอร์คือชนิดรองเท้าที่ไม่มีเชือกผูกรองเท้าหรือเชือกผูกในส่วนต่าง ๆ โดยทั่วไปมักจะทำจากหนังหรือหนังกลับเรียกว่าเป็นโมเดล Slip-on ยุคแรกที่มอบทั้งสไตล์คลาสสิกและการสวมใส่ที่คล่องตัวจนทำให้หนุ่ม ๆ ทั่วโลกให้ความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน วัสดุของรองเท้าโลฟเฟอร์ สำหรับคนที่กำลังมองหาโลฟเฟอร์ รองเท้าชนิดนี้ส่วนใหญ่นิยมผลิตจากหนัง (Leather) หรือหนังกลับ (Suede) ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดมีจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกันออกไป เริ่มจากโลฟเฟอร์หนัง โลฟเฟอร์ชนิดนี้จะให้ความรู้สึกเรียบหรูจากหนังมันวาวซึ่งเหมาะกับสวมใส่กับชุดที่เป็นทางการรวมถึง Smart Casual ที่ดูคล่องตัว อย่างไรก็ตามโลฟเฟอร์ชนิดนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับขั้นตอนการเก็บรักษา การขัดเงาซึ่งจะช่วยรักษาอายุการใช้งานให้คงอยู่นานหลายปี ขณะที่โลฟเฟอร์หนังกลับเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับสวมใส่กับชุดที่เป็นทางการกว่า ละเอียดอ่อนกว่า เช่น Dress Pants หรือสวมใส่คู่กับสูทและชุดเป็นทางการที่เน้นความหรูหรามากกว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันการสวมใส่โลฟเฟอร์หนังกลับคู่กับชุดสไตล์อื่นก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ชนิดของโลฟเฟอร์ Penny Loafers: เริ่มต้นคู่แรกกับ
โลกของแฟชั่นกับการเมือง เป็นสองสิ่งที่อยู่คู่ขนานและเกี่ยวข้องกันมาโดยตลอด เสื้อผ้าแฟชั่นมักจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือแสดงด้านมุมมองทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการ Direct message อย่างข้อความบนเสื้อ แต่สำหรับกางเกงของ Patagonia แบรนด์ที่มีจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อม ก็เลือกที่จะแสดงออกแบบ easter egg แต่ก็ไม่พลาดสายตาประชาชนไปได้ ด้วยการสกรีนข้อความ “Vote the Assholes Out” ก่อนหน้ามีชาว Tweeter โพสต์รูปว่าป้าย label ของกางเกง Patagonia พร้อมข้อความที่ระบุชัดเจนอย่างตั้งใจว่า “Vote the Assholes Out” ซึ่งทางแบรนด์ได้ออกมายืนยันว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นความตั้งใจโจมตีนักการเมืองของ Donal Trumps ที่ไม่สนใจปัญหา Climate Change และมีแต่นโยบายทำลายธรรมชาติเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น Brad Wieners, Patagonia director of copy, ออกมายืนยันว่าป้ายและข้อความนั้นจะมีอยู่ในกางเกงรุ่น Regenerative Organic Stand-Up Shorts ทุกตัว ซึ่งเป็นกางเกงรุ่นคลาสสิคที่ผลิตตั้งแต่ปี 1973 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นและสัญลักษณ์ที่แบรนด์ก่อตั้งเพื่อช่วยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งคำว่า “Vote