ศิลปินฮิปฮอปกวนส้นเท้า / นักข่าวป่วนที่ชวนระอา / เผด็จการบ้าอำนาจ หรือดีไซน์เนอร์แต๋วแนวกัดจิก ทั้งหมดทั้งมวล เกิดจากตัวตนของผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่เพิ่งคว้ารางวัลลูกโลกทองคำนักแสดงนำชายสาขาภาพยนตร์เพลงและตลกมาหมาด ๆ จากภาคต่อของหนังโคตรกวนแต่ฮิต Borat ด้วยคาแรคเตอร์ที่ชอบสร้างสถานการณ์สุดประหลาดผ่านการถ่ายทำสารคดีเก๊ (Mockumentary) ที่คนดูโคตรขำ แต่คนถูกอำมักไม่ค่อยจะฮาด้วย การจิกกัดสังคมแบบสุดห่าม ทำให้ชายหนุ่มจากอังกฤษคนนี้ เป็นที่ถูกอกถูกใจของนักดูหนังที่ชอบความเกรียน และเฝ้าติดตามผลงานเรื่องต่อไปว่าเขาจะมาในคาแรคเตอร์ไหนอยู่เสมอ กระทั่งปีที่ผ่านมาการแสดงของเขาไม่ถูกจัดอยู่เพียงบทบาทฮา ๆ แต่ยังเดินหน้าสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการแสดงระดับคุณภาพที่ทำให้ได้เข้าชิงรางวัลสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยมจาก The Trial of the Chicago 7 อีกด้วย วันนี้เราขอพาย้อนไปทำความรู้จักคาแรคเตอร์ต่าง ๆ ที่สร้างชื่อให้กับเขา และจะพบว่าแต่ละตัวละครที่เขารับบทบาทนั้น กล้า ซ่า และบ้าดีเดือดขนาดไหน ก่อนหน้าที่ Sacha Baron Cohen จะหันเหเข้าสู่วงการตลก เขามีดีกรีถึงนักศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาประวัติศาสตร์จากมหาลัยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ก่อนจะค้นพบพรสวรรค์จากการเล่นตลกเมื่อเขาไปเรียนการแสดงเสริมที่ปารีส และเริ่มสร้างตัวตนผ่านคาแรคเตอร์แร๊ปเปอร์สุดแสบที่ชื่อ Ali G ที่เริ่มต้นจากแก๊กสั้นๆในรายการ The 11 O’Clock Show ของ Channel 4
เนื้อเรื่องของดาบพิฆาตอสูรภาคต่อใน Anime ที่เน้นการผจญภัยใน ‘โยชิวาระ’ ย่านอโคจรที่มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับเข้มงวดเหมือนด่านตรวจคนเข้าเมืองตามสนามบินในยุคปัจจุบัน อยู่ ๆ ดินแดนแห่งความรื่นเริงใจของบุรุษกลับเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาด เหมือนกับว่ามีปีศาจร้ายออกอาละวาด หน่วยพิฆาตอสูรแห่งยุคไทโช จึงต้องตามหาต้นตอของปัญหา จัดการเหล่าร้ายร่วมกับ ‘อุซุย’ เสาหลักเสียง …และนี่คือเรื่องราวคร่าว ๆ ของ ดาบพิฆาตอสูรแอนิเมชันซีซัน 2: ย่านเริงรมย์ ต้องเกริ่นกันไว้ก่อนว่า NIHON STORIES ตอนนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือการดื่มด่ำกับบรรยากาศของโยชิวาระในยุคไทโชที่ประชาธิปไตยเบ่งบาน อาจจะมีเนื้อหาที่ผู้รอชมแอนิเมชันอย่างใจจดใจจ่อแต่ไม่เคยอ่านมังงะไม่ควรได้รู้ตอนนี้ (เพราะจะเป็นการสปอยล์ให้เสียอารมณ์) ส่วนที่สองคือพาร์ทที่สามารถอ่านได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเปิดเผยเนื้อเรื่อง เนื่องจาก UNLOCKMEN เตรียมแผนไว้ในอนาคตข้างหน้า กับโยชิวาระในยุคปัจจุบัน หากโควิด-19 จบลงเมื่อไหร่ สถานที่ในมังงะก็กำลังรอให้ทุกคนได้ไปเยี่ยมเยียนเพื่อย้อนรอยความยิ่งใหญ่ของย่านบันเทิงที่มีปีศาจสิงสู่อยู่ ณ ที่แห่งนั้น *เนื้อเรื่องส่วนนี้มีการสปอยล์ต่อคนที่ยังไม่ได้อ่านมังงะ เนื้อเรื่องของดาบพิฆาตอสูรเล่ม 9 เริ่มต้นกับบท ‘แผนแทรกซึมเข้าย่านเริงรมย์’ หากใครเคยอ่านบทความของ NIHON STORIES ก่อนหน้านี้ที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ของดินแดนต้องห้ามโยชิวาระ จะรู้กันดีว่าบุรุษที่ต้องการเข้าเมืองนั้นไม่สามารถพกอาวุธ หรือเดินดุ่ม ๆ ไม่ดูตาม้าตาเรือเข้าย่านนี้ได้ หากจะทำอะไรบางอย่างนอกเหนือเพลิดเพลินกับสาวงามในโยชิวาระ ทุกอย่างต้องวางแผนไว้อย่างรอบคอบก่อนเสมอ กฎข้อบังคับที่เข้มงวดตั้งแต่หน้าประตู ทำให้อุซุยที่พยายามเข้าโยชิวาระในฐานะลูกค้าเพื่อสืบข้อมูล แต่เขากลับไม่ได้อะไรมากมายกลับมา
มีใครสักคนเคยบอกไว้ว่า คนที่เคยสร้างเสียงหัวเราะให้เรา เมื่อใดที่เขาจากไป เขาจะทำให้เราร้องไห้มากกว่าปกติหลายเท่า และทฤษฎีนี้ก็เป็นความจริง เมื่อเราได้รับข่าวสุดช็อคถึงการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนักแสดงสายฮา ที่แม้ไม่เคยมีโอกาสได้รับบทเด่นนักแสดงนำ แต่ชายผู้นี้กลับสร้างความรู้สึกที่ดี และเป็นที่จดจำพูดถึงได้ในฐานะนักแสดงสมทบมาอย่างยาวนาน UNLOCKMEN ขอพาทุกคนนั่งไทม์แมชชีน สำรวจ 5 บทบาทอันยอดเยี่ยมที่ผ่านมา ที่บางเรื่องยังสามารถหาชมได้ทางสตรีมมิ่งในขณะนี้ ไปย้อนดูความเก่งกาจของนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่และอารมณ์ดีท่านนี้ ที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม อู๋ม่งต๊ะ นักแสดงสมทบยอดเยี่ยมตลอดกาล A Moment to Romance (1990) – ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ ผลงานที่ทำให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากเด็กหนุ่มจากจีนแผ่นดินใหญ่ เดินทางมาไกลเพื่อเต็มเติมฝันในฐานะนักแสดงจากทีวีบีในยุค 70s อู๋ม่งต๊ะ แม้หน้าตาของเขาจะไม่หล่อดุจเทพบุตร แต่เขาก็พยายามค้นหาตัวตนจากการรับบทตัวประกอบมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เขาจะเลือกรับบทตัวร้าย เหตุผลเพราะในยุค 80s นั้นที่ว่างของตำแหน่งนี้ยังมีให้เขาได้รับอยู่เสมอ อู๋ม่งต๊ะจึงพยายามเล่นหนังที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ ขอให้ได้แสดง ก็เพียงพอแล้ว แต่บทบาทที่ทำให้คนดูหนังตราตรึง กลับหาใช่บทตัวร้ายที่เขาพยายามมาโดยตลอดไม่ แต่กลับเป็น Rambo ชายกระจอกไร้บ้าน รับจ้างล้างรถที่มาจอดแลกเศษเงิน เป็นทั้งลูกพี่และลูกกระจ๊อกของหลิวเต๋อหัวในคราวเดียวกัน ในหนังที่สร้างชื่อให้หลิวเต๋อหัวได้เป็นขวัญใจนักดูหนังชาวไทย นั่นก็คือ “ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ” นั่นเอง บทบาทนักเลงปลายแถวสุดกระจอก อวดดี และอยากเป็นนักเลงโตของอู๋ม่งต๊ะ ฉายภาพของคนจรไร้รากได้ทั้งน่าหมั่นไส้และน่าสงสารในคราวเดียวกัน
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าช่วงนี้กระแสของเหล่าแก๊งมาเฟียกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นข่าวรองหัวหน้าแก๊งยากูซ่าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเพิ่งออกจากคุกมาหมาด ๆ หรือภาพยนตร์มาเฟียเรื่อง The Irishman ของผู้กำกับดังออกฉายพร้อมกวาดรางวัลจากเวทีไปแล้วนับไม่ถ้วน ไปจนถึงเรื่องราวของแก๊งนักเลงปลายแถวจากย่านเบอร์มิงแฮมของเกาะอังกฤษที่นำมาสร้างเป็นซีรีส์เรื่อง Peaky Blinders ทั้งหมดสามารถโหมกระแสโลกผู้ชายให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ในวันนี้ UNLOCKMEN ไม่ได้มาเล่าถึงเรื่องราวในซีรีส์ของ Peaky Blinders แต่เน้นการเจาะลึกด้านแฟชั่นอันโดดเด่นของ Thomas Shelby กับชาวแก๊งของเขาว่าเพราะอะไรที่ทำให้ผมสั้นเกรียนเกือบทั้งหัว เสื้อโค้ตยาว หมวกรุ่นคุณปู่แสนเชย และมวนบุหรี่ถึงเท่มากเมื่ออยู่ในหนังเรื่องนี้ WHAT IS ‘PEAKY BLINDERS’ ? ย้อนกลับไปในเกาะอังกฤษคริสต์ศตวรรษที่ 19 ช่วงเวลาแห่งรอยต่อระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 ใครหลายคนไม่คาดคิดว่าโลกจะกลายเป็นสนามรบอีกครั้ง อังกฤษกำลังเจริญทางด้านอุตสาหกรรมแบบสุด ๆ แต่กลับไม่ใช่ทุกคนจะร่ำรวย ยังมีคนตกงานจำนวนมาก ชนชั้นแรงงานทำงานหนักเพื่อแลกกับเงินจำนวนน้อยนิด เกิดอาชญากรรมบ่อยครั้งในย่านที่ไม่ค่อยได้รับการใส่ใจ Peaky Blinders เป็นเรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากบุคคลที่มีตัวตนจริงในอังกฤษช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ในชีวิตจริงพวกเขาเป็นแก๊งอันธพาลเล็ก ๆ ในเมืองเบอร์มิงแฮม สมาชิกของกลุ่มส่วนใหญ่เป็นเยาวชนแต่งตัวจัดจ้าน จากคำบอกเล่าของผู้คนบอกว่า ชาวแก๊งบางคนมีแต่กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง เดินเตร่ไปมาบนถนน ไม่ได้มีอำนาจล้นมือมากขนาดนั้น
ช่วงนี้กระแสของการเล่น SurfSkate & Skateboard กลายเป็นเทรนด์ฮิตอย่างมาก ไม่เพียงแค่หมู่วัยรุ่นเท่านั้น แม้แต่วัยทำงานที่เคยมองผ่านกีฬา Extreme ชนิดนี้ในยุครุ่งเรืองก็เล่นกันให้เต็มบ้านเต็มเมืองเลยทีเดียว เหล่า celeb ที่โหมจนเซิร์ฟบกกลายเป็น Mega เทรนด์ใหม่ รวมไปถึงเด็ก ๆ ต่างก็พากันจับจองพื้นราบพื้นเนินตามสวนสาธารณะ เพื่อเล่นกีฬาสุดฮิตนี้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อปล่อยตัวไปตามไปตามแรงลมและลู่ล้อแห่งความอิสระเสรี เรามาดูวิวัฒนาการผ่านหนัง Surf Skate & Skateboard ที่แม้บางเรื่องจะหาดูยาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถในการรับชมได้ทาง Internet และบางเรื่องก็บันทึกช่วงเวลาสำคัญแห่งนักสเก็ตบอร์ดชื่อดังในตำนาน UNLOCKMEN ไม่อยากให้คุณพลาดกับที่สุดของหนังเหล่านี้ ถ้าพร้อมแล้ว ไถหน้าจอแล้วไปหาดูกันได้เลย คุณูปการสำคัญสำหรับ Skaterdater คือหนังที่ได้รับการบันทึกว่า “เป็นหนังสเก็ตบอร์ดเรื่องแรกของโลก” หนังสั้นไร้ไดอะล็อคเรื่องนี้ บันทึกภาพของเหล่าเด็กสเก็ตเท้าเปล่าที่โชว์ความโลดโผนบนท้องถนน ผ่านสายตาผู้คนในชุมชนมากมายที่บ้างมองด้วยความทึ่ง บ้างมองด้วยความดูถูกดูแคลน แต่หนุ่มน้อยคนหนึ่งในแก๊งกลับผ่าเหล่าเมื่อเขาได้ชนกับเด็กสาวที่ขี่จักรยานโดยบังเอิญ จนกลายเป็นความรัก / ความขัดแย้งของกลุ่ม / การแบทเทิ่ล และการเรียนรู้ของชีวิตในแบบ Coming-of-Age จนเรียกได้ว่าเป็น “แฟนฉัน” ฉบับ Skateboard ได้เลย หนังสั้นเพียง 15
เพราะกระบวนการทำหนังนั้นมีผู้เกี่ยวข้องที่หลากหลายกว่าจะเสร็จสิ้นจนเป็นหนังที่สมบูรณ์แบบให้ทุกคนได้รับชมกัน ซึ่งหัวเรือใหญ่ที่นำพาให้หนังเรื่องหนึ่งถึงฝั่งได้สำเร็จนั้นเป็นที่เข้าใจกันว่า “ผู้กำกับภาพยนตร์” ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว หากแต่กระบวนการสุดท้ายที่แท้จริงนั้นจะตกอยู่กับทั้ง สตูดิโอผู้สร้าง, นายทุน (Executive Producer) และผู้อำนวยการสร้าง (Producer) ที่มีสิทธิ์อันชอบธรรมในการนำเสนอภาพยนตร์ไปสู่ขั้นตอนสุดท้าย และเป็นข้อตกลงปกติที่ผู้กำกับจะรับทราบและปล่อยผ่านให้ 3 ตำแหน่งนี้มีสิทธิ์เด็ดขาดในการควบคุมหนังในวินาทีสุดท้ายก่อนฉายให้ได้ชมกัน จึงมีหนังหลายต่อหลายเรื่องที่ท้ายที่สุดอาจจะออกมาไม่ถูกใจผู้กำกับ และจำยอมต้องให้หนังเรื่องนี้ออกฉายไปด้วยความจำยอม ซึ่งส่วนใหญ่ข้อพิพาทระหว่างผู้กำกับกับผู้อำนวยการสร้างและนายทุน ไม่พ้นความยาวของหนังที่ยาวกว่าปกติจนต้องหั่นสั้นเพื่อให้ฉายทำรอบได้ หรือการตีความใหม่ของผู้กำกับที่ลึกล้ำเกินกว่าคนทั่วไปจะเข้าถึง ซึ่งทำให้บางเรื่องเมื่อถูกบิดเบือนไปจากผู้กำกับ ก็นำมาซึ่งหายนะทางตารางทำเงิน ไปจนถึงการโห่ไล่ของนักวิจารณ์และแฟน ๆ จนเกิดทางเลือกใหม่ของนักดูหนัง นั่นก็คือหนังฉบับ Director’s Cut ที่ออกฉายที่หลังแต่เป็นความตั้งมั่นและสาสน์ของผู้กำกับที่ต้องการเล่าเรื่องในแบบที่เขานั้นต้องการโดยไม่ผ่านเงื่อนไขทั้งในเรื่องความยาวหรือการตีความในเชิงศิลปะ ดังเช่นผู้กำกับคนดังอย่าง Zack Snyder ต้องการบูรณะหนัง Justice League หลังจากที่บทวิจารณ์ในช่วงฉายใหม่ ๆ ไม่ค่อยสู้ดีนัก ก่อนที่เราจะไปชมที่มาของซีรีส์ขนาดยาวของ Justice League เรามาย้อนดูหนังที่ผู้กำกับบูรณะใหม่แล้วปังเพื่อดูแนวคิดของพวกเขากัน และคุณจะรู้ว่า หนังฉบับ Director’s Cut นั้นมีคุณค่ากว่าที่คุณคิด หนังคาวบอยที่ทิ้งทวนยุคสมัยของฮีโร่บนหลังม้าที่มักจะเสนอแต่ภาพฮีโร่โรแมนติก แต่ Sam Peckinpah ผู้กำกับจอมซาดิสต์กลับมองว่า “หนังที่ยิงกันเลือดไม่สาด มันจะสวยสดงดงามได้ยังไงวะ” ว่าแล้วก็จัดหนักให้กลายเป็นหนังคาวบอยที่ปฏิวัติรูปโฉมของโลกตะวันตก
หนึ่งในการโจรกรรมเหนือเวหาระดับตำนานจากยุค 70 ที่ผ่านกาลเวลายาวนานกว่าสองทศวรรษ แต่ยังคงถูกพูดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ในฐานะคดีลึกลับของชายที่ใช้นามแฝง “D. B. Cooper” ก่อเหตุจี้เครื่องบินเรียกเงินค่าไถ่จำนวนมหาศาล และหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอยจน FBI ไม่สามารถไขคดีได้จนถึงปัจจุบัน ย้อนกลับไปในช่วงบ่ายของวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 1971 มีชายผิวขาววัยกลางคน บุคลิกสุขุมเงียบขรึม ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกเนคไทสีดำ และสวมเสื้อสูทสีดำเหมือนนักธุรกิจ เขาเดินตรงมาที่เคาน์เตอร์ของสายการบินนอร์ธเวสต์ แอร์ไลน์ (Northwest Airlines) เขาใช้เงินสดซื้อตั๋วเที่ยวบิน 305 ที่มุ่งหน้าไปยังซีแอตเทิล เมืองท่าชายฝั่งในรัฐวอชิงตัน ภายใต้นามแฝง แดน คูเปอร์ (Dan Cooper) เครื่องบินลำดังกล่าวคือเครื่องโบอิ้ง 727 เขาเลือกนั่งในตำแหน่ง 18C ที่ด้านหลังสุดของห้องโดยสาร เขาได้สั่งเบอร์เบินกับโซดามานั่งจิบแบบสบายอารมณ์ และในเวลา 14:50 น. เที่ยวบิน 305 ได้ออกบินตามกำหนดเวลา และเพียงแค่ 10 นาทีต่อมา คูเปอร์ได้ยื่นกระดาษโน้ตให้แอร์โฮสเตสที่นั่งใกล้เขามากที่สุด ฟลอเรนซ์ แชฟฟ์เนอร์ (Florence Schaffner)
รวมหนัง Fuck the System ที่ผู้ชายต้องดูก่อนตาย
แม้ก่อนหน้านี้พวกเรา UNLOCKMEN จะเคยเล่าถึงความสำเร็จของมังงะเรื่อง Demon Slayer หรือ ดาบพิฆาตอสูรกันมาแล้วใน ‘ดาบพิฆาตอสูร การตื่นครั้งใหม่ของมังงะใกล้ตาย สู่รายได้หลักพันล้านเยน’ ในกรณีที่ทำลายสถิติยอดขายหนังสือการ์ตูนเล่มแซงแชมป์เก่าที่ครองอันดับหนึ่งนานกว่าสิบปีอย่าง One Piece ไปได้อย่างงดงาม ประกอบกับเอ่ยถึงความเป็นมาของมังงะนอกสายตาที่ได้โอกาสพลิกกระแสกลับมาอย่างงดงาม แต่ตอนนี้ ดาบพิฆาตอสูรได้สร้างสติถิใหม่อีกครั้งด้วยการล้มยักษ์จากสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ลงไปแบบไม่มีใครคาดคิด หลังจากหนุ่ม ๆ ที่เสพมังงะเรื่องดาบพิฆาตอสูรรับชมซีรีส์แอนิเมชันซีซันแรกกันไปเรียบร้อยแล้ว หลายคนยังคงอดใจรอให้ดาบพิฆาตอสูรฉบับภาพยนตร์เข้าฉายในโรงหนังสักที แม้ตอนนี้ทั่วโลกจะพบกับวิกฤตใหญ่ร่วมกันอย่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เชื้อไวรัสก็ไม่สามารถหยุดยั้งให้แฟนมังงะ โดยเฉพาะกับผู้ชมประเทศญี่ปุ่น แห่แหนเข้าโรงหนังไปรับชมความอลังการของเนื้อเรื่องและเทคนิคพิเศษสวยงามที่จัดเต็มแบบไม่มีกั๊กได้ ‘Demon Slayer the Movie Mugen Train (2020)’ หรือ ‘ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ ศึกรถไฟนิรันดร์’ ที่ได้ โซโตซากิ ฮารุโอะ (Sotozaki Haruo) นั่งแท่นกำกับ ก็สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 3.25 หมื่นล้านเยน คิดเป็นเงินไทยราว 9.4 พันล้านบาท ตีเป็นหัวได้ประมาณ 24
ใครยังไม่เคยดู Alice in Borderland ของ Netflix บ้าง? เราแนะนำว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์ดีที่ต้องดู ศักยภาพของมันทำให้เราติดหนึบจนดูจบในรวดเดียวได้ไม่ยาก Alice in Borderland คือซีรีส์ที่กำกับโดย Shinsuke Sato แลเขียนโดย Yasuko Kuramitsu ผลงานของ Netflix Asia สร้างจากผลงานเวอร์ชัน manga ของอาจารย์ Haro Aso การ์ตูนยอดฮิตใน Weekly Shonen Sunday ตลอดช่วงปี 2010-2016 โดย Season 1 มีทั้งหมด 8 episodes แรงติดอันดับ Netflix’s Top 10 ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และทำให้นักแสดงนำอย่าง Kento Yamazaki (Arisu) และ Tao Tsuchiya (Usagi) เป็นที่รู้จักของคนทั้งโลกในทันที ล่าสุด