เชื่อว่าในตอนนี้ทุกคนน่าจะลืมไปเลยว่าเมื่อคืนมีเกมระหว่าง Manchester United กับ Liverpool ที่ดูจากรูปเกมแล้วน่าจะเป็น ‘แดงกร่อย’ หรือ ‘แดงเจ็บ’ มากกว่าจะเป็น ‘แดงเดือด’ นอกจากจะไม่มีอะไรน่าจดจำตลอด 90 นาทีแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมคู่ดึก ซึ่งเป็นนัดชิงชนะเลิศศึก Carabao Cup (League Cup) ระหว่างเรือใบสีฟ้า Manchester City กับสิงโตน้ำเงินคราม Chelsea นั้นร้อนแรงเสียจนโลกลูกหนังต้องหยุดหมุน แล้วหันมาพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวโดยพร้อมเพียงกัน นัดชิงชนะเลิศจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 ใน 120 นาที ก่อนที่ Manchester City จะใช้ความเยือกเย็นเอาชนะไปได้ด้วยการดวลจุดโทษ โดยรวมก็ถือว่าเป็นเกมที่ดีเกมหนึ่ง ถ้าไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ในขณะที่เกมกำลังเข้าสู่ช่วงท้าย จิตใจทุกคนจดจ่อกับการดวลจุดโทษที่อาจจะเกิดขึ้น อยู่ ๆ Kepa Arrizabalaga ผู้รักษาประตูเลือดกระทิงดุของทีม Chelsea เจ้าของค่าตัวสถิติโลกก็เกิดอาการบาดเจ็บ (จากการสันนิษฐานของสื่อหลายสำนักคาดว่าเกิดอาการตะคริวขึ้นหรือไม่ก็แกล้งเจ็บเพื่อเผาเวลา) Maurizio Sarri ผู้จัดการทีม Chelsea จึงตัดสินใจส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัว โดยให้ Willy Caballero ผู้รักษาประตูมือ 2 ไปเตรียมตัวสแตนด์บาย (หลายฝ่ายให้ความเห็นว่าต่อให้ Kepa
ถ้าจะให้พูดถึงลีกฟุตบอลอาชีพที่ดีที่สุดในโลก ลีกอังกฤษน่าจะติดโผเป็นอันดับต้น ๆ ในใจของใครหลายต่อหลายคน ด้วยรูปแบบการเล่นที่ดุเดือดเลือดพล่าน ชนิดที่ว่านักเตะดัง ๆ จากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง หรือรุ่นเก๋าฝีเท้าดีมาจากไหนก็ตาม หากกระดูกไม่แข็งพอ ปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติฟุตบอลอังกฤษไม่ได้ ดาวเด่นทั้งหลายก็อาจกลายร่างเป็นดาวดับได้ในพริบตา ซึ่งผลพวงจากการแข่งขันคับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นของเหล่านักเตะ รวมไปถึงสโมสร ทำให้ฟุตบอลอังกฤษนั้นขึ้นชื่อเป็นลีกคุณภาพที่ผลิตนักเตะดาวดังระดับโลกขึ้นมาประดับวงการมากมาย อีกทั้ง Premier League หรือลีกฟุตบอลอาชีพสูงสุดของอังกฤษ ยังเป็นลีกที่ผู้คนต่างให้ความสนใจ ทำรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแมทช์การแข่งขันทั่วโลกไปแบบอื้อซ่า และไม่ใช่เพียงแค่การแข่งขันบอลลีกอาชีพอังกฤษเท่านั้นที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ทางด้านทัวร์นาเมนต์การแข่งขันบอลถ้วยบนเกาะอังกฤษก็ได้รับความนิยมในระดับ World Class ไม่แพ้กัน โดยในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ กำลังจะถึงเวลาเปิดศึกระเบิดแข้งนัดใหญ่ที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้าจับตาดู ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ EFL Cup (English Football League Cup) หรือที่รู้จักกันดีในนามลีกคัพ ระหว่างทีมแชมป์เก่าเรือใบสีฟ้า Manchester City ที่จะมาป้องกันถ้วยแชมป์จากพลพรรคสิงห์บลู Chelsea และที่น่าสนใจไม่แพ้การร่วมลุ้นว่าใครจะคว้าแชมป์ครั้งนี้ไป ก็คือเรื่องราวแห่งความภาคภูมิใจของพวกเราชาวไทย ซึ่งใครที่ไม่ได้เป็นคอบอล อาจยังไม่รู้ว่าล่าสุดการแข่งขัน EFL Cup อีกหนึ่งบอลถ้วยสำคัญของวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 59 ปี ได้เปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น
เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน แฟนคลับลูกหนังของทีมฟุตบอลปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงพอจะเห็นข่าวคราวที่ว่ามีนักเตะเยาวชนเด็กไทยจะได้เซ็นสัญญากับสังกัดแมนยู ฯ ผ่านตากันมาบ้าง รวมถึงเรื่องของฝีเท้าที่ไม่ธรรมดาทั้งที่ยังอายุน้อย กับลูกเตะฟรีคิกคิกอันโด่งดังของ Corbyn Murray ที่สื่อเทียบเคียงได้กับลูกเตะฟรีคิกของอดีตนักเตะชื่อดังอย่าง เดวิด แบคแฮม กันเลยทีเดียว คอร์บิ้น เมอร์เรย์ หรือ Corbyn Murray เด็กหนุ่มผู้โตมากับครอบครัวที่รักการเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เพราะปู่เป็นนักฟุตบอลเก่า พ่อก็ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้เป็นอย่างมาก Corbyn ก็เลยคลุกคลีอยู่กับฟุตบอลมาโดยตลอด และเมื่อเขาอายุ 8 ขวบ ก็ได้รับข้อเสนอจากสโมสรฟุตบอลของอังกฤษ และทำให้เขากลายเป็นนักเตะเยาชนลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย อย่างที่รู้กันดีว่าสโมสรแมนยู ฯ นั้นมีการคัดเลือกนักเตะระดับเยาวชนที่มีความเข้มข้น แต่ด้วยพรสวรรค์ที่โดดเด่นทำให้ Corbyn สามารถติดทีมเยาวชนของสโมสรชื่อดังอย่าง Manchester United ไม่ได้มีเพียงแค่สโมสร Manchester United เท่านั้น แต่ยังมีอีก 4 สโมรสรที่พร้อมจะรับ Corbyn เข้าทีมอคาเดมี ทั้ง Liverpool ที่เป็นทีมฟุตบอลโปรดของ Corbyn นอกจากนี้ยังมีสโมสร Blackburn Rovers F.C. ,
เดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ทั่วโลกได้เห็นทีมชาติม้ามืดที่พาตัวเองผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศสในศึก 2018 FIFA World Cup แม้ผลจะออกมาว่า Croatia ต้องพ่ายแพ้ไป แต่มันก็ยิ่งใหญ่พอจะทำให้คนทั้งประเทศยกย่องให้นักเตะชุดนี้เป็นฮีโร่ตัวจริงถึงขั้นขนานนามว่าเป็น “Golden Generation” ที่ประกอบด้วยนักเตะดี ๆ มากมาย โดยหนึ่งในนั้นก็คือ Luka Modric กัปตันทีมชาติ Croatia นักเตะ midfielder จาก Real Madrid ที่สามารถคว้ารางวัล Ballon d’Or ปีล่าสุด เบียด Messi และ Ronaldo ได้อย่างสวยงาม “Luka Modric เป็นนักเตะที่ครบเครื่องและแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่มีส่วนสำคัญทั้งกับทีมชาติและสโมสร การวิ่งเข้าใส่แบบถวายชีวิตไม่มีเหนื่อย ความสามารถในการทำประตู การขับเคลื่อนเกม และการสร้างกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนสังเกตเห็นได้จากตัวของเค้า” แต่ถ้าเราย้อนกลับไปดูลึก ๆ จะเห็นถึงความพยายามและความกระหายในการเล่นฟุตบอลของ Luka Modric ชายผู้เกิดมาในช่วงสงครามที่แย่ที่สุดของ Croatia ชายผู้เกือบจะสูญเสียทุกอย่างไป มีเพียงเศษกระดาษที่ปั้นเป็นลูกบอลกลม ๆ คอยประคองให้ตัวเค้าก้าวผ่านความเลวร้ายเหล่านั้น และเป็นแรงผลักดันให้เค้ารักฟุตบอลอย่างสุดหัวใจ Lucky Luka คือชื่อเล่นของนักเตะกองกลางที่เรารู้จักกันดีในชื่อ LUKA
ถือว่าเปิดหัวได้สวยพอสมควรสำหรับฟุตบอลชายทีมชาติไทยในทัวร์นาเมนต์ AFF Suzuki Cup 2018 หรือ ASEAN Cup หลังจากถล่มสมันน้อยประจำกลุ่มอย่างทีมชาติติมอร์-เลสเต ไปถึง 7-0 ต่อด้วยยัดเยียดความปราชัยให้กับมหามิตรอินโดนีเซียในนัดต่อมา 4-2 เรียกได้ว่าคลายความกดดันไปได้พอสมควร AFF Suzuki Cup 2018 ถือว่าเป็นบทพิสูจน์ของจริงบทแรกสำหรับกุนซือ Milovan Rajevac หลังจากที่เขาเข้ามารับตำแหน่งนี้เมื่อต้นปี 2017 ถึงแม้ที่การคุมทีมของกุนซือวัย 64 กะรัตที่ผ่านมา ทีมชาติไทยจะทำผลงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจ แต่ส่วนใหญ่คือนัดกระชับมิตรแทบทั้งสิ้น รายการนี้จึงเปรียบเสมือน ‘การลองของจริง’ ครั้งแรก AFF Suzuki Cup 2018 สำหรับรายการนี้ทีมชาติไทยและ Rajevac ไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากต้องได้แชมป์สถานเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเก้าอี้ของกุนซือชาวเซอร์เบียคนนี้จะร้อนทันทีเนื่องจากแฟนบอลส่วนใหญ่พร้อมจะนำเขาไปเปรียบเทียบกับ ‘ซิโก้’ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติไทยกุนซือคนก่อนหน้า ในยุคของซิโก้นั้นเขาสามารถพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์รายการนี้ได้ถึง 2 สมัยซ้อน ด้วยสไตล์การเล่นที่สวยงามและสามารถปลุกกระแสความนิยมฟุตบอลไทยขึ้นมาได้อีกครั้ง ดังนั้นถ้า Rajevac ไม่สามารถพาทีมชาติไทยคว้าถ้วยรายการนี้มาฝากแฟนบอลได้ เชื่อขนมกินได้เลยว่าเขาจะต้องโดนกระแสกดดันอย่างหนักแน่นอน แต่โจทย์ของ Rajevac นั้นดูจะยากกว่าของซิโก้อยู่นิดหน่อย เนื่องจากเขาเลือกที่จะไม่เรียกผู้เล่นคนสำคัญที่ค้าแข้งอยู่ต่างประเทศมาร่วมทีมสู้ศึก AFF ครั้งนี้ การขาด กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา,
นาทีนี้คงไม่มีทีมไหนมีฟอร์มร้อนแรงไปกว่า เรือใบสีฟ้า Manchester City แชมป์เก่าแห่งศึก Premier League อังกฤษอีกแล้ว เพราะตั้งแต่ฤดูกาล 2018-2019 เปิดม่านมาพวกเขายังสะกดคำว่าปราชัยไม่เป็น (นับเฉพาะเกมลีค) นอกจากนั้นยังระเบิดสกอร์ไปกว่า 36 ประตู เสียเพียง 5 ประตูเท่านั้น และล่าสุด Manchester City ก็จัดการคู่อริร่วมเมืองอย่าง ปีศาจแดง Manchester United ไปด้วยสกอร์ 3-1 ส่วนในศึกถ้วยยุโรปอย่าง UEFA Champions League ถึงแม้พวกเขาจะพ่ายแพ้ต่อ Olympique Lyonnais คาบ้าน แต่ต่อมาเรือใบสีฟ้าลำนี้ก็ทะลวงเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง Shakhtar Donetsk และ 1899 Hoffenheim แบบไม่ยั้งเท้า หลังผ่านการแข่งขันมา 12 นัด พวกเขาเก็บได้ 12 แต้ม เส้นทางสู่การทำลายสถิติเดิมของตัวเองเมื่อปีก่อนที่ 100 แต้มยังเปิดกว้าง ถ้าจะพูดว่านี่คือหนึ่งในสโมสรฟุตบอลชุดที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ก็คงจะไม่เกินไปนัก แต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขนาดนี้? แล้วจะมีทีมไหนสามารถหยุดเรือใบสีฟ้าลำนี้ได้หรือไม่? ขุมกำลังแกร่งทั่วแผ่น แน่นอนว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำมาสู่ความสำเร็จระดับนี้คือคุณภาพนักเตะที่เก่งคับแก้ว ซึ่งถ้าลองไล่เรียงตั้งแต่ผู้รักษาประตูถึงศูนย์หน้าจะพบว่า Manchester City ทีมนี้แทบไม่มีจุดอ่อนเลย Ederson Moraes นายทวารทีมชาติบราซิลที่โดดเด่นเรื่องการเล่นบอลด้วยเท้า
ย้อนไปเมื่อปี 2010 หรือ 8 ปีที่แล้ว ถ้ามีคนเดินมาบอกว่าสโมสร Leicester City F.C. สโมสรที่คว้าอันดับ 5 ในลีคระดับ Championship ฤดูกาล 2009-2010 จะคว้าแชมป์ Premier League ในอีก 5 ปีต่อมา ผมคงด่าคน ๆ นั้นว่าบ้า เพ้อเจ้อ หรืออาจจะคิดว่าเขาเสพสารเสพติดมาเกินขนาด เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหนก็แทบเป็นไปไม่ได้ อย่าว่าแต่แชมป์เลย แค่จะเลื่อนชั้นขึ้นสู่ Premier League ก็ยากเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขาแล้ว แต่แล้วชายชาวไทยคนหนึ่งก็เข้ามาพร้อมทุบทำลายกำแพงแห่งความเป็นไปไม่ได้นั้นทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง ชื่อของชายคนนั้นคือ ‘วิชัย ศรีวัฒนประภา’ จากสิงโตน้ำเงินคราม เช่นเดียวกับผู้ชายทั่วไป วิชัยและลูกชายอย่าง อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา หลงใหลในเกมลูกหนัง โดยเฉพาะศึก Premier League อังกฤษ ดังนั้นในปี 2010 ในขณะที่ Leicester City F.C. ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ในศึก Championship ทีมสุนัขจิ้งจอกทีมนี้จึงไม่ได้อยู่ในสายตาของพ่อลูกคู่นี้เลยแม้แต่น้อย เพราะในขณะนั้นพวกเขาคือสาวกตัวจริงของทีมสิงโตน้ำเงินคราม Chelsea และด้วยฐานะทางการเงินที่มั่งคั่ง วิชัยสนับสนุนทีมรักของตัวเองทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ็อกซ์ VIP แทบทุกปีหรือแม้กระทั่งการซื้อป้ายโฆษณาในสนาม Stamford
ในโลกแห่งการ์ตูนญี่ปุ่น ถ้าพูดถึงการ์ตูนโจรสลัดก็ต้องนึกถึง One Piece, การ์ตูนนินจาก็ต้อง Naruto, หรือถ้าข้ามมาฝั่งประเภทการ์ตูนกีฬา เทนนิสก็ต้อง Prince of Tennis, บาสเก็ตบอลก็ต้อง Slam Dunk, และสุดท้ายการ์ตูนฟุตบอลแน่นอนว่าจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก ‘กัปตันซึบาสะ’ การ์ตูนฟุตบอลซึ่งเปรียบเสมือนหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นเรื่องนี้ให้กำเนิดโดย Yoichi Takahashi นักเขียนการ์ตูนผู้บ้าเกมลูกหนังอยู่เป็นทุนเดิม ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Weekly Shonen Jump เมื่อปี 1981 หรือกว่า 37 ปีที่แล้ว ‘การ์ตูนสร้างชาติ’ คือฉายาที่บรรดานักอ่านมอบให้กัปตันซึบาสะ เนื่องจากก่อนหน้าที่การ์ตูนเรื่องนี้จะตีพิมพ์ ประเทศญี่ปุ่นแทบจะไม่เคยประสบความสำเร็จในเรื่องฟุตบอล ไม่เคยแม้แต่ได้เข้าร่วมศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย กัปตันซึบาสะคืออัศวินม้าขาวที่เข้ามาปลุกกระแสความนิยมในเกมลูกหนังแดนปลาดิบ เด็กจำนวนมากหันมาเล่นฟุตบอลเพราะได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนเรื่องนี้ จากประเทศสมันน้อยในเวทีโลกก็เริ่มปีกกล้าขาแข็งขึ้น สามารถต่อกรกับยอดทีมชั้นนำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกได้สำเร็จในปี 1998 และไม่ใช่แค่เด็กอาทิตย์อุทัยเท่านั้นที่มีกัปตันซึบาสะเป็นแรงบันดาลใจ การ์ตูนเรื่องนี้ไปไกลกว่านั้นมาก นักฟุตบอลระดับโลกในปัจจุบันหลายคนก็มีทุกวันนี้ได้เพราะการ์ตูนเรื่องนี้เหมือนกัน Fernando Torres อดีตตำนานกองหน้าทีมชาติสเปนผู้มาพร้อมฉายา ‘El Nino’ ถึงแม้ในปัจจุบันสภาพร่างกายและฟอร์มการเล่นจะถดถอยลงตามกาลเวลา แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาคือหนึ่งในจอมล่าตาข่ายที่ดีที่สุดแห่งยุค ครบเครื่องทั้งความเร็ว การหาช่อง และการจบสกอร์อันเฉียบคม Fernando Torres เกิดและเติบโตในเมือง Fuenlabrada เมืองเล็ก
มหกรรมฟุตบอลระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ‘UEFA Champions League’ ศึกชิงจ้าวยุโรปประจำฤดูกาล 2018-2019 เวียนมาอีกครั้ง ปีนี้บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ต่างก็กรีธาทัพเข้าร่วมเหมือนเช่นเคย ดังนั้นการันตีความมันได้เลยว่าไม่แพ้ปีก่อน ๆ แน่นอน ล่าสุดก็จับสลากแบ่งกลุ่มกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่ารอช้าดีกว่า ไปดูกันเลยว่าแต่ละกลุ่มหน้าตาเป็นยังไงพร้อมบทวิเคราะห์เจาะลึกจากทีมงาน UNLOCKMEN Group A กลุ่มนี้คือกลุ่มที่มีความสมดุลที่สุดก็ว่าได้ เพราะแต่ละทีมมีศักยภาพไล่เรียงกันลงมาตามลำดับโถที่อยู่ แน่นอนว่าทีมเต็งจ๋าว่าที่แชมป์กลุ่มคงหนีไม่พ้น ‘ตราหมี’ Atletico Madrid เพราะถึงแม้ชื่อชั้นของทีมจะดูสูสีใกล้เคียงกับ ‘Borussia Dortmund’ เพื่อนร่วมกลุ่ม แต่ประสบการณ์และความเคี่ยวในเวทียุโรปของยอดทีมแห่งสเปนมีมากกว่าพอสมควร ส่วน ‘Monaco’ ถึงแม้ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจะพัฒนาขึ้นมาจนสามารถต่อกรกับบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ได้สนุก แต่มาในปีนี้ต้องยอมรับว่าขุมกำลังของพวกเขาอ่อนลงพอสมควรเนื่องจากมีการปล่อยสตาร์ประจำทีมออกไปหลายคนและเน้นปั้นดาวรุ่งเป็นหลักเพื่อรักษาสถานภาพทางการเงิน UCL ปีนี้จึงไม่น่าจะใช่ปีที่ดีสำหรับยักษ์หลับแดนน้ำหอม ทีมสุดท้าย ‘Club Brugge’ ถึงแม้จะพกพาดีกรีแชมป์ลีคเบลเยี่ยมมาด้วย แต่เมื่อเทียบกับอีก 3 ทีม เกรดบอลพวกเขายังดูเป็นรองชัดเจน การหักปากกาเซียนจึงอาจเกิดได้ยากในกลุ่ม A นี้ มุ่งตรงสู่รอบต่อไป: Atletico Madrid, Borussia Dortmund มุ่งตรงสู่ Europa League: Monaco มุ่งตรงกลับบ้าน: Club Brugge Group B อย่างที่บอกไปว่าสังเวียน
ตอนนี้ทั่วโลกคงไม่มีใครไม่รู้จักท่าดีใจนิ้วลวงตาของ Dele Alli สุดยอดกองกลางดาวรุ่งพุ่งแรงทีมชาติอังกฤษจากค่ายไก่เดือยทอง Tottenham Hotspur แม้คุณจะไม่ใช่คอฟุตบอลและไม่รู้จัก Dele Alli ด้วยซ้ำ แต่เชื่อว่าภายในชั่วไม่กี่วันนี้คุณต้องเคยลองทำท่านี้เลียนแบบเขาโดยไม่รู้ตัวแน่นอน ซึ่งด้วยความที่ท่าดีใจนี่เหมือนเป็นกึ่งมายากลนิด ๆ จึงทำให้มัน Viral ไปทั่วทั้งโลกในเวลาอันรวดเร็ว แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่าดีใจของนักฟุตบอลกลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งโลก เพราะในอดีตที่ผ่านมาก็มีนักเตะหลายคนคิดค้นท่าดีใจเจ๋ง ๆ ขึ้นมาและหลายต่อหลายท่าก็ยังอยู่ในความทรงจำของเรารวมถึงแฟนบอลทั่วโลก จนเรียกว่าเป็นตำนานของวงการลูกหนังก็ว่าได้ ส่วนจะมีท่าพิสดารแบบไหนมาจากนักเตะคนใดกันบ้างไปดูกันเลย Bebeto and Friends หนึ่งในสิ่งที่น่าจดจำที่สุดในฟุตบอลโลกปี 1994 คือท่าดีใจของ Bebeto พร้อมเพื่อนร่วมทีมชาติบราซิลอีก 2 คนอย่าง Romario และ Mazinho เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรอบก่อนรองชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างทีมชาติบราซิลและทีมชาติเนเธอร์แลนด์ และในนาทีที่ 63 หลัง Bebeto ยิงประตูได้เขาก็วิ่งมาหน้าอัฒจันทร์คนดูพร้อมดีใจด้วยท่าอุ้มเด็กก่อนที่เพื่อนอีก 2 คนจะตามมาสมทบ ความหมายที่ซ่อนอยู่ในท่าดีใจนี้คือภรรยาของ Bebeto กำลังตั้งครรภ์อยู่ เขาตั้งใจจะมอบให้ลูกก่อนจะลืมตาดูโลก เป็นท่าดีใจแสนอบอุ่นก่อนที่ต่อมาใครที่กำลังจะมีลูกเมื่อยิงประตูได้ก็มักจะดีใจท่านี้กันแทบทุกคน Cristiano Ronaldo นักเตะซูเปอร์สตาร์ของโลกคนปัจจุบันผู้มาพร้อมท่าดีใจอันเป็นเอกลักษณ์ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นท่าที่แปลกพิสดารอะไรแต่ความเท่นี่ต้องให้คะแนนเต็ม จึงไม่แปลกที่ท่านี้จะแพร่กระจายไปทั่วโลก รวมถึงนักเตะทีมชาติไทยหลายคนก็เคยดีใจสไตล์ CR7 กันมาแล้ว Bafetimbi