“ครั้งแรกที่ Lambretta ติดต่อมาโอ้รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเราเองเป็นคนที่ชอบสกู้ตเตอร์ สะสมแลมอยู่แล้ว การที่วันนึงมีโอกาสได้มาเป็นตัวแทนของ Lambretta มันเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายมากจริง ๆ” นี่คือความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับ Lambretta ของ ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ หนุ่มอารมณ์ดี เจ้าของดีกรีพระเอกพันล้าน ที่มีอีกด้านของชีวิตเป็นสาวกแลมตัวยง ชนิดที่ว่าเจาะเลือดออกมาตรวจดูก็จะเจอความเป็น #เลือดกรุ๊ปแลม ไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกันเลยทีเดียว และวันนี้เราจะชวนชาว UNLOCKMEN ไปดูความเข้มข้นใน #เลือดกรุ๊ปแลม ของ ‘มาริโอ้’ ไปพร้อมกัน นับย้อนไปตั้งแต่วันที่ผู้ชายคนนี้เริ่มมีใจให้กับ Lambretta “จุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้มาเจอกับ Lambretta ต้องขอย้อนไปตั้งแต่วัยเด็กก่อน เพราะโอ้ถูกปลูกฝังความเป็นนักสะสมมาตั้งแต่เด็ก คุณพ่ออยากให้ลูกมีงานอดิเรก ก็เลยแนะนำให้ลองหาของสะสมดู เราก็เริ่มจากสะสมเหรียญเก่า ธนบัตรเก่าทั้งของไทย ของนอก ทำให้มีความเป็นคนชอบของวินเทจ พอโตมาหน่อยก็เริ่มสนใจในเสื้อผ้าวินเทจ ฟิกเกอร์ ของเล่นต่าง ๆ รวมถึงสกู้ตเตอร์เก่า แล้วพอมาเจอรุ่นพี่ขี่แลม 2 ก็เป็นเรื่องเลย รู้สึกว่าสวยจัง เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากสะสม Lambretta ตั้งใจไว้ว่าถ้าหาเงินได้เมื่อไหร่จะต้องมีแลมเป็นของตัวเองให้ได้ จนสุดท้ายก็ได้แลม 2 มาเป็นคันแรกในครอบครอง โอ้ชอบความ
ยังคงเดินทางส่งต่อความรักไซส์ BIG อย่างต่อเนื่องมาจนถึงครั้งที่ 5 กับทริป MINI BIG LOVE STORY เมื่อวันที่ 24 – 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา และครั้งนี้แน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพความประทับใจมาฝากชาว UNLOCKMEN เหมือนเช่นเคย สำหรับทริปนี้ทาง MINI THAILAND ได้รวมพลเหล่า #MINIster กลุ่มคอมมูนิตี้คนรัก MINI กว่า 20 ครอบครัว มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางจังหวัดจันทบุรี เพื่อสานต่อ BIG LOVE STORY ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่สวยงามของเมืองจันท์ ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา เมืองเก่า และป่าชายเลน กับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ช่วยสนับสนุนวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น รวมไปถึงร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม จัดเต็มกิจกรรมที่ทั้งสนุกสนาน และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวชาว MINI ได้เป็นอย่างดี โดยทริป MINI BIG LOVE STORY ที่จังหวัดจันทบุรี นั้นเริ่มกิจกรรมแรกด้วยการพากลุ่ม MINIster ไปช้อป ชม
“โฆษณา” เป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ทุกที่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าเราจะมองไปที่ไหนก็ตาม ถึงแม้ว่า “โฆษณา” จะเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม หรือรำคาญจนจ้องจะกดข้ามมันไปภายในเสี้ยววินาที แต่สำหรับบางคน โฆษณาคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เขาหลงใหลและมองเห็นคุณค่าของมัน จนวันนึงเขาสามารถที่จะเปลี่ยนโฆษณาให้กลายเป็น Content ทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จอย่างสวยงามได้ ซึ่งคุณเองก็สามารถเปลี่ยนความคลั่งอะไรบางอย่างให้กลายเป็นธุรกิจได้เช่นกัน วันนี้เราจะพาทุกคนเข้าไปในโลกของคนคลั่งโฆษณา “เพิท พงษ์ปิติ ผาสุขยืด” จาก Ad Addict สื่อออนไลน์ด้านโฆษณาและการตลาด ‘เพราะทุกสิ่งในโลก ล้วนเป็นโฆษณา’ และหาวิธีทำให้คนอื่น ๆ ได้เห็นมุมมองดี ๆ ของมัน ใช้ชีวิตอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข มาดูกันว่าคนคลั่งโฆษณาอย่างคุณเพิท สร้างรายได้จากโฆษณาได้อย่างไร มีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจจากความคลั่งของตัวเองบ้าง จากตัวแทนแข่งแผนการตลาดสมัยมหาวิทยาลัย กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณเพิทคลั่งไคล้โฆษณา สู่การเป็น Founder ของเพจ Ad Addict ที่กำลังไปได้ดีมาก น่าจะคล้ายกับความฝันของคนรุ่นใหม่หลายคน ที่อยากจะทำงานหาเงินบนสิ่งที่ตัวเองคลั่งไคล้บ้าง “ทำไมมาอินกับโฆษณา? จุดเริ่มต้นต้องย้อนกลับไปสมัยมหาวิทยาลัย เราเรียนอยู่คณะการตลาด มันจะมีกิจกรรมนึงที่อาจารย์ให้จับกลุ่มกับเพื่อนเพื่อไปแข่งประชันแผนการตลาด ช่วงนั้นเราชอบแข่งแผนพวกนี้ เราจึงได้รู้จักเอเจนซี่โฆษณา แล้วได้ไปฝึกงานที่หนึ่งจนเหมือนกับได้เปิดโลก” “เรารู้สึกว่าโฆษณามันเป็นพลังอันหนึ่งที่สุดยอดมากนะ มันเปลี่ยนแปลงการกระทำของคน เปลี่ยนแปลงความคิด ความเชื่อ ความรู้สึก หลาย ๆ
บทนำ By UNLOCKMEN : ถึงทุกคนที่มีความทรงจำผูกพันธ์กับครอบครัวผ่านอาหาร (โดยเฉพาะกับแม่) หนังสือบันเล่มนี้อาจจะคล้ายเป็นเหมือนบันทึกช่วงเวลาของคุณด้วยเหมือนกัน มันอาจจะเป็นหนังสือต้องห้ามในวันที่ใครคนนั้นจากไป และก็สามารถเป็นหนังสือเพื่ออ่านให้คิดถึงเขาอย่างหมดใจในวันที่จู่ ๆ ความทรงจำก็ย้อนกลับคืนมาอย่างไม่ตั้งใจอีกครั้งนึง เรื่องย่อจากปกหลัง : นี่คือบันทึกความทรงจำพาร์ทหนึ่งในชีวิตของ Michelle Zauner หรือที่เราทุกคนรู้จักเธอในฐานะฟรอนท์แมน ร้องนำ เล่นกีตาร์ และแต่งเพลงของวงดนตรีดรีม-ป็อปชื่อดัง Japanese Breakfast เล่าย้อนกลับไปในช่วงที่วงยังไม่เกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่เธอเป็นออนนีของผู้เป็นแม่ที่เป็นเหมือนทุกอย่างของชีวิต ผู้ซึ่งจู่ ๆ วันหนึ่งก็พบว่าตัวเองเป็น ‘โรคมะเร็ง’ แล้วความรัก ความสับสน การตัดสินใจที่ยากลำบาก ที่มีมื้ออาหารเป็นเหมือนกาวใจของสายสัมพันธ์อันพิเศษนี้ก็เริ่มต้น “H-MART คืออะไร ?” พูดง่าย ๆ มันคือซุปเปอร์มาร์เก็ตในอเมริกา ที่ขายข้าวสารอาหารแห้งทุกสิ่งอย่างจากเอเชีย (ฟีล Makro บ้านเรา) แต่สำหรับมิเชลล์ ซอเนอร์ มันคือสถานที่ ‘ของ’ เธอกับแม่ตั้งแต่เด็กจนโต ตั้งแต่ตอนที่แม่เข็นรถเข็นแล้วเธอเดินตามต้อย ๆ จนถึงวันที่มิเชลล์กลายเป็นคนเข็นเองในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ถือโทรศัพท์ถามสูตรอาหารเกาหลีจากผู้เป็นแม่ ในบทที่ 1 มิเชลล์ให้คำนิยาม H-MART ของตัวเองเอาไว้ว่าแบบนี้
เมื่อเราพูดถึงสมุนไพรสายเขียวในปี 2023 ซึ่งเปิดกว้างมากในประเทศไทย เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไม่พูดกันถึงนักเพาะปลูกหรือที่ทั่วโลกต่างเรียกพวกเขาว่า Grower อาชีพอันทรงเกียรติ เป็นที่ต้องการของตลาด และมีรายได้สูงมาก (ในต่างประเทศ) แต่ประเทศไทยยังไม่ถูกพูดถึงมากนัก ด้วยความหลงไหลในพืชใบแฉกปนกับความสงสัยซึ่งมาพร้อมกับคำถามสำคัญว่า “เราจะปลูกพืชชนิดนี้ด้วยตัวเองกันไปทำไมในวันที่สามารถหาซื้อได้ง่ายดาย” คอลัมน์ Man Up ประจำเดือนเมษายน UNLOCKMEN จึงชวน ‘เตอร์’ หรือที่ในวงการรู้จักเด็กหนุ่มวัย 26 คนนี้ดีในชื่อ ‘พี่หมีแห่ง GrowStuff’ เปิด Private Workshop ที่ให้ Exclusive Group ของเราเข้าคลาสเรียนวิชา Grower 101 กันแบบใกล้ชิด รู้ทุกสิ่งที่ควรรู้เบื้องต้น ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลิตผล พร้อมเปิดมุมมองว่าจริง ๆ แล้วพืชชนิดนี้คือศิลปะที่ล้ำลึกมากกว่าแค่เพื่อเก็ทไฮน์ ทำความรู้จัก GrowStuff กันก่อน (ฉบับย่อ) GrowStuff Shop คือร้านขายอุปกรณ์การเกษตรโดยเน้นที่สมุนไพรใบแฉกเป็นหลัก (ภายใต้ชื่อบริษัท GrowStuff Supply and Service) ซึ่งอย่างที่รู้กันว่ามี ‘เตอร์-ฉัตรทอง ริมทอง’ เป็น
“ออกแบบ” ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุข สาวเท่ที่มากไปด้วยเสน่ห์ และความสามารถทางการแสดง ออกแบบมีเสน่ห์ความเท่ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งน่าสนใจมาก ๆ ด้วย Mindset ของเธอที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา และเต็มไปด้วยความสนุก วันนี้ UNLOCKMEN จะพาคุณไปรู้จักออกแบบในอีกมุมที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ จากบทบาทชีวิตทางการแสดงที่เต็มไปด้วยความจริงจัง ในอีกมุมของชีวิตเธอก็ฝันที่อยากจะมีบทชีวิตในแบบอื่น ๆ อีกเช่นกัน จะเป็นบทชีวิตแบบใด สนุกแค่ไหนไปฟังกันเลยครับ บทชีวิตทางการแสดง มาเริ่มที่บทชีวิตจริงของออกแบบกันก่อนเลยครับอย่างที่เรารู้กันว่า ออกแบบคือนักแสดงที่ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วแต่ความสำเร็จและรางวัลที่เธอได้มานั้นไม่ได้หยุดความกระหายที่อยากจะพัฒนาตัวเองของเธอเลย เมื่อเราถามออกแบบว่าเธอชอบอะไรที่สุดในการเป็นนักแสดง ออกแบบตอบเราว่า ชอบที่ได้ค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลาผ่านตัวละคร “เราได้เข้าใจผู้คน และเคารพผู้คนมากขึ้นผ่านการแสดง อย่างฮาวทูทิ้งเราไม่ได้เข้าใจแค่จีนว่าเค้าคิดอะไร แต่เราเข้าใจเอ็มว่าทำไมเค้าถึงพูดแบบนี้ คนแบบนี้เค้าคิดอะไร เค้ามีเหตุผลอะไร เราเข้าใจ เราเลยเคารพการตัดสินใจของคนมากขึ้น” “มันทำให้เราได้เรียนรู้ และเอามาปรับใช้กับชีวิตจริง ซึ่งเราเติบโตขึ้นมาจากพาร์ทนั้น ที่ได้เรียนรู้จากสิ่งเล็ก ๆ มันสนุกที่เราได้รีแอคชั่นกับคนอื่น ได้แอดบางอย่างเข้าไป แล้วผู้กำกับก็รอดูอยู่ว่าเราจะปล่อยตัวละครออกมาได้ฟรีมากแค่ไหน มันคือความท้าทายที่ไม่รู้ว่าจะมีอาชีพไหนที่จะได้สัมผัสแบบนี้” บทบาทชีวิตที่ออกแบบอยากแสดง ถึงแม้ผลงานและความสามารถของออกแบบจะทำให้สังคมยอมรับว่าเธอคือนักแสดงที่เก่งคนหนึ่งซึ่งผ่านงานแสดงมาหลากหลายแต่ออกแบบก็ยังคงมีความกระหายที่อยากจะลองแสดงบทบาทอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยได้ลองต่อไป เมื่อเราถามถึงเป้าหมายในชีวิตตอนนี้ของเธอ ออกแบบจึงตอบเราว่าอยากแสดงบทบาทอื่นที่ยังไม่ได้แสดง เพราะด้วยความที่คนมองว่าเธอเป็นผู้หญิงแกร่งรูปร่างสูง
ทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘Influencer’ เราคงเผลอผูกโยงความหมายเข้ากับการตลาดออนไลน์ เน็ตไอดอล การมีผู้ติดตามจำนวนมาก มียอดไลก์ ยอดแชร์มหาศาล แต่พ้นไปจากความหมายของการมีผู้ติดตามออนไลน์จำนวนมาก ๆ Influencer อาจหมายความถึงการที่เราเป็นผู้มีอิทธิพลต่อคนอื่นมากกว่าที่คิด (หยุดก่อน เราไม่ได้หมายความถึงผู้มีอิทธิพลจำพวกมาเฟีย วายร้าย เจ้าพ่อด้วยเช่นกัน) แต่ถ้าสังเกตดี ๆ ในองค์กร หรือในทีม จะมีสักคนที่แม้ไม่ได้ตำแหน่งใหญ่โตอะไร แต่พูดอะไรใครก็พร้อมคล้อยตาม ทำงานอะไรคนก็ยินดีอาสาช่วยเหลือ มีคุณสมบัติของการเป็นผู้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกคนรอบข้าง โดยที่ใครคนนั้นไม่จำเป็นต้องมียอดผู้ติดตามล้นหลาม แต่มีสัญญาณบางอย่างที่เราอยากให้คุณลองสังเกตตัวเอง (และเพื่อนร่วมองค์กร) เพราะเราอาจเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลต่อใคร ๆ โดยไม่รู้ตัวมาก่อน สัญญาณสำคัญสัญญาณหนึ่งที่ชี้ว่าในองค์กรนี้ ทีมนี้ หรือสภาพแวดล้อมนี้คุณมีอิทธิพลต่อคนรอบข้างมากคือการที่คุณคือจุดศูนย์รวมข้อมูล คุณรู้ว่าหัวหน้ากำลังเพ่งเล็งการทำงานของใคร คุณเข้าใจว่าทีมบริหารกำลังต้องการสื่อสารกับทีมมาร์เก็ตติง หรือรายละเอียดอื่น ๆ เช่น ใครกำลังแอบชอบใคร แต่การเป็นจุดศูนย์กลางข้อมูล เป็นคนละเรื่องกับการตั้งตัวเป็นหัวหอกล้อมวงนินทาคนอื่น โดยการนินทาอาจเป็นการพูดต่อ ๆ กันไปในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง หรือยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ไม่ว่าใครทำอะไร ข้อมูลเหล่านั้นมักมาถึงมือคุณก่อนเสมอ นั่นคือสัญญาณสำคัญของการเป็นผู้มีอิทธิพล เพราะหมายความว่าคนในเครือข่ายสังคมที่อยู่วางใจ หรือเชื่อใจว่าการที่ให้ข้อมูลกับคุณไป คุณจะสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเพื่อช่วยเหลือคนอื่นได้ Georgia Institute of Technology
นักฟุตบอลระดับตำนานต่างบอกว่า พระเจ้าสร้างกีฬาฟุตบอลขึ้นมาเพื่อ Pele’ โดยเฉพาะ ทั้งสปีดความเร็วและเทคนิคการเล่นที่สวยงาม การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ทำให้ Pele’ ถูกยกขึ้นบูชาในฐานะ National Hero ของ Brazil เป็นสมบัติของชาติที่หวงแหน แม้จะไม่มีโอกาสได้ไปค้าแข้งลีกยุโรป แต่ก็เป็นนักบอลเพียงคนเดียวที่ได้สามแชมป์ World Cup สถิติที่ยังห่างไกลจากนักเตะแถวหน้าในโลกใบนี้ ชื่อจริงของ Pele’ คือ Edson Arantes do Nascimento ได้แรงบันดาลใจมาจาก Thomas Alva Edison ผู้คิดค้นไฟฟ้า โดยเอาตัว i ออกไปเหลือแค่ Edson เหตุผลเพราะบ้านของ Pele’ พึ่งจะมีไฟฟ้าเข้าถึงก่อนเขาเกิดมาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น โดยตามทะเบียนบ้านระบุว่าเกิดในวันที่ 23 ตุลาคม 1940 ในเมือง Tres Coracoes ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Brazil แต่ตัว Pele เองกลับยืนยันว่าเจ้าตัวเกิดวันที่ 21 ตุลาคม แต่เป็นความผิดพลาดด้านเอกสาร ซึ่งคน Brazil
Zero To Hero เราขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “ไนซ์ – ปิ่นพงศ์ ขุนกัน” หรือ AKA : NICECNX แร็ปเปอร์หนุ่มจากจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของซิงเกิ้ลฮิต “หลอก” ที่ปัจจุบันมียอดเข้าชม MV มากถึง 111 ล้านวิว แถมยังเคยผ่านเวที Show Me The Money มาแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ NICECNX ยังถูกเรียกไปแจมกับศิลปินอีกหลาย ๆ คน เช่น มิว ศุภศิษฏ์, แกงส้ม, Lipta เป็นต้น แต่กว่าที่ NICECNX จะก้าวขึ้นมาเป็นที่ยอมรับ เขาก็ต้องพบจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตอะไรหลาย ๆ อย่างที่ค่อย ๆ สร้างความเปลี่ยนแปลง จนกลายมาเป็นประสบการณ์ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต เรามาดูกันดีกว่าว่าชีวิตของ NICECNX พบเจอกับความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบไหนกันบ้าง เปลี่ยนจากเชียงใหม่สู่กรุงเทพ NICECNX อย่างที่เราเกริ่นไว้แล้วว่าเจ้าตัวคือเด็กเชียงใหม่ เขาเติบโตมาพร้อมกับความสนใจในเรื่องแฟชั่น และคลุกคลีกับซีนดนตรีที่หลากหลายทั้งร็อก, อินดี้ รวมไปถึงฮิปฮอปกับกลุ่ม 8GARAD ที่มีเพื่อนแร็ปเปอร์อย่าง
ตามปกติทั่วไปแล้วการตั้งชื่อร้านหรือชื่อบริษัทในบ้านเราโดยมากมักจะคำนึงถึงเรื่องโชคลาง ต้องตั้งชื่อแล้วรู้สึกมีกำลังใจ หรือตั้งแล้วรู้สึกได้ถึงความเจริญรุ่งเรืองที่จะเกิดขึ้นกับกิจการของตัวเอง แต่ไม่ใช่กับอู่ Harley-Davidson ของ คุณพัลลภ จำเนียรกาล หรือ “โนล (อ่านว่าโนน เพราะเจ้าตัวสะดวกแบบนี้ ฮ่า ๆๆๆ)” ที่ตั้งชื่อให้กิจการของตัวเองสุดกวนบาทาว่า “บรรลัยการาจ พังพินาศการช่าง” ซึ่งตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติ ศรีนครเขื่อนขันธ์ หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อบางกระเจ้า เรามาทำความรู้จักกับผู้ชายอารมณ์ดีคนนี้ กับการให้บริการภายใต้คอนเซปต์ “แพงและนานคือมาตรฐานของเรา!” เริ่มต้นด้วยชีวิตนักดนตรี เดิมทีคุณโนลไม่ได้มีอาชีพเป็นช่างมาตั้งแต่ตอนแรก เพราะสมัยก่อนเขาใช้ชีวิตในฐานะนักดนตรีกลางคืนด้วยการเล่นเบสมาก่อน และก็เป็นช่วงนี้เองที่เขามีจักรยานยนต์เป็นของตัวเองคันแรก ซึ่งจะว่าไปมันก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มได้ศึกษาการซ่อมรถด้วยเช่นกัน “ตอนนั้นผมเล่นดนตรีกลางคืนอยู่ ผมจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปแต่พ่อไม่ให้ซื้อ ผมก็เลยเอาเงินไปซื้อรถโบราณมาเลยโดยยังไม่บอกเขา พอซื้อมา พ่อออกมาเห็น คำแรกที่พ่อพูดคือ ‘ซื้อมาทำไมรถจับกัง’ รถที่ผมซื้อคือ MZ ทรงหยดน้ำ ตอนนั้นผมก็งงทำไมพ่อพูดอย่างนั้น พ่อเลยขึ้นบ้านไปเอารูปสมัยก่อนตอนขี่รถอังกฤษมาให้ผมดู คือผมก็รู้นะว่าพ่อผมเคยขี่มอเตอร์ไซด์ เคยฟังจากลูกน้องพ่อผม พวกทหารจะเรียกรถพ่อผมว่าเป็นชอปเปอร์ แต่ผมก็ไม่รู้ ผมก็นึกว่าพ่อขี่ชอปเปอร์ทั่วไป แต่จริง ๆ มันคือพวกรถอังกฤษที่พ่อผมขี่สมัยวัยรุ่น ทีนี้ก็ค่อย ๆ ศึกษามาเรื่อย ๆ เลย ช่วงนั้นประมาณอายุ 18