News | Video
UNLOCKMEN Logo
News | Video
Unlockmen Facebook Page Unlockmen Twitter Unlockmen YouTube channel
  • World
  • Entertainment
    :
    Films
    |
    Music
  • Guide
    :
    EVENT
    |
    MENU
    |
    TRAVEL
  • TECH
    :
    APPS
    |
    CARS
    |
    GADGETs
  • Style
    :
    DESIGN
    |
    FASHION
    |
    GROOMING
  • Business
  • Girls
  • Life
  • Work
  • Play
  • Survival
UNLOCKMEN Logo

News

World Entertainment Guide TECH Style Business Girls Life
Work Play Survival

Videos

Tag "life"

  • Life
    By: unlockmen February 25, 2020
    งานเยอะแต่นอนน้อย “วิธีโกงความตาย พักน้อยให้ได้มาก”เพราะชีวิตห้ามหยุดหาเงิน

    ในวันที่เศรษฐกิจไม่คล่องตัวอย่างใจฝัน เงินไม่ได้ลอยเข้ากระเป๋าผู้ชายอย่างเราง่าย ๆ การทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำเพื่อสร้างรายได้ให้ตัวเองและคนที่เรารักจึงเป็นคำตอบแรก  ๆ ที่เราต้องทำ ยิ่งงานเยอะ ก็ยิ่งได้เงินมาก แต่สิ่งที่นับวันยิ่งลดน้อยลง ๆ จนน่าใจหายคือ “เวลาพัก” แต่จะให้ลดเวลาทำงานเพื่อมานอนยาว ๆ ก็อาจไม่ตอบโจทย์ เพราะชีวิตตอนนี้ เวลาเป็นเงินเป็นทองให้หยุดหาเงินก็คล้ายหยุดหายใจ UNLOCKMEN จึงชวนทุกคนมาโกงความตาย ทำงานสู้ฟัด พร้อม ๆ กับหนทางนอนน้อยแต่ได้มากในวันที่เราทุกคนต้องฝ่าฟันทุกวิกฤตนี้ไปด้วยกัน เพราะนอนมาก ไม่สำคัญเท่า “นอนให้มีคุณภาพ” เหตุผลอย่างหนึ่งที่เรามักบ่นกันเสมอว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้นอนเลย หรือบอกว่านอนน้อย ๆ เป็นประจำ นั่นเพราะเรามีมาตรฐานการนอนที่บอกต่อ ๆ กันมา ฟังตาม ๆ กันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กว่า “เราควรนอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง” เราจึงเข้าใจว่าเมื่อไรที่เรานอนน้อยกว่า 8 ชั่วโมงนั้นหมายความว่าเรานอนไม่พอ เรานอนน้อย แต่ในความเป็นจริง 8 ชั่วโมงนั้นคือเวลามาตรฐานโดยเฉลี่ย แต่ไม่ใช่กฎตายตัวเพราะมนุษย์แต่ละคน แต่ละช่วงวัยนั้นมีช่วงเวลาการนอนที่พอเหมาะแตกต่างกันไป โดยเฉพาะเมื่อบทความชื่อ Sleep quality versus sleep quantity: Relationships

  • World
    By: unlockmen February 24, 2020
    ความเชื่อกับโรคร้ายของ ‘ลัทธิชอนจี’ เมื่อการพบปะของผู้มีศรัทธากระจายไวรัสสู่ชาวเกาหลีใต้

    ช่วงต้นปี 2020 มีเรื่องราวที่สะเทือนไปทั่วโลกเกิดขึ้นหลายเรื่อง โดยเฉพาะโรคไวรัสโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019) ที่มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนและกระจายตัวไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เราเฝ้าดูรายชื่อของผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตกันแบบรายวัน โดยเฉพาะกับประเทศทางฝั่งเอเชียที่มีผู้ติดเชื้อเยอะมากจนบางประเทศต้องออกมาขอความร่วมมือว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศเลยจะดีกว่า เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศที่มีมาตรการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นประเทศที่ออกนโยบายรับมืออย่างรัดกุมก่อนใคร พวกเขาระแวดระวัง ถึงขั้นที่ร้านอาหารส่วนใหญ่ติดป้ายไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประชาชนใส่แมสก์กันอย่างเคร่งครัด แต่กลายเป็นว่ามาตรการป้องกันตัวเองของเกาหลีใต้กับต้องสั่นสะเทือนจากการพบปะของประชาชนชาติตัวเองที่มีความเชื่อเดียวกันเสียอย่างนั้น   ลัทธิชอนจี กรณีศึกษาจากอาจุมม่าผู้มีศรัทธา จากประเทศมาตรการเข้มงวดที่ช่วงแรกมีรายชื่อผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 น้อยกว่าหลายประเทศ ตอนนี้เกาหลีใต้กลับมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสแซงหน้าประเทศอื่น ๆ ไปแบบทิ้งห่างหลายร้อยคนภายในไม่กี่วันได้อย่างไร? เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นโดยคุณป้าจากเมืองแดกูผู้เข้าลัทธิในโบสถ์ร่วมกับคนนับพัน ภายในเวลา 4 วัน เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 6 เท่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจากแดกู เมืองใหญ่อันดับ 4 ของเกาหลีใต้ มีประชากรอยู่ราว 2.5 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของลัทธิชอนจี (Shincheonji) โดยพาหะแพร่เชื้อให้คนจำนวนมากมาจากคุณป้าอายุ 61 ปี เธอนับเป็นคนไข้รายที่ 31 ของเกาหลีใต้ แต่เมื่อเธอไปเข้าประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในโบสถ์เมืองแดกูร่วมกับคนอื่น ๆ พบคนนับพัน จาก 31 จึงกลายเป็น 346 อย่างรวดเร็ว

  • Entertainment
    By: unlockmen February 24, 2020
    “โรคระบาดทำให้พวกเรากำลังจะตาย”5 หนังสือโลกติดเชื้อที่ทำให้รู้จักความสิ้นหวังมืดหม่น

    ครั้งหนึ่งในกาแลคซี่ทางช้างเผือก มนุษย์อย่างเราเคยมั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่าชีวิตบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้เต็มไปด้วยความหวังมากกว่าดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ดวงอื่น ๆ อีกหมื่นแสนดวง เพราะบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้มีอากาศให้หายใจ มีชีวิต มีการเกิดใหม่ มีความเป็นไปได้ให้เราฝันและหวังไม่สิ้นสุด แต่ในทางกลับกันเมื่อมนุษย์รวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เชื้อกลายพันธุ์ โรคระบาด ก็สามารถแพร่ไปได้รวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง เมื่อวันนั้นมาถึง โรคร้ายจึงทำให้โลกที่เคยดี กลายเป็น “โลกร้าย” ที่กลิ่นของความตายลอยคละคลุ้ง เมืองพังพินาศ ระบบการจัดการล้มเหลวและผู้คนกำลังจะตาย ในห้วงเวลาเช่นนั้นมนุษย์จะเผยให้เห็นความสิ้นหวัง ความมืดหม่นแห่งความคิดและจิตใจออกมาได้อย่างชวนขนลุกขนพอง แม้ในความเป็นจริงมวลมนุษยชาติจะยังไม่เคยก้าวไปถึงจุดนั้น แต่เราเชื่อว่าหนังสือว่าด้วยโลกร้าย 5 เล่มนี้จะพาคุณไปรู้จักความสิ้นหวังจากโรคระบาดให้เราได้ดำดิ่ง และเตรียมตัวล่วงหน้าเผื่อวันแห่งหายนะนั้นมาถึง   บอด : José Saramago เพราะดวงตาคือความหวัง คือแสงสว่าง คืออวัยวะที่ช่วยให้มวลมนุษยชาติมองเห็น การสูญเสียการมองเห็นจึงไม่ได้หมายความถึงแค่อวัยวะหนึ่งล้มเหลว แต่หมายถึงมนุษย์จะต้องเผชิญกับความมืดบอดของโลกและอยู่กับความสิ้นหวังที่จะเห็นสรรพสิ่งไปตลอดกาล “บอด” คือวรรณกรรมผลงานนักเขียนรางวัลโนเบลที่ว่าด้วยโรคลุกลามแพร่ระบาดที่ทำให้มนุษย์มองอะไรไม่เห็นอีกต่อไป! เรื่องเริ่มที่ชายคนหนึ่งขับรถติดไฟแดงอยู่ดี ๆ ฉับพลันดวงตาเขาก็ขาวโพลน ไม่อาจมองสิ่งใดเห็น หลังจากนั้นอาการตาบอดก็แพร่ออกไปจากคนหนึ่ง สู่อีกคนหนึ่ง และอีกคนหนึ่ง ตอนนั้นเองที่ทุกอย่างตกอยู่ในความโกลาหล วรรณกรรมเรื่องนี้ไม่เพียงแค่พาเราดิ่งลึกลงไปในความมืดบอดและโรคติดเชื้อ แต่มวลมนุษยชาติผู้สิ้นหวัง สับสน รัฐบาลที่แก้ปัญหาอย่างมืดบอดไม่แพ้อาการตาบอดที่แพร่ระบาด ไปจนถึงมาตรฐานศีลธรรมที่ในเวลาปกติเราเคยยึดถือ แต่เมื่อทุกคนกระเสือกกระสนหนีตาย ศีลธรรมก็คล้ายเป็นเพียงลมปากที่ไม่มีความหมายอีกต่อไป  

  • Life
    By: unlockmen February 23, 2020
    “ออฟฟิศไกลบ้านทำผมใกล้ตาย”อุปสรรคใหญ่ของมนุษย์เงินเดือนคือการเดินทางสุดทรหด

    “บ้านผมอยู่ฝั่งธนฯ แต่ออฟฟิศผมอยู่รังสิต” หรือ “บ้านผมอยู่รังสิตส่วนที่ทำงานผมอยู่เพลินจิต” ประโยคเหล่านี้ไม่ใช่การพูดเกินจริงเพราะมันคือชีวิตประจำวันของใครหลายคนที่ต้องฝ่าฝุ่น ฝ่าฝน ฝ่าฟันการคมนาคมแสนโหดยามเช้า 5 วันติดกันเพื่อมาทำงานที่เรารัก แรก ๆ ก็คิดว่าไหว แต่รู้ตัวอีกที เราก็ได้ปัญหาสุขภาพมาเป็นของแถมจากการเดินทาง แถมยังมาแบบโหมกระหน่ำจนตั้งรับแทบไม่ทันอีกด้วย เพราะใคร ๆ ต่างต้องเดินทางไปทำงานไม่ว่าใกล้หรือไกล UNLOCKMEN จึงค้นหางานวิจัยเกี่ยวกับการทำงานและการเดินทางมาให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อประเมินตัวเองว่าการใช้ชีวิตของตัวเองนั้นเข้าข่ายน่าเป็นห่วงหรือไม่?  มีงานวิจัยที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์มร่วมกับสถาบันสุขภาพและสวัสดิการของประเทศฟินแลนด์ (Finnish Institute for Health and Welfare) กล่าวว่าเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ทำงานหนักและออฟฟิศอยู่ไกลจากบ้านมาก ๆ มักเจอกับความเครียดมากกว่าคนที่บ้านอยู่ใกล้กับที่ทำงาน โดยทีมวิจัยได้สำรวจความคิดเห็นของกลุ่มวัยทำงานจำนวน 22,000 คน เป็นเวลาสองครั้งตั้งแต่ปี 2008-2018  กลุ่มตัวอย่างถูกถามเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบ วิธีการเดินทางไปทำงาน อาหารการกินแต่ละวัน การออกกำลังกาย การนอนหลับ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์และความถี่สำหรับคนที่สูบบุหรี่ จนได้ผลลัพธ์น่าสนใจว่ากลุ่มพนักงานออฟฟิศไกลบ้านหรือคนที่ต้องเดินทางหลายต่อ เช่น เปลี่ยนจากรถไฟฟ้าเป็นรถเมล์ หรือเปลี่ยนจากรถไฟฟ้าเป็นต่อวินมอเตอร์ไซค์ กลุ่มตัวอย่างประเภทนี้จะอ่อนเพลียหมดเรี่ยวหมดแรงมากกว่าคนที่บ้านอยู่ใกล้ออฟฟิศหรือเดินทางเพียงต่อเดียว  ความกระฉับกระเฉงหลังตื่นนอนถูกใช้ไประหว่างทาง บนรถไฟฟ้าแออัดหรือรถเมล์ร้อนระอุที่จอดนิ่งสนิทบนท้องถนน การเดินทางนั้นดูดพลังมากกว่าที่คิด รู้ตัวอีกทีเราก็ใช้เวลาอยู่บนรถหรือถนนนานเกือบ 5 ชั่วโมง (ขาไปและขากลับรวมกัน) นอกจากนี้พอถึงออฟฟิศหลังจากสู้รบกับระบบคมนาคม กลุ่มตัวอย่างที่เป็นมนุษย์เงินเดือนบ้านไกลจะหมดเรี่ยวแรงส่งผลให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

  • Life
    By: unlockmen February 19, 2020
    ‘LOVELORN เจ็บเพราะรักแต่ยังไม่ตาย’ คำแสนสั้นซึ่งนิยามถึงความเศร้าระทมจากรักที่ไม่สมหวัง

    “ครั้งหนึ่งในชีวิตเราต่างต้องเคยรู้สึกหวิวในใจเวลาได้ยินคำลาจากคนรัก” ว่ากันว่ามีใครสักคนเคยกล่าวประโยคชวนเลี่ยนนี้ ประโยคที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เราต่างเกิดมาเพื่อตกหลุมรัก เสพสมความสุข และพบเจอกับความเจ็บปวด มันอาจจะจริงอย่างที่เขาเอ่ยว่าชีวิตของคนเราก็ต้องเคยตกหลุมรักหรือชอบใครสนคนด้วยกันทั้งนั้น อาจเป็นรักในวัยเรียน ความรู้สึกประทับใจกับใครสักคนตั้งแต่แรกเจอ หรือการเผลอใจรักคนใกล้ตัวที่เขามองว่าเราคือเพื่อนหรือพี่น้อง เพราะความรู้สึกรักเป็นสิ่งที่หลาย ๆ ครั้งมนุษย์ผู้เก่งกาจก็ไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้เกิดคำคำหนึ่งที่จะนิยามถึงความเศร้าและเจ็บปวดเมื่อใครสักคนผิดหวังกับความรักอย่างคำว่า Lovelorn    “LOVELORN” ภาษาวรรณกรรมที่นิยามถึง “การพลาดรัก” เมื่อเราตกหลุมรักจนลุกไม่ขึ้นเพราะถูกปฏิเสธ พอนำเรื่องเศร้านี้ไปคุยกับเพื่อนก็มักเรียกความรู้สึกนี้ง่าย ๆ ว่า “กูอกหักว่ะ” ส่วนภาษาอังกฤษจะพูดกันว่า “broken-hearted” หรือ “heartbroken” ซึ่งเป็นภาษาทั่วไปที่พอพูดใคร ๆ ก็เข้าใจตรงกันว่าเราผิดหวังจากความรัก แต่แท้จริงนิยามของคำว่าอกหักมันมีคำที่ลึกซึ้งมากกว่าการพูดว่าหัวใจเราแตกสลาย  “lovelorn” มีความหมายไม่แตกต่างจาก “heartbroken” เท่าไรนัก แต่เมื่อ UNLOCKMEN ได้ลองเปิดพจนานุกรมเพื่อหาความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ก็ได้พบว่า lovelorn นั้นลึกซึ้งกว่าเพราะมันคือคำที่นิยามถึง การพลาดรัก การถูกคนรักทอดทิ้ง รู้สึกหน่วง ๆ กลางใจจนพาลให้เกิดอาการซึมเศร้าจากรักที่ไม่สมหวัง รักไม่สมหวังยังสามารถขยายความได้อีกว่า พลาดรักจากการที่เราไปรักคนที่เป็นไปไม่ได้ พลาดรักจากการสูญเสียคนรัก แต่ถ้าเป็น heartbroken ก็จะบอกแค่ว่าเราช้ำใจ ผิดหวัง และเสียใจมาก อาจใช้บรรยายความเจ็บช้ำที่เจอมาได้ไม่มากเท่ากับคำว่า lovelorn

  • Entertainment
    By: unlockmen February 15, 2020
    ทุกวันนี้ดนตรีร็อกเหมือนยักษ์ที่โดนเสกให้ตัวเล็กลง ‘เต๋า – THE ROCK PUB’กับการยืนหยัดในปีที่ 30

    สำหรับคอดนตรีร็อกในเมืองไทย เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงของ “The Rock Pub” หนึ่งในแหล่งรวมตัวคนชอบดนตรีร็อกที่จัดว่ามีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ในกรุงเทพฯ รวมถึงในบ้านเราเลยทีเดียว ชาวร็อกหลายคนอาจจะเคยไปมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่รู้ว่าร้านนี้ตั้งอยู่ส่วนไหนในประเทศ ลองคิดดูดี ๆ ว่าคุณเคยเห็นตึกอิฐที่ดูน่าเกรงขามข้าง Coco Walk ติด BTS ราชเทวี ตึกนั้นหรือไม่? ใช่ครับที่นั่นคือที่ตั้งของ The Rock Pub ภายนอกสถานที่แห่งนี้อาจทำให้หลายคนคิดว่า ‘ดูเก่า’ ไม่ก็อาจจะคิดว่าดูน่ากลัว แต่สำหรับคนที่เคยเข้าไปคลุกคลีเสพดนตรีทั้งคืนจนถึงร้านปิดอย่างเราแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย ที่เข้ามาเต้น มาร้อง มากระโดด มาพูดคุย บ้างก็นั่งเฉย ๆ ฟังดนตรีกันอย่างตั้งอกตั้งใจ เป็นสถานที่สำหรับผู้ที่มีใจรักต่อดนตรีร็อกอย่างแท้จริง บางครั้งก็อาจจะมากกว่าเครื่องดื่มที่พวกเขาถือในมือเสียอีก ด้วยความที่เห็น The Rock Pub มาอย่างช้านาน เราจึงเกิดคำถามว่าใครเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้? และเขาทำอย่างไรให้ร้านเป็นดนตรีเฉพาะกลุ่มลักษณะนี้ให้ดำรงอยู่ได้? วันนี้ UNLOCKMEN จึงเข้ามาสนทนากับ “คุณเต๋า – นนทเดช​ บูรณะ​สิทธิ​พร” ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของคนปัจจุบันของร้าน และเราก็ได้พบว่า The

  • Life
    By: unlockmen February 12, 2020
    NO MORE NIGHTMARES: พาค้นต้นเหตุฝันร้ายที่ไล่กวดเราตั้งแต่ในฝันยันชีวิตจริง

    ความฝันถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ ไม่ว่าใครก็เคยฝันมาแล้วทั้งนั้น แต่จะต่างตรงที่พวกเขาเหล่านั้นฝันดีหรือฝันร้ายมากกว่ากัน บางคนบอกว่าฝันคือการสร้างสมดุลทางจิต โดยปลดปล่อยความเครียดหรือกุเรื่องไร้สาระขึ้นมาในหัว บ้างว่าฝันถูกจิตสำนึกลึก ๆ ผลักออกมาและปรุงแต่งจนเป็นเรื่องราว สะท้อนถึงความปรารถนาที่ไม่ได้ถูกตอบสนองในชีวิตจริง แต่ความปรารถนานั้นไม่ได้หายไป หากเก็บไว้เบื้องลึกในจิตใจและระบายออกมาผ่านความฝัน แต่ไม่ว่าความฝันจะเกิดขึ้นจากอะไร ใคร ๆ ก็คงอยากฝันดีมากกว่าฝันร้ายกันทั้งนั้น นั่นให้เราอยากรู้ว่าทำไมคนถึงเกลียดฝันร้าย และฝันร้ายของพวกเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรมากที่สุด? งานวิจัยชิ้นหนึ่งของ Amerisleep ที่รวบรวมเรื่องราวฝันร้ายของชาวอเมริกัน 2,000 คน เผยว่าฝันร้ายที่พบบ่อยที่สุดคือการฝันว่าตัวเองหกล้ม (65%) ตามมาด้วยฝันที่ถูกไล่ล่าเอาชีวิต (63%) ฝันว่าตัวเองตาย (55%) ฝันว่าคนรักตายจากไป (54%) และฝันว่าถูกจับยึดจนไม่สามารถขยับไปไหนได้ (52%) นี่แสดงให้เห็นว่าฝันร้ายแต่ละเรื่องนั้นค่อนข้างรุนแรงและกระทบกระเทือนต่อจิตใจคน อีกทั้งขณะที่อยู่ในฝันเราก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามันคือเรื่องจริงหรือความฝันกันแน่ ถ้าต้องเจอเรื่องราวเลวร้ายที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าใครก็คงทุกข์ใจไม่ต่างกัน ทำไมถึงฝันร้าย? มีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้เราฝันร้าย ตั้งแต่การกินของว่างตอนดึก ผลข้างเคียงจากยา หรือแม้แต่การนอนตะแคงซ้ายขวา แต่นอกจากยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่พิสูจน์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของเราก็มีอิทธิพลต่อความฝันด้วย เนื่องจากเนื้อหาในฝันจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงขณะตื่น หากคุณเป็นคนสบาย ๆ ไม่ค่อยเครียด และค่อนข้างพอใจกับชีวิต เป็นไปได้ว่าฝันของคุณจะเป็นเรื่องบวก ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณทุกข์ใจหรือวิตกกังวลบ่อย ๆ ก็อาจทำให้คุณฝันร้ายได้ในเวลาเดียวกัน ฝันร้ายบอกอะไรเรา? กว่า 70%

  • Life
    By: unlockmen February 8, 2020
    เราจะผ่านมันไปด้วยกัน “5 วิธีปลอบคนเศร้า”ในช่วงที่ทุกคนหม่นเทาจนต้องการใครสักคน

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์กราดยิงที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา (8 มกราคม 2563) เป็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่คนไทยทั้งประเทศตกอยู่ภายใต้ม่านหมอกแห่งความเศร้าและบรรยากาศของความสูญเสียอีกครั้งหนึ่ง UNLOCKMEN ขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและความสูญเสียที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม UNLOCKMEN เชื่อว่าเราสามารถเศร้าได้ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องเข้มแข็งมากพอที่จะให้กำลังใจกันและกันให้เราสามารถผ่านบรรยากาศแห่งความเศร้านี้ และความเศร้าอื่น ๆ ในชีวิตไปด้วยกันให้ได้ เราจึงเอา 5 วิธีปลอบใจคนเศร้าที่ถูกต้อง มาไว้ซับน้ำตาและให้กำลังใจให้คนเศร้าทั้งหลายได้เยอะเท่าที่ต้องการ พูดไม่ต้องมาก รับฟังให้มาก สิ่งที่ยากที่สุดในการพยายามปลอบใจใครสักคนที่กำลังโศกเศร้าเจ็บปวด คือการที่เราไม่รู้เลยว่าเราควรพูดอะไรออกไปกันแน่ ไม่รู้ว่าพูดไปเขาจะเจ็บปวดกว่าเดิมไหม หรือจะดูว่าเราไม่ใส่ใจปัญหาของเขาหรือเปล่า เราอยากจะบอกว่าจริง ๆ แล้วคนเศร้าไม่ได้รอฟังหรอกว่าคุณจะพูดอะไร แต่สำคัญที่ว่าเขาอยากรู้สึกว่ามีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ เขา พยายามที่จะรับฟังเขา ดังนั้นไม่ต้องพยายามพูดอะไรที่เราก็เก้ ๆ กัง ๆ ที่จะพูด แต่พยายามอยู่ข้าง ๆ รับฟังสิ่งที่เขาคิดและรู้สึกโดยไม่ตัดสินให้มากที่สุดก็พอ บอกเขาเถอะว่าความเศร้าเขามันสำคัญ การรับฟังเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อเขาพูดถึงจุดหนึ่ง คนที่กำลังเศร้าโศกก็อยากรู้สึกว่าเขาไม่ได้ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวและความเศร้าของเขาไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เขาต้องการการยืนยันว่าความเศร้าของเขามันเมคเซนส์ มันสำคัญ เพราะฉะนั้นบอกให้เขาเข้าใจว่าคุณนั้นเข้าใจปัญหา ความเลวร้าย ความโศกเศร้าที่เขากำลังเจอ และคุณพร้อมรับฟัง อย่างไรก็ตามต้องระวังให้ดี เพราะการบอกว่าเข้าใจ แล้วเล่าเรื่องตัวเองเพื่อแสดงว่าเราเข้าใจ (แต่กลับเล่ามากเกินไป) จะดูเป็นการโฟกัสที่ตัวเราเองมากกว่าการโฟกัสคนที่กำลังเศร้า ดังนั้นย้อนกลับไปที่ข้อหนึ่งแล้วท่องให้ขึ้นใจว่าต้องรับฟังให้มากเข้าไว้

  • Life
    By: unlockmen February 7, 2020
    “ทั้งงดงามและระยำหมา ความรักถึงสมบูรณ์แบบ” วีรพร นิติประภา บทสนทนาว่าด้วยรัก

    “ความรักทำให้คนตาบอด” คุณอาจเคยได้ยินประโยคนี้ ในขณะที่ “แหม่ม-วีรพร นิติประภา” นักเขียนดับเบิลซีไรต์ผู้เขียนนิยาย 2 เล่ม (ที่ล้วนพัวพันกับความรัก) อาจบอกคุณว่าความรักเป็นมายาคติ และมันทำให้คุณเพ้อฝัน “มายาคติความรักมันทำให้เราเพ้อ เพ้อฝัน ซึ่งก็ดีนะ ในนัยยะหนึ่งคุณก็ไม่ได้ฝันถึงอะไรมากมายเนอะในชีวิตจริง” เธอบอกกับเราแบบนั้น เราทุกคนล้วนจมอยู่กับมายาคติความรัก ละครหลายต่อหลายเรื่องที่มักบอกเราว่าความรักต้องจบลงอย่างสวยงาม นิยายหลายเล่มที่กระซิบกระซาบกรอกหูเราว่าความรักมีรสหวานลิ้น คนรอบข้างที่พากันทำให้เราเชื่อว่าความรักที่จบอย่างเป็นสุขคือจุดสูงสุดของชีวิต แต่เมื่อพ้นไปจากมายาคติฝันเพ้อแห่งรัก ความรักกลับปรากฏกายในหลายรูปแบบ มีความรักระยำหมา มีความรักที่เราอยากลืม มีความรักตัวเอง มีความรักแบบครอบครัว ฯลฯ รักอื่น ๆ นี่เองที่เรามองว่าช่างน่าหลงใหล และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่เราอยากคุยกับ แหม่ม-วีรพร นิติประภา ว่าด้วยความรัก ทั้งรักที่เราฝันเพ้อ รักที่ทำให้เรารีบอยากปลุกตัวเองให้ตื่นไว ๆ ไปจนถึงรักรูปแบบอื่น ๆ รักคืออะไร?: เพราะครบทุกรสชาติ รักจึงสมบูรณ์แบบ “ความรักคืออะไร?” เราไม่พูดพล่ามทำเพลง ถามคำถามแรกกับวีรพรด้วยคำถามคลาสสิก คาดหวังคำตอบหวือหวาสวิงสวาย แต่ความรักสำหรับนักเขียนนิยายรักอย่างเธอกลับตรงไปตรงมาเกินคาด ความเป็นเพื่อน ผสมเข้ากับการรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร กลายมาเป็นความรักในนิยามของวีรพร นิติประภา “ความรักเหรอ? พี่คิดว่า พี่ยังยืนยันนะว่าความรักคือส่วนประกอบของมิตรภาพค่อนข้างเยอะ ความเป็นเพื่อน ความสัมพันธ์ที่มีความเป็นเพื่อน มีความห่วงใยกันระดับหนึ่ง

  • Life
    By: unlockmen February 2, 2020
    สัญญาณว่าคุณกำลังเจอคนห่วย ๆ ต้องรีบชิ่งหนีให้ห่างอย่างด่วน (Based on Breaking Bad Character)

    แค่ข้อเดียวในนี้ ก็ไม่ขออยู่ใกล้ด้วยแล้ว

« Previous 1 … 28 29 30 31 32 … 159 Next »

HOT THIS WEEK

#7daysinarow

  • 1
    CARS
    JDM: CODE RARE – Skyline GT-R Autech Version 40th Anniversary (1998: BCNR33)
  • 2
    CARS
    JDM: CODE RARE — SKYLINE AUTECH VERSION (1993: HNR32) สปอร์ตซีดานที่เน้นการใช้งานแบบ work-use vehicles
  • 3
    CARS
    JDM: CODE RARE – 1997 TOYOTA CENTURY V12 รถบ้าน V12 หนึ่งดียวในประวัติศาสตร์ชาติญี่ปุ่น
  • 4
    DESIGN
    LOST WATCHES OF REBELS : FIDEL CASTRO & HIS FOUR ROLEXES
  • 5
    CARS
    Vittorio Tessera แห่ง Casa Lambretta ร้าน Restoration Scooter ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ Lambretta
  • 6
    FASHION
    LOST WATCHES OF REBELS : EP01 – FIDEL CASTRO: THE GUY WHO WORE TWO ROLEXES ON ONE WRIST
< Prev Next >

most popular video of the week

#7daysinarow

THE REAL EP 1 : Tamaryn Cooper
Unlockmen Channel
18,326

EVERYTHING GUYS NEED
TO UNLOCK YOUR TRUE
POTENTIAL EVERYDAY

Unlockmen

Subscribe now

Unlockmen
  • About Us
  • Our team
  • Jobs
  • Contact Us
  • Terms of Use
  • Privacy Policy
© 2016 whiteline thaithayan. All rights reserved.
Use of this site constitutes acceptance of our User Agreement (effective 1/4/2016) and Privacy Policy (effective 1/4/2016).The material on this site may not be reproduced,
distributed, transmitted, cached or otherwise used, except with prior written permission of thaitayan ltd.