เราเชื่อว่าเป้าหมายแรก สำหรับหนุ่ม ๆ หลายคนเมื่อย่างเข้าสู่ปีใหม่ ก็คือการที่อยากจะบอกลาก้อนไขมันบนหน้าท้องที่คอยทักทายเราอยู่ทุก ๆ เช้า อยากจะรู้สึกมั่นใจในรูปร่างของตัวเองเวลาที่ต้องถอดเสื้อผ้าโชว์ ไม่ต้องมานั่งทนดูตัวเองที่อ้วนขึ้นทุกวันอย่างแน่นอน ซึ่งเป้าหมายนี้ถ้าหากคุณไม่ลงมือทำก็คงจะเป็นเพียงแค่ฝันกลางวันที่ไม่มีทางเกิดขึ้น โดยอันที่จริงแล้ววิธีการออกกำลังกายก็มีหลายรูปแบบ และเราก็เคยแนะนำไปมากมาย แต่สำหรับคนที่อยากเห็นผลไว วันนี้ UNLOCKMEN เลยมี 10 เทคนิคการออกกำลังสไตล์นักมวยมืออาชีพมาฝาก รับรองว่าเบิร์นเร็ว กล้ามสวย โดนใจสาว ๆ อย่างแน่นอน โดยที่เคล็ดลับดังกล่าวสามารถทำได้เองง่าย ๆ ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเสียค่าเทรนเนอร์ให้เสียดายสตางค์ มีเงินเหลือแถมหุ่นดีอีกด้วย Shoulder Presses ในกีฬามวยหัวไหล่ที่แข็งแรงและทนทานถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะกล้ามเนื้อมัดดังกล่าวถือว่ามีส่วนสำคัญในการใช้ปล่อยหมัดรวมไปถึงป้องกันจากการโจมตีของคู่ต่อสู้อีกด้วย ดังนั้นท่า Shoulder Presses จึงถือเป็นเคล็ดลับในการสร้างกล้ามเนื้อของหัวไหล่ได้อย่างดีเยี่ยม โดยอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลักก็คือดัมเบลก หรือถ้าหากไม่มีจริง ๆ ก็ลองมองหาขวดน้ำหรืออาหารกระป๋องในครัว จับให้มั่นจากนั้นดันขึ้น และลง อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับท่าบริหารร่างกายส่วนบนอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กันก็จะทำให้คุณมีหัวไหล่ที่สวยงามราวกับ Floyd Mayweather Clap Press-Up อีกหนึ่งวิธีออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย ๆ แต่ใช้ได้ผลจริง
‘คุณถูกไล่ออก’ เราเชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากที่จะได้ยินคำนี้ แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับตัวเราล่ะ จะทำอย่างไร เพราะชีวิตการทำงานไม่มีอะไรที่มันแน่นอนอยู่แล้ว ก่อนอื่นหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวคุณ ขอให้ตั้งสติเสียก่อน อย่าคิดว่ามันเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิต การโดนไล่ออก ให้ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญอย่างหนึ่งในชีวิต ซึ่งบางครั้ง คนเราอาจจะซวยถึงขั้นต้องเจอกับเรื่องเหล่านี้บ้าง ซึ่งมันคงต้องแย่หรือซวยสุด ๆ แต่ถ้ามันเกิดขึ้น แล้วเรารู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ก็ขอให้ใช้มันเป็นบททดสอบในการพัฒนาตัวเองให้ก้าวไปสู่เส้นทางที่ดีกว่าเดิม เชื่อหรือไม่ว่าคนที่ประสบความสำเร็จหลาย ๆ คน ใช้วิกฤตจากจุดนี้เปลี่ยนเป็นโอกาส ถ้าเราอยากที่จะประสบความสำเร็จ บางครั้งก็ต้องละทิ้งความกลัว ความเสียใจ และเริ่มมองหาแง่ดีจากการถูกไล่ออกเพื่อใช้มันเป็นบทเรียนในการพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิมซะ Why Getting Fired is a Blessing ? ในทุก ๆ วันมีคนถูกไล่ออกจากงานที่ไหนซักแห่งในโลกเป็นเรื่องปกติ มันไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณแค่คนเดียว และไม่ใช่คนสุดท้าย ถึงแม้ตอนนี้คุณจะรู้สึกมืดแปดด้าน มองไม่เห็นทางออก แต่ทำใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ลองมาดู 6 ข้อดีที่มาพร้อมกับการถูกไล่ออก ท่ามกลางความผิดพลาดครั้งใหญ่ เราอาจจะยังพอศึกษาประโยชน์อะไรจากมันได้บ้างไม่มากก็น้อย Chance to Move On คนส่วนใหญ่เมื่อโดนไล่ออกมักจะมีแนวโน้มที่จะหยุดอยู่กับที่ ไม่พร้อมก้าวออกไปไหน หรือทำอะไรต่อไป ซึ่งเป็นผลจากการสูญเสียความมั่นใจครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม
ในวันที่เช้าฝนตกบ่ายแดดออกอย่างนี้ ผู้ชายอย่างเราจะปรับตัวอย่างไรถูก เปิดวันมาแบบโคตรเหงาโคตรหว่องชวนเหงาจับใจ แถมอดสงสัยไม่ได้ว่าตกลงที่เราเหงาเพราะฝนทำให้เราเหงา หรือเราเหงาด้วยเงื่อนไขอื่น ๆ อย่างความโสด ความเดียวดาย ความอ้างว้างกันแน่? โชคดีที่เราเกิดมาในยุคที่ไม่ต้องคาดเดาอะไรเองอีกต่อไปแล้ว เพราะมีงานวิจัยทางจิตวิทยาสังคมที่ศึกษากันมาตลอดหลายสิบปีที่จะช่วยให้เราเข้าใจเหตุผลว่าทำไมอารมณ์เราถึงปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพอากาศได้ดีขึ้น และเบื้องหลังความรู้สึกของผู้ชายอย่างเราที่เปลี่ยนแปลงไปมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น มา มาดูกันว่าฝนตกผมเลยเหงา หรือผมเหงาเพราะผมโสดกันแน่? ฝนตก ขาดแสงอาทิตย์ทำให้ผมติดอยู่กับความ SAD การขาดแสงอาทิตย์ในชีวิตคนเรานำไปสู่ความ SAD ที่ไม่ใช่แค่ความเศร้าแต่เป็น Seasonal Affective Disorder หรือความผิดปกติทางอารมณ์ตามฤดูกาล โดยความผิดปกติที่ว่านี้ก็มักจะเกิดขึ้นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีแสงแดดมาให้เราอาบไล้ความร้อนแรงของชีวิต เพราะเมื่อผู้ชายสุดแข็งแกร่งอย่างเราได้สัมผัสแสงแดดน้อย ร่างกายก็จะผลิตเมลาโทนินมาก ซึ่งเมลาโทนินนี้กระตุ้นให้เกิดอาการง่วงเหงาหาวนอน แถมยังลดระดับเซโรโทนินที่มีผลเรื่องความต้องการทางเพศไปอีก! จึงไม่แปลกที่พอฝนตกแล้วเราจะเหงา จะง่วง จะติดบ่วงความเศร้า แต่ไม่ใช่เพราะเราโสด (เสียใจด้วยนะ) ฝนตก อุณหภูมิลด ร่างกายผมก็หดเหี่ยว เมื่อฝนตก อุนหภูมิก็ลดต่ำลงไม่ร้อนตับแตกเหมือนก่อนฝนตก ด้วยอุณหภูมิที่ลดลงนี่เองที่เป็นตัวการทำให้การตอบสนองทางประสาทสัมผัสของเราลดประสิทธิภาพการทำงานลง ยังไม่ใช่แค่นั้น เพราะ ความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การไหลเวียนของโลหิตทำงานได้ต่ำลงด้วย ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาจะบอกว่ามันทำให้ร่างกายหดเหี่ยวก็คงไม่ผิดเพี้ยนไปมากนัก เพราะมันทำให้ประสิทธิภาพการทำงานทางกายภาพของเราลดลงฮวบฮาบนั่นเอง ฝนตกเป็นสาเหตุให้ผมหาอะไรยัดเข้าปากมากขึ้น! อย่างที่เราบอกไปว่าเมื่อวันฝนตก ก็มักเป็นวันที่ขาดแสงแดด และมันส่งผลให้ระดับเซโรโทนินลดลง และการที่เซโรโทนินลดลงร่างกายก็มีความต้องการคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้น!
การก้าวขึ้นมาในตำแหน่งผู้นำประเทศ หรือประธานาธิบดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่นักการเมืองผู้ที่คุ้นเคยกับเส้นทางนี้ ยังต้องทำทุกวิถีทางทั้งขาวทั้งดำ เพื่อก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในการบริหารประเทศแบบนั้นได้ และเมื่อไม่นานมานี้มีเรื่องน่าสนใจ ไม่ใช่ประเทศไทยกับสแตนดี้นายก หรือคำขวัญวันเด็ก แต่เรากำลังหมายถึงประเทศ Liberia ที่ได้ทำการประกาศผลเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดออกมา ผลปรากฏว่าผู้ที่ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ หาใช่นักการเมืองไม่ แต่คืออดีตนักฟุตอาชีพชื่อดัง ที่ผลักดันชีวิตตัวเองมาจากครอบครัวที่ยากจน นามของเค้านั้นคือ ‘George Weah’ ชีวิตที่พลิกผันได้ขนาดนี้ย่อมน่าสนใจ ไปทำความรู้จักเรื่องราวชีวิตของชายคนนี้กันดีกว่า ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องผ่านมาบ้างระหว่างทาง กว่าจะประสบความสำเร็จอย่างวันนี้ จุดเริ่มต้น George Weah เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1966 ในย่านอาศัยเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Clara Town, Monrovia, Liberia ตามประสาของเด็กที่ยากจนส่วนใหญ่ในประเทศโซนทวีปแอฟริกา การหาความสุขใส่ตัวที่เขาพอจะทำได้ ก็คือการเล่นฟุตบอลข้างถนนกับเพื่อน ๆ นั่นเอง ชีวิตช่วงแรกของ Weah เขาคิดจะใช้การศึกษาเป็นทางออกจากความยากจน แต่ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ เขาก็ได้อาศัยความสามารถในการเล่นฟุตบอล ขอทุนเพื่อศึกษาต่อ จนได้เริ่มเล่นกับทีมต่าง ๆ ในท้องถิ่น และมาลงท้ายกับ ทีม Invincible Eleven และที่นี่เองที่
“เมื่อพูดไปแล้ว…คำพูดถือเป็นนายของเรา” วลีอมตะของ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณอดีตนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของประเทศไทย ยังคงเป็นคำวาทะที่ใช้เตือนสติในการนำดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดีเสมอมา ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ยุคกี่สมัย เพราะจะเห็นได้ว่าในชีวิตประจำวันที่ต้องมีการพบปะสื่อสารกันระหว่างมนุษย์ วาจาถือเป็นเครื่องมือที่เราใช้สะท้อนความคิด ทัศนคติ นิสัยใจคอ และบางครั้งการพูดเพียงไม่กี่คำ ก็สามารถส่งผลกระทบได้ในวงกว้าง ดังนั้นเราจึงควรให้เวลากับตัวเอง ตั้งสติไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนที่จะพูดอะไรออกไปสักหนึ่งคำ เพราะไม่แน่ว่าสิ่งเหล่านั้นอาจจะกลายมาเป็นเงาตามตัวหลอกหลอนคุณไปตลอดเวลา เราขอยกหนึ่งตัวอย่างของการแสดงความคิดแบบสุดโต่ง และเชื่อว่าน่าจะไม่ผ่านกลั่นกรองประเมินความเสียหายที่จะมีผลกระทบตามมาเสียก่อน จากประธานาธิบดีคนที่ 45 ของประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง Donald Trump ที่เคยแสดงจุดยืนแข็งกร้าวเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ และสีผิวผ่านสื่อ จนเกิดเป็นพลังของมวลประชาในการต่อต้านเขามาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เป็นอีกไฮไลต์ให้เกิดกระแสต่อต้านในตัว Donald Trump อย่างมากคือตอนที่เขาตำหนินักกีฬาอเมริกันฟุตบอลที่คุกเข่าไม่ยอมยืนตรงเคารพธงชาติระหว่างร้องเพลงชาติ เนื่องจากคิดว่าการกระทำนี้เป็นการไม่รักชาติ พร้อมเรียกร้องให้แฟนกีฬา รวมถึงสมาคม NFL บอยคอตต์ทีมต่าง ๆ และสนับสนุนให้แบนนักกีฬาเหล่านั้นออกจากการแข่งขัน หลังจากข้อความนี้ถูกส่งออกไป ได้เกิดกระแสต่อต้านคำพูดของ Donald Trump ถึงการเหยียดหยามสร้างความแตกแยกในสังคม และกลับกลายเป็นว่านักกีฬา NFL ทุกคนตัดสินใจคุกเข่าเคารพธงชาติ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ความเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะผ่านมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่มันก็เป็นเหมือนเงาตามตัวที่คอยหลอกหลอน Donald Trump เพราะตลอดเวลาเขาจะถูกจับจ้องว่าทำได้ตามอย่างที่ตัวเองพูดหรือเปล่า แสดงออกถึงความรักชาติอย่างที่ประกาศจุดยืนไว้ไหม จนกระทั่งล่าสุดหลังจากที่ประธานธิปดี Donald Trump มีวาระต้องเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานฟุตบอลระดับ
สำหรับนักลงทุน หรือผู้ที่พอจะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของตลาดซื้อขายหุ้น อาจจะคุ้นหูกับคำว่า “Panic Buying” หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า อาการลนลานเมื่อเห็นราคาตลาดกำลังพุ่งแรง หรือดิ่งจนน่าตกใจก็รีบซื้อหรือขายหุ้นมั่วซั่วโดยไม่ได้ผ่านการเช็ค และตรวจสอบพื้นฐานอย่างถี่ถ้วน สุดท้ายกลายเป็นขายหมู หรือเป็นเม่าชั้นดีติดดอยหนาวเหน็บกันไปก็หลายราย ซึ่งไอ้คำว่า Panic Buying ก็ไม่ได้ถูกบัญญัติใช้เฉพาะวงการหุ้นเพียงอย่างเดียว เพราะมันได้กลายเป็นแนวคิดทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ที่แม้กระทั่งตามตลาดนัดเองก็ยังมีการนำมาใช้ ลองคิดภาพ mc สาวสวยถือไมค์ประกาศว่า “นาทีทอง สินค้าชิ้นเดียวเราไม่ขาย เราขายสินค้าสองชิ้นในราคาชิ้นเดียว 1 แถม 1 กันไปเลย !!” โดยอันที่จริงแล้วสินค้าดังกล่าว อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งของที่ตัวเราต้องการเลยก็ได้ เพียงแต่ด้วยกลยุทธ์ที่ออกมาล่อตาล่อใจ จนทำให้เราต้องใช้จ่ายเงินแบบที่เรียกว่า Panic Buying ทำให้สูญเสียเงินไปไม่ใช่น้อย แต่ถ้าจะเล่าอาการของ Panic Buying ให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นตามแบบทฤษฎี คือการที่ผู้บริโภคต้องตัดสินใจซื้อของบางอย่าง ภายใต้ความกดดัน ไม่ว่าจะเป็นกรอบของเวลา การบีบคั้นด้วยจำนวนสินค้าที่จำกัด หรือสถานการณ์บังคับ จนทำให้นักช็อปปิ้งส่วนใหญ่รู้สึกตื่นตระหนก สูญเสีย และให้ความสำคัญกับการจับจ่ายช่วงเวลาดังกล่าวอย่างมาก เพราะกลัวจะพลาดโอกาสนี้ไป นอกเหนือจากนี้อาการ Panic Buying ยังส่งผลต่อการตัดสินซื้อที่ขาดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนอีกด้วย โดยเรามีตัวอย่าง 2 กรณีเกี่ยวกับ Panic Buying
ไม่ว่าจะปีใหม่ ตรุษจีน วาเลนไทน์ งานแต่ง งานบวช เลื่อนตำแหน่ง เลี้ยงอำลา หรือเทศกาลไหน ๆ ยังไงผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็หนีไม่พ้นปาร์ตี้กินดื่ม นี่ยังไม่นับงานสังสรรค์ยิบย่อย ที่แต่ละปีจะต้องมีเหตุให้ได้ออกไปทดสอบประสิทธิภาพตับกันอย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุดหย่อน ที่เกริ่นมาแบบนี้ไม่ได้จะบอกว่าการออกไปปาร์ตี้บ่อย ๆ นั้นเป็นเรื่องเลวร้าย จนต้องหลีกเลี่ยงแบบเด็ดขาด แล้วหันมาปลีกวิเวก หลีกลี้หนีหน้าจากงานปาร์ตี้พบปะบรรดาเพื่อนสนิทมิตรสหาย เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ชายกับการสังสรรค์นั้นกลายเป็นเหมือนคู่ซี้ที่แยกจากกันลำบาก แต่ไม่ว่าจะตะลุยปาร์ตี้ถี่แค่ไหน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือ ความรับผิดชอบที่ต้องมี ทั้งกับตัวเองและผู้อื่น จะดื่มทั้งทีก็ควรดื่มอย่างมีสติ เน้นเสริมสร้างบรรยากาศความสนุกสนานก็เพียงพอ แถมยังดูเป็นสุภาพบุรุษที่เก๋าเกมกว่าเยอะ เพราะถ้าลองคิดให้ดี การดื่มแบบเน้นเมาเอาโล่ จนอ้วกแตกเละเทะ ตื่นมาแฮงค์ยาวไปอีกทั้งวัน มันไม่ได้สร้างผลดีใด ๆ ให้กับชีวิตเลยแม้แต่นิดเดียว และ 5 ข้อด้านล่างนี้ คือเคล็ดวิธีการดื่มที่จะทำให้ชาว UNLOCKMEN ทุกท่านสังสรรค์ได้แบบรุ่นใหญ่ อยู่รอดปลอดภัยในทุกปาร์ตี้ ไม่เมาเละเทะ สติหลุดจนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดให้ต้องเสียฟอร์ม เสียสุขภาพ หรือแม้กระทั่งต้องเสียใจในภายหลัง รู้เขารู้เรา “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” กลยุทธ์ของซุนวู ที่ยังคงปรับใช้ได้ดีกับทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่งการดื่ม เพราะก่อนที่จะลงมือยกกระดกแก้วนั้น
อย่างที่เราเคยพูดไปหลายต่อหลายครั้งสำหรับความเชื่อที่ว่า ผู้ชายทุกคน ต่อให้ร่างกายภายนอกเติบโตขึ้นไปมากแค่ไหน แต่สิ่งที่อยู่ภายใต้รูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปยังคงมีความเป็นเด็กที่ชอบเล่น ชอบความสนุก ชอบอยู่กับสิ่งที่ตัวเองรักเหมือนเดิมอยู่ตลอดเวลา ความเป็นเด็กในตัวผู้ชายเรานี่เอง ที่ทำให้ผู้ชายหลายต่อหลายคนยังคงมีของเล่น ซึ่งของเล่นเหล่านั้นเราก็มักจะใช้คำว่า “Toy For Boy” หรือ “Boy’s Toy” มาเติมเต็มในชีวิตอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่แล้วก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น ของเล่นของผู้ชายบางคนอาจจะเป็น รถ บางคนอาจจะเป็น ปืน บางคนอาจจะเป็น Gadget ทันสมัยต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับของเล่นในวันที่เรายังใช้คำนำหน้าชื่อว่า ด.ช. เพียงแต่มันกลายเป็นของเล่นที่เป็นของจริง แต่ก็มีบางคนที่กลับมองต่างออกไปว่า กับแนวคิดที่มองว่าคนที่โตแล้ว เขาไม่มีใครมานั่งเสียเวลากับของเล่นอะไรไร้สาระกันหรอก ของเล่นมันมีไว้สำหรับเด็กน้อย ซึ่งเราคิดว่าพวกที่คอยเอาเวลาของตัวเองมาคอยจับจ้อง จับผิด ตัดสินคนอื่นว่ามัวแต่ทำอะไรที่เสียเวลา หากคิดดี ๆ บางทีคนที่กำลังเสียเวลาอาจจะเป็นคนพูดเองมากกว่าก็ได้ ความคิดที่ว่า มัวแต่เล่นของเล่นมันเสียเวลา บางครั้งคุณอาจะไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ว่า ของเล่นเหล่านี้ เมื่อมันอยู่กับคนที่หลงใหล ชื่นชอบ และใส่ใจในตัวของเล่นชิ้นนั้น มันอาจกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทั้งในด้านจิตใจ และเพิ่มมูลค่าราคาค่างวดให้สูงขึ้นมาอย่างที่คุณเองก็คาดไม่ถึงก็ได้ ตราบใดที่ของเล่นของเด็กผู้ชาย ยังคงต้องใช้จินตนาการ ความสามารถ และทักษะอะไรบางอย่างควบคู่กันไปด้วยอยู่ เราไม่เคยเชื่อว่า มันเป็นสิ่งที่ไม่มีคุณค่า
ผู้ชายอย่างเราเต็มไปด้วยบุคลิกภาพอันหลากหลาย บางบุคลิกภาพก็ทำให้คนตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น บางบุคลิกภาพก็ชวนให้เหม็นขี้หน้ากันได้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกัน จึงไม่แปลกเลยว่าบุคลิกภาพคืออีกสิ่งที่โคตรจะมีความสำคัญ และไว้แบ่งระดับชั้นกันกลาย ๆ ได้ตั้งแต่แรกพบสบตาว่าเราจะจัดคนนั้นไว้ในตำแหน่งไหนของชีวิต แต่คุณรู้หรือไม่ว่าบางบุคลิกภาพก็สร้างความหวาดกลัว หวั่นเกรงให้กับผู้คนรอบตัวได้ตั้งแต่คุณเริ่มย่างกรายเข้าไปปรากฏกายอยู่ข้าง ๆ เขา คุณว่าคุณมีบุคลิกภาพที่ทำให้คนอื่นหวั่นเกรงหรือไม่? นี่คือบุคลิกภาพ 6 อย่างที่บ่งบอกว่าคุณแข็งแกร่งจนคนรอบข้างกลัวเกรง โยนสิ่งเล็กน้อยทิ้งไป เพราะมันไม่ควรเสียเวลาด้วย เด็ดขาด แข็งแกร่งดั่งขุนผาเมื่อคุณตระหนักอยู่เต็มอกดีว่าสิ่งที่โคตรมีค่าที่สุดในชีวิตคือเวลา ไม่ใช่การตามเช็ดตามล้างทุกอย่างได้ดั่งใจไปทั้งหมด บุคลิกภาพนี้คือการไม่ยอมเสียเวลาให้กับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณมองปราดเดียวอย่างเด็ดขาดก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปยุ่งด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรหรือคนแบบไหนก็ต้องหวั่นเกรงเพราะรู้ว่าจะทำให้คุณวอกแวกไม่ได้เลย มองปราดเดียวก็เห็นทางออก ในขณะที่ปัญหาต่าง ๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และผู้คนรอบตัวของคุณกำลังนั่งบ่นว่าทำไมสิ่งนั้นถึงเกิดขึ้น สิ่งนี้ถึงแก้ไม่ได้ แต่คุณคือคนคนเดียวที่มองออกว่าทางแก้ปัญหานั้นคืออะไร บุคลิกภาพแบบนี้มันเปล่งประกายออกมารอบ ๆ ตัวเลยว่าปัญหาทั้งหลายอย่าเสียเวลามากล้ำกรายคุณ และทำให้คนรอบตัวคุณเกรงใจที่จะนำปัญหามาให้คุณอีกด้วย ปากตรงกับใจ คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ในวันที่ใครจะพูดอะไรก็อ้อมกันไปกันมา กลัวนั่นกลัวนี่ไปหมด แต่การที่คุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่กลัวที่จะพูดอะไรออกไปอย่างที่ใจคิด ตรง ๆ แมน ๆ แต่ไม่ขวานผ่าซากจนไม่รู้จักมารยาทก็ทำให้คุณเป็นคนหนึ่งที่น่ากลัวเกรงในสังคมที่คิดว่าทุกคนจะเอาใจตัวเองด้วยการพูดอะไรดี ๆ เท่านั้น อาวุโสด้วยอายุสมอง แม้คุณจะเป็นคนที่อายุไม่ได้มากนักในวงสนทนาทั้งหลาย แต่ใคร ๆ
โลกของเราเคยมีประเพณีฉลองบางอย่าง ที่มนุษย์ใช้วิธีการยิงปืนขึ้นฟ้า ประเพณีที่ว่านี้ ถูกทำตาม ๆ กันไปทั่วทุกมุมโลกโดยที่ไม่มีใครเอะใจว่า จะเกิดผลอะไรตามมาจากความคึกคะนองของคนถือปืน กระสุนจะตกลงที่ไหน ใครคือผู้โชคร้ายคนนั้น ประเพณีดังกล่าวเป็นที่นิยมจากหลายประเทศในหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นทางด้านคาบสมุทร Balkans ในแถบตะวันออกกลาง เอเชียกลาง การยิงปืนขึ้นฟ้า ถ้าโชคดีก็ไม่มีใครเป็นอะไร แต่ถ้าโชคร้าย มันอาจจะกลายเป็นการฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ซึ่งก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังมีคนดันทุรังทำมันโดยอาศัยเรื่องบูชาความเชื่อบังหน้าความคึกคะนอง เหมือนกลัวคนไม่รู้ว่า ‘กูมีปืนนะ’ เช่นเดียวกันกับที่เกิดในบ้านเราสด ๆ ร้อน ๆ กรณี Rock Star รุ่นใหญ่ ขวัญใจใครหลายคน ก็เพิ่งทำตามที่ใจสั่งมา ด้วยการกระหน่ำยิงขึ้นฟ้าเป็นสิบนัด ก่อนเจ้าตัวจะทำการเคลียร์ลำกล้อง ส่องกระสุนลงพื้นเป็นของแถมไปอีก 1 นัด พร้อม Live สดให้ผู้คนได้รับชมถึงความบ้าระห่ำ เป็นหลักฐานในคดีครั้งนี้โดยละม่อม การกระทำดังกล่าว เราเชื่อว่านอกจากเรา น่าจะมีอีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วย และมองว่ามันเป็นการกระทำที่ขาดสติ และไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างหนัก ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น การที่ใครสักคนหนึ่งยิงปืนขึ้นฟ้าอย่างคึกคะนอง ตัวคนยิงเองไม่มีวันรู้หรอกว่า อาจมีใครก็ตามที่อยู่ผิดที่ ผิดเวลา ต้องรับลูกกระสุนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าจนโลกมืดดับไป กลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณอย่างไม่ทันตั้งตัว และเมื่อเกิดเหตุแบบนั้น คนทำมักจะลอยนวลไร้ความผิด