เรียกว่าเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองนาฬิกาที่ไม่มีใครเท่เกินกว่านี้อีกแล้ว สำหรับ Seiko 5 Sports ซีรีส์เรือนเวลาสุดภาคภูมิใจของแบรนด์ Seiko นั่นเอง ! แต่ก่อนจะพูดถึงนาฬิกาที่เป็นเนื้อหาหลักของบทความนี้ เรามารีแคปภาพของความเจ๋งรุ่นนี้กันอีกสักครั้ง Seiko 5 Sports เปิดตัวครั้งแรกในปี 1963 เป็นนาฬิกาบอกวันที่แบบอัตโนมัติเรือนแรกของประเทศญี่ปุ่น ในตอนแรกนั้น Seiko ใช้ชื่อเรียกรุ่นนี้ว่า Seiko 5 ก่อนที่ในปี 2019 จะเปิดตัวใหม่อีกครั้ง แล้วเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Seiko 5 Sports พร้อมกับปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้มีความทันสมัย แต่ก็ไม่ทิ้งฟังก์ชั่นสุดแข็งแกร่ง 5 ประการของรุ่น เพื่อเป็น Everyday Watch ของทุกคน และในปี 2023 นี้ Seiko ก็ได้ส่งนาฬิกาอีกหนึ่งรุ่นเข้าร่วมเทศกาลแห่งการฉลองครบรอบการเดินทาง 55 ปี ของซีรีส์ Seiko 5 Sports รุ่นที่มีชื่อว่า Seiko 5 Sports 55th Anniversary Limited Edition
Seiko Presage presented Gentleman Party งานเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้ในธีม GentleMan ที่จัดโดย ไซโก ประเทศไทย งานที่รวบรวมสุภาพบุรุษที่หลงใหลในสไตล์คลาสสิคเรโทร ณ A Bar ชั้น 37 โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยในงานปาร์ตี้ มีการจัดแสดงคอลเลกชันนาฬิกา Seiko Presage ในซีรีย์ต่างๆ ทั้ง Craftsmanship Series, Sharp-Edged Series, Style 60’s Series และ Cocktail Time ในงานนี้ยังมีเวิร์คช็อปที่น่าสนใจ คือ Classis Menwear Workshop จากคุณเป้ และคุณมาร์ค แห่งเพจ Signore Closet ร่วมด้วยคุณพีร์ จากเพจ The Primary
เมื่อพูดถึงแบรนด์ ALBA ภาพสะท้อนของเรือนเวลาที่เข้มข้นไปด้วยจิตวิญญาณความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งเต็มไปด้วยความประณีตของงานออกแบบ รวมไปถึงคุณภาพที่ถูกส่งต่อจากรุ่นพี่อย่าง SEIKO คือคาแรคเตอร์อันชัดเจนของนาฬิกา ALBA ที่ตอกย้ำคอนเซ็ปต์หลักอย่าง The Reflection of Japan ออกมาได้อย่างหนักแน่น และ DNA ของแบรนด์ที่เด่นชัดได้ถ่ายทอดสู่ ALBA SPORTIVE THAILAND CREATION ที่มาพร้อม 3 สีใหม่ล่าสุด สะท้อนภาพความสปอร์ต เท่ สนุกสนาน ตอบโจทย์ทุกสไตล์ที่แตกต่างได้อย่างลงตัว กับดีไซน์สปอร์ตเทรนดี้ที่แอบแฝงไปด้วยความสง่างาม ซึ่ง ALBA SPORTIVE THAILAND CREATION เป็นนาฬิกามาพร้อมกลไกการทำงานแบบอัตโนมัติ ตัวเรือนและสายผลิตจากวัสดุสเตนเลสสตีลคุณภาพ การันตีมาตราฐานโดย SEIKO โดดเด่นด้วยหน้าปัดซันเรย์ 3 สี เล่นกับแสงได้อย่างงดงามยามที่สวมใส่ ตัวเรือนมีขนาดกำลังเข้าข้อที่ 43 มม. พร้อมช่องหน้าต่างย่อยแสดงวันที่และวันประจำสัปดาห์ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ระดับเดียวกับเม็ดมะยม รับกับหลักชั่วโมงและชุดเข็มเคลือบสารเรืองแสง ช่วยให้สามารถอ่านค่าได้ง่ายแม้ในที่แสงน้อย สวมใส่สบายด้วยสายแบบบานพับปลดล็อคด้วยปุ่มกด และเสริมประสิทธิภาพการกันที่ระดับ 100 เมตร
การเปิดตัว Seiko 5 Sports SKX Series 38mm Mid-Size เรือนเวลาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาดำน้ำที่เท่และฮิตที่สุดของ Seiko ในยุค 80’s ต่อยอดความอมตะของสีสันและงานดีไซน์ สู่เรือนเวลาของปี 2023 ที่โมเดิร์นยิ่งกว่าใคร ! ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ ยังมีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง SEIKO 5 SPORTS 55th Anniversary กับการเดินทางที่เกินกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว และจะเดินหน้าอย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อ Represent ฟังก์ชั่นสุดแข็งแกร่งหัวใจหลักทั้ง 5 อันประกอบไปด้วย Automatic movement, Day-date display, Water Resistance, Recessed Crown and Durable Case และ Bracelet สิ่งแรกที่ UNLOCKMEN อยากให้ทุกคนจำให้แม่นก่อนจะรู้จักกับเรือนเวลารุ่นนี้ให้ละเอียดในบรรทัดต่อไป คือความงามแบบไทม์เลสจากยุค 80’s ของเรือนเวลารุ่นนี้ อยู่ที่หน้าปัด 4 สีใหม่ อันสะท้อนตัวตนของผู้ใส่ที่ต่างกัน ประกอบไปด้วย
นาฬิกาทุกเรือนบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างในตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจจากสิ่งที่นักออกแบบตกหลุมรัก หรือความหลงใหลถึงบางสิ่งบางอย่างของเจ้าของแบรนด์ และบางครั้งก็ส่วนตัวถึงขนาดว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญให้ใครสักคนในชีวิตจริง นาฬิกา SEIKO 5 Sports Super Cub Limited Edition คือเรือนเวลาที่บอกเล่าเรื่องราวหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์รถจักรยานยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก อย่างซีรีส์ Super Club ของ Honda และก็เป็นนาฬิกาที่เปรียบดั่งจดหมายรักเปิดผนึกถึงพวกคุณทุกคน ที่เติบโตมากับจักรยานยนตร์ผลงานมาสเตอร์พีซที่สุดของผู้ชาย 2 คนที่ชื่อ Honda Soichiro และ Fujisawa Takeo ผู้ให้กำเนิด Honda Motor Company นั่นเอง เพราะว่าถูกเรียกอย่างติดปากถึงในปัจจุบันว่า Japanese Retro Style งานออกแบบ Honda Super Club จึงล้ำนำสไตล์พลิกงานดีไซน์จักรยานยนตร์ตั้งแต่โมเดลแรกที่ผลิตออกมาในปี 1958 .. เป็นที่รู้กันดีว่าปี 1958 คือช่วงเวลาหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เพิ่งจะสิ้นสุดลงไปได้ไม่นานนัก (ค.ศ.1945) ในตอนที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัว ผู้คนกำลังที่จะลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง พร้อมกับที่ Tokyo Tower สัญลักษณ์สำคัญของความหวังและความฝันส่องสว่างสมชื่อแดนอาทิศอุทัยเพิ่งสร้างเสร็จในปีเดียวกัน
หลังจากปี 2021 ที่ Seiko 5 Sports ได้เปิดตัว Field/Military Collection เรือนเวลาคอลเลกชันแห่งนักผจญภัย ที่ไม่ว่าจะสาย Camping / Hiking / Trekking ก็สามารถคอมพลีทลุคอัพสไตล์สายลุยระดับไฮคลาส พร้อมกับฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ต่อทุกการใช้งาน เป็นที่ประทับใจของสายแคมป์เปอร์ทั่วโลกมาแล้ว มาในปี 2023 นี้ เรือนเวลาคอลเลกชั่นตัวเก่งตัวเดิม Seiko 5 Sports กลับมาอีกครั้ง ! ด้วย Seiko 5 Sports Field Mid-Size “Outdoorsy Style” เรือนเวลารุ่นล่าสุดของนักผจญภัยที่สายแคมป์ปิ้งพลาดไม่ได้ ด้วยคอนเซปต์ Chillaxing (มีที่มาจาก Chill และ Relax) ตอบโจทย์ในคนรักกิจกรรมเอาท์ดอร์ กับเรือนเวลา 5 เรือน ที่ดีไซน์ทั้งประโยชน์ใช้สวยและประโยชน์ใช้สอย เดี๋ยว UNLOCKMEN จะมาเล่าทีละเรือนให้ฟังในบรรทัดต่อไป เริ่มกันที่นาฬิกา 3 รุ่นแรกที่ปรับขนาดหน้าปัดใหม่เป็น 36
สืบเนื่องจากความร่วมมือระหว่าง ไซโก (ประเทศไทย) ในฐานะหน่วยงานเอกชนที่ให้ความสำคัญของการมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมในทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้มีความเชื่อมโยงกันหรือที่เรียกกันว่า Sustainable Development Goalsหรือ (SDGs) และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร หน่วยงาน NGO ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสานต่อเจตนารมย์ของคุณสืบ นาคะเสถียร ในการพิทักษ์ ช่วยเหลือ และรักษาผืนป่าห้วยขาแข้ง และสัตว์ป่าทุกชีวิตให้อยู่ได้อย่างปกติสุข จนก่อเกิดมาเป็นนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษ สืบ นาคะเสถียร ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น (Seub Nakhasathien Thailand Limited Edition) ที่ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด อีกทั้งยังได้กำเนิด โครงการ Save the Forest โปรเจคที่ได้นำพาสื่อพันธมิตรเดินทางไปลงพื้นที่เพื่อสัมผัสการทำงานของเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และร่วมทำกิจกรรมเพื่อพิทักษ์ผืนป่ามรดกโลก ณ จังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าห้วยขาแข้งในระหว่างวันที่ 15 – 17 มกราคม 2566 โดยกิจกรรม Save the Forest เริ่มด้วยกิจกรรมการฟังบรรยายความสำคัญของป่าโดย ได้รับเกียรติจากเจ้าหน้าที่ผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน เริ่มจากคุณเพิ่มศักดิ์
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยกับ Brand Friend คนที่ 3 ของ Seiko นักแสดงที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ‘อเล็กซ์ เรนเดลล์’ ผู้ร่วมก่อตั้ง Environmental Education Centre หรือ ศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา (EEC) องค์กรที่มุ่งหวังในการส่งเสริมให้สังคมมีความรู้ และความเข้าใจต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมลงมือปกป้องธรรมชาติให้ยั่งยืนมาโดยตลอด โดยการร่วมมือระหว่าง Seiko ในครั้งนี้ หนุ่มอเล็กซ์มาเพื่อผนึกกำลังให้กับแคมเปญเพื่อโลกที่ชื่อว่า Sustainable for Life พร้อมกับ 2 โปรเจกต์เพื่อรักษาธรรมชาติได้อย่างครอบคลุมทั้งโลกบนบกและโลกใต้ทะเล กับ Seiko Save the Ocean และ Seiko Save the Forest ท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวชอุ่มในป่าใหญ่ ของโรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse นั้น ทำให้นึกขึ้นได้ว่าจริง ๆ โปรเจกต์ Save the Ocean ที่มีขึ้นเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ท้องทะเลของประเทศไทยของ
“หลายคนอาจมองว่าเราเป็นคนทำงาน Street Art ที่ประสบความสำเร็จ แต่พูดตรง ๆ คือ เราไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงจุดนั้นหรือเปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าเรามีโอกาส ได้รับโอกาสอะไรมา เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด งานมันต้องพัฒนาเรื่อย ๆ เราอยากรู้สึกตื่นเต้นกับงานที่ทำ ณ ปัจจุบันให้มากที่สุด อยากรู้สึกเหมือนตอนทำงานกำแพงแรก ที่เราผ่านอะไรมามากมายจนสุดท้ายก็ทำสำเร็จ เราว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีมากเลย” Quote ข้างต้นคือมุมมองการสร้างงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วย Passion จากปากของชายที่เรา และใครอีกหลายคนทั้งในไทยรวมถึงต่างประเทศ ต่างให้การยอมรับว่าเขาคือหนึ่งในศิลปินเบอร์ต้น ๆ ที่นำพาผลงาน Street Art ไทย ให้ดังไกลถึงต่างแดน แม้เจ้าตัวจะไม่มั่นใจว่าได้เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางของความสำเร็จแล้วหรือยัง แต่เชื่อว่าผลงานมากมายของ ‘รักกิจ สถาพรวจนา’ หรือ ที่หลายคนรู้จักในชื่อ RUKKIT น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนในตัวอยู่แล้ว จากจุดเริ่มต้นของเด็กชายธรรมดาที่มีใจรักในการวาดรูป แต่การคว้ารางวัลประกวดวาดภาพระดับอนุบาลมาครอง กลับกลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้เด็กชายรักกิจ มุ่งมั่นในเส้นทางศิลปะต่อเนื่องและเริ่มต้นทำงานประจำในสาขากราฟิกดีไซน์เนอร์ จนกระทั่งสิ่งที่เรียกว่า “โอกาส” ที่ถูกหยิบยื่นให้ได้เปิดเส้นทางใหม่ให้ผู้ชายคนนี้ได้รู้จักกับงาน Street Art และใช้ชีวิตกับศิลปะแขนงนี้มาจนถึงปัจจุบัน “หลังจากจบมหาวิทยาลัยก็ไปทำงานกราฟิกดีไซน์ก่อน จากนั้นมีรุ่นพี่ชวนไปทำงาน Street Art เป็นงานพ่นกำแพงที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ (BACC) เริ่มทำครั้งแรกก็รู้สึกชอบเลย
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ ตอนนี้ ชื่อของ ALBA แบรนด์นาฬิกาดีไซน์สวยที่มีจุดเด่นเรื่องราคาจับต้องได้ภายใต้คุณภาพการผลิตที่การันตีโดยแบรนด์เรือนเวลาชั้นนำของญี่ปุ่นอย่าง SEIKO กำลังเป็นที่จับตามองด้วยคอลเลกชั่นเท่ ๆ มากมายที่ทยอยเปิดตัวออกมาภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “The Reflection Of Japan” ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละคอลเลกชั่นนั้นล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นโดนใจ ด้วยงานดีไซน์ที่สะท้อนถึงคุณภาพความเป็น Japan Product กับนาฬิกาแนว Sport Style ที่หนุ่ม ๆ อย่างเราสามารถหยิบมาสวมใส่ได้ในทุกโอกาส ล่าสุดทาง ALBA ก็ได้เผยโฉมอีกหนึ่งคอลเลกชั่นใหม่ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์ความเท่ที่สะท้อนจิตวิญญาณญี่ปุ่นออกมาได้เป็นอย่างดี กับ ALBA Monster Thailand Creation ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรือนเวลารุ่นยอดนิยมของรุ่นพี่อย่าง SEIKO ที่ได้รับการขนานนามจากเหล่านักสะสมว่า Monster ด้วยความแข็งแรงบึกบึนของตัวเรือน และดีไซน์ที่ดูแปลกตาแต่มีเสน่ห์ครองใจผู้คนมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2000 และ Monster ที่ถูกตีความภายใต้ชื่อ ALBA Monster Collection นั้น เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ระดับไอคอนิก มาร้อยเรียงเรื่องราวและดีไซน์ใหม่ ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาผ่านนาฬิการะบบอัตโนมัติ 3 รุ่น 3 สไตล์ ที่ยังคงความโดดเด่นเอาไว้แบบครบ ๆ ทั้งในเรื่องขนาดตัวเรือนกำลังเข้าข้อที่ 42.4