ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาส่วนใหญ่มักจะมองหานาฬิกาที่มีความพิเศษมาเพิ่มเติมใน Collection ตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่ทำขึ้นเป็นที่ระลึกในเหตุการณ์สำคัญ ๆ รุ่นที่มีการ Collaboration หรือเป็นรุ่น Limited Edition ซึ่งมีจำนวนจำกัด นั่นก็เพราะนาฬิกาเหล่านี้มีความพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว คุณค่าทางจิตใจ ความหายาก รวมถึงแนวโน้มมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ยกตัวอย่างแบรนด์นาฬิกาชั้นนำของโลกอย่าง ‘Seiko’ ถ้าหากใครติดตามจะรู้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ‘Seiko’ ถือเป็นแบรนด์นาฬิกที่มีรุ่นยอดนิยม รวมไปถึง Collection เจ๋ง ๆ ออกมาให้นักสะสมได้จับจองเป็นเจ้าของกันอยู่ตลอด และใน Collection ล่าสุด พิเศษยิ่งกว่ากับ ‘Seiko x Alex Face’ นาฬิกาที่ได้ศิลปินกราฟฟิตี้ผลงานระดับโลกของไทย มาเป็นผู้ออกแบบ Collection นาฬิกาสุดพิเศษนี้ด้วยตัวเอง ถ้าพูดถึงชื่อ ‘Alex Face’ ทุกคนจะต้องนึกถึงภาพผลงานเด็ก 3 ตา ซึ่งเป็น Signature ของเขามาพอสมควร แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกเกี่ยวกับตัวศิลปิน Street Art คนนี้ ย้อนกลับไปถึงจุดเร่ิมต้น และเส้นทางความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาของคาแรคเตอร์ที่ปรากฎตัวมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก ‘Alex Face’
สาวกเรือนเวลาทั้งหลายคงรู้กันดีว่าชื่อชั้นด้านการบอกเวลาที่แม่นยำ รวมถึงการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่ประณีตงดงาม ที่ทำให้ Seiko (ไซโก) เป็นอีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาตัวแทนความภูมิใจของชาวเอเชียนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่าย ๆ ในระยะเวลาอันสั้น แต่มันเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลากว่า 140 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ Seiko ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1881 โดย Kintaro Hattori (คินทาโร ฮัตโตริ) ชายหนุ่มวัย 21 ปี ที่นำเอาความตั้งใจ ความรักและความหลงใหลในกลไกบอกเวลามาใช้เป็นแรงผลักดันในการรังสรรค์นาฬิกาคุณภาพสูงจนก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทนาฬิกาชั้นนำ ซึ่งความสำเร็จเหล่านั้นคือสิ่งที่ต่อยอดมาจากวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียวที่ชายผู้นี้ยึดมั่น นั่นคือ “One step ahead of the rest” หรือ “การที่ต้องนำหน้าคู่แข่งอยู่ 1 ก้าวเสมอ” โดยคำกล่าวของ Kintaro Hattori นั้นได้ฝังรากลึกอยู่ในจิตวิญญาณของแบรนด์ และยังคงสะท้อนกึกก้อง เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของ Seiko มาจนถึงปัจจุบัน และในวาระการเฉลิมฉลองครบรอบ 140 ปีของ Seiko จึงถือเป็นโอกาสดีที่วิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งอย่าง Kintaro จะถูกนำกลับมาถ่ายทอดโดยสะท้อนผ่านผลงานนาฬิกา 4 รุ่นพิเศษที่ผลิตในแบบจำนวนจำกัด
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อชั้นกิตติศัพท์ในเรื่องคุณภาพ รวมถึงชื่อเสียงด้านนวัตกรรมการบอกเวลาที่เที่ยงตรงแม่นยำ คือสิ่งตอกย้ำภาพเรือนเวลาแห่งความภาคภูมิใจของชาวเอเชียให้กับแบรนด์ Seiko (ไซโก) ได้เป็นอย่างดี และต้องบอกว่าเกียรติประวัติเหล่านี้ใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ ในระยะเวลาอันสั้น แต่มันเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลากว่า 140 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ Seiko ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1881 โดย Kintaro Hattori (คินทาโร ฮัตโตริ) ชายหนุ่มวัย 21 ปี ที่นำเอาความตั้งใจ ความรักและความหลงใหลในกลไกบอกเวลามาใช้เป็นแรงผลักดันในการรังสรรค์นาฬิกาคุณภาพสูงจนก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทนาฬิกาชั้นนำในญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางในการออกแบบและมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง ตลอดระยะเวลา 50 ปีแรกภายใต้การคุมหางเสือของ Kintaro Hattori คือรากฐานสำคัญในการพาชื่อ Seiko ทะยานสู่ความเป็นแบรนด์นาฬิกาอันดับต้น ๆ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นความสำเร็จที่ต่อยอดมาจากวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียวที่เขายึดมั่น นั่นคือ “One step ahead of the rest” หรือ “การที่ต้องนำหน้าคู่แข่งอยู่ 1 ก้าวเสมอ” โดยคำกล่าวของ Kintaro Hattori ได้ฝังรากลึกอยู่ในจิตวิญญาณของแบรนด์ และเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของ
หากให้หยิบยกเอาเรื่องของนาฬิกาดำน้ำรุ่นเด่นจาก SEIKO มาพูดคุยกัน เชื่อเหลือเกินว่าบรรดาสาวกทั้งหลายคงใช้สมญานามหรือชื่อเล่นแทนตัวของแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เต่า, มอนสเตอร์, ซูโม่, ซามูไร ไปจนถึงระดับจอมทัพอย่าง ‘โชกุน (Shogun)’ มาสนทนากันอย่างออกรส ชนิดที่ว่าคนวงนอกฟังแล้วอาจมีอาการงง พาลฟันธงไปว่ากำลังคุยเรื่องมังงะกันอยู่เป็นแน่แท้ ซึ่งต้องบอกว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้คุยกันเรื่องการ์ตูน หรือหนังแฟนตาซีอะไรอย่างที่เข้าใจกัน แต่ต้องอธิบายว่าชื่อเล่นมากมายที่ถูกใช้ในการขนานนามนาฬิกาเรือนโปรด นั้นถูกนำมาจากจุดเด่นของรูปลักษณ์งานดีไซน์ในแต่ละรุ่น ยกตัวอย่างเช่น SEIKO โชกุน คือชื่อเล่นที่ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับ SEIKO PROSPEX รุ่น SBDC007 ที่โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งของโลหะที่ใช้ ซึ่งก็คือวัสดุไทเทเนียมที่มีน้ำหนักเบาและมีความทนทานสูง เปรียบได้กับชุดเกราะที่โชกุน หรือเจ้าของตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสมัยก่อนสวมใส่ในยามออกรบ และไม่ใช่เพียงแค่วัสดุที่ทำให้ได้มาซึ่งสมญานามโชกุน แต่งานดีไซน์ในส่วนต่าง ๆ ยังสะท้อนจิตวิญญาณชุดเกราะของจอมทัพออกมาอย่างได้ชัดเจน ทั้งในส่วนของ Pointed Markers บนขอบหน้าปัดที่ดูแข็งแกร่ง และ Triangular Notches ที่ออกแบบเพื่อให้หมุนขอบตัวเรือนได้อย่างกระชับ มั่นคง แม่นยำ ตอกย้ำให้ผู้ที่ได้สวมใส่นาฬิกาเรือนนี้รู้สึกได้ว่าความแกร่ง ผสานกับความประณีต รวมถึงน้ำหนักที่เบาของวัสดุไทเทเนียม นั้นควรค่าที่จะเป็นชุดเกราะคู่ใจของโชกุนผู้เกรียงไกร จนกลายเป็นที่มาของชื่อ ‘โชกุน’ นาฬิกาดำน้ำที่เบาที่สุดจาก SEIKO ที่หลายคนยกให้เป็นตำนาน โดยเหตุผลที่ได้กลายเป็นตำนานนั้น
“ดากานดา ฉันรักแกว่ะ”น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักประโยคอมตะจากปากของ ‘ไข่ย้อย’ ตัวละครจาก ‘เพื่อนสนิท’ ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกที่ส่งให้ชื่อของ ‘ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์’ ปรากฎขึ้นมาบนสารบบของนักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตาของประเทศไทย และด้วยภาพยนตร์เรื่องเดียวกันนี้เอง ที่ทำให้ผู้ชายคนนี้ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากคม ชัด ลึก อวอร์ด ประจำปี 2548 แม้จะเปิดฉากอาชีพนักแสดงได้อย่างสวยงาม แต่รางวัล ชื่อเสียง คำชื่นชมที่ได้รับมาตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ซันนี่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง ไม่เคยทำให้ผู้ชายคนนี้ปล่อยตัวเองให้หยุดอยู่กับความสำเร็จเก่า ๆ แต่เขายังคงมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเพื่อทำอาชีพนักแสดง ที่เขามักจะพูดอยู่เสมอว่านี่คืออาชีพที่เขารัก ได้อย่างมีคุณภาพสมบทบาทในทุกผลงาน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันศักยภาพตัวเองให้ไปข้างหน้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มีโอกาสได้รับเลือกให้มารับหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของไซโก (ประเทศไทย) ภายใต้แคมเปญ “Keep Going Forward” ไม่สิ้นสุดถ้าไม่หยุดไปต่อ ซึ่งสะท้อนตัวตนวิธีคิดของซันนี่ออกมาได้อย่างชัดเจน หลังจากที่แบรนด์แอสบาสเดอร์รุ่นพี่อย่าง ‘อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม’ ที่เคยมีผลงานร่วมกันในภาพยนตร์เรื่อง ‘ชัมบาลา’ นั้นประสบความสำเร็จอย่างมากกับแคมเปญ “Move your adventurous mind further” และ “Discover Your Planet” ของทางไซโก
สำหรับแฟน ๆ Seiko รวมถึงผู้หลงใหลในเรือนเวลาอีกมากมาย หากเอ่ยถึงชื่อของ Seiko 5 Sports ขึ้นมา เชื่อว่าเข็มนาฬิกาแห่งความทรงจำ ต้องพาทุกคนย้อนวนกลับไปเป็นเวลากว่า 50 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาแรกเริ่มที่โลกได้รู้จักกับ Seiko 5 Sports นาฬิกาที่มอบความน่าเชื่อถือ ความทนทาน ประสิทธิภาพ และมูลค่า ให้กับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาจักรกลทั่วโลกมาอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวของมันเริ่มต้นตั้งแต่บรรพบุรุษของนาฬิกา Seiko 5 อย่าง Seiko Sportmatic 5 ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาในปี 1963 และครองตำแหน่งนาฬิการะบบอัตโนมัติที่มาพร้อมฟังก์ชั่นบอกวันและวันที่ เรือนแรกของ Seiko และเป็นเรือนแรกของประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าล้ำสมัยสุด ๆ ในยุคนั้น โดยเลข “5” ในชื่อรุ่นเป็นสิ่งแสดงถึงคำมั่นสัญญาว่านาฬิกา Seiko 5 ทุกเรือนจะมาพร้อมคุณสมบัติหลัก 5 ประการ ดังนี้ เครื่องระบบอัตโนมัติ, ฟังก์ชั่นวันและวันที่บริเวณ 3 นาฬิกา, ระบบกันน้ำ, เม็ดมะยมบริเวณ 4 นาฬิกา และ ตัวเรือนรวมถึงสายที่มีความแข็งแรงทนทาน เมื่อนำมาผสานเข้ากับเมนสปริงใหม่ล่าสุด และระบบป้องกันการกระแทก
หากจะให้นึกถึงเรือนเวลาคุณภาพสูงจากทางฟากฝั่งเอเชียที่มีศักยภาพพอที่จะต่อกรกับเรือนเวลา Swiss Made ได้ เชื่อว่าผู้หลงใหลในเสน่ห์แห่งเวลาชาวไทย น่าจะมีชื่อของแบรนด์ Seiko (ไซโก) โผล่ขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ในใจ ด้วยประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลากว่า 130 ปี นับตั้งแต่ Seiko ได้ถูกก่อตั้งขึ้น โดย Kintaro Hattori (คินทาโร ฮัตโตริ) ในปี ค.ศ. 1881 ด้วยการนำเอาความรักและความหลงใหลในเครื่องบอกเวลามาใช้เป็นแรงผลักดันในการผลิตนาฬิกาคุณภาพสูงออกสู่ตลาดทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วทุกมุมโลก พาชื่อ Seiko ทะยานขึ้นสู่ความเป็นแบรนด์นาฬิกาอันดับต้น ๆ ในเอเชีย การันตีด้วยคุณภาพสินค้า ขั้นตอนการออกแบบการผลิตที่ประณีต ผนวกนวัตกรรมระดับสูงในแบบฉบับ Made in Japan ที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความไว้วางใจ รวมถึงในประเทศไทยแบรนด์ Seiko ซึ่งปัจจุบันดำเนินการโดยบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) ได้เดินหน้าทำการตลาด และขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถสร้างฐานลูกค้า, กลุ่มแฟนตัวจริงของนาฬิกา Seiko ที่มี Comunity และ Brand Royalty แข็งแกร่ง ตอกย้ำให้ประเทศไทยกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในภูมิภาคอาเซียนที่มีความพร้อมในการเปิด Seiko
ถ้าจะพูดถึงแบรนด์นาฬิกาคุณภาพที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์งานดีไซน์เฉพาะตัว กลไกการเดินเข็มที่ได้มาตรฐาน และมีชื่อเสียงระดับตำนานในแวดวงนาฬิกาโลก คงจะลืมชื่อของ ‘Seiko’ แบรนด์นาฬิกาจากแดนอาทิตย์อุทัยไปไม่ได้เลย แม้ Seiko จะมีประวัติศาสตร์ยาวนานและโลดแล่นเดินเข็มอยู่ในวงการนาฬิกามาเกือบ 140 ปี แต่แบรนด์นาฬิการายนี้ก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเรือนเวลาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากที่เริ่มต้นปี 2020 ด้วยการเปิดตัวคอลเลกชันนาฬิกาดำน้ำในตระกูล ‘Black Series’ ของไลน์อัป Seiko Prospex ก็ทำเอาหนุ่ม ๆ ทั่วโลกอยู่ไม่ติดเก้าอี้และกาปฏิทินรอวันวางจำหน่ายที่จะมาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมปี 2020 นี้ แล้วตอนนี้ Seiko ก็ทำเราเซอร์ไพรส์อีกครั้ง เพราะบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกา Seiko เตรียมขยายฐานการผลิตและประกาศเปิด Pop-up Store แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ Pop-up Store แห่งนี้จะตั้งอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์ ชั้น M แหล่งรวมไลฟ์สไตล์และสินค้าแฟชั่นยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ ภายในร้าน Seiko Pop-up Store มาพร้อมงานดีไซน์สุดเท่ ประดับตกแต่งร้านด้วย LED Track Light และโครงเหล็กสีดำเข้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเรือนเวลาจาก
Seiko เริ่มต้นปี 2020 ด้วยการประกาศเปิดตัวนาฬิกาสามรุ่นล่าสุดในตระกูล ‘Black Series’ ของไลน์อัป Seiko Prospex ประกอบไปด้วยรุ่น SLA035J1, SPB125J1 และ SSC761J1 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความมืดมิดและระดับความลึกใต้มหาสมุทร นาฬิกาทั้งสามรุ่นถูกห่อหุ้มด้วยเคสสเตนเลสสีดำไอออน สะท้อนความงดงามใต้ท้องทะเลลึก พร้อมสอดแทรกรายละเอียดงานดีไซน์บนหน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และใช้เทคโนโลยีส่องสว่าง LumiBrite ช่วยให้มองเห็นใต้น้ำได้แจ่มชัดยิ่งขึ้น SEIKO PROSPEX BLACK SERIES SLA035J1 นาฬิการุ่นนี้ใช้โมเดล SLA021 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นาน เป็นพื้นฐานการออกแบบ แถมยังได้สมญานามว่าเป็นทายาทของ MarineMaster 300 หนึ่งในนาฬิกาดำน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Seiko ‘SLA035J1’ มาพร้อมตัวเรือนแบบชิ้นเดียว (Monobloc) และสายซิลิโคนสีดำกับหัวเข็มขัดแบบหมุด นอกจากงานดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว เรือนนี้ยังใช้กลไก Calibre 8L35 ที่แม่นยำและน่าเชื่อถืออีกด้วย บนหน้าปัดขนาด 44.3 มิลลิเมตร ตกแต่งด้วยเข็มวินาทีสีแดงเด่น มีฝาเซรามิกแบบทิศทางเดียวที่แข็งแรงทนทาน ช่วยให้นาฬิกากันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร หน้าปัดยังใช้เทคโนโลยีส่องสว่าง Lumibrite ที่ให้ความสว่างมากกว่าและนานกว่าสารเรืองแสงทั่วไป
หลังจากที่ Capcom วางจำหน่ายภาคเสริมของตระกูลเกมยอดฮิตนักล่าอสูรในตำนาน Monster Hunter กับ Monster Hunter World: Iceborne ไปหมาด ๆ ที่สามารถยอดขายที่พุ่งสูงถึง 2.5 ล้านชุด (นับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน – 13 กันยายน 2019) ทั้งยอดขายแผ่นเกมและการดาวน์โหลดแบบดิจิทัล แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าเกมล่ามอนสเตอร์ในตำนานไม่เคยเสื่อมความนิยมจากนักเล่นเกม ด้วยความนิยมที่ไม่เคยจืดจาง แถมในปีนี้ยังครบรอบ 15 ปี ของเกม Monster Hunter อีก จึงทำให้แบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่นอย่าง Seiko ร่วมฉลองความสำเร็จของเกมนักล่าอสูรด้วยการออกนาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษสำหรับเกมดังโดยเฉพาะ ซึ่งการเจอกันระหว่างเกมดังและนาฬิการุ่นเก๋าครั้งนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านนาฬิกาข้อมือ 3 เรือนโดยดึงเอกลักษณ์เฉพาะของมอนสเตอร์ทั้ง 3 ตัวไว้อย่างครบถ้วน SBPY155 RATHALOS นาฬิกาเรือนแรกของคอลเลกชันนี้ประเดิมด้วยมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ที่ได้ฉายาว่าราชาแห่งท้องฟ้าอย่าง Rathalos (リオレウス) สัตว์ประหลาดประเภทมังกรที่แข็งแกร่ง มีลมหายใจสามารถเผาทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง กรงเล็บแหลมคมกับปีกขนาดใหญ่เสริมให้กำจัดศัตรูสิ้นซากกลางอากาศก่อนจะร่อนลงสู่พื้นดินอย่างสง่างาม ด้วยความเก่งกาจและยากจะต้านทานทำให้ Rathalos กลายเป็นมอนสเตอร์ที่เหล่านักเล่นเกม Monster Hunter ต้องรู้จัก เมื่อความแข็งแกร่งของ