“ดากานดา ฉันรักแกว่ะ”น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักประโยคอมตะจากปากของ ‘ไข่ย้อย’ ตัวละครจาก ‘เพื่อนสนิท’ ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกที่ส่งให้ชื่อของ ‘ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์’ ปรากฎขึ้นมาบนสารบบของนักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตาของประเทศไทย และด้วยภาพยนตร์เรื่องเดียวกันนี้เอง ที่ทำให้ผู้ชายคนนี้ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากคม ชัด ลึก อวอร์ด ประจำปี 2548 แม้จะเปิดฉากอาชีพนักแสดงได้อย่างสวยงาม แต่รางวัล ชื่อเสียง คำชื่นชมที่ได้รับมาตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ซันนี่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง ไม่เคยทำให้ผู้ชายคนนี้ปล่อยตัวเองให้หยุดอยู่กับความสำเร็จเก่า ๆ แต่เขายังคงมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเพื่อทำอาชีพนักแสดง ที่เขามักจะพูดอยู่เสมอว่านี่คืออาชีพที่เขารัก ได้อย่างมีคุณภาพสมบทบาทในทุกผลงาน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันศักยภาพตัวเองให้ไปข้างหน้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มีโอกาสได้รับเลือกให้มารับหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของไซโก (ประเทศไทย) ภายใต้แคมเปญ “Keep Going Forward” ไม่สิ้นสุดถ้าไม่หยุดไปต่อ ซึ่งสะท้อนตัวตนวิธีคิดของซันนี่ออกมาได้อย่างชัดเจน หลังจากที่แบรนด์แอสบาสเดอร์รุ่นพี่อย่าง ‘อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม’ ที่เคยมีผลงานร่วมกันในภาพยนตร์เรื่อง ‘ชัมบาลา’ นั้นประสบความสำเร็จอย่างมากกับแคมเปญ “Move your adventurous mind further” และ “Discover Your Planet” ของทางไซโก
สำหรับแฟน ๆ Seiko รวมถึงผู้หลงใหลในเรือนเวลาอีกมากมาย หากเอ่ยถึงชื่อของ Seiko 5 Sports ขึ้นมา เชื่อว่าเข็มนาฬิกาแห่งความทรงจำ ต้องพาทุกคนย้อนวนกลับไปเป็นเวลากว่า 50 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาแรกเริ่มที่โลกได้รู้จักกับ Seiko 5 Sports นาฬิกาที่มอบความน่าเชื่อถือ ความทนทาน ประสิทธิภาพ และมูลค่า ให้กับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาจักรกลทั่วโลกมาอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวของมันเริ่มต้นตั้งแต่บรรพบุรุษของนาฬิกา Seiko 5 อย่าง Seiko Sportmatic 5 ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาในปี 1963 และครองตำแหน่งนาฬิการะบบอัตโนมัติที่มาพร้อมฟังก์ชั่นบอกวันและวันที่ เรือนแรกของ Seiko และเป็นเรือนแรกของประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าล้ำสมัยสุด ๆ ในยุคนั้น โดยเลข “5” ในชื่อรุ่นเป็นสิ่งแสดงถึงคำมั่นสัญญาว่านาฬิกา Seiko 5 ทุกเรือนจะมาพร้อมคุณสมบัติหลัก 5 ประการ ดังนี้ เครื่องระบบอัตโนมัติ, ฟังก์ชั่นวันและวันที่บริเวณ 3 นาฬิกา, ระบบกันน้ำ, เม็ดมะยมบริเวณ 4 นาฬิกา และ ตัวเรือนรวมถึงสายที่มีความแข็งแรงทนทาน เมื่อนำมาผสานเข้ากับเมนสปริงใหม่ล่าสุด และระบบป้องกันการกระแทก
หากจะให้นึกถึงเรือนเวลาคุณภาพสูงจากทางฟากฝั่งเอเชียที่มีศักยภาพพอที่จะต่อกรกับเรือนเวลา Swiss Made ได้ เชื่อว่าผู้หลงใหลในเสน่ห์แห่งเวลาชาวไทย น่าจะมีชื่อของแบรนด์ Seiko (ไซโก) โผล่ขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ในใจ ด้วยประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลากว่า 130 ปี นับตั้งแต่ Seiko ได้ถูกก่อตั้งขึ้น โดย Kintaro Hattori (คินทาโร ฮัตโตริ) ในปี ค.ศ. 1881 ด้วยการนำเอาความรักและความหลงใหลในเครื่องบอกเวลามาใช้เป็นแรงผลักดันในการผลิตนาฬิกาคุณภาพสูงออกสู่ตลาดทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วทุกมุมโลก พาชื่อ Seiko ทะยานขึ้นสู่ความเป็นแบรนด์นาฬิกาอันดับต้น ๆ ในเอเชีย การันตีด้วยคุณภาพสินค้า ขั้นตอนการออกแบบการผลิตที่ประณีต ผนวกนวัตกรรมระดับสูงในแบบฉบับ Made in Japan ที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความไว้วางใจ รวมถึงในประเทศไทยแบรนด์ Seiko ซึ่งปัจจุบันดำเนินการโดยบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) ได้เดินหน้าทำการตลาด และขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถสร้างฐานลูกค้า, กลุ่มแฟนตัวจริงของนาฬิกา Seiko ที่มี Comunity และ Brand Royalty แข็งแกร่ง ตอกย้ำให้ประเทศไทยกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในภูมิภาคอาเซียนที่มีความพร้อมในการเปิด Seiko
ถ้าจะพูดถึงแบรนด์นาฬิกาคุณภาพที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์งานดีไซน์เฉพาะตัว กลไกการเดินเข็มที่ได้มาตรฐาน และมีชื่อเสียงระดับตำนานในแวดวงนาฬิกาโลก คงจะลืมชื่อของ ‘Seiko’ แบรนด์นาฬิกาจากแดนอาทิตย์อุทัยไปไม่ได้เลย แม้ Seiko จะมีประวัติศาสตร์ยาวนานและโลดแล่นเดินเข็มอยู่ในวงการนาฬิกามาเกือบ 140 ปี แต่แบรนด์นาฬิการายนี้ก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเรือนเวลาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากที่เริ่มต้นปี 2020 ด้วยการเปิดตัวคอลเลกชันนาฬิกาดำน้ำในตระกูล ‘Black Series’ ของไลน์อัป Seiko Prospex ก็ทำเอาหนุ่ม ๆ ทั่วโลกอยู่ไม่ติดเก้าอี้และกาปฏิทินรอวันวางจำหน่ายที่จะมาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมปี 2020 นี้ แล้วตอนนี้ Seiko ก็ทำเราเซอร์ไพรส์อีกครั้ง เพราะบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกา Seiko เตรียมขยายฐานการผลิตและประกาศเปิด Pop-up Store แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ Pop-up Store แห่งนี้จะตั้งอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์ ชั้น M แหล่งรวมไลฟ์สไตล์และสินค้าแฟชั่นยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ ภายในร้าน Seiko Pop-up Store มาพร้อมงานดีไซน์สุดเท่ ประดับตกแต่งร้านด้วย LED Track Light และโครงเหล็กสีดำเข้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเรือนเวลาจาก
Seiko เริ่มต้นปี 2020 ด้วยการประกาศเปิดตัวนาฬิกาสามรุ่นล่าสุดในตระกูล ‘Black Series’ ของไลน์อัป Seiko Prospex ประกอบไปด้วยรุ่น SLA035J1, SPB125J1 และ SSC761J1 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความมืดมิดและระดับความลึกใต้มหาสมุทร นาฬิกาทั้งสามรุ่นถูกห่อหุ้มด้วยเคสสเตนเลสสีดำไอออน สะท้อนความงดงามใต้ท้องทะเลลึก พร้อมสอดแทรกรายละเอียดงานดีไซน์บนหน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และใช้เทคโนโลยีส่องสว่าง LumiBrite ช่วยให้มองเห็นใต้น้ำได้แจ่มชัดยิ่งขึ้น SEIKO PROSPEX BLACK SERIES SLA035J1 นาฬิการุ่นนี้ใช้โมเดล SLA021 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นาน เป็นพื้นฐานการออกแบบ แถมยังได้สมญานามว่าเป็นทายาทของ MarineMaster 300 หนึ่งในนาฬิกาดำน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Seiko ‘SLA035J1’ มาพร้อมตัวเรือนแบบชิ้นเดียว (Monobloc) และสายซิลิโคนสีดำกับหัวเข็มขัดแบบหมุด นอกจากงานดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว เรือนนี้ยังใช้กลไก Calibre 8L35 ที่แม่นยำและน่าเชื่อถืออีกด้วย บนหน้าปัดขนาด 44.3 มิลลิเมตร ตกแต่งด้วยเข็มวินาทีสีแดงเด่น มีฝาเซรามิกแบบทิศทางเดียวที่แข็งแรงทนทาน ช่วยให้นาฬิกากันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร หน้าปัดยังใช้เทคโนโลยีส่องสว่าง Lumibrite ที่ให้ความสว่างมากกว่าและนานกว่าสารเรืองแสงทั่วไป
หลังจากที่ Capcom วางจำหน่ายภาคเสริมของตระกูลเกมยอดฮิตนักล่าอสูรในตำนาน Monster Hunter กับ Monster Hunter World: Iceborne ไปหมาด ๆ ที่สามารถยอดขายที่พุ่งสูงถึง 2.5 ล้านชุด (นับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน – 13 กันยายน 2019) ทั้งยอดขายแผ่นเกมและการดาวน์โหลดแบบดิจิทัล แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าเกมล่ามอนสเตอร์ในตำนานไม่เคยเสื่อมความนิยมจากนักเล่นเกม ด้วยความนิยมที่ไม่เคยจืดจาง แถมในปีนี้ยังครบรอบ 15 ปี ของเกม Monster Hunter อีก จึงทำให้แบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่นอย่าง Seiko ร่วมฉลองความสำเร็จของเกมนักล่าอสูรด้วยการออกนาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษสำหรับเกมดังโดยเฉพาะ ซึ่งการเจอกันระหว่างเกมดังและนาฬิการุ่นเก๋าครั้งนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านนาฬิกาข้อมือ 3 เรือนโดยดึงเอกลักษณ์เฉพาะของมอนสเตอร์ทั้ง 3 ตัวไว้อย่างครบถ้วน SBPY155 RATHALOS นาฬิกาเรือนแรกของคอลเลกชันนี้ประเดิมด้วยมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ที่ได้ฉายาว่าราชาแห่งท้องฟ้าอย่าง Rathalos (リオレウス) สัตว์ประหลาดประเภทมังกรที่แข็งแกร่ง มีลมหายใจสามารถเผาทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง กรงเล็บแหลมคมกับปีกขนาดใหญ่เสริมให้กำจัดศัตรูสิ้นซากกลางอากาศก่อนจะร่อนลงสู่พื้นดินอย่างสง่างาม ด้วยความเก่งกาจและยากจะต้านทานทำให้ Rathalos กลายเป็นมอนสเตอร์ที่เหล่านักเล่นเกม Monster Hunter ต้องรู้จัก เมื่อความแข็งแกร่งของ
ย้อนไปในปี 1987 ถ้าหนุ่ม ๆ ยังพอจำกันได้ ‘Predator’ ภาพยนตร์แอ็กชันผสมนวนิยายวิทยาศาสตร์สุดสยอง ได้เข้าฉายและทำรายได้มากถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยกระแสนิยมล้นหลามและความสำเร็จของหนังที่ทะลุเกินยอดจนทำให้ทีมผู้สร้างต้องปลุกปั้นภาคต่ออีก 2 ภาคตามมา นอกจากภาพจำที่มีต่ออสุรกายและเหล่านักรบพร้อมยุทโธปกรณ์ไฮเทคจากนอกโลก เราคงลืมโฉมหน้านักแสดงนำอย่างอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ไปไม่ได้เลย แล้วหากหนุ่ม ๆ สังเกตดี ๆ บนข้อมือของพระเอกหนุ่มผู้กล้าก็ถูกประดับด้วยเรือนเวลาสุดเท่ที่ยังคงเสน่ห์เหนือกาลเวลา ‘SEIKO PROSPEX SOLAR DIVER SNJ028’ นาฬิกาดำน้ำสุดคลาสสิกแห่งยุค 80s ถูกชุบชีวิตอีกครั้ง ซึ่งรุ่นใหม่นี้ดีไซน์มาให้แข็งแกร่งกว่ารุ่น ‘ARNIE’ ในปี 1982 ตัวเรือนมีขนาด 47.8 มิลลิเมตร ใช้กลไกการเคลื่อนไหวระบบควอตซ์ Seiko H851 ที่ทำให้บอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำ แถมยังรองรับการชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ นาฬิกาทำจากสเตนเลสสตีล ก่อนจะเคลือบด้วยชุด DLC (Diamond Like Carbon) ทำให้นาฬิกาเรือนนี้คงทนต่อการเสียดสีและเกิดรอยขีดข่วนได้ยาก ตัวเรือนดีไซน์มาเป็นสีดำด้าน ในขณะที่กรอบและไฮไลต์บนหน้าปัดเป็นสีทอง จุดเด่นคือสามารถกันน้ำได้ถึง 200 เมตร พร้อมเคลือบหน้าปัดนาฬิกาด้วย
ถือว่าเป็นปีทองของการ์ตูนขวัญใจเด็กผู้ชายอย่าง Gundam จริง ๆ เพราะปีนี้ถือเป็นการครบรอบ 40 ปีนับตั้งแต่การ์ตูนกันดั้มออกฉายครั้งแรก นาฬิกาสารพัดแบรนด์ต่างก็ออกคอลเลกชันพิเศษเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันครับรอบนี้ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น Casio แบรนด์จากสวิสเซอร์แลนด์อย่าง Tissot และล่าสุดคอลเลกชันพิเศษสุดหรูจาก Seiko ที่ออกนาฬิกาสวย ๆ ทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน Gundam Limited Edition สำหรับนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่อยู่ในคอลเลกชัน Gundam จะใช้นาฬิกา LX Line คอลเลกชันล่าสุดมาปรับแต่งใหม่ โดยแต่งเติมเรื่องราวของ Mobile Suit รุ่น RX-78-2 สุดคลาสสิกเข้าไป ทำให้ตัวเรือนมีธีมสีแสนคุ้นตาทั้งสีขาว สีน้ำเงิน สีเหลือง และสีแดง ขอบหน้าปัดครึ่งบนแต้มด้วยสีนำ้เงิน ส่วนครึ่งล่างใช้สีขาว ขีดของหมายเลข 12 จะดัดแปลงจากเส้นหนึ่งเส้นเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์เสาอากาศส่วนหมวกของรุ่น RX-78-2 ทั้งยังแถมสายนาฬิกาหนังจระเข้สีขาวมาให้อีกหนึ่งเส้น ราคาของ Gundam Limited Edition จะอยู่ที่ 630,000 เยน คิดเป็นเงินไทยราว 180,000 บาท
“Swiss made คือหนึ่งในความนิยมของนักเล่นนาฬิกาทั้งมือเก่ามือใหม่ แต่ SEIKO จะเป็นนาฬิกาเรือนแรก ๆ ที่คนไทยใส่” เรานั่งพูดคุยเรื่องความนิยมกับพี่น้องที่รักและหลงใหลเรื่องนาฬิกา ชื่นชอบเรื่องวัสดุการผลิตสายลึกจนจู่ ๆ ได้ยินประโยคนี้ขึ้นมาระหว่างการพูดคุย จริงหรือเปล่าที่ Seiko เป็นแบบนั้น แต่คงไม่ต้องมองไปไหนไกล เมื่อที่ข้อมือเราเองก็คาดไว้หนึ่งเรือน แม้จะไม่ใช่ Limited Edition ก็ตาม ก็น่าจะจริงอย่างเขาว่า ทำไมแบรนด์นี้ถึงเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่คนไทยคิดถึง และยังเป็นหนึ่งแบรนด์ในดวงใจของชายหญิงผู้มองหาเรือนเวลาสักเรือนมาสวมใส่และสะสม หรือกระทั่ง Brand Heritage เขามีความเป็นมาอย่างไรทำไมถึง survive ข้ามกาลเวลามานับ 100 ปีแล้วก็ยังไม่ตกชั้น UNLOCKMEN จะพาไปดูหลาย ๆ มุมมองเหล่านี้ไปพร้อมกัน THE BEGINNING OF SEIKO Kintaro Hattori คือผู้เขียนตำนานของ Seiko เขาเติบโตในครอบครัวที่ทำอาชีพขายของโบราณและได้รับ DNA เดียวกับพ่อมาเต็มเปี่ยมจึงใฝ่ฝันจะเป็นพ่อค้าตั้งแต่วัยสิบกว่าขวบ ก่อนเริ่มตัดสินใจว่าจะเป็นช่างทำนาฬิกาตั้งแต่อายุเพียง 13 ปีเท่านั้นหลังไปที่ร้าน Kobayashi Clock Shop
โลกยุคเทคโนโลยีและการสื่อสารไร้พรมแดนที่หากเราจะค้นหาอะไร แค่เข้าไปเสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ตก็มีข้อมูลเด้งออกมาเพียบ จนเรียกได้ว่าไม่ต้องก้าวเท้าออกไปจากบ้านก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์รอบโลกได้แบบครบถ้วน แต่เชื่อเถอะ ว่านี่ไม่ใช่นิสัยของคน GEN Y ส่วนใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะชื่นชอบเทคโนโลยี เสิร์ชข้อมูลเพื่อหาความรู้ แต่พวกเขาไม่ใช่แค่นั่งหาข้อมูลไปวัน ๆ แน่นอน พวกเขาชื่นชอบความท้าทายและรักการผจญภัยไม่แพ้ความหลงใหลในเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นการเสิร์ชหาข้อมูลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตก็เพื่อเตรียมการ ที่จะออกเดินทางค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับชีวิต ใช่แล้ว! วันนี้เราจะมาพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยวกัน ใครก็ต้องเคยออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ บางคนชอบเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต หรือว่าบางคนชอบที่จะท้าทายตัวเอง ออกเดินทางไปบนเส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการเดินทางรูปแบบใดก็ตาม มักจะเจอเรื่องราวที่ไม่คาดฝันเสมอ เช่นเดียวกับการเดินทางของ ‘อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม’ พระเอกมาดเข้มสุดเซอร์ กับการเดินทางครั้งใหม่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ท่องเที่ยวบนเส้นทางที่ไม่เคยไป ดินแดนที่แตกต่างทั้งด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต สภาพอากาศ แต่สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นวินาทีที่น่าจดจำและบทเรียนสุดท้าทายของนักเดินทาง สรุปออกมาเป็น 6 คำสำคัญที่จะมาเติมเต็มและทำให้คุณได้เป็นนักเดินทางที่แท้จริง STUCK but not stop ทุกการเดินทาง โดยเฉพาะเส้นทางที่เราไม่เคยไป แม้จะค้นหาข้อมูลมามากมาย แต่ในสถานการณ์จริง อาจจะต้องพบเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหลงทาง รถพัง