รองเท้า คือหนึ่งในไอเทมสำคัญที่ผู้ชายอย่างเราให้ความสำคัญ จึงไม่แปลกที่หนุ่ม ๆ แต่ละคนจะมีรองเท้าหลากรุ่นหลายสไตล์เก็บเอาไว้ในครอบครองสำหรับสวมใส่ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหม่หรือรองเท้ารุ่นคลาสสิก ขณะเดียวกัน ทุกคนคงทราบดีว่ารองเท้ารุ่นคลาสสิกที่เราเห็นในปัจจุบันหลายรุ่น ต่างมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็น “รองเท้ากีฬา” ไม่ว่าจะเป็น Converse Chuck Taylor Allstar ที่มีพื้นฐานจากการเป็นรองเท้าบาสเกตบอล หรือ Adidas Stan Smith ที่พัฒนามาจากรองเท้าเทนนิส ซึ่งต่อมารองเท้าทั้ง 2 รุ่นก็ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยและกลายมาเป็นโมเดลรองเท้าที่อยู่เหนือกาลเวลาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นอกจากรองเท้าที่มีพื้นฐานมาจากกีฬาอย่างบาสเกตบอลหรือเทนนิสแล้ว ยังมีรองเท้าอีกหนึ่งรุ่นที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการแข่งขันในโลกความเร็วอย่าง Formula1 กับรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง “Puma SpeedCat” และวันนี้เราจะพาทุกคนไปกับความรู้จักกับ Racing Shoe คู่นี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมกัน ! กำเนิด Racing Shoes ก่อนจะพูดถึงรองเท้าสำหรับสวมใส่ขับรถที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เราขอพาทุกคนย้อนกลับไปทำความรู้จักกับรองเท้าสำหรับแข่งรถ (Racing shoe) คู่แรกของโลกกันก่อน โดยต้องย้อนกลับไปในปี 1963 เมื่อ Gianni Mostile ช่างทำรองเท้าชาวอิตาลีได้ทำการจดสิทธิบัตรรองเท้าสำหรับแข่งรถที่ตัวเขาออกแบบขึ้นมาเองกับมือ งานดีไซน์ของรองเท้าคู่ดังกล่าว ถูกออกแบบให้ส่วน Outsole โอบรัดเท้าไปบรรจบกันด้านหลังตัวรองเท้าเพื่อป้องกันส้นเท้าผู้สวมใส่จากแรงกระแทกระหว่างขับรถ ขณะเดียวกันยังออกถอดพื้นด้านในออก
เชื่อว่าภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงคราม คือเป็นหนึ่งในประเภทของภาพยนตร์ที่หนุ่ม ๆ หลายชื่นชอบ ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาที่ผ่านมายังมีภาพยนตร์ที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงในสงครามหลายเรื่อง ที่สามารถสร้างความประทับใจรวมถึงมีส่วนสำคัญในการบอกเล่าประสบการณ์จากสมรภูมิต่าง ๆ ให้ผู้คนมีโอกาสรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันภาพยนตร์สงครามยุคใหม่ก็ผลักดันตัวเองและถูกพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเล่าเรื่องและเทคนิคการถ่ายทำ เพื่อให้เรื่องราวถูกถ่ายทอดออกมามีความสมจริงมากที่สุด และในเวลานี้คงไม่มีภาพยนตร์สงครามเรื่องไหนที่น่าติดตามไปกว่า The Outpost ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภาพยนตร์เรื่องนี้ให้มากขึ้นไปพร้อมกัน The Outpost คือภาพยนตร์ที่กำกับโดยล็อด รูลี่ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความประทับใจในหนังสือ The Outpost: Untold Story of American Lavor ที่นักข่าว CNN ท่านหนึ่งเขียน ขณะเดียวกัน The Outpost ยังได้นักแสดงคุณภาพหลายคนมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นสก๊อต อีสวู้ด, เชเลป แลนดี้ รวมถึงการกลับมารับบทในภาพยนตร์สงครามอีกครั้งในรอบ 19 ปีของออร์แลนโด้ บลูม นับตั้งแต่ร่วมแสดงใน Black Hawk Down โดยตัวหนังกล่าวถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในสนามรบที่ถูกเรียกว่า สมรภูมิคัมเดช (Battle of Kamdes) Battle of
การนั่งทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานต่อวัน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและบุคลิกภาพของหนุ่ม ๆ หลายคน โดยเฉพาะชาวออฟฟิศที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าวได้ซึ่งจะส่งผลให้เกิดเป็นอาการออฟฟิศซินโดมเรื้อรังในที่ท้ายสุด ขณะเดียวกันมีผลวิจัยที่ศึกษาในปี 2014 พบว่า “ผู้ชาย” ที่นั่งทำงานเป็นเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง/วัน มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนที่ยืนหรือเคลื่อนไหวมากถึง 48 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วยยืนยันเหตุผลว่าทำไมมนุษย์ออฟฟิศทุกคนจึงจำเป็นต้องแบ่งเวลาให้กับการ “ออกกำลัง” อย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามสำหรับหนุ่ม ๆ ที่มีเวลาในการดูแลตัวเองน้อย แต่อยากออกกำลังอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะ QUICK WORKOUT วันนี้จะมาแนะนำ 5 ท่าออกกำลังที่เหมาะสำหรับคนที่ใช้เวลาอยู่ในท่านั่งเกือบตลอดทั้งวัน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ได้ออกแรงและเสียเหงื่อแล้ว ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้มัดกล้ามเนื้อที่จำเป็นต่อการนั่งในเวลาเดียวกันด้วย แต่ในคอร์สฝึกครั้งนี้จะประกอบไปด้วยท่าไหนบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลย Crocodile Breathing ก่อนจะเริ่มฝึกโปรแกรมนี้ เราอยากให้ทุกคนเริ่มต้นจากการอบอุ่นกล้ามเนื้อ(Warm-up) ให้ครบทุกส่วนเป็นลำดับแรก ไม่ว่าจะเป็นแผ่นหลัง ลำตัว แขน-ขา ต่อด้วยการปรับจังหวะการหายใจด้วยท่า Crocodile Breathing เริ่มต้นฝึก Crocodile Breathing ด้วยท่านอนคว่ำหน้าให้ลำตัวราบไปกับพื้น โดยขาทั้ง 2 ข้างเหยียดตรงไปด้านหลัง ในส่วนแขนทั้ง 2 ข้างให้วางข้อศอกกางขนานกับพื้นและใช้มือประสานกันตรงกึ่งกลางของศีรษะ ก่อนจะเริ่มจากหายใจเข้าช้า
ถ้าพูดถึงเครื่องแต่งกายอย่างเสื้อฮู้ด (Hoodies) เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนต้องเคยมีโอกาสสวมใส่เสื้อชนิดนี้มาบ้าง เพราะในยุคสมัยหนึ่งเสื้อฮู้ดเป็นไอเทมที่แทรกอยู่ในหลากหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นฮิปฮอป สเก็ตบอร์ดและกีฬาหลากหลายประเทศ ในเวลาเดียวเมื่อยุคสมัยและเทรนด์แฟชั่นเริ่มเปลี่ยนแปลง เสื้อฮู้ดก็ถูกพัฒนางานออกแบบให้มีความหลากหลายและตอบสนองการใช้งานเฉพาะด้านมากขึ้น จนกลายมาเป็นเสื้ออีกชนิดที่ผู้ชายหลายคนเลือกมีติดตู้เสื้อผ้าเอาไว้เสมอ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักไอเทมชิ้นนี้ดีพอ STYLE GUIDE วันนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักถึงที่มา รวมถึงวิธีเลือกและสวมใส่ที่เหมาะสม แต่จะมีเทคนิคยังไงบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันเลยครับ จุดเริ่มต้นของ Hoodies ก่อนจะพูดถึงชนิดและการวิธีการเลือก ขอพาย้อนกลับไปรู้จักกับต้นกำเนิดของเสื้อฮู้ดกันก่อน โดยต้องย้อนกลับไปไกลถึงปี 1930 เมื่อแบรนด์กีฬาชื่อดังอย่าง Champion USA ได้คิดค้นเสื้อกันหนาวที่ผลิตขึ้นจากการนำเอาเสื้อสเวตเตอร์และหมวกผ้าเย็บติดเข้าด้วยกัน โดยเหตุผลหลักของพวกเขา คือการสร้างเสื้อให้กับเหล่าคนงานในนครนิวยอร์กที่ทำงานอยู่ภายในห้องเย็นและเสื้อต้องง่ายต่อการสวมใส่และการถอดออกนั่นเอง หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องแต่งกายชิ้นที่ก็เริ่มขยายอิทธิพลและแทรกตัวเขาไปในวัฒนธรรมย่อยต่าง ๆ ทั้งฮิปฮอป สเก็ตและพังค์ รวมถึงทีมกีฬาชนิดหลากหลายในสหรัฐอเมริกาที่ทำเสื้อฮู้ดออกมาให้ทั้งผู้เล่นและกองเชียร์สวมใส่ จนกลายเป็น 1 ในไอเทมที่ทุกคนต้องมีในยุค 90’s ซึ่งเอกลักษณ์และสไตล์ที่แตกต่างยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเสื้อฮู้ดในยุคปัจจุบันควรจะมีองค์ประกอบในการเลือกซื้อบ้างตรงส่วนไหนบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลย องค์ประกอบในการเลือก สี เสื้อฮู้ดส่วนมากถูกผลิตออกมาแบบมาในโทนสีล้วน อาจมีโลโก้วางไว้ตามจุดต่าง ๆ เช่นอกหรือแผ่นหลัง อย่างไรก็ตามเสื้อฮู้ดสีดำ, สีกรมท่าและเทาเข้ม ยังคงเป็นสีพื้นฐานที่สามารถหยิบมาสวมใส่ได้อย่างเปิดกว้าง ขณะเดียวกันเสื้อฮู้ดสีสันสดใส เช่นสีเหลือง
การใช้ความรุนแรง เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงในระดับครอบครัว สังคมไปจนถึงการเลือกทำสงครามระหว่างประเทศ แต่ไม่ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะอยู่ในระดับไหน สิ่งที่ชัดเจนคือความรุนแรงไม่เคยทำให้ปัญหาคลี่คลายไปในทางที่ถูกต้องได้และหลายครั้งยังเพิ่มความบานปลายให้กับเหตุการณ์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็กระตุ้นให้เหล่าคนที่ทำงานในวงการภาพยนตร์ผู้ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงจำนวนมากหันมาสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ที่ทั้งแสดงออกอย่างชัดเจนรวมถึงแฝงแนวคิด “ต่อต้านความรุนแรง” และวันนี้ UNLOCKMEN อยากขอแนะนำ 5 ภาพยนตร์จากหลากหลายยุคสมัยที่จะย้ำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่า ความรุนแรงไม่เคยเป็นทางออกของปัญหา แต่ในลิสต์จะประกอบไปด้วยหนังเรื่องไหนบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลย Hotel Rwanda (2004) Hotel Rwanda ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาอ้างอิงมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศรวันดาในปี 1994 ที่ประชาชนชาวเผ่า Hutu ถูกยั่วยุให้เกลียดชังและออกมาเข่นฆ่าประชาชนชาว Tutsi ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 800,000 คนในช่วงเวลาเพียง 4 เดือน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเรื่องราวความกล้าหาญของ Paul Rusesabagina ผู้จัดการโรงแรม Hotel Des Mille ผู้ช่วยชีวิตชาวรวันดาทั้งเผ่า Tutsi และเผ่า Hutu สายกลางจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้มากกว่า 1000 คน ที่แสดงให้เห็นว่าท่ามกลางความรุนแรงยังมีเพื่อนมนุษย์ที่พร้อมจะหยิบยื่นมือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นจากความทุกข์ยากเสมอ ไม่ว่าจะคน ๆ นั้นจะมีชาติกำเนิดที่แนวคิดแตกต่างกันแค่ไหนก็ตาม 1917 (2019) 1917 ผลงานภาพยนตร์สงครามผลงานขึ้นหิ้งอีกหนึ่งชิ้นที่เขียนบทและกำกับโดย
Pull up และ Chin up ถือเป็นหนึ่งในท่าออกกำลังที่ใช้อุปกรณ์ชิ้นเดียวแต่สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อช่วงบนของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและถือเป็นท่าบอดี้เวทที่หนุ่ม ๆ หลายคนเลือกมาใช้ฝึกกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือยิม ที่ผ่านมาหลายคนเข้าใจว่า Pull up และ Chin up เป็นท่าออกกำลังที่เหมือนกัน แต่ความจริงทั้ง 2 ท่ายังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในหลายจุดและวันนี้ UNLOCKMEN จะชวนคุณมาหาคำตอบถึงความแตกต่างระหว่าง Pull up และ Chin up มาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลยว่า ท่าไหนจะเป็นท่าดึงข้อที่เหมาะสมกับช่วงเวลา Workout ของคุณ ความแตกต่างระหว่าง Pull up และ Chin up เริ่มต้นที่ความแตกต่างของ Pull up และ Chin up อย่างที่ทราบกันดีว่าทั้ง 2 ท่าเป็นท่าออกกำลังที่ใช้อุปกรณ์บาร์จับหรือบาร์โหน ที่มีลักษณะของการจัดระเบียบร่างกายใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทั้ง 2 ท่าแตกต่างกันอย่างชัดเจนคือ รูปแบบการวางมือและการฝึกที่มีความยืดหยุ่นต่างกัน หลักการง่าย ๆ ในการจดจำคือ ท่า Chin
เชื่อว่าข่าวการปิดเว็บไซต์ Pornhub คงส่งผลกระทบถึงผู้ชายไทยหลายคนพร้อมชวนให้ตั้งคำถามว่าทำไมเว็บหนังผู้ใหญ่ที่คนไทยสามารถเข้าชมมาตลอดจึงถูกเลือกปิดกั้นในเวลานี้ ส่งผลให้มีความคิดเห็นรวมถึงเหตุผลต่าง ๆ ถูกส่งเสียงสะท้อนตามมาซึ่งมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นแตกต่างกันออกไป ที่ผ่านมาเราอาจรู้จัก Pornhub ในฐานะเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่เบอร์หนึ่งที่รวบรวม Adult Content หลากหลายรสนิยมอย่างไรก็ตามไม่ได้มีเพียงผู้ชายเราเท่านั้นที่เข้าไปใช้บริการ เพราะผลสำรวจก็แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงและ LGBT ก็มีเปอร์เซ็นต์เข้าชม Pornhub ในจำนวนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แต่ขณะที่ทุกคนต่างเพ่งเล็งไปยังสินค้าหลักของ Pornhub นั้นคือ “หนังผู้ใหญ่” ในเวลาเดียวกันเว็บไซต์ชื่อดังแห่งนี้ยังมีอีกด้านของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการผลิต Sex Content แนวใหม่ รวมไปถึงแคมเปญต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อสังคมซึ่งที่ผ่านมามีโปรเจกต์อะไรที่น่าสนใจบ้าง วันนี้มาทำความรู้จักโลกอีกด้านของ Pornhub ไปพร้อมกันได้เลย หนังผู้ใหญ่ ใส่ใจธรรมชาติ ย้อนกลับไปในปี 2019 ช่วงเวลาที่ทั่วโลกเริ่มตระหนักถึงผลกระทบของขยะพลาสติกต่อระบบนิเวศทางทะเล Pornhub ตัดสินใจเลือก Outdoor Sex หรือ การมีกิจกรรมทางเพศนอกสถานที่ เข้ามาช่วยนำเสนอแคมเปญรักษ์โลกที่ชื่อว่า The Dirtiest Porn Ever The Dirtiest Porn Ever เป็นหนึ่งผู้ใหญ่ที่สร้างขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์คือ ต้องการให้ผู้ชมเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากขยะพลาสติก โดยเฉพาะต่อระบบนิเวศของทะเลซึ่งหลายแห่งต้องสูญเสียความสวยงามไปเพราะขยะเหล่านี้
การเสียชีวิตของฌอน คอนเนอรี่ (Sean Connery) ถือเป็นการข่าวร้ายสำหรับวงการภาพยนตร์และแฟน ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาผู้ที่ชื่นชอบฝีมือการแสดงอันเฉียบขาดภายใต้คาแรคเตอร์สุดเยือกเย็นของนักแสดงรุ่นใหญ่คนนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวของเขาจะจากไปแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือผลงานการแสดงมากกว่า 100 เรื่อง ซึ่งในเวลาต่อมาบทบาทจากภาพยนตร์หลายเรื่องก็กลายมาเป็นคาแรคเตอร์สำคัญที่ผู้คนจดจำเขาได้ในหลายยุคสมัย และสำหรับคนที่ต้องการชมผลงานการแสดงของตำนานคนนี้อีกครั้ง WATCHLIST วันนี้ขอแนะนำภาพยนตร์ 6 เรื่องที่ไม่ควรพลาดของปู่ฌอน คอนเนอรี่ แต่จะประกอบไปด้วยเรื่องอะไรบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลย The Rock (1996) เริ่มต้นเรื่องแรกกับ The Rock ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ยุค 90’s ผลงานของผู้กำกับสายระเบิดภูเขาเผากระท่อมอย่างไมเคิล เบย์ The Rock เล่าถึงเหตุการณ์การหยุดยั้งแผนก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในคุก Alcatraz ของ Stanley Goodspeed (Nicolas Cage) เจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญอาวุธเคมีที่ต้องมารับหน้าที่หยุดยั้งหายนะจากระเบิดชีวภาพ ในขณะที่ฌอน คอนเนอรี่ รับบทเป็น John Patrick Mason อดีตเจ้าหน้าที่ MI6 ผู้เคยถูกคุมขังอยู่ในคุก Alcatraz และเป็นคนเดียวที่หนีออกมาได้สำเร็จ แต่ครั้งนี้เขาจะถูกส่งกลับไปเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ Stanley
ถ้าพูดถึงเรื่องราวของรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก เชื่อว่าชื่อของค่ายรถอย่าง BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) คือหนึ่งในค่าย 2 ล้อที่หนุ่ม ๆ หลายคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามตลอดช่วงเวลาเกือบ 100 ปี นับตั้งแต่บีเอ็มดับเบิลยูตัดสินใจเริ่มพัฒนาและสร้างรถมอเตอร์ไซค์เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน พวกเขาได้ฝากผลงานเป็นรถมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่น บางรุ่นยังคงมีอิทธิพลต่องานออกแบบต่อรถรุ่นหลังมาจนถึงปัจจุบันและ BMW R5 ก็เป็นหนึ่งในตำนานเหล่านั้น BMW R5 ถือเป็นมอเตอร์ไซค์ไอคอนที่กลายมาเป็นมรดกทางความเร็วอันล้ำค่าของค่ายบีเอ็มดับเบิลยู โดยการเปิดตัวของรถรุ่นนี้ได้ทำลายขนบในการสร้างรถมอเตอร์ไซค์แบบเดิม ๆ ในยุคสมัยนั้นทั้งในเรื่องงานออกแบบและขุมพลัง เริ่มจากงานออกแบบที่เป็นตำนานของ BMW R5 ต้องยกเครดิตให้กับ รูดอล์ฟ ชไลเชอร์ (Rudolf Schleicher) ชายผู้หลงรักรถมอเตอร์ไซค์แบบฝังอยู่ในสายเลือด เริ่มต้นเส้นทางจากการเป็นนักแข่งรถหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงเรียนวิศวกรรมเครื่องกลควบไปพร้อมกัน โดยผลของการได้คลุกคลีกับเครื่องยนต์รวมถึงการปรับแต่งรถในทุก ๆ วัน ทำให้ฝีมือการทำงานของรูดอล์ฟไปเข้าตาของ แมกซ์ ฟริสซ์ (Max Friz) ซึ่งในขณะนั้นรับตำแหน่งหัวหน้าทีมออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู ก่อนแมกซ์จะตัดสินใจดึงตัวรูดอล์ฟเข้ามาร่วมงานในปี 1923 เพื่อร่วมกันผลิตรถมอเตอร์ไซค์ รูดอล์ฟ ชไลเชอร์ เข้ามามีส่วนร่วมสำคัญกับงานสร้างรถมอเตอร์ไซค์ของบีเอ็มดับเบิลยูหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น “BMW R32” รถมอเตอร์ไซค์โมเดลแรกของค่ายใบพัดสีฟ้ารวมถึงโมเดล
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์อีกหนึ่งหน้าของวงการรถสูตร 1 หรือ Formula 1 ได้ถูกเขียนขึ้นใหม่หลังจากที่ ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton) แชมป์โลก 6 สมัยได้คว้าชัยชนะครั้งที่ 92 ในชีวิตจากการ Portuguese Grand Prix ส่งผลให้เขากลายเป็นมนุษย์ที่มีสถิติคว้าชัยชนะมากที่สุดในสังเวียน Formula 1 แซงหน้าตำนานอย่าง มิคาเอล ชูมัคเกอร์ (91 ครั้ง) ไปเป็นที่เรียบร้อย และดูเหมือนว่าสถิติใหม่จะยังมีเวลาให้สร้างต่อไปได้อีกหลายปี อย่างไรก็ตาม นอกจากแง่มุมชีวิตของการเป็นนักแข่งรถล้อเปิดที่เร็วที่สุดในโลก ลูอิส แฮมิลตันยังถือเป็นนักกีฬาอีกคนที่มีแนวคิดและการวางตัวนอกสนามที่น่าสนใจมาก ๆ และวันนี้เราจะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักแง่มุมชีวิตด้านต่าง ๆ ของนักแข่งรถ F1 คนนี้ให้มากขึ้น มาดูกันว่านอกจากความเร็วเกิน 300 กิโลเมตร/ชั่วโมงแล้ว ชีวิตของชายคนนี้ยังมีมุมไหนที่น่าสนใจอีกบ้างเรื่องแรกที่ต้องพูดถึงคือความสำเร็จของในสนามแข่งของ ลูอิส แฮมิลตัน โดยผลงานที่น่าประทับทั้งหมดที่ผ่านล้วนเป็นผลมาจากการฝึกซ้อมที่และระเบียบวินัยที่ตัวเขาและคุณพ่อช่วยกันฝึกฝนมาตั้งแต่วัยเด็ก แต่หนึ่งในจุดเริ่มต้นสำคัญของชายคนนี้คือ ความถ่อมตัวที่ซ่อนเอาไว้ซึ่งความมั่นใจในเวลาเดียว ย้อนกลับไปปี 1995 ลูอิส แฮมิลตันในวัย 10 ปี