การจากไปของแชดวิก โบสแมน นักแสดงวัย 43 ด้วยโลกมะเร็งลำไส้ถือเป็นข่าวร้ายและการสูญเสียครั้งสำคัญกับแฟน ๆ ทั่วโลก อย่างไรก็ตามแม้ตัวจะจากไปแต่ผลงานการแสดงในภาพยนตร์หลายเรื่องที่เขาเคยฝากฝีมือการแสดงเอาไว้ล้วนแล้วแต่มีคุณค่าน่าจดจำ และวันนี้เราอยากขอนำเอา 5 ภาพยนตร์สำคัญในชีวิตการแสดงของ แชดวิก โบสแมน มาแนะนำให้ทุกคนได้ชมกันอีกครั้ง จะประกอบไปด้วยเรื่องไหนมาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลยครับ 42 (2013) 42 ภาพยนตร์ที่พูดถึงชีวประวัติของแจ็คกี้ โรบินสัน ตำนานนักเบสบอลผิวดำผู้ทำลายกฎแห่งสีผิวที่เคยมีอยู่ในวงการเบสบอลว่าครั้งหนึ่งนี่คือกีฬาของคนขาวเท่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรก ๆ ที่แชดวิก โบสแมนได้รับบทนำโดยก่อนหน้านั้นเขาปรากฏตัวอยู่ในผลงานอย่าง Third Watch และ CSI: NY อย่างไรก็ตามการแคสต์เลือกแชดวิก โบสแมนมารับบทนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะเขาได้ถ่ายทอดตัวตนของแจ็คกี้ โรบินสันออกมาได้อย่างน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นความทุ่มเทในสนามแข่งในฐานะยอดนักกีฬาจนสามารถเอาชนะใจของผู้คนที่รอบ ๆ ตัวได้ รวมถึงบทบาทของสามีผู้แข็งแกร่งที่เคียงข้างภรรยาอย่างอบอุ่นในทุกสถานการณ์ ทั้งหมดทำให้ 42 เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ไม่ควรพลาดของนักแสดงคนนี้ Get On Up (2014) Get On Up ภาพยนตร์ชีวประวัติอีกเรื่องที่พิสูจน์ฝีมือการแสดงของแชดวิก โบสแมน ได้เป็นอย่างดีกับการรับบทเป็นเจมส์ บราวน์ (James Brown) ตำนานนักร้องและนักแต่งเพลงโซลผิวดำผู้เป็นต้นแบบให้กับบบทเพลงโซลและริธึ่ม-บูลในยุคปัจจุบัน
สำหรับผู้ชายอย่างเราการตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญและเชื่อว่าแต่ละคนมีเหตุผลในการเลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่นอกจากเรื่องของสมรรถนะที่เป็นความต้องการพื้นฐานแล้ว การใช้งานรถยนต์ในปัจจุบันยังมีเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย ความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขับขี่ที่ทันสมัยและดีไซน์ที่ชวนหลงใหลซึ่งทั้งหมดสามารถมีรวมอยู่ในรถยนต์คันเดียวในราคาที่คุ้มค่าได้ อย่างไรก็ตามถ้าพูดถึงเรื่องความคุ้มค่า คงพลาดไม่ได้ที่ต้องพูดถึง C-SUV รุ่นล่าสุดจากค่ายรถยนต์เอ็มจีอย่าง NEW MG HS ที่วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อมกันว่า ทำไมราคาค่าตัว 1.1 ล้านบาท ถึงเป็นราคาที่สุดแสนจะคุ้มสำหรับค่าตัวของยนตรกรรมคันนี้ มาเจาะลึกลงรายละเอียดความคุ้มค่าของรถคันนี้ไปพร้อมกัน เริ่มต้นที่มุมมองแรกที่ทุกคนจะสัมผัสได้จากรถยนต์คือ เรื่องของงานดีไซน์ NEW MG HS เป็นเอสยูวีที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยทีมออกแบบเน้นผสานความหรูหราเข้ากับความสปอร์ตและถ่ายทอดออกมาเป็นเส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่โค้งมน ในเวลาเดียวกันรถยนต์คันนี้ยังคงจุดเด่นในงานดีไซน์ของ MG ด้วยกระจังหน้าซึ่งมาพร้อมแนวคิด ‘Stella Magnetic Field ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน โดยกระจังหน้าและเส้นสายของรถเข้ากันได้อย่างลงตัวกับไฟหน้าแบบ LED Projector ที่พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟท้ายแบบ Space Light Field ในส่วนของไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลังจะแสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential ซึ่งช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับเอสยูวีคันนี้ยิ่งขึ้น พร้อมเสริมความดุดันด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 18
ปัจจุบันปัญหาการนอนไม่หลับ หลับยากหรือนอนหลับไม่สนิทกลายมาเป็นปัญหาที่หนุ่ม ๆ หลายคนต้องพบเจอ และการพักผ่อนที่ไม่มีคุณภาพเหล่านี้กำลังส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจของเรามากขึ้นทุกวันโดยที่เราไม่รู้ตัว ปัญหาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุและมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไป อาจเกิดได้จากปัญหาภายนอกไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ภายในห้องนอน ทั้งอุณหภูมิ เสียง และระดับของแสงสว่าง ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะแก่การนอนหลับ แต่หนึ่งในปัญหาสำคัญที่เป็นต้นเหตุของอาการนอนไม่หลับมากที่สุดกลับไม่ใช่ปัญหาจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ แต่กลับเป็นปัญหาจากความเครียดและความกังวลทางจิตใจซึ่งเป็นปัญหาภายในที่ดูเหมือนว่าจะยากต่อการแก้ไข แต่อย่างไรก็ตามทางออกของปัญหาการนอนไม่หลับจากความรู้สึกภายใน ยังมีเทคนิคการหายใจที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดความเครียดทางจิตใจและผ่อนคลายร่างกายให้พร้อมเข้าสู่โหมดนิทรา วิธีดังกล่าวถูกเรียกว่าเทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8 ซึ่งเป็นเทคนิคที่เราอยากหยิบมาแนะนำให้หนุ่ม ๆ ที่หลับยากทุกคนได้ลองฝึกไปด้วยกัน และเทคนิคการหายใจรูปแบบดังกล่าวจะมีขั้นตอนอย่างไร และมอบประโยชน์ด้านไหนให้กับเราบ้าง เชิญมาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลย การหายใจ 4-7-8 คืออะไร ? เทคนิคการหายใจ 4-7-8 ถูกคิดค้นขึ้นโดย ดร.แอนดรูว์ ไวล์ (Andrew Weil) แพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดผู้ให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพแบบองค์รวมหรือ Holistic Health ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพด้วยที่นำแนวทางการรักษาดั้งเดิมมาปรับเข้ากับการบำบัด ขณะเดียวกันดร.แอนดรูว์ ไวล์ ก็มองเห็นถึงประสิทธิภาพของการรักษาหรือบำบัดด้วยเทคนิคการหายใจเข้า-ออก ที่ถูกใช้เยียวยาจิตใจของมนุษย์มานานกว่าพันปี ไม่ว่าจะเป็นการทำสมาธิหรือการฝึกโยคะ ก่อนจะทำการศึกษาและวิจัยเพิ่มเติมจนเกิดเป็นเทคนิคหายใจที่เรียกว่า 4-7-8 ขึ้นมา โดยรูปแบบการหายใจดังกล่าวมีจุดเป้าหมายหลักคือเพื่อลดความวิตกกังวลรวมถึงทำให้ผู้ฝึกสามารถหลับได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในเวลาต่อมามีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นที่มีหลักฐานสนับสนุนว่าเทคนิคการหายใจนี้ใช้ได้ผลจริง การหายใจ 4-7-8 มีหลักการทำงานอย่างไร
แม้วันเวลาจะเดินหน้าอย่างไม่เคยหยุดนิ่งแต่คงปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าชื่อของ สตีฟ แม็กควีน (Steve McQueen) ได้กลายมาเป็นไอคอนสำคัญต่อผู้ชายเราในยุคสมัยหนึ่ง ทั้งความโดดเด่นเรื่องผลงานการแสดงจากภาพยนตร์อย่าง The Thomas Crown Affair (1968) The Great Escape (1963) และหนังแห่งโลกความเร็วอย่าง Le Mans (1971) แต่นอกจากบทบาทด้านการแสดงอีกหนึ่งในเรื่องที่ สตีฟ แม็กควีน ได้สร้างอิทธิพลต่อผู้ชายทั่วโลกมาหลากหลายยุคสมัยคือเรื่องของแฟชั่นและสไตล์การแต่งตัว ไม่ว่าจะเป็นสไตล์เรียบหรูเป็นทางการหรือการแต่งตัวในลุคสบาย ๆ ที่เน้นความคล่องตัว ผู้ชายคนนี้ก็มักหยิบไอเทมชิ้นต่าง ๆ มาสร้างสไตล์ที่โดดเด่นให้กับตัวเองได้เสมอ แต่ไอเทมชิ้นไหนที่ถูกจดจำว่าเป็นเครื่องแต่งกายชิ้นโปรดของ King of Cool คนนี้บ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันเลย White T-Shirt สตีฟ แม็กควีนมีทักษะในการแต่งตัวและบุคลิกในการสร้างสไตล์ที่โดดเด่นด้วยเสื้อผ้าอันเรียบง่าย หนึ่งในคือ เสื้อยืดสีขาว โดยสตีฟมักหยิบไอเทมชิ้นนี้มาจับคู่กับกางเกงกากี (Khaki) และกางเกงผ้าลินิน (Linen Trousers ) หลายครั้งระหว่างเดินทางโปรโมตหรือถ่ายทำภาพยนตร์เขาจะเลือกเสื้อยืดสีขาวเป็นชุดเตรียมความพร้อมเพื่อสำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันก็สามารถสร้างสไตล์ตคูล ๆ
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่สนใจในกีฬาการต่อสู้อย่างกีฬาชกมวยชื่อของไมค์ ไทสัน (Mike Tyson) คงเป็นหนึ่งในรายชื่อที่วิ่งเข้ามาในหัวเป็นลำดับแรกเพราะยอดนักชกคนนี้ได้สร้างปรากฏการณ์เอาไว้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสถิติเจ้าแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทที่มีอายุน้อยที่สุดด้วยวัย 20 ปี 4 เดือน ก่อนแขวนนวมด้วยสถิติชก 58 ครั้ง ชนะน็อก 44 ครั้ง และปราชัยเพียง 6 ครั้งจนได้รับฉายา “Baddest Man on the Planet” มาครองในท้ายที่สุด หลายคนต่างรู้ดีว่าพลังหมัดและฝีมือบนสังเวียนของไมค์คือของจริงที่เกิดมาจากการฝึกซ้อมเฉพาะตัวสุดโหดและวันนี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่สนใจอยากออกกำลังในสไตล์ไมค์ ไทสัน เพราะ QUICK WORKOUT วันนี้ได้นำตารางฝึกซ้อมประจำวันในสมัยที่ไมค์ ไทสันยังคงฟาดปากบนสังเวียนมาฝากกัน แต่การฝึกแบบไหนจะเป็นเบื้องหลังความแข็งแกร่งของชายคนนี้บ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลย Jogging Iron Mike เริ่มต้นการฝึกในตอนเช้าของทุกวันด้วยการลุกขึ้นจากเตียงมาวิ่ง Jogging เพื่อเป็นการวอร์มอัพและยืดเส้นสายของร่างกายให้พร้อมสำหรับโปรแกรมฝึกที่เข้มข้นตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันการวิ่งเป็นการฝึกซ้อมที่ขาดไปไม่ได้สำหรับนักมวย เพราะการ Jogging จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังในการส่งหมัด รวมไปถึงช่วยเพิ่มกำลังให้สามารถยืนระยะชกบนเวทีได้นานขึ้นไปพร้อมกัน Mike Tyson Tips: การฝึก Jogging ของไมค์ไทสันจะเริ่มขึ้นในเวลาตี 4-5
ปัจจุบันถ้าพูดถึง City Cars หรือรถยนต์ที่เหมาะสมต่อการขับขี่ในเขตเมือง หนุ่ม ๆ หลายคนคงมองเห็นภาพ Eco Cars และ City Cars หลากหลายรุ่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันทั้งเรื่องของสมรรถนะ งานดีไซน์ รวมไปถึงฟังก์ชันเสริมที่มีมากน้อยแตกต่างกันไปในรถยนต์แต่ละคัน อย่างไรก็ตามหากย้อนเวลากลับไปช่วงปี 1980 ใครจะคิดว่าค่ายผู้ผลิตรถยักษ์ใหญ่อย่างฮอนด้าจะเคยเสริมจุดขายใน City Cars ของตัวเองด้วยสกู๊ตเตอร์คันจิ๋วที่ใช้ชื่อว่า Motocompo ซึ่งต่อมาได้มาเป็นตัวแทนคำบอกเล่าของยุคสมัยรวมถึงของสะสมหายากที่ใครหลายคนตามหา แต่เรื่องราวทั้งหมดจะมีจุดเริ่มต้นยังไงและพาหนะ 2 ล้อคันนี้ได้สร้างปรากฏการณ์อะไรบ้าง มาทำความรู้จักเรื่องราวทั้งหมดไปพร้อมกัน จุดเริ่มต้นของ Honda Motocompo เป็นผลพวงมาจากการพัฒนารถยนต์คันใหม่ของฮอนด้าในช่วงปี 1979 ช่วงเวลาที่ทีมออกแบบเลือดใหม่ของค่ายได้ร่วมกันระดมไอเดียเพื่อสร้างโปรเจกต์รถยนต์คันใหม่ของค่ายในฐานะ “รถยนต์ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดสำหรับปี 1980” ซึ่งต่อมาทุกคนรู้จักรถคันนี้ในชื่อ “Honda City” ในเวลานั้น Hiroo Watanabe และ Hiroshi Azuma 2 วิศวกรผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของโปรเจกต์ได้รับโจทย์ให้สร้างรถยนต์ที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยเป้าหมายหลักคือการสร้างรถยนต์ที่มีสมรรถนะขั้นพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม ที่สำคัญคือต้องเป็นรถยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานของกลุ่มคนทำงานหนุ่ม-สาวที่ต้องการใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันเมืองเช่นโตเกียวหรือเมืองใหญ่ต่าง ๆ สุดท้ายคืองานดีไซน์และเส้นสายของตัวรถจะต้องถูกยอมรับในระดับสากล ไม่นานทีมงานรุ่นใหม่ไฟแรงของฮอนด้าที่มีอายุเฉลี่ยไม่ถึง 30 ปีก็เริ่มลงมือขึ้นรูปงาน Prototype
กางเกงชิโน่ (Chinos) หนึ่งในกางเกงคลาสสิกที่ผู้ชายหลายคนชื่นชอบที่จะสวมใส่ เพราะไอเทมชิ้นนี้ตอบโจทย์การแต่งตัวได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นวันสบาย ๆ หรือเวลาที่ต้องออกงานในระดับทางการ รวมไปถึงสีสันที่มีให้เลือกมากมาย และการสวมใส่ที่ไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไปสำหรับอากาศในบ้านเรา อย่างไรก็ตามการสวมใส่กางเกงชิโน่ยังมีปัจจัยสำคัญที่ช่วยชูให้สไตล์การแต่งตัวของเราโดดเด่นมากขึ้น และสิ่งนั้นคือ “รองเท้า” ที่จะช่วยเติมเต็มการแต่งกายด้วยกางเกงชิโน่ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่มีรองเท้าชนิดไหนที่เราหยิบมาแนะนำบ้าง มาทำความรู้จักและปรับให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองไปพร้อมกัน Chinos & Sandals เริ่มกันที่รองเท้าสไตล์แรกกับ Sandals หรือรองเท้าแตะ การสวมใส่กางเกงชิโน่กับรองเท้าแตะเป็นการจับคู่ที่เหมาะสำหรับการแต่งตัวในวันสบาย ๆ หรือสำหรับหนุ่ม ๆ ที่ไม่อยากสวมรองเท้าหุ้มส้นออกจากนอกบ้าน ไปจนถึงถึงวันพักร้อนที่ต้องการเดินทอดน่องอยู่ริมชายหาดอย่างมีสไตล์ ขณะเดียวกันการจับคู่กางเกงชิโน่กับรองเท้าแตะ ยังสามารถจับคู่เข้ากับเสื้อได้หลายชนิด ตั้งแต่ไอเทมพื้นฐานอย่างเสื้อยืด ไปจนถึงเสื้อเชิ้ตลุคสบาย ๆ เช่นเชิ้ตผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอนที่ไม่ได้ตัดเย็บแบบเข้ารูป อย่างไรก็ตามควรเลี่ยงการจับคู่กับรองเท้าแตะแบบคีบ แนะนำให้เลือกเป็นรองเท้าแบบสวมที่ทำจากหนังแท้หรือหนังสังเคราะห์จะสร้างลุคที่เหมาะมากกว่ารองเท้าแตะแบบอื่น ๆ Chinos & Sneakers การจับคู่ระหว่างกางเกงชิโน่กับรองเท้าผ้าใบคือรูปแบบที่ตอบโจทย์วันที่ต้องการลุค Smart Casual ยิ่งขึ้นและเชื่อว่านี่เป็นสไตล์การสวมใส่กางเกงชิโน่ที่หนุ่มไทยหลายคนต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี หลักการจับคู่รองเท้าผ้าใบกับกางเกงชิโน่ก็ได้ง่าย ๆ คือควรเลือกจับคู่กับรองเท้าผ้าใบที่มีสีเรียบง่าย ๆ เช่นสีขาวหรือสีดำ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งสี ขณะเดียวกันรองเท้าที่สีสันเรียบง่ายยังช่วยให้เราเลือกโทนสีเสื้อสำหรับสวมใส่ได้ง่ายมากขึ้น ต่างจากรองเท้าสีสันสดใสที่จะทำให้การเลือกเสื้อเป็นเรื่องที่ยากหรือใช้เวลามากกว่าปกติ การจับคู่กางเกงชิโน่กับรองเท้าผ้าใบยังเข้ากันได้ดีกับการแต่งตัวสไตล์ Double Layers
ถ้าพูดถึงรองเท้าผ้าใบของ Converse (คอนเวิร์ส) เชื่อว่าหนุ่ม ๆ แต่ละคนคงมีความชื่นชอบในรองเท้าแบรนด์นี้อยู่ไม่ใช่น้อย ๆ ซึ่งความชื่นชอบเหล่านั้นอาจเกิดจากเหตุผลที่มีแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์ของงานดีไซน์สุดคลาสสิก เรื่องราวที่มากับตัวรองเท้า รวมไปถึงความทนทานในการใช้งานที่ทำให้สามารถสวมใส่ลุยแบบถึงไหนถึงกันได้โดยไม่ต้องเป็นกังวล แต่สำหรับ ‘โย-อภิชิต วิวัฒน์เวคิน’ หรือที่หลายคนรู้จักเขาในฐานะแฟนพันธุ์แท้รองเท้า Converse ชายผู้ใช้เวลามากกว่าครึ่งชีวิตไปกับการทำความรู้จัก ตามหา จนนำมาสู่การเก็บครอบครองรองเท้าของ Converse มากกว่า 700 คู่ อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเขาสนใจในรองเท้าเหล่านี้ และความหลงใหลที่มีจะให้มุมมองที่น่าสนใจในด้านไหนบ้าง วันนี้เราจะชวนชาว UNLOCKMEM มาทำความรู้จักตัวตนของชายคนนี้ รวมถึงคอลเลกชันรองเท้า Converse ของเขาไปพร้อมกัน จุดเริ่มต้นของความหลงใหลในเรื่องรองเท้า ความหลงใหลในรองเท้าของชายคนนี้มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ระดับชั้นป.5 หรือตอนที่อายุประมาณ 11 ปี ช่วงเวลาที่กลุ่มเพื่อนรอบตัวเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับรองเท้าอย่าง Reebok Pump ซึ่งเป็นรองเท้าที่มีการทำโฆษณาเผยแพร่ทางทีวีในเมืองไทยในเวลานั้น ซึ่งกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเขาหันมาให้ความสนใจในเรื่องรองเท้าเพิ่มมากขึ้น ก่อนที่ในเวลาต่อมาหลังขยับขึ้นมาเรียนในระดับม.ปลาย พี่โยก็มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับรองเท้าอย่าง Converse Jack Purcell และถูกใจงานดีไซน์ที่แตกต่างของรองเท้าคู่นี้เข้าไปเต็ม ๆ ขณะเดียวกันการเข้ามาของกระแสเพลงแนว Alternative ก็มีส่วนทำให้ทุกคนเห็นว่ามีศิลปินจำนวนมากสวมใส่รองเท้าของ Converse ซึ่งกลายมาเป็นเหตุผลที่ให้เขาตัดสินใจซื้อ Converse Jack Purcell เข้ามาเป็นรองเท้าจาก Converse
เดินทางเข้าสู่ฤดูฝน หลายคนอาจพบเจอปัญหาเรื่องสถานที่ออกกำลังนอกบ้านมากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะ QUICK WORKOUT ในวันนี้มาพร้อมกับ 7 ท่าออกกำลังที่ทุกคนสามารถฝึกตามได้เองที่บ้าน ที่ผ่านมา QUICK WORKOUT ได้แนะนำท่าออกกำลังสำหรับเพิ่มความแข็งแรง (Strength) มาเกือบทุกส่วนของร่างกายแล้ว วันนี้เราอยากพาทุกคนมาออกกำลังเพื่อฝึกฝนความคล่องตัว (Agility) กันบ้าง เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายที่คล่องแคล่วรวดเร็วล้วนมีประโยชน์กับผู้ชายอย่างเรา ตั้งแต่การเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันไปจนถึงการเล่นกีฬาที่ชื่นชอบ นอกจากนั้นท่าออกกำลังสำหรับฝึกฝนความคล่องตัวยังเป็นท่าที่สามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนที่อยากลดน้ำหนักและเบิร์นไขมันส่วนเกินในร่างกายออกไป ทั้ง 6 ท่าที่เราเลือกมาประกอบไปด้วยท่าอะไรบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลย Lateral Jumps ท่าออกกำลังสำหรับฝึกฝนความคล่องตัวที่สร้างประโยชน์ให้กล้ามเนื้อขา ต้นขาและลำตัวในท่าเดียว แต่ประโยชน์สำคัญของ Lateral Jumps การฝึกความมั่นคงของการทรงตัวระหว่างเคลื่อนไหวร่างกายนั้นเอง เตรียมฝึก Lateral Jumps ถ้ายืนตรงมือทั้ง 2 ข้างวางขนานลำตัวและเว้นพื้นที่สำหรับกระโดดเอาไว้ด้านละ 2-3 เมตร ก่อนออกแรงกระโดดไปด้านข้างลำตัวโดยใช้ขาข้างที่อยู่ด้านนอกเป็นตัวรับน้ำหนักและใช้แขนทั้ง 2 ข้างช่วยในการส่งตัว โดยเน้นสปริงตัวที่ต่อเนื่องระหว่างสลับข้ากระโดดไปมา เริ่มจากกระโดดช้า ๆ เป็นจังหวะก่อนเมื่อคุ้นเคยแล้วค่อยเพิ่มความเร็วให้ท้าทายมากขึ้น ฝึกทั้งหมด 3 เซต เซตละ 30 วินาที
เชื่อว่าหนุ่ม ๆ ที่สนใจในรถยนต์หลายคนคงคุ้นเคยดีกับโมเดลเปิดประทุนคันเล็กจากยุค 90’s อย่าง Mazda MX-5 หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ Mazda Miata และ MX-5 Miata หนึ่งในโมเดลรถยนต์ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนมาสด้าให้เป็นที่รู้จัก และกลายเป็นรากฐานสำคัญให้แบรนด์ให้เวลาต่อ แต่อะไรคือเหตุผลที่ทำให้รถยนต์คันนี้ สามารถรักษาความเชื่อมั่นจากคนรักความเร็วทั่วโลกมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ทั้งที่รถก็ไม่ได้แรงอะไรมาก ไม่ได้หรูหรา ไม่ได้ทันสมัย แต่มันมีเสน่ห์ในความเป็น Roadster ที่แตกต่าง วันนี้มาทำความรู้จักจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ รวมถึงแนวคิดที่ทำให้รถคันนี้กลายมาเป็น 1 ในไอคอนสำคัญของรถสปอร์ตขนาดเล็กไปพร้อมกัน บ็อบ ฮอลล์ ชายผู้จุดประกายให้กับ MX-5 Miata อย่างที่ทราบกันดีว่ามาสด้าคือแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่กำเนิดขึ้นในเมืองฮิโรชิมา แต่จุดกำเนิดของโรดสเตอร์ตัวกลั่นของค่ายคันนี้กลับมีจุดเริ่มต้นจากชายที่เติบโตขึ้นมาในเมืองแคลิฟอร์เนีย ชื่อของเขาคือ บ็อบ ฮอลล์ บ็อบ ฮอลล์ เกิดและเติบโตขึ้นท่ามกลางแสงแดดและชายหาดของแคลิฟอร์เนียฝั่งใต้ โดยได้รับการส่งต่อความหลงใหลเรื่องรถยนต์มาจากคุณพ่อที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนารถสปอร์ตที่เคยทำงานให้ทั้ง MG, Triumphs, Austin Haeleys และ Alfa Romeo ทำให้เขาเติบโตขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศของโรงรถและคราบน้ำมัน รับหน้าที่ตั้งแต่ซ่อมจักรยานของตัวเองไปจนถึงช่วยพ่อประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใช้ในบ้าน ปลายยุค 70’s บ็อบ