บทเพลงและเสียงดนตรีเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความสุขของมนุษยชาติที่ขาดไปไม่ได้ คนเราฟังเพลงเพื่อหาความรื่นรมย์ในหัวใจ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกเรายึดปฏิบัติมาช้านาน แต่ใครจะเชื่อว่าวันหนึ่ง ‘เพลง’ ที่จรรโลงใจจะกลายเป็นอาวุธในการขับไล่หรือทรมานคนได้ แล้วยิ่งถ้าบอกว่าเพลงนั้นคือเพลงสำหรับเด็กอย่าง ‘Baby Shark’ ฟังดูก็ยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เชื่อเถอะว่าเจ้าเพลงพ่อแม่ลูกฉลามนี้ถูกนำมาเปิดเพื่อขับไล่คนแล้วจริง ๆ ! เพลง Baby Shark เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ย่าน West Palm Beach ในรัฐ Florida เมื่อมีกลุ่มคนไร้บ้านจำนวนมากถูกทางการขับไล่ไม่ให้นอนบริเวณอาคาร Lake Pavillion ซึ่งเป็นอาคารกระจกใสริมน้ำที่เปรียบดั่งทำเลทองของเมือง แถมยังถูกใช้เป็นสถานที่จัด Event ต่าง ๆ มากกว่า 160 งานในปีที่ผ่านมา โดยวิธีขับไล่ที่ว่าก็สุดแสนจะอหิงสา ไม่ได้ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใดทว่าเป็นการเปิดเพลง Baby Shark และ Raining Tacos เพลงฝึกร้องสำหรับเด็กเล็กที่แสนติดหู วนลูปซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าพวกเขาจะนอนไม่ได้แล้วลุกหนีไป ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้แม้มันจะดูไม่ได้รุนแรงยังไง แต่ในสายตาของนักรณรงค์ หรือคอเพลงที่ก็อดรู้สึกเฟลเพราะความไร้มนุษยธรรมแถมยังนำเพลงยอดฮิตในหมู่เด็กไร้เดียงสามาใช้กับจุดประสงค์ที่โหดร้ายไม่ได้ เพลง It’s Raining Tacos ทำไมถึงต้องลุกมาทำแบบนี้ คนพวกนี้ผิดอะไร?
มันคงต้องมีกันบ้างที่คอเพลงชายฉกรรจ์ทั้งหลาย อยากจะสลับมาเสพของสวย ๆ งาม ๆ ให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย Hardcore หรือนักรันวงการ Hiphop มาด Swag มาจากไหน บางเวลาคุณก็อยากจะพักผ่อน ฟังเสียงใส ๆ มองหน้าสวย ๆ ของเหล่าศิลปินสาวกันบ้างแหละ ซึ่ง UNLOCKMEN เข้าใจความรู้สึกดี! วันนี้เราเลยจะมาแนะนำเพลงหลากหลายแนวจากเหล่าศิลปินสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม แถมเพลงยังพริ้มพราว ไว้ให้คุณได้เพิ่มเข้าเพลย์ลิสต์ หรือคลิกไปดู MV ให้ชื่นใจกันเล่น ๆ เผื่อจะมีคนที่คุณยังไม่เคยรู้จัก หรือรู้จักแล้วแต่ยังไม่เคยฟัง มาดูกันดีกว่าว่ามีใครบ้าง Bad Guy – Billie Eilish หลายคนอาจจะรู้จัก Billie Eilish สาวน้อยอเมริกัน วัย 17 ปีคนนี้กันแล้ว เพราะเธอกลายเป็นป๊อปสตาร์ดาวรุ่งพุ่งแรงคนใหม่ประจำปีนี้ก็ว่าได้ เพลงของเธอเป็นอิเล็กทรอนิกส์ป๊อป ถึงเสียงร้องจะใส แต่อารมณ์ในเพลงค่อนข้างจะหม่นและลึกลับ จึงถูกใจแฟนเพลงทั้งชายและหญิงที่ไม่ถนัดเพลงสายหวานกันถ้วนหน้า หากคุณนิยมเพลงเร็ว เบสหนัก ๆ ก็อาจจะถูกใจเพลงฮิตอย่าง Bad Guy
หากพูดชื่อ Flume คอเพลงที่ไม่ใช่สายดีเจอาจจะยังไม่คุ้นเคย แต่หากลองเปิดเพลงฮิตอย่าง Never be like you, Say it (feat.Tove Lo) หรือ Drop The Game ฟังก็อาจจะพอคุ้นหูกันอยู่บ้าง รู้หรือไม่ว่าในเวลาสั้น ๆ จากปี 2011 จนถึงปัจจุบัน และด้วยวัยเพียง 28 ปี เท่านั้น เขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในศิลปินสายอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รางวัลการันตีมากมาย แถมยังอยู่เบื้องหลังผลงานศิลปินชั้นนำระดับโลกหลายต่อหลายคน วันนี้ UNLOCKMEN จะขุดเอาเบื้องลึกเบื้องหลังของชายผู้นี้มาตีแผ่ให้คุณได้รู้จัก เขาเป็นใคร เก่งมาจากไหน เราจะได้รู้ไปพร้อม ๆ กัน! WHO IS FLUME? Flume มีชื่อจริงว่า Harley Streten อายุ 28 ปี เติบโตมาในย่าน Northern Beaches มหานคร Sydney ประเทศ Australia ที่มาของชื่อ ‘Flume’ นี้เขานำมาจากชื่อเพลง Flume
ตั้งแต่ภาพยนตร์ Bohemian Rhapsody ปลุกกระแสวง Queen และเพลงร็อก 70 ให้กลับมาฟีเวอร์อีกครั้ง บรรดาหนัง Biopic ของศิลปินคนอื่น ๆ ก็ถูกประกาศสร้างตามกันมาเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะ The Dirt หนังสารคดีวง Motley Crue ที่ลงฉายทาง Netflix, Rocketman หนังสารคดีชีวิต Elton John ล่าสุดก็เพิ่งมีการประกาศทำหนังสารคดี Elvis Presley ไปหมาด ๆ เรียกได้ว่าเป็นยุคที่อุดมหนังเพลงจริง ๆ แล้วแบบนี้จะขาดเรื่องราวของวงดนตรียิ่งใหญ่ตลอดกาล ผู้ไม่เคยถูกใครโค่นได้อย่าง ‘The Beatles’ ไปได้อย่างไร? อย่าเพิ่งเข้าใจผิด สี่เต่าทองยังไม่มีหนัง Biopic แต่หากคุณเป็นแฟนเพลงตัวยงของพวกเขา Yesterday อาจเป็นภาพยนตร์ดี ๆ อีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด “เมื่อวานนี้ ทุกคนรู้จัก The Beatles แต่วันนี้ มีเพียงแจ็คเท่านั้นที่จำเพลงของพวกเขาได้” นี่คือภาพยนตร์แฟนตาซีที่นำบทเพลงและเรื่องราวของ The Beatles มาร้อยเรียงถ่ายทอด ผ่านพล็อตสดใหม่สุดแสนจะน่าสนใจ เรื่องราวของ
Robbie Williams จัดว่าเป็นป๊อปสตาร์แถวหน้าของโลก เขาคือหนึ่งในสมาชิก Take That วงบอยแบนด์ที่เฟื่องฟูอันดับต้น ๆ แห่งยุค 90 อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินเดี่ยว มีสตูดิโออัลบั้มเป็นของตัวเองมากถึง 11 อัลบั้ม และเป็นเจ้าของเพลงฮิตมากมายทั้ง Feel, Angel, Millenium รวมไปถึง Better Man ที่โด่งดังในบ้านเราพอสมควร (น่าจะเป็นผลพวงจากการเปิดบ่อยในคลื่นวิทยุยุค 2000) จากอุปนิสัยกวนโอ๊ย พูดตรง ไม่ยอมใคร กับวีรกรรมแสบยาวเป็นหางว่าว โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ต้องจดจำไปแสนนานในปี 2018 ที่เขาไปชูนิ้วกลางใส่กล้องตอนขึ้นแสดงพิธีเปิดฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตไปอย่างสาหัส แม้การกระทำจะดูคล้ายไม่แคร์ผู้คนหรือโลกใบนี้ แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความป่วนกับการเป็นตัวแสบของวงการ เขาต้องทนทุกข์กับโรค Agoraphobia หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ‘โรคกลัวชุมชน’ มาเป็นเวลากว่า 3 ปี Robbie Williams ได้ให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสาร The Sun ครั้งล่าสุดว่าเขาเคยมีอาการ Agoraphobia หรือ ‘โรคกลัวชุมชน’ (โรควิตกกังวลขั้นรุนแรงชนิดหนึ่ง มักจะรู้สึกไม่สบายหรือไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ โดยเฉพาะในที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน) ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงปี ค.ศ. 2006 –
หากใครใช้ Spotify เป็นประจำ จะพบว่าช่วงนี้มี User หลายท่าน เข้าไปสร้างเพลย์ลิสต์รองรับสถานการณ์ชีวิตออกมาแบ่งปันกันเอาไว้มากมายในนั้น แถมขยันสร้างหัวข้อกันได้ไม่จำกัด ตั้งแต่หมวดทั่ว ๆ ไปอย่าง เพลย์ลิสต์แอบรัก, เพลย์ลิสต์อกหัก, เพลย์ลิสต์ร้านเหล้า จนไปถึงหัวข้อล้ำ ๆ แบบ เพื่อนกันไม่ทำแบบนี้, เจ็บให้สุดแล้วหยุดที่ไม่เป็นไร, เพื่อนกูรักมึงว่ะ, เพื่อนพ่อเธอสิ อะไรประมาณนี้ บอกเลยว่าต้องขอชื่นชมเพราะสุดจะสรรหากันมาจริง ๆ วันนี้ถึงคิวของ Unlockmen ที่จะมาแนะนำเพลย์ลิสต์เพลงสากลในแบบฉบับของเรากันบ้าง โดยเราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของ ‘ความไม่สมหวัง’ ซึ่งสิ่งนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้หลายกรณี มากกว่าคำจำกัดความสั้น ๆ แค่ ‘อกหัก’ จะมีเพลงเพราะ ๆ เพลงไหนที่เราเลือกมาแล้วตรงกับความรู้สึกของคุณในช่วงนี้บ้าง มาดูกันเลยดีกว่า Test Drive – Joji เพลงนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความผิดหวังจากการไปตกหลุมรักคนที่ไม่คิดจะจริงจังกับเรา โดยอีกฝ่ายต้องการแค่สนุกหรือหาที่พักพิงชั่วครั้งคราวเท่านั้น ท่อน ‘I’m looking for a long ride She just want
ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นเพียงใด มนุษย์เราก็โหยหาอดีตมากขึ้นเท่านั้น ต้องยอมรับว่าตอนนี้โลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลจนเกือบจะสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้กระทั่งอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการซื้ออาหาร ซื้อตั๋วหนัง หรือเช็กรถประจำทาง ก็ยังสามารถทำผ่านมือถือและแอปพลิเคชันได้ เมื่อความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น กิจวัตรบางอย่างที่เคยทำก็อาจเลือนหายตามกาลเวลา ไม่แปลกที่บางครั้งเราจะอยากย้อนเวลาหาอดีต เพื่อซึมซับกับสิ่งของ บรรยากาศ หรือสถานที่บางแห่งที่ไม่มีอีกแล้วในปัจจุบัน และด้วย ‘ความคิดถึง’ เหล่านี้ จึงเกิดเป็น E8TY lov.an.a.log งานดี ๆ ที่รวมพลคนรัก Anolog ครั้งใหญ่ ในวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อ 8080 Café RCA ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสถานีวิทยุ 80 Radio Station ที่ไม่มีการถ่ายทอด แต่จัดรายการสด ๆ โดย ‘ดีเจหมึก วิโรจน์ ควันธรรม’ นักจัดรายการวิทยุระดับตำนาน ผู้คลุกคลีวงการ Analog มาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งดีเจรับเชิญจาก Olympic Dicker และ DJKK ที่มาร่วมสร้างสีสัน เปิดเพลงเพราะ ๆ จากเครื่องเล่นแผ่นเสียง สร้างบรรยากาศในงานให้ตลบอบอวลไปด้วยเสียงดนตรีสุดคลาสสิก
หากกล่าวถึงนิยายสยองขวัญ เชื่อว่า Stephen King คงเป็นชื่อต้น ๆ ในใจของใครหลายคน แม้คุณจะไม่เคยอ่านหนังสือของเขามาก่อน ก็อาจจะเคยชมหรือรู้จักภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายของเขาอย่าง IT (โผล่จากนรก), The Shining (โรงแรมผีนรก) หรือ Pet Sematary (กลับจากป่าช้า) กันมาบ้าง ล่าสุด The Stand เรื่องราวเกี่ยวกับโลกที่ถูกทำลายด้วยโรคระบาด หายนะจากการทดลองผลิตอาวุธเชื้อโรคของมนุษย์ อีกหนึ่งผลงานที่เคยตีพิมพ์ในปี 1978 ของเขาก็กำลังจะถูกนำไปสร้างเป็นมินิซีรีส์ลงช่อง CBS All Access และมีกำหนดออนแอร์ไว้ในปี 2020 ที่จะถึงนี้ ทว่าเรื่องที่น่าติดตามไม่แพ้พลอตหนังสนุก ๆ ของ Stepen ก่อนลงจอมาจาก Marilyn Manson พญาซาตานแห่งดนตรี Shock-Rock ที่เผยว่า เขาจะมีบทบาทในมินิซีรีส์เรื่องนี้อย่างแน่นอน สิ่งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับทั้งฝั่งแฟนเพลงและแฟนซีรีส์เป็นอย่างมาก เพราะจะมีใครในโลกที่ทั้งเท่ ลึกลับ และน่าเกรงขาม เหมาะกับการอยู่ในซีรีส์แนวสยองขวัญไปมากกว่าเขาคนนี้ นอกจากคาแรกเตอร์ภายนอกที่ลงตัว Manson ยังเคยผ่านงานแสดงมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Wrong Cops (2013), Sons
คอเพลงหรือคอหนังหลายคน อาจจะเคยเห็นว่าบรรดาศิลปินชื่อดัง มักได้โอกาสรับงานด้านการแสดงในภายหลัง ตัวอย่างที่คนส่วนมากรู้จักกันดีอยู่แล้ว ได้แก่ David Bowie, Lady Gaga, Madonna, Eminem หรือถ้ายุคใหม่หน่อยก็ Machine Gun Kelly ข้อดีคือศิลปินมักจะมีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นอยู่แล้ว การนำพวกเขามารับงานแสดงจึงมีส่วนช่วยดึงดูดให้ผู้คนสนใจในตัวภาพยนตร์มากขึ้น ในทางกลับกัน นักแสดงที่ก้าวไปทำงานดนตรีบ้างกลับไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร และใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จเรื่องนี้เหมือน Jared Leto ที่ถูกจดจำทั้งในฐานะนักแสดง และในฐานะฟรอนต์แมนจากวง Thirty Seconds to Mars นักแสดงบางคนเล่นหนังเรื่องไหนก็ดังเป็นพลุแตก แต่ก็ยังมีแฟนคลับอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นมีวงดนตรีหรือมีงานเพลงเป็นของตัวเอง! วันนี้เราเลยจะมาพูดถึงนักแสดงชื่อดังที่ทำงานควบกับสายดนตรีเหล่านั้นกัน คนที่ยังไม่ทราบเชิญรับเพลงใหม่ ๆ ไปแบ่งกันฟัง ส่วนคนที่รู้อยู่แล้วก็คิดเสียว่าเข้ามาอ่านเพลิน ๆ ส่วนจะมีใครบ้างเรามาดูกันเลยดีกว่า Keanu Reeves ในฐานะมือเบสวง Dog Star ช่วงกลางยุค 90 Keanu Reeves เคยเป็นมือเบสให้วงร็อกชื่อ Dogstar แต่ภายหลังด้วยตารางงานแสดงที่เริ่มแน่น บวกกับกระแสตอบรับวงไม่ค่อยดีนัก เขาจึงยอมถอนตัวออกจากวง ถึงเขาจะเป็นพระเอกหนุ่มระดับโลก แต่ในฐานะศิลปิน Keanu Reeves
เคยสงสัยกันไหมว่าเสื้อผ้าสุดอลังการที่เหล่าศิลปินใส่ขึ้นโชว์บนเวทีคอนเสิร์ตนั้น พวกเขานำกลับมาใส่อีกครั้งหรือไม่? สุดท้ายแล้วมันไปอยู่ที่ไหน? หรือถูกวางขายในตลาดมือสองสักแห่งไปแล้ว? ถึงจะมีศิลปินหลายคนที่ใส่เสื้อผ้าซ้ำในการทัวร์คอนเสิร์ต แต่สำหรับงานพิเศษ ๆ อย่าง Glastonbury หรือ Coachella ที่หนึ่งปีมีครั้งนั้น แน่นอนว่าพวกเขาพร้อมจะอวดโฉมกันแบบไม่มีใครยอมใคร เสื้อผ้าตั้งแต่หัวจรดเท้าของแต่ละคนจะต้องโดดเด่น และอาจสวมใส่เพื่องานนี้เท่านั้น โดยคุณจะไม่ได้เห็นมันที่ไหนอีก! วัฒนธรรม “Throwaway Fashion” หรือ “แฟชั่นใส่แล้วทิ้ง” กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกต่างวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก แต่แฟชั่นกับดนตรีก็นับว่าเป็นสองสิ่งที่ไม่มีวันแยกจาก ในเมื่อโลกเปลี่ยนแปลง ศิลปินก็มีการปรับตัวเช่นกัน เหล่าศิลปินที่ขึ้นโชว์ในงาน Glastonbury ปี 2019 นี้ จึงหันมารวมตัวกันทำสิ่งดี ๆ บริจาคเสื้อผ้าที่ใช้ขึ้นแสดงบนเวทีให้กับองค์กรการกุศลที่ชื่อว่า Oxfam เสียเลย ซึ่งมูลนิธินี้ต่อสู้กับ Throwaway Fashion มาอย่างยาวนาน โดยเสื้อผ้าที่ศิลปินบริจาคจะถูกนำไปวางขายหรือเปิดประมูลต่อ เพื่อนำรายได้เข้าสู่องค์กร และนำไปทำประโยชน์ต่อ ๆ ไป ว่าแต่จะมีใครบ้างที่ร่วมการบริจาคครั้งนี้เรามาดูกัน Kylie Minogue ป๊อปสตาร์ตัวแม่คนนี้เป็นเจ้าของตำแหน่ง Legend Slot งาน Glastonbury ประจำปีนี้ (หลังจากห่างหายจากงานไปยาวนานถึง 14 ปี) เธอได้บริจาคหมวกกันแดด (Sun