ค่านิยม สังคม วัฒนธรรม และการประเมินค่าของสังคม บางครั้งมันก็ “จอมปลอม” แล้วมันจะผิดอะไรที่เราจะ “ปลอม” กลับเพื่อแก้เผ็ด และท้าทายเรื่องราวเหล่านั้นเสียบ้าง คุณเคยเห็นหน้าของชายคนนี้มาก่อนไหม? ถ้าเคยเห็น คงเห็นวีรกรรมโคตรสุดมากมายที่เขาสร้างไว้ ทั้งการสร้างร้านอาหารจอมปลอมที่ไม่มีจริงให้ติดอันดับ 1 ของ TripAdvisor ลอนดอน ปลอมแบรนด์กางเกงจากตลาดนัดให้เข้า Paris Fashion Week ได้ หรือล่าสุดอย่างการหลอกกินบุฟเฟต์ฟรี 4 หัวแต่จ่ายแค่คนเดียวโดยพนักงานจับไม่ได้! ถ้ามองในแง่ความถูกต้องสิ่งที่ OOBAH BUTLER พ่อหนุ่มผมบลอนด์สีสว่างคนนี้ (สีผมปัจจุบัน) ทำก็อยู่ก้ำกึ่งระหว่างสีขาวและสีดำ เพราะหลายประเด็นหรือคลิปไวรัลที่เขาสร้างเรื่องราวหลอกลวงคนทั้งโลก บางส่วนก็ข้ามเส้นมาสู่ฟากที่ดูเข้าใกล้ความเป็นมิจฉาชีพเต็มที แต่ถ้าดูเพื่อเอาประโยชน์จากคลิปแฉเหล่านี้ มันก็ทำให้เห็นอีกแง่มุมความหละหลวมของระบบที่เขาเข้าไปเกี่ยวข้อง และการตัดสินค่านิยมที่ไม่รู้ว่าทุกวันนี้เราเอาอะไรมาวัด WHO’S OOBAH BULTLE ? ไอ้หนุ่มจอมลวงคนนี้ ไม่เพียงเป็นนักแสดงหน้าเป็นที่แสดงบทเสี่ยง ๆ ในคลิปเท่านั้น อีกมุมที่หลายคนไม่เคยรู้คือเขาทำอาชีพเบื้องหลัง ทั้งการเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และเป็นนักเขียนด้วย ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาโด่งดังมันก็มาจากการทำคลิปแนวตลก หรือคลิปสุ่มเสี่ยงให้กับนิตยสาร Vice เพื่อตั้งคำถามกับเรื่องราวของโลกยุคใหม่ว่าสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ มาตรฐานของมันอยู่ตรงไหนแน่ KEEPS EYES ON
จะเรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมประจำปีของ Google ก็ได้ที่คอยสรรหาความสนุกมาเติมให้เรามากกว่าการใช้งานฟีเจอร์หลักเสมอ โดยเฉพาะการทำ Doodle เด็ด ๆ ปล่อยออกมาตามเทศกาลให้เราเล่นกัน เช่นเดียวกับปีนี้ก็มีมินิเกมเทศกาลปล่อยผีมาให้เราเล่นเพื่อรับเทศกาลกับเขาเหมือนกัน สำหรับใครที่อยากเล่นเกม Doodle นี้ ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือเล่นกับกลุ่มเพื่อนเพื่อความสะใจ มาเตรียมตัวก่อนเล่นพร้อมกันได้ แค่เปิดหน้า google เท่านั้น แถมให้อีกนิดว่าถ้าเปิดลำโพงดัง ๆ จะช่วยให้เล่นเกมได้มันส์ขึ้นด้วย เกมผีเก็บลูกไฟวิญญาณ เราตั้งชื่อมันว่าเกมผีเก็บลูกไฟวิญญาณตามลักษณะการเล่นของมันแล้วกัน ก่อนอื่นเบื้องต้นต้องบอกก่อนว่าเกมนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายตามสี คือสีเขียวและสีม่วง โดยแต่ละทีมจะมีตัวละครหลายตัวที่มีชื่อและหน้าตาแตกต่างกัน ดังนี้ ตัวละครฝ่ายสีเขียว ตัวละครฝ่ายสีม่วง เริ่มต้นเราจะได้เล่นฝั่งสีเขียว วิธีเล่นอย่างง่าย แค่กดปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ดบังคับขึ้น ลง ซ้าย ขวา ผีน้อยในเกมก็จะเคลื่อนตัวตามนั้น ไล่เก็บลูกไฟวิญญาณสีฟ้าไปเรื่อย ๆ ต่อท้ายตัวให้เป็นแถวยาว ขั้นตอนนี้ถ้าใครงง ๆ ให้กดทดลองเล่นตาม Tutorial ก่อนได้ จากนั้นค่อยเริ่มเปิดศึกกับฝ่ายตรงข้ามด้วยการบังคับตัวเราให้ไปชนกับหางซึ่งเป็นลูกไฟวิญญาณของสีฝั่งตรงข้ามเพื่อขโมยให้มาติดอยู่กับฝั่งเราก่อน จากนั้นก็ลากเข้าฐาน ถ้าเราเก็บได้มาก เกมจะเพิ่มสกิลเด็ด ๆ ให้ตัวละครของเรา ไม่ว่าจะเป็นการติดสปีดตัวละคร หรือแม่เหล็กไว้ดูดวิญญาณจากฝ่ายตรงข้าม ฯลฯ จำไว้ว่าอย่าลืมส่องสกอร์ความโปรดักทีฟของทีมเราด้านบนด้วย ถ้ากำลังตามหลังต้องรีบตีตื้นให้ทันการจับเวลาเกมที่เหลือ เมื่อจบเกมจะมีการประกาศฝ่ายที่ชนะและบอกว่าเราได้สกอร์เท่าไหร่ในเกมนี้
ถ้าเทียบกับสัดส่วนของการลาออกจากงานของพวกเราเหล่าพนักงานกับเรื่องเจ้านายมีอันต้องอันตรธานหายไปจากบริษัท เรื่องเจ้านาย “ลาออกหรือหายไป” ดูเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากกว่า โดยเฉพาะถ้าอยู่ในตำแหน่งสูง ๆ ระดับผู้ก่อตั้งด้วยแล้ว การออกมันถือเป็นการสั่นคลอนกับบริษัทเลยทีเดียวเพราะหมายถึงระบบ นโยบายการทำงาน ความผูกพันเหนียวแน่นของการทำงาน และการปกครองที่อาจกำลังเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างสิ้นเชิง แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเหล่านี้ก็เกิดขึ้นแทบทุกวัน ทั้งในหน้าข่าวที่เราติดตามหรือเรื่องราวที่เราเขียน ไม่ว่าจะเป็นการขายบริษัท Winamp เปลี่ยนมือการ take over บริษัทที่ถึงจะให้ผู้ก่อตั้งเดิมบริหารงานต่อ ทว่าสุดท้ายนโยบายแบบใหม่ก็เข้ามาทำให้จำต้องยอมรับไม่ได้และลาออกไป หรือข่าวเจ้าสัววิชัย เจ้าของ King Power ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จนกระแสความอาลัยของพนักงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกระจายให้เห็นมากมายในโลกโซเชียล เมื่อร่มโพธิ์ร่มไทรหายไปแล้ว แต่เรายังคงต้องทำหน้าที่ของเราต่อ UNLOCKMEN ขอนำเสนอวิธีปรับใจ ปรับกระบวนท่า ให้พร้อมรับกับสถานการณ์จาก 5 หนทางต่อไปนี้ ยอมรับความเจ็บปวดและก้าวต่อไป เจ้านายคู่ใจแม้จะหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่เราเชื่อว่าบางคนก็มีโอกาสได้เจอแล้ว เพราะเราก็เจอมาแล้วกับการทำงานที่ต่างฝ่ายต่าง challenge ให้สุดเพื่อให้งานออกมาดี เถียงกันแทบออกหมัด แต่พอออกนอกห้องประชุมก็กอดคอชนแก้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น การทำงานโคตรเปิดใจ โคตรสนุก มันคงทำให้คุณรู้สึกเศร้าเมื่อเจ้านายคนนั้นหายไป แต่จงจำไว้ว่าความเศร้ามันไม่อยู่ตลอดกาล ยอมรับวันนี้และต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อทำงานอย่างมืออาชีพคือคำตอบสำคัญที่สุดที่คุณไม่ควรละทิ้ง หยุดเปรียบเทียบ เจ้านายเก่าเจ้านายใหม่ การจากลาเป็นเรื่องการเหวี่ยงของโลก เหตุผลการเคลื่อนที่ของคนเราคงไม่เหมือนกัน เมื่อต้องอำลาเจ้านายคนเก่งที่เราชื่นชม สิ่งที่เราต้องหลีกเลี่ยงคือการตั้งป้อมกับเจ้านายใหม่ว่าจะไม่ดีเท่าคนเดิม และโฟกัสเรื่องการทำงานและการทำเพื่อองค์กรไว้ก่อน
หนังสือไม่เพียงบอกเล่าเรื่องราวภายใน แต่ยังสะท้อนเรื่องราวของคนอ่านด้วยว่ามีความสนใจเรื่องไหน ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับหนังสือจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ นี่จึงเป็นโอกาสดีที่เราแอบทำโปรเจกต์ลับ ๆ นี้ขึ้นโดย Snapshot หนังสือที่เราพบในสถานที่ต่าง ๆ ที่ไปเยือนและนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อแนะนำต่อให้ชาว UNLOCKMEN ได้อ่านกัน เผื่อใครที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ของเจ้าของหนังสือจะเห็นมุมมองอีกด้านที่กว้างขึ้น ที่สำคัญมันยังถือเป็นการปลุกกระแสการอ่านหนังสือล็อตเก่าที่ยังคงเจ๋งเสมอไว้ให้เรามีโอกาสไปพลิกอ่านกัน สำหรับครั้งนี้สถานที่ที่เราตามไป Snap คือ Apos the HQ สถานที่ทำงานของ Apostrophys Group แต่บอกก่อนว่าทั้ง 5 เล่มนี้ไม่ได้เป็นการ Recommend จากชาว Apos แต่อย่างใด หากเป็นความคิดเห็นและการคัดเลือกของเราที่คิดว่าน่าสนใจและต้องการนำมาบอกต่อ Very Thai : everyday popular culture เริ่มต้นเล่มแรกด้วยหนังสือปกแข็งสีชมพูแสบสันจำนวน 320 หน้าที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษทั้งฉบับ แต่ไม่ได้ยากเกินความเข้าใจ ข้างในเล่มว่าด้วยเรื่องวัฒนธรรมของไทยที่เราเห็นจนชินตา แต่ชาวต่างชาติที่มาไทยแทบทุกคนล้วนต้องอุทานว่า “อย่างนี้ก็มีด้วยเหรอ” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทิชชู่สีชมพูในร้านอาหาร รถแท็กซี่ที่ตกแต่งด้วยการแปะโน่นนี่เต็มรถ ไปจนถึงการจัดชุดอาหารเล็ก ๆ แล้วปักธูปเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความโดดเด่นของเล่มนี้อยู่ที่มุมมองการนำเสนอจากผู้เขียนหนังสือที่เล่าเรื่องพาซื่อจากความเป็นชาวต่างชาติ แต่มีผลกับการปรับมุมมองที่เคยจำเจของเราไปอย่างสิ้นเชิง แถมยังต่อยอดความคิดให้เราตั้งคำถามกับทุกสิ่งรอบตัวได้มากขึ้นด้วย ดังนั้น Very Thai หรือ
ตั้งใจแค่ไหนก็ยังพังได้ คือสัจธรรมที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้ เพราะเส้นทางการเติบโตของการทำงานมันต้องเจอกับภาระความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ยิ่งเมื่อเราทำงานจนชำนาญและเจ้านายเห็น potential จนได้รับมอบหมายให้ทำงานสำคัญ ๆ ด้วยแล้ว แม้คำตอบของเราคือ “ห้ามพลาด” เด็ดขาด แต่เชื่อว่าเราทุกคนก็ยังมีโอกาสพลาดได้อยู่ดี ถ้างานในมือของคุณตอนนี้มันแหลกเป็นผุยผง หรือเห็นท่าว่าร่อแร่เต็มที่ UNLOCKMEN คิดว่าแทนที่จะแก้ตัวแบบแกน ๆ เรามาใช้ทั้ง 5 วิธีตามลำดับต่อไปนี้กู้ซากความล้มเหลวแบบแมน ๆ ไปใช้กันแทนดีกว่า เพราะถึงแม้มันจะไม่ได้ทำให้งานกลับมาเหมือนเดิม 100% แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นหนทางแลนด์ดิ้งนุ่ม ๆ อย่างลูกผู้ชาย 1. บอกตัวเองว่าใครก็ทำผิดกันทั้งนั้น เรื่องหนึ่งที่จะว่าสำคัญก็ว่าได้คือการฟื้นฟูจิตใจตัวเอง ก่อนที่จะรับผลของความผิดพลาดที่จะทำให้ผู้ชายร่างกำยำอย่างคุณใจเหลือนิดเดียว ให้บอกตัวเองไว้ว่าใครก็มีสิทธิพลาดด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครมันจะสมบูรณ์แบบทั้งหมด เมื่อยอมรับสิ่งนี้มันจะทำให้คุณมีกำลังใจลุกขึ้นแก้ไขอีกครั้ง และกล้ายอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแบบแมน ๆ โดยไม่ต้องหนีปัญหา 2. สงบใจเข้าไว้ เพื่อสยบทุกความเคลื่อนไหว เจองานพังปุ๊บ บางคนถึงกับสติแตกไปเลยก็มี แม้ชาว UNLOCKMEN จะคิดว่าผู้ชายอย่างเราไม่อ่อนไหวเท่าผู้หญิง แต่เรื่องนี้ไม่จริงเพราะจากการสำรวจโดย Accountemps เผยว่า 45% ของคนที่เป็นมือโปรที่เราเห็นในออฟฟิศล้วนเคยร้องไห้เสียน้ำตาในที่ทำงานมาแล้วทั้งนั้น ขณะที่ 52% ของพนักงานเหล่านั้นก็เคยระเบิดอารมณ์ระหว่างทำงานเช่นกัน ดังนั้น
หลังจากที่ “คนพิเศษ” คนล่าสุดออกไปจากชีวิต คุณใช้ชีวิตแบบไหน อยู่ด้วยความรู้สึกเช่นไร และใช้วิธีเยียวยาตัวเองอย่างไร เชื่อว่าแต่ละคนคงมีคำตอบที่ต่างกันไป แน่นอนว่าถ้าการยุติความสัมพันธ์ในครั้งนั้นลงเอยด้วยการที่คุณไปมีคนใหม่ทันที ทุกอย่างมันคงง่ายขึ้นเพราะความรู้สึกเศร้าสร้อยมันจะเบาบางลงจากการที่คนใหม่เติมเต็มความว่างโหวงในใจ แต่สำหรับบางคนที่ไม่ยอมให้ใครเข้ามาแทนที่คนเดิมได้ อาจต้องวนเวียนกับการคิดถึง “อดีตคนพิเศษ” แบบเขาคนนี้ Yosuke Morimoto ช่างภาพชาวญี่ปุ่นจาก Kagawa วัย 36 ปีที่ใช้เวลาเยียวยาตัวเองหลังจากอกหักจากแฟนสาว ด้วยการถือกล้องออกไปถ่ายรูปสาวคนอื่นกว่าพันคนตลอดสิบปีตั้งแต่ พ.ศ. 2549 ถึง พ.ศ. 2560 ในคอนเซ็ปต์ที่ฟังแล้วเต็มไปด้วยความเวิ้งว้างในใจอย่างการ “ถ่ายภาพสาวที่ให้ความรู้สึกคล้ายแฟนเก่า” บ้านขนาด 27 ตารางเมตรของช่างภาพชายโสดคนนี้ส่วนใหญ่ถูกแปรเป็นห้องมืด และห้องน้ำก็ได้รับการแปรเป็นที่เก็บฟิล์มที่ล้าง SOME OF HIS PHOTOS แม้หลายกระแสวิจารณ์ว่าการกระทำของเขาว่ามันช่าง creepy ดูน่าแขยง แต่เราไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะจากภาพจะเห็นการ eye contact ระหว่างตัวแบบกับเลนส์อย่างชัดเจน บางรูปเองก็มีรอยยิ้มกลับมาให้ด้วย เราจึงคิดว่าเขาไม่ได้คุกคามแบบเหล่านั้น แต่เป็นการขออย่างสุภาพจนได้กดชัตเตอร์มา นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการบำบัดที่เรามองว่าไม่ค่อยเหมือนใคร แต่ก็เป็นไปอย่างสร้างสรรค์เพราะอย่างน้อยการออกถ่ายภาพ portrait ซ้ำ ๆ เพื่อซ้อมมือนับพันครั้งน่าจะเป็นประโยชน์กับอาชีพช่างภาพอย่างเขา ชาว UNLOCKMEN
ท่ามกลางกระแสการ Disruption ในยุคดิจิทัล มีองค์กรจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นลูกนี้ สิ่งที่ถือเป็นความท้าทายสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ โดยเฉพาะธนาคารที่ต้องพาพนักงานทุกคนให้พร้อมวิ่งไปด้วยกันไม่ว่าสนามแข่งขันจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน หรือในปัจจุบันคือ การเปลี่ยนจากยุคออฟไลน์ที่คนต้องใช้บริการที่สาขาธนาคารหรือพกเงินสดติดตัวเพื่อจับจ่ายใช้สอยมาสู่ยุค Digital ที่ทุกคนแค่มองหน้าจอก็สามารถทำธุรกรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบ แถมยังมีเทคโนโลยีใหม่ออกมาช่วยปรับเปลี่ยนประสบการณ์ให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยความรวดเร็วของเทคโนโลยี ทั้งองค์กรและคนทำงานจึงต้องร่วมมือวิ่งไปพร้อมกันเท่านั้นถึงจะเวิร์ค ดังนั้น เมื่อถึงวันนี้ที่ความรู้ และทักษะ Digital มีความจำเป็นสำหรับคนธนาคารทุกแผนก “SCB Academy” จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ในการสร้างสรรค์การเรียนรู้ด้าน Digital ที่มีความล้ำหน้าทั้งด้านเทคโนโลยี บุคลากร และบรรยากาศการทำงาน ปรับกันได้ทั้งด้าน Knowledge, Skill, Experience และ Mindset นับว่าเป็นทางออกในการเตรียมความพร้อมให้คนทุกเจนเนอเรชั่นในองค์กรมีสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน คุยกับทีมสร้าง SCB ACADEMY ศูนย์กลางการเรียนรู้เฉพาะด้านการเงินการธนาคาร เพื่อไขข้อข้องใจของวิธีสวนกระแสในยุคที่องค์กรส่วนใหญ่มุ่ง Lean และคาดเข็มขัดการพัฒนาบุคลากร แต่ SCB กลับ มุ่ง Learn แถมยังปรับเปลี่ยนพื้นที่ถึง 2 ชั้นในตึก SCB สำนักงานใหญ่ เป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาองค์ความรู้และทักษะใหม่ ๆ ยกอนาคตมาไว้ในบ้านให้พนักงานได้ใช้พื้นที่กันแบบฟรี ๆ เพื่อให้พนักงานนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน
ทุกวันนี้การใช้ “ภาษาอังกฤษ” มันไม่ใช่ฟังรู้เรื่อง อ่านออก แล้วจะสามารถเอาตัวรอดในการทำงานได้เสมอไป เพราะเรื่อง “การสะกดและไวยากรณ์” ก็สำคัญและไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เนื่องจากมันเป็นแต้มต่อที่โชว์ความสมาร์ตเนี้ยบและความใส่ใจของเราได้ ที่สำคัญยังทำให้การนำเสนอไอเดียที่ร่ายลงพรีเซนต์ อีเมล หรือเอกสาร คล่องขึ้นไม่สะดุดเพราะโดนจับผิดเรื่องคำอย่างแน่นอน ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ไม่เป๊ะเรื่องอังกฤษ แต่จะให้ไปลงคอร์สเรียน Grammar ตอนนี้หรือให้ฝึกท่องศัพท์หรือเขียน Dictation แบบตอนเด็ก ๆ ไม่ไหวเพราะต้องใช้งานแล้ว UNLOCKMEN ขอเสนอตัวช่วยผ่าน 5 แอปฯ นี้ให้ติดตั้งในเครื่อง เพื่อช่วยทำหน้าที่ปรู๊ฟเป็นตาที่สามให้กับเรา ใครพร้อมแล้วเคลียร์เมมโมรี่ในเครื่อง และไปดูพร้อมกันได้เลย Grammarly Grammarly นี่จัดเป็นแอปฯ Top of Mind ของการปรู๊ฟภาษาอังกฤษเลยก็ว่าได้ เพราะใช้งานได้ง่าย เรียลไทม์ในไม่กี่วินาทีเท่านั้น แถมซัพพอร์ตการติดตั้งในทุกอุปกรณ์เลย ทั้ง PC, MAC รวมทั้งสมาร์ตโฟนทั้งหลาย ใช้งานได้คล่องมือถ้าเราติดตั้งใน PC ก็สามารถเปิดขึ้นมาแล้วลากไฟล์ที่เราต้องการปรู๊ฟลงไปในโปรแกรมได้ทันที จากนั้นโปรแกรมจะแสดงข้อมูลในด้านขวาให้เห็นชัด ๆ ว่าประโยคไหน คำไหนที่เราใช้งานผิดหรือทะแม่ง ๆ พร้อมทั้งเขียนแก้ไขตัวที่ถูกต้องให้ ส่วนการใช้งานสำหรับมือถือจะเป็นรูปแบบ Extension
คงต้องมีสักครั้งที่เราเคยไปงานอีเวนต์ หรือเห็นฟีดในหน้าโซเชียลมีเดียโชว์งานอีเวนต์สุดเจ๋งในเมืองไทยของแบรนด์ต่าง ๆ แล้วอุทานออกมาให้กับงานคอมเมอร์เชียลเหล่านั้นว่า “เฮ้ย อย่างนี้ก็ได้เหรอ เจ๋งอ่ะ คิดได้ไงวะเนี่ย” เชื่อเถอะว่า หนึ่งในงานเหล่านั้นเป็นผลงานที่ “เบียร์-พันธวิศ ลวเรืองโชค” พ่อมดแห่งวงการอีเวนต์จากอาณาจักร Apostrophys Group เป็นผู้สร้างสรรค์อยู่เบื้องหลังแน่นอน เขาไม่เพียงเป็นนักสร้างสรรค์ประสบการณ์ชั้นยอดไม่รู้จบเท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของบริษัทอื่น ๆ อีกถึง 4 แห่ง ได้แก่ Sense.S (บริษัทด้าน New media และ Interactive Media), Synonym (บริษัทตกแต่งภายในสำหรับส่งเสริมธุรกิจหรือบุคคลที่ต้องการสร้างโปรไฟล์จากที่พักอาศัย), Happening Design (บริษัทร่วมทุนรับเหมาก่อสร้าง เพื่อส่งเสริมภาคการผลิต) และ SOURCE บริษัทด้านดิจิทัล เอเจนซี่น้องใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นปลายปีนี้ ท่ามกลางยุคที่พวกเราพยายามวิ่งตามหาบางสิ่งมาต่อไฟฝัน เพิ่มพลังการทำงานที่พร้อมจะมอดดับตลอดเวลาของตัวเอง UNLOCKMEN เชื่อว่าไม่บ่อยนักที่เราจะเจอนักสร้างสรรค์ที่มีไอเดียใหม่ไม่รู้จบอยู่ในสมอง และเหลือพลังมากพอที่จะทำงานสร้างสรรค์งานด้านอื่นด้วยอย่างเขาคนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาทิ้งน้ำเสียงสบาย ๆ ว่า “ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยคิดงานไม่ออกเลยครับ” มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราบุกเข้าไปถึงออฟฟิศใหม่ Apos the HQ เพื่อพูดคุยค้นหาที่มาของไอเดียความคิดสร้างสรรค์ไม่รู้จบเหล่านั้น วัยเรียน วัย Real : จุดเริ่มต้นอาณาจักรนักสร้างประสบการณ์
เคยสงสัยไหมว่าสถานที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน ทำไมภาพแนว Street ของเรากับคนอื่นถึงต่างกัน มุมเดียวกัน แต่ส่งพลังภาพไม่เท่ากัน หลายคนอาจจะบอกว่ามันต้องใช้ประสบการณ์สั่งสมมา ถ่ายมุมพลาดนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อให้เจอมุมที่ใช่ แต่วันนี้เราจะมาแนะนำเส้นทางลัดดีๆ ที่ UNLOCKMEN ไปค้นพบมาจาก Samsung Photo Hub แหล่งรวมเทคนิคถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือ สำหรับให้หนุ่มๆ ได้ฝึกฝีมือตาม Tips เหล่านี้ เพื่ออัพโหลดอวดภาพ Street ของเราขึ้น FB / IG กันบ้าง วันนี้เราสรุปมาให้ลองทำตาม 7 วิธีด้านล่าง แล้วคุณจะรู้ว่าถ่ายแนว Street มันสนุกและมันส์กว่าที่คิด 1. โดดใส่แสงนีออน คือสตรีทแบบบอย ๆ Street Photography ไม่มีเส้นแบ่งเรื่องเวลา อย่าจำกัดว่าชีวิตมันจะมีแค่กลางวัน หนุ่มคนไหนชอบ nightlife เราบอกได้เลยว่าการเก็บภาพ Street ด้วยมือถือโคตรสนุก เพราะมันมีแสงไฟนีออนสี ๆ จากร้านค้าหรือบาร์ให้เราโดดเข้าใส่ทำให้ภาพดูหว่องน่าค้นหาขึ้น Beginner แค่ไหนก็ทำได้ เพียงแค่ดูสภาพแสงหรือสิ่งที่จะถ่าย แล้วปรับค่าในกล้องเล็กน้อยอย่างพวก