หลังจากเจอพิษ Youtube มีปัญหาจนร้อนรนไปเมื่อต้นสัปดาห์ งานนี้ชาว UNLOCKMEN ทุกคนก็โดนผลกระทบนั้นเหมือนกัน ทำให้เราคิดได้ว่านี่ขนาดเป็นแค่หนึ่งเว็บไซต์ที่ให้บริการด้านวิดีโอเท่านั้นก็ยังส่งผลแล้วกับคนทั่วโลก แล้วถ้าเจ้าใหญ่อย่าง Google เกิดจะมีปัญหากับเขาบ้าง แล้วเราที่เป็นคนใช้บริการจะทำอย่างไร UNLOCKMEN จึงได้หาหนทางเอาตัวรอดไว้แล้ว เผื่อวันหนึ่งข้างหน้า Google จะโดนเรื่องนี้กับเข้าบ้าง เราจะได้ใช้ชีวิตกันต่อได้แบบไหลลื่นไม่ต้องสะดุด สาขาแรก BROWSER นอกจากจะเป็น Search Engine ขาใหญ่แห่งวงการแล้ว หลายคนเองก็คงเคยชินกับการใช้ Browser ของ Google อย่าง Google chrome ซึ่งเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 10 ขวบหมาด ๆ มาเมื่อต้นเดือนที่แล้ว เพราะมันใช้งานได้รวดเร็วเหลือเกิน แถมมี Extension ตัวเด็ดพร้อมลูกเล่นมากมาย แต่ถ้าวันนี้ Google Chrome พังล่ะ เราจะใช้อะไร? Mozilla หรือเจ้าหมาไฟในตำนาน เป็น Browser ตัวหนึ่งที่เราขอแนะนำ เพราะใช้งานได้ดีทุกอุปกรณ์ ทีเด็ดของมันอยู่ที่มันสามารถบล็อก Ad โฆษณาได้ แถมทาง Mozilla
การทำอะไรซ้ำ ๆ ตามกันมานาน ๆ บางครั้งเราก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องถูกและดี ทว่าต้องขอบคุณวิทยาศาสตร์และผู้รู้ที่คอยมาหักล้างความเชื่อเก่าเสมอจึงทำให้พวกเราสามารถปรับพฤติกรรมและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ต่อไปนี้คือ 6 สิ่งที่เราเองยังเข้าใจผิดบางข้อ (แต่กำลังจะแก้ใหม่ให้ถูก) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากยิ่งขึ้น ชาว UNLOCKMEN คนไหนไม่อยากเข้าใจผิดอย่างเรา ลองไปเช็กดูพร้อมกันได้ 1. ดื่มกาแฟช่วงระหว่าง 8.00 -10.00 น. ตามผลการศึกษาของ Geisel School of Medicine ที่ Dartmouth กล่าวถึงเรื่องการกินกาแฟก่อนเริ่มต้นวันไว้ว่าใครที่กะเสพคาเฟอีนเพิ่มความดีดและสร้างความฮึกเหิมเวลาทำงานควรคิดใหม่ เพราะมันเป็นความผิดพลาดมหันต์ เนื่องจากมันการดื่มในช่วงเวลานั้นจะเพิ่มฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือที่รู้จักในนามฮอร์โมนแห่งความเครียดเข้าสู่ร่างกายเรา ซึ่งระดับของฮอร์โมนนี้มักจะขึ้นลงตามธรรมชาติในร่างกายของเราอยู่แล้ว แต่จะมากสุดในช่วงเช้าและลดลงตามลำดับในช่วงเย็น ดังนั้นถ้ายิ่งกินในช่วง 8 – 10 โมงเช้ามันจะยิ่งเพิ่มความเครียดตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มงานและนอยด์ไปทั้งวัน PRO TIP: คอคาแฟควรอดทน รอช้า ๆ เพื่อได้พร้าเล่มงาม ดื่มกาแฟที่ชอบในช่วงเวลาตั้งแต่หลัง 10 โมงเช้า – เที่ยงวัน หรือบ่าย 2 โมง – 5 โมงจะดีที่สุดเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานที่ตรงกับระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลงต่ำสุด
เมื่อไม่กี่อาทิตย์เราเพิ่งพูดคุยกับเพื่อนไปถึงความรู้สึกตื่นเต้นเลือดสูบฉีดหลังจากที่ตั้งตารอคอยเพราะได้ยินข่าวคราวมานานเกี่ยวกับงานศิลปะสุดยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า BAB (แบ๊บ) ซึ่งย่อมาจาก Bangkok Art Biennale (บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่) ที่กำลังจะจัดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพียง 2 ปีครั้งเท่านั้น และมีความพิเศษกว่าเทศกาลศิลปะอื่นที่เคยเกิด เนื่องจากเป็นการจัดแสดงงานศิลป์ที่เปิดให้ดูกันฟรี ๆ จากศิลปินจำนวนมากถึง 75 คน 33 ประเทศ รวบมาไว้ในสถานที่แห่งเดียวคือ “กรุงเทพฯ” ที่ ๆ เรากำลังย่ำเท้าอยู่ตอนนี้ แต่สิ่งที่ได้ยินจากเพื่อนกลับเป็นคำว่า “เฮ้ย! มีด้วยเหรอ” ดังนั้น เพื่อไม่ให้เพื่อน ๆ ชาว UNLOCKMEN คนไหนต้องพลาดการเสพศิลป์ครั้งนี้แล้วร้องเสียดายกันภายหลัง เพราะย้ำอีกครั้งว่างานจัดแค่ 2 ปีครั้งเท่านั้น แถมสิ่งที่คุณจะได้เห็นปีนี้ก็อาจจะไม่ได้เห็นในปีหน้า อยากดูอาจต้องเสียค่าตั๋วบินไปดู เราจึงขอเปิดวาร์ปไปชมงานตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่จัดแสดงทั่วกรุงเทพฯ ด้านล่าง สนใจชมผลงานของศิลปินคนไหนเป็นพิเศษก็อย่าพลาดไปดูกันล่ะ 101 BANGKOK ART BIENNALE เพื่อให้สนุกกับการเปิดแรลลี่ดูงานศิลปะ BAB 2018 มากขึ้น
ถ้าจะยกให้ใครเป็นเจ้าแห่งการประดิษฐ์และเทคโนโลยีแล้วล่ะก็ หนึ่งประเทศมหาอำนาจตะวันออกที่ทั่วโลกห้ามมองข้ามเด็ดขาดคงหนีไม่พ้นประเทศจีนอย่างแน่นอน เพราะเขาประดิษฐ์ “เก่ง” ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ซึ่งล่าสุดเก่งกาจขนาดประดิษฐ์ดวงจันทร์เพื่อยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นของตัวเองแล้ว พระจันทร์เทียมดวงใหม่นี้สร้างขึ้นจากดาวเทียม มีกำหนดการจะแตะท้องฟ้าเหนือเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ด้วยการยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าและปล่อยให้มันลอยค้างอยู่บนชั้นบรรยากาศ ส่องแสงลงมายังเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเฉิงตูในปี 2020 People’s Daily สื่อท้องถิ่นของจีนได้ระบุเหตุผลในการออกแบบพระจันทร์เทียมครั้งนี้ว่า “ออกแบบขึ้นเพื่อเติมเต็มท้องฟ้ายามค่ำคืน” ซึ่งนักพัฒนากับศูนย์วิทยาศาสตร์และสถาบันเทคโนโลยีการบินและอวกาศของเฉิงตูอ้างว่ามันน่าจะให้แสงที่สว่างกว่าพระจันทร์ธรรมชาติถึง 8 เท่า กล่าวคือการเรืองแสงของพระจันทร์เทียมนี้จะสามารถส่องสว่างทั่วพื้นได้ในระยะเส้นผ่าศูนย์กลาง 1080 กิโลเมตรและสามารถควบคุมความแม่นยำของแสงได้ในระยะ 10 เมตรเพื่อทดแทนดวงไฟบนท้องถนนเลยทีเดียว ไอเดียสร้างพระจันทร์ยักษ์เป็นของตัวเองครั้งนี้ People’s Daily เผยว่าได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปินฝรั่งเศสที่จินตนาการการแขวนสร้อยคอกระจกทรงกลมเหนือโลกที่ทำให้มันสามารถสะท้อนแสงจากพระอาทิตย์สาดลงสู่ถนนทุกสายในปารีสตลอดทั้งปี แม้นี่จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งประดิษฐ์มหัศจรรย์ที่ทำให้หลายประเทศเห็นข่าวแล้วต้องร้องว้าว! แต่ท่ามกลางความก้าวหน้าด้านสิ่งประดิษฐ์ครั้งใหญ่ของจีนที่มีต่อการเอาชนะธรรมชาติในครั้งนี้ บางคนได้ออกมาให้ความเห็นในเชิงลบมากกว่าบวก โดยพวกเขามองว่าแสงเทียมเหล่านี้น่าจะสร้างผลกระทบใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศ เช่นเดียวกับฟากของนักดาราศาสตร์เองก็อาจจะไม่ค่อยปลื้มนักเพราะเป็นการสร้างมลภาวะทางแสง (Light Pollution) ทุกวันนี้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็วไม่เพียงทำให้เราสะดวกสบายขึ้น แต่ก็สร้างความกังวลเพิ่มขึ้นไม่แพ้กัน สุดท้ายสิ่งที่เราทุกคนต้องตั้งคำถามคงไม่ใช่การหยุดพัฒนาหากเป็นการสร้างขอบเขตของการนำสิ่งที่พัฒนามาใช้งานให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ในองค์รวม เราจะจับจองดวงดาว หรือเป็นเจ้าของท้องฟ้าทำไม ถ้าปลายทางของมันคือการทำร้ายซึ่งกันและกัน SOURCE: 1 / 2 / 3
เดี่ยวนี้เราทำงานนอกบ้านตามคาเฟ่หรือ co-working space กันเยอะ กระทั่งออฟฟิศรุ่นใหม่ทุกวันนี้ก็ออกแบบให้มีความชิลขึ้นกว่าเก่า ดังนั้นเราเลยมองเห็นภาพทุกอย่างได้เต็มสายตา สภาพแวดล้อมที่รายล้อม เพื่อนโต๊ะนั้นเล่นเกม หัวหน้าจีบสาว ฯลฯ เก็บได้หมดครบทุกเม็ดแม้ว่าเราจะไม่ต้องการก็ตาม ด้วยสายตาที่เราบังคับมันไม่ได้ดั่งใจ เผลอมองโน่นนี่จนเป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิตเหลือเกิน ทาง Panasonic’s design studio หรือโรงงานดีไซน์รูปแบบไลฟ์สไตล์อนาคต จึงได้จับมือกับ Kunihiko Morinaga ดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่นประดิษฐ์อุปกรณ์สวมสร้างพื้นที่ที่ช่วยลดการรบกวนที่ชื่อว่า WEAR SPACE ขึ้น คุณสมบัติของมันแม้จะดู “เล่นง่าย” แต่ก็ใช้งานได้ดีทีเดียว เพราะมันสามารถลดการรบกวนได้ถึง 60% คราวนี้เราจะสามารถโฟกัสกับการทำงานเต็มที่ เพราะเราจะมองไม่เห็นสิ่งแวดล้อมรอบข้าง มองเห็นแค่จอหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น เว้นแต่เรามองขึ้นด้านบนไว้รับแสง หรือมองด้านล่างเวลาทำของตกจะได้เก็บสะดวกเดินไม่สะดุด ที่สำคัญคือเขาฝังอุปกรณ์เสริมเป็นหูฟังตัดเสียงรอบข้างไว้ให้ด้วย ดังนั้น เวลาเราเอาใช้ที่ไหนก็พร้อมสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับเราทันทีที่สวมใส่ ลักษณะหน้าตาของเจ้าอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้ก็เป็นแบบที่เห็น คือเป็นแผงคล้ายผ้าปิดตาที่โค้งบดบังทุกทิศทาง เพรียวบางไม่เทอะทะ เหลือช่องว่างแค่บริเวณสายตาด้านหน้าเท่านั้น สำหรับตัวที่เห็นนี่ยังเป็นชิ้นต้นแบบที่คนทดลองใช้งานกันในงานนิทรรศการ Panasonic’s SXSW เท่านั้น ยังไม่ได้วางจำหน่าย เห็น Gadget นี้ชาว UNLOCKMEN คิดอย่างไรกันบ้าง อยากใช้กันบ้างไหม แต่เราคิดหากออกมาวางขายตอนนี้คงใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ เพราะคงใส่ออกไปเดินกลางแจ้งไม่ได้
ขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตาเรื่องปริศนาการตายของของนักข่าวจาก Washinton Post ที่มีหลายกระแสอออกมาให้ข้อมูลการสังหารซึ่งมีประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง ความต่างทางความคิดที่ดำเนินเรื่องราวไปจนถึงไคลแม็กซ์คือการปลิดชีวิตนักข่าวนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเรื่องราวทำนองเดียวกันกับนักข่าวชาวญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน ก่อนตอนจบเรื่องราวของ Jamal Khashoggi จะสิ้นสุด UNLOCKMEN ขอชวนทุกคนมาติดตามเรื่องราวโศกนาฎกรรมสังหารระดับโลกและเส้นทางความขัดแย้งที่ต้องแลกกันด้วยลมหายใจของคนข่าวทั้ง 2 คนที่เป็นที่จับตาไปพร้อมกัน Jamal Khashoggi เริ่มต้นด้วยนักข่าวชื่อดัง ที่พ่วงตำแหน่งบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และนักจัดรายการโทรทัศน์วัย 59 คนนี้ Jamal Khashoggi (จามาล คาช็อกกี) วัย 59 ปี ชาวซาอุดิอาระเบีย ก่อนเกิดเหตุการหายตัวไปหลังเข้าไปสถานกงสุลซาอุฯ ในประเทศตุรกี ซึ่งขณะนี้หลายสื่อออกมายืนยันว่าเขาโดนฆาตกรรรมแน่นอนจากร่องรอยสุดท้ายเป็นคลิปเสียงที่ได้รับการบันทึกไว้ขณะโดนฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมเป็นเวลา 7 นาทีจาก Apple Watch ที่ส่งตรงไปยังโทรศัพท์ iPhone ที่ฝากไว้กับคู่หมั้น ผลงานข่าวก่อนเสียชีวิต: หากดูภาพรวมผลงานข่าวที่นำเสนอแล้ว คงต้องบอกว่าเป็นข่าวใหญ่ที่เอนน้ำหนักไปทางเรื่องการเมืองการปกครอง และหลายเหตุการณ์เป็นเรื่องสำคัญที่บ่งชี้ถึงความมั่นคงของประเทศอัฟกานิสถานเหล่านี้ การบุกอัฟกานิสถานของสหภาพโซเวียต กำเนิดโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้าเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ คอลัมน์วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลซาอุฯ ชุดปัจจุบัน คอลัมน์วิจารณ์นโยบายของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุฯ (หลังลี้ภัยแล้ว) ด้วยเนื้อข่าวที่เป็นประโยชน์ในช่วงก่อนหน้าทำให้
เชื่อว่าผู้ชายทุกคนส่วนใหญ่เคยอยากมีการ์ตูนเป็นของตัวเอง ตอนยังเด็กหนังสือการ์ตูนเป็นหนังสือที่เราคลุกคลีด้วยพอ ๆ กับหนังสือเรียน แต่แน่นอนว่าเราชอบการ์ตูนมากกว่า และบางครั้งการหยิบดินสอมาร่างเส้นโง่ ๆ ตามใจคิดก็เป็นหนึ่งในเรื่องสนุกที่เราทำเป็นประจำ บางคนอาจหยุดวาดเพราะรู้สึกว่ามันห่วย วาดรูปไม่สวย ทำให้ไม่สนุกเหมือนเก่า แต่วันนี้ UNLOCKMEN ไปเจออัปเดตโปรแกรมจากฝั่ง Adobe ตัวล่าสุดที่มีประโยชน์มาก เพราะมันมาเหนือชั้นด้วยการใส่ระบบ AI เข้าไปในโปรแกรม และ…บู้ม เปลี่ยนใบหน้าเราที่กำลังขยับผ่านกล้องให้กลายเป็นลายเส้นดินสอและขยับแบบ Realtime ที่ชื่อว่า Characterizer How to create “Characterizer” “Characterizer” คือหนึ่งใน Feature ล่าสุดที่ประกาศอัปเดต Desktop Application ภายในงาน Adobe Max 2018 ซึ่งเป็น The Creativity Conference ที่จัดขึ้นในวันที่ 15-17 ตุลาคมที่ผ่านมาใน Los Angeles Feature นี้เกิดขึ้นจากโปรเจกต์การวิจัยและ Tech demo นำมาผนวกรวมกันเพื่อสร้างเป็นแอปฯ Adobe’s Character Animator โดยมี Sirr Less,
ย้อนวันวานกลับไปช่วงปลายปี 90 ที่แผ่น Mp3 Vampire กำลังบูม คนหันไปฟังเพลงจากไฟล์แทนเทป ในยุคนั้นเรียกได้ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักโปรแกรมไอคอนสายฟ้าอย่าง Winamp อย่างแน่นอน เพราะมันถือเป็นโปรแกรมเล่นเพลงพื้นฐานยอดนิยมไม่แพ้ Window media player ซึ่งเป็นโปรแกรมพื้นฐานติดเครื่อง ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในลิสต์ของซอฟต์แวร์ที่ช่างซ่อมคอมต้องใช้ติดตั้งเวลาล้างเครื่องเลยทีเดียว เพื่อคืนความหอมหวานของการเปิดเพลง Mp3 ในคอมพิวเตอร์ที่บ้านฟัง เราขอบอกข่าวดีถึงเพื่อนฝูงชาว UNLOCKMEN ว่าตอนนี้ Winamp ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะกลับมาทวงคืนบังลังก์เสียงเพลงอีกครั้ง อัปเกรดใหม่เป็น Winamp 6 ใน พ.ศ. 2562 ให้ทุกคนได้ใช้งานอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ลืมเลือนเรื่องราวของ Winamp ไปแล้วหรือนักฟังหน้าใหม่ที่ยังไม่รู้จักมาก่อน UNLOCKMEN ขอย้อนอดีตไปพลิกตำนานให้ทุกคนได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ Winamp ไปพร้อมกัน อุแว้ WINAMP เสียงหวดแส้ลงบั้นท้ายเจ้าลามะ เพิ่มอรรถรสของต้นกำเนิด Winamp กดเล่นคลิปนี้ประกอบสักนิด เพราะเวลาเราเปิดโปรแกรมมักจะได้ยินเสียงนี้เสมอ ส่วนใครที่ฟังไม่ถนัดว่านั่นมันพูดว่าอะไร ทำไมมีแบ๊ะ ๆ แอ๊ะ ๆ เสียงของมันไม่ใช่แกะที่ไหน มันคือเสียงของ “ลามะ” และประโยคที่พูดว่า “Winamp”, it’s
รู้หรือไม่ว่าชายที่ถือกล้องถ่ายรูปไว้กับมือแต่กลับโดนคนถ่ายภาพไว้มากที่สุดในประเทศไทยในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาคือใคร? เชื่อว่าพระบรมฉายาลักษณ์ด้านบนคงแทนคำตอบที่ทำให้หลายคนต้องพยักหน้าโดยพร้อมเพรียง แต่สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อนคือภาพที่ได้รับการบันทึกผ่านสายพระเนตรของพระองค์เป็นเช่นไร และความสำคัญของกล้องต่อการพัฒนาแผ่นดินนี้มีเบื้องหลังความเป็นมาอย่างไร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ทีมงาน UNLOCKMEN ได้รวบรวมเรื่องราวนำมาบอกเล่าต่อ ณ ที่นี้ โปรดการถ่ายภาพตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ย้อนกลับไปก่อนเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดการถ่ายภาพตั้งแต่พระชนมายุราว 8 พรรษา ทรงมีกล้องส่วนพระองค์ที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระบรมราชชนนีตัวแรกเป็น Coronet Midget ซึ่งเป็นกล้องระบบ Manual ขนาดเท่าฝ่ามือ ราคา 2.50 ฟรังก์สวิส ต่อมาภายหลังเมื่อพระชนมายุ 18 พรรษา ได้ทรงซื้อกล้องมืออาชีพเป็นของพระองค์เองจากการทรงทำหัตถกรรมฝีพระหัตถ์ (งานฝีมือ) เข้าร่วมประมูลเพื่อหาทุนเข้าสมาคมปราบวัณโรคฯ ซึ่งสมเด็จพระราชชนนีได้ทรงแบ่งเงินร้อยละ 10 จากการประมูลให้เป็นรางวัล เส้นทางช่างภาพสู่ความเป็นกษัตริย์ “ช่างภาพที่ติดตามทุกหนทุกแห่ง และฝึกอาชีพการเป็นกษัตริย์ไปโดยไม่รู้ตัว” คือประโยคหนึ่งที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงบรรยายภาพไว้ในพระนิพนธ์ “เจ้านายเล็ก ๆ – ยุวกษัตริย์” เพราะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรครั้งทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ทรงทำหน้าที่เป็นช่างภาพส่วนพระองค์เสมอคราวตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 การย่ำตามรอยทางและบันทึกภาพพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมเชษฐาฐิราชรัชกาลที่ 8
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการทำงานสักชิ้นที่ต้องใช้ข้อมูลมากมาย คือการต้องกลับไปรื้อหาข้อมูลเดิมที่เคยรวบรวมนั้นกลับมาใช้อีกครั้งหลังจากทำเสร็จไปแล้ว ใครทำงานที่ต้องใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งบ่อย ๆ คงพอเข้าใจสภาพการเปิดเว็บเบราเซอร์ขึ้นมาแล้วไล่รื้อ History ให้วุ่นวายเพื่อหาข้อมูลที่ค้นเจอของเมื่อวานไปตอนช่วงเวลาบ่ายสามกว่า ๆ แต่ไอ้เจ้ากว่า ๆ นี่เวลารื้อ History ทีก็มีหลายเว็บไซต์เหลือเกินเพราะมันนับกันในหลักนาที หลักวินาที ยิ่งพอเราขี้เกียจเข้าไปดู History จะอาศัยความคุ้นจากการ search ด้วย Keyword และ Font แดง ๆ ที่เป็นเหมือนการปักหมุดว่าเราเคยเข้าเว็บนี้มาก่อน ก็ดันจำหน้าไม่ได้เสียอีก UNLOCKMEN ขอแนะนำ Chrome Extension หรือระบบขยายของเบราเซอร์ Google Chrome ที่ชื่อ Google When มาติดตั้งเสีย จะพบว่าเทพมาก! อวดสรรพคุณกันสักหน่อย หลัง Install แล้วเราจะได้เจอมิติใหม่ของการหาที่เชื่อว่าคงทำให้แฮปปี้ได้แบบในภาพ เพราะมันจะติด Tag เป็นเครื่องหมายนาฬิกาด้านหลังพร้อมบอกว่าช่วงเวลาที่เราเข้าชมเว็บไซต์นั้น ๆ ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้าเลื่อนเมาส์ไปวางเหนือ Tag ความอเมซิ่งของมันคือจะสามารถแสดงค่าแบบละเอียดให้เห็นกันชัดเจนไปเลยในระดับวันที่ เดือน ปี ไปจนถึงเวลาที่เรากดเข้าไป ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาการค้นของเราได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นตัวกรองข้อมูลอีกชั้นที่หลาย