“คุณเข้าโซเชียลมีเดียครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ และใช้เวลากับมันนานแค่ไหน” ว่ากันตามตรง ประโยคคำถามข้างต้นมันเป็นคำถามที่ส่วนตัวแล้วเราเองก็ไม่ค่อยอยากจะเอามาพูดถึงบ่อย ๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่งานวิจัยหลายชิ้นระบุตรงกันอยู่แล้วว่าถ้าใช้มากไปก็อาจมีผลเสียตามมา แต่พวกเราหนุ่มเมืองยังคงต้องใช้มันเป็นช่องทางสื่อสาร ส่งงาน แชร์ความรู้ หรือประชุมงาน ดังนั้น เวลามีเรื่องอัปเดตเกี่ยวกับข้อมูลพฤติกรรมการใช้โซเชียลที่น่าสนใจ มีผลกับเราโดยตรง เราจึงเห็นว่าตัองเอามาบอกกัน เพราะอย่างน้อยรู้ไปก็ดีกว่าไม่รู้ ส่วนจะจัดสรรเวลาให้ดีขึ้นได้ไหม เราเองก็คิดว่าต่อให้แน่นแค่ไหนก็คงยังพอมีทางออกให้ได้บ้าง IG, SNAPCHAT & FACEBOOK gonna killed US? ล่าสุดในวารสาร Journal of Social and Clinical Psychology ประจำเดือนธันวาคมตีพิมพ์ผลวิจัยที่ว่าด้วยการเชื่อมโยงระหว่างการใช้โซเชียลมีเดียกับความเหงาว่ามันติดกันมาเป็นแพ็คคู่ โดย Penn research เขาวิจัยกันจริงจังด้วยการทดลอง “ตัดขาด” คนจากโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ไม่ว่าจะ Facebook, Snapchat และ IG แล้วพบว่าสุขภาพมันดีขึ้นจริง ๆ การทดลองนี้ใช้คนเข้าร่วมวิจัยทั้งหมด 143 คน (ผู้หญิง 108 คนและผู้ชาย 35 คน) จากกลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่ University
หนุ่มเมืองทุกคนรู้กันดีว่าหัวมุมถนนของประเทศเราไม่เคยเงียบเหงา เพราะเราจะได้แสงสว่างของป้ายร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่นมาเป็นเพื่อนคู่ใจเสมอ ยิ่งเป็นชายโสดยิ่งได้ใช้บริการบ่อยกว่าเพราะที่แห่งนี้มันช่วยเติมความอิ่มท้อง กับแกล้มเคี้ยวเพลิน พร้อมกับแอลกอฮอล์สะดวกซื้อให้พวกเราได้จิบกันชุ่มคอ แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาหลังเจอดราม่าจดหมายคุณอลงกรณ์ พลบุตร ส่งถึงเจ้าสัว CP ธนินทร์ เจียรวนนท์ เข้าไป เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงอยากรู้เรื่องราวเส้นทางธุรกิจของ 7-Eleven มากขึ้น ว่าเส้นทางบริการเติบโตมาอย่างไรและจริงหรือที่เซเว่นจะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยทยอยตายไปเรื่อย ๆ UNLOCKMEN ขอไล่เรียง Timeline ธุรกิจเซเว่นในประเทศไทยเพื่อให้การพูดคุยของพวกเรามันส์และจริงจังขึ้น ใครพร้อมแล้วเราไปดูพร้อมกัน จากร้านขายน้ำแข็งใน Taxas สู่ร้านสะดวกซื้อทั่วโลก เริ่มกันที่ภาพกว้างกันก่อนลงดีเทลในบ้านเรา จุดเริ่มต้นของเซเว่น อีเลฟเว่น (ที่ยังไม่ได้ชื่อว่าเซเว่น) กำเนิดขึ้นครั้งแรก พ.ศ. 2470 ณ เมืองดัลลัส มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยบริษัทเซาท์แลนด์คอร์ปอเรชั่น ดำเนินกิจการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำแข็ง แต่หลังจากขายน้ำแข็งแล้วก็เริ่มขยายกิจการต่อด้วยการเอาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นมาขายเพิ่มเติมด้วย พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อว่า “Tote’M store” ก่อนจะมีการปรับเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง พ.ศ. 2489 เป็น “เซเว่น – อีเลฟเว่น” โฆษณาชิ้นแรกของเซเว่น ทำไมต้องเซเว่น – อีเลฟเว่น
ตอนนี้กระแส Apple Store ที่มาเปิดในบ้านเราฟู่ฟ่าสุด ๆ เรียกได้ว่าสาวก Apple ทุกคนคงต้องอยากไปเยือน ไปซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านมาสักอย่าง แต่ดูเหมือนจะโคตรตรงกันข้ามกับสถานการณ์ภาพรวมธุรกิจเวทีโลกโดยสิ้นเชิง เพราะตอนนี้ฝั่งนั้นเขาประกาศว่า “ขอไม่รายงานยอดขายทุกโปรดักส์ในเครือแบบไตรมาสละนะ ตอนนี้ขอไปโฟกัสเรื่องธุรกิจบริการก่อน อีกอย่างมันไม่ได้โชว์ประสิทธิภาพของเราด้วย” เหตุผลที่จู่ ๆ ขา Tech ยักษ์อย่าง Apple ขาดส่งสมุดพกรายงานยอดขายรายไตรมาสครั้งนี้ นักวิเคราะห์ตลาดหลายคนเขาออกมาให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นเพราะไม่อยากจะเผยยอดขายให้ช้ำนัก ขอแอบเลียแผลใจลำพังไปก่อน เพราะมันโตขึ้นจากปีที่แล้วเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็ส่อให้เห็นว่าไม่ใช่แค่ Apple เท่านั้นที่ต้องกล้ำกลืนกับยอดขาย เหล่าหุ้นเทพสาย Tech ทั้ง 5 ตัวที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดของกลุ่มเทคโนโลยี อย่าง FAANG ซึ่อย่อมาจากตัวอักษรของแบรนด์ทั้ง 5 ได้แก่ F – Facebook(FB), A – Apple(AAPL), A – Amazon(AMZN), N – Netflix(NFLX) และ G – Google(GOOG) เองทุกตัวก็กำลังชะลอตัวเช่นกัน APPLE ประกาศอุบตัวเลขไตรมาสนี้
สมัครยิมมันไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สุขภาพดี หนุ่มเมืองอย่างเรารู้ดี เพราะความเป็นจริงเราใช้เวลาแค่ไม่กี่สิบนาทีต่อวันภายในพื้นที่จำกัดก็สามารถออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพได้ถ้าทำได้อย่างถูกหลักการ เช่นเดียวกับหลายบทความที่ UNLOCKMEN นำเสนอให้ทุกคนได้ทดลองทำกัน อีกหนึ่งหลักฐานที่ออกมายืนยันข้อมูลเรื่องนี้คือข้อมูลจาก BLUE ZONE หรือสถานที่ที่คนอายุยืนที่สุดในโลกโดยนับช่วงอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไปและสามารถเฉลิมฉลองอายุครบ 100 ปี เขาอยู่กันและคนชราเหล่านั้นล้วนเป็นคนฟิต สุขภาพดี แข็งแกร่งและมีชีวิตชีวาด้วยปัจจัยต่าง ๆ ทั้ง 9 เรื่องนี้ ซึ่งไม่มีเรื่องไหนเป็นการโหมออกกำลังกายสักนิด แต่หลายข้อในนี้มันก็เป็นแนวเดียวกับที่เราชาว UNLOCKMEN ใช้ปลดล็อกเป็นไลฟ์สไตล์อยู่แล้ว Move Naturally : เคลื่อนไหวแบบธรรมชาติ ไม่ต้องวิ่งมาราธอน ไม่ต้องใช้เทรนเนอร์หรือเข้ายิม แค่ลุกไปทำโน่นทำนี่ด้วย 2 เท้ากันแบบดิบ ๆ ใช้แรงชายอย่างเราขยับกายไปทำโน่นทำนี่ก็พอ โดยเฉพาะกิจกรรมเข้าจังหวะถ้าเอาไปบวกในหัวข้อนี้ด้วย เราก็ว่าไม่ผิดความหมายอะไร Know your purpose: ตั้งเป้าหมายของทุกวันที่ลืมตา ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ผู้ชายเราเองถ้าอยากถึงเป้าหมายก็ต้องไปให้สุด Down Shift : คลายเครียดเพื่อสร้างสุขให้ตัวเองเป็นประจำ อะไรที่ตึงต้องผ่อนจะทำให้สุขภาพดีขึ้น แน่นอนว่าผู้ชายเราเองก็มีทางออกหลายทาง แต่คนที่อยู่ในบลูโซนอย่างชาวโอกินาวาเขาใช้วิธีระลึกถึงบรรพบุรุษของพวกเขา ชาว Ikarian ใช้การนอนกลางวัน หรือชาว
ถ้าพูดถึงประเทศสหรัฐอเมริกา เรามักได้ยินการนิยามว่าเป็น “ประเทศแห่งเสรี” ทำให้ครั้งหนึ่งคำว่า “American Dream” หรือการฝันอย่างอเมริกันจึงกลายเรื่องระดับโลก เป็นความฝันที่ใครก็ล้วนใฝ่หาและต้องการเดินทางไปตั้งรกราก เพราะมีทั้งความเจริญ ความเท่าเทียม และอิสระ เรียกได้ว่าเป็นดินแดนในฝันที่ใครก็สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเศรษฐีได้ จึงไม่แปลกที่ล่าสุดเมื่อผลสำรวจประชากรชาว Freelancer ในสหรัฐฯ ประจำปีนี้เผยตัวเลขว่ามีคนเลือกเป็นฟรีแลนซ์จำนวนถึง 56.7 ล้านคน เราจะรู้สึกไม่ประหลาดใจ แต่ไม่ใช่แค่ตัวเลขเท่านั้นที่น่าสนใจ UNLOCKMEN ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้มาแบ่งปันกันด้วย American Dream: Past & Present ใครที่ดูหนังต่างประเทศบ่อย ๆ จะได้ยินคำว่า “American Dream” กันมาบ้าง ซึ่งส่วนมากเรื่องราวจะออกแนวการเดินทางจากต่างดินแดนเข้าไปในอเมริกาเพื่อตามหาความฝัน ซึ่งความฝันเหล่านั้นมักจะผลิตซ้ำเรื่องการเป็น “Somebody” ด้านอาชีพ เช่น อยากจะเป็นนักมวยอาชีพ นักดนตรีอาชีพ ก็จะฝึกมันครั้งแล้วครั้งเล่าจนกว่าจะได้เป็น หรือ Underdog เองก็มีสิทธิผันตัวเองเป็นเศรษฐีใหม่ได้เสมอ หากขยันและร่ำรวย อาชีพ Freelance หรือการรับจ้างเป็นมือปืน จึงอาจเป็นเรื่องของการหารายได้เสริมเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อเวลาผ่านไป ค่านิยมความฝันของคนเราก็เริ่มเปลี่ยน ความรู้สึกอยากเป็น “Somebody” มันเริ่มจางลง
นาทีนี้คงไม่มีงานศิลปะไหนดังและน่าไปมากกว่า BAB2018 งานอาร์ตระดับโลกที่จะแสดงถึงแค่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 กับ 20 สถานที่แสดงงานศิลปะสุดเจ๋งในกรุงเทพฯ ที่ผู้ชายทุกคนจะต้องไปเช็กอิน ดังนั้น เมื่อเราแนะนำว่าควรไป เราย่อมไม่พลาดลงพื้นที่ไปเช็กอินกันด้วยตัวเองและนำกลับมารีวิวกันแบบเรียล ๆ เลยว่าจุดไหนน่าไปลอง และจุดไหนต้องเตรียมตัวอย่างไร หลังจากกางแผนที่ออกมาเพื่อวางแผนก่อนออกเดินทางจริง ทีมงานปรึกษากันว่า “เราจะเดินทางตามเก็บงานศิลป์กันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายใน 1 วัน แต่จะเลือกไปในเส้นทางที่เดินทางได้ยากเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อ่านที่เดินทางยากมีโอกาสได้ดูงานกัน” จึงได้บทสรุปว่าทีมงานเลือกทางชมศิลปะเส้น River Route ทั้ง 8 กันโดยออกสตาร์ทที่ฝั่งปิ่นเกล้าในเวลาที่ไม่ทรมานใจชายเกินไปคือ 9.30 บริเวณเมเจอร์ปิ่นเกล้า รูปแบบการเดินทางทั้งหมดนี้เราเลือกใช้วิธีเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและการเดินเท้าล้วน เผื่อใครจะพาคนพิเศษไปเก็บงานศิลป์ด้วยวิธีนี้จะได้จำลองสถานการณ์จริงและรู้ที่ทางการจอดรถเลย เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่จากคู่มือ BAB จะเน้นการเดินทางแบบสาธารณะมากกว่า สตาร์ทสถานที่แรก Bankok of Thailand Learning Center (BOT) บริเวณสามเสน ริมน้ำ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งเทเวศน์ ภายในจัดแสดงงานศิลปะทั้งหมด 6 ชิ้น แบ่งเป็น 3 สถานที่ที่ติดตั้งภายในอาคาร สามารถจอดรถใต้อาคารฟรี 4 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไปคิดชั่วโมงละ 20
สำหรับผู้ชายเรา การเลือกเบียร์ที่รสชาติถูกใจ ก็เหมือนได้เจอสาวสวยที่ถูกสเปก ซึ่งสเปกของแต่ละคนก็ต่างกันออกไป เวลาจะสั่งเบียร์แต่ละคนจึงสั่งไม่เหมือนกัน บางคนไม่ชอบเบียร์ขมเข้ม บางคนขอแอลกอฮอล์แรง บางคนเน้นกลิ่นหอมของมอลต์ ซึ่งคงจะยากถ้าจะตอบโจทย์ให้ถูกปากโดนใจได้ทั้งหมด ทำให้เรื่องการคราฟต์เบียร์เพื่อให้ได้รสชาติที่ใช่ที่สุดสำหรับเรจึงเป็นมิชชั่นในฝันของผู้ชายเราทุกคน BEERMKR เป็นเครื่องคราฟต์เบียร์สำหรับใช้ในบ้าน แม้ขนาดจะเล็กแต่ความสามารถนับว่าครบวงจรตอบโจทย์ของชาว UNLOCKMEN ที่อยากจะเป็น Brewer เต็มตัวแบบไม่ต้องไปเรียนก็เซียนได้ เพราะมันสามารถทำได้หมดตั้งแต่ บ่ม ต้ม กลั่น ปรับสูตรได้ตามใจ จนถึงการกดออกมาดื่มจากหัวจ่ายได้ในเครื่องเดียว ควบคุมมาตรฐานการบ่มด้วยระบบเทคโนโลยีที่การันตีได้ว่าวิธีการของเราจะไม่ผิดพลาด และไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อโรค ในเรื่องของเวลาการติดตั้งหรือเริ่มต้นคราฟต์เบียร์ด้วยตัวเอง ผู้ผลิตเขาออกมาคอนเฟิร์มว่าเริ่มต้นไม่ยากใช้แค่ 5 นาทีก็พอ แค่ใส่ส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงในถังเบียร์ตามสัดส่วนที่ต้องการในถุง เติมน้ำ จากนั้นกดสั่งให้เครื่องเริ่มทำงานผ่านแอปพลิเคชั่นเท่านั้นแล้วปล่อยไว้เฉย ๆ ให้เป็นหน้าที่แอปฯ คอยเป็นพี่เลี้ยงดูแลและแจ้งเตือนเราก็พอ ทั้งนี้ แอปฯ จะประเมินระยะเวลาที่เหมาะสมและเตือนเราว่าช่วงไหนต้องใส่อะไรเข้าไป หรือต้องเอาอะไรออกมา ที่สำคัญยังควบคุมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอุณหภูมิการบ่มที่เป็นกุญแจสำคัญเรื่องรสชาติให้แม่นยำไม่คลาดเคลื่อน ชาว UNLOCKMEN ที่เริ่มรู้สึกกระหายอยากคราฟต์เบียร์เป็นของตัวเองสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการสั่งซื้อได้ในเว็บไซต์ สนนราคาที่ $349.00 หรือ 11,506 บาทเท่านั้น (กำลังลดราคา) ที่สำคัญไม่ต้องกังวลเรื่องวิ่งหาซื้อวัตถุดิบเพราะเขาขาย MKR KITs ซึ่งเป็นวัตถุดิบการผลิตให้เราส่ังซื้อตามสูตรที่ต้องการอีกด้วย CHEERS!
ถ้าไม่นับกลิ่นน้ำหอมของสาว ๆ แล้ว “ฮอปส์” คือกลิ่นที่ผู้ชายอย่างเราพร้อมใจกันยกนิ้วให้ว่าหอมสุดในฤดูหนาวนี้ เพราะพอตะวันตกดินร่างกายมันก็เริ่มเรียกร้องให้เราออกไปปะทะลมหนาวและชิมยอดข้าวทันที แต่ใครที่อยากกินเบียร์สะดวก ๆ ใกล้บ้านแบบไม่ต้องดั้นด้นออกหาร้าน คงต้องไว้อาลัยกับสงครามการจิบที่วันนี้รัฐประกาศออกมาให้ช้ำใจกับการ “งด” ขายเบียร์สดในร้านสะดวกซื้ออย่างเป็นทางการ เรื่องอุดเบียร์หัวจ่ายในร้านสะดวกซื้อครั้งนี้ แม้จะไม่ได้รับผลกระทบกับเรามากนัก เพราะหลายคนคงยังไม่เคยใช้บริการของมันด้วยซ้ำ แต่มันก็มีอยู่จริง แถมยังลงทุนติดตั้งไปแล้วในบางสถานที่ด้วย สมรภูมิก่อนวันที่กฎหมายจะลงดาบเอาจริงมีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร UNLOCKMEN จะขอ Recap ตำนานนี้ไว้เอง (ใส่หมายเหตุว่าถ้าอ่านไปจิบไปเพลิน ๆ จะได้อรรถรสเรื่องนี้มากขึ้น) ชนวนยก “เบียร์” ขึ้นจ่าย ว่าด้วยเรื่องยกเบียร์ขึ้นหัวจ่าย หรือเบียร์สดในบ้านเรา ก่อนที่ใครจะเข้าใจผิดต้องบอกก่อนว่ากฎหมายฉบับที่กำลังพูดถึงน้ีไม่ได้ห้ามการค้าเบียร์สดตามสถานที่เรากินตามร้านอาหาร หรือบาร์ แต่ว่าห้ามการขายเบียร์สดตามร้านสะดวกซื้อ ซึ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมามีกระแสการขายเบียร์สดแบบใช้แก้วพลาสติกกดทำนองเดียวกับแก้ว Gulf ในเซเว่นกำลังมาในหลายประเทศ อิสระการดื่มแบบไม่ต้องมีเด็กเชียร์ก็ยังดื่มด่ำได้ทุกเวลา แม้เราจะยังไม่ทราบว่าเริ่มต้นจากประเทศไหนเป็นแห่งแรก แต่กระแสที่เห็นได้ชัดคือเพื่อนบ้านเอเชียแดนมังกร ที่กดเบียร์สดยี่ห้อดังชิงเต่าจากร้านค้าสะดวกซื้อใส่ถุงพลาสติกใบใหญ่อัดแน่นสะใจ พ.ศ.2555 กลายเป็นเรื่องสุดว้าว ภาพหอยและถั่วกับแกล้มที่อยู่ด้านข้างใต้แสง daylight บอกเราได้ว่าถึงบ้านต้องมีเมา มีมันส์ แน่ ๆ ทำให้ธุรกิจหลายประเทศอยากจะเอาใจบุรุษคอทองแดงแบบนั้นบ้าง เช่นเดียวกับเราชาวไทยที่ช่วงปีที่แล้ว 2 แบรนด์เบียร์ยักษ์ทั้งเสือและช้างออกโรงมาแข่งกันวางผลิตภัณฑ์ทดลองแบบนั้นบ้างกับร้านสะดวกซื้อในบ้านเราเมื่อกลางปีที่แล้ว BEGINS
เพราะเรื่องราวบนโลกออนไลน์ที่ผู้ชายชอบหรือสนใจทุกวันนี้มันล้นหลามเต็มไปหมด แต่มันมาแล้วมันก็พร้อมจะตกไปจากหน้า feed ของเราในช่วงเวลาสั้น ๆ เวลาเราอยากจะรื้อจะค้นอะไรที่ชอบเลยต้องลากนิ้วปัดจอสุ่มรัว ๆ ว่าจะเจอเรื่องราวที่เคยอ่านไหม ด้วยเหตุผลที่ลิ้นชักความทรงจำเรามันไม่แม่นเหมือน AI ที่หาสิ่งที่ต้องการได้ในไม่กี่วิเท่านั้น การมีตัวช่วยเลยเป็นเรื่องที่เราต้องการ และเจ้าแอปพลิเคชั่นใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “Collect” นี่ล่ะคือสิ่งที่ช่วยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี Collect คือแอปพลิเคชั่นน้องใหม่ล่าสุดจาก Wetransfer ที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยชั้นดีที่สามารถรวบรวมทุกเรื่องราวที่เราต้องการ Save ไว้เพื่อทำ Board เป็นของตัวเอง ใน Interface สวย ๆ ที่ไม่ต่างจาก Pinterest ไว้เป็นของตัวเอง แถมยังใช้งานได้ง่ายมาก สิ่งที่เราสามารถสร้างใน board ของตัวเอง ไม่เฉพาะไอเดียที่สามารถ save clipboard มาแปะเป็นของตัวเองเท่านั้น แต่มันยังแชร์ไอเดียสดชิ้นอื่นของเราบนโลกออนไลน์ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาพ งานเขียน หรือไฟล์งานต่าง ๆ เรียกได้ว่ารวบยอดมาลงได้ทันที ความน่าใช้ของมันคือมันมีหลังบ้านให้เราเลือกเก็บไว้ก่อนด้วย ถ้าอันไหนอยากแชร์ไปจัดบอร์ดสวย ๆ ก็แค่แชร์ไป หรือจะแบ่งให้เพื่อนดูก็แชร์เข้ากับแอปฯ หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น LINE, FACEBOOK
ทำมาค้าขึ้นคงเป็นสิ่งที่บุรุษนักธุรกิจอย่างเราไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่น หรือมือฉมังต้องการ แต่เราเรียนรู้ว่าโลกของตลาดมันขึ้น-ลง อยู่เสมอ ถ้าปรับไม่ทัน สต๊อกของเยอะ หรือดันเจอกระแสลบของสินค้าที่นำมาขายก็มีโอกาสจะจมทุนกันเห็น ๆ เพื่อไม่ให้เรื่องการค้ากำไร กลายเป็นการค้าขาดทุน เราได้ติดตามข้อมูลเทรนด์การค้าปลีกในเอเชียที่จะรุ่งในปีหมูที่กำลังจะมาถึงทั้ง 5 เทรนด์จาก Trend Watching มาฝากกัน เผื่อใครเห็นช่วงนี้ยอดตกจะได้เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร และปรับตัวได้ทันก่อนกระแสมันจะโหมใส่ในปีหน้าจาก 5 เรื่องนี้ 1. ZERO-WASTE SHOPPING เรื่อง Zero-waste หรือแนวคิด “ขยะเหลือศูนย์” ตอนนี้มันมาถึงเรื่องการค้าขายแล้ว และกำลังเบียดตัวเข้ามาเป็นกระแสหลักของการชอปปิ้งที่หนุ่มนักขายอย่างเราไม่ควรเพิกเฉย ทำไมต้อง Zero Wasting Shopping: ปัญหาขยะเป็นปัญหาระดับโลก หนุ่มเมืองอย่างเราคงเข้าใจปัญหาเรื่องนี้ดี ส่วนเหตุผลที่จะทำให้เรื่องนี้ฮิตในกลุ่มทวีปเอเชียเพราะหลายคนเริ่มตระหนักเรื่องนี้แล้ว เพราะกลุ่มประเทศในเอเชียไมว่าจะเป็น จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม รวมทั้งประเทศเราเอง เป็นต้นเหตุของกองขยะในมหาสมุทรจำนวนกว่า 80% ในโลก ที่สำคัญหลายประเทศใหญ่ ๆ อย่างจีนเองก็เริ่มขยับตัวแล้วไม่ว่าจะเป็นมาตรการลดการนำเข้าพลาสติกเข้าประเทศและรีไซเคิลพลาสติกจริงจังตั้งแต่ต้นปี 2018 หรือในไต้หวันที่ออกมาแบนการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งเพียงครั้งเดียวทั้งประเทศ KEY TO SUCCESS: ใครที่มองภาพไม่ออกว่ามันมีเรื่องแบบนี้ในบ้านเราด้วยเหรอ ในสายของ retail