ถ้ายังวิ่งแบบเดิม ๆ อยู่ เราจะเป็นได้แค่กระต่ายที่รอวันเต่าวิ่งแซง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้การไล่ตามเทคโนโลยีให้ทัน ไม่ว่าจะอยู่ในสาขาหรือสายงานอะไรก็ถือเป็นเรื่องจำเป็นด้วยกันทั้งนั้น อธิบายง่าย ๆ ว่า “เทคโนโลยี” เข้ามาเป็นอีกสกิลที่ทำให้ทำงานได้ดี มีโอกาสมากกว่าคนอื่นและเป็นโอกาสที่สร้างได้จากทั่วทุกมุมโลกไม่ต่างจากสกิลด้านภาษาที่เราทุกคนให้คุณค่ากับมัน Bernard Mar นักกลยุทธ์ธุรกิจและนักเขียน Best Seller ผู้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับ Big Data ได้สรุปเทรนด์ของเทคโนโลยี 25 ตัวที่น่าจับตามองภายในปี 2020 นี้ไว้ หลายสกิลเราได้ยินชื่อของมันมานานหลายปี ลองมาสำรวจว่าคุณรู้จักอะไรกันบ้างและจะใช้สกิลเหล่านั้นประยุกต์กับสิ่งที่ทำอยู่ได้อย่างไร Wearables and augmented humans อุปกรณ์สวมใส่เพื่อเติมเต็มชีวิตมนุษย์ แม้จะไม่น่าเชื่อว่าวันหนึ่งเราจะสวมเทคโนโลยีบางอย่างติดตัวแล้วเชื่อใจมันจนไม่ต้องไปหาเทรนเนอร์หรือหมอ หันมาเฝ้าติดตามสุขภาพร่างกายเราแต่ละวันผ่านอุปกรณ์เล็ก ๆ นี้แทน ทั้งจำนวนก้าวเดิน ชีพจรของตัวเอง รวมทั้งไว้ใจให้มันทำหน้าที่บังคับเรากลาย ๆ เพื่อสร้างสุขภาพดี ๆ แต่สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นแล้วและน่าจะติดเทรนด์ไปยาว ๆ ในปีนี้ ถ้ามองตัวเลขจากยอดของ Smart Watch ที่จำหน่ายในตลาด ไม่ว่าจะเป็นค่าย Apple หรือ Samsung คงทำให้เห็นว่าผู้คนกำลังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีชิ้นนี้ขนาดไหน
ถ้าให้เลือกได้ เราก็คงเลือกไม่ให้วิกฤต COVID-19 เกิดขึ้นบนโลกใบนี้เลย แต่เมื่อเราเลือกไม่ได้และยังพอมีเวลาเหลือให้เลือกทำอะไรอยู่บ้าง “การเรียนภาษา” ยังถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ไม่ว่าสถานการณ์รอบตัวจะเป็นอย่างไร การสื่อสารได้มากกว่า 1 ภาษาก็มักจะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าอยู่หนึ่งก้าวได้เสมอ คนเหงา คนเศร้า คนเครียด หรือคนที่กลัวว่าวันข้างหน้าการงานที่ทำอยู่จะมั่นคงไหม อย่าปล่อยเวลาให้หมดไปกับความรู้สึกเหล่านั้น รวบรวมพลังมาเรียนภาษาไปด้วยกัน เพราะคอร์สเรียนภาษาเหล่านี้ไม่เพียงแค่ออนไลน์เรียนจากที่ไหนก็ได้ในโลก แต่ยังฟรี แถมได้เรียนจากมหาวิทยาลัยและสถาบันชั้นนำอีกด้วย ภาษาอังกฤษ กับมหาวิทยาลัยมหิดล แม้ภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ฟรีนั้นจะหาเรียนไม่ได้ยากมากนัก แต่การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ฟรีกับมหาวิทยาลัยเบอร์ต้น ๆ ของประเทศคงไม่ได้มีมาให้กันบ่อย ๆ เราจึงไม่อยากให้ใครพลาดโอกาสดี ๆ ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดคอร์ส “Listening and Speaking for Communication” ที่จะมาสอนเรื่องการสื่อสารทั้งฟังและพูกภาษาอังกฤษแบบเน้น ๆ เหมาะกับใครที่กล้า ๆ กลัว ๆ อยู่นาน อยากพูดได้ ฟังได้ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เห็นแกรมมาร์แล้วก็สยองขวัญ คอร์สนี้จะเน้นไปที่สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน เน้นการสนทนา ไปจนถึงการดูบริบทรอบ ๆ การตีความ
เราต่างเจ็บปวด ทุกข์เศร้า และสูญเสียอะไรบางอย่างให้กับ COVID-19 บางคนเข้าใจ รับมือได้ หรือมีต้นทุนมากพอที่จะดูแลตัวเองให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่ไม่ใช่กับทุกคน บางปัญหา บางการสูญเสีย ปล่อยหมัดตรงจนเราเสียศูนย์ล้มลงไม่เป็นท่า นอกจากการแก้ปัญหาอันเป็นรูปธรรม อีกสิ่งที่มีความหมายไม่แพ้กันคือ “ความแข็งแกร่งของหัวใจ” ถ้าสูญเสียด้วย หัวใจแหลกสลายด้วย การลุกขึ้นมาเจอแสงสวยงามของวันใหม่อาจไม่มีวันมาถึง อย่างน้อยที่สุดหากยังไม่รู้จะหาทางคลี่คลายความเลวร้ายที่เจอได้อย่างไรก็ประคับประคองหัวจิตหัวใจของตัวเองให้สบายดี เพื่อวันหนึ่งที่มีทางคลี่คลาย เราจะได้ฟันฝ่าไปด้วยหัวใจที่พร้อมสู้ไม่ถอย หนังสือ 5 เล่มนี้คือหนังสือที่เราอยากให้ใครบางคนที่เศร้า ใครบางคนที่สูญเสีย ใครบางคนที่หัวใจฟีบแฟบไร้ทางกู้คืนได้ลองอ่าน หัวใจอาจไม่แกร่งข้ึนภายในชั่วข้ามคืน แต่มันจะมีความหมายบางอย่างทางความรู้สึกให้คุณได้แน่นอน จะเล่าให้คุณฟัง DEJAME QUE TE CUENTE Jorge Bucay “หนังสือที่เปลี่ยนชีวิตผู้คนมาแล้วจำนวนมากทั่วโลก” นี่คือนิยามของหนังสือเล่มนี้ แต่เมื่อไรที่ได้ยินคำว่าเปลี่ยนชีวิต เราก็คงอดตั้งกำแพงไม่ได้ว่านี่คือหนังสือไลฟ์โค้ช ฮาวทู ที่เอาแต่บอกให้เรามองโลกในแง่ดี ๆ ๆ บอกให้เราเปลี่ยนตัวเอง เลิกเศร้า เลิกทุกข์ ลุกขึ้นมาฉีกยิ้มร่าโดยไม่สนความเป็นจริงหรือเปล่า? เราขอสัญญาว่าหนังสือเล่มนี้จะไม่ทำแบบนั้นกับคุณ ที่สำคัญหลังอ่านเล่มนี้จบคุณจะมีสิทธิทุกประการที่จะเลือกคิด เลือกจัดการทุกความเศร้าและปวดเจ็บด้วยตัวคุณเอง แต่เป็นการจัดการด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่คุณได้จากการทบทวนตัวเอง ครุ่นคิดกับสิ่งที่รู้สึก “จะเล่าให้คุณฟัง”
บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของ THE PROMISED NEVERLAND ใครที่เป็นคอมังงะหรือแอนิเมชันญี่ปุ่นอยู่แล้วจะเข้าใจคำว่า “การ์ตูนไม่ใช่เรื่องของเด็ก” ได้เป็นอย่างดี ไม่น่าเชื่อว่าแค่ลายเส้นกับภาพเคลื่อนไหวในจอ หลายเรื่องเล่าสภาพสังคมอย่างขบขันด้วยแนวแฟนตาซีได้อย่างลึกซึ้ง หรือบางเรื่องก็เล่าเรื่องราวดราม่าและความโหดร้ายของชะตาชีวิตมนุษย์จนนั่งดูไปก็ชวนให้รู้สึกสะอึกตาม ท่ามกลางแอนิเมชันมากมายใน Netflix ตอนนี้ นอกจากเรื่องราวที่เราคุ้นเคยอย่าง ไซคิ, Attack on Titan, ซีรีส์ Ghibli เราอยากชวนทุกคนไปดูเรื่องราวดาร์ก ลึก และหักมุมของ “The Promised Neverland” หรือในชื่อไทยคือ “พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์” ผลงานของอาจารย์ Shirai Kaiu ที่ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ชูเอชะเครือจัมป์มาในปี 2016 ที่หลายคนออกมาพูดตรงกันว่าโคตรดี และเราก็พิสูจน์เองแล้วว่ามันดีจริง ๆ เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งเรื่องที่กล่าวขวัญกันในหมู่นักเสพการ์ตูนสายดาร์ก หรือชอบการ์ตูนเรื่องข้น ๆ เพราะสะท้อนมุมมองความคิด สังคม ได้ลึกผ่านตัวละครที่มีอายุไม่ถึง 12 ปีเท่านั้น ฉีกพลอตเดิม ๆ ที่เคยดูเพราะตัวละครเอกเป็นเพียงเด็กมนุษย์ธรรมดา ไม่ได้มีพลังพิเศษอะไรมากกว่ามันสมองระดับเด็กแต่ต้องสู้กับศัตรูที่แกร่งกว่า จนทำให้คนดูอย่างเราต้องรู้สึกลุ้นตามกับการกระทำของเด็ก ๆ ภาพฝันที่สวยงาม ความจริงที่บีบคั้น เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง เด็กทุกคนได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
เมษายน เดือนที่ร้อนที่สุดของปีกำลังจะบอกลาเราไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีแววจะได้ย้ายกลับไปออฟฟิศเสียที หันไปมองทางไหนก็เห็นแต่ผนังเดิม ๆ ในห้องแคบ ๆ พาลทำให้รู้สึกหนืด ไม่สดชื่นอย่างที่เคยกับใครเขา ช่วงนี้หลายคนที่อยากปลดพันธการความรู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่ในที่แคบ ซึมเซา เลยลุกมารีโนเวตห้องอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน จัดมุมใหม่ ๆ ให้น่านั่ง กันพื้นที่ทำความสะอาดและทิ้งของที่ไม่จำเป็นเพื่อสร้างความปลอดโปร่งไว้กระตุ้นการทำงาน ที่สำคัญถ้ามันสามารถทำให้เรารู้สึกหายใจโล่ง โปร่งขึ้น ก็ยิ่งน่าลอง ทีม UNLOCKMEN จึงอยากเสนอต้นไม้เลี้ยงในร่ม 5 ต้น ช่วยปรับฮวงจุ้ยบ้านให้น่าอยู่ น่านั่ง แถมยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเปลี่ยนบ้านให้ดูมีสไตล์คล้ายหลุดมาจาก Pinterest ดังต่อไปนี้ ไทรใบสัก (Fiddle-leaf fig) เริ่มต้นแรกให้ถือว่าเป็นต้นไม้ Top of Mind ผู้ชายหลายคน เพราะรูปทรงของมันค่อนข้างสวย มีคุณสมบัติฟอกอากาศ แถมพอวางไว้ในบ้านหลายคนก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนชิค ๆ มีสไตล์ขึ้นมาทันที ไทรใบสักเป็นพืชเขตร้อน และโดดเด่นด้านรูปทรงเมื่อเทียบกับต้นไม้ฟอกอากาศหรือต้นไม้ในร่มชนิดอื่น เพราะขนาดของมันที่จัดว่าค่อนข้างใหญ่ ที่สำคัญใบสีเขียวที่มีขนาดใหญ่กว่ามือหรือหน้าของเราจะมีฟอร์มใบชี้ขึ้น ลำต้นสูงระดับกำลังดี ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ไม้ใหญ่มาไว้ในห้องนอน เปลี่ยนความรู้สึกอุดอู้ นี่แหละคือเสน่ห์ของมัน HOW TO PLANT : ใครที่เคยเห็นหรือเคยเลี้ยงไทรใบสักมาบ้าง
เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนคงเคยเผชิญกับอาการปวดหลังเรื้อรังที่บ้างครั้งแม้จะไม่ได้รู้สึกปวดมากจนทนไม่ไหว แต่ก็สร้างความลำบากให้กับชีวิตประจำวันได้ในทุกอิริยาบท และที่พบเจอกันบ่อยมักจะเป็นอาการปวดหลังส่วนล่าง (Lower Back) ที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานในผิดท่าทางเป็นเวลานาน รวมถึงการนอนหรือการยกของหนักเกินไป เพราะหลังเป็นส่วนที่รองรับน้ำหนักในร่างกายของเราในหลายท่าทางซึ่งก็ควรได้รับการดูแลและสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อแผ่นหลังสามรถต้านทานต่อท่ายากทั้งหลายให้มากขึ้น สำหรับหนุ่ม ๆ ที่กำลังประสบกับอาการปวดหลังและอยากบริหารร่างกายด้วยท่าทางที่ถูกต้อง เพื่อผ่อนคลายไม่ใช่เพิ่มอาการ รวมถึงต้องการเรียนรู้วิธีสร้างความแข็งแรงไปด้วยในตัว QUICK WORKOUT ในครั้งนี้จึงอยากและนำ 3 ท่ายืดบริหารหลังและ 3 ท่าสร้างเสริมแกร่งหลังที่จะให้ทุกคนสามารถจัดการอาการปวดหลังเบื้องต้นจากอาการปวดกล้ามเนื้อด้วยตัวเองได้ที่บ้าน จะประกอบท่าอะไรบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย 3 Back Stretches Cat/Cow เริ่มจากท่ายืดหลังที่เห็นผลแน่ ๆ หากบริหารต่อเนื่องในช่วงที่มีอาการปวดกับท่า Cat/Cow เตรียมฝึก Cat ด้วยท่าคลาน โดยจัดให้แขน ขาและลำตัววางเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป ก่อนเริ่มจากแอ่นแผ่นหลังส่วนล่างลงให้ต่ำกว่าก้นซึ่งจะเกิดอาการตึงบริเวณหลัง ทำค้างไว้ประมาณ 1 วินาที ก่อนเปลี่ยนมาโก่งแผนโค้งขึ้นให้กล้ามเนื้อส่วนหลังล่างรู้สึกคลายตัวทำค้างไว้ 1 วินาทีทำสลับกันช้า ๆ เป็นเวลาประมาน 1 นาที Sphinx หลายคนคุ้นเคยกับท่ายืดอย่าง Sphinx แต่อาจไม่รู้เลยว่าท่าพื้นฐานนี้ช่วยยืดและบริการทั้งหลังแกนกลางและหลังล่างซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดได้
คงเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธว่า Porsche 918 Spyder นั้นคือหนึ่งในซูเปอร์คาร์ตัวแรงที่เป็นรถในฝันของใครหลาย ๆ ไม่เว้นแม้แต่ Concept Artist ฝีมือเยี่ยมที่ชื่อว่า Khyzyl Saleem ซึ่งตัวเขาใช้เวลาถึง 4 ปีในการสร้างและจบโปรเจกต์เรนเดอร์ Porsche 918 Longtail ครั้งแรกที่เห็นภาพของรถยนต์คันนี้ หลายอาจคิดว่านี่คือรถยนต์คอนเซ็ปต์ที่ถูกสร้างขึ้นจริง แต่น่าเสียดายเพราะมันคือกราฟิกเรนเดอร์จากเซียนพิกเซลนามว่า Khyzyl Saleem ศิลปินผู้ชื่นชอบการออกแบบรถยนต์คอนเซ็ปต์ ที่เคยฝากผลงานไว้กับซีรีส์เกมอย่าง Need For Speed มาแล้ว Khyzyl Saleem เคยร่วมงานสร้างกราฟิกชุดแต่ง (Body-Kit) ให้กับ NFS ในภาค Playback และ Heat ก่อนจะผันตัวออกมาทำงานอิสระมากขึ้น ล่าสุดรถยนต์ PoleStar 1 Cover ที่ตัวเขาเคยออกแบบไว้ในเกมส์ก็สวยถูกใจขาซิ่งจนถูกสร้างจริงและขึ้นแสดงในงาน SEMA มาแล้ว มาครั้งนี้เจ้าตัวตัดสินใจหยิบหนึ่งในยนตรกรรมที่หลงใหลมานานอย่าง Porsche 918 Spyder มาโมดิฟายใหม่ให้เป็นสไตล์ Longtail ที่เห็นกันบ่อยในการแข่งขันสุดโหดอย่าง Le
คำนิยามที่ว่า ‘บ้าบิ่น’ คงไม่เกินไปนักสำหรับป๋าขาร็อคอย่าง Dave Grohl ฟร้อนต์แมนแห่ง Foo Fighters ในฐานะที่เป็นแฟนคนนึง และเคยได้ดูการแสดงสดด้วยตาตัวเองมาแล้ว ป๋าแกเล่นถึงกับทำเราเมื่อยขา ถึงแม้จะมันส์แค่ไหนก็ตาม แถมยังบอกอีกว่า ‘กูจะไม่กลับเข้าไปแล้วให้คนร้องขอ Encore ละออกมาเล่นอีกรอบหรอกนะ กูจะเล่นจนกว่าจะพอใจ’ ซึ่งแน่นอนว่าคอนเสิร์ตครั้งนั้นจบเลตไปมากทีเดียว เล่นเอาขาลากกันออกมาจากฮอลล์ แค่นี้คงพอบอกได้ว่าป๋าแกบ้าบิ่นแค่ไหน หรือถ้ายังไม่พอ เราย้อนกลับไปประมาณ 5 ปีก่อนเป็นช่วงที่ป๋าแกขาเป๋ จากอุบัติเหตุมันส์เกินจนตกเวทีในคอนเสิร์ตที่ Gothenburg ประเทศสวีเดน ทำให้ขาหักทำต้องใส่เฝือกแต่ด้วยสปิริตที่แรงกล้าแกก็ยังเล่นคอนเสิร์ตนั้นจนจบด้วยการมีแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด จนมาถึงสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ระบาดกระทบธุรกิจทุกภาคส่วน ป๋าก็จำยอมต้องลดความบ้าบิ่นลง และออกจดหมายรักถึงพวกเราทุกคนด้วยใจความสำคัญว่า “อัลบั้มก็เสร็จแล้ว ไฟและเวทีก็อยู่ในรถบรรทุกแล้ว พร้อมที่จะออกทัวร์ แต่ตอนนี้ ขอให้มึงไปล้างมือซะ!” เรียกได้ว่าถ้าไม่เกิดโควิดขึ้นเสียก่อน เราคงได้ชมคอนเสิร์ตมันส์ ๆ อย่าง 25th anniversary van tour จากป๋าแกแน่นอน แต่กว่าที่ป๋าจะมาบ้า โหด คลั่ง แบบนี้ได้ แกผ่านอะไรมาบ้าง เรามาทำความรู้จักป๋าให้มากขึ้นกัน Dave Grohl
ไม่น่าเชื่อว่านอกจากความเครียด ความกังวล “ความคิดถึง” กลับเป็นอีกความรู้สึกที่เข้ามาในหัวของเราบ่อย ๆ ในช่วงนี้ คิดถึงการได้เดินทางไปทำงานทุกเช้า คิดถึงร้านโปรดที่กินบ่อย ๆ คิดถึงการออกกำลังกายในฟิตเนสที่คุ้นเคย ที่สำคัญที่สุดเราคิดถึงเพื่อน คิดถึงบรรยากาศการได้รวมกลุ่มหัวเราะท้องแข็งกับเรื่องไร้สาระไปด้วยกัน โดยเฉพาะใครที่เคยได้หลวมตัวไป “เล่นบอร์ดเกมกับเพื่อน” มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนที่เพิ่งเคยไม่กี่ครั้ง หรือเป็นสายบอร์ดเกมที่ต้องนัดสุมหัวกันทุกอาทิตย์ ช่วงนี้คงเป็นอีกช่วงที่ทั้งคิดถึง และทรมานกับการไม่ได้กางกระดาน ขิง หัวเราะ บลัฟ กับเพื่อน แต่ทุกปัญหามีทางออก วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 บอร์ดเกมที่เล่นจากบ้านใครบ้านมันส์ แต่สามารถมันส์ไปพร้อมกันประหนึ่งว่าได้กลับไปเล่นบอร์ดเกมด้วยกันตรงหน้าอีกครั้ง Settlers of Catan บอร์ดเกมมือสมัครเล่น หรือมืออาชีพล้วนต้องรู้จัก Settlers of Catan หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Catan เป็นอย่างดี เพราะนี่คือหนึ่งในบอร์ดเกมระดับตำนานที่ถูกออกแบบมาตั้งแต่ปี 1995 แต่เล่นฮิตติดลมบนข้ามกาลเวลามาถึงปัจจุบันแปลไปแล้วกว่า 30 ภาษาทั่วโลก (มีภาษาไทยด้วยนะ) โดย Catan เป็นบอร์ดเกมสไตล์ยูโรที่เน้นให้ผู้เล่นฟาดฟันกันผ่านการวางแผน ไม่เน้นบลัฟ ไม่เน้นดวง
เราเคยเชื่อว่าโลกหมุนไวแสนไวขึ้นนับตั้งแต่การเดินทางมาถึงของเทคโนโลยี การเดินทางไร้พรมแดน และการสื่อสารไร้ขีดจำกัด อินเทอร์เน็ตชวนให้สรรพสิ่งหมุนไวจนหลายครั้งแค่เราไปเปิดสมาร์ตโฟนแค่วันเดียว เราก็ตามหลายข่าวไม่ทันเสียแล้ว แต่เมื่อ COVID-19 คุกคามโลกทั้งใบ โลกไม่ได้หมุนไวขึ้นเหมือนที่เราเคยรู้สึกก่อนหน้านี้ แต่โลกพลิกตีลังกากลับหัว จนเราต้องปรับทุกสิ่ง เปลี่ยนทุกอย่างในชั่วเวลาไม่กี่อึดใจ ในสภาวะเช่นนี้ หลายสิ่งที่เราเคยยึดถือต้องรีบทิ้งให้ไวก่อนจะพากันแย่ บางอย่างที่เราเห็นว่าไม่เคยสำคัญเรายิ่งต้องรีบคว้าเอาไว้ เช่นเดียวกับที่เราเคยมองว่าคนทำงาน ผู้นำ หรือแม้แต่คนทั่วไป ใครที่มั่นคง แข็งแกร่ง เด็ดขาด นั้นมีแนวโน้มจะเอาตัวรอดอย่างราบรื่น แต่สถานการณ์ที่พลิกผันรายวัน รายชั่วโมงอย่างตอนนี้ “คนที่ปรับตัวได้เร็ว” ต่างหากที่จะรอด แต่ทุกคนเรียนรู้ได้ ไม่เคยเรียนรู้ที่จะปรับตัวมาก่อนในชีวิต เริ่มตอนนี้ก็ยังไม่สาย และนี่คือหนทางปรับนิสัยตัวเองให้เป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับทุกสิ่งได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า…” การตั้งคำถามที่ต้องฝึกทุกวัน นิสัยหลายครั้งปรับจากพฤติกรรม หรือสิ่งที่เป็นรูปธรรม แต่บางครั้งก็ต้องปรับที่วิธีคิด ทัศนคติ และสมอง ถ้าทั้งชีวิตเรายืนอยู่บนความมั่นคงมาตลอด รู้ว่ายอดเขานี้ไม่มีวันสั่นคลอน คิดแต่ว่าจะปีนขึ้นไปให้สูงขึ้น ๆ กว่านี้ได้อย่างไร? ก็ไม่แปลกที่เมื่อหลายอย่างเริ่มพังทลาย ยอดเขาที่ยืนอยู่มีแต่จะทรุดตัวแล้วเราปรับอะไรไม่ถูก ฝึกตัวเองตั้งแต่วันนี้ด้วยการโยนคำถามให้ตัวเองในทุกวัน “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า…” จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพรุ่งนี้เราโดนปลดออกจากงานประจำ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีก 2 เดือนต่อจากนี้เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น