หากจะให้พูดถึงวงคลาสสิคร็อกระดับต้น ๆ ของโลก ชื่อของ Led Zeppelin จะต้องติดมาด้วยอย่างแน่นอน คณะไซคีเดลิกร็อก ที่สร้างซาวด์ดนตรีไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ จัดจ้านในทุกตัวโน๊ตที่บรรเลงออกมา พวกเขาฝากสุดยอดเพลงระดับมาสเตอร์พีซเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “Stairway to Heaven”, “Whole Lotta Love“ หรือ “Immigrant Song” เป็นต้น Led Zeppelin สามารถสร้างชื่อได้ทันทีนับตั้งแต่ปล่อยอัลบั้มแรกชื่อเดียวกับวงเมื่อวันที่ 12 มกราคม 1969 ซึ่งโปรดิวซ์โดย Jimmy Page มือกีตาร์ของวง โดยสามารถทำยอดขายได้ในอเมริกาได้มากถึง 8,000,000 ก็อปปี้ (แม้จะเป็นวงจากอังกฤษก็ตาม) รวมไปถึงได้รับการยกย่องจากบรรดาสื่อดนตรีชั้นนำไม่ว่าจะเป็น Rolling Stone, Allmusic, Grammy Awards และอีกมากมาย นอกจากความสำเร็จทางดนตรีของอัลบั้มนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนจดจำได้เป็นอย่างดีคืออาร์ตเวิร์กบนหน้าปกที่เป็นรูปเรือเหาะที่ดูผ่าน ๆ แบบไม่เข้าใจความหมายก็คงดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วรูปดังกล่าวมันคือเรือเหาะ “Hindenburg” ที่เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้จนล่วงลงสู่พื้นปฐพีในปี 1937 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย จนได้รับขนานนามเหตุการณ์นั้นว่า
Bring Me The Horizon นี่คือชื่อวงร็อกแห่งยุคปัจจุบันที่จะให้บอกว่าพวกเขาคือวงระดับโลกก็กล้าเรียกได้เต็มปากอย่างแน่นอน พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นฮีโร่และขวัญใจของผู้นิยมชมชอบดนตรีอันหนักหน่วงได้ทั่วโลก ทุกเพลง ทุกอัลบั้มต่างได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ แต่เส้นทางการไต่ระดับไขว้คว้าความสำเร็จใช่ว่าจะมาจากโชคช่วย แต่มันมาจากการวางแผนของสมาชิกวงรวมไปถึงค่ายเพลงที่มีส่วนช่วยผลักดันให้อดีตวงเล็ก ๆ ในเมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ เติบโตขึ้นมากลายเป็นวงระดับโลกได้ตามที่เห็นในทุกวันนี้ ซึ่งมันก็มาพร้อมความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาเลือกที่ปรับเปลี่ยนแนวดนตรีมาแทบจะทุกอัลบั้ม ถือเป็นโจทย์ที่โคตรเสี่ยงตายแบบหาตัวแสดงแทนไม่ได้ของจริง แล้วอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ Bring Me The Horizon ฝ่าฝันอุปสรรคต่าง ๆ เหล่านั้นมาได้ ทาง Unlockmen จัดการถอดรหัสมาให้ดังนี้ ความเป็น ICONIC ของ OLIVER SYKES คำว่า “Iconic” ไม่ใช่ใครก็เป็นได้ แต่ Oliver Sykes นักร้องนำของวงสามารถทำได้สำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีเลยด้วยซ้ำ และมันมาจากความพยายามของตัวเขาเองแทบจะ 100% เริ่มแรกเลยความได้เปรียบของวง Bring Me The Horizon คือการมีฟรอนต์แมน (หรือนักร้องนำ) หน้าตาดี, มีความสามารถในการร้องเพลง, มีรอยสักที่โคตรเท่ถูกใจชาวร็อก, มีการแต่งตัวเข้ากับแฟชั่นทุกยุคทุกสมัย แถมยังรู้จักวิธีโปรโมตตัวเองด้วยแบรนด์สินค้าที่เขาสร้างมันขึ้นมาเอง ด้วยองค์ประกอบที่ครบแบบนี้มันจึงกลายเป็นแรงดึงดูดให้คนเลือกที่จะเข้ามาติดกับด้วยภาพลักษณ์ก่อนที่จะเข้ามารู้จักตัวเพลง
เป็นที่ทราบกันว่าในเดือนมิถุนายนของทุกปีมันได้ถูกเลือกให้เป็น “Pride Month” เพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศหรือ “LGBTQIA+” เป็นการสะท้อนอิสระความเป็นตัวเองที่ไม่ยึดติดแค่เพศเท่านั้น และด้วยความเปิดกว้างในยุคปัจจุบันทำให้เราได้เห็นซีรีส์วาย (ชายรักชาย) ออกมาให้ชมกันมากมาย ได้รับการตอบรับที่ดีจากทุก ๆ กลุ่มเพศ ตัวอย่างเช่น “KinnPorsche The Series” ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ ซึ่งหนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นมาก ๆ คือ “คิม” ลูกชายคนเล็กที่เติบโตในตระกูลมาเฟียแต่ก็มีความรักในเสียงดนตรี รับบทโดย “เจฟ ซาเตอร์” ที่ในชีวิตจริงเขาคือศิลปิน/นักดนตรี มีผลงานเพลงมาแล้วมากมาย ด้วยความสามารถอันหลากหลายทำให้เรารู้สึกอยากที่จะทำความรู้จักตัวตนของเขาให้มากยิ่งขึ้น เพื่อค้นหาคำตอบว่าบทบาทหน้าที่ทั้งในฐานะศิลปินและนักแสดงได้ Unlock อะไรให้กับเจฟ ซาเตอร์ และจะเพิ่มมุมมองอะไรให้กับความคิดของทุก ๆ คนกันบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลยครับ เน้นเล่น ไม่เน้นเรียน เจฟ ซาเตอร์ เป็นคนที่สมองซีกขวาถูกใช้งานเป็นหลักมาตั้งแต่วัยเด็ก เพราะเขามักจะสนใจการทำกิจกรรมภายนอกมากกว่าการเข้าห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นคาราเต้, เทนนิส และแน่นอนมันรวมไปถึงการเล่นดนตรีด้วย “ผมเป็นคนที่เรียนห่วยมาก ๆ เกรดเฉลี่ยตอน ม.ต้น จำได้ว่า 0.91 ครับ ไม่ตั้งใจเรียนเลย ไม่รู้สึกว่าชอบการเรียน
“บางทีฉันแค่อยากจะหนีออกไป อยากออกไปใช้ชีวิต ไม่ได้อยากตาย บางทีฉันก็แค่อยากหายใจ บางทีฉันก็แค่ไม่อยากเชื่ออะไรเลย บางทีเธอน่าจะเป็นเหมือนฉัน พวกเราได้มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่มีวันได้เห็น เธอกับฉันจะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาล” นี่คือวรรคทองของเพลง “Live Forever” ผลงานของวง Oasis จากอัลบั้มเดบิวต์ Definitely Maybe (1994) เป็นเพลงที่ถูกยกย่องว่าดีที่สุดตลอดกาลของวงร็อกจากเมืองแมนเชสเตอร์ อีกทั้งมันยังเต็มไปด้วยซาวด์ดนตรีที่เปรียบเสมือนการปูแนวทางของวงตลอดระยะเวลา 18 ปีที่โลดแล่นอยู่ในวงการ และยังเป็นเพลงที่ทั้ง Liam และ Noel Gallagher (ที่ตอนนี้เป็นศิลปินเดี่ยว) จะต้องยัดเอาไว้ในเซตลิสต์อยู่เสมอ จุดเริ่มต้นของเพลง “Live Forever” เกิดขึ้นในปี 1991 ซึ่งในตอนนั้น Noel ยังทำงานเป็นกรรมกรคนใช้แรงงานอยู่กับบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในบ้านเกิด แต่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายเพราะ Gallagher ผู้พี่เกิดประสบอุบัติเหตุโดนท่อเหล็กชนเข้าที่ข้อเท้า ผลคือเขาถูกส่งไปทำงานเบา ๆ อยู่ในห้องเก็บของ ซึ่งเป็นงานที่สบายและมีเวลาว่างกว่าเดิมมาก ทำให้เขามีเวลาเขียนเพลงแบบเต็ม ๆ ส่วนแรงบันดาลใจของเพลงนี้มันก็ได้รับมาจากทั้งจากวง The Rolling Stones, Nirvana และชีวิตวัยเด็กของพี่น้อง Gallagher “SHINE THE LIGHT” “Shine The
ช่วงนี้ข่าวคราวในวงการฟุตบอลคงไม่มีอะไรร้อนแรงไปกว่าการย้ายมาร่วมทีม Manchester City ของ Erling Braut Haaland ที่เซ็นสัญญามาค้าแข้งในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม นานถึง 5 ปี พร้อมด้วยค่าเหนื่อยที่คาดว่าน่าจะได้รับราว ๆ 5 แสนปอนด์/สัปดาห์ มากกว่า Cristiano Ronaldo และ Mohammed Salah ซะอีก การตัดสินใจของทีมเรือใบสีฟ้าในครั้งนี้ก็เพราะต้องการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตำแหน่งกองหน้านับตั้งแต่ Kun Aguero ย้ายออกจากทีมไป (แต่ก็ยังอุตส่าคว้าแชมป์ได้) ดังนั้นการตัดสินใจทุ่มเงินกระชากตัว Erling Haaland กองหน้าชาวนอร์เวย์ วัย 21 ปี จากทีม Borussia Dortmund จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะสถิติการทำประตูของเขานั้นบอกได้เลยว่าโหดบรรลัย! ความเก่งกาจของ Erling Haaland มันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน มันมาจากประสบการณ์ที่ถูกถ่ายทอดมาผ่านทางสายเลือดและความชอบฟุตบอลที่ฝัรากลึกลงถึงชั้น DNA สายเลือดนักกีฬา เขาเกิดมาในครอบครัวของนักกีฬาโดยแท้จริง เพราะนอกจากคุณพ่อของเขาแล้ว ยังมีคุณทวดนามว่า Gabriel Hoyland ก็เป็นฟุตบอลเช่นกัน รวมไปถึงคุณแม่ก็เป็นนักกีฬากรีฑาผสมอีกด้วย หลาย
นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับนักเลงสายเนื้อ เมื่อมีการประกาศปลดล็อคกัญชา ที่ทุกคนสามารถปลูกพืชนี้ในครัวเรือนได้อย่างเสรี เรียกได้ว่าตอนนี้หลายคนคงตลบอบอวลไปด้วยควันแห่งความสุขกันอย่างแน่นอน แต่ในวงการดนตรีแล้ว กัญชากับดนตรี เป็นของคู่กันมานานแสนนาน มาตั้งแต่ยุคสมัยร็อคแอนด์โรลรุ่งเรือง ยันไปถึงยุคของเพลงฮิปฮอป เรียกได้ว่าสมุนไพรนี้เป็นบัดดี้กับดนตรีก็ว่าได้ UNLOCKMEN จึงขอใช้วาระสำคัญนี้ เสนอ 10 บทเพลงเกี่ยวกับกัญชาที่ดีที่สุดมาเล่าสู่กันฟัง Miley Cyrus, “Dooo It!” (2015) “ฉันคิดว่ากัญชาคือยาที่ดีที่สุดในโลก” คือคำกล่าวที่ Miley Cyrus ได้บอกไว้เมื่อปี 2013 “แม้ว่าฮอลลีวู้ดจะเป็นเมืองแห่งโคเคน แต่กัญชาคือเดอะเบสต์” Miley หันมาใช้กัญชาบำบัดหลังจากที่เธอตัดสินใจเลิกบุหรี่ มันทำให้เธอรู้สึกอยู่ติดบ้านมากยิ่งขึ้น สาวแซ่บที่ถือกำเนิดมาจากซีรีส์สำหรับเด็กอย่าง Hannah Montana จึงได้อวยยศสมุนไพรนี้อย่างเป็นทางการด้วยเพลง “Dooo It!” ที่ได้ยอดฝีมือจาก The Flaming Lips มาช่วยแต่งในโปรเจกต์ Miley Cyrus & Her Dead Petz ของเธอ ที่เจือด้วยกลิ่นของไซคีเดลลิกเต็มขั้น ผสานด้วยเนื้อเพลงที่เทิดทูนบูชากัญชาด้วยถ้อยคำว่า “Sing about love /
ความเจ็บปวดและความโศกเศร้าเป็นสิ่งที่กระทบกับจิตใจเรา คงไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับมัน แต่สัจธรรมคือเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันไปไหนได้เพราะความทุกข์ย่อมมาคู่กับความสุขเสมอ แต่การสะสมความเจ็บปวดไว้ในตัวเรามากเกินไปสุดท้ายมันจะส่งผลกระทบไปสู่อาการอันไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เช่น ความเครียด, นอนไม่หลับ, วิตกกังวล อาจจะเป็นต้นตอของการเกิดสภาวะซึมเศร้าได้เช่นกัน ทุกคนต้องเจอกับความเจ็บปวด สิ่งที่แตกต่างคือการรับมือกับมันของแต่ละคน หากเราพยายามจะหนีจากมัน ความเจ็บปวดจะยิ่งติดอยู่ในความทรงจำ เราจะไม่มีทางลืมหรือสลัดมันหลุดไปได้ แต่หากเราเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมัน ร้องไห้ออกมา แล้วหาทางแก้ปัญหาไม่ให้เราต้องเจ็บปวดจากสาเหตุเดิม ๆ อีก เราจะเอาชนะและก้าวข้ามความเจ็บปวดนั้นไปได้อย่างถาวร เหมือนกับตอนเราเป็นเด็ก เราวิ่งหกล้มเป็นแผล เรารู้สึกเจ็บ แม้ผู้ใหญ่จะมาปลอบเราด้วยการบอกว่า ไม่เจ็บหรอกนะ เดี๋ยวก็หาย แต่เราก็รู้ดีว่ามันเจ็บ การพยายามหลอกความรู้สึกจึงเป็นเรื่องที่ไรประโยชน์ เราควรรีบไปล้างแผล ปฐมพยาบาล และพยายามไม่หกล้มแบบเดิมอีก การหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ไม่เจ็บ หรือการหาทางออกเช่นการดื่มเหล้า เล่นยา เพื่อให้ลืมความเจ็บปวดนั้นไป มีแต่จะยิ่งสร้างบาดแผลให้ตัวเองเจ็บปวดมากขึ้น ส่งผลให้เกิดผลกระทบในระยะยามตามมา ดังนั้นการเผชิญหน้าเพื่อรับมือและแปรเปลี่ยนความเจ็บปวดนั้นให้เป็นส่ิงที่มีประโยชน์ต่อตัวเราเองกันดีกว่า แปรรูปความเจ็บปวดด้วยงานศิลปะ หนึ่งในอาชีพที่สามารถเปลี่ยนความเจ็บปวดให้กลายเป็นงานศิลปะได้ดีที่สุดก็คือ “ศิลปิน” ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี, นักแต่งเพลง, นัดวาดภาพ, นักเขียนหนังสือบทกวี หรือแม้กระทั่งนักเขียนนวนิยาย พวกเขาสามารถแปรเปลี่ยนห้วงอารมณ์อันมืดมนจนกลายเป็นผลงานที่ช่วยบรรเทาจิตใจ ต่อยอดจนเกิดเป็นการสร้างรายได้ในที่สุด เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่พูดกันลอย ๆ เพราะจากบทสัมภาษณ์ในหลาย ๆ
Sriracha Sauce อีกหนึ่งบทเรียนของคนไทยในเรื่องการจดสิทธิบัตร
เมื่อปี 2016 พวกเราเคยพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Bomb At Track วงแร็ป ร็อก/เมทัล สุดร้อนแรงที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทยอย่างตรงไปตรงมาแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม จนทำให้พวกเขากลายเป็นวงที่ถูกพูดถึงและเข้าไปยึดพื้นที่ความชื่นชอบของบรรดาคนรุ่นใหม่ที่นิยมเสพเพลงนอกกระแส เวลาผ่านไป 6 ปี ทุกสิ่งทุกอย่างในวง Bomb At Track ก็ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปทีละนิดตามวัยและวุฒิภาวะที่เติบโตขึ้น ในวันนี้สมาชิกทั้ง 5 ได้แก่ เต้ (ร้องนำ), เมษ (กีตาร์), ปุ้ย (กีตาร์), ข้น (เบส) และนิล (กลอง) อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลและศิลปากร ได้พาดนตรีของพวกเขาข้ามไปอีกขั้นด้วยการก้าวเข้ามาสู่สังกัดใหญ่อย่าง Genie records ภายใต้เครือ GMM Grammy และล่าสุดพวกเขาเพิ่งจะส่งอัลบั้มใหม่ลำดับที่ 2 “Bomb The System” ออกมาให้แฟน ๆ ได้เสพกันเป็นที่เรียบร้อย แต่ในระหว่างทางพวกเขาได้ระเบิดระบบความคิดไปในทิศทางใดกันบ้าง คำตอบมีรอทุกคนอยู่แล้วครับ “อำนาจเจริญ” ความหมาย ณ ที่นี้ไม่ใช่จังหวัดในภาคอีสาน แต่มันคือซิงเกิลแรกของวง
นาทีนี้คงไม่มีผู้ชายไทยคนไหนเนื้อหอมไปกว่า เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอีกแล้ว เนื่องจากจำนวน ส.ส. ประมาณ 50 ที่นั่ง (อย่างไม่เป็นทางการ) ที่พรรคภูมิใจไทยมีอยู่ในมือถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะตัดสินอนาคตประเทศไทยว่าจะไปในทิศทางไหน แต่ไม่ว่าเสี่ยหนูจะเลือกฝ่ายไหน ก็ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าเขาและพรรคภูมิใจไทยจะได้จัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นนโยบาย ‘กัญชาเสรี ปลูกได้บ้านละ 6 ต้น’ ที่ทุกคนรอคอยก็ใกล้ความจริงเข้าไปอีกขั้นแล้ว ว่าแต่กัญชามันปลูกยังไงล่ะ? เนื่องจากที่ผ่านมาในประเทศไทยกัญชาจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 มาโดยตลอด ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรชนิดนี้จึงไม่แพร่หลายนัก แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่หนุ่ม ๆ สายเขียวจะกลายเป็นเกษตรกรไปด้วยกัน เลือกเมล็ดพันธุ์ สำหรับนักปลูกหน้าใหม่ชาวไทย การเลือกเมล็ดพันธุ์คือสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากสภาพอากาศบ้านเราแตกต่างจากประเทศฝั่งตะวันตกที่ปลูกกัญชากันอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ไม่เข้ากับสภาพอากาศมา ความพยายามในขั้นตอนต่อไปก็อาจจะสูญเปล่า สิ่งต่อมาที่ต้องพิจารณาคือความเหมาะสมของเมล็ดพันธุ์กับสถานที่ปลูก เพราะบางสายพันธุ์เติบโตได้ดีในที่ปิด บางสายพันธุ์เติบโตได้ดีในที่โล่ง นอกจากนั้นก็แล้วแต่รสนิยมของคุณแล้วว่าชอบการออกฤทธิ์ของสายพันธุ์ไหนและสายพันธุ์ไหนเข้ากับคุณที่สุด สภาพแวดล้อมพื้นฐาน น้ำ: เช่นเดียวกับพืชชนิดอื่น กัญชาต้องการน้ำเพื่อการเจริญเติบโต ในกรณีที่ปลูกกลางแจ้ง ถ้าพื้นที่ที่คุณปลูกมีปริมาณน้ำฝนเพียงพอ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องน้ำ แต่ถ้าปลูกในปริมาณมาก คุณก็จำเป็นต้องหาน้ำจากแหล่งอื่นมาเสริม น้ำคือสื่อที่นำพาสารอาหารล่อเลี้ยงต้นกัญชา นอกจากนั้นยังถูกใช้เพื่อล้างระบบไฮโดรโพนิก ค่า pH ของน้ำมีความสำคัญมาก เครื่องวัดค่า pH จึงเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ปลูกกัญชา อุณหภูมิ: กัญชาเป็นพืชที่แข็งแรงมาก