Lacasa de Papel หรือ Money Heist ซีรีส์ชื่อดังใน Netflix ประกาศออกมาแล้วว่าจะมี Season 3 ออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกันแน่นอนในปี 2019 นั่นหมายความว่าศาสตราจารย์และเหล่าลูกทีมอาจยังไม่หยุดตำนานการปล้นไว้แค่นั้น แต่จะปล้นที่ไหน เนื้อเรื่องจะเป็นยังไง ยังไม่มีการเปิดเผย การปล้นโรงกษาปณ์สเปนอาจจะเป็นการปล้นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่นั่นคือเรื่องราวในซีรีส์ แต่วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปรู้จักกับ ‘การปล้นเพชรที่ Antwerp’ การปล้นเพชรครั้งที่อหังการที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งเกิดขึ้นจริงเมื่อปี 2003 Leonardo Notarbartolo and School of Turin เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนไปเมื่อปี 2001 ที่เมือง Antwerp ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีของทวีปยุโรป ชายวัยกลางคนนามว่า Leonardo Notarbartolo สัญชาติอิตาลีได้เดินทางเข้ามาในเมือง เบื้องหน้าเขาคือนักออกแบบเครื่องประดับ แต่เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้ เขาคือสมาชิกของ School of Turin กลุ่มโจรมืออาชีพซึ่งตระเวนปล้นมาแล้วทั่วยุโรป สร้างวีรกรรมแสบสันไว้มากมาย แน่นอนว่าการมาเยือน Antwerp ในคราวนี้ Leonardo
สไตล์การทำงานของผู้ชายอย่างเราที่ไม่ว่าจะกินข้าว จะพักผ่อนหรือจะเวลาอะไรก็ต้องควักดีไวซ์ส่วนตัวออกมาตรวจงานกันรัว ๆ รวมถึงการดูซีรีส์ผ่าน Netflix ช่วงวันหยุด หรือแม้แต่ไถจออัปเดตข่าวแบบยาว ๆ ทำให้แท็บเล็ตคืออีกหนึ่งตัวแทนแห่งวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ทำงานก็ต้องสุด เล่นก็ต้องสุด เพราะดูเหมือนสมาร์ตโฟนจะเล็กเกินไปไม่ตอบโจทย์ ส่วนคอมพิวเตอร์พกพาก็ใหญ่และดูจริงจังเกินไปในบางโอกาส และถ้าต้องพูดถึงแท็บเล็ตคู่วิญญาณลูกผู้ชายในช่วงเวลานี้คงหนีไม่พ้น Apple iPad ที่มาครบทั้งความแข็งแรง พกพาสะดวก และประสิทธิภาพ ที่เต็มเปี่ยม ยิ่งใครเป็นสาวกแบรนด์นี้อยู่แล้วยิ่งตัดใจจากไปไม่ลง แต่ปัญหามันดันเริ่มงอกขึ้นมาเมื่อคุณเดินเข้าไปในช็อปของ Apple แล้ว เพราะจะเกิดความสับสนเล็กน้อยว่าจะเลือก iPad เครื่องไหน รุ่นไหนดี เพราะมีให้เลือกละลานตาเต็มไปหมด แถมถ้าเข้าไปในเว็ปไซต์เพื่อหาซื้อล่ะก็อาจจะยิ่งปวดหัวไปกันใหญ่เพราะมีทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ปะปนกัน แล้วเราจะเลือกรุ่นไหนดีเพื่อให้เหมาะกับสไตล์ (และเงินในกระเป๋าเรา) ดีวะ ? ผู้ชายที่เน้นความคุ้มค่าทุกเม็ด: Apple iPad 9.7” (2018) เพราะคุ้มค่าที่สุดในตอนนี้ คงปฎิเสธไม่ได้ว่า iPad 2018 รุ่นใหม่ (ที่ใคร ๆ ก็กำลังพูดถึงอย่างฮือฮา) นี้นับเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด (โคตรคุ้มค่าเลยก็ว่าได้) ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน แต่ต่อมความอยากมันทำงานทำให้อยากจะมี iPad ไว้ใช้คู่ใจสักเครื่องในตอนนี้ UNLOCKMEN ก็บอกเลยว่าเริ่มที่ iPad
เพิ่งปล่อย Trailer ออกมาสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับ Bohemian Rhapsody ภาพยนตร์อัตชีวประวัติวง Queen ซึ่งมีเตรียมเข้าฉายปลายปีนี้ เรียกได้ว่าถ้าใครเป็นสาวกวงดนตรีวงนี้ต้องมีกระโดดโลดเต้นกันบ้าง เพราะนอกจากนักแสดงที่แคสติ้งมาได้เหมือนราวกับแกะแล้ว ยังใส่เพลงฮิตของวงมาแบบจัดเต็มอีกด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่รู้จักวง Queen หรือรู้จักแบบผ่าน ๆ วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปรู้จักพร้อมกัน เพื่อให้รู้ว่าทำไมวงนี้ถึงกลายเป็นตำนาน และเป็นการอุ่นเครื่องก่อนจะไปดู Bohemian Rhapsody ไปในตัว เด็กหนุ่มจากลอนดอน ย้อนกลับไปเมื่อปี 1968 Brian May นักศึกษาจาก London’s Imperial College และเพื่อนอีก 2 คนอย่าง Tim Staffell และ Roger Taylor ได้ฟอร์มวงดนตรีชื่อว่า Smile ขึ้นมาเพื่อที่จะเล่นตามคลับบาร์ในกรุงลอนดอน จากนั้นไม่นาน โชคชะตาลิขิตให้พวกเขาเจอกับ Farrokh Bulsara หรือชื่ออังกฤษว่า Freddie นักศึกษาเชื้อสายเปอร์เซียจาก Ealing
ในวงการเกมตอนนี้คงไม่มีเกมไหนโด่งดังไปกว่า PUBG หรือ Playerunknown’s Battlegrounds เกมน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่มาแรงถึงขนาดสามารถล้มเกมยอดนิยมตลอดกาลอย่าง DOTA 2 ซึ่งครองแชมป์มายาวนาน โดยวัดจากยอดคนดู Live Streaming แล้วทำไมเกมที่เพิ่งเปิดตัว แถมยังสร้างไม่เสร็จดีด้วยซ้ำ (อยู่ในช่วง Early Access) ถึงสามารถเอาชนะเกมที่ครองแชมป์ความนิยมทั่วโลกมาเป็น 10 ปีได้ ? วันนี้ UNLOCKMEN จะพาเจาะลึกไปด้วยกัน Battle Royale ที่ห่างหายไปนาน ในตลาดเกมที่เกลื่อนกลาดไปด้วยเกม MOBA หรือ FPS แต่ PUBG เปิดตัวด้วยคอนเซ็ปต์ Survival Battle Royale ซึ่งแตกต่างกับเกมอื่นพอสมควร เพราะมันคือการรวมกันของเกมแนว Shooting และ Battle Royale ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แค่เกมยิงสู้กันธรรมดา แต่ว่ามันคือเกมเอาตัวรอด คุณสามารถเอาตัวรอดได้โดยไม่ต้องยิงปืนเลยสักนัดก็ได้ ถึงแม้ว่าในอดีตจะพอมีเกมแนวนี้อยู่บ้าง แต่มันก็ห่างหายจากตลาดไปนานพอสมควร ดังนั้นเมื่อ PUBG เปิดตัวจึงได้รับความนิยมทันที ความอิ่มตัวของ MOBA ในช่วง
มีสุภาษิตหนึ่งกล่าวว่า “ลางเนื้อชอบลางยา” แต่ไม่ว่าจะเนื้อหรือยา ถ้าอยากรู้ว่าชอบหรือไม่ชอบก็ต้องลองใช้ก่อน ดังนั้น เวลามีอะไรอัปเดตใหม่ อาการคัน อาการกระหายจะลองอะไรใหม่ ๆ ของลูกผู้ชายอย่างเรา ๆ เลยกำเริบทุกที ยิ่งถ้าเป็นเรื่อง Tech และไลฟ์สไตล์แล้วล่ะก็ เหล่า urban guys ทุกคนย่อมไม่อยากพลาดแน่ ๆ ดังนั้น หลังจากผ่านการประชุม Google I/O 2018 ที่เพิ่งประกาศไปไม่นาน ทีมงาน UNLOCKMEN จึงเฝ้าเกาะขอบความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นใน Google ประเทศไทย มาฝากกัน จากการเข้าฟังงานเปิดตัว Google Assistant เวอร์ชันภาษาไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ที่คุณนิ้ง – ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย หัวหน้าฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคได้ออกมาให้คำแนะนำพร้อมแสดงตัวอย่างการใช้งาน ทีมงานได้สรุปออกมาเป็น 11 เรื่องลับ จากคำถามที่คนส่วนใหญ่อยากรู้เกี่ยวกับฟีเจอร์นี้มาฝาก พวกเราจะได้ลองดูก่อนว่าอยากจะมีไว้ในเครื่องเพื่อใช้งานจริงในปลายสัปดาห์หน้ากันหรือเปล่า 1. ใครคือคนโชคดีที่ได้ใช้คนแรก เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะอยากรู้ว่าก่อนจะ Launch ให้คนทั้งประเทศใช้งาน Demo ทั้งหลายจากฟีเจอร์ของ Google Assistant เวอร์ชันไทยวันนี้
“ถ้ากูบินได้เนี่ย กูบินไปหาแล้ว!” เชื่อว่าประโยคนี้พวกเราชาว UNLOCKMEN คงเคยตอบใครสักคนระหว่างการเดินทางที่เราต้องติดแหง็กบนท้องถนน หรือใช้เป็นข้ออ้างถ่วงเวลาให้คนฟังเห็นใจเพื่อจะได้ไปถึงเลทขึ้นอีกนิด แต่ถ้าเราอยู่ในปี 2566 แถวนิวยอร์ก ก่อนจะพูดประโยคนี้ให้ปลายสายฟังเราอาจจะต้องคิดใหม่ให้รอบคอบ เพราะเรื่องบินไปหาเนี่ย มันอาจจะทำได้จริง! แต่ไม่ใช่เพราะเรามีพลังพิเศษอะไรนะ ทว่าเป็นพลังจากปลายนิ้วที่ไว้กดเรียก UBERAIR ต่างหาก ! ดูคลิปด้านบนแล้วเห็นได้ชัดเลยว่าเจ้า Flying Taxi การใช้งานมันง่าย น่าใช้ แถมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของหนุ่ม urban ทุกคนที่มีสัญญาณไฟแดงเป็นไม้เบื่อไม้เมาทุกช่วง prime time โดย UBER เข้าใจปัญหานี้เป็นอย่างดีจึงได้ร่วมมือกันคิดค้นวิธีการกับ NASA เพื่อสร้างนวัตกรรมการจราจรไร้คนขับไว้แก้ปัญหาผังเมืองไม่ดี โครงข่ายจราจรที่ติดขัดยุ่งเหยิง และปัญหาจากความเครียดบนท้องถนนได้ Flying Taxi เป็นโมเดลใหม่ของ UBER ที่เรียกว่า UBERAIR โดยออกแบบตัวเครื่องบินให้ทำงานด้วยการใช้ระบบไฟฟ้าทั้งหมด ด้านในประกอบด้วยที่นั่งจำนวน 4 ที่นั่งต่อเครื่องรวมคนขับ มีหน้าต่างบานใหญ่รอบลำให้เห็นบรรยากาศด้านนอกชัดเจนน่านั่ง แม้ตัวลำอาจจะดูจิ๋วนั่งได้ 4 คน แต่ใช้เทคโนโลยีไฮบริดในการควบคุมให้บินแบบแหล่ม ๆ ด้วยความเร็วระหว่าง 150 – 200 ไมล์ต่อชั่วโมงบนระดับความสูงเหนือพื้นดินที่ 1,000
หลังจากต้นปีที่ชาวพืชได้ต้อนรับปีหมากันสมชื่อจากสถานการณ์ข่าวเคาะกะลาให้หมาดีใจว่าไทยแลนด์เราจะกลายเป็นแดนกัญชาเสรีแต่สุดท้ายก็โดนเบรกหัวทิ่มจาก อย. ว่า NO NO นายกำลังเข้าใจผิด เราให้สิทธิปลูกกัญชงต่างหากจนเหล่าสายเขียวหลายคนเลยต้องปาดน้ำตาไปด้วยความเสียดาย แต่เรื่องน้ีก็ไม่ได้ทำให้ทีมงาน UNLOCKMEN ท้อแท้หยุดอัปเดตข่าวคราววงการสายเขียวสุดครึกครื้นนอกบ้าน โดยเฉพาะกับเรื่องธุรกิจกัญชาที่กำลังหอมหวลได้ที่จนใครก็อยากขอมีเอี่ยวแบ่งเค้กสีเขียวชิ้นนี้กันถ้วนหน้า เพื่อให้กระจ่างว่าทำไมกัญชาถึงกลายเป็นวาระแห่งชาติของยอดชายสายธุรกิจในสหรัฐอเมริกา เราลองมาดู 7 เหตุผลที่ Marijuana Business Factbook เขาสรุปไว้พร้อมกัน 1. ปี 2561 นี้กัญชาเสรีในสหรัฐฯ เติบโตขึ้นอีก 50% ท่ามกลางสีแดงเถือกของพอร์ตหลายตัวบนกระดาน มนต์แห่งกัญชายังคงขลังวิ่งพอร์ตได้เขียวอยู่ ทั้งนี้เพราะใน Marijuana Business Factbook ได้ระบุตัวเลขคาดการณ์สถิติการเติบโตไว้ว่ามูลค่าการเติบโตทางธุรกิจสูงขึ้นอีกที่ราว 42 % ต่อปี ใครที่สงสัยว่าทำไมกล้าจิ้มบอกเลขการเติบโตไว้สูงขนาดนี้ เขาได้อ้างอิงเหตุผลจากปรากฏการณ์ขายกัญชาเพื่อสันทนาการใน 3 รัฐ ได้แก่ รัฐ California ที่เปิดประตูด้านกฎหมายอย่างร้อนแรงและน่าจะขายได้อย่างน้อยที่สุด 500 ล้านดอลลาร์ปีนี้ ประกอบกับรัฐ Massachusetts ที่เพิ่งเสรีเปิดขายเพื่อสันทนาการในปีนี้ และรัฐ Nevada ที่เปิดการขายกัญชาเพื่อสันทนาการในกรกฎาคม ปี 2560 ที่ผ่านมา เทียบได้กับคลื่นลูกใหม่ที่จะพาให้วงการการลงทุนคึกคักแบบฉุดไม่อยู่
จากกระแสรายการ Show Me the Money และ The Rapper นับว่าเป็นการปลุกกระแสให้วงการเพลงฮิปฮอปลุกขึ้นมาคึกคักอย่างมาในบ้านเรา ซึ่ง UNLOCKMEN เคยเขียนเล่าถึงวัฒนธรรมฮิปฮอปไปอย่างละเอียดแล้วในคอนเทนท์ ( Part 1, Part 2 ) แต่วันนี้พวกเราจะขอมาแนะนำศิลปินสไตล์ ฮิปฮอป/อาร์แอนด์บี เชื้อสายเกาหลีใต้ที่กำลังก้าวสู่ผลงานระดับโลกด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น Dean หรือ ควอนฮยอก ศิลปินที่เกิดและเติบโตในประเทศเกาหลีใต้ เขาฉายแววเก่งมาตั้งแต่งอายุ 16 เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว จนกระทั่งได้มาร่วมงานกับศิลปินรุ่นพี่อย่าง Keith Ape ก่อนจะเข้าสู่วงการเพลงอย่างเต็มตัว พร้อมควบตำแหน่งนักแต่งเพลงเมื่ออายุ 18 ปี ฝีมือของเขารุดหน้าไปไกลกว่าอายุ เพราะหลังจากนั้นไม่นานแทนที่เขาจะเดบิวท์เพลงในบ้านเกิด แต่ Dean กลับไปเปิดตัวต่อหน้าแฟนเพลงในประเทศสหรัฐอเมริกาแทน ก่อนที่เขาจะกลับมาลุยงานเดบิวท์ พร้อมปล่อยสองซิงเกิ้ลที่ฮิตติดชาร์ทในประเทศตัวเอง จุดเด่นของ Dean คือเนื้อหาเพลงที่เขียนมาได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมน้ำเสียงอ่านหวานบวกกับดนตรีโรแมนติก ด้วยเอกลักษณ์ความสามารถเหล่านี้ จึงทำให้เขาโด่งดังในชั่วพริบตา ได้ขึ้นไปเล่นงานสำคัญ ๆ มากมาย ปัจจุบันเขาได้มีโอกาสทำเพลงกับศิลปินระดับโลกอาทิ Justin Bieber,
ศิลปะอย่างการ Painting บนวัสดุต่าง ๆ อย่างผืนผ้าใบ หรือกระดาษ คงจะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาเป็นอย่างดี แต่กับบนวัสดุที่มีชีวิตอย่างผิวหนังของคนอย่างการสัก (Tattoo) หลายคนกลับนึกถึงภาพของความก้าวร้าว รุนแรง มากกว่าการเป็นศิลปะในอีกรูปแบบหนึ่ง แม้จะผ่านมาจนถึงศตวรรษที่ 21 ก็ยังมีบางอาชีพที่ไม่สามารถมีรอยสักได้เนื่องจากต้องอาศัยภาพลักษณ์ในการประกอบอาชีพ แม้จะเป็นบนร่างกายของเขาเองก็ตาม มันก็ยังสะท้อนอะไรบางอย่างถึงทัศนคติที่มีต่อคนที่มีรอยสัก UNLOCKMEN จะพามาทำความรู้จักกับร้านสักที่รวมลายเส้น 5 สไตล์ภายใต้ชื่อ Lone Wolf Studio และพร้อมพูดคุยกับช่างสัก เจ้าของลายเส้นที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง หลายคนอาจคิดว่าช่างสักจะต้องมาพร้อมความเฮ้ว ความแสบ แต่ลองมารู้จักพวกเขาพร้อม ๆ กับเรา แล้วจะรู้ว่าพวกเขามาพร้อมมุมมองดี ๆ ที่แฝงอยู่ในภาพลักษณ์สุดเฮี้ยวของเขา มาเริ่มกันที่ผู้ก่อตั้งร้านสัก Lone Wolf Studio อย่างพี่ต้น จริง ๆ ร้านนี้เปิดมากว่า 3 ปีแล้ว ในตอนแรกพี่ต้นเปิดร้านเองคนเดียวในชื่อ “สักกะหมา” และเนื่องจากเหตุผลของทำเลที่ตั้ง พี่ต้นเลยตัดสินใจขยับขยายมาอยู่ที่ปัจจุบัน ซึ่งเดินทางสะดวกกว่ากันมาก สามารถเดินทางโดย BTS มาลงที่สถานีปุณณวิถี เดินเข้าซอยสุขุมวิท 101 มาได้แบบชิล ๆ ส่วนชื่อ
สำหรับบทสรุปของจักรวาล Marvel เฟส 3 ที่ถูกปูเรื่องมากว่า 10 ปี ซึ่งเป็นการรวมเหล่าฮีโร่เกือบทั้ง MCU มาไว้ในเรื่องเดียวอย่าง Avengers : Infinity Wars เตรียมทุบสถิติฟันรายได้เกือบสองพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ยังคงสร้างสถิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก แถมไม่มีท่าจะหมดลงง่าย ๆ ด้วย โดยในส่วนของเนื้อหาภาพยนตร์เรื่องนี้ UNLOCKMEN จะไม่ขอพูดถึง เพราะเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะไปรับชมกันมาแล้วในโรงภาพยนตร์ แต่วันนี้เราอยากจะลองมาชำแหละสไตล์ casual ของฮีโร่จากจอเงินว่าพวกเขามีสไตล์อะไรที่หนุ่ม ๆ สามารถนำมาพลิกแพลงได้ในชีวิตประจำวัน Tony Stark = Billionaire Playboy สำหรับคอสตูมของ Tony Stark ต้องบอกว่าแน่นและเต็มมาก เนื่องจากเป็นมหาเศรษฐีแถมด้วยลุคเพลย์บอยทำให้ต้องใส่ใจกับการแต่งตัวมากเป็นพิเศษ ไล่มาตั้งแต่แว่นตากันแดดยี่ห้อดังจากอิตาลีอย่าง Police รุ่น S1984 ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ขาแว่นแบบ Two-Tone โดยเขาสวมใส่อยู่ภาพยนตร์ Captain America : Civil War เพื่อลุคให้ดู