คนที่ติดตามข่าวสารวงการเกม หรือ เปิดโซเชียลมีเดียอยู่บ่อย ๆ คงเคยได้ยินชื่อของ HIDEO KOJIMA (ฮิเดโอะ โคจิม่า) นักออกแบบเกมชาวญี่ปุ่น เจ้าของผลงานเกมแอคชั่นโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง ‘Metal Gear Solid’ และ ‘Death Stranding’ รู้ไหมว่าเส้นทางการเป็นนักพัฒนาเกมที่มีชื่อเสียงเหมือนทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เขาได้ผ่านการถูกปฏิเสธ และการถูกห้ามปรามมาหลายครั้งหลายครา หากเขาไม่มีแพสชั่นอันแรงกล้าในการสร้างเกม เราคงไม่มีวันได้เห็นเกมที่เราคุ้นเคยกัน บทความนี้ UNLOCKMEN อยากพาทุกคนไปทำความรู้จัก ฮิเดโอะ โคจิม่า ให้มากขึ้น ผ่านเรื่องราวชีวิตของเขาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ฮิเดโอะ โคจิม่า ลืมตาดูโลกครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปี 1963 ที่แขวงเซตางายะ ของกรุงโตเกียว แต่ใช้ชีวิตวัยเด็กที่เมืองโอซาก้าตั้งแต่ 4 ขวบ ครอบครัวของเขามีกิจกรรมประจำบ้าน คือ การรวมตัวดูหนังทุกคืน และไม่อนุญาตให้เข้านอนถ้าหนังยังไม่จบ ผลงานของฮิเดโอะ จึงได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์มากพอสมควร เช่น ซีรีส์เกม Metal Gear Solid ที่เขาเปิดเผยว่าได้รับอิทธิพลอย่างมากจากหนังหลายเรื่อง
ในห้วงเวลาแห่งยุคสมัยที่โรคระบาดกำลังกัดกินทั้งจิตใจและร่างกาย อาชีพหมอคือทัพหน้าที่ช่วยทั้งช่วยรักษา และยื้อชีวิตจากวิกฤตโควิดที่คืบคลานคนไทยที่ในตอนนี้เผชิญหน้าทั้งอาการป่วยใหม่ระดับหมื่นต่อวัน และเสียชีวิตพุ่งไปเป็นหลักร้อย โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยแม้แต่น้อย ในระหว่างที่ประชาชนต่างตั้งคำถามถึงการบริหารงานของทั้งรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของการจัดสรรวัคซีน และเกมการเมืองที่นับวันจะร้อนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากที่เราพบเจอในทุกวันไม่ว่าจะเป็นการได้เห็นคนรักที่พลัดพลากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ คนไข้นอนลมหายใจรวยรินในบ้านอย่างไร้ความหวัง บางที่ก็เผชิญปัญหาเตียงเต็ม และการเห็นคนตายข้างถนนอย่างที่เราไม่คิดว่าจะได้เจอนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาชีพหมอในตอนนี้ที่เป็นคนกุมชะตาคนไข้ในตอนนี้มีทั้งหมอที่เสียสละ และหมอที่สังคมกำลังตั้งคำถามถึงจรรยาบรรณ UNLOCKMEN จึงอยากกระตุ้นและส่งกำลังใจผ่านคาแรคเตอร์หมอในมังงะเรื่องดัง ที่เชื่อมั่นว่าหมอหลาย ๆ ท่านอาจจะเคยผ่านตา บางเรื่องก็เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเป็นหมอจากการ์ตูนเหล่านี้ ที่พวกเขาล้วนเป็นฮีโร่ต้นแบบของหมอในชีวิตจริงของใครหลาย ๆ คน มาดูกันว่าจะมีใครที่ตรงใจกันบ้าง Black Jack หมอปีศาจ เริ่มต้นด้วยมังงะดราม่าในตำนานของปรมาจารณ์แห่งโลกมังงะ Osamu Tezuka ที่นำประสบการณ์ของตนสมัยที่ยังเป็นหมอ มาดัดแปลงเป็นเรื่องราวของหมอเถื่อนที่ประสบอุบัติเหตุในวัยเด็กเกือบตาย แต่เขาได้รับการผ่าตัดยื้อชีวิตและทำศัลยกรรมใบหน้าและร่างกาย เขาจึงต้องการตอบแทนด้วยการเป็นหมอขบถที่หันหลังให้กับวงการแพทย์ด้วยการปฏิเสธใบอนุญาติประกอบโรคศิลป์ เป็นหมอใต้ดินยอดฝีมือรักษาคนรวยด้วยการขูดรีดเงินจำนวนมหาศาลเพื่อตั้งคำถามกับระบบทุนนิยม แต่ในความเย็นชาภายใต้ใบหน้าปุปะจากบาดแผลในอดีตนั้น เขากลับเป็นหมอที่มีความเป็นมนุษย์มากที่สุดอย่างเหลือเชื่อ มังงะ Black Jack เป็นการทวงถามถึงจรรยาบรรณทางการแพทย์ภายใต้สถานการณ์อันบีบคั้นอารมณ์ นับเป็นมังงะคลาสสิคที่ Osamu บรรจงเขียนเพื่อเชิดชูหมอขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามถึงสังคมที่มักเชิดชูอาชีพนี้แต่เบื้องหลังนั้นกลับเต็มไปด้วยความฟอนเฟะและความดำมืดได้อย่างทรงพลัง Black Jack ได้รับการยอมรับในฐานะมังงะอมตะที่ถูกนำมารีเมคโดยนักเขียนหลายยุคหลากสมัย เป็นหนึ่งในตัวละครขบถที่ครองความเป็นอมตะจวบจนถึงทุกวันนี้ Super Doctor K อีกหนึ่งการ์ตูนหมออมตะ ที่ปัจจุบันก็ยังคงตีพิมพ์มาอย่างต่อเนื่อง Super
“เลือกชีวิต. เลือกงาน. เลือกอาชีพ. เลือกครอบครัว. เลือกทีวีจอใหญ่สัส ๆ. เลือกเครื่องซักผ้า, รถยนต์ เครื่องเล่นซีดี และ ที่เปิดกระป๋องไฟฟ้า. เลือกสุขภาพสุดเริ่ด โลว์คอเลสเตอรอล และประกันการทำฟัน. เลือกผ่อนชำระดอกเบี้ยคงที่. เลือกบ้าน. เลือกเพื่อนของคุณ. เลือกชุดลำลองและกระเป๋าเดินทางที่เข้าชุดกัน. เลือกชุดสูทสามชิ้นแบบเช่าซื้อจากผ้าหลากประเภท. เลือก DIY และสงสัยว่าคุณเป็นใครในเช้าวันอาทิตย์. เลือกนั่งโง่ ๆ บนโซฟา ดูเกมโชว์ที่ทำให้มึน ๆ ยัดอาหารขยะเข้าปากของคุณ. เลือกที่จะเน่าเปื่อยในวาระสุดท้ายของชีวิต นอนจมกองฉี่ในบ้านอย่างน่าสังเวช ไม่มีอะไรมากไปกว่าความอับอายต่อเด็กเหลือขอที่เห็นแก่ตัวและขี้ระแวงที่เกิดมาเพื่อแทนที่คุณ. เลือกอนาคตของคุณ” ประโยคเริ่มต้นที่ Mark Renton พระเอกของเรื่องพูดกับคนดูในหนัง Trainspotting กลับกลายเป็นวรรคทองอมตะ ที่สะท้อนทั้งตัวหนัง / ยุคสมัย และบ่งบอกถึงความเป็นวัยรุ่น ที่กาลเวลาได้พัดพาหนังเรื่องนี้เข้าสู่วัยเบญจเพส หรือ 25 ปีมาแล้ว UNLOCKMEN ขอย้อนเวลาพาคุณกลับไปสู่ห้วงเวลาแห่งอิสระเสรี กับหนังอังกฤษ ที่เกี่ยวกับคนติดยาแต่สะท้อนวัฒนธรรม Pop Culture ได้ถึงแก่นและยอดเยี่ยมจวบจนปัจจุบัน เลือกที่จะใช้ชีวิต ก่อนหมดเวลาจะใช้มัน
COVID-19 ได้อยู่สร้างปัญหาให้เรามานานหลายปี และช่วงนี้ดูจะเป็นช่วงพีคของมัน การแพร่ระบาดที่รวดเร็วของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ทำให้ผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นจำนวนมากถึงวันละหมื่นกว่าราย จนโรงพยาบาลหลายแห่งต่างประสบปัญหาขาดเตียงรองรับผู้ป่วยรายใหม่ UNLOCKMEN เลยอยากมาแชร์ข้อมูลที่ทุกคนควรรู้เพื่อรับมือกับ COVID-19 ได้ดีกว่าเดิม อาการของผู้ป่วย COVID-19 COVID-19 เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัสตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Sar-CoV2 ซึ่งเป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบเมื่อช่วงปลายปี 2019 โดยไวรัสตัวนี้จะส่งผลต่อผู้ที่ติดเชื้อแตกต่างกันไปบางคนมีอาการหนัก บางคนมีอาการเบา หรือ ปานกลาง ส่วนใหญ่จะแสดงอาการป่วยใน 5 – 6 วัน และสำหรับบางคนอาจใช้เวลาถึง 14 วัน เราสามารถแบ่งอาการของผู้ป่วยได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มสีเขียว มีไข้ขึ้นสูงตั้งแต่ 37.5 องศาขึ้นไป ไอแห้ง เจ็บคอ อ่อนเพลีย ไม่ได้กลิ่นและไม่รับรู้รส ท้องเสีย กลุ่มสีเหลือง หายใจลำบาก แน่นหน้าอก อ่อนเพลียร่วมกับเวียนศีรษะ หน้ามืด ปอดอักเสบ กลุ่มสีแดง พูดหรือเคลื่อนไหวไม่ได้ แน่นหน้าอก หายใจแล้วเจ็บหน้าอก เฉื่อยชาตอบสนองช้า ถ้าคุณเป็นผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว คุณสามารถแยกกักตัวที่บ้าน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในฐานะนักร้อง-นักแต่งเพลง นักกีตาร์ และโปรดิวเซอร์เพลง John Mayer ถือเป็นนักดนตรีที่มีความสามารถอันหลากหลาย ที่มาพร้อมความสำเร็จไม่ว่าจะเรื่องรายได้หรือรางวัลมาหลายครั้ง บทเพลงของเขาตลอดชีวิตการทำงานนั้นมีหลากหลายจนยากที่จะจำกัดเขาเพียงแนวใดแนวหนึ่ง นอกจากการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งจากผู้ฟังแล้ว อัลบั้มของเขาได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิจารณ์อีกด้วย พร้อมทั้งรางวัลที่มากมายจนที่บ้านนั้นแทบไม่มีที่ไว้ แต่ท่ามกลางเสียงชื่นชมมากมายในด้านผลงาน ชีวิตอีกด้านของเขาก็เต็มไปด้วยสีสันและความแสบทรวงเช่นกัน เรามาดูกันว่าชีวิตรอบด้านหลายมิติของนาย John Mayer เป็นแบบไหน และทำไมหลายคนถึงเรียกเขาว่า Bad Boy แห่งวงการดนตรีป็อป ความหมกมุ่น นำพาสู่เส้นทางอัจฉริยะ John Mayer เป็นประชากรคอนเนตทิคัตโดยกำเนิด ชีวิตของเด็กน้อย John ในวัยเยาว์นั้นก็ไม่ได้ต่างกับเด็ก ๆ ทั่วไป ที่ซุกซนตามประสา จนกระทั่งเขาได้ดูหนังเรื่องหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล นั่นก็คือ Back to the Future หนังไซไฟ แฟนตาซีเรื่องดัง เปล่า…เขาไม่ได้อยากย้อนเวลาไปไหน แต่สิ่งที่โดนใจเขาอย่างจัง คือฉากที่ Michael J. Fox เล่นกีตาร์เพลง “Johnny B. Goode” ซึ่งฉากโซโล่อันแสนสะเด็ดสะเด่านั้น นำพาให้เขาอยากเป็นร็อคสตาร์ และยิ่งพ่อและแม่มักมีปากเสียงอยู่เสมอ
ในแต่ละวันหลายคนหมดเวลาไปกับการทำอะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น นอน ทำงาน และ สารพัดกิจกรรม จนบางทีมันก็ไม่เวลาเหลือให้เราได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริง ๆ UNLOCKMEN อยากมาแนะนำวิธีที่จะช่วยให้ทุกคนมีเวลาในชีวิตมากขึ้น เพียงแค่เปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันเล็กน้อยเท่านั้น เวลาในชีวิตก็สามารถเพิ่มขึ้นได้ วางแผน ถ้าเราใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวัน ๆ โดยไม่มีการวางแผน หรือ จัดการตารางชีวิต เราจะควบคุมเวลาชีวิตได้ยาก และสูญเสียเวลากับกิจกรรมที่ไม่สำคัญมากเกินความจำเป็น แม้การวางแผนจะดูดกลืนพลังงานของเรา แต่มันก็ช่วยให้เราควบคุมเวลาได้ดีขึ้น เวลาต้องการซื้อของ 7 อย่าง เราไม่จำเป็นต้องซื้อทุกอย่างที่ห้างสรรพสินค้าก็ได้ ในระหว่างทางไปห้าง อาจมีร้านสะดวกซื้อที่ขายของที่เราต้องการเหมือนกัน ถ้าเรารู้จักวางแผนการเดินทาง และสถานที่ซื้อสินค้า มันก็จะช่วยลดเวลาในการซื้อของลงได้ ค้นหาว่าเราเสียเวลาไปกับอะไรมากที่สุด บางคนอาจเสียเวลาไปกับการคิดเมนูอาหารกลางวัน บางคนอาจเสียเวลาไปกับการเลือกเสื้อผ้า ฯลฯ แต่ละคนเสียเวลาไปกับสิ่งที่แตกต่างกัน ถ้าทุกคนรู้ว่าแต่ละวันเราเสียเวลาไปกับอะไรบ้าง เราจะคิดวิธีรับมือกับมันได้มากขึ้น และมีเวลามากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเสียเวลาแต่ละวันไปกับการเลือกอาหาร เราก็ควรคิดเมนูอาหารล่วง เพื่อที่ครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเลือกเมนูอาหาร กำหนดเวลาในการคุย เวลาที่เราคุยไลน์ คุยโทรศัพท์ ถ้าเรากำหนดเวลาในการคุย เราจะใช้เวลาในการคุยน้อยลง และมีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น เพราะเวลาที่จำกัด ทำให้เราต้องรีบคุยเข้าประเด็น และไม่คุยนอกเรื่องจนเสียเวลา เหมือนตอนที่เราไม่กำหนดเวลาในการคุย ซึ่งบางครั้งทำให้เราเสียเวลาทำสิ่งอื่นไปเยอะเหมือนกัน เลิกกังวลได้แล้ว
อยู่บ้านนาน ๆ อย่าปล่อยให้เวลาเสียเปล่า มาใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ และเรียนรู้สกิลใหม่กันดีกว่า !! ในบทความนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำ 5 วิธีที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถจดจำและเรียนรู้สกิลใหม่ได้เร็วขึ้น และช่วยให้ทุกคนไม่ล้มเลิกการเรียนกลางคันด้วย ตั้งเป้าหมายในการเรียน ก่อนอื่นเลย สิ่งแรกที่เราควรทำตอนเรียกสกิลใหม่ คือ การตั้งเป้าหมายในการเรียน เพราะมันจะช่วยให้เรามีกำลังใจในการเรียนต่อไปได้นาน และไม่รู้สึกท้อในระหว่างการเรียนได้ง่ายเมื่อเจอกับอุปสรรค์ การหาเป้าหมายสามารถทำได้โดยการตั้งคำถามกับตัวเอง เช่น ทำไมเราถึงอยากเรียนสกิลนี้ไม่ใช่สกิลอื่น ? หรือ เมื่อเราเรียนสกิลนี้สำเร็จแล้วเราจะทำอะไรต่อไป ? เป็นต้น แบ่งย่อยเนื้อหาของสกิล เมื่อเรากำหนดเป้าหมายในการเรียนแล้ว สิ่งต่อไปที่เราควรทำ คือ การค้นคว้าหาข้อมูลว่าสกิลไหนที่เราอยากจะเรียนรู้เพิ่มเติม เมื่อเรามีข้อมูลเกี่ยวกับสกิลใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว ให้เราลองลิสต์องค์ประกอบของสกิลนั้นออกมาให้ได้มากที่สุด เช่น ถ้าเราอยากเรียนรู้ทักษะการพูดในที่สาธารณะ (public speaking) องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องก็จะมีตั้งแต่ ภาษากาย สีหน้าท่าทาง การนำเสนอ การใช้เสียง ฯลฯ การรู้เรื่องเหล่านี้จะช่วยให้เรามองเห็นทิศทางในการเรียนมากขึ้น และปวดหัวกับการเรียนน้อยลง สนใจทักษะย่อยที่สำคัญที่สุด หลักการของพาเรโต้ (Pareto’s principle) บอกว่า สิ่งที่สำคัญมีอยู่เป็นจำนวนน้อยกว่าสิ่งที่ไม่สำคัญ ความพยายาม 20% อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เราคาดหวัง
การออกมาส่งเสียงเรียกร้องความยุติธรรม และความถูกต้องมันเป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนควรมี โดยเฉพาะในดินแดนที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยด้วยแล้ว เสียงของคนส่วนใหญ่นั้นคือสิ่งสำคัญ และเมื่อมีอะไรไม่ถูกต้องหรือข้อสงสัย ผู้คนก็ควรที่จะออกมาส่งเสียงทักถึงประเด็นที่ควรแก้ไขนั้นได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เพศอะไร รวยหรือจน คนก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องความถูกต้องและการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น ศิลปินคนดังระดับโลกมากมายตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันที่สามารถส่งเสียงได้ดังกว่าและไกลกว่าคนทั่วไป เมื่อต้องการเรียกร้องความถูกต้อง เราจึงเห็นการออกมาเป็นกระบอกเสียง หรือที่เราเรียก ‘Call Out’ จากคนมีชื่อเสียงกันเป็นเรื่องปกติ แต่ในยุคปัจจุบัน เรากลับได้เห็นผู้มีอำนาจสั่งให้ศิลปิน สื่อ หรือเหล่าคนดังหุบปาก ห้ามออกมาวิจารณ์ และห้ามแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ที่กระเทือนภาพลักษณ์ของรัฐบาล รวมถึงห้ามเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็น่าตลกที่เวลาหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ทำโครงการช่วยสังคมเพียงนิดหน่อย กลับจ้างศิลปินเหล่านี้มาช่วยกันตะโกนโปรโมทกันปาว ๆ มันช่างย้อนแย้งซะจริง ๆ การ Call Out ในอดีตเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน ยกตัวอย่างเช่น การต่อต้านการเหยียดสีผิว ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ต่อต้านการเหยียดเพศ ต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ ต่อต้านสิ่งเหลื่อมล้ำต่าง ๆ ที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่เหล่าศิลปินนักดนตรีเท่านั้น แต่นักกีฬาชื่อดัง นักแสดงระดับซุปเปอร์สตาร์ของ Hollywood ก็มักจะออกมาสนับสนุน และเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้องกันอย่างเสรีโดยไม่มีใครมาห้าม ตั้งแต่เริ่มมีการประท้วงของชาวนาในประเทศอังกฤษที่มีต่อระบบศักดินา ไปจนถึงการประท้วงครั้งใหญ่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน คนมีชื่อเสียง ศิลปิน นักดนตรี
อีกไม่กี่อึดใจเท่านั้น มหกรรมกีฬาที่นักกีฬาจากทั่วโลกรอคอยก็กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ ‘Tokyo 2020 Olympics’ ซึ่งในทุก ๆ ครั้งที่มีการจัดการแข่งขันกีฬา ‘Olympic’ ขึ้น ก็จะมีนักกีฬานับพันจากประเทศกว่า 200 ประเทศ มาร่วมการแข่งขัน และถ้าหากพูดถึงชื่อ Michael Phelps, Usain Bolt, Naomi Osaka ชื่อของนักกีฬา Super Star เหล่านี้คงจะเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับ ‘Tokyo 2020 Olympics’ เราอยากจะขอแนะนำนักกีฬาใหม่ กับกีฬาชนิดใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้ และถูกยกย่องให้เป็นนักกีฬาที่น่าจับตามองมากที่สุดในทัวนาเม้นต์ นักกีฬาที่ว่านี้จะเป็นใคร และจะมีกีฬาชนิดใดบ้าง เดี๋ยวเราไปดูกันเลย Nyjah Huston (United States) ‘Skateboard’ คือ ประเภทกีฬาใหม่ที่ถูกนำเข้าสู่รายการการแข่งขัน Olympic ที่กรุง Tokyo เป็นครั้งแรก และอย่างที่เราเห็น ๆ กันว่า ในปัจจุบันคนนั้นเริ่มหันมาเล่นสเก็ตกันมากขึ้น ทำให้มีนักสเก็ตฝีมือดีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก แต่สำหรับในรายการนี้
เวสป้า เปิดตัว “Vespa Sprint S 150 i-Get ABS (TFT)” สกู๊ตเตอร์สายสปอร์ตเหนือชั้นรุ่นล่าสุดจากซีรีส์ SPRINT S ด้วยคอนเซ็ปต์ “When style meets technology, a new attraction is born” ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ กับครั้งแรกของหน้าจอ TFT (Full-Colour TFT Display) ในรุ่น SPRINT พร้อมขับเน้นดีเอ็นเอแห่งดีไซน์โมเดิร์นสปอร์ตที่สะท้อนความคลาสสิกและเรียบหรูเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้นด้วย 2 เฉดสี นำโดยสีใหม่ “สีบรอนซ์ Bronzo Antico” ที่โดดเด่นด้วยรายละเอียดตกแต่งสีดำ และ “สีดำด้าน Nero Opaco” ที่ดึงดูดด้วยรายละเอียดตกแต่งสีบรอนซ์ สกู๊ตเตอร์รุ่นนี้นับเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่มากกว่ายานพาหนะ พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างมีดีเทลให้กับหนุ่ม ๆ ผู้หลงใหลในดิจิทัลไลฟ์สไตล์อย่างโดดเด่นและลงตัว Vespa Sprint S 150 i-Get ABS (TFT) สีบรอนซ์