“รู้ไหมก่อนหน้านี้พี่ได้เงินเดือนแค่ 9,000 เราน่ะสบายแล้ว เงินเดือนตั้ง 15,000” เราเชื่อว่าชาว MILLENNIAL ที่เกิดมาในวันที่ความไฮเทคมากมายรายล้อม คงอยากเถียงแทบขาดใจกับคำสบประมาทบางอย่างของรุ่นพี่ยุคก่อน ทั้งคำกล่าวหาเรื่องความอดทน วุฒิภาวะการทำงาน หรือที่ร้ายกาจกว่านั้นคือเรื่องการจัดการเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ว่าเป็น Generation แห่งความฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินไม่เป็น เพราะทุกวันนี้ชาว MILLENNIAL จำนวนไม่น้อยกำลัง Run The World ด้วยการเป็นนักช้อปขาใหญ่ของตลาด ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่มีอายุนอกช่วงระหว่าง พ.ศ. 2524 และ พ.ศ. 2539 เราขอให้คุณเปิดใจมาอาบน้ำเย็น รับความต่างเผชิญหน้าเพื่อสร้างความเข้าใจกับปัญหาหนี้สินของเหล่ารุ่นน้องที่อาบ “น้ำเย็น” มาทีหลังจาก 6 เหตุผลเหล่านี้ แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตของพวกเขามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ไม่ต่างจาก “น้ำร้อน” ที่คุณอาบมาก่อนที่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน ส่วนชาว MILLENNIAL ถ้าคุณได้อ่านแล้ว จะออกมาให้ความเห็นหลังอ่านจบก็ได้ว่าสิ่งที่คุณเจอมันเป็นแบบนี้จริงไหม ผู้เขียนหวังว่านี่จะเป็นพื้นที่ปะทะทางความคิดเพื่อความเข้าใจ เพราะ “เงิน” ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าคุณจะเกิดมาในยุคไหนก็ตาม เด็กที่เกิดในยุคข้าวยากหมากแพง ตั้งแต่เกิดมา ชาว MILLENNIAL แทบไม่เคยได้สัมผัสกับคำว่า
ในบ้านเรา การพิมพ์อะไรมั่ว ๆ บนโลกออนไลน์ถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่นัก แต่สำหรับในต่างประเทศที่ซีเรียสในเรื่องผลกระทบจากการ Post อะไรมั่ว ๆ นั้นถือว่าจริงจังและรุนแรงมาก ไม่มีตัวอย่างไหนจะอธิบายความอันตรายของ Social Media ได้ดีเท่ากรณีของ Elon Musk แล้ว หลังโดนลงดาบจาก Securities and Exchange Commission (SEC) ปรับเงินจำนวนมากถึง $20,000,000 (660 ล้านบาท) และลาออกจากการเป็น Chairman ในบอร์ดบริหาร Tesla เป็นเวลา 3 ปี ทั้งหมดเป็นผลพวงจากการ Tweet แบบไม่คิดหน้าหลังเพียงครั้งเดียว “Sorry pedo guy, you really did ask for it,” ชื่อของ Elon Musk น่าจะถูกนำไปใช้เป็นตัวอย่างกรณีศึกษาด้าน Management Study ได้ดีมาก ในมุมนึง Musk เป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ราวกับ
แม้เลือดข้นกว่าน้ำ แต่เงินอาจบ่อนทำลายทุกอย่าง ก่อนจะเข้าเรื่องกงสีเลือดนอกจอเราขอปูพื้นฐานกันสักนิด สำหรับใครที่เป็นลูกหลานจีนคงคุ้นเคยกับคำว่า “กงสี” กันดีอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่ค่อยอินกับเรื่องนี้เท่าไหร่อธิบายความหมายและคอนเซ็ปต์ระบบให้เข้าใจกันตรงนี้ว่าคำว่า กงสี (公司) เป็นคำในภาษาจีนที่แปลว่า กิจการหรือกองกลางของตระกูลที่แบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน เป้าหมายของการมีกงสี คือความเกื้อกูลกันภายในครอบครัวและการสืบสานความยิ่งใหญ่รุ่งเรืองของตระกูล แต่ความเหลื่อมล้ำที่ตกทอดทางวัฒนธรรมทั้งเรื่องเพศและลำดับอาวุโสก็กลายเป็นหนึ่งในประเด็นความขัดแย้ง อีกทั้งเมื่อเปลี่ยนรุ่นคนครอบครอง เจตนารมณ์ของคนที่กอดคอกันมาก็อาจจะสูญสลายไปตามกาลเวลา เหลือแค่การยื้อแย่งเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น และนี่คือ 3 ตระกูลดังเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่เราคุ้นเคยกับประเด็นความขัดแย้งเรื่องกงสี ที่บ้างก็ยังคงคุกรุ่นอยู่และบ้างก็จางหายไปจากหน้าสื่อแล้ว วันนี้ UNLOCKMEN ขอ RECAP เรื่องเล่าเปิดซีรีส์ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครที่คุณอาจยังไม่เคยรู้เหล่านี้ ตระกูลชัยผาติกุล: ไผ่ทองที่กินของจริงหรือของก๊อป? ไอศกรีมละลายในปาก แต่ดราม่าไม่มีวันละลาย กับข่าวที่หลายคนสงสัยเรื่องแบรนด์เจ้าของการค้า “ไอศกรีมไผ่ทอง” ที่เข็นผ่านหน้าบ้านเราตอนสาย ๆ ว่าอันไหนจริงอันไหนเก๊ เพราะหนึ่งในนั้นขึ้นโพสต์เตือนว่าอีกฝ่ายเป็นของปลอม ทว่าเมื่อสืบค้นกันไปมากลับกลายเป็นว่าทั้ง 2 แบรนด์ดันเป็นพี่น้องกันเสียได้ แต่โลโก้และการสะกดที่แตกต่างกันตามภาพ มูลค่าธุรกิจ : 111 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ย. 61) ความขัดแย้ง : สงครามแย่งแบรนด์สินค้าจากรุ่นแรก คือ
6 ลักษณะภายนอกที่จะช่วยส่งเสริมศักยภาพภายในของคุณให้ดูดีทะลุขีดจำกัด
เชื่อว่าเรื่องปัญหาการหลงลืมเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกในชีวิตประจำวันของทุกคน อาจจะเป็นการลืมสิ่งของ ลืมเรื่องราวในอดึต รวมทั้งการลืมข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม จะเป็นนักเรียนที่ต้องคอยจดจำความรู้จากเรื่องที่เรียน พนักงานออฟฟิศที่ต้องคอยทำงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย นักธุรกิจที่จะต้องจดจำข้อมูลต่างๆ เพื่อไปเจรจาในธุรกิจ หรือใครก็ตามที โดยจากผลการวิจัยพบว่า การที่เรามักเกิดภาวะหลงลืมอยู่บ่อยๆ นั้นมีสาเหตุมาจากการ “ขาดการทำความเข้าใจ” อย่างแท้จริงนั่นเอง ซึ่งหลายคนคงรู้กันอยู่แล้วว่าการนึกอะไรแล้วนึกไม่ออก มันน่าหงุดหงิดขนาดไหน นี่เป็นเหตุผลที่เราได้หยิบกลวิธีจดจำทุกสิ่งที่คุณเรียนรู้ได้อย่างแม่นยำไม่มีลืม จากหนังสือจิตวิทยา Make It Stick: The Science Of Successful Learning เขียนโดย Henry Roediger และ Mark McDaniel นักจิตวิทยาชื่อดัง แห่งมหาวิทยาลัย Washington University ตามมาดูกันเลยดีกว่าครับ ไม่แน่ เมื่ออ่านจบ คุณอาจนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากมายกว่าที่คิด Force yourself to recall. บังคับตัวเองให้ทบทวน Henry Roediger และ Mark McDaniel บอกว่า ทักษะการเรียนรู้ของมนุษย์มีกลไกเหมือนกับการยกน้ำหนักดัมเบลล์ เมื่อคุณเริ่มที่จะพาตัวเองไปสู่ดัมเบลล์ที่หนักขึ้น คุณก็จะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับระบบการจัดเก็บความคิดของมนุษย์ เมื่อเราเรียนรู้ว่าสิ่งไหนยาก สมองจะทำการจดจำและเก็บข้อมูลนั้นไว้อย่างแม่นยำเป็นพิเศษ
รู้หรือไม่ว่า ทุกวันนี้ขณะที่เรากำลังชื่นชมปรากฏการณ์การใช้พลังงานทดแทนในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแผงโซลาร์ พลังงานลม หรือรถยนต์ไฟฟ้าสุดเฉียบแบรนด์ Tesla ที่มีเจ้าของผู้โด่งดังอย่าง ‘Elon Musk’ บนขวานทองของเราเองก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากัน หลายคนอาจไม่รู้ว่าเรามีโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 90 เมกะวัตต์จำนวน 3 โรงบนพื้นที่หลายพันไร่ โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เตรียมจ่ายไฟเข้าระบบ มี Charging station นับ 100 แห่งที่ติดตั้งไว้สำหรับรถยนต์ EV ที่สำคัญ เรายังเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยได้ที่ผลิตขึ้นจากฝีมือคนไทยเอง อยู่ระหว่างเตรียมผลิตเพื่อจำหน่ายปีหน้าที่จะถึงนี้ด้วย แล้วมันอยู่ที่ไหนกัน? เพื่อคลายข้อสงสัยเราจึงขอพาทุกคนไปเห็นกับตาผ่านการพูดคุยกับ คุณอมร ทรัพย์ทวีกุล หนึ่งใน co-founder ผู้ปลุกปั้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือที่คุ้นหูในชื่อ Energy absolute (EA) บริษัทที่อยู่ใน Top List ด้านพลังงานทางเลือกครบวงจรเบอร์ใหญ่สุดของประเทศไทยขณะนี้ หลักกิโลเมตรที่ศูนย์จากไบโอดีเซล ก่อนจะเป็นผู้สร้างความโดดเด่นด้านพลังงานทางเลือก เวทีที่คุณอมรโลดแล่นคือโลกทางธุรกิจจากสายอาชีพที่ใช้ชื่อไม่คุ้นหูว่า “วาณิชธนากร (Investment Banker)” ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัททั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับการเงินและการลงทุน รวมไปถึงช่วยกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจ จึงมีดีกรีเก็บดีเทลกิจการเก่งไม่แพ้เจ้าของกิจการ ด้วยวิสัยทัศน์ด้านการเงินที่หล่อหลอมมายาวนาน
ขณะที่ดิจิทัลซึ่งเคยเป็นสิ่งแปลกปลอมกำลังก้าวขายาว ๆ เข้ามาในชีวิตเรา ทำให้เราทุกคนต้องแบกรับการโดน disrupt ทุกอย่างที่เคยเป็นมาชั่วชีวิต หลายคนเลือกที่จะไล่กวด วิ่งแซง และนำเสนอสิ่งที่ใหม่กว่า เร็วกว่า content มากมายผุดขึ้นมาเพื่อหวังพิชิตใจฐานคนอ่านเดิม สร้างความสดเสมอเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำ แต่สิ่งที่เราตั้งข้อสงสัยคือ ความสดใหม่ จะเอาชนะใจลูกค้าได้จริงหรือ? และนี่คือคำตอบในอีกมุมที่เราค้นพบ… สดหรือเน่า? รักษาหรือทำลาย จากการพูดคุยกับคนจำนวนไม่น้อยในวงการสื่อ เราพบว่าอัลกอริทึมที่แต่ละโซเชียลแพลตฟอร์มตั้งขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อเรียกเงินออกจากกระเป๋าให้มากกว่าเดิมหรือไม่ก็ตาม คำว่า “คุณภาพ” ของเนื้อหา ได้กลายเป็นมาตรฐานกลางที่เจ้าของพื้นที่โซเชียลเป็นผู้ “เลือก” ว่าเนื้อหาที่คุณทำมีค่าเพียงพอต่อการปรากฎในสายตาคนอื่นหรือไม่ “ความเร็ว” ของการผลิตเนื้อหาในนาทีนี้จึงเริ่มไม่ใช่ตัวแปรสำคัญที่ใช้ตัดรอบเหมือนยุคก่อนหน้า ผู้บริโภคยินดีจะเสพเรื่องราวของคน ๆ เดียวกันได้หากนำเสนอด้วยมุมมองที่แตกต่างกันตามความต้องการของตัวเอง ความสดที่เร่งผลิตก่อนแต่ไม่ได้เนื้อหาที่ดีหรือลึกพอจึงอาจตกกระป๋องทำหน้าที่เป็นแค่ทีเซอร์หนังที่ทำได้แค่ตัวแทนรอตัวจริงเท่านั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญจึงไม่ใช่การวิ่งหาเรื่องที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในสายคนอื่น แต่เป็นการรีเมคประเด็นที่เคยมีให้น่าสนใจขึ้น “การทำออนไลน์ในเว็บมันง่าย ไม่ต้องใช้ต้นทุนอะไรเยอะ…ในมุมของผู้ผลิตคอนเทนต์ เราต้องแข่งกับคนที่มีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม การสร้างคอนเทนท์ต้องมีประโยชน์และแตกต่าง” – วิสูตร แสงอรุณเลิศ เก๋าเก่ากลับมาเรียกแขกด้วยประเด็นใหม่ สิ่งที่เรามองเห็นได้ดี คือการปรับเปลี่ยนค่านิยมการนำเสนอสินค้าเดิมให้เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายขึ้นไวรัลได้มากขึ้น ตัวแสดงในโฆษณาอาจไม่ใช่นักแสดงค่าตัวหลายหลัก แต่เป็นคนทั่วไปที่ทำให้คนรู้สึกเข้าถึงได้มากกว่า ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เป็นการทำเพื่อสังคม ตัวอย่างคลิปโฆษณาที่คนธรรมดาใช้ แต่ไวรัลในหมู่คนดู ไม่ว่ายอดขายจะเป็นเช่นไร แต่ยอดแชร์ถล่มทลายและจับจองพื้นที่ใจผู้บริโภคเข้าไปแล้วเต็ม ๆ
เมื่อมองไปยังภาพรวมทิศทางการทำตลาดของโครงการคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน ส่วนใหญ่หลายคนน่าจะเห็นตรงกันถึงเรื่องราวของทำเล, การเดินทาง รวมถึง Facilities มากมาย ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นจุดขายในแทบทุกโครงการ แต่ท่ามกลางสิ่งที่ดูเหมือนจะกลายเป็นการตลาดสูตรสำเร็จของวงการอสังหาฯ ทางบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กลับเลือกที่จะใช้วิธีสื่อสารแนวคิดการพัฒนาแบรนด์ใหม่อย่าง Park Origin ในรูปแบบที่เรียกได้ว่าฉีกกฎของวงการอสังหาริมทรัพย์เลยก็ว่าได้ กับแนวคิด A Perfect Living Platform ที่ถูกนำมาตีความเป็นโฆษณาโดยฝีมือผู้กำกับหนังโฆษณาระดับท็อปของวงการอย่าง ‘ต่อ-ธนญชัย’ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม ‘พี่ต่อ-ฟีโนมีน่า’ ซึ่งได้เปลี่ยนนิยามของโฆษณาอสังหาฯ ที่พวกเราคุ้นเคย ไปสู่มุมมองที่ตัวพี่ต่อเองยังยอมรับถึงความกล้าของทางออริจิ้น ที่เลือกซื้อไอเดียนี้ ซึ่งแก่นความคิดที่พี่ต่อได้สื่อสารออกมาผ่านหนังโฆษณาชิ้นแรกนั้น ไม่ได้มีเส้นเรื่องที่ดำเนินตามรอยงานโฆษณาอสังหาฯ ที่เราเคยเห็น ลืมไปเลยเรื่องภาพสวย ๆ ของโครงการ หรือเรื่องราวไลฟ์สไตล์น่าอิจฉาในสังคมเมือง แต่สิ่งที่โฆษณาชิ้นนี้ต้องการนำเสนอ คือการกระตุ้นให้เราฉุกคิดแล้วมองในมุมกลับ เพื่อเข้าถึงเจตนารมณ์ของทางออริจิ้น ที่มองตัวเองว่า แม้จะอยู่ในฐานะของผู้สร้าง หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นผู้ทำลายพื้นที่ธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัย ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นที่มาของคำถามที่ว่า แล้วจะสร้างคอนโดมิเนียมอย่างไร ให้เกิดคุณค่าเหมาะสมกับธรรมชาติที่ต้องเสียไป และสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยภายในคอนโดให้ได้มากที่สุด ? ซึ่งคำถามนี้ได้กลายเป็นหัวใจหลักของแนวคิดในการพัฒนาแบรนด์ Park Origin ที่พร้อมพลิกโฉมการใช้ชีวิตในคอนโดด้วยการสร้าง
ในยุคที่ดิจิทัลเป็นใหญ่และเป็นหนึ่งช่องทางที่แทบจะกำหนดได้ว่าแบรนด์จะโตหรือจอด คนทำงานด้านสื่อทุกคนจึงต้องไหวตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง นี่เลยเป็นเหตุผลให้เกิดการรวมตัวกันระหว่างคนโฆษณาเพื่อสร้างพันธมิตรเสนอข้อมูล ช่วยให้วงการสื่อเข้มแข็งในงาน DATT DAY 2018 – Infinite Possibilities ซึ่งปีนี้จัดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว DAAT 101 หลายคนสงสัยว่า DAAT คืออะไร แท้จริงแล้วมันคือตัวย่อของ Digital Advertising Asscociation (Thailand) ทำไมเราต้องไปงาน DATT DAY ในเมื่อข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับดิจิทัลก็อาจจะวนเวียนหรือสามารถเสิร์ชหาได้จาก Device ที่เรามีทั้งมือถือและสมาร์ตโฟน เราขอสรุปจากสิ่งที่เราเข้าไปสัมผัส 3 ข้อ ต่อไปนี้ เราจะได้สัมผัสกับบุคคลที่เป็นตัวพ่อตัวแม่ด้านดิจิทัลจากอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ในงานเดียว แบบตัวเป็น ๆ ข่าวคราวอัปเดตในงานค่อนข้างตรงกับสิ่งที่เราต้องการ เพราะเป็นการสำรวจโดยใช้พื้นฐานข้อมูลจากประเทศไทย ที่สำคัญยังไร้ fake news ด้วย ปิดท้ายงานด้วย After Party ที่จะทำให้สายสัมพันธ์ของคนอยากโตในวงการนี้มีทางไป บางทีเราอาจได้เนื้อคู่ หรือพาร์ตเนอร์ที่ตรงใจไว้ร่วมงานได้ Recap DAAT’s
ตามเงินจากลูกหนี้ว่ายากแล้ว แต่วันนี้หลายคนต้องเจอสถานการณ์บังคับให้ต้องกลายเป็นลูกหนี้จำเป็น เพราะจู่ ๆ ธนาคารที่รักของพวกเราก็เกิดพร้อมใจกันระบบล่ม เบิก ถอน โอน จ่าย ชะงักแทบทั้งหมด แม้ตอนนี้วิกฤตจะคลี่คลายได้แล้วแต่วันดีคืนดีอาจจะเกิดอีกเมื่อไหร่ก็ได้ UNLOCKMEN ขอแนะนำวิธีการยืมเงินในภาวะแบบนี้ให้เจ้าหนี้เห็นใจ เราจะได้มีเงินไว้ใช้จาก 5 วิธีเหล่านี้ที่เราสำรวจมา ใครเห็นด้วยกับวิธีไหนก็เลือกไปใช้งานกันได้ แต่อย่าลืมว่า…ยืมไปแล้วต้องคืนด้วยนะ อย่าชักดาบเป็นอันขาด! “คิดถึงศักยภาพตัวเอง คำนวณวันพร้อมคืน จะได้ไม่ผิดใจกัน” แม้จะไม่ใช่หนทางทำให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่หนุ่มคนนี้ขอใช้ความรอบคอบและความเป็นคนจริงเป็นที่ตั้ง เริ่มด้วยถามตัวเองก่อนว่าศักยภาพการเงินเป็นอย่างไร ยืมแล้วคืนไหวหรือเปล่า และพร้อมจะคืนเมื่อไหร่เพื่อป้องกันการผิดใจกัน เพราะไม่ใช่แค่สัจจะที่เราต้องรักษาไว้แต่มิตรภาพยิ่งต้องใส่ใจไม่แพ้กัน เจอเคสนี้มาเป็นลูกหนี้ คิดก่อนยืมไม่พร่ำเพรื่อ เชื่อว่าใครก็ยอมยกเงินให้ “ยืมคนที่บ้าน ไม่เดือดร้อนคนอื่น” หนึ่งในวิธีที่ฮิตและได้ผลที่สุดที่หลายคนคาดไม่ถึงคือการยืมเงินคนในบ้านนี่แหละ เพราะเป็นเจ้าหนี้ที่รู้จักเราดีที่สุดและไม่ต้องกลัวว่าเราจะหนีไปไหน แต่เธอก็ยังเน้นว่าถึงจะเป็นคนในบ้านก็ยังต้องบอกเหตุผลและวันเวลาที่คืนให้ชัดเจนเข้าไว้เพื่อคืน ปิดท้ายด้วยสินน้ำใจสักนิดหลังคืนเงิน เวลามีปัญหาครั้งหน้าเขาจะอยากให้เรายืม “บอกปัญหาตรง ๆ ไม่ดราม่า แมน ๆ ใจ ๆ” บางคนกังวลว่าถ้าขอไปแล้วเจ้าหนี้ในอนาคตจะไม่ให้ เล่นดราม่าใส่ แต่กับเธอคนนี้ที่ไม่ถนัดการเป็นเจ้าหนี้คนอื่นอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เพราะไม่กล้าทวง ให้เหตุผลกับเราว่า ถ้าถึงคราวจำเป็นต้องหยิบยืมเงินคนอื่นเธอจะเลือกใช้วิธียืมกันแบบตรง ๆ บอกเลยว่ากำลังเจอปัญหาอะไรอยู่และจะเอาเงินที่ยืมได้ก้อนนี้ไปใช้อะไรต่อ
“ถ้าคุณยังไม่พบวิธีหาเงินขณะหลับได้ คุณก็จะต้องทำงานไปจนวันตาย” คือสิ่งที่มหาเศรษฐีคนหนึ่งของโลกอย่าง Warren Buffett เคยกล่าวเอาไว้ ซึ่งดูเหมือน Quote นี้ อาจจะดูโหดร้ายไปบ้าง แต่มันช่างแฝงด้วยความจริงอย่างไม่อาจปฎิเสธได้ และแม้ว่าการเป็นเศรษฐีมีเงินทองจะไม่ใช่ปลายทางความสุขของชีวิต ทว่าหากเงินยังเป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์เราก็ยิ่งจำเป็นจะต้องหาเงินมาใช้ วันนี้ UNLOCKMEN ได้นำตัวเลขจาก Business Insider มาเพื่อสนับสนุนคำพูดของ Warren Buffett หากคุณอยากเป็นเศรษฐี แม้ว่าในขณะหลับพวกเขาสามารถหาเงินกันได้ชั่วโมงละเท่าไหร่ เริ่มจากกลุ่มนักธุรกิจที่รวยติดอันดับโลกในประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับ Jeff Bezos เจ้าของอาณาจักร Amzon สามารถหาเงินได้ราว ๆ $4,474,885 USD (145 ล้านบาท) ต่อชั่วโมง ลองคิดคร่าว ๆ ว่าวันหนึ่ง Jeff Bezos นอนประมาณ 7 ชั่วโมง นั้นทำให้ช่วงเวลาการนอนของเขาก็ยังจะทำเงินได้ราว ๆ $31,000,000 USD (1 หมื่นล้านบาท) หรือจะเป็น Mark Zuckerberg ผู้สร้างเครือข่ายโซเชียลแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Facebook ก็ยังทำเงินได้ราวๆ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีเงินอยู่ในบัญชี แต่ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ลงทุนทำอะไรเพื่อต่อยอดเงินตรงนี้ให้เพิ่มพูมขึ้นไป ครั้นจะไปเล่นหุ้นก็ต้องมานั่งศึกษาให้วุ่นวาย ไหนจะศัพท์เฉพาะมากมายบลา ๆ ๆ จนคุณถอดใจ เก็บเงินไว้อย่างเก่าในบัญชีดีเสียกว่า ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยให้เงินในบัญชีงอกเงยออกมาเพื่อต่อยอดสิ่งที่อยากจะทำในอนาคต แต่รู้หรือไม่ว่าสินค้าประเภทแฟชั่นในปัจจุบัน จัดเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งพุ่งแรงที่คุณสามารถลงทุนเพื่อต่อยอดเงินให้ทวีคูณมากยิ่งขึ้น โดยที่คุณเองแทบจะไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ชอบแต่งตัวก็ได้ เพราะแม้กระทั่งในส่วนของผู้หญิงเองก็ตาม มีแม่ค้าหลายคนเลือกจะลงทุนกับกระเป๋า Hermes หรือ Channel เพื่อสร้างเงินต่อยอดจนเป็นมีเงินล้านมาแล้วมากมาย ยิ่งกระแสสตรีทแฟชั่นซึ่งบูมอยู่ในขณะนี้ ทำไมคุณถึงไม่ลองลงทุนเพื่อให้เงินในบัญชีมันได้งอกเงยดูละ ก่อนอื่นเลยคุณต้องเข้าใจก่อนว่าการจะลงทุนเก็งกำไรสินค้าประเภทแฟชั่นนั้น ต้องทำเพื่อสร้างกำไรเท่านั้น อย่างได้คิดว่ารักพี่เสียดายน้อง พอได้ไอเทมเจ๋ง ๆ มาแล้วรู้สึกเสียดายจนไม่กล้าขายต่อแบบนั้นจะกลายเป็นติดลบไปได้ แล้วอีกประเด็นสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้คือคุณจะต้องมีหูตาที่กว้างไกล และเครือข่ายในการหาของสินค้าประเภท Limited Edition จากทั่วทุกมุมโลก สำหรับเคล็ดลับในเบื้องต้น วันนี้ UNLOCKMEN จะขอมาแนะนำแบรนด์แฟชั่นดาวรุ่งที่หากคุณหาซื้อได้อย่างไรก็ทำเงิน เพราะต้องไม่ลืมว่าไม่ใช่ทุกแบรนด์ ทุกคอลเลคชั่นจะสามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ *การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน Supreme หากใครเคยมีโอกาสเดินทางไปตามประเทศต่าง ๆ ที่มีช้อป Supreme ตั้งอยู่ จะพอรู้ว่าเนี่ยคือแบรนด์แฟชั่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปัจจุบัน แม้กระทั่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่หลาย ๆ เจ้า ยังพยายามจะลอกเลียนความสูตรสำเร็จของพวกเขา เพราะเมื่อคุณเข้าช้อป Supreme ไม่ว่าที่ใดก็ตาม จะพบกับความว่างเปล่า เนื่องจากสินค้าทั้งหมดได้ถูกขาย Sold