ชื่อ Alpha Motor Corporation อาจไม่ค่อยคุ้นหูพวกเรามากนัก แต่ใน California ถือว่าโด่งดังพอตัวในฐานะแบรนด์ที่ออกแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีสไตล์ไม่เหมือนใครภายใต้ชื่อ Ace Performance Edition electric car ผลงานสุดอินดี้แห่งโลกรถยนต์ไฟฟ้าชิ้นนี้มีชื่อว่า JAX (Junior All-Terrain Crossover) เป็นรถทรง Crossover ในรูปแบบ compact sporty design แต่เต็มไปด้วยความพร้อมบวกทุกสภาพพื้นดินตามสไตล์รถ High-performance สายลุย โป่งโต ล้อใหญ่ ในเวอร์ชั่นย่อส่วน ทุกอย่างดูเล็กน่ารักไปหมด ไม่ว่าจะเป็นไฟสปอตไลท์บนหลังคา กันชนเสริมหน้าหลัง ด้านบนมี roof rack ไซส์มินิ และช่วงล่างยกสูงสไตล์ Off-roader Alpha Motor Corporation JAX มากับขุมพลัง 75kwh lithium-ion battery ที่ทำ 0-100 ได้ใน 6.5 วินาที ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งขับได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า
ย้อนไปในปี 2019 Bugatti ได้นำเสนอผลงานสุดพิเศษใน Pebble Beach โดยตั้งชื่อให้มันว่า “Centodieci” Hypercar ที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองวันเกิดปีที่ 110th ให้กับ Ettore Bugatti และยังเป็นเกียรติให้กับ Bugatti “EB110″ ในตำนานช่วงปี 1991 – 1995 ซึ่งเป็นรถที่วางรากฐานการออกแบบให้ Bugatti Veyron จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ณ ช่วงเวลาที่เปิดตัว Bugatti Centodieci ในงาน 2019 Monterey Car Week แทบไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก นอกจากบอกว่าเป็นรถจำนวนจำกัดที่ผลิตเพียง 10 คัน เมื่อสิ้นเสียง รถทั้ง 10 คันก็ถูกจองไปหมดเรียบร้อย โดยที่ยังไม่ทันทราบราคาเต็มของมัน Bugatti Centodieci (แปลว่า “110” ในภาษา Italian) สร้างจากพื้นฐานของ Bugatti Chiron ขุมพลัง 8.0-liter quad-turbo W16
ช่วงนี้คนที่ตามข่าวคงเห็นว่า รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความสนใจจากคนในหลายประเทศมากขึ้น และกำลังเป็นเทรนด์ที่คนเริ่มปรับจากใช้รถยนต์ธรรมดาหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) แม้ประเทศไทยตอนนี้รถ EV อาจจะยังไม่บูมมาก แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะตามเทรนด์นี้กันเหมือนกัน เราจึงอยากให้ทุกคนมาดูความคืบหน้าของนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากันสักหน่อย นี่คือ P17A รถพ่วงที่ผลิตโดย Polydrops และถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งได้ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าสามารถใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เปลี่ยนให้รถไฟฟ้าของเรากลายเป็นบ้านได้เลย รถพ่วงคันนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะเป็น aerodynamic shape หรือ ดีไซน์ที่ทำให้พาหนะสามารถเคลื่อนที่ผ่านอากาสได้อย่างลื่นไหล และรวดเร็วมากขึ้น มาพร้อมกับโครงสร้างแบบ foam-core structure และฉนวนกันความร้อน EPS ขนาด 8.7 นิ้ว ที่ช่วยประหยัดพลังงานในการทำความร้อนหรือความเย็น และทำให้แอร์ขนาด 5000 BTU รวมถึง เครื่องทำความร้อนไฟฟ้า สามารถทำงานได้นานถึง 6 คืน โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานภายนอกเลย นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งแบตเตอรี่ที่มีสามารถจุได้ 12 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงไว้ที่พื้นของรถพ่วง และเราสามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริมอย่างแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 520 วัตต์ไว้บนหลังคา เพื่อให้รถพ่วงสามารถชาร์ตพลังงานในระหว่างใช้งานตอนกลางวันก็ได้เหมือนกัน ทาง Polydrops ได้ทดสอบการใข้งานของ P17A
Curtiss Motorcycles หรือชื่อดั้งเดิม Confederate Motors บริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบและผลิต exotic street motorcycles ใน Alabama ก่อตั้งมาเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1991 มีจุดเด่นที่การออกแบบโดยใส่ความเป็น True American inspiration เข้าไปเต็มเปี่ยม ในปี 2017 บริษัทได้ประกาศว่าจะเบนเข็มไปสู่การเป็นเจ้าแห่งมอเตอร์ไซค์พลังไฟฟ้า จึงได้ร่วมมือกับ Zero Motorcycles และเปลี่ยนชื่อเป็น “Curtiss Motorcycles” จากนั้นเป็นต้นมา ที่เกริ่นมาทั้งหมดนี้น่าจะแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังของสุดยอดนวัตกรรมระดับ exotic EV motorcycle ที่เราจะนำเสนอจากนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนดังกล่าว ก็มาถึงการเปิดตัวนวัตกรรมสองล้อไฟฟ้าคันแรกที่ติดป้าย Curtiss Motorcycles และมันก็ยิ่งใหญ่อลังการสมกับที่หลายคนรอคอยกับ project ‘The One’ กลิ่นอาย Cyberpunk ถือเป็นการปฏิวัติวงการมอเตอร์ไซค์อย่างสิ้นเชิง มีความโดดเด่นทั้งงานดีไซน์และสมรรถนะการใช้งานแบบ “no shifting, no-clutch” แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าถูกสร้างรวมอยู่ในเฟรมใต้ที่นั่ง รวมถึงแฮนด์ซึ่งสามารถปรับให้เหมาะสมกับสัดส่วนและท่าทางของแต่ละคนได้ ขุมพลังจากแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ axial flux motor ที่ยังไม่ยังเปิดเผยความจุ
ในบรรดา Supercar ที่หามาครอบครองได้ยากสุด ๆ หนึ่งในนั้นคือ Ford GT เพราะแทนที่จะเน้นผลิตขายให้ได้เงินมากที่สุด Ford เลือกที่จะจำกัด GT เอาไว้สำหรับนักขับที่ต้องการขับมันจริง ๆ ไม่ใช่คนรวยที่ซื้อไปสะสมในโรงจอดรถ และที่หายากยิ่งกว่า Ford GT เวอร์ชั่นปกติก็คือ “Studio Collection” edition พิเศษที่มีจำนวนจำกัดเพียง 40 คัน Ford เปิดตัวโปรเจก GT ‘Studio Collection’ ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ยังไม่เคยมีใครได้เห็นมันมาก่อนจนกระทั่งวันนี้ นี่คือรถที่สร้างและตกแต่งโดยการร่วมมือกับ Multimatic หนึ่งใน Motorsport division ของ Ford ใน Canada ขุมพลัง 3.5-liter V6 660 แรงม้า มาในสีตกแต่งพิเศษ ‘extended palette’ เพิ่มจาก 7 สีมาตรฐาน 2021 Ford GT ‘Studio
เป็น Justin Bieber ทั้งที จะขับรถดี ๆ เดิม ๆ ให้เหมือนคนอื่นไปทำไม ด้วยความสุดของ Bieber บวกกับสุดยอดความสร้างสรรค์ของสำนัก West Coast Customs จัดการแต่ง Rolls-Royce โดยใช้แรงบันดาลใจจาก Rolls Royce 103EX Vision 100 ซึ่งเป็น concept car พลังไฟฟ้าของ RRs ที่เคยปรากฏโฉมไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งน่าจะจำกันได้ กับภาพของ Phantom ที่ถูกปรับโฉมให้ล้ำโดยเฉพาะซุ้มล้อทั้ง 4 ด้านที่มีบอดี้ปกคลุมล้อขนาด 28 นิ้ว สำหรับผลงาน One-of-one ที่ West Coast Custom ออกแบบให้ Justin Bieber ดีไซน์ได้แรงบันดาลใจจาก 103EX Vision 100 อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่เหมือนกันเป๊ะซะทีเดียว แต่โดยรวมได้ภาพความเป็น futurist car
audi E-tron GT รถธงคันใหม่ในโลกแห่ง High-performance EV car จาก audi เผยโฉมออกมาเรียบร้อยแล้ว หน้าตาเหมือน Prototype ไม่มีผิด บอกเลยว่า Porsche Taycan ต้องระวังหลังเอาไว้ให้ดี audi เปิดตัวรถทรง 4-door coupe ที่ผสมผสานดีไซน์ สมรรถนะ และพลังงานไฟฟ้า 100% เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างน่าประทับใจ มี 2 รุ่น ให้เลือกคือ Standard และรหัสร้องแรงอย่าง RS E-tron GT พร้อมกัน โดยตัว RS ใช้โรงงานสายพานการผลิตเดียวกับพี่ใหญ่ R8 ให้พละกำลัง 646 แรงม้า แรงบิดมากถึง 830 นิวตันเมตร ทำเวลา 0-100 km/h ใน 3.3 วินาที แรงว่า Taycan 4S
ถ้าให้นึกถึงสินค้าที่สามารถทำตลาดได้นานถึง 22 ปี โดยแทบไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ที่ผมพอจะนึกได้ก็มี ยาคูลท์ แล้วก็ Suzuki Hayabusa Suzuki Hayabusa คือ Sport Bike ที่แรงจนคนทั้งโลกต้องยอมรับ ตำนานเหยี่ยวอ้วนจากแดนปลาดิบที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 พร้อมตำแหน่ง The World’s Fastest Production Motorcycle ที่ทำความเร็วสูงสุดได้ทะลุ 300km/h ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากสายพานการผลิตแบบเดิม ๆ ความแรงของ Suzuki Hayabusa นั้นเร็วน่ากลัวจนกระทบการส่งออกไปขายนอกญี่ปุ่น ต่างชาติต้องตกลงกับ Suzuki แบบลับ ๆ ให้จำกัดความเร็วก่อนนำเข้าไปขายเลยทีเดียว และนั่นทำให้ตัวเลข Top Speed ของ Hayabusa ในแต่ละภูมิภาคแตกต่างกันออกไป ระหว่าง 299, 303, 312 km/h แต่ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขไหน ก็ไม่มีใครทำรถเดิม ๆ จากโรงงานออกมาได้แรงกว่า Suzuki Hayabusa ซึ่งที่ใกล้เคียงที่สุดเกือบกระชากตำแหน่งได้ก็คือ Kawasaki
เรียกได้ว่ากระแสรถซิ่งยุค 90 นั้นกำลังมาแรงสุด ๆ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเรา แต่ต้องบอกว่ามันบูมไปทั่วโลก เห็นได้ชัดจากราคาที่หลายคนจะต้องร้องโอ้โห เพราะในรถบางคันบางรุ่นที่เป็นตำนานจริง ๆ นั้น ราคามันกระโดดขึ้นไปอยู่สูงกว่า Supercar มือ 1 รุ่นใหม่ ๆ ซะอีก แน่นอนว่า ด้วยราคา และเสน่ห์ของมันทำให้ทั้งนักสะสมรถ และนักลงทุนตาลุกวาว และในบทความนี้เราจะมาพูดถึงของสะสมของคนรักรถ ที่น้อยคนนักจะไปได้สุดทางแบบนี้ กับนักสะสม JDM Car หรือ JAPAN DOMESTIC MARKET ที่จะมานั่งคุยกัน รับรองว่าจะต้องถูกใจนักซิ่งยุค 90 อย่างแน่นอน เพราะนอกจากเราจะพาทุกคนไปดูรถซิ่ง JDM ยุค 90 ที่มีอยู่หลายคันแล้ว เราจะพูดเจาะลึกถึงรถอีกคันที่ถูกยกขึ้นหิ้งให้เป็นตำนาน และเป็น 1ใน 4 ราชา แห่งวงการรถ JDM 90 ซึ่งจะเป็นคันอื่นไปไม่ได้ นอกจาก ‘Honda NSX’ กับ ‘คุณล้าน ศักดิ์ชาย เกรียงสมุทร’
พบเห็นชื่อ Novitec ในหมู่ Supercars เมื่อไหร่ ก็ไว้ใจได้เลยว่านอกจากรถจะแรงขึ้น ยังได้ความโหดจากชุดแต่งรอบคันที่แตกต่างกว่าใครมาด้วยเสมอ เช่นเดียวกับ McLaren 765LT ที่สุดของ Exotic Sports Car จาก McLaren สมรรถนะที่บ้าคลั่งเป็นทุนเดิมระดับ 755 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร twin-turbocharged V8 ทำเวลา 0-100km/h ใน 2.8 วินาที ด้วยความเชี่ยวชาญของ Novitec จึงจัด ‘Stage 2’ ด้วยอาวุธลับประจำค่าย ‘N-Tronic’ ECU เสริมประสิทธิภาพการจุดระเบิด การฉีดน้ำมัน และเพิ่มแรง boost turbo ให้จัดจ้านมากขึ้น ช่วยให้รอบจัดกระฉากหลังให้ติดเบาะได้ง่ายดายสบายเท้ามากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการอัพเกรด Hardware ของรถตั้งแต่ชุดแต่งสุดโหดเพื่อ aerodynamic ที่เพิ่มขึ้น ปรับเปลี่ยนชุดไอเสียเป็น high-performance exhaust system
หลังจากเฝ้ารอมานานแสนนาน พี่ใหญ่ที่แรงที่สุดและเบาที่สุดในตระกูล M และ M Competition ก็ได้เผยโฉมออกมาแล้ว สำหรับ Supercar Killer รถซีดานที่แรงที่สุดในโลก 2022 BMW M5 CS กับสเปกที่โคตรโหด 636 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ข้ามหลัก 100 km ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดล็อคไว้ที่ 300 km/h M5 CS ถือเป็นรหัสที่ hardcore ที่สุดและเป็น production car ที่มีพละกำลังมากที่สุดของ BMW ใช้เครื่องยนต์ twin-turbo 4.4-liter V8 มีแรงม้ามากกว่า M5 Competition 10 ตัว และมีช่วงแรงบิดมากกว่าถึง 90 rpm เกียร์ 8-speed M automatic
Mercedes-AMG A 45 S เดิมทีเป็นรถเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ที่สร้างสมรรถนะได้แรงที่สุดในโลกถึง 421 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ทำเวลา 0-100 km/h ใน 4 วินาที แต่สำหรับ Brabus ยังมองว่า 4 วินาทีอยู่ห่างจากโลกของ Supercar ที่ควรจะทำได้โลกแห่งเลข 3 วินาที จึงจับมาจูนเบา ๆ อัพเกรดเป็น Brabus 450 B45 ซึ่งถือเป็น entry level รุ่นเล็กสุดของค่ายที่ปกติจะเป็นรุ่นใหญ่อย่าง Brabus 600, 800 และ 900 ซึ่งเรียกว่าอยู่ในหมวด Supercar ได้เต็มปากเต็มคำ Brabus 450 B45 บน Mercedes-AMG A