ในปัจจุบัน เราต่างใช้ชีวิตอยู่กับความเร่งรีบ ต้องพบเจอเรื่องราวมากมายที่พาพวกเราไหลผ่านกระแสเวลาไปข้างหน้าแทบไม่ได้หยุดพัก ทำให้บ่อยครั้งที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างโหยหาช่วงเวลาที่เรียบง่าย ช่วงเวลาที่ได้อยู่นิ่ง ๆ กับตัวเอง เพื่อเสพความงดงามของคืนวันที่ผันผ่าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือคำอธิบายที่ว่าทำไม แม้พวกเราจะดำรงอยู่ท่ามกลางความสะดวกสบายของเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย แต่ก็ไม่วายที่จะโหยหาบรรยากาศเก่า ๆ ข้าวของเครื่องใช้วินเทจ ที่ยังคงความคลาสสิกจากอดีตอยู่เสมอ และ RADO Captain Cook Automatic Limited Edition คืออีกหนึ่งความทรงจำอันหอมหวานจากอดีต ในรูปแบบของเรือนเวลาสุดคลาสสิก ที่หวนกลับมาสร้างความประทับใจให้เหล่านักสะสมนาฬิกา และผู้ที่หลงใหลในความวินเทจแบบเต็มเปี่ยม กับรุ่นพิเศษใหม่ล่าสุดในปี 2019 ซึ่งเก็บทุกรายละเอียดทางด้านรูปลักษณ์ของ Captain Cook รุ่นแรก ที่ผลิตขึ้นระหว่างปี 1962 และ 1968 เอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งขนาดที่เป็นเอกลักษณ์และคุณสมบัติที่โดดเด่นจากยุคเก่าผสานเข้ากับความโมเดิร์นด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งต้องบอกว่านี่เป็นงานถนัดของ RADO ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำจากสวิส ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้า ควบคู่ไปกับความสวยงามของดีไซน์ โดย RADO นั้นได้รับการขนานนามว่าเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ” ที่มีแนวทางการปฏิวัติการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิม ด้วยการนำเอาไฮเทคเซรามิกที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ และมีสีสันสดใส รวมถึง Ceramos™ มาใช้ก่อนใครในวงการนาฬิกา ถือเป็นการผสมผสานประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ เข้ากับความโมเดิร์นสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เรือนเวลารุ่นเก๋าอย่าง
ประเทศอังกฤษไม่ได้โด่งดังแค่วัฒนธรรมการจิบชายามบ่ายและตำนานสยองขวัญของ Jack The Ripper เท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมตัวของศิลปิน ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและการออกแบบอีกด้วย UNLOCKMEN เลยอยากพาหนุ่ม ๆ ออกไปเสพงานอาร์ตที่ London Craft Week 2019 นิทรรศการที่รวบรวมงานคราฟต์เท่ ๆ จากทั่วทุกสารทิศ โดยฝีมือของนักออกแบบ ช่างฝีมือ ตลอดจนครีเอทีฟจากแบรนด์และแกลเลอรีต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 240 แห่งเอาไว้อย่างจุใจ London Craft Week 2019 ในปีนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8-12 พฤษภาคม 2562 นับเป็นปีที่ 5 ของนิทรรศการสุดสร้างสรรค์ภายใต้ฉากหลังของกรุงลอนดอน เนื่องจากเป็นนิทรรศการที่ไม่พึ่งพาทุนสาธารณะ สถานที่จัดแสดงผลงานจึงกระจายตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยทั่วลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ สตูดิโอ หรือพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ ครอบคลุมตั้งแต่ Mayfair ถึง Shoreditch และ Greenwich ถึง Hampstead แถมนิทรรศการกว่าครึ่งยังเข้าร่วมได้ฟรีและไม่ต้องจองล่วงหน้าอีกด้วย วันนี้ UNLOCKMEN เลยรวมงานคราฟต์เจ๋ง
TISSOT’S 2019 COLLECTION LINEUP AND PARTY TO THE SPEED OF LIGHT งานเปิดตัวนาฬิกา 3 รุ่นใหม่ล่าสุด Tissot T-Race Chrono Quartz ,Tissot T- Touch Expert Solar II, Tissot Chrono XL NBA Collector Edition นาฬิกาที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิต สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแอคทิวิตี้แนวสปอร์ต จากก้าวแรกในหน้าประวัติศาสตร์นาฬิการะดับโลก ทิสโซต์ (TISSOT) ผูกพันกับการแข่งขันกีฬามาโดยตลอด ในฐานะผู้สนับสนุนการจับเวลาอย่างเป็นทางการในการแข่งขันหลากชนิด ชื่อที่อยู่เบื้องหลังการแข่งขันกีฬาระดับโลกหลากหลายชนิดอย่างทิสโซต์ ในบทบาทของการเป็นผู้สนับสนุนการจับเวลาอย่างเป็นทางการในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขัน ITTF Table Tennis Team World Championships 2018, การแข่งขันกีฬาปั่นจักรยาน Tour de France, การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์, การแข่งขันกีฬามอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก MotoGP™ หรือกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่างการแข่งขันบาสเกตบอล
Game Of Thrones ถือเป็นซีรีส์ที่มาแรงที่สุดแห่งยุคด้วยจำนวนทั้งหมด 8 ซีซั่น เป็นเวลากว่า 8 ปี และปีนี้ก็ดำเนินมาถึงบทสรุปสุดท้ายของเรื่องราวอันแสนยาวนานแล้ว ทำให้สารพัดแบรนด์ไม่ว่าจะแบรนด์แฟชั่น เครื่องดื่ม ไปจนถึงเครื่องดนตรีต่างก็นำเรื่องราวของมหากาพย์ GOT มาประดับไว้บนผลงาน แบรนด์ Fender ถือว่าเป็นผู้ผลิตกีตาร์สัญชาติอเมริกาที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ครั้งนี้ Fender ไม่รอช้าจับมือกับ D.B. Weiss หนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์ซีรีส์เพื่อดึงเรื่องราวของ 3 ตระกูลใหญ่แห่งดินแดนเวสเทอรอสจากเรื่อง Game Of Thrones มาอยู่บนกีตาร์คอลเลกชันพิเศษ HOUSE STARK (TELECASTER) Stark ตระกูลใหญ่จากแดนเหนือที่มีสัญลักษณ์ประจำตระกูลสุดเท่อย่างหมาป่าไดร์วูฟ ตระกูลผู้เป็นเจ้าของวลี “Winter is Coming” ที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง แถมยังโดดเด่นด้วยเครื่องแต่งกายและนัยน์ตาสีเทา จึงทำให้กีตาร์ทรง Telecaster ที่เป็นรุ่นแรก ๆ ของแบรนด์ Fender ถูกออกแบบให้มีสีเทาด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นลวดลายบนตัวกีตาร์ถูกออกแบบให้คล้ายกับแผ่นไม้ พร้อมสลักหมาป่าไดร์วูฟเอาไว้ตรงกลาง และวางจำหน่ายในราคา 25,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 800,000
Casio ถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็น G-Shock คอลเลกชัน Gundam หรือนาฬิกาที่รับแรงบันดาลใจจากสายรุ้ง และครั้งนี้ในงานนาฬิการะดับโลก Baselworld 2019 ที่ผ่านมา Casio ก็ยังเรียกเสียงฮือฮาอย่างต่อเนื่องด้วยนาฬิการุ่นพิเศษที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของซามูไร คล้ายกับว่าเป็นธรรมเนียมไปแล้วสำหรับ Casio กับงาน Baseworld เพราะในปี 2017 และ 2018 เปิดตัวนาฬิกา G-Shock ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีให้เข้ากับวัฒนธรรมสไตล์ญี่ปุ่นรหัส MRG G2000HA-1A ที่นำขั้นตอนการผลิตดาบของ Biho Asano ช่างตีดาบรุ่นที่สามของตระกูลผู้ผลิตดาบซามูไรมาปรับใช้สำหรับผลิตนาฬิกาข้อมือ ทำให้ราคาพุ่งสูงเกือบสามแสนบาท สำหรับ G-Shock MR-G ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของซามูไรในปี 2019 ก็เรียกความสนใจของเหล่าผู้ชื่นชอบนาฬิกาได้เป็นอย่างดี โดยรุ่นรหัส MRG G2000G-1A จะใช้สีหลักคือสีม่วง ผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกับไทเทเนียมและทำให้พื้นผิวของโลหะเป็นลายเฉพาะตัว จากนั้นชุบด้วย AIP (Arc lon Plating) ซึ่งเป็นการเคลือบผิวแบบเดียวกับเครื่องบินเจ็ต ตัวเรือนทำจากสเตนเลสสตีล หน้าปัดนาฬิกาจะใช้โทนสีเข้มเป็นหลัก จากนั้นใช้สีแดง-ขาว แบบเดียวกับที่อยู่บนธงชาติญี่ปุ่นแต้มตรงขอบ ขีดบอกเวลา และเข็มวินาที โดดเด่นด้วยสีแดงสดให้ง่ายต่อการดูเวลา กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทนทานต่อรอยขีดข่วน
สภาพแวดล้อมการทำงานปัจจุบันนั้นแตกต่างจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง ดิจิทัลเอเจนซี่และสตาร์ตอัพค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันไดความสำเร็จไปทีละขั้น ในขณะที่มีบริษัทใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดก็ทำเอาโฮมออฟฟิศทวีความนิยมเพิ่มขึ้นตามมา ยิ่งไปกว่านั้นหลากหลายบริษัทเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับออฟฟิศแบบเปิดโล่งโดยหวังจะสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับพนักงาน เติมรสชาติความสนิทสนมและนำไปสู่บรรยากาศการทำงานที่ราบรื่น แต่ในความเป็นจริงแล้วออฟฟิศแบบโล่ง ๆ มันดีจริงเหรอ? ถ้าเราจะบอกว่าออฟฟิศแบบเปิดโล่งก็ส่งผลเสียไม่น้อยต่อคนทำงานอย่างเรา ๆ ล่ะ? ออฟฟิศเปิดโล่งไม่ได้ดีเสมอไป จริงอยู่ที่การทำงานในออฟฟิศเปิดโล่งทำให้เราได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน ระดมความคิด และช่วยลดความเคร่งเครียดในการทำงาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใครหลายคนก็ต้องการใช้สมาธิเหมือนกัน บ่อยครั้งที่จะจดจ่ออยู่กับงาน ก็มักจะมีอะไรมาคอยกวนใจอยู่เสมอ มีงานวิจัยเผยว่าพนักงานต้องเสียเวลากว่า 28% จากการหยุดชะงักและถูกรบกวนในขณะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะ เสียงเอะอะโวยวาย หรือแม้แต่เสียงของเพื่อนข้าง ๆ ที่ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ ไม่เพียงแต่จะลิดรอนความกระตือรือร้นในการทำงาน แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย Dorota Węziak-Białowolska, Zhao Dong และ Eileen McNeely 3 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดสำรวจพนักงาน 456 คน ที่ทำงานในบริษัทสถาปัตยกรรม 20 แห่งของสหรัฐฯ แล้วได้ข้อสรุปว่าคนส่วนใหญ่ไม่ชอบทำงานในออฟฟิศแบบเปิดโล่ง เพราะขาดความเป็นส่วนตัว เหมือนถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ มิหนำซ้ำเสียงจากการพูดคุยก็ยิ่งทำให้รู้สึกประสาทเสียและทำให้ความสามารถในการทำงานถดถอย จะเป็นอย่างไร ถ้าในออฟฟิศมีพื้นที่ส่วนตัว Foster + Partners บริษัทชั้นนำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการออกแบบสถาปัตยกรรม
“HAMILTON PREVIEW 2019” งานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่รวบรวมเรือนเวลากว่า 30 เรือน ที่จะวางจำหน่ายภายในปีนี้จัดให้ได้ชมอก่อนใคร ภายใต้คอนเซปต์ “At the Heart of Cinema” รวมถึงนาฬิกาหลายรุ่นสุดคลาสสิคที่ถูกสวมใส่ในภาพยนต์ชื่อดังมากมาย โดยมีไฮไลท์อย่าง Khaki Field Murph จากภาพยนตร์สุดล้ำระดับบล็อคบัสเตอร์อย่าง Interstellar และ Ventura Skeleton ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Spider–Man Homecoming รวมไปถึง Ventura รุ่นคลาสสิคที่ถูกสวมใส่ใน MIB International ที่จะเข้าฉายในเดือนมิถุนายนนี้อีกด้วยพร้อมคอนเสิร์ตเพลงแจ๊สสุดคลาสสิกสะท้อนถึงความงดงามเหนือกาลเวลาของนาฬิกาจาก Hamilton ที่ครองใจผู้คนมาทุกยุคทุกสมัยท่ามกลางวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนราม่า เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองปีแห่งภาพยนตร์ซึ่งแบรนด์ Hamilton ถูกเรียกได้ว่า Hollywood watch จากการมีส่วนร่วมในภาพยนตร์มามากกว่า 450 เรื่อง และส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์ระดับมาสเตอร์พีซที่มี ‘เวลา’ เป็นตัวเดินเรื่องสำคัญ โดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1951 จากภาพยนตร์เรื่อง The Frogmen ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย รวมไปถึงภาพยนตร์ชื่อดังอีกมากมาย อาทิ 2001:
“คิดจะพัก คิดถึงสีฟ้า” ประโยคนี้ไม่ใช่ประโยคโฆษณาร้านอาหารอีกต่อไป แต่เรากำลังหมายถึง “สีฟ้า” ที่เป็นสีจริง ๆ เพราะ G.F. Smith. บริษัทผลิตกระดาษเขาเพิ่งประกาศให้สีฟ้าเฉด “Navy Blue” เป็นสีที่สร้างอารมณ์ผ่อนคลายมากที่สุดในโลกรองจาก เทอร์ควอยส์ และสีชมพู ความจริงที่ว่าสีสัมพันธ์กับอารมณ์ พูดไปแล้วฟังดูเป็นเรื่องธรรมดา ใครก็คงรู้ เพราะถ้าเข้าคลาสศิลปะเขาก็สอนเรื่องทฤษฎีสีมานานแล้วว่า สีแบ่งเป็นสีร้อน สีเย็น โทนสีเย็นก็เป็นสีที่ทำให้ผ่อนคลาย เหมาะจะเอามาตกแต่งบ้าน แต่ภายในกลุ่มสีเย็นก็มีอีกหลายสี ทั้งเขียว น้ำเงิน หรือม่วงและเหลืองที่อยู่ในโทนสีกลางระหว่างสองฝั่ง แต่สีไหนล่ะที่ทำให้เราผ่อนคลายที่สุด เรื่องนี้เรายังไม่เคยเห็นใครลุกมาวิจัยหาเฉดสีกันจริงจัง G.F. Smith. ร่วมมือกับ University of Sussex ค้นหาเฉดสีที่ให้ความสงบผ่อนคลายกับมนุษย์มากที่สุด โดยกำหนดผู้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยครั้งนี้ไว้มากกว่า 26,000 คนจากหลายประเทศ ทำแบบสอบถามเพื่อวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่สัมพันธ์กับสีที่มองเห็น ด้วยการสอบถามเกี่ยวกับสีที่พวกเขาชื่นชอบ อย่างเช่น เราชอบสีขาว เขาก็จะทำแบบสอบถามรื้อหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงชอบมันและรู้สึกอย่างไรกับมัน Anna Franklin ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจาก University of Sussex กล่าวถึงการวิจัยว่าสีมักสัมพันธ์กับอารมณ์ เชื่อมโยงกับความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้อื่น ๆ อย่างความสงบ
เป็นเวลากว่า 20 ปี แล้วที่แบรนด์ของเล่นตัวต่อชื่อดัง Lego ร่วมงานกับภาพยนตร์อวกาศ Sci-fi Fantasy ในตำนานอย่าง Star Wars และเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองจึงทำให้ทาง Lego เผยรายละเอียดตัวต่อคอลเลกชันพิเศษและวันวางจำหน่ายของชุดตัวต่อยานอวกาศ Tantive IV ออกมาเป็นที่เรียบร้อย แฟนคลับภาพยนตร์ Star Wars จะต้องเคยเห็นยานอวกาศที่รูปทรงคล้ายกับฉลามหัวค้อนที่ชื่อว่า Tantive IV กันแน่นอน ฉากที่น่าจดจำคือการปรากฏตัวในฉากแรกของ Star Wars: A New Hope ที่ฝ่ายจักรวรรดิได้บุกเข้ามาจับตัวเจ้าหญิงเลอา คุณสมบัติของ Tantive IV สามารถทำความเร็วในชั้นบรรยากาศสูงสุด 950 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมเกราะสะท้อนแบบหนา และมี Hyperdrive Class 2.0 เร็วเท่ากับยาน Star Destroyer ของฝ่ายจักรวรรดิและสร้างขึ้นโดยบริษัทเดียวกันกับยาน Millenium Falcon ของ Han Solo ยานอวกาศ Tantive IV ไม่ได้มีไว้สำหรับกองกำลังฝ่ายต่อต้านเท่านั้นแต่ทางฝั่งจักรวรรดิก็นำยานนี้ไปติดอาวุธเพิ่ม รวมถึงกลุ่มโจรสลัดอวกาศ นักลอบขนสินค้าเถื่อน
นอกจากงานออกแบบใหม่และนวัตกรรมสมัยใหม่ในรองเท้าที่ค่อยขับเคลื่อนวงการสนีกเกอร์ในพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องแล้ว มนต์เสน่ห์จากรองเท้ารุ่นเก๋าในอดีตก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ชายผู้รักรองเท้าทั้งหลายหลงใหลไม่แพ้กัน ทั้งจากรูปทรง ดีไซน์ และเรื่องราวเฉพาะตัวที่มีอยู่ในรองเท้าแต่ละคู่ ย้อนเวลากลับไปในช่วงทศวรรษ 1990 เป็นเวลาเดียวกันกับที่บริษัทอย่าง Apple ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแสดงผลแบบจอสีออกมาวางขายเป็นครั้งแรก ครั้งนั้นพวกเขาเฉลิมฉลองมันด้วยการออกแบบรองเท้าจากวัสดุหนังสีขาวล้วน ที่ตกแต่งด้วยโลโก้สีรุ้งของบริษัทไว้ในส่วนลิ้นและด้านข้างของตัวรองเท้า จากนั้นได้นำไปผลิตและแจกจ่ายให้เฉพาะในกลุ่มพนักงานของบริษัท ทำให้มันกลายเป็นแรร์สนีกเกอร์ที่ไม่เคยมีใครเคยมีโอกาสสัมผัสมาก่อน แต่ภายหลังรองเท้าคอลเลคชันนี้จำนวน 1 คู่ถูกขายต่อให้กับ BitRebels และถูกประกาศขายบนเว็บไซต์ eBay ในปี 2007 ในราคาเพียง 79 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 2,500 บาทเท่านั้น แม้รองเท้าตำนานของ Apple จะหายไปพร้อมกับ BitRebels ด้วยราคาเพียงไม่ถึง 3,000 ในยุคนั้น และเริ่มซาความนิยมในวงการสนีกเกอร์ แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา (2017) การหวนกลับมาคืนจอประมูลอีกครั้งใน Beverly Hills ด้วยสภาพสุดเนี้ยบ สะอาดหล่อและยังขาวใส ก็เด้งราคาเริ่มต้นการประมูลของมันขึ้นมาจากตอนประกาศขายใน eBay ถึง 190 เท่า (15,000$) ก่อนแย่งกันเคาะแล้วปิดลงด้วยราคาถึง 30,000$ หรือประมาณ 950,000 บาทเลยทีเดียว ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในต้นแบบรองเท้าที่คนตามหามากที่สุด จนล่าสุดมีงานออกแบบรองเท้าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากมันอีกด้วย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความคิดและจินตนาการของเด็กมักสร้างสรรค์สิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราคิดไม่ถึงขึ้นมาบ่อยครั้ง ไม่ต่างจากครั้งนี้ที่เกิดขึ้นในวงการนาฬิกา เมื่อเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เริ่มตั้งคำถามง่าย ๆ จนทำให้เกิดคอนเซ็ปต์ดีไซน์นาฬิกาแบรนด์ Rolex ที่รับแรงบันดาลใจจาก Sprite น้ำอัดลมชื่อดังมาอยู่บนนาฬิกาข้อมือ แฟนคลับนาฬิกา Rolax คงไม่มีใครไม่รู้จักกับนาฬิกาข้อมือตระกูล GMT ที่โดดเด่นด้วยสีสันของขอบนาฬิกาไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงิน-แดง จนทำให้หลาย ๆ คนเรียกนาฬิการุ่นดังกล่าวว่า Pepsi นอกจากนี้ยังมีนาฬิการุ่น GMT-Master II ที่ใช้สีดำ-แดง ตกแต่งบริเวณขอบและถูกเรียกว่ารุ่น Coke Hodinkee เว็บไซต์ที่คล้ายกับเป็นแหล่งนัดพบของผู้หลงใหลนาฬิกาจากทั่วโลกได้แนวคิดที่น่าสนใจจากเด็กชายอายุ 8 ขวบที่ชื่อว่า Zahid Ali โดยเด็กคนนี้คือลูกชายของผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ของ Hodinkee ที่สงสัยว่าเมื่อ Rolex มี Pepsi กับ Coke แล้วทำไมถึงไม่ดึงสีสันสดใสของน้ำอัดลมกลิ่นมะนาวมาอยูบนนาฬิกาข้อมือบ้าง เมื่อเด็กน้อยคิดได้อย่างนั้นเขาจึงไม่รอช้า วาดภาพออกมาให้คนอื่นเข้าใจมากยิ่งขึ้นโดยการร่างแบบนาฬิกาพร้อมแต้มสีที่เขาต้องการลงบนกระดาษ และผลที่ออกมาต่างก็ทำให้นักออกแบบของ Hondinkee ถูกอกถูกใจไอเดียของ Zahid และดีไซน์ให้ดียิ่งขึ้นจนเห็นภาพจริง ๆ ครึ่งบนใช้สีเขียวมะนาวและครึ่งล่างใช้สีเหลืองของเลม่อน จับคู่กับหน้าปัดสีดำวาวที่ส่งให้สีตรงขอบนาฬิกาโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมกับจุดบอกเวลาสีขาว และก้านเข็มวินาทีจะใช้เขียวที่มีส่วนหัวลูกศรเป็นสีเหลืองเหมือนกับขอบนาฬิกา ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีนาฬิกา Rolex ที่ถูกเรียกว่า Sprite
เราทำอะไรกับรองเท้าที่ซื้อมาสวมใส่กันบ้างหลังจากที่มันหมดสภาพใช้งานไปแล้ว วางทิ้งไว้ ส่งซ่อมหรือซื้อคู่ใหม่มาทดแทนเพราะยังไงตลาดรองเท้าที่ขยายใหญ่มากขึ้นทุกวัน ก็ทำให้หนุ่ม ๆ มีสนีกเกอร์มากมายให้เลือกสรรเป็นคู่ใหม่ แต่จะดีแค่ไหนถ้ามีรองเท้าที่สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาทำรองเท้าคู่ใหม่ได้โดยไม่ต้องใช้วัสดุที่มีผลกับธรรมชาติ รองเท้าหลายหมื่นคู่ทั่วโลกหลังใช้งานและกลายสภาพเป็นขยะที่ไม่มีใครต้องการ ถูกกำจัดด้วยวิธีฝั่งกลบไม่ก็เผาทำลายซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นด้านขยะมูลฝอยและมลพิษในอากาศ เรื่องราวเหล่านี้เองที่ทำให้แบรนด์กีฬาอย่าง Adidas หันมาผลิตรองเท้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดในชื่อ FUTURECRAFT.LOOP ซึ่งเป็นรองเท้าในสายการผลิตใหม่ล่าสุดจาก Adidas ที่วันนี้พวกเขาไม่ได้มานำเสนอระบบรองเท้าใหม่ แต่เป็นการผลิตรองเท้าที่สามารถนำทุกชิ้นส่วนกลับมารีไซเคิลได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์สำหรับผลิตรองเท้าคู่ใหม่ได้อีกด้วย แนวทางของ FUTURECRAFT.LOOP คือการผลิตรองเท้าหนึ่งคู่จากวัสดุชิ้นเดียวไม่ว่าจะเป็นส่วนอัปเปอร์ มิดโซล เชือกและพื้นรองเท้า โดยทั้งหมดทำจากวัสดุที่เรียกว่า Thermoplastic Polyurethane (TPU) ที่ทางแบรนด์พัฒนาร่วมกับ BASF ซึ่งมันถูกผลิตจากขยะพลาสติกในทะเล ก่อนจะทำมาประกอบให้กลายเป็นส่วนต่าง ๆ ในรองเท้าคู่สมบูรณ์โดยไม่มีการใช้กาวเชื่อมต่อแม้แต่หยดเดียว นอกจากนี้ผู้สวมใส่สามารถส่งรองเท้าหลังจากไม่ต้องการใช้งานแล้วให้แบรนด์ ก่อนพวกเขาจะนำมาหลอมด้วยความร้อนและแปรรูปเป็นวัสดุสะอาดและสดใหม่สำหรับผลิตรองเท้าคู่ต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามแม้วัสดุทั้งหมดที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์จะเป็นสัดส่วนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ของรองเท้าคู่ใหม่เท่านั้น แต่การพัฒนาในครั้งนี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับวงการรองเท้าและคนที่รักรองเท้าด้วย เพราะต่อไปทางค่ายรองเท้าทั่วโลกอาจหันมาใช้วัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นซึ่งผลประโยชน์ก็ตกมาอยู่ที่พวกเราทุกคน SOURCE 1